เสียงธรรม คำสอนพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องเหตุกับผล / หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ในห้อง 'ธรรมเทศนาทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 4 กรกฎาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    คิดดีก็ใจเย็น คิดไม่เป็นจะเย็นสบาย :: หลวงพ่อปราโมทย์ 15 เม.ย. 2562 (ไฟล์ 620415A ซีดี 81)

    Dhamma.com
    May 22, 2019
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    ไม่ต้องแสวงหาความว่าง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 13 พฤษภาคม 2566

    Dhamma.com
    May 15, 2023
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    มีสติอยู่กับปัจจุบัน :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 9 ต.ค. 2564

    Dhamma.com
    Oct 8, 2021
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    ฆราวาสมีหน้าที่ทั้งทางโลกทางธรรม :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 พฤษภาคม 2566

    Dhamma.com
    May 5, 2023
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    เรียนรู้อายตนะเพื่อละตัณหา :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 เม.ย. 2565

    Dhamma.com
    Apr 9, 2022
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    เรียนรู้เรื่องของอริยสัจ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 12 พฤษภาคม 2566

    Dhamma.com
    May 16, 2023

    เรียนรู้เรื่องของอริยสัจ
    “คำสอนรวบยอดเลยของพระพุทธศาสนาก็คือเรื่องของอริยสัจ 4 เวลาพระพุทธเจ้าตรัสรู้ท่านก็บอกท่านตรัสรู้อริยสัจ ฉะนั้นตราบใดที่เรื่องของอริยสัจยังดำรงอยู่ ศาสนาพุทธก็ยังอยู่ ตัวที่จะชี้ขาดว่าศาสนาพุทธจะอยู่หรือไม่อยู่ อยู่ที่ว่ายังมีผู้เข้าใจอริยสัจหรือไม่ ถ้าเข้าใจอริยสัจเราก็เป็นชาวพุทธเต็มภาคภูมิ ตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ท่านพิจารณาแล้ว ท่านรู้ว่าอริยสัจ 4 คือ ทุกข์สมุทัยนิโรธมรรค ท่านรู้กิจหรือหน้าที่ที่จะกระทำต่อทุกข์ต่อสมุทัยต่อนิโรธต่อมรรค แล้วท่านก็ได้ทำกิจได้ทำหน้าที่อันนั้นเสร็จแล้ว ถ้าหากท่านยังไม่รู้อริยสัจ ท่านไม่รู้หน้าที่ต่ออริยสัจแต่ละข้อ ท่านยังไม่ได้ทำหน้าที่ ไม่ได้ทำงานทั้ง 4 อริยสัจนี้ ท่านจะไม่ปฏิญาณตัวเป็นพระพุทธเจ้า ที่ท่านเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาได้ก็เพราะเรื่องอริยสัจ ฉะนั้นพวกเราอยากจะเรียนให้รู้จักศาสนาพุทธจริงๆ ถึงจุดหนึ่งเราจะต้องรู้แจ่มแจ้งในเรื่องของอริยสัจ 4 สิ่งที่เราต้องการคำตอบสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาตอบแต่เรื่องนี้ เรื่องทุกข์กับเรื่องความดับทุกข์ ท่านสอนอยู่ 2 เรื่องหลักๆ ก็อยู่ในเรื่องของอริยสัจ 4

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    คอร์สจีนออนไลน์
    12 พฤษภาคม 2566
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    ฝึกจนเป็นอัตโนมัติ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 20 พฤษภาคม 2566

    Dhamma.com
    May 19, 2023
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    การรู้สึกกายรู้สึกใจ 2 ขั้น :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 21 พฤษภาคม 2566

    Dhamma.com
    May 21, 2023

    การรู้สึกกายรู้สึกใจ 2 ขั้น :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    21 พฤษภาคม 2566
    เวลาเราจะปฏิบัติธรรม ไม่ใช่นั่งบังคับตัวเองให้เคร่งเครียด แต่รู้สึกตัวเองไว้ ร่างกายหายใจออก รู้สึก หายใจเข้า รู้สึก ร่างกายยืน เดิน นั่ง นอน รู้สึกไว้ การที่เรารู้สึกกาย รู้สึกจิต มันมี 2 สเต็ป ขั้นแรก รู้ถึงความมีอยู่ของร่างกาย รู้ถึงความมีอยู่ของจิตใจตัวเอง ร่างกายมีอยู่ รู้สึก ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายมีอยู่ รู้สึก ถัดจากนั้น ก็รู้ให้ลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง ทีแรกเรารู้สึกถึงความมีอยู่ของกายของใจ ลึกลงอีกชั้นหนึ่ง รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของกายของใจ ตรงนี้เราจะเห็นไตรลักษณ์ได้ การที่หลวงพ่อบอกให้มีสติ คือคอยรู้สึกถึงความมีอยู่ของกายของใจ อันนี้สมถะ รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของกายของใจ อันนี้คือวิปัสสนา ทำสมถะก็ต้องมีสติ ทำวิปัสสนาก็ต้องมีสติ ถึงจะเรียกว่าการปฏิบัติ หลวงปู่มั่นสอนชัดเจน “มีสติคือมีการปฏิบัติ ขาดสติคือขาดการปฏิบัติ” ไม่ได้ปฏิบัติแล้ว เดินจงกรมแล้วก็เครียด ไม่ได้ปฏิบัติ อันนั้นเป็นอัตตกิลมถานุโยค เพราะฉะนั้นรู้สึกตัวให้เป็น แล้วการปฏิบัติธรรมจะไม่ยากเท่าที่คิดหรอก

