คลังเรื่องเด่น
-
“ตั้งแต่วัยหนุ่ม ท่านฉันในบาตรเพียงมื้อเดียว” ได้เดินสายสนทนาธรรม4หลวงปู่อริยสงฆ์แห่งอีสาน เดินตามรอยสายพระป่า #ย้อนทางรอยธรรม“พระสังฆราช”
“ตั้งแต่วัยหนุ่ม ท่านฉันในบาตรเพียงมื้อเดียว” ได้เดินสายสนทนาธรรม4หลวงปู่อริยสงฆ์แห่งอีสาน เดินตามรอยสายพระป่า #ย้อนทางรอยธรรม“พระสังฆราช”
จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกมาระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็น สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งนี้บรรยากาศที่วัดราชบพิธฯ ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร มาทำความสะอาดบริเวณโดยรอบวัด ขณะที่บริเวณตำหนักอรุณ ซึ่งเป็นกุฏิของสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าหน้าที่ของทางวัดได้ดำเนินการทำความสะอาด และทาสีใหม่ทั้งหมด
ทั้งนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์(อัมพร อมฺพโร) เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20ในวันที่ 12 ก.พ.ว่า ได้นำรูปแบบการสถาปนาเมื่อคราวสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มาเป็นแบบอย่าง โดยจะดำเนินการตามทุกขั้นตอน หลังจากพระราชพิธีในพระอุโบสถ... -
ในที่สุด..."ระฆังวัดพระแก้ว"จะดังก้องกังวาลขึ้นอีกครา!!! "การย่ำระฆังที่เสียงดีที่สุดในโลก"เพื่อพิธีนี้เท่านั้น..สาธุ!!
ในที่สุด..."ระฆังวัดพระแก้ว"จะดังก้องกังวาลขึ้นอีกครา!!! "การย่ำระฆังที่เสียงดีที่สุดในโลก"เพื่อพิธีนี้เท่านั้น..สาธุ!!
ในที่สุดระฆังในวัดพระศรีรัตนศาดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ก็กำลังจะดังกังวาลขึ้นอีกครา จะมีการย่ำระฆังที่เสียงดีที่สุดในโลก ที่หอระฆังวัดพระแก้ว 20 ครั้ง โดยจะมีการตีเฉพาะในพิธีตั้งสมเด็จพระสังฆราช เท่านั้นในวันที่12/02/2560 ในหลวงทำพิธีที่วัดพระแก้ว
หอระฆัง ของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว สร้างขึ้นในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1) แต่ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นใหม่โดยมีลักษณะคล้ายสถาปัตยกรรมไทย ย่อมุมไม้สิบสอง (สี่ด้าน ด้านละสามมุม) ประดับด้วยเครื่องถ้วยชามแบบจีน เป็นลวดลายต่างๆวิจิตรพิสดารอย่างยิ่ง ปัจจุบันได้มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในปีพ.ศ 2549
กล่าวกันว่าองค์ระฆัง ได้มาจากวัดระฆังโฆษิตารม ซึ่งสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังษีได้ขุดพบพร้อมกับระฆังอีก 5 ใบ... -
เผยความหมายแห่ง ตราสัญลักษณ์ ในสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่20 แห่งรัตนโกสินทร์ สุปฏิปัณโณผู้มีจริยวัตรงดงาม
เผยความหมายแห่ง ตราสัญลักษณ์ ในสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่20 แห่งรัตนโกสินทร์ สุปฏิปัณโณผู้มีจริยวัตรงดงาม
ตราสัญลักษณ์ ออป สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๒๐แห่งรัตนโกสินทร์ (คลิกอ่าน : กราบสาธุ...เปิดประวัติ "สมเด็จพระมหามุนีวงศ์" สังฆราชองค์ใหม่)
อ. (อัมพร) พระนามของพระองค์ ใช้ตัวอักษรเป็นสีแดง
วันประสูติ วันอาทิตย์
อ. (อมฺพโร) ฉายาของพระองค์ ใช้ตัวอักษรเป็นสีเหลือง หมายถึง สีอาสนะประจำตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช
และสีของกาสาวพัสตร์ เป็นสมณคุณ
ป. (ประสัตถพงศ์) นามสกุลของพระองค์ ใช้ตัวอักษรเป็นสีฟ้าเทา เป็นสีประจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นชาติภูมิ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชว่า ได้นำรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งพระสังฆราช 5 องค์ ให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพิจารณาและเมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์
ตนได้รับแจ้งว่าทรงโปรดเกล้าฯ สมเด็จพระมหามุณีวงศ์ วัดราชบพิธ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ จะจัดงานพิธีสถาปนาในวันที่ 12 ก.พ. เวลา 17.00 น.... -
หลวงปู่สรวงเตือนแรง! เอาน้ำร้อนราดพระอยากสึก ไม่พองไม่สุก ไขปริศนาธรรมได้ทันใด
หลวงปู่สรวงเตือนแรง! เอาน้ำร้อนราดพระอยากสึก ไม่พองไม่สุก ไขปริศนาธรรมได้ทันใด
