คลังเรื่องเด่น
-
สันตุสสโกวาท : ความอิจฉา พาลงอเวจี
สันตุสสโกวาท ลำดับที่ ๑๒ : ความอิจฉา พาลงอเวจี | หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคําน้อย
#สันตุสสโกวาท “ความอิจฉา พาลงอเวจี” -
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไทย-จีน! กรมสมเด็จพระเทพฯ...
29 ม.ค.2565 – เพจเฟซบุ๊ก China Report ASEAN – Thailand โพสต์ภาพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมระบุข้อความว่า จีนขอแสดงความต้อนรับ และยินดียิ่งที่พระองค์จะเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง
1/ นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวยืนยัน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากประเทศไทย จะเสด็จฯเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวกรุงปักกิ่งในวันที่ 4 ก.พ. ที่จะถึงนี้
2/ จีน-ไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน จีนขอแสดงความต้อนรับอย่างยิ่งที่กรมสมเด็จพระเทพฯ มิตรเก่าและมิตรแท้ของประชาชนจีนเสด็จฯเยือนจีน และยินดียิ่งที่พระองค์จะเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง
3/ “พระองค์จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งมิตรภาพจีน-ไทยอีกครั้ง” นายจ้าว ลี่เจียน กล่าว
4/ รัฐบาลจีนเคยทูลเกล้าฯถวายเหรียญอิสริยาภรณ์ ‘เหรียญมิตรภาพ’ แด่พระองค์ และย้อนกลับไปปี ค.ศ. 2008... -
ครบรอบ 33 ปี "ผีจ้างหนัง" คำชะโนดคึกคัก
ครบรอบ 33 ปี "ผีจ้างหนัง" คำชะโนดคึกคัก คอหวยกว้านซื้อทะเบียนรถในตำนาน "แจ่มจันทร์ภาพยนตร์"
(29 ม.ค.65) เวลา 09.00 น. ที่ ลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ดินแดนพญานาคราช บ้านโนนเมือง ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายธงชัย แสงชัย หรือ เฮียเบิ้ม อายุ 71 ปี เจ้าของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ได้จัดพิธีบวงสรวงพ่อปู่ศรีสุทโธ-แม่ย่าศรีปทุมมา เนื่องในวันครบรอบ 33 ปี ผีจ้างหนัง ได้มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชาประกอบด้วย พานบายศรี ผลไม้ 9 อย่าง และการรำบวงสรวงพ่อปู่แม่ย่า โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเดินทางเข้ามาสักการะมากเป็นพิเศษ เนื่องจากทราบว่าวันนี้มีพิธีบวงสรวงครบรอบ 33 ปี ผีจ้างหนัง บางส่วนเดินทางไปสักการะบูชาที่ศาลเก่าด้านหลังคำชะโนด ที่ติดกับบริเวณที่ระบุว่ารถหนังเร่ขับเข้าไปฉายหนังกลางแปลงในป่าคำชะโนด
นายธงชัย หรือ เฮียเบิ้ม เจ้าของแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ เปิดเผยว่า วันครบรอบ 33 ปี ตำนานผีจ้างหนัง ได้ทำการจัดพิธีถวายบายศรี นางรำ 13 คน จัดโรงทาน และฉายภาพยนตร์ 9 คืน ผีจ้างเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2532 เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนรู้จักและเป็นตำนานคู่คำชะโนด... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๕ -
เกร็ดความรู้ในบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ถาม : ผมไปตรวจบทสวดธัมมจักฯ พรหมจะมีทั้งหมด ๑๖ ชั้นใช่ไหมครับ แต่พรหมชั้นที่ ๑๐ แล้วชั้นที่ ๑๑ หายไป ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
ตอบ : อสัญญีสัตตา เขาเรียกว่า พรหมลูกฟัก สภาพจิตท่านดิ่งอยู่ในฌาน ๔ ละเอียดอยู่ข้างใน ไม่อยู่ข้างนอก รับรู้อะไรไม่ได้ พอถึงเวลาท่านก็เลยไม่ได้โมทนา ไม่ได้ยินดีอะไรกับใคร เขาบอกว่า พอได้ยินเสร็จแล้วก็อนุโมทนา อนุโมทนาเสียงก็ดังต่อ ๆ กันไป พอไปถึงตรงนั้นก็แป้กเงียบ จึงต้องข้ามท่านไป
ถาม : แสดงว่ารูปพรหมก็เป็นลูกฟักได้ ?