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    บ้านจิตสบาย
    21 พฤษภาคม 2566
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    งานพัฒนาจิต :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 10 กันยายน 2565

    Dhamma.com
    Sep 20, 2022
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    การปฏิบัติต้องลงมือทำ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 6 พฤศจิกายน 2565

    Dhamma.com
    Nov 5, 2022
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    พัฒนาจิตให้เป็นผู้เห็น :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 19 มิ.ย. 2565

    Dhamma.com
    Jun 20, 2022
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    ไม่ทำตัวเป็นภาระของครูบาอาจารย์ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๑๙ พ.ย. ๒๕๖๐ (แผ่นที่ ๗๓ ไฟล์ 601119B)

    Dhamma.com
    Dec 7, 2017

    หลวงพ่อสังเกตอย่างนะ คนที่ภาวนาสม่ำเสมอ อยู่ในชีวิตประจำวัน คอยรู้สึกตัวเรื่อยๆ กิเลสอะไรเกิดขึ้นก็รู้ ใจหนีไปก็รู้ ใจหนีไปเพราะกิเลส คือความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น ใจก็เลยหนี ถ้าในชีวิตประจำวัน คอยรู้อย่างนี้ เวลาเรานั่งสมาธิมันจะไม่ต้องข่มจิต นั่งสบายๆ จิตก็สงบแล้ว ถ้าทั้งวันจิตหลง ตอนไปนั่งสมาธิ มันไม่ยอมอยู่ ส่วนใหญ่ก็ไปข่มจิต บังคับจิต ตอนกลางวัน ก็ตกไปสู่ข้าง "กามสุขัลลิกานุโยค" ตามกิเลสไป พอลงมือปฏิบัติ ก็สุดโต่งมาข้าง "อัตตกิลมถานุโยค" บังคับตัวเอง มันก็เหวี่ยงอยู่อย่างนี้ เหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวา --
    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรมที่วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
    ซีดีแผ่นที่ ๗๓ ไฟล์ 601119B
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 17 มิถุนายน 2565

    Dhamma.com
    Jun 29, 2022
    อมตะธรรมนำชีวิต วิมุตติมรรค

    Manit Thalangkarn
    Apr 27, 2017

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2023
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    ปัญญานำสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ก.ค. 2564

    Dhamma.com
    Jul 31, 2021

    ปัญญานำสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 31 ก.ค. 2564
    "ทำกรรมฐานอะไรก็ได้ที่เราถนัด ทำอะไรแล้วมีความสุขก็ทำอันนั้น แล้วแทนที่มุ่งไปที่ความสุขความสงบ คอยรู้ทันจิตตัวเองไป เราจะเดินปัญญาอย่างนี้ เรียกปัญญานำสมาธิ ใช้สมาธิชนิดขณิกสมาธิ สมาธิทีละขณะๆ อย่างนี้ อย่างเรารู้ทันว่าจิตไหลไปปุ๊บ ตรงนี้สมาธิก็เกิดขึ้นชั่วขณะ เดี๋ยวก็ไหลไปอีกทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หมุนไปทุกหนทุกแห่งใน 6 ช่องทาง ตรงที่เรามีสติรู้มันจะมีจิตผู้รู้แทรกขึ้นมากั้นกลาง จิตหลงไปดูเรารู้ว่าหลงไปดูปุ๊บ จิตรู้ก็เกิดขึ้นมากั้น จิตหลงไปดูก็ดับ มีจิตรู้อยู่ชั่วคราว จิตหนีไปคิดแล้ว นี่หลงไปคิดหลงทางใจ เรามีสติรู้ทันว่าจิตหลงไปคิดปุ๊บ จิตหลงไปคิดก็ดับ เกิดจิตรู้ขึ้นมาคั่นอีกแล้ว จิตของเราจะขาดเป็นช่วงๆๆ ไป ตรงนี้เป็นการเจริญปัญญา"

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม
    31 กรกฎาคม 2564
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    บ้านที่แท้จริง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ก.ย. 2564