หลวงปู่สรวงเตือนสติหลวงพ่อประโยค รักขิโต สำนักสงฆ์หนองโพธิ์น้อย จ.สุรินทร์
ด้วยความเมตตาจากพระอาจารย์อดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ ซึ่งท่านผู้หนึ่งที่มีความสนใจในปฏิปทาของหลวงปู่สรวง ได้ช่วยรวบรวมข้อมูลในการทำหนังสือเล่มนี้ให้ ท่านได้สัมภาษณ์หลวงพ่อประโยคเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งหลวงพ่อประโยคท่านได้เล่าปาฏิหาริย์แห่งธรรมจากการที่ได้ติดตามหลวงปู่สรวงก่อนหลวงปู่ท่านจะมรณะภาพเป็นเวลายาวนานกว่า ๓ปี ดังนี้ว่า
"หลวงปู่สรวงท่านรู้วาระจิตของหลวงพ่อประโยค หลวงพ่อท่านอัศจรรย์ใจมากเพราะวันหนึ่งท่านได้คิดจะลาสิกขาแล้วท่านไปกราบลาหลวงปู่สรวง พอกราบเสร็จ หลวงปู่สรวงได้นำเอาน้ำร้อนในกาน้ำเทราดบนศรีษะหลวงพ่อประโยค ทำให้ร้อนจากศรีษะจรดปลายเท้า จากนั้นหลวงปู่สรวงก็เอามือตบที่หัว จากที่ร้อนๆก็กลายเป็นเย็น บนศรีษะไม่มีแผลพุพองขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย"
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าหลวงปู่ท่านคงเตือนว่าการออกจากเพศบรรพชิตไปนั้นเป็นเรื่องร้อน เพราะโลกมันร้อน ร้อนไฟแห่งราคะ โทสะ โมหะ ซึ่งเป็นไฟร้อนที่พร้อมจะสุมหัวใจ... -
"ความยินดีกับคนอื่น คือทานที่ไม่ใช่ทรัพย์แต่ได้บุญมหาศาล"
"ความยินดีกับคนอื่น คือทานที่ไม่ใช่ทรัพย์แต่ได้บุญมหาศาล"
ทุกๆ คนย่อมรู้สึกยินดีและมีความสุขมากอยู่แล้วเวลาที่เราได้ไปทำบุญบริจาคทานอิ่มใจออกมาจากวัดหรือทุกครั้งที่มีการทำบุญเกิดขึ้น แล้วพอมีเพื่อนบ้านเดินมาถามว่า “ไปไหนมาแต่เช้า” พอเราตอบว่า “ไปทำบุญที่วัดมา”
พอเพื่อนบ้านเราได้ยินเข้าอย่างนี้ก็ตรงเข้ามาแสดงความชื่นชมยินดี และกล่าวอนุโมทนาสาธุในการทำบุญของเรา มีคนชื่นชมในการทำบุญของเราเราก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นและสบายใจมากขึ้นเหมือนได้ทรัพย์มีค่าอะไรสักอย่างเพิ่มขึ้นมาหรือความรู้สึกอิ่มเอมเย็นวาบขึ้นมาที่กลางกระหม่อม
การที่ผู้อื่นได้เข้าแสดงความยินดีที่เราได้ไปทำบุญนั้น เขาก็ได้ทำทานอย่างหนึ่งไปแล้วเรียกว่า “ปัตตานุโมทนามัย” คือการที่บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนาบุญในคุณความดีของผู้อื่นนับเป็นทานที่ให้จากภายในที่ก่อบุญกุศลและความสุขได้ ก่อให้เกิดความชื่นชมโสมนัส ยินดีปรีดาในบุญ ดังนั้นทั้งตัวเราผู้ที่ไปทำบุญทำทานมาก็ได้บุญเพิ่ม คนที่กล่าวอนุโมทนาก็ได้ทำบุญเฉกเช่นเดียวกับเราเช่นกัน
มีตัวอย่างจริงดังเช่นผลบุญที่เกิดกับเพื่อนของนางวิสาขามหาอุบาสิกา ครั้งหนึ่ง... -
พระอาจารย์เตือน คนชอบเที่ยว ชอบแวะ
✨ พระอาจารย์เตือน คนชอบเที่ยว ชอบแวะ ✨
เรื่องของการไปเที่ยว สมัยก่อนอาตมาฝึกมโนมยิทธิได้ใหม่ ๆ จะแวะทุกที่เลย ดูนรกทีละขุม สวรรค์ทีละชั้น พรหมทีละชั้นเลย พอทำไป ๆ รู้สึกเบื่อขึ้นมาเฉย ๆ
❓ มีใครเคยไปธุสเจดีย์ซึ่งอยู่พรหมชั้นที่ ๑๖ บ้าง ❓ พวกเราคงไม่รู้จักกันหรอก เพราะไม่ช่างสงสัยเหมือนกับอาตมา จำไว้เลยนะว่า สวรรค์มีจุฬามณีเจดีย์สถานเป็นที่สำคัญที่สุด คือ เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว กับพระเมาลีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ในพรหม ๑๖ ชั้น มี ✨ ธุสเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน ผ้าครองของเจ้าชายสิทธัตถะ ✨ เมื่อครั้งที่ท่านสละออก เพื่อนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ อยู่ที่อกนิษฐพรหม (รูปพรหมชั้นที่ ๑๖) ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของพรหมเหมือนกัน เพราะฉะนั้น .. ถ้าใครไม่เคยไป ก็ไปกราบชมเสีย .. จะได้รู้ว่าที่อาตมาพูดนั้น ไม่ได้นอกตำราเลย เพียงแต่ว่าเราจะไปถึงหรือเปล่าเท่านั้นเอง
เมื่อไปเข้าบ่อย ๆ ความรู้สึกกลับจืดไปเฉย ๆ รู้สึกเหมือนกับว่ากี่ครั้ง ๆ ก็มาแค่ตรงนี้ แล้วสถานที่ซึ่งจะไปก็ลดลงไปเรื่อย เหลือแค่ไปกราบท่านปู่ท่านย่า กราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปกราบพระที่จุฬามณี... -
การภาวนาพระคาถาเงินล้านให้เป็นวิปัสสนาได้อย่างไร
✨ การภาวนาพระคาถาเงินล้านให้เป็นวิปัสสนาได้อย่างไร ✨
ถาม : เราจะภาวนาพระคาถาเงินล้านให้เป็นวิปัสสนาได้อย่างไร ?