ตอบ : อรูปพรหมจริง ๆ แล้วแย่กว่าเพราะว่ามีแต่ดวงจิต แต่นี่ท่านเป็นรูปพรหมที่จิตดำเนินสมาธิอยู่ข้างใน ไม่ออกมาข้างนอก ในเมื่อไม่ส่งออกมาข้างนอก อายตนะก็รับรู้ไม่ได้ อาตมาสงสัยมาก่อน ว่าอสัญญีสัตตาพรหมหายไปไหน ? มีบางคนรู้มากก็เติมเข้าไป ไปเติมได้อย่างไร ก็ท่านไม่ได้อนุโมทนาด้วย แล้วดันไปบอกว่าเสียงดังต่อไปชั้นอื่น
ในเรื่องของธัมมจักกัปปวัตตนสูตรมีหลายอย่างที่น่าสงสัย อย่างเช่นว่า พระอัญญาโกณฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรม บาลีเขาแปลเป็นไทยว่าเป็นพระโสดาบัน แต่คราวนี้เทวดาทั้งหมด พรหมทั้งหมด ยกเว้นอสัญญีสัตตาพรหมท่านอนุโมทนาด้วย เราไปนึกดูว่าพระโสดาบัน... -
พระภิกษุเข้าถ้ำสามบาตร ไปวิปัสสนาก่อนหายไร้วี่แวว เร่งระดมทีมค้นหา 7 ชม. ยังไม่พบ
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 28 มกราคม เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ-สกุล) เป็นพระลูกวัดน้ำผุดใต้ อ.เมืองตรัง ได้สูญหายไปภายในถ้ำเขาสามบาตร หมู่ 4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย หน่วยกู้ชีพเทศบาล ต.นาตาล่วง นายสมพร เมืองแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ร.ต.อ.สมพงษ์ ทองรอด สายตรวจตำบลนาตาล่วง กำลังฝ่ายปกครอง และชาวบ้านกว่า 50 ชีวิต ได้ระดมกันเข้าค้นหา
ชาวบ้านและผู้นำชุมชนได้ระดมเข้าค้นหาภายในถ้ำกันตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. จนถึงเวลา 00.30 น.ของคืนวันที่ 29 มกราคม รวมกว่า 7 ชม. ก็ยังไร้วี่แวว หรือพบเบาะแสภายในถ้ำแต่อย่างใด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาพื้นที่โดยรอบถ้ำรัศมีประมาณ ครึ่งกิโลเมตร พร้อมทั้งสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็ไม่มีข้อมูลหรือเบาะแสในการพบตัว ก่อนจะยุติการค้นลง และเตรียมระดมกำลังเข้าค้นหาใหม่ในเช้าของวันนี้ 29 มกราคม
นายชาย (นามสมมุติ) อาชีพขับรถ จยย.รับจ้าง กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. (28 ม.ค.)... -
การปฏิบัติต้องเอาชีวิตเข้าแลก ประเภทตายเป็นตาย
การปฏิบัติต้องเอาชีวิตเข้าแลก ประเภทตายเป็นตาย ตายตอนนี้เราทำความดีอยู่เราต้องไปดีแน่อยู่แล้ว พอถึงเวลาจะนอนทำอย่างไร เหนื่อยมาทั้งวันแล้วให้ไปนั่งภาวนาก็จะหลับท่าเดียว นอนหงายโครมลงไปเลย คิดว่านอนลงแล้วก็เหมือนกับคนตาย จะฟื้นขึ้นมาตื่นกลับขึ้นมาได้เห็นตะวันขึ้นหรือเปล่าก็ช่างหัวมันเถอะ ถ้าหากว่าตายคืนนี้เราก็ขอไปพระนิพพาน ทำกำลังใจง่าย ๆ อย่างนี้แล้วก็จับภาวนา ถ้าหากว่าได้มโนมยิทธิส่งใจไปกราบพระบนพระนิพพาน หลับไปทั้งอย่างนั้นแหละ
ถ้าหากว่าไม่ได้มโนมยิทธิก็ตั้งใจนึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งสักองค์ที่เรารักเราชอบ ว่านั่นคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่อยู่ที่ไหนนอกจากพระนิพพาน เราเห็นท่าน เราอยู่กับท่านก็คืออยู่บนพระนิพพาน แล้วก็ภาวนาให้หลับไปเลย คิดว่าถ้าตายขอไปอยู่กับพระพุทธเจ้าก็แล้วกัน
ใช้วิธีง่าย ๆ ตอนเช้าทำให้เยอะเข้าไว้ ตอนเย็นเหนื่อยแล้วผ่อน ๆ ลงบ้างก็ได้ ถ้ากำลังใจทรงตัว นิวรณ์ ๕ ไม่ได้รับประทาน เราก็จะอยู่สุขอยู่เย็นทั้งวัน ขอให้รักษาให้อยู่ รักษาให้ได้ มีใครกล้ารับรองได้ว่าตัวเองทรงฌานได้บ้าง ? เอาแค่ปฐมฌานก็ยังดี พอไหวไหม ? เอาไม่มากเอาแค่นั้นแหละ... -
"คติธรรมประจำใจ" (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
.