    Dhamma.com
    Sep 3, 2021

    บ้านที่แท้จริง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 ก.ย. 2564
    ในโลกไม่มีบ้านที่แท้จริง ถ้าเราภาวนาเราจะเห็น บ้านที่แท้จริงของเราคือพระนิพพาน ถ้านอกนั้นยังเป็นที่ที่ไม่แน่นอน ไม่ยั่งยืน ต้องหมุนเวียนอยู่ ใจที่มันไม่หลงโลกมันเตือนตัวเอง บ้านนี้ก็ชั่วคราว คนที่เราอยู่ด้วยรอบๆ ตัวเราก็อยู่กันชั่วคราว จะรักหรือจะเกลียดก็อยู่ชั่วคราว อะไรๆ ในโลกเห็นมันเป็นของชั่วคราวทั้งหมดเลย ทั้งวัตถุสิ่งของทั้งผู้คน สุดท้ายกระทั่งร่างกาย สติปัญญามันสอดส่องลงมาในร่างกาย ร่างกายเป็นบ้านของจิต บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านชั่วคราว
    (2)
    ร่างกายก็เป็นบ้านที่อาศัยของจิตใจ ฉะนั้นตัวเจ้าของบ้านที่แท้จริง ก็คือตัวจิตใจนั่นเอง ต้องค่อยๆ ฝึกจิตใจให้มันค่อยฉลาดๆ ขึ้น มันค่อยคลายความยึดถือ ทีแรกมันก็คลายของที่อยู่ห่างก่อน มันคลายความยึดถือง่าย ของที่มาถึงตัวเราเองมันคลายยาก ต้องอาศัยสติอาศัยปัญญามาก ค่อยภาวนาจะเห็นเหมือนเรามีบ้านที่ซ้อนๆๆ กันไป จากไกลเข้ามาสู่ใกล้ จากหยาบมาสู่ความละเอียด บ้านที่ละเอียดก็คือตัวเจตสิกธรรมทั้งหลาย เป็นที่อาศัยอยู่ของจิต เราภาวนาต่อไปเราก็จะเห็นความสุขก็พึ่งไม่ได้ ความทุกข์ก็ห้ามมันไม่ได้ ความดีก็พึ่งไม่ได้ ความดีเราจะรักษาไว้ก็ไม่ได้ ความชั่วเราก็พึ่งมันไม่ได้ จะรักษามันไว้หรือจะปฏิเสธมันก็ทำไม่ได้ สติปัญญามันเห็นไตรลักษณ์ เห็นบ้านอันนี้ที่เป็นนามธรรมมันก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ เหมือนกับรูปธรรมทั้งหลาย เหมือนกับโลกข้างนอกทั้งหลาย ฉะนั้นการเห็นไตรลักษณ์นี้จะทำให้เราเข้าใจ แล้วเราก็ค่อยๆ วาง วางจากสิ่งที่หยาบไปสู่การวางอย่างละเอียด แล้วสิ่งที่ละเอียดที่สุดคือตัวจิตผู้รู้ ตัวจิตผู้รู้นั้นละเอียดที่สุดเลย ฉะนั้นถ้าเราเห็นจิตผู้รู้เป็นไตรลักษณ์ เราก็จะวางจิตผู้รู้ลงไป คราวนี้เราจะไม่เอาขันธ์ 5 มาเป็นบ้านของเราอีกต่อไปแล้ว

    หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนวันติธรรม
    4 กันยายน 2564
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    แก่นกลางของการปฏิบัติ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 2, 2023
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    ภาวนาต้องรู้จักปลีกตัว :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 4 มิถุนายน 2566

    Dhamma.com
    Jun 3, 2023
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    จิตใจเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 2 เมษายน 2566

    Dhamma.com
    Apr 6, 2023
     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    เดินให้ถูกทาง :: หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช 3 มิถุนายน 2566 (ช่วงบ่าย)

    Dhamma.com
    Jun 9, 2023
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,852
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,057
    มิจฉาสมาธิ :: หลวงพ่อปราโมทย์ ๑๔ ต.ค. ๒๕๖๑ (ไฟล์ 611014B ซีดี ๗๘)

    Dhamma.com
    Nov 28, 2018

    อย่าฟุ้งซ่านนะ เพราะภาวนามันต้องมีสมาธิ ถ้าใจฟุ้งซ่าน จะภาวนายาก สมาธิมี ๒ ชนิด คือ สัมมาสมาธิ กับ มิจฉาสมาธิ มิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิที่ไม่ประกอบด้วยสติ อย่างเรานั่งแล้วเคลิบเคลิ้ม นั่งแล้วเคร่งเครียด ในขณะที่เครียดนั้น โทสะมันเกิด สติไม่เกิดหรอก ในขณะที่เคลิบเคลิ้ม ลืมเนื้อลืมตัวไป โมหะมันเกิด ก็ไม่มีสติ หรือนั่งแล้วก็เพลิดเพลิน ตอนที่เพลิดเพลิน นั่งมีความสุขเพลิน ๆ ไป อันนั้นมีราคะ ไม่มีสติ เพราะอย่างนั้น เราฝึกสมาธิ ให้มีสติกำกับใจของเราไว้ ทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง แล้วคอยรู้ทันใจของเราเองไว้ ราคะ โทสะ โมหะ ไม่ได้เกิดที่อื่นหรอก เกิดที่ใจ เกิดกับจิต เรานั่งภาวนา จิตเราฟุ้งซ่าน ให้รู้ว่าฟุ้งซ่าน อย่าไปดัดแปลงแก้ไข ฟุ้งซ่านรู้ว่าฟุ้งซ่าน
    --
    พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
    วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา
    วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๑
    ไฟล์ 611014B ซีดีแผ่นที่ ๗๘
     

แชร์หน้านี้

Loading...