คลังเรื่องเด่น
-
เทวดาฉายสปอร์ตไลท์ส่องทางจงกรมให้พระกรรมฐาน
เทวดาฉายสปอร์ตไลท์ส่องทางจงกรมให้พระกรรมฐาน -
"วิชากระสุนคด" พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน)
"วิชากระสุนคด"
พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง อาตมาก็รบราฆ่าฟันกับพวกเรือหาปลา ถึงเวลาก็ยืม เอ็ม. ๑๖ ของทหารมายิงจริง ๆ พวกทหารเขาก็ตกใจ
"หลวงพี่ยิงไปอย่างนั้นไม่กลัวเขาตายหรือ ?" "ข้าตั้งใจยิงเรือโว้ย..!" เพราะว่าช่วงนั้นฝึกวิชากระสุนคด ที่ฝึกอยู่ก็มีหลวงตาวัชรชัยกับอาตมา
กระสุนคดยิงไปทางไหนก็ต้องโดนเป้าได้ เป้าอยู่ข้างหลังยิงไปข้างหน้าก็ต้องโดนได้ แรก ๆ ที่ฝึกนี่หมดเงินกันเยอะ จ้างเด็กปั้นลูกกระสุนถังละร้อย ถังละ ๒๐ ลิตร
เสร็จแล้วก็ยิงภาวนา กำหนดเป้าแล้วยิงกันไป ยิงแล้วก็หาย พอตอนหลังฉลาดขึ้น หลวงตาวัชรชัยชวนกันเอากระสอบ ๔ ใบมาเย็บติด กางไว้ข้างหลังเป้า ยิงเสร็จแล้วกระสุนไปติดอยู่ที่กระสอบ พอเก็บคืนได้บ้าง"
"วิชานี้ถ้าฝึกสำเร็จเราตั้งใจให้โดนตรงไหน จะโดนตรงนั้น ฉะนั้น..อาตมากราดด้วย เอ็ม.๑๖ ทั้งแม็ก ไม่ได้กลัวว่าจะโดนคนเลย เพราะว่ามั่นใจ
หลวงน้าสุนทรตอนนั้นยังแข็งแรงอยู่ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ใกล้จะมรณภาพแล้ว ไปขอดูเรือที่โดนยิง กลับมาบอกว่า "โฮ่...หลวงพี่ รูขนาดนี้เลย" บอกท่านว่า "กระสุนเล็กนิดเดียวนะหลวงน้า"
"ก็หลวงพี่เล่นไปผสมวิชาเข้าไปด้วยก็เลยหนัก"... -
ย้อนคำเตือน “กรีนพีซ” กรุงเทพฯ มีโอกาสเสี่ยงจะจมน้ำในปี 73
ย้อนคำเตือน "กรีนพีซ" กรุงเทพฯ มีโอกาสเสี่ยงจะจมน้ำในปี 73
09 พ.ย. 2564 เวลา 11:25 น.50
ย้อนคำเตือนกรีนพีซ ภายในปี พ.ศ. 2573 หรือ ค.ศ. 2030 มากกว่า 96% ของพื้นที่กรุงเทพฯ อาจถูกน้ำท่วมหากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2564 หลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ จ.นนทบุรี เเละ จ.สมุทรปราการ ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ปนะชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระเพิ่มสูงขึ้น จนทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ย่านการค้าหลายแห่ง รวมถึงถนนหลายสายที่น้ำท่วมสูงจนรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ย้อนคำเตือนกรีนพีซ กรุงเทพฯ มีโอกาสเสี่ยงจะจมน้ำในปี 73 หลังเกิดปรากฏการณ์ทะเลหนุน
หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. กรีนพีซ เอเชียตะวันออก ได้เปิดรายงานความเสียหายทางเศรษฐกิจที่คาดการณ์จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลแบบสภาวะสุดขีดใน 7 เมืองของเอเชียภายในปี 2573 หรือ ค.ศ. 2030 ซึ่งหนึ่งในนั้นมี กรุงเทพฯ รวมอยู่ด้วย
โดยทาง คิม มี กยอง ผู้จัดการโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออก ระบุว่า "ภายในทศวรรษนี้... -
ดร.เสรี ไขสาเหตุน้ำทะเลหนุนสูง ห่วงอนาคตน้ำท่วม กทม. 100% แนะเตรียมแผนรับมือ
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ เผยเหตุน้ำทะเลหนุนสูง มาจากผลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ทำให้ฐานของน้ำทะเลสูงขึ้น และการสร้างคันกั้นน้ำต่างๆในลุ่มเจ้าพระยาบีบพื้นที่ทางน้ำ ห่วงอนาคตกทม.จมบาดาล 100%
วันนี้ (9 พ.ย.64) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยกับ “TNN ช่อง 16” โดยอธิบายถึงปราการณ์น้ำทะเลหนุนสูงจนเกิดผลกระทบน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ปัจจัยหลักมากจากผลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ทำให้ฐานของน้ำทะเลสูงขึ้น