"คติธรรมประจำใจ"
" .. ผู้เบียดเบียนผู้อื่น คือผู้เบียดเบียนตนเอง .. ผู้สงเคราะห์ผู้อื่น คือผู้สงเคราะห์ตนเอง .. ความเมตตากรุณาที่มนุษย์มีต่อกัน มีเดชานุภาพยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ .. ผู้ที่ฆ่า ผู้ชนะ ผู้ด่า ผู้ประทุษร้ายเขา ย่อมได้ ผู้ฆ่า ผู้ชนะ ผู้ด่าและผู้ประทุษร้ายตอบ .. "
"ธรรมะทะลุโลก"
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๕ -
รู้ว่าบุญนั้นดีเราก็ทำ รู้ว่าบาปนั้นชั่วเราก็ละ
ในเรื่องของการทำบุญ ต้องมีปัญญาประกอบ รู้จักเลือกเนื้อนาบุญ อย่างท่านอังกุระเทพบุตร สร้างโรงทาน ๘๐ โรง เลี้ยงคนทั้งกลางวันกลางคืนเป็นเวลาสองหมื่นปี ไปเกิดเป็นเทวดามีบุญน้อยที่สุดในดาวดึงส์ เทวดาองค์ไหนมาก็ต้องหลีกให้เขา เพราะว่าท่านเกิดในช่วงว่างจากพระพุทธศาสนา ช่วงนั้นคนไม่ได้อยู่ในศีลในธรรม
พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดา อินทกะเทพบุตรและอังกุระเทพบุตร มากราบพระพุทธเจ้าพร้อมกัน ท่านนั่งอยู่ซ้ายและขวา เมื่อเทวดาที่มีศักดานุภาพใหญ่กว่ามาถึง อังกุระเทพบุตรต้องหลีกให้เขา ท่านก็ถอยไปเรื่อย..ถอยไปเรื่อย แต่อินทกะเทพบุตรนั่งอยู่ที่เดิม
ท้ายสุดพอประชุมเทวดาครบถ้วน อังกุระเทพบุตรอยู่สุดขอบจักรวาลพอดี แต่อินทกะเทพบุตรยังนั่งอยู่ที่เดิม แม้แต่พระอินทร์มา อินทกะเทพบุตรยังไม่ต้องหลีกเลย พระพุทธเจ้าก็เลยถามบุรพกรรม ทั้ง ๆ ที่พระองค์รู้แต่ทรงถามให้เจ้าตัวเล่าเอง
อังกุระเทพบุตรจึงได้เล่าให้ฟังว่าในอดีตชาติ ท่านเกิดมาในช่วงที่มนุษย์มีอายุขัย ๘๐,๐๐๐ ปี ช่วงวาระสุดท้ายบั้นปลายชีวิตตั้งโรงทาน ๘๐ โรง เนื่องจากเป็นมหาเศรษฐี ท่านเลี้ยงคนทั้งกลางวันกลางคืนเป็นเวลา ๒๐,๐๐๐ ปี แต่ก็มีบุญอยู่แค่นี้... -
"กรรมเป็นที่พึ่งของจิต" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"กรรมเป็นที่พึ่งของจิต"
" .. "กายกับใจเมื่อประสมโรงกันเข้าแล้วย่อมสามารถกระทำกรรมใด ๆ ได้ทุกอย่างไม่เลือก" แล้วแต่จิตจะบัญชา แต่ผลกรรมหรือผลงานที่เรียกว่าวิบาก ที่ทั้งสองร่วมกันกระทำนั้น เมื่อยังอยู่ร่วมกันก็ร่วมกันรับร่วมกันเสวยต่อไป
เมื่อรูปแตกกายดับเขาหนีไปตั้งทัพอยู่เฉพาะเขา คือเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ตามสภาพของมันแล้ว "คราวนี้จิตเป็นผู้รับเคราะห์กรรมแต่คนเดียว" เหมือนลูกไม้มีทุเรียนเป็นต้น เมื่อแก่สุกงอมแล้วหลุดหล่นลงจากต้นโดยมิได้บอกกล่าวลาต้นเลย ได้เมล็ดได้เนื้อสุกหอมหวานแล้วก็ไป
เมื่อเมล็ดยังไม่ลีบไม่เน่าเขาไปสร้างต้นสร้างผลงอกงามขึ้นอีก จิตก็เช่นนั้นเหมือนกัน "เมื่อกายแตกดับไม่รับรู้อะไรแล้ว จิตเป็นผู้รับภาระผลกรรมแต่ผู้เดียว" ผลกรรมนี่แหละ ที่จะนำจิตให้ไปก่อเกิดในภพนั้น ๆ ต่อไป
สมดังพุทธภาษิตว่า "กัมมัสสกา" จิตสร้างกรรมอันใดไว้ "กัมมทายาทา" จิตผู้สร้างกรรมนั้นแล จักได้รับผลของกรรมนั้นต่อไป "กัมมโยนิ" กรรมเป็นผู้ให้กำเนิด "กัมมพันธุ" กรรมเป็นต้นตระกูลของความเกิด "กัมมปฏิสรณา" กรรมเป็นที่พึ่งของจิต หรือจิตอาศัยกรรมเป็นที่ดำเนินก็ว่า .. "