ตอบ : ตอนที่ภาวนาไป ✨ ก็มีการเกิด-ดับ ทุกคำ ✨ แล้วภาวนาไป เราเมื่อยเราเหนื่อยไหมเล่า ❓ นั่นแหละความทุกข์ ในที่สุดแล้ว คนภาวนาก็ตาย ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม -
ผู้เข้าถึงธรรม ย่อมมีความอ่อนน้อมถ่อมตน
✨ ผู้เข้าถึงธรรม ย่อมมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ✨
ถาม: ความเย่อหยิ่งกับการอ่อนน้อมถ่อมตน..?
ตอบ: ✨ ความอ่อนน้อมถ่อมตน เกิดจากจิตใจของตน ที่เห็นความดีของคนอื่น จิตใจที่จะเห็นความดีของคนอื่น จะต้องเป็นมุทิตาจิต ✨ การเห็นความดีของคนอื่น จึงต้องมีมุทิตาจิต ยินดีในความดีนั้น ไม่ใช่เป็นคนจ้องจับผิดคิดร้ายต่อผู้อื่น
ในเมื่อเห็นความดีของเขาก็เคารพในความดีของเขา อย่างเช่น ผู้อายุมากกว่าก็เคารพในวัยวุฒิของเขา ผู้มีความรู้สูงกว่าก็เคารพในคุณวุฒิของเขา เราก็จะกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน คนทั้งหลายที่ทำได้เช่นนี้ ตัวมานะสังโยชน์ของเขาน้อย เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เข้าถึงธรรมได้เร็ว คนไม่มีมานะ แสดงว่าบารมีใกล้เต็มแล้ว
ถาม: การเห็นความดีคนอื่น...เข้าใจ แต่เรามีเหตุผลอะไรที่จะต้องเคารพในอายุของคนนี้คะ ?
ตอบ: คนเราไม่ได้เติบโต เพราะกินข้าว ไม่ได้แก่เฒ่า เพราะอยู่นาน อย่างน้อย ๆ ประสบการณ์ของเขาที่ผ่านมา ก็มีมากมาย ถ้าหากความดีของเขาไม่มีเลย เขาก็มีความแก่ อย่างน้อย ๆ ก็เกิดก่อนเรา เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นปู่ย่าตาทวดของคนอื่น คนเกิดก่อนมีดีกว่าเรา ก็คือ ความแก่ ยกให้ความเคารพยกย่องท่านหน่อยก็ดี ❤️... -
เปิดภาพประวัติศาสตร์.. สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐ สมัยเป็นพระหนุ่ม โดย ม.ล. ชัยนิมิตร นวรัตน
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่า มีการโปรดเกล้าฯ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 เมื่อวันที่ 7 ก.พ. คือ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ ประกอบพระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม"
"อย่างไรก็ตามในวันนี้ (8 ก.พ.) เฟซบุ๊คของผู้ที่ใช้นาม ม.ล. ชัยนิมิตร นวรัตน ซึ่งเป็นศิษย์คนใกล้ชิด สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 ได้โพสต์ภาพ ซึ่งถือเป็น ภาพขาวดำ ในอดีตสมัยที่ สมเด็จพระสังฆราช ยังเป็น"พระมหาอัมพร"
โดยโพสต์ข้อความว่า.."ภาพประวัติศาสตร์ผมถ่ายเองเมื่ออายุ ๑๖ ลิขสิทธิ์มี แต่สำหรับผู้ที่ศรัทธานับถือสมเด็จพระสังฆราชอัมพรมหาเถระ
สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้เลยครับไม่จำเป็นต้องขอ แต่ใครเอาไปใช้แล้ว
โปรดอย่าไปอ้างตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเสียเองก็แล้วกัน"โดยในภาพ มีพระ สายพระป่า หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงตามหาบัว หลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ และที่สำคัญรวมถึง สมเด็จพระสังฆราช องค์ใหม่... -
หลวงปู่หมุน - ทาน ศีล สมาธิ ให้พร
ทาน ศีล สมาธิ ให้พร -
เคล็ดบูชาพระพรหมขอลาภ(บทนี้ใช้เฉพาะขอลาภอย่างเดียวเท่านั้นตำรับขรัวตาแสง วัดมณีชลขัณฑ์)
เคล็ดบูชาพระพรหมขอลาภ(บทนี้ใช้เฉพาะขอลาภอย่างเดียวเท่านั้นตำรับขรัวตาแสง วัดมณีชลขัณฑ์)
คาถาบูชาพระพรหมธาดา (บทนี้ใช้เฉพาะขอลาภอย่างเดียวเท่านั้นตำรับขรัวตาแสง วัดมณีชลขัณฑ์)
คาถาท้าวมหาพระพรหมธาดา บันดาลโชค
ท้าวมหาพรมธาดา บางตำรากล่าวว่าพระพรหมสร้างตนขึ้นมาเอง มี 4 หน้า 4หรือ8 กร มีพระมเหสี ชื่อพระนางสรัสวดี
สถิตอยู่บนวิมานทิพย์ในพรหมโลก มีพาหนะประจำคือพญาหงส์ พระพรหมเป็นพระผู้มีจิตใจดีมาก มีความเมตตากรุณาต่อ
มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีเทพองค์ใดเสมอเหมือน และยังใจเย็นที่สุด ใครจะทูลขอสิ่งใด ท่านจะประทานพรให้สมเจตนาทุกคน ในเมืองไทยมีการบูชาพระพรหมกันมากที่สุดเมื่อเทียบกับเทพผู้สร้างโลกทั้ง 3 องค์ คือ พระอิศวร พระพรหมและพระนารายณ์ เพราะท่านเมตตามวลมนุษย์โลกทุกหมู่เหล่า บันดาลให้อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวย สมความปรารถนา
คาถาบูชาพระพรหม
ตั้งนะโม 3 จบ
ขอเดชะพระพุทธะคุณนัง พระธรรมะคุณนัง พระสังฆะคุณนัง มาตาปิตาคุณนัง คุรุอาจาริยาคุณนัง จัตุระพักตร์พรหมาวิหารัง เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ มะอะอุจัตุระพักตรา จะมหาพรหมา มหิทธิเดชา สัพพะสิเน่หา ประสิทธิเม สัพพะลาภาภะวันตุเม... -
เจตนาแห่งทาน คือเครื่องชี้วัดกำลังบุญ แม้ไม่อยากรวยก็จะรวยจนได้
เจตนาแห่งทาน คือเครื่องชี้วัดกำลังบุญ แม้ไม่อยากรวยก็จะรวยจนได้
ในสมัยของพระพุทธเจ้าวิปัสสี ได้มีพราหมณ์คนหนึ่งชื่อ มหาเอกสาฎกอาศัยอยู่ในเมืองสาวัตถี
เหตุที่ท่านได้ชื่อนี้ก็เพราะท่านยากจนมาก ผ้าสาฎกสำหรับนุ่งของพราหมณ์นั้นมีผืนเดียว แม้ผ้าของนางพราหมณีผู้เป็นภรรยาก็มีผืนเดียว ทั้งสองคนมีผ้าห่มผืนเดียวเท่านั้นในเวลาไปภายนอก พราหมณ์หรือนางพราหมณีต้องเปลี่ยนกันห่มผ้าจึงจะสามารถออกนอกบ้านได้
วันหนึ่ง เมื่อเขาประกาศว่าจะมีการฟังธรรมในวิหารโดยพระพุทธเจ้าจะเป็นผู้แสดงธรรม ทำให้สามีภรรยาผู้มีผ้าผืนเดียวเกิดความยินดีมาก โดยตกลงกันว่านางพราหมณีจะไปฟังธรรมเวลากลางวัน ส่วนสามีจะไปฟังธรรมในเวลากลางคืน
เมื่อถึงเวลากลางคืนเอกสาฎกพราหมณ์ก็ได้ไปฟังธรรมต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า เมื่อได้ฟังธรรมก็เกิดใจที่ปีติขึ้นมา จึงอยากจะบูชาพระพุทธเจ้าด้วยผ้าห่มของตัวเอง แต่ก็คิดว่า
“ถ้าเราจักถวายผ้าสาฎกนี้ผ้าห่มของนางพราหมณีจักไม่มี ของเราก็จักไม่มีจะทำอย่างไรดีหนอ”
ซึ่งในขณะนั้น จิตของพราหมณ์สองดวงจึงเกิดขึ้น คือจิตที่ประกอบด้วยความตระหนี่พันดวงจิตหนึ่งเกิดขึ้น... -
เคล็ดไหว้ขอบารมีท่านท้าวเวสสุวรรณเมื่อเกิดความติดขัดในชีวิต
เคล็ดไหว้ขอบารมีท่านท้าวเวสสุวรรณเมื่อเกิดความติดขัดในชีวิต
หาก ท่านมีปัญหาในการใช้ชีวิต ซึ่งมีความติดขัดในหลายประการไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร วันนนี้พุทธคุณมีเคล็ดดีดี มาแนะนำท่านครับ
สำหรับ ใครแก้ไขด้วยตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้นสักที ทั้งเรื่องการงาน การเงิน โชคลาภ วันนี้ผมขอแนะนำให้ให้ท่านบนบานศาลกล่าวหรือไหว้ ต่อท่านท้าวเวสสุวรรณ
โดยวิธีนี้ท่านสามารถ ไหว้ได้เองที่บ้านโดยจะมี รูปท่านท้าวเวสสวรรณเป็นผ้ายันต์หรือ ลอยองค์ก็ได้
กระทำดังนี้
ให้ท่านอาบน้ำ แต่งกายให้สะอาดสุภาพ จากนั้น ให้เข้าห้องพระ สมาทานศีล 5
จากนั้น จึงสวดมนต์ โดยสวดบุชาพระรัตนตรัย พาหุง ชินบัญชร
แล้วให้ท่าน เตรียมธูปหอมมา 9ดอก พวงมาลัยควรเป็นดาวเรืองหรือกุหลาบ1พวง
อให้จุดธูปหอมและพนมมือสวดพระคาถาท้าวเวสสุวรรรดังนี้
นะโมฯ 3 จบ
จานั้นสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ
อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ
จาตุมะหาราชิกา ยักขะ พันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง
อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ
สาธุ... ลูกชื่อ......... -
สุดอัศจรรย์! สมเด็จญาณเล่า...เมื่อ"พระนางพญา"เสด็จมาหาถึงตำหนัก!!
สุดอัศจรรย์! สมเด็จญาณเล่า...เมื่อ"พระนางพญา"เสด็จมาหาถึงตำหนัก!!