และอีก 1 ปัจจัย คือ การสร้างคันกั้นน้ำต่างๆในลุ่มเจ้าพระยาซึ่งการบีบพื้นที่ทางน้ำ นอกจากนี้ น้ำเหนือที่ยังมีปริมาณมาก หรือมีอยู่ประมาณ 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร บวกกับนำทะเลหนุน จึงทำให้เกิดน้ำเอ่อท่วมในกทม.และปริมณฑล
ทั้งนี้ คาดว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงไปจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน และจะหนุนสูงอีกครั้งช่วงวันที่ 21 -24 พฤศจิกายน แต่ยังไม่ใช่จุดวิกฤต โดยจุดวิกฤตที่จะต้องเฝ้าระวังน้ำ คือ ช่วงวันที่ 5-9 ธันวาคม
นอกจากนี้ รศ.ดร.เสรี... -
"ความดีเป็นอิสริยาภรณ์ของคนดี" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"ความดีเป็นอิสริยาภรณ์ของคนดี"
"ความดี ย่อมเป็นอาภรณ์เป็นอิสริยยศของคนดี" เพราะคนดีย่อมเห็นว่าความดีนี้แหละเป็นยศอันยิ่งใหญ่ และย่อมพอใจประดับความดีเป็นอาภรณ์ กล่าวได้ว่า "ความดีนั้นเป็นอิสริยาภรณ์ของคนดี"
"ความดีนั้นเกิดจากกรรมที่ดี" ดังที่พระองค์ตรัสไว้ "คนเป็นคนดีก็เพราะกรรม เป็นคนถ่อยก็เพราะกรรม" ฉะนั้นเมื่อละเลิกกรรมทำไม่ดี ทำกรรมที่ดีที่ชอบ ก็ได้เป็นคนดีแล้ว
"แต่คนที่ทำกรรมชั่วผิด แม้จะได้รับบัญญัติว่าดีอย่างไร ก็หาชื่อว่าเป็นคนดีไม่" ผู้ที่รู้และค้านเป็นคนแรกก็คือตนนั่นเอง เว้นไว้แต่จะมีตาใจบอดด้วยความหลงตนไปอย่างยิ่งนั่นแหละจึงจะไม่รู้
"ความดีที่จะให้สำเร็จการชนะนั้นก็ต้องใช้ปัญญาค้นหา" คือวิธีชนะที่จะต้องไม่เบียดเบียนใคร "เป็นความดีชั้นตรี" ถ้าเป็นการชนะชนิดที่เกื้อกูลเขา ทำให้เขากลับเป็นคนดี "ก็นับว่าเป็นความดีชั้นโท" ส่วน "ความดีชั้นเอก" ก็คือ "ความดีที่ชนะความชั่วของตนเอง"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
ฟาร์มลอยน้ำญี่ปุ่นเปลี่ยน “น้ำทะเล” ให้เป็นสารอาหารสำหรับการเกษตร
ภัยพิบัติโลกร้อนที่ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุก ๆ ปีส่งผลให้ภาคการเกษตกรได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำทะเลหนุน ญี่ปุ่นจึงพยายามสร้าง "ฟาร์มลอยน้ำ" เพื่อความอยู่รอดของภาคการเกษตรต่อไป
บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศญี่ปุ่นได้คิดค้น “ฟาร์มลอยน้ำ” ที่สร้างขึ้นมารองรับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทุกปีจนส่งผลเสียต่อภาคการเกษตร ทำให้ไร่นาต้องจมอยู่ใต้น้ำอันเนื่องมาจากปัญหาภาวะโลกร้อน
ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตกรโดยตรง ไม่ว่าจะด้วยน้ำท่วมไร่นา ที่ยังส่งผลให้ดินเค็ม “ฟาร์มลอยน้ำ” จึงเป็นสิ่งสิ่งที่ญี่ปุ่นหวังว่าจะเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยให้เกษตกรสามารถสร้างรายได้ต่อไป
“ฟาร์มลอยน้ำ” ที่มีชื่อภาษาอังกฤษ “Green Ocean” ถูกพัฒนาด้วยความร่วมมือจากบริษัท N-ark และบริษัท Cultivera ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรโดยสองบริษัทนี้จะพยายามผลิตต้นแบบของฟาร์มลอยน้ำนี้ให้เสร็จภายในปี 2022
ฟาร์มลอยน้ำนี้จะทำงานโดยวิธีการเพาะปลูกแบบพิเศษที่จะ ดูดซับน้ำทะเล น้ำฝน และอากาศไปเป็นสารอาหารทำให้สามารถปลูกผักได้หลากหลายชนิดโดยใช้แร่ธาตุและสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำทะเล
ในส่วนของสถาปัตยกรรมของ... -
ผวาปอบคืนชีพ! ชาวอุดรฯแห่ติดผ้ายันต์หน้าบ้าน หลังคนในหมู่บ้านดับปริศนา 5 ศพ
ผวาปอบคืนชีพ! ชาวอุดรฯแห่ติดผ้ายันต์หน้าบ้าน หลังคนในหมู่บ้านดับปริศนา 5 ศพ ผู้ใหญ่บ้าน-พระยันป่วยเป็นโรคประจำตัว แต่ก็ไม่ลบหลู่ ยามค่ำคืนไม่มีใครกล้าออกจากบ้าน
