WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

เตือน!! ใต้ระวังฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน 12-16 ม.ค.นี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มกราคม 2555 10:20 น.

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 4 เรื่องฝนตกหนักในภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทางด้านตะวันออกของประเทศมาเลเซียตอนกลาง และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือ เข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างวันที่ 12-13 มกราคมนี้ ประกอบกับในช่วงนี้ภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ภาคใต้ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ตอนล่างลงมามีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ดังนี้ ในช่วงวันที่ 12-14 มกราคม บริเวณ จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ช่วงวันที่ 13-16 มกราคม บริเวณตอนล่าง จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

 

07:00 พายุโซนร้อน HEIDI ความเร็วลม 45 น็อต อยู่ที่ฝั่ง Port Hedland ของออสเตรเลียในขณะนี้

 

เขื่อนน้ำมากวิกฤต(%รนก.) : แม่งัด(103%),ลำแซะ(101%),กระเสียว(100%),มูลบน(99%),ลำตะคอง(93%),ป่าสักฯ(93%),แม่กวง(92%),ภูมิพล(92%),ลำพระเพลิง(90%),สิริกิติ์(89%),ศรีนครินทร์(88%),กิ่วลม(88%),หนองปลาไหล(87%),สิรินธร(87%)

 

ปราจีนบุรี-เปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์



เปิดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี ประเดิมเฟสแรก กำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ ขึ้นแท่นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สุดในประเทศไทยที่เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้ กฟภ.

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ บริษัท แอล โซลาร์ 1 จำกัด ณ ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

จากนโยบายแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปีของกระทรวงพลังงาน ที่มุ่งเน้นให้ประเทศไทยใช้พลังงานทางเลือกเพื่อทดแทนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ บริษัทฯ จึงมีแผนธุรกิจที่มุ่งไปในด้านเทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงานและผลิตพลังงานทดแทน ล่าสุด บริษัทฯใช้งบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 8 เมกะวัตต์ มีผู้ร่วมลงทุน 4 ราย

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เฟสแรกตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ มีศักยภาพในการรับแดดได้มากกว่า 5.00 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อตารางเมตรต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต้นๆ ของประเทศ ประกอบกับการใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่ได้มาตรฐานของ Dupont จำนวน 86,688 แผง บนเนื้อที่กว่า 215 ไร่ โดยออกแบบในการติดตั้งพิเศษให้อยู่ในลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัส เพื่อลดการใช้สายไฟในโซลาร์ฟาร์มได้มากกว่า 40 กิโลเมตร ทำให้มีกำลังผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 35,000-40,000 หน่วยต่อวัน หรือคิดเป็น 13-14 ล้านหน่วยต่อปี ถือว่าเป็นพลังงานทดแทนด้านแสงอาทิตย์สู่พลังงานสะอาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนด้วย เนื่องจากสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 6,270-7,200 ตันต่อปี

 

MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์สมุทรศาสตร์แห่งชาติในเซาแธมป์ตัน ในอังกฤษค้นพบกุ้งสายพันธุ์ใหม่ ที่อาศัยอยู่ในใต้ทะเลลึกกว่า 5 ก. ม. ที่รู้จักกันในนาม “ปล่องน้ำพุร้อนใต้ทะเล” (black smoker) ซึ่งมีอุหภูมิสูงกว่า 450 องศาเซลเซียส ในทะเลแคริเบียน บริเวณร่องน้ำเคย์แมน ทางตอนใต้ของเกาะเคย์แมน
ทั้งนี้ กุ้งสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบนี้ถูกตั้งชื่อว่า Rimicaris hybisae มันเป็นกุ้งที่ไม่มีตา มีหนวดสีขาว นอกจากความสามารถในการอยู่ในที่อุณหภูมิสูงแล้ว มันยังมีแสงไฟที่กลางหลังด้วย ซึ่งมันมีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับกุ้งสายพันธุ์ Rimicaris exoculata ซึ่งอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้ทะเลกว่า 4,000 ม.
อย่างไรก็ตาม การค้นพบครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้มาก เพราะในบริเวณนั้นร้อนและมีกรดซึ่งไม่เคยค้นพบพื้นที่ที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อน

 