"เรื่องของความเกิด-ดับ"... -
สระมุจลินทร์ สระน้ำพญานาคศักดิ์สิทธิ์ ศิลปะล้านช้าง @พระธาตุบังพวน หนองคาย
ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคในเมืองไทยนั้น จังหวัดหนองคายถือได้ว่าเป็นเมืองแห่งพญานาคริมฝั่งโขงที่มีความเชื่อในเรื่องของพญานาคกระจายอยู่ในทุกๆ พื้นที่ของจังหวัด ตั้งแต่ครั้งโบราณนานมา เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดหนองคาย คุณจะสังเกตและรู้ได้ทันทีว่านี่เข้าเขตหนองคายแล้ว เพราะจะมีทั้งรูปปั้นพญานาค รูปภาพ และสัญลักษณ์ต่างๆ ที่สื่อถึงพญานาค และหนึ่งในนั้นมีสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความเกี่ยวพันธ์กับพญานาคและมีความเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ล้านช้างปกครองดินแดนหนองคาย ซึ่งเราจะพาทุกคนไปชมกันในวันนี้ครับ
สถานที่แห่งนี้ก็คือสระมุจลินทร์ ที่วัดพระธาตุบังพวน สถานที่เก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองไทย สำหรับวัดพระธาตุบังพวนนั้นเชื่อว่าเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศอินเดียและบรรจุไว้ในองค์พระธาตุบังพวน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพุทธศาสนิกชน
ต่อมามีพระภิกษุ 2 รูปได้เห็นปรากฏการณ์ปละหลาดมีสายน้ำโพยพุ่งออกมาจากพื้นดินบริเวณพระธาตุบังพวก จึงได้ชวนชาวบ้านมาช่วยกันขุดสระเพื่อรองรับน้ำที่ผุดขึ้นมานี้... -
บุคคลที่หาได้ยาก
บุคคลที่หาได้ยาก
สมัยที่อาตมาเรียนนักเรียนนายสิบอยู่ มีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่ง จำชื่อจริงไม่ได้แล้ว แต่ตอนที่จบออกมา ลูกศิษย์เรียกว่า หมู่ดาร์กี้ เขาเป็นคนพนมทวน ตัวดำปี๋เลย ขอให้พวกเราเข้าใจว่าคนไทยจริง ๆ ผิวดำนะจ๊ะ เพราะคำว่า สยาม แปลว่า ดำ
หมู่ดาร์กี้อยู่กับแม่ ไม่มีพ่อ ไม่มีพี่น้องอื่น ญาติข้างพ่อก็ไม่มี ญาติข้างแม่ก็ไม่มี ก่อนที่จะไปเป็นทหาร หมู่ดาร์กี้ทำมาหากิน ทำนาทำไร่เลี้ยงแม่ จนกระทั่งได้ข่าวว่าตอนนี้มีหลักสูตรนักเรียนนายสิบปีเดียว คือ สมัยก่อนจะเป็นหลักสูตรนักเรียนนายสิบ ๒ ปี แต่ตอนนี้มีหลักสูตรนายสิบปีเดียว เรียนจบมาแล้วปีแรกติดสิบโทก่อน ปีถัดไปจะเลื่อนเป็นสิบเอกโดยอัตโนมัติ
หมู่ดาร์กี้ก็พยายามทำงานจนได้เงินก้อนหนึ่งมามอบให้แม่ กะว่าพอใช้จ่ายใน ๑ ปี แล้วก็ลาแม่ไปสมัครเป็นนักเรียนนายสิบ เพราะอายุยังไม่เกิน พี่ดาร์กี้เข้าไปเป็นนักเรียนนายสิบก่อนอาตมารุ่นหนึ่ง
พี่ดาร์กี้เขาเป็นคนที่ประหยัดสุดยอดเลย พอเบี้ยเลี้ยงออกมา ๕๐๐ บาท ก็อยู่ครบ ๕๐๐ บาทถ้วน เงินเดือนออกมาเท่าไรอยู่ครบเท่านั้น หมู่ดาร์กี้ซื้อธนาณัติส่งเงินกลับบ้านไปให้แม่
วันนั้นพี่ดาร์กี้นอนก่ายหน้าผากอยู่... -
"ให้ภาวนา อย่าได้ประมาท" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
.