วันที่ 8 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเซียลของชาวบ้านที่บ้านสะงวย ต.หนองหลัก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี โพสต์ภาพนิ่งถ่ายติดรูปใบหน้าหลอน โดยชาวบ้านเชื่อเป็นผีปอบ พร้อมทั้งมีชาวบ้านบางส่วนนำเอาว่านไฟ ผ้ายันต์ หนามพุทรา และหนามต้นหมากเล็บแมว มาแขวนไว้ที่หน้าบ้านและห้อยติดตัว เพื่อกันผีปอบ หลังจากชาวบ้านเชื่อว่ามีคนในหมู่บ้านตายติดต่อกันถึง 5 คน เพราะปอบเร่ร่อน พร้อมกับมีข้อความว่าหมู่บ้านสะงวย ต.หนองหลัก มีผีปอบ จับได้แล้ว 9 ตัว ยังมีคนป่วยและพบเห็นปอบอยู่ และอัญเชิญผีปอบออกจากร่างคนป่วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านสะงวย ต.หนองหลัก ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มี 3 หมู่บ้านคือ หมู่ 3 หมู่ 7 และหมู่ 11 มี 600 หลังคาเรือน ที่วัดจำปาสีหราช พบกับผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านกำลังจับกลุ่มคุยเรื่องผีปอบ
คุณตาสุพิน สงวนนาม อายุ 82 ปี ชาวบ้านบอกว่า ไล่กันมาจริงๆ ชาวบ้านที่บ้านสะงวยตายติดต่อกันแล้ว 5 คน ผู้หญิง 3 คนผู้ชาย 2 คน... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
เจริญวิปัสสนาญาณต้องจับอารมณ์พระโสดาบัน
จุดลงในอันดับแรกก่อนที่เราจะเริ่มจับวิปัสสนาญาณ อย่าลืมนะ ขั้นสุกขวิปัสสโกนี่ จะนั่งสมาธิหลับตาปี๋ หรือไม่นั่งไม่สำคัญ คุมอารมณ์พิจารณาอย่างนี้ เอากันสบายๆ จุดที่เราจะจับเป็นหัวหาดอันดับแรก ก็คือ พระโสดาบัน... ถ้าเจริญสมถะต้องจับอารมณ์ฌาน เจริญวิปัสสนาญาณต้องจับอารมณ์พระโสดาบันไว้ก่อน
เราก็นั่งดูพระโสดาบันมีอะไร... พระโสดาบัน มี...
๑. สักกายทิฏฐิ การพิจารณารู้สภาพว่าร่างกายของเรามันต้องตายแน่ มันไม่อยู่ตลอดกาลตลอดสมัย มันพัง
๒. วิจิกิจฉา มั่นใจในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่สงสัย แต่ทว่าการที่ไม่สงสัยนี้ต้องใช้ปัญญา
๓. สีลัพพตปรามาส เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ สำหรับฆราวาสก็มีศีล ๕ บริสุทธิ์ เณรมีศีล ๑๐ บริสุทธิ์ พระมีศีล ๒๒๗ บริสุทธิ์ ก็เท่านี้ ไม่เห็นจะมีอะไร
เป็นอันว่า เราใช้กำลังใจอยู่ในขอบเขตสั้นๆ ว่า หนึ่ง... เราคิดถึงความตายเป็นอารมณ์ อารมณ์ของจิตเรานี่ เราเกาะติดอะไรหนอ เราเกาะติดกาย กายมันไม่ทรงตัวติดทำไม เราก็เกาะติดสักกายทิฏฐิ และจิตพิจารณาดูว่าเราก็ดี คนอื่นก็ดี ในโลกนี้ สัตว์ทั้งหมดตายหมด วัตถุธาตุบ้านเรือนโรงมันพังไปในที่สุด... -
ท่านพุทธบริษัททั้งหลายจงระมัดระวังอย่าไว้ใจตนเอง
ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายจงระมัดระวังอย่าไว้ใจตนเอง ทุกวันทุกเวลานึกไว้ว่าเราอาจจะตายวันนี้ และก็ทรงความดี คือยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ และกำลังใจตั้งตรงอยู่ในศีลทั้ง ๕ ประการ ไม่ละเมิดศีลทั้งกาย วาจา และใจ
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
ขอบคุณที่มา =AZVi_zrQfmmquEL3wT6IHAdUfktUZfklWUUUzl9Mtv9qnGu6hpizWjAMY1fRMgKrodz0RH-3Qib1FJgkXFMY6giPKFGUNFWjQEi3qTeyNJjLeimsh8nKrD0434y-PppOPOOPcFjjUUngTJDLvBZbziq6&__tn__=-UC*F']BuddhaSattha -
"ให้พากันตั้งใจ" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"ให้พากันตั้งใจ"
" .. วันหนึ่ง ๆ เราจะนั่งภาวนา นั่งภาวนาก็ให้นั่งขัดสมาธิ ตั้งกายตรง ดำรงสติ อย่าปล่อยใจ ให้ตั้งสติอยู่กับใจ ให้เอาพุทโธเป็นอารมณ์ ทีแรกว่า "พุทโธ ธัมโม สังโฆ" พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ สามหนแล้ว "จึงเอาแต่พุทโธอันเดียว"
ทำงานอะไรอยู่ก็ได้ "พระพุทธเจ้าบอก ทำได้ทุกอิริยาบถ" ได้ทั้งสี่อิริยาบถ ยืนก็ได้ เดินก็ได้ นั่งก็ได้ นอนไม่เป็นท่าดอก เอนลงไปเดี๋ยวก็เอาสักงีบเถอะ เดินนั่นแหละดี นั่งกับยืนก็ได้ ได้หมดทั้งสี่อิริยาบถ พากันทำเอา