MThai News : เมื่อกล่าวถึงเกาะฮ่องกง หลายคนอาจนึกถึงความมั่งคั่ง เกาะฮ่องกงถือเป็นเมืองที่รวยที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง มีร้านค้าอย่างหลุยส์ วิกตอง มากกว่าที่ปารีสเสียอีก นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่ในอีกมุมหนึ่ง 1 ใน 10,000 คนของชาวฮ่องกง กลับมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากแออัดเบียดเสียด ในพื้นที่เพียง 1ตารางไมล์ (2 ,589 ,988 ตารางเมตร) มีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 16,500 คน พวกเขาอาศัยอยู่ในกรงเหล็กที่มีขนาดเพียง 6ฟุต x 2.5 ฟุต
ภาพความแออัดเหล่านี้เป็นฝีมือของช่างภาพชาวอังกฤษคนหนึ่ง ซึ่งบรรยายถึงความอัตคัดได้เป็นอย่างดี ค่าเช่าของกรงเหล็กอยู่ที่เดือนละ 200 ดอลลาร์สหรัฐ มีชั้นละ 20 กรง สูง 3 ชั้น ชั้นล่างสุดมีราคาแพงสุด เพราะสูงพอที่จะยืนได้ ขณะที่ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานเป็นของส่วนกลางต้องใช้ร่วมกัน ที่นี่ไม่มีห้องครัว ส่งผลให้ผู้เช่าซึ่งฐานะยากจนต้องซื้ออาหารกิน
นายเฉออุน ผู้เช่ารายหนึ่งเล่าว่า อุณหภูมิในกรงจะสูงกว่าภายนอกราว 2-3 องศา มันอึดอัดมาก จนบ่อยครั้งที่เขานอนตาค้างจนถึงเกือบ 5 นาฬิกาของอีกวันหนึ่ง อีกทั้งยังต้องคอยระแวงสัตว์เลื้อยคลานและแมลงสาบที่อาจเดินเข้าไปในหูในเวลากลางคืนด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการอยู่อาศัยในกรงเหล็กแบบนี้จะดูเป็นเรื่องอื้อฉาวในฮ่องกง แต่จำนวนห้องพักแบบนี้กลับมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลง

 

ปัตตานีคลื่นทะเลแรงซัดกระหน่ำถนนริมหาดพังต่อเนื่อง

สถานการณ์ในพื้นที่ปัตตานี ปรากฏว่าวันนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้ามึดครึ้ม หลังจากที่ กรมอุตุวิทยาฯพยากรณ์อากาศ ว่า ช่วงนี้อาจจะมีฝนตกหนัก และคลื่นลมทะเลยังพัดแรง ให้เรือเล็กทุกชนิดควรงดออกจากฝั่ง และให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศเตือนชาวบ้านเป็นระยะๆแล้ว ส่วนบริเวณริมทะเล ยังมีคลื่นลมแรง คลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร จากการที่มีคลื่นและลมพัดกระหน่ำริมฝั่งทะเลด้านจังหวัดปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ริมทะเลด้านอำเภอยะหริ่งมีความเสียหายอย่างต่อเนื่องและพบว่า น้ำทะเลได้กัดเซาะขยายเพิ่มมากขึ้น บริเวณถนนเขต ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง ตามที่ผู้สื่อข่าวรายงานไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ยังมีถนนอีกเส้นทางหนึ่งในอำเภอยะหริ่ง คือเส้นทาง อ.ยะหริ่ง- อ.ปะนาเระ ซึ่งเป็นเส้นทางริมทะเล ซึ่งสามารถดูทิวทัศน์บรรยากาศฝั่งทะเลตะวันออก เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ปรากฏว่า บริเวณ ม.3 บ้านท่าด่าน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถนนประมาณ 1 กม.ได้ขาดช่วง เพราะถูกน้ำทะเลกัดเซาะถนนหายลงไปในทะเล มาหลายเดือน และช่วงนี้มีคลื่นลมแรง ได้พัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง และน้ำทะเลได้กัดเซาะถนนอีกอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล จากเดิมที่เคยถูกกัดเซาะเล็กน้อยกลายเป็นขยายไปทำให้ถนนหายลงไปในทะเล 1 กม. ส่งผลให้ชาวบ้านที่เคยสัญจรไปมาเดือดร้อน ต้องอ้อมไปทางถนนในหมู่บ้าน ซึ่งถ้ายังไม่แก้ปัญหาเชื่อว่าถนนชายทะเล ระหว่าง อ.ยะหริ่ง-อ.ปะนาเระ อาจหายไปทั้งถนนในอนาคตได้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริเวณริมทะเลยังมีคลื่นและลม พัดแรงเช่นกัน โดยคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ชาวบ้านที่อาศัยริมทะเลต้องระมัดระวัง แต่มีบางครอบครัวหลังจากที่มีการประกาศ ได้อพยพไปอยู่บ้านญาติในตัวอำเภอยะหริ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากริมทะเลประมาณ 7 กม. เพื่อความปลอดภัย ส่วนบรรยากาศน้ำท่วมในพื้นที่ยังปกติ เนื่องจากฝนตกเป็นช่วงๆไม่รุนแรง ประกอบกับระดับน้ำในแม่ปัตตานียังปกติ เนื่องจากน้ำจากตอนบนจังหวัดยังไม่มาก แต่ถ้ายังมีฝนตกต่อเนื่องน่าเชื่อว่า ประมาณ 2-3 วัน มวลน้ำจากบนไหลสู่แม่น้ำปัตตานีอาจจะท่วมพื้นที่ราบล่มในพื้นที่ปัตตานีได้