เรื่องพระนางพญาเสด็จที่พระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช
(บันทึกโดยสมเด็จญาณสังวร)
วันจันทร์ ที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๑๙
เวลาประมาณ ๓ ทุ่ม (๒๑.๐๐น)
ได้ไหว้พระบริกรรมสวดมนต์ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา ที่กุฏิคอยท่า ชั้น ๒ ตามเคย
และนั่งทำสมาธิต่อไปถึง ๔ ทุ่มเศษ
ได้ยินเสียงตกกระทบดังกิ๊กที่โต๊ะบูชา
คิดว่าคงเป็นก้อนน้ำตาเทียนหล่นจากปลายเทียนที่กำลังจุดบูชามาถูกเชิงของเชิงเทียนหรือจานรอง จึงลืมตาขึ้นดูที่จานรองก็ไม่พบอะไรหล่น
ดูเทียนก็ไม่พบก้อนน้ำตาเทียนอะไรติดอยู่ เพราะเป็นพวกเทียนไขที่ไม่ค่อยมีน้ำตาเทียนหรือที่เรียกว่าขี้เทียน
จึงหลับตาทำสมาธิต่อไปอีกครู่หนึ่ง จึงเลิก มองไปที่พรมและผ้าที่ปูไว้สำหรับกราบพระ
ก็ได้พบพระ(แบบพระนางพระยา)องค์หนึ่งวางอยู่ จึงหยิบขึ้นมาดู
เห็นเป็นพระแบบที่เรียกกันว่าพระสมเด็จนางพระยา เป็นดินเผาของเก่างดงามสมบูรณ์ และได้เห็นมีพระบรมธาตุฝังติดอยู่ที่ไหว้พระศอ ๑ องค์
ได้เกิดปีติโสมนัสว่าพระสมเด็จนางพระยาองค์นี้ได้เสด็จมาโดยปาติหาริย์ เป็นพระเทพประทาน ประจักษ์เฉพาะหน้า... -
เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว
เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว
พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เป็นพระภิกษุนิกายเถรวาทฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิชามโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ)
หลังการมรณภาพ สังขารร่างกายของท่านมิได้เน่าเปื่อยอย่างศพของคนทั่วไป และได้มีการเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าซุงจนถึงปัจจุบันนี้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้รับการยอมรับ และรับรอง จากครูบาอาจารย์ชื่อดังหลายรูป เกี่ยวกับญาณบารมี ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้
หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงศ์ถ้ำนารายณ์
จ.สระบุรี พูดเล่าว่าหลวงปู่ดาบส สุมโณ พูดถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ว่า……..
ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า………
"พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี
จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ... -
เปิดประวัติ "พระสุนทรีวาณี" เทพนารีแห่งปัญญาผู้รักษาพระพุทธศาสนา นำพาการรู้แจ้ง.. ศักดิ์สิทธิ์มากเสด็จพ่อร.5ก็สวดบูชา
เปิดประวัติ "พระสุนทรีวาณี" เทพนารีแห่งปัญญาผู้รักษาพระพุทธศาสนา นำพาการรู้แจ้ง.. ศักดิ์สิทธิ์มากเสด็จพ่อร.5ก็สวดบูชา
พระสุนทรีวาณี
ประวัติความเป็นมา
...พระสุนทรีวาณี เทพนารีผู้รักษาพระพุทธศาสนาแห่งวัดสุทัศนเทพวราราม...
พระสุนทรีวาณี คือ เทวีแห่งปรีชาญาณและความรู้แจ้ง ผู้ทรงอานุภาพบันดาลความเป็นเลิศทางปัญญาและการเข้าถึงพระธรรม
พระสุนทรีวาณีปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5ทำให้พระสุนทรีวาณีไม่เป็นที่รู้จักของคนโดยทั่วไป และ คนส่วนใหญ่ที่รู้จักเทวีองค์นี้จะมีแต่พุทธศาสนิกชนที่ได้ไปปฏิบัติธรรมภายในวัดสุทัศนเทพวราราม อันเป็นศาสนสถานที่ปรากฏองค์สุนทรีวาณีเป็นที่แรก
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระองค์มักจะปรากฏต่อผู้บูชาที่ต้องการเข้าให้ถึงความรู้แจ้งและทรงใช้ปาฏิหาริย์เหล่านั้นก็เพื่อนำผู้นั้นไปสู่ปัญญา ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระสุนทรีวาณีเป็นเทวีผู้บันดาลปรีชาญาณหรือความรู้แจ้งทั้งหมด ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของทุกคนที่ศึกษาในพระธรรมหรือแม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปที่ทุกวันนี้ถูกพัดพาไปตามกระแสของโลกวัตถุ... -
3 ปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้! และปฏิหาริย์แบบใดเป็นปาฏิหาริย์ที่พระองค์สรรเสริญ ?
3 ปาฏิหาริย์ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้! และปฏิหาริย์แบบใดเป็นปาฏิหาริย์ที่พระองค์สรรเสริญ ?
ปาฏิหาริย์นั้นพระพุทธเจ้าสอนไว้ว่ามี ๓ อย่าง คือ
๑ อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นปาฏิหาริย์ในเรื่องฤทธิ์ คือการแสดงฤทธิ์หรือความเป็นผู้วิเศษ ดลบันดาลอะไรต่าง ๆ เหาะเหินเดินอากาศ หูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น
๒ อาเทศนาปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการทายใจได้ ทายใจโยมได้ว่า อ้อโยมกำลังคิดเรื่องนี้ โยมกำลังคิดว่าหลังจากฟังธรรมนี้แล้วจะไปโน่น หรือว่าฟังองค์แสดงธรรมแล้ว คิดต่อองค์แสดงธรรมว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อะไรทำนองนี้ คือทายใจได้อันนี้เรียกว่าอาเทศนาปาฏิหาริย์
๓ อนุศาสนีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือคำสอนที่เป็นอัศจรรย์ คำสอนที่แสดงความจริงให้ผู้ที่ฟังรู้เข้าใจ มองเห็นความจริงเป็นอัศจรรย์ แล้วก็สามารถนำประพฤติปฏิบัติตามได้ผลจริงเป็นอัศจรรย์ อันนี้คือให้โยมเกิดปัญญา รู้ความจริง
ปาฏิหาริย์ทั้ง ๓ อย่างนี้พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญอย่างไหนบ้างหรือไม่ หรือว่ายกย่องทั้งหมดเลย?