"ให้ภาวนา อย่าได้ประมาท"
" .. เราทุกคนทุกดวงใจที่มีชีวิตอยู่ ณ ภายในนี้ก็อย่าพากันนิ่งนอนใจ อยู่ที่ไหน "กายกับใจอยู่ที่ไหน ก็ที่นั่นแหละเป็นที่ปฏิบัติบูชาภาวนา อยู่บ้านก็ภาวนาได้ อยู่วัดก็ภาวนาได้" บวชไม่บวชก็ภาวนาได้ทั้งนั้น
บัดนี้จึงเป็นเวลาที่เราทุกคนทุกดวงทุกใจจะต้องตื่นมา "ตั้งใจปฏิบัติบูชาภาวนา" ให้จิตใจนี้มีความมั่นคงหนักแน่น ไม่ต้องสะทกสะท้านย่านกลัวต่อกิเลสกามวัตถุกามในโลกนี้ "จงพยายามทำใจดวงนี้ให้บริสุทธิ์ผ่องใส" .. "
"หลวงปู่สอนว่า"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร -
มีอะไรก็พอใจแค่นั้นแล้วเราจะทุกข์น้อย
จำไว้ว่าอย่าอยากมากเกินไป มีอะไรก็พอใจแค่นั้นแล้วเราจะทุกข์น้อย และอย่าตั้งความหวังกับคนอื่น เขาจะเป็นอย่างไรช่างเขา ถ้าเราอยากให้เขาเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ เราก็จะทุกข์อีกเหมือนกัน
เอาแค่สองอย่างพอ อย่าอยากมาก และอย่าตั้งความหวังกับคนอื่น
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"จิตฟุ้งซ่านควรทำสมาธิหรือไม่" (หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต)
.
"จิตฟุ้งซ่านควรทำสมาธิหรือไม่"
คำถาม : ผมเคยอ่านหนังสือพบว่า "เวลาขณะที่จิตฟุ้งซ่านมาก ๆ ไม่ควรจะทำสมาธิ ภาวนา" เพราะเหตุใด จริงไหมครับ
คำตอบ : ที่ว่าจิตฟุ้งซ่านนั้น ไม่ควรทำสมาธิ ตอบว่า .. "จิตฟุ้งซ่านนั้นเอง จะได้ถูกข่มเหง เข้าในสมาธิด้วยบริกรรม" ให้พอจดจ่ออยู่กับกรรมฐานที่ตั้งไว้ ถ้าบริกรรมไม่พอหรือเพ่งให้เป็นอารมณ์เดียวไม่พออยู่ในเป้าอันเดียว มันก็ไม่ยอมลงเหมือนกัน "ถ้าจิตฟุ้งซ่าน เราไม่เข้าสมาธิแล้ว มันยิ่งไปกันใหญ่"
เทียบกันกับเราเลี้ยงโค มีหญ้ากินอยู่ มันไม่สันโดษกิน ก็ต้องผูกมัด ผูกล่ามไว้ "โบราณท่านกล่าวว่า เรือข้ามทะเล เมื่อคลื่นจัดก็ต้องทอดสมอ" มิฉะนั้นเรือจะคว่ำและเดินผิดท่า ฉันใดก็ดี "เมื่อมันฟุ้งซ่าน เราไม่ดัดสันดานมัน ให้ตั้งอยู่ในกรรมฐานอันใดอันหนึ่งอยู่ มันก็เคยตัว" เพราะมันไม่ถูกทรมานด้วยพระสติพระปัญญา "คำว่าฟุ้งซ่านก็คือรำคาญใจนัน่เอง" มันอิงกับโมหะโดยไม่รู้ตัว .. "
"ตอบปัญหาธรรมะแนะทางวิปัสสนา"
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต -
พบแก่นโลกเย็นตัวเร็วกว่าที่คาด สิ่งมีชีวิตต้องสูญพันธุ์เร็วขึ้น
โลกถึงจุดหายนะเร็วขึ้น นักวิจัยพบแก่นโลกเย็นตัวเร็วกว่าที่เคยคาดไว้ 1.5 เท่า
นับตั้งแต่ที่โลกก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีก่อน แก่นโลกชั้นในมีการเย็นตัวลงเรื่อยๆ ตามธรมมชาติของดาวเคราะห์ แต่ล่าสุดนักวิจัยพบว่าแร่ธาตุในแก่นโลกซึ่งเป็นของเหลวที่มีอุณหภูมิสูงนั้นเย็นตัวเร็วกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ 1.5 เท่า ซึ่งเมื่อเย็นตัวจนกลายเป็นหินแข็งจะทำให้โลกไม่สามารถรักษาสนามแม่เหล็ก เสถียรภาพของอุณหภูมิ และวงจรคาร์บอน อันนำมาซึ่งหายนะของสิ่งมีชีวิตบนโลก
DW News ได้รายงานผลการศึกษาของทีมวิจัยจากสถาบัน ETH Zurich ของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งได้ร่วมมือกับทีมวิจัยจากสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น โดยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Earth and Planetary Science Letters เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา
ทีมวิจัยได้ศึกษาแร่ธาตุ Bridgmanite ซึ่งพบมากในชั้นล่างของเนื้อโลกที่ติดกับผิวของแก่นโลก โดยนำมาทดสอบความสามารถในการนำความร้อน ด้วยการยิงเลเซอร์ให้มีอุณภูมิถึง 2,440 เคลวินภายใต้แรงดัน 80 กิกะปาสคาล ซึ่งใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมใต้ผืนโลก
โมโตฮิโกะ มูราคามิ ศาสตราจารย์ด้านธรณีศาสตร์จาก ETH Zurich... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๕ -
"ดับทุกข์ด้วยพุทโธ" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"ดับทุกข์ด้วยพุทโธ"
" .. "การภาวนาพุทโธ หรือธรรโม หรือสังโฆ" เพียงสั้น ๆ คำใดคำหนึ่ง นับได้ว่าเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือระลึกถึงพระธรรม หรือระลึกถึงพระสงฆ์ "ผลย่อมตรงกัน คือความหวาดกลัวที่แม้เกิดขึ้นจักหายสิ้นไป"
ความคิดถึง สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์ "เป็นสิริมงคลสูงสุดแก่จิตใจ สงบความวุ่นวายทั้งปวง" ไม่ว่ากำลังร้อนด้วยความคิดใด ความคิดไปถึง สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระธรรม หรือพระสงฆ์ "จักดับความร้อน ยังความเย็นให้เกิดแทนที่ได้" ไม่พึงปฏิเสธความจริงอันเป็นมงคลนี้ .. "
"แสงส่องใจ" ๓ ตุลาคม ๒๕๓๗
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๕ -
พุทธวิธีละสังโยชน์ละเอียด
พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
พุทธวิธีละสังโยชน์ละเอียด
ลฑุกิโกปมสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๑๓ ข้อ ๑๘๒-๑๘๕
ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟังพึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว ฟังพุทโธวาท
และน้อมธรรมมาสู่ใจ น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
ความยาววีดีโอ: 13:14 นาที
เวลาปฏิบัติ: 25 นาที
--------
...พระผู้มีพระภาคตรัสกับพระอุทายีว่า
ดูกรอุทายี กามคุณห้าเหล่านี้ กามคุณห้าเป็นไฉน คือ
รูปอันพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ...
เสียงอันพึงรู้แจ้งด้วยโสต...
กลิ่นอันพึงรู้แจ้งด้วยฆานะ...
รสอันพึงรู้แจ้งด้วยชิวหา...
โผฏฐัพพะอันพึงรู้แจ้งด้วยกาย...
ที่สัตว์ปรารถนารักใคร่ชอบใจ เป็นสิ่งที่น่ารัก ประกอบด้วยกามเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด กามคุณ ๕ นี้แล
ความสุขโสมนัสที่เกิดเพราะอาศัยกามคุณ ๕ นี้ เรากล่าวว่ากามสุข ความสุขไม่สะอาด ความสุขของปุถุชน ไม่ใช่สุขของพระอริยะอันบุคคลไม่ควรเสพ ไม่ควรให้เกิดมี ไม่ควรทำให้มาก ควรกลัวแต่สุขนั้น
ดูกรอุทายี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร... -
หนทางแห่งการหลุดพ้นต้องเริ่มด้วยสัมมาทิฏฐิ
มักขลิโคสาล เป็นทาสในเรือนเบี้ย เป็นหนึ่งในอาจารย์ใหญ่ในสมัยนั้น จะมีคณาจารย์อยู่ ๖๒ ราย แต่ว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ที่คนเคารพนับถือทั้งประเทศอยู่ ๖ ราย มักขลิโคสาล เป็นทาสในเรือนเบี้ย เจ้านายให้แบกหม้อน้ำมันไปตลาดเพื่อเอาไปขาย ฝนตกใหม่ ๆ พื้นลื่น เจ้านายก็ต้องคอยเตือนว่า “มาขลิ มาขลิ” คือ “ระวังจะลื่น ระวังจะลื่น” คราวนี้ตานี่เกิดในคอกวัว ก็เลยมีฉายาต่อท้ายว่าโคสาละ ก็คือ ‘ไอ้ลื่นที่เกิดในคอกวัว’
ต้องบอกว่าเจ้านายปากศักดิ์สิทธิ์ ไปไหนก็ “ระวังลื่น ระวังลื่น ระวังลื่น” ท้ายสุดตามักขลิก็ลื่นหงายท้องตีนชี้ฟ้า หม้อน้ำมันตกแตก เจ้านายโมโหมาก คว้าหมับเข้าที่ผ้านุ่งลากเข้ามาจะตีด้วยไม้เท้า มักขลิตกใจดิ้นหลุดมือไป ทำไมถึงหลุด ? ผ้าหลุดติดอยู่กับเจ้านาย...ไปแต่ตัว สมัยก่อนทาสส่วนใหญ่มีแต่ผ้านุ่งไม่มีผ้าห่ม ผ้านุ่งก็ลักษณะเหมือนกับสบงพระ ผ้าห่มก็คือจีวร ประมาณนั้น ถ้าหากว่าคนที่มีฐานะก็ต้องมีทั้งผ้านุ่งผ้าห่ม แบบจูเฬกสาฎกมีแต่ผ้านุ่งไม่มีผ้าห่ม ออกจากบ้านลำบาก เขาถือว่าไร้วัฒนธรรม เหมือนกับสมัยนี้เดินไปไม่ใส่เสื้อ
มักขลิไปซ่อนในป่า กลัวเจ้านายตี ทนหิวไม่ไหวก็ย่องออกจากป่ามา... -
"ธรรมเกิดจากจิตตภาวนา" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"ธรรมเกิดจากจิตตภาวนา"
" .. "การภาวนานี้เป็นการแจงความเฉลียวฉลาดของจิตใจเราออกให้กว้างขวาง ลึกซึ้งมากไม่มีอะไรเกินจิตตภาวนา" จิตตภาวนานี้เป็นความละเอียดลออ "ธรรมเกิดเองอันนี้"ท่านว่า "ธรรมเกิด ๆ เกิดจากจิตตภาวนา" กิเลสเกิด เกิดขึ้นจากการไม่สนใจอรรถธรรมเลย กิเลสเกิดได้วันยังค่ำ "ธรรมจะเกิดได้เวลาพินิจพิจารณา นี่ท่านเรียกว่าธรรม" จำเอานะ .. "
"ความละเอียดของจิต"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
https://luangta.com/archive3/dhammaPage/dhammaPage.html -
รู้สึกไม่ดีกับพ่อแม่ ควรทำอย่างไรดี ?
รู้สึกไม่ดีกับพ่อแม่ ควรทำอย่างไรดี ?
เดินจิต
https://www.youtube.com/channel/UCyMHV_scAuIoEDb5UEHy7uw -
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รับรางวัลเพชรสุบรรณและรางวัลวชิรานุสรณ์
วันอาทิตย์ที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๑๕.๐๐ น.
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ รับรางวัลเพชรสุบรรณ สาขา บุคคลผู้ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมดีเด่นและรางวัลวชิรานุสรณ์ สาขา บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ จากพลเอกจิตตสักก์ เจริญสมบัติ อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ ห้องดอนเมืองบอลรูม โรงแรมอมารี ดอนเมืองแอร์พอร์ต ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
#ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun #ig: wat.thakhanun
#ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
#ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
#พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
#พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก -
“อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
บางวันชีวิตคนเรา อาจมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นได้ เช่น ขับรถอยู่แล้วมีเต่าเดินตัดหน้าบ้าง มีปลามาดิ้นอยู่บนถนน ให้เราตัดสินใจนำไปปล่อยเพื่อช่วยชีวิตมันบ้าง หรือ อยู่ดีๆ มีพระมายืนรอรับบาตรหน้าบ้าน ทั้งๆที่ปกติไม่มีพระเดินบ้าง... คนที่ดวงตกแต่ยังพอมีบุญเหลืออยู่ ก็จะมีเหตุให้ได้ทำบุญแบบปุบปับ ไม่ทันเตรียมตัวแบบนี้ เพื่อให้เราได้พ้นเคราะห์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน อย่างน้อยเป็นการช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ซึ่งถ้าเจอเหตุการณ์เหล่านี้ เราควรฉงนใจไว้ก่อนแล้วรีบตัดสินใจทำเถิด เพราะมันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญก็เป็นได้
คำสอนของพระอาจารย์มหานันทวัฒน์ เขมธัมโม (พระอาจารย์เอ บ้านสุมโน)
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook บ้านสุมโน -
ตำนานพ่อท่านโค๊ะ เทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งปักษ์ใต้
พ่อท่านโค๊ะ คือ ชื่อหนึ่งที่ชาวปักษ์ใต้เรียก เจ้าสามีราม หรือสมเด็จเจ้าพระโคะท่านเดียวกันที่เราเรียกกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าหลวงปู่ทวด ในตอนนี้จะเน้นไปที่เรื่องเล่าอันเป็นตำนาน เมื่อครั้งพ่อท่านโค๊ะ หรือหลวงปู่ทวด เดินทางไปกรุงศรีอยุธยา
เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ควรเกริ่นประวัติท่านให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน หลวงปู่ทวด ท่านเกิดและมีชีวิตอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาแต่ด้วยข้อมูลประวัติท่านเกี่ยวกับปีเกิดมีการคลาดเคลื่อนกัน จึงไม่สามารถระบุปีชัดๆ แต่บอกได้ว่าเป็นช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธรรมราชาถึงรัชสมัยของพระเจ้าทรงธรรมสถานที่เกิดคืออำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่อท่านเกิดท่านชื่อ ปูส่วนสถานที่ที่ท่านบรรพชาหรือบวรเณร คือกุฎีหลวง หรือวัดดีหลวง ท่านศึกษาความรู้การอักษร ที่สทิงพระ สงขลา ต่อมาท่านมาอุปสมบท หรือบวชเป็นพระที่นครศรีธรรมราช ได้รับฉายาว่า สามีราม คำว่า สามิ สามี หรือสวามี เป็นคำนำหน้านามนักบวชอินเดีย ไทยน่าจะเอาคำสามิ มาจากอินเดียคนปักษ์ใต้บางถิ่นใช้คำว่า สามี เลียนแบบชาวอินเดีย
เมื่อท่านศึกษาหาความรู้ที่นครศรีธรรมราชจบครบถ้วนแล้ว ก็ถึงเวลาที่ท่านจะไปศึกษาเพิ่มที่ กรุงศรีอยุธยา... -
การใช้คาถาให้ได้ผล ต้องไม่สงสัย
การที่เราจะใช้พระคาถาอะไรก็ตาม ส่วนที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือความจริงจังและสม่ำเสมอ เพราะว่าคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา คนจะเล่นอภิญญาต้องเป็นคนเด็ดขาดจริงจัง จะไปทำเล่น ๆ แบบแก้บนไม่ได้ ถ้าเราสามารถทำได้สม่ำเสมอ ก็คือเคยภาวนาวันละเท่าไรก็เท่านั้น ต่อเนื่องกันอย่างน้อย ๒ เดือน ผลก็จะเกิด
แต่คราวนี้ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็มักจะไปทำผิดวิธี เพราะว่ามักจะไปใช้คำว่า "สวดพระคาถา" คาถาเขาให้ใช้เป็นคำภาวนา ก็แปลว่าต้องจับควบคู่ไปกับลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องไปกังวลว่าลมจะกระทบฐานไหน ให้รู้ตลอดไปตามคาถาที่เราว่าก็ใช้ได้แล้ว เพราะว่าถ้าไปมัวแต่ไปห่วงฐานกระทบของลม ใจก็จะพะวง แล้วจะทำให้มีผลน้อย
เรื่องพวกนี้ ความจริงแล้วไม่ควรที่จะต้องมาบอกกล่าวกันให้เสียเวลา เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองตั้งแต่ทำมา ที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านให้คาถาเอาไว้หลาย ๑๐ หรือนับเป็น ๑๐๐ บท ไม่เคยสงสัยเลยว่าต้องทำอย่างไร พอท่านให้มาก็ไปตั้งหน้าตั้งตาภาวนา แล้วผลก็เกิดเอง
คราวนี้พวกเราทั้งหลาย ถ้าหากว่าเริ่มทำอะไรด้วยความลังเลสงสัย ผลจะเกิดได้ยากมาก เพราะว่าความลังเลสงสัยก็คือวิจิกิจฉา เป็นหนึ่งในกิเลสหยาบที่กั้นใจของเราไม่ให้เข้าถึงความดี... -
"มีสติสมบูรณ์ เรียกว่าถึงศาสนา" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"มีสติสมบูรณ์ รียกว่าถึงศาสนา"
" .. คำสอนของพุทธศาสนาทั้งหมด มาลงอยู่ที่ "สติ" อันเดียว ตั้งแต่เบื้องต้นก็สอนสติ ที่สุดก็สอนสติ "อย่าให้จิตอยู่แต่ในอำนาจของกิเลส ให้จิตอยู่แต่ในอำนาจของสติ" สติเป็นตัวระมัดระวัง อันนั้นแหละเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยแท้ "มีสติสมบูรณ์บริบูรณ์ เรียกว่าถึงศาสนา" .. "
"ปรารภธรรมะให้ฟัง"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
การกราบเบญจางคประดิษฐ์
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่ถ้าใครสังเกตตอนอาตมากราบพระ จะเห็นชัด ๆ ว่า เบญจางคประดิษฐ์นั้นคือ เวลากราบมือและศอกต่อเข่า ปัจจุบันนี้เห็นหลายคนกราบแล้วมือและศอกอยู่ข้างเข่า อีกประการก็คือกราบไม่ลง ไม่ถึงพื้น จะบอกว่าติดพุงก็ไม่ใช่ เพราะลูกสาวอาตมาน้ำหนัก ๙๓ กิโลกรัม ยังกราบพระได้นิ่มมาก แสดงว่าพุงไม่เกี่ยว
ปัจจุบันเวลาตั้งโต๊ะหมู่ มักจะมีโต๊ะสำหรับกราบ ถ้าเป็นโต๊ะหมู่ของพระเขาให้เอาโต๊ะสำหรับกราบออก ฆราวาสน่าจะยังนิยมตั้งโต๊ะกราบอยู่ การตั้งโต๊ะกราบทำให้กราบไม่ครบองค์ ๕ ที่แน่ ๆ ก็คือศอกกับหน้าผากไม่ลงพื้น
เพราะฉะนั้น..ให้เข้าใจไว้เลยนะว่า ถ้าหากตั้งโต๊ะหมู่ก็ให้เอาโต๊ะกราบออก ถ้ามีคนถามก็ชี้แจงเขาด้วยว่าการกราบพระนั้น เรากราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ประกอบด้วยองค์ ๕ เข่า ๒ ศอก ๒ หน้าผาก ๑ ถ้ามีโต๊ะนี่ เราจะกราบได้ไม่ครบองค์ ๕ "
.........................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
........................................
#รณรงค์การกราบเบญจางคประดิษฐ์อย่างถูกต้อง
#รู้ว่าดีก็ทำ #รู้ว่าชั่วก็ละ #ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว
ขอขอบคุณภาพจาก คุณ A'tist...
หน้า 84 ของ 402