 

หาดใหญ่ น้ำท่วมระลอก 2



เทศบาลตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ เกิดน้ำท่วมระลอก 2 จากฝนตกหนักชาวบ้าน 2 ชุมชนต้องขนของหนีน้ำโกลาหล ขณะที่จังหวัดนราธิวาส เกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมอำเภอสุคิริน ทหารต้องอพยพชาวบ้านเกือบ 200 ครอบครัว

รายงานด่วนจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาว่า เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (12 ม.ค.) สภาวะฝนที่ตกหนักบริเวณบ้านทุ่งปรือ ตำบลพะตง .อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา กว่า 100 ม.ม. ประกอบกับพื้นดินยังคงชุ่มน้ำ ส่งผลให้ทำเกิดน้ำท่วมฉับพลันอีกระลอกในพื้นที่เทศบาลตำบลพะตง ส่งผลให้ชาวบ้านในชุมชนประธานคีรีวัฒน์ และ ชุมชนบ้านต้นลุง กว่า 300 ครอบครัว เร่งเก็บสิ่งของมีค่าหนีน้ำกันอย่างโกลาหล

ล่าสุดระดับน้ำเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนดังกล่าว สูง 20- 50 เซนติเมตร และเริ่มทะลักท่วมผิวการจราจรบนถนนเพชรเกษม

นายสันติ จันทะโน รองนายกเทศบาลตำบลพะตง เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝนยังตกหนักอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณน้ำที่เข้าท่วมระลอกสองนี้ จะมีความรุนแรง และระดับน้ำใกล้เคียงกับน้ำท่วมรับศักราชใหม่เมื่อกลางดึกวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

ขณะที่จังหวัดนราธิวาส เกิดน้ำป่าทะลักที่อำเภอสุคิริน ทหารต้องช่วยอพยพชาวบ้าน 195 ครัวเรือน หลังตลอดทั้งวันนี้ มีฝนตกลงมาอย่างถึงหนักมากแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้น้ำป่าที่มีต้องกำเนินบนเทือกเขาสันกาลาคีรีในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของราษฎร จนเจ้าหน้าที่ทหารต้องระดมกำลังกันอพยพชาวบ้านและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นหนีน้ำกันจ้าระหวั่น และให้มาอาศัยอยู่บนถนนภายในหมู่บ้านที่เจ้าหน้าที่ได้กางเต้นส์ไว้ให้อาศัยอยู่เป็นการช่วยคราว

ซึ่งผลพวงจากน้ำป่าไหลทะลักในครั้งนี้ ส่งผลทำให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ใน 5 หมู่บ้านของ ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จำนวน 195 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 80-100 ซ.ม สะพานในหมู่บ้านถูกน้ำท่วม 3 แห่ง จนยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถที่จะสัญจรไปมาได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้นำเรือท้องแบน และรถฮัมวี่ออกมาให้บริการแก่ราษฎรที่มีธุระจำเป็นต้องเดินทางไปสู่โลกภายนอก ส่วนแนวโน้มของฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้ ระดับน้ำท่วมขังจะขยายวงกว้าง

จังหวัดยะลา เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วันแล้ว หลังอุตุฯเตือนภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ลงมามีฝนเพิ่มขึ้น และให้ระมัดระวังฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยที่ อ.รามัน อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เบตง อ.ยะหา อ.กาบัง และ อ.เมืองยะลา ได้เกิดฝนตกในพื้นที่อย่างหนักติดต่อกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.รามัน อ.บันนังสตา อ.ธารโต ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีรายงานของปัญหาอุทกภัย หรือดินถล่ม ขณะที่มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่ม ที่เคยถูกน้ำท่วมขัง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เชิงเขาให้ระวังดินสไลด์ หรือดินถล่ม ทั้งนี้หากฝนตกติดต่อกันอีกสัก 2-3 วันอาจจะมำให้ในพื้นที่เกิดน้ำท่วมขึ้นได้