"ความมีอัตภาพนี่มันเป็นทรัพย์ภายนอก" เงินทองแก้วแหวน บ้านช่องเรือนชานต่าง ๆ ที่หามาได้ก็เป็นทรัพย์ภายนอก ติดตามเราไปไม่ได้ดอก
เมื่อตายแล้วก็ทิ้งไว้ "กายอันนี้เมื่อตายแล้วก็นอนทับถมแผ่นดินอยู่" ไม่มีผู้ใดเก็บ กระดูกก็กระจายไป กระดูกหัวก็ไปอยู่ที่อื่น กระดูกแขนก็ไปอยู่ที่อื่น กระดูกขาก็ไปอยู่ที่อื่น กระดูกสันหลังก็ไปอยู่ที่อื่น กระจายไปเท่านั้นแหละ .. "
"อนาลโยวาท"
หลวงปู่ขาว อนาลโย -
เข้าฌาณตาย
"เข้าฌานตาย"
ฌานที่ 1 อย่างหยาบ เราตายระหว่างทรงฌาน เป็นพรหมชั้นที่ 1
ฌานที่ 1 อย่างกลาง ตายระหว่างทรงฌาน เป็นพรหมชั้นที่ 2
ฌานที่ 1 อย่างละเอียด ตายระหว่างทรงฌาน เป็นพรหมชั้นที่ 3
ถ้าหากว่าเราได้ฌานที่ 1 หรือที่ 4 ก็ตาม ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ด้วยนะ ฌานนี่ถ้าหากว่าเราได้ฌาน 3 ฌานนี้ แต่ว่าเวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ไปเป็นเทวดาชั้น "จาตุมหาราช" แล้วก็ไปบำเพ็ญฌานครบถ้วน เมื่อครบกำหนดแล้วก็ไปเป็นพรหมตามกำลังของฌาน....
ทีนี้หากว่าเราได้ฌานที่ 2
ถ้าตายในระหว่างฌานที่ 2 หยาบ เราก็เป็นพรหมชั้นที่ 4
ตายในระหว่างฌานที่ 2 อย่างกลาง ก็เป็นพรหมชั้นที่ 5
ตายระหว่างฌานที่ 2 อย่างละเอียด ก็เป็นพรหมชั้นที่ 6
ถ้าเราตายในระหว่างฌานที่ 3 หยาบ ก็เป็นพรหมชั้นที่ 7
ถ้าฌาน 3 อย่างกลาง เป็นพรหมชั้นที่ 8
ถ้าฌาน 3 ละเอียด เป็นพรหมชั้นที่ 9
ถ้าฌานที่ 4 มี 2 ระดับคืออย่างหยาบ อย่างละเอียด
ถ้าตายในฌานที่ 4 อย่างหยาบ เป็นพรหมชั้นที่ 10
ถ้าตายในฌานที่ 4 อย่างละเอียด เป็นพรหมชั้นที่ 11
สำหรับพรหมชั้นที่ 12 ถึงพรหมชั้นที่ 16 เป็นของอนาคามีที่ได้ฌาน 4 แล้วก็ตายในระหว่างฌาน 4
ทีนี้สมมุติว่าฌานที่ 1... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
นิพพานไม่สูญ ( หลวงปู่ชอบฯ)
#บางครั้งหลวงปู่มั่นเหาะลอยมาทางอากาศมาสอนธรรมหลวงปู่ชอบทางสมาธิภาวนาเสมอ
ท่านอธิบายว่า นิพพานไม่ได้สูญ ไม่ได้อยู่ตามที่โลกคาดคะเนหรือเดากัน ทำจริงจะได้เห็นของจริง รู้จริงและจะเห็นนิพพานเอง เห็นพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ เห็นครูบาอาจารย์ที่ท่านบริสุทธิ์เอง และหายสงสัยโดยประการทั้งปวง
ท่านเล่า(หลวงปู่ชอบ) ให้ศิษย์ผู้ใกล้ชิดและมุ่งมั่นต่อการหลุดพ้นฟังว่านี้แหละเป็นคำสอนจากท่านพระอาจารย์มั่น และความจริงเป็นธรรมที่ท่านพระอาจารย์มั่นเมตตามาแสดงโปรดท่านทางนิมิตภาวนา
ท่านเล่าว่า ท่านพระอาจารย์มั่นมากด้วยความเมตตาต่อศิษย์โดยเฉพาะสำหรับหลวงปู่แล้ว เวลาท่านติดขัดในการภาวนา ท่านพระอาจารย์มั่น จะเมตตามาแสดงธรรมสอนท่านทางสมาธิภาวนาเสมอ ไม่เลือกสถานที่ว่าจะเป็นเวลาที่ท่านอยู่ในถ้ำ หรืออยู่กลางป่า หรืออยู่บนเขา และไม่เลือกว่าจะเป็นเมืองใด ประเทศใดไทย หรือลาว หรือพม่า
บางทีท่านพระอาจารย์มั่นก็จะเหาะลอยมาทางอากาศ แต่บางทีก็จะเดินมาอย่างธรรมดา หรือปรากฎร่างขึ้นในทันที เมื่อท่านเมตตาสั่งสอนจบลง หลวงปู่ก็จะก้มลงกราบด้วยความเคารพอย่างสูงสุด... -
คู่มือเลือกคนคบ ศัตรู มิตรเทียม มิตรแท้
คู่มือเลือกคนคบ ศัตรู มิตรเทียม มิตรแท้
ไชย ณ พล
อุทยานธรรม
https://www.youtube.com/channel/UCgICzee4j4Nrq2luuRBFJLQ -
พุทธภาวะ ตอน สมถะพร้อมวิปัสสนา
พุทธภาวะ ตอน สมถะพร้อมวิปัสสนา
แหล่งที่มาและหมวดต่างๆทั้งหมด
https://www.youtube.com/c/UniversalWisdombyUttayarndham/featured
ฟังต่อหมวดต่างๆในเว็บ
https://palungjit.org/threads/พุทธภาวะ.774181/ -
"หมดบุญ" - หลวงปู่หา สุภโร (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
"หมดบุญ"
พระธรรมโอวาท หลวงปู่หา สุภโร
(หลวงปู่ไดโนเสาร์)
วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์
พระใหม่ : หลวงปู่ครับ ผมจะเลิกทำสมาธิ
หลวงปู่ : ทำไม
พระใหม่ : ผมคิดว่าผมบุญน้อย นั่งสมาธิ
มาเป็นพรรษาแล้ว มันยังไม่สงบเลย
ผมคงหมดบุญแล้วครับ
หลวงปู่ : หึ หึ หึ เออดีๆ ผมจะนิมนต์พระไว้รอ
พระใหม่ : นิมนต์พระทำไมครับผม
หลวงปู่ : ไว้สวดคุณน่ะสิ คุณว่าคุณหมดบุญแล้ว
พระใหม่ : ยังครับผมหลวงปู่ ผมยังไม่ตาย
ผมหมายถึงว่า ผมนั่งสมาธิ นั่งเท่าไหร่ก็ไม่สงบ
หลวงปู่ : เออ...ถ้ามันสงบแล้วก็ไม่ต้องนั่ง
เรานั่งหาความสงบ ถ้าจิตมันเป็นสมาธิแล้ว
เราจะนั่งทำไม เรานั่งให้มันเป็นสมาธิ
ไปยังไม่ถึง มันก็ไม่เจอ ถ้าไม่เจอต้อง
พยายามต่อไป คนทำสมาธิอย่าโง่
อย่ามัวแต่หาสงบอย่างเดียว สังเกต
ปัญญาที่มันเกิดขึ้นขณะมันยังไม่เป็นสมาธิด้วย
เหมือนคนไปหาเห็ด เดินเข้าป่าไม่ยอมเก็บเห็ด
หาว่าดอกมันน้อย ดอกนั้นก็น้อย ดอกนี้ก็น้อย
เดินหาดอกใหญ่ รอเจอดอกใหญ่ค่อยเก็บ
เดืนจนหมดป่าก็ไม่เจอดอกใหญ่ สุดท้าย
เลยล้มเลิกเพราะไม่ได้เห็ด ทำสมาธิก็เหมือนกัน
มัวแต่หาความสงบจนลืมปัญญาที่เกิดตามทาง
ที่จะไปสู่ความสงบ ดีกว่าไปสงบแบบโง่... -
"ใจสงบเป็นพื้นฐานของปัญญา" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ใจสงบเป็นพื้นฐานของปัญญา"
" .. "การทำใจสงบนี่นับว่าสำคัญ มันเป็นพื้นฐานของปัญญา" ถ้าใจไม่สงบแล้ว ปัญญาในทางธรรมจะเกิดไม่ได้ "เมื่อปัญญาในทางธรรมเกิดไม่ได้ ก็ไม่สามารถที่จะรู้ธรรมของจริง" ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ได้แก่อริยสัจธรรมทั้ง ๔ นั้นได้
"จุดมุ่งหมายการอบรมฝึกฝนจิตใจนี่ เพื่อให้ใจให้สงบลง เพื่อให้ปัญญาเกิดขึ้น" เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้ว ก็จะได้รู้แจ้งในอริยสัจธรรมทั้ง ๔ นี่จุดมุ่งหมายที่แท้จริง .. "
"ธรรมโอวาท"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
นาซาจะทดลองส่งยานอากาศพุ่งกระแทกดาวเคราะห์น้อย เตรียมพร้อมรับมือ’อุกกาบาต’ชนโลก!!
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ(นาซา) กำลังเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย เพื่อให้พร้อมปล่อยยานอวกาศลำหนึ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีจุดหมายปลายทางคือตั้งใจพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งด้วยความเร็วสูง ขณะที่การพุ่งชนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกป้องโลกของนาซา
นาซา กำลังส่งยานอวกาศลำหนึ่งขึ้นไปพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งด่วยความเร็วสูง ในความพยายามเปลี่ยนเส้นทางมัน เป้าหมายก็เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ที่จะปกป้องโลกให้พ้นจากหินอวกาศอันตรายที่พุ่งเข้าหาในอนาคต
ปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า Double Asteroid Redirection Test (DART) ซึ่งใช้งบประมาณสูงถึง 330 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Planetary Defense (โครงการป้องกันโลกจากภัยพิบัติอวกาศ) และในขณะที่การเบี่ยงเส้นทางหินอวกาศคุกคามโลกดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียว เวลานี้ยานสำรวจอวกาศของจริงจะถูกส่งออกไปห่างจากโลก 6.8 ล้านไมล์(ประมาณ 11 ล้านกิโลเมตร) เพื่อพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่ง
ลินด์ลีย์ จอห์นสัน เจ้าหน้าที่โครงการป้องกันโลกจากภัยพิบัติอวกาศของนาซาบอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงสรุปทางออนไลน์เมื่อวันพฤหัสบดี(4พ.ย.)... -
"กรรมบัง"
"เวลากรรมบังนี่ มันโง่ทุกคนเลยว่ะ" หลวงปู่ศุข เมตตาเตือนสติ แล้วเราจะแก้ไขอย่างไร ให้ชีวิตดีขึ้น...
เวลาที่กรรมไม่ดีมาส่งผลหรือที่เรียกว่า "กรรมบัง" เป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดแล้วของชีวิต บางคนเสียผู้เสียคน ทำอะไรผิดพลาดไปหมด หรือตัดสินใจผิดๆ จนชีวิตพินาศ หรือแม้แต่ไม่ทำอะไร ก็ดิ่งลงๆๆๆ หรือแม้แต่ไม่รู้ตัว อาจจะพลิกวูบเดียวจบ!!!
ครูบาอาจารย์ท่านเตือนไว้ตลอด ไม่ว่ากรรมดี บุญจะส่งผล หรือกรรมไม่ดีเข้าส่งผลหรือกรรมบัง ท่านสอนเสมอให้มี "สติ" ซึ่งสำคัญมากๆ "สติ" ที่ดีจะวางใจเป็นกลาง รู้เท่าทันกรรม ไม่ประมาท รู้ว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับเราที่ดีที่ชั่วก็แค่นั้นเอง มาแล้วก็ผ่านไป
"สติ" ที่ดีคือ อยู่กับปัจจุบัน กรรมเก่าแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากรรมปัจจุบันในชาตินี้ ไม่ประมาทในกรรม ละบาป เลิกทำกรรมชั่วให้มากที่สุด หมั่นเติมบุญกุศลของตนไม่หยุดยั้ง ฝึกสติ ฝึกใจให้แจ่มใสอยู่ตลอดเวลา
"สติ" มาจากการทำสมาธิ การสวดมนต์ก็ช่วยได้เป็นการฝึกแบบง่ายๆ การสวดมนต์เป็นการน้อมจิตให้จดจ่อกับบทสวดมนต์ซึ่งทำให้จิตมีสมาธิในระดับหนึ่ง การสวดมนต์ก็เป็น “เหตุ” และ “ปัจจัย” หนึ่งในการบรรลุธรรม
มีสติ ยับยั้ง... -
"อยู่กับธรรมะซิไม่ทุกข์" (หลวงปู่บุดดา ถาวโร)
.
"อยู่กับธรรมะซิไม่ทุกข์"
" .. ไปตามธรรมะ เดินตามธรรมะ ยืนอยู่ก็ธรรมะ นั่งอยู่ก็ธรรมะ นอนอยู่ก็ธรรมะ ไปก็ธรรมะ มาก็ธรรมะ จะไปทุกข์อะไร "อยู่กับธรรมะซิไม่ทุกข์"
ธรรมะไม่มีสัตว์ ไม่มีคน อยู่กับคนก็ทุกข์น่ะซิ อยู่หลายคนก็ทะเลาะกัน อยู่คนเดียวก็ทะเลาะกับตัวเอง ทะเลาะกับมิจฉาทิฏฐิ "อยู่กับธรรมะไม่ทะเลาะกับใคร" .. "
หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี -
วงการพระสงฆ์เปิดมิติใหม่ เทศน์มหาชาติ 4 ภาค ระดมทุนการศึกษาเพื่อเยาวชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ นสช.12 เปิดมิติใหม่ เทศน์มหาชาติ 4 ภาค เพื่อระดมทุนการศึกษาเยาวชน ตามโครงการเยาวซนสร้างชาติ โดยจัดเทศน์มหาชาติ 4 ภาค 4 ทำนอง มหาเวสสันตรชาดก 13 กัณฑ์ 1,000 พระถาคา เวลา 19.00 น. ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ฟังเทศน์ยี่เป็งตามประเพณีภาคเหนือและตามประเพณีแต่ละภาค เริ่มเทศน์วันที่ 5 พ.ย. 64 เวลา 19.00 น. เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ โดยกลุ่มประเทศ ลัตเวีย กัณฑ์ทศพร 19 พระคาถาเทศน์ โดยพระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะ จ.แพร่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง
วันที่ 6 พ.ย. 64 เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ กลุ่มประเทศ ฮัการี กัณฑ์หิมพานต์ 134 พระคาถา เทศน์ออนไลน์ โดย พระครูอนุกูลนันทกิจ ผอ.ร.ร.พระปริยัติธรรมวัดนิโครธาราม อ.ท่าวังผา จ.น่าน
วันที่ 8 พ.ย. 64 เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ โดยกลุ่มประเทศ สโลวาเกีย กัณฑ์ชูชก 79 พระคาถา เทศน์โดย พระอาจารย์เอวัฒนา วาทศิลป์ พระนักเทศน์แหล่อีสาน วัดสว่างบูรพา จ.บุรีรัมย์
วันที่ 9 พ.ย. 64 เจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ โดยกลุ่มประเทศ อรุวัย กัณฑ์สักกบรรพ 43 พระคาถา เทศน์ โดย พระใบฎีกาภูวนนท์ ยสินฺธโร นักเทศน์ธรรมนองภาคไต้ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส... -
พระสงฆ์ไม่ควรกราบไหว้ ท่านอาจารย์ยันตระ (ผิดพระธรรมวินัย)
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ผมต้องไปเข้าระบบซูมเพื่อประชุมต่อ แต่คราวนี้ระยะที่ไม่อยู่วัดหลายวัน มีเรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้นในวงการสงฆ์ของเรามากมายหลายเรื่อง
เรื่องหนึ่งก็คือ การที่พระสงฆ์ไปกราบไหว้ท่านอาจารย์ยันตระ ซึ่งทุกคนเข้าใจว่าท่านคือฆราวาส ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นความบกพร่องของอุปัชฌาย์อาจารย์ ที่ไม่รู้จักอบรมขัดเกลาลูกศิษย์ให้ดี เพราะว่าในวินัยมุขมีบอกเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า พระสงฆ์ไม่ควรกราบไหว้บุคคลประเภทใดบ้าง แม้ว่าท่านอาจารย์ยันตระจะอ้างว่าท่านยังเป็นพระอยู่ แต่ว่าเครื่องแต่งตัวของท่านก็คือเพศฆราวาส ในเมื่อพระอุปัชฌาย์อาจารย์บกพร่อง จะโทษพระที่ไปกราบท่านอาจารย์ยันตระก็ไม่ถูก
แต่ก็ต้องบอกว่าพระจำนวนมาก ก็น่าจะมีสักคนที่ศึกษาเรื่องพระธรรมวินัยบ้าง แล้วก็จะรู้ว่าไม่สมควรที่จะทำอย่างนั้น แต่กลับไม่มี ทุกคนเห็นดีเห็นงามเหมือนกันหมด ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจยิ่งของคณะสงฆ์ของเรา... -
ความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อปาน ''เด็กตายในครรภ์ ไม่ต้องผ่าออกต้องทำอย่างไร?!''
ความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อปาน
ความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เด็กตายในครรภ์ ไม่ต้องผ่าออกต้องทำอย่างไร
.เอาเรื่องอัศจรรย์อีกนิดหนึ่ง เวลานี้คนมีครรภ์ถ้าเด็ก "ตาย" ในท้อง เขาก็ผ่าท้องกัน
.แต่ว่าสมัยนั้น วิชาหมอของหลวงพ่อปาน
มีดหมอ มันก็ไม่คม ผ่าท้องมันก็ไม่เข้าเฉือนใครมันก็ไม่เข้า ตาทีนี้ทำอย่างไรถ้าหากว่าคนตั้งครรภ์ปรากฏว่าเด็กตายในท้อง
ท่านทำอย่างไรทราบไหม ท่านก็เอาด้ายไจด้านที่เป็นไจ มาจับเป็นมงคลเล็กๆ แล้วก็ม้วนๆเข้า ผสมกับน้ำมนต์
เอาใส่ไปในปาก แล้วให้คนกินน้ำมนต์กลืนด้ายลงไป แม่ของเด็กน่ะกลืนน้ำมนต์ลงไปแล้วกลืนด้าย
สักประเดี๋ยวเด็กจะคลอดออกมาจากครรภ์ แล้วเชือกมงคลนั้นจะคล้องคอเด็กออกมา
นี่วิชานี้ท่านทำให้ปรากฏเป็นปกติ ถ้าปรากฏว่าตายในท้องละแบบนี้ทุกรายแล้ว ออกก็ไม่ยาก แม่ไม่มีอันตราย ไม่ต้องผ่ากัน เรียกว่าความรู้ในสมัยนั้นวิชาแพทย์ยังไม่รุ่งเรืองเหมือนสมัยนี้ ก็เลยต้องเล่นกันลุ่นๆ แบบนี้แหล่ะ
หมายความว่า เอามงคลเข้าไปสวมคอเด็กที่ตายในท้องให้มันออกมาไม่ต้องผ่า
ผ่าก็ไม่ได้เพราะไม่มีความรู้จะผ่า เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จากวิธีการและ "อำนาจสมาธิ"... -
"เอาตนเองเป็นพยาน" (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
.
"เอาตนเองเป็นพยาน"
" .. "ธรรมะนี้เปรียบเหมือนผลไม้" ที่เราไปบ้านญาติบ้านเพื่อน แล้วเขาเอาผลไม้ฝากเรา เราหยิบผลไม้ไว้ในมือของเรา แต่เราก็ไม่รู้เปรี้ยว หวาน ฝาดอะไรต่าง ๆ
คือจับผลไม้แล้วก็ยังไม่รู้รสผลไม้ "จะรู้รสก็ต้องเอามาทาน ขบเคี้ยว จึงจะรู้ว่ามันเปรี้ยว มันหวาน" มีรสชาติต่าง ๆ ตามสัญญาของเรา "ธรรมะนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น ทุกอย่างท่านให้เอาตนเองเป็นพยาน" ไม่ต้องเอาคนอื่น
เรื่องของคนอื่นตัดสินยากลำบาก เพราะเป็นเรื่องของคนอื่น "ถ้าเป็นเรื่องของเราแล้วมันง่ายที่สุด" เพราะความจริงมันอยู่กับเรา "มีเราเป็นพยาน" .. "
"ความผิด ในความถูก"
พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ -
น้ำท่วมไม่ใช่อุปสรรค แต่งชุดไทยใส่บาตร “ประตูกาลเวลา” โบราณสถานวัดพระงาม
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และโบราณสถานหลายแห่ง และไม่นานมานี้ หลายสถานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่เสน่ห์ของการทอ่งเที่ยวในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา กลับมีหลายมิติให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัส
อย่างที่วัดพระงาม หมู่ 4 ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โบราณสถานร้าง ไฮไลท์ บริเวณทางเข้าวัด หรือ ซุ้มประตู ที่ถูกรากต้นโพธิ์ปกคลุม ได้รับการขนานนาม ในจุดนี้ว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” ถือเป็น Unseen ที่นักท่องเที่ยวมักมาถ่ายรูปกันจำนวนมาก
ได้อารมณ์ภาพชวนดูลึกลับน่าค้นหา แต่มาวันนี้ บริเวณซุ้มประตูดังกล่าว ถูกน้ำท่วมมาร่วมเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ล่าสุดระดับน้ำลดลงบางแล้ว แต่ที่ลุ่มต่ำบริเวณบ้านเรือนทั่วไป ยังมีน้ำท่วมลึกประมาณ 50-70 เซนติเมตร
ซึ่งน้ำท่วม ก็ไม่อุปสรรคต่อการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวยังสนใจมาเยือนในจุดนี้ แต่งชุดไทยมาถ่ายรูป บริเวณซุ้ม “ประตูกาลเวลา” ของวัดพระงาม พร้อมกับมีพระสงฆ์จากวัดศรีโพธิ์ ซึ่งอยู่ใกล้กัน มารับบิณฑบาตจากนักท่องเที่ยว
พระวรวุฒิ สุทัศโน พระวัดศรีโพธิ์ เปิดเผยว่า... -
คนกิเลสหนากับการบรรลุธรรม
การบรรลุธรรมของคนที่มีกิเลสหนา เรื่องน่าคิดจากพระไตรปิฎก
หลายท่านอาจจะสงสัยว่า “คนที่มีกิเลสหนา บรรลุธรรมไม่ได้” และเชื่อกันมาแบบนี้ แต่พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องนี้ไว้ในพระสูตรที่มีชื่อว่า วิตถารสูตร ถึงการบรรลุธรรมของคนที่มีกิเลสหนา ไว้ว่า…
บุคคลบางคนในโลกนี้ ตามปกติเป็นผู้มีความกำหนัดยินดีในกาม (ราคะ) ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสอันเกิดจากความกำหนัดยินดีในกามตลอด
เป็นผู้มีความโกรธ (โทสะ) รุนแรง ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสที่เกิดจากความโกรธตลอด
เป็นผู้ที่มีความหลง (โมหะ) รุนแรง ย่อมได้เสวยทุกข์โทมนัสที่เกิดจากความหลงตลอด
แต่อินทรีย์ 5 ประการ ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา เหล่านี้มีความแรงกล้า เขาย่อมบรรลุธรรมอย่างฉับพลัน แต่หากคนผู้นั้นมีกิเลสเป็นราคะ โทสะ และโมหะเบาบาง ไม่ได้มีความทุกข์โทมนัสจากราคะ โทสะ และโมหะ แต่อินทรีย์ทั้ง 5 ประการนี้อ่อน เขาย่อมได้บรรลุมรรคผลล่าช้า การบรรลุธรรมจึงขึ้นอยู่กับอินทรีย์ 5 ประการ
ระดับของการบรรลุธรรม
การบรรลุธรรมของคนที่มีกิเลสหนาถึงจะขึ้นอยู่กับอินทรีย์ 5 แต่ก็มีความช้าและความเร็วแตกต่างกันไป พระพุทธเจ้าทรงจัดระดับไว้ 4... -
"ปัญญามีอำนาจเหนือกิเลส" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
" .. ปัญญามีอำนาจเหนือความคิด "ก็คือปัญญาที่มีอำนาจเหนือกิเลสนั่นเอง" เพราะเมื่อปัญญาควบคุมความคิดได้ ความคิดก็จะไม่ปรุงแต่งไปกวนกิเลสที่มีอยู่เต็มโลก ให้โลดแล่นเข้าประชิดติดใจ จึงเป็นการควบคุมกิเลสได้พร้อมกับควบคุมความคิด
"ความเกิดเป็นทุกข์" เพราะความเกิดนำมาซึ่งความเกิด ความแก่ ความตาย ความพรัดพรากจากของรักของชอบใจและความไม่ประจวบด้วยสิ่งที่ปรารถนาทั้งปวง
"ความทุกข์เหล่านี้หนีไม่พ้น" เพราะเป็นผลตามมาของความเกิดอย่างแน่นอน ความทุกข์ทางกาย หนีพ้นได้ด้วยการไม่เกิดเท่านั้น "ส่วนความทุกข์ทางใจ หนีได้ด้วยความคิด" .. "
"รสแห่งความเมตตา ชุ่มเย็นยิ่งนัก"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11913
หน้า 96 ของ 402