ไม่ทั้งหมด พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญปาฏิหาริย์ ๒ อย่างแรก คือ อิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงฤทธิ์ และอาเทศนา ปาฏิหาริย์การทายใจได้
แต่สรรเสริญข้อที่ ๓... -
เผยแล้ว!!! พระนาม สมเด็จพระสังฆราช องค์ใหม่ ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
เผยแล้ว!!! พระนามสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ใช้พระนาม "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ"
วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ภายหลังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะมีพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.พ. โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามแบบการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระสุพรรณบัฏ หรือชื่อสมเด็จพระสังฆราชที่จารึกลงบนแผ่นทอง ถวายพัดยศ เครื่องสมณบริขาร หรือเครื่องยศสมเด็จพระสังฆราช และอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นอันเสร็จพิธี
รองนายกฯ ยังระบุว่า สำหรับสมเด็จพระสังฆราชที่จะได้รับการโปรดสถาปนาครั้งนี้ เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่มีวัตรปฏิบัติเป็นที่เคารพนับถือ เลื่อมใส สมถะ อย่างที่มีการพูดถึงกัน... -
เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล (ช่วง พ.ศ. 2,500) พรหม เทพ เทวดา อาสาลงมาจุติ
▪เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล (ช่วง พ.ศ. 2,500) พรหม เทพ เทวดา อาสาลงจุติ▪
#ณ เทวสภา อันเป็นที่ประชุมของเหล่าเทพพรหมทั้งหลาย ครั้งเมื่อถึงวันพระใหญ่ 15 ค่ำ องค์พระอินทร์จะได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานในที่ประชุม เพื่อแจ้งข่าวการทำบุญของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในชมพูทวีป
#ครั้งนั้นเป็นเวลาเกือบกึ่งพุทธกาลแล้ว โลกธาตุทั้งหลายมีความวุ่นวายเพราะสรรพสัตว์หมกมุ่นในการทำบาปกรรมแลกิเลสตัณหาทั้งปวง องค์สมเด็จพระอัมรินทราธิราช ทรงตรัสขึ้นว่า
"ในเวลานี้ เหล่าพระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ต่างเร่งรุดลงจุติยังโลกมนุษย์ เพื่อช่วยดับทุกเข็ญ และความเร่าร้อนแห่งบาปกรรมตัณหาทั้งหลายที่ทวีตัวขึ้นนี้ แต่ละพระองค์ต่างตั้งปณิธานในการสร้างบารมีและช่วยสืบสานต่อให้พระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า คงอยู่ครบถ้วน 5,000 ปี บัดนี้ถึงเวลาของเหล่าเทพพรหมทั้งหลายผู้ได้เสวยสุขในสรวงสวรรค์แห่งนี้แล้วที่จักได้กระทำกิจอันทำได้ยาก คือการละความสุขปัจจุบันเพื่อประโยชน์สุขอันยิ่งใหญ่สืบต่อไป
เราจักขอเชิญชวนเหล่าท่านเทพและพรหมทั้งหลาย... -
ด่วนที่สุด !!! โปรดเกล้าฯ "สมเด็จพระมหามุนีวงศ์" เป็นสังฆราช องค์ที่ 20 แล้ว!
ด่วนที่สุด !!! โปรดเกล้าฯ "สมเด็จพระมหามุนีวงศ์" เป็นสังฆราช องค์ที่ 20 แล้ว!
วันนี้ (7 ก.พ.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ามีการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แล้วได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอด และได้มีการนำรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามที่ได้บอกไว้สามประการทูลเกล้าขึ้นไปทั้งห้ารูป ซึ่งคงไม่ต้องถามว่าเป็นใครและวันเดียวกันนี้ได้รับการ แจ้งมาว่าการโปรดเกล้าฯลงมาเรียบร้อยแล้ว คือสมเด็จวัดราชบพิธ ได้ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จะมีการสถาปนาที่วัดพระแก้วในเวลา 17.00 น. ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะเสด็จด้วยพระองค์เอง
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) นามเดิม: อัมพร ประสัตถพงศ์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และแม่กองงานพระธรรมทูต
เจ้าพระคุณสมเด็จ เกิดเมื่อ วันเสาร์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โยมบิดาชื่อ นายนับ ประสัตถพงศ์ โยมมารดาชื่อ นางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย... -
มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน...เป็นไปตามกำลังใจ
มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน...เป็นไปตามกำลังใจ
ถาม : ผมสังเกตว่า...(ฟังไม่ชัด)...หลวงปู่มั่น ท่านทำ...(ฟังไม่ชัด)...จริง ๆ ไหมครับ ?
ตอบ : ทางสายอีสานที่ต้องปฏิบัติลำบากนั้น เราต้องดูด้วยนะ ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะการทำมาหากินของทางสายอีสานนี่ จะลำบากมาก ยิ่งสมัยก่อนที่การชลประทานยังไม่เหมือนสมัยนี้ อีสานแห้งแล้งจริง ๆ การต่อสู้ดิ้นรนของเขาต้องมากกว่าปกติ กำลังใจของเขาจะต้องเข้มแข็งมาก ถ้าไม่ได้เจอการทรมานมาก ๆ นี่จะเอาไม่ลง
ดังนั้น..สายหลวงปู่มั่นถึงได้ถนัดเกี่ยวกับธุดงควัตร บางคนบอกว่าธุดงควัตร ๑๓ ข้อ ของพระพุทธเจ้าเป็นอัตตกิลมถานุโยค คือ ทรมานตัวจนเกินไป อันนี้ไม่ใช่ ธุดงค์ แปลว่าการแผดเผากิเลส จะเหมาะสำหรับท่านที่กำลังใจเข้มแข็ง กลายเป็นพอดีของท่าน ไม่ใช่การทรมานตน
ถาม : .......(ไม่มีเสียง)........