เช่นเดียวจังหวัดปัตตานี ตลอด 2 วันที่ผ่านมามีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้ามืดและมีลมแรง ทำให้ประชาชนต้องสวมใส่เสื้อฝนในการขับขี่รถ จยย. และฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป้นในเขตเทศบาลเมืองยังมีน้ำท่วมขังเพราะน้ำระบายไม่ทัน ส่วนพื้นที่ลุ่มที่ทาง ปภ.ได้แจ้งเตือน 6 อำเภอ ระวังภัยน้ำท่วมฉับพลันนั้น ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่างวิตกกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกเป้นระลอกที่ 5

เช่นเดียวกับพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่บริเวณริมทะเลหรือแนวชายฝัง ยังมีคลื่นลมแรงจากทะเล ทำให้ประชาชนและชาวประมงพื้นบ้านต้องหยุดออกปลาอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ออกหาปลาได้เพียง 2 วัน ก็ต้องหยุดยาวอีก ทำให้ขาดรายได้

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ ได้ออกประกาศเตือนต่อเนื่องเป็นฉบับ 2 เรื่อง ฝนตกหนักภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่างทางด้านตะวันออกของประเทศมาเลเซียตอนกลาง และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางตะวันตก ประกอบกับในช่วงวันที่ 12-15 มกราคม 2555 ภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงมามีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ในระหว่างวันที่ 11-15 มกราคม 2555 โดยจะเริ่มจากตอนล่างขึ้นไป สำหรับในอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

 

เกิดคลื่นความร้อนที่ แอฟริกาใต้

Heat Wave in South Africa on Thursday, 12 January, 2012 at 09:40 (09:40 AM) UTC.



http://www.iol.co.za/news/south-africa/kwazulu-natal/kzn-sizzles-in-heatwave-1.1211562

 

กฟผ.แจงน้ำเขื่อนพระราชา-พระราชินีมีมาก

ข่าวเศรษฐกิจ วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ.2555 17:04น.



การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจงปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีมากกว่าปีที่แล้ว ขณะตั้งคณะทำงานเพื่อกักน้ำปลูกพืชฤดูแล้งช่วยชาวบ้าน
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ในปีนี้มีปริมาณน้ำต้นทุนของเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ รวมกันอยู่ 16,239 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา 6,611 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยคณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ประกอบด้วย หน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมวิชาการเกษตร กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ กฟฝ. จะเริ่มวางแผนบริหารและจัดการน้ำ ในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 เขื่อน โดยคณะทำงานสรุปปริมาณการระบายน้ำออกจากทั้ง 2 เขื่อนในช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดือน พ.ย. 2554 - เม.ย. 2555 ปริมาณรวม 11,865 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยระบายจากเขื่อนภูมิพล ประมาณ 7,237 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนสิริกิติ์ ประมาณ 4,630 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ ได้พิจารณถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดจากภัยแล้ง และการสำรองความจุในอ่างเพื่อรองรับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน ที่อาจมีมากในช่วงฤดูฝนปีนี้เอาไว้แล้ว ซึ่งเขื่อนภูมิพล จะเหลือปริมาณน้ำในอ่างร้อยละ 56 และเขื่อนสิริกิติ์ จะเหลือปริมาณน้ำในอ่างร้อยละ 58

 

เหนือ-อีสานแหล่งน้ำลดฮวบ หวั่นปีนี้แล้งหนัก

ลุ่มแม่น้ำยมที่ไหลผ่านอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตรว่า ปริมาณน้ำในขณะนี้ลดลงอย่างรวดเร็ว บางจุดแห้งสนิทสันดอนทรายโผล่กลางน้ำ สามารถเดินข้ามไปมาได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งที่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาลุ่มแม่น้ำยมประสบปัญหาน้ำท่วมสูง นาข้าวจมกว่า 10,000 ไร่ แต่ขณะนี้กลับต้องมาขาดน้ำ และเกษตรกรเพิ่งเพาะปลูกได้เพียง 1-2 เดือน ผลผลิตกำลังเจริญเติบโต

 

สงขลา ปิดการจราจร เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง



เทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แจ้งเตือนผู้ที่ใช้ยวนยานพาหนะงดใช้เส้นทางบริเวณ ถ.สายกาญจนวานิช ตั้งแต่หน้าธนาคารกรุงไทย-สำนักงานเทศบาลตำบลพะตงหลังเก่า ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

วันนี้ (12 ม.ค.) เวลา 17.30 น.เทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แจ้งประกาศเตือนผู้ที่ใช้ยวนยานพาหนะ งดใช้เส้นทางบริเวณถนนสายกาญจนวานิช ตั้งแต่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย - สำนักงานเทศบาลตำบลพะตงหลังเก่า ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากขณะนี้มีระดับน้ำท่วมฉับพลันสูง 30 - 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้

 

สงขลา ปิดการจราจร เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง



เทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แจ้งเตือนผู้ที่ใช้ยวนยานพาหนะงดใช้เส้นทางบริเวณ ถ.สายกาญจนวานิช ตั้งแต่หน้าธนาคารกรุงไทย-สำนักงานเทศบาลตำบลพะตงหลังเก่า ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

วันนี้ (12 ม.ค.) เวลา 17.30 น.เทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แจ้งประกาศเตือนผู้ที่ใช้ยวนยานพาหนะ งดใช้เส้นทางบริเวณถนนสายกาญจนวานิช ตั้งแต่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย - สำนักงานเทศบาลตำบลพะตงหลังเก่า ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากขณะนี้มีระดับน้ำท่วมฉับพลันสูง 30 - 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกือบทุกภาคยกเว้นใต้อากาศเย็นและมีฝนเล็กน้อย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 มกราคม 2555 06:18 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>


<SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2554 พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สงขลาจ่อท่วมอีกรอบ เตือน ปชช.ในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>12 มกราคม 2555 17:19 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>


<SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สงขลาจ่อท่วมรอบสอง หลังฝนหนักต่อเนื่อง โรงเรียนใน อ.หาดใหญ่ แล อ.สะเดา ปล่อยนักเรียนกลับก่อนเวลา ด้าน ทน.หาดใหญ่ขึ้น “ธงเหลือง” เฝ้าระวัง

วันนี้ (12 ม.ค.) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศเตือนฉบับที่ 4 เรื่อง ฝนตกหนักในภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่างทางด้านตะวันออกของประเทศมาเลเซียตอนกลาง และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างวันที่ 12-13 มกราคม 55 ประกอบกับในช่วงวันที่ 12-15 มกราคม 55 ภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนเข้ามาปกคลุม ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตอนล่างลงมามีฝนเพิ่มขึ้น

โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.55 บริเวณจังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา พัทลุง และ นครศรีธรรมราช และในช่วงวันที่ 13-16 ม.ค.55 บริเวณตอนล่างจังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือและชาวประมงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ จากภาวะฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องใน จ.สงขลา ส่งผลให้โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ ต้องปล่อยนักเรียนกลับก่อนเวลาตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยใน อ.หาดใหญ่ มีโรงเรียนในเขตเทศบาลตำบลพะตง ทั้ง 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ โรงเรียนพะตงประธานคีรีวัฒน์ โรงเรียนเทศบาลทุ่งลุง และ โรงเรียนวัดทุ่งลุง รวมทั้งโรงเรียนกิตติวิทย์บ้านพรุ ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองบ้านพรุ

ส่วน อ.สะเดา มีอย่างน้อย 2 โรงเรียนในเขตเทศบาลตำบลคลองแงะ คือ โรงเรียนอนุบาลวงวิทย์ และโรงเรียนกอบกุลวิทยาคม หลังมีการแจ้งเตือนว่าระดับน้ำในคลองต่างๆ ของทั้งสองอำเภอระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม จำเป็นต้องปล่อยนักเรียนก่อนเวลาเพื่อความปลอดภัย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่นยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีฝนตกหนักเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลทุ่งลุงซึ่งเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อต้นเดือน ขณะนี้น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชนต้นลุงแล้ว

นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เปลี่ยนธงสัญลักษณ์แจ้งระดับเตือนภัยน้ำท่วมในคลองอู่ตะเภาจาก “ธงเขียว” เป็น “ธงเหลือง” แล้ว เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกับนำรถกระจายเสียงออกตระเวนแจ้งเตือนชาวบ้านในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยเฉพาะที่อยู่สนองฝั่งคลองอู่ตะเภา ให้รับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมหลังจากที่ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และปริมาณน้ำในลำคลองสาขาในพื้นที่ อ.สะเดา ที่ไหลลงสู่คลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่ไหลมายัง อ.หาดใหญ่ เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนคร หาดใหญ่ ระบุว่า แม้ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองอู่ตะเภายังอยู่ในภาวะปกติ แต่ปริมาณฝนที่ตกใกล้เคียงภาวะน้ำท่วมเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอดทั้งคืนนี้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>