ตอบ : คนอื่นเขาไม่เก่งเลยไปพระนิพพานกันหมด พวกเราเก่งก็เลยอยู่กันอีกนาน ไม่ค่อยจะกลัวนรกกัน มัฌชิมาปฏิปทาของแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นไปตามกำลังใจ เป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมมา เป็นไปตามบารมีที่สั่งสมมา
อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า กำลังใจของท่านก็คือ... -
"สวัสดิกะ" เครื่องหมายชัยชนะแห่ง "พระโพธิญาณ" จากอุระพระอมิตตภะพุทธถึงฝ่าพระหัตถ์เจ้าสัจจะยามิน
"สวัสดิกะ" เครื่องหมายชัยชนะแห่ง "พระโพธิญาณ" จากอุระพระอมิตตภะพุทธถึงฝ่าพระหัตถ์เจ้าสัจจะยามิน
สวัสดิกะเครื่องหมายชัยชนะแห่งพระโพธิญาณ
ผมเองผ่านการศึกษาทั้งเรื่องสายพระโพธิสัตว์ในมอญอย่างตำนานเจ้าสัจจะยามิน รวมถึงการได้เข้าไปสัมผัสถึงเรื่องราวของหลวงพ่อโอภาสี เราจะเห็นถึงเครื่องหมายที่เรียกว่า สวัสดิกะ ปรากฏอยู่ เครื่องหมายสวัสดิกะเกิดขึ้นในยุคโบราณเก่าแก่ในวัฒนธรรมเมโสโปเตเมีย เราก็พบเครื่องหมายชนิดนี้เป็นรูปตัวแทนของพระอาทิตย์ ในวัฒนธรรมอื่นๆถัดมาก็รับเอาสวัสดิกะเป็นเครื่องหมายมงคล ดังเช่นในศาสนาฮินดู สวัสดิกะ คือ เครื่องหมายแห่งความโชคดีถูกใช้แทนองค์แทนอย่าง พระนารายณ์ พระทุรคาและพระพิฆเนศ
ในศาสนาพุทธเรา สวัสดิกะ ถูกใช้เป็นเครื่องหมายของธรรมจักร เราจะพบเครื่องหมายสวัสดิกะอยู่บนรอยพระพุทธบาท ดังที่ปรากฏอยู่ที่เมืองสระมรกต จ.ปราจีนบุรี นอกจากนี้ในทางมหายานเราจะพบเครื่องหมายสวัสดิกะอยู่บนพระอุระของพระอมิตตภะพุทธเจ้าอีกด้วย
(หมายสวัสดิกะอยู่บนรอยพระพุทธบาท ดังที่ปรากฏอยู่ที่เมืองสระมรกต จ.ปราจีนบุรี)
(พระอมิตตภะพุทธเจ้า)
ในคติความเชื่อของพม่า - มอญ... -
การทำทานที่แท้จริง ต้องทำอย่างไร? เพื่ออะไร? : หลวงปู่ไดโนเสาร์
โยม ; หลวงปู่เจ้าขา ทำไมศาสนาพุทธถึงมีแต่ให้ทาน เดี๋ยวก็ถวาย เดี๋ยวก็ถวาย นี่อย่างวันนี้ก็ถวายเทียน ถวายผ้าอาบน้ำ ถวายผ้าป่า กฐิน มีแต่ถวายเต็มไปหมด แสดงว่าจะได้บุญมาต้องเสียเงินเสียทองสิเจ้าค่ะ
หลวงปู่ ; อือ บุญเป็นชื่อของความสุข ทำแล้วทุกข์อย่าทำ
โยม ; โยมก็ไม่ได้ทุกข์ แค่สงสัยว่าทำไม ศาสนามีแต่การให้ทาน
หลวงปู่ ; การทำบุญในพระศาสนาหน่ะมีหลายแบบ มีหลายระดับ ระดับทาน ระดับศีล ระดับภาวนา คนใจยังไม่สูงก็มัววุ่นอยู่กับทานอย่างเดียว คนใจสูงมาอีกหน่อยก็ทำบุญเรื่องศีล เมื่อใจ
ถึงระดับแล้วเขาจะทำบุญด้วยการภาวนา
เพราะทานกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ศีลกำจัดกิเลสอย่างกลาง ภาวนากำจัดกิเลสอย่างละเอียด
บางคนทำบุญแล้วไม่รู้เรื่องบุญ ก็มัวแต่หาว่ามีแต่ทานแต่ทาน คนบ้าทานก็ทำทานเอาหน้า
ทำทานเอาตรา ทำทานเพื่อโฆษณา
แท้จริงแล้วจุดประสงค์เพื่อละตัวเรา เพื่อละของเรา อาศัยสิ่งของเพื่อละความเห็นแก่ตัว
ละความถือตัวถือตน
บางคนทำบุญทำทานไม่เป็น ให้แล้วยังถือว่าเป็นเราเป็นของเรา บางคนให้ทานแล้วประสงค์นั่น
อธิษฐานนี่ วุ่นวายไปหมด อันนี้ให้ทานเอาตัณหา ให้ทานเอาโลก ให้ทานเอากิเลส... -
กรรมฐานแบบคนขี้เกียจ
กรรมฐานแบบคนขี้เกียจ
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
การเจริญกรรมฐานจริง ๆ ถ้าทำเเป็นล่ำเป็นสัน
มันอาจจะเกินพอดีไปก็ได้ เอากันแบบคนขี้เกียจ
แต่ตายแล้วไม่ลงนรกดีกว่า ง่ายดีนะ
คนขี้เกียจเขาจะทำแบบนี้
ก่อนนอนหลับ นึกถึงพระพุทธเจ้า หรือนึกถึง
พระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะที่เราชอบ
จิตก็จับลมหายใจเข้าออก ภาวนา "พุทโธ" ก็ได้
อะไรก็ได้นะ เอาพุทโธเป็นเกณฑ์ก็แล้วกัน
หายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ"
เพียงแค่ ๒-๓ ครั้ง มันหลับไปก็ใช้ได้
ขณะภาวนาอยู่ถ้าจิตเข้าไม่ถึงฌานมันจะไม่หลับ
ถ้าจิตสงบถึงฌานมันจะตัดหลับทันที
จะเป็นฌานขั้นไหนก็ตาม ขณะที่หลับอยู่กี่ชั่วโมงก็ตาม
ท่านถือว่า ทรงฌานตลอดเวลา ถ้าตายเวลานั้น
จะเป็นพรหมทันทีเป็นอย่างน้อย ถ้าบังเอญก่อนจะตาย
ก่อนจะหลับเรานึกถึงพระนิพพาน ภาวนาด้วย
นึกถึงพระนิพพานไว้ก่อนด้วย แล้วก็หลับ
จิตเป็นฌานก็หลับ เขาถือว่าจิตทรงในด้านของนิพพาน
เรียกว่า อุปสมานุสสติกรรมฐาน ถ้าตายเวลาหลับ
จะไปนิพพานทันที
ถ้ามันไม่ตาย มันตื่น ก่อนจะขยับตัวไปไหน
ก่อนจะหลับจิตเราเป็นฌาน เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว
ฌานยังไม่คลายตัว ยังทรงอยู่ ก็เริ่มจับลมหายใจ... -
ชอบทำบุญเพราะชาติก่อนเห็นทุกข์ ชาตินี้จึงมาสร้างบารมีให้พ้นทุกข์ หลวงปู่เหรียญยืนยัน!!!
ชอบทำบุญเพราะชาติก่อนเห็นทุกข์ ชาตินี้จึงมาสร้างบารมีให้พ้นทุกข์ หลวงปู่เหรียญยืนยัน!!!
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
อย่างที่เราทุกคนที่มาสนใจในธรรมะกันอย่างนี่ แสดงว่านิสัยเก่ามันติดมาแต่ชาติก่อนหนหลังนู่น มันสนใจในศีลในธรรมในบุญกุศล มันเห็นทุกข์เห็นภัยในสงสารมาแล้วอยากพ้นทุกข์แต่ว่าบุญบารมียังน้อยอยู่ ก็เลยต้องให้มาเกิดเป็นคนก่อน มาสร้างบุญบารมีเอาชาตินี้นะ ให้มันแก่กล้าขึ้นไปเรื่อยๆไป อย่างนี้แหละ มันก็พอรู้ได้นิ ทุกคนนะลองพิจารณาตัวเองนะพอจะเข้าใจได้แล้ว
เมื่อผู้ใดพิจารณาตัวเองเข้าใจได้อย่างนี้มันก็มั่นใจอยู่ในศีลธรรม มั่นใจอยู่ในข้อวัตรปฏิบัติไม่ท้อไม่ถอยเลย เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ตายแล้วแล้วไป ตายเพราะบำเพ็ญข้อวัตรปฏิบัตินี้ ตายเพราะละบาปนี่ ตั้งใจทำแต่บุญกุศลนี่ เราไม่เสียดายเลยชีวิตนี้ ว่าแต่เราขอให้พ้นจากบาปจากโทษก็พอแล้ว ก็ขอให้พากัน พากันมีอุบายแยบคายในจิตใจอย่างนี้ ไม่เป็นเช่นนี้แล้วเราก็พ้นจากบาปไปไม่ได้
อย่าไปเข้าใจว่าบาปมันไม่ติดตามน้า เมื่อเราทำลงไปแล้วเราไม่ละมันนะ มันก็ติดตามไปอยู่อย่างนั้นแหละ เมื่อมันยังไม่ได้ช่องได้โอกาส... -
หลวงปู่ดู่ ยกย่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ "ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน" ติงศิษย์!!! มัวหลงญาณ มัวทำนายทายทักชาวบ้าน ระวัง!ตกนรก
หลวงปู่ดู่ ยกย่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ "ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน" ติงศิษย์!!! มัวหลงญาณ มัวทำนายทายทักชาวบ้าน ระวัง!ตกนรก
หลวงปู่ดู่: .....เอ้า คณะนี้มาจากไหน (แล้วหลวงปู่ท่านก็เงียบ)
...อ๋อเด็กฝาก
คณะมโนมยิทธิ: ...หลวงพ่อ(ฤาษี) ท่านให้มากราบเจ้าค่ะ
หลวงปู่รู้จักไหมเจ้าคะ
หลวงปู่ดู่: ...รู้จัก
คณะมโนมยิทธิ: ....หลวงปู่่เจ้าคะดิฉันฝึกมโนขึ้นไปกราบ
พระข้างบนดีไหมเจ้าคะ?
(หลวงปู่ดู่)
หลวงปู่ดู่: .....การไปกราบพระ พบพระนั้นเป็นของดี
ให้หมั่นรักษาองค์พระ(ภาพพระ)เข้าไว้ พระท่านจะสอน
ท่านจะบอกวิธีการปฏิบัติ เราก็นำมาประพฤติปฏิบัติตามด้วยความตั้งใจ
เคร่งครัด แต่ถ้าพบพระแล้ว ท่านสอนแล้ว ไม่นำมาประพฤติปฏิบัติ
หรือปฏิบัติจนพบพระแล้วไม่สามารถทำให้อารมณ์ชั่วทั้ง ๓ คือ
โลภ โกรธ หลง มันเบาบางหลง อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ ถือว่าปฏิบัติผิดทาง
คนที่มัวแต่เอาสิ่งที่ตนเองได้ (ญาณ) ไปดูนั้นดูนี่ ทำนายทายทัก
ไม่นานอุปทานก็เข้าแทนที่ ทีนี้แทนที่มันจะไปสุคติภูมิ
มันก็ไปอบายภูมิแทน เหตุจากการแอบอ้าง คำสอนของพระ
เพราะอารมณ์อุปาทานนั้นเอง จงระวังไว้
ท่านมหาวีระ ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน... -
ทำความรู้จัก..."จุดนัดพบระหว่างสวรรค์กับโลกา" - สถานที่เชื่อมมิติระหว่างเทพกับมนุษย์ เพื่อส่งพลังสวรรค์มาคุ้มครองแผ่นดินไทย
ทำความรู้จัก..."จุดนัดพบระหว่างสวรรค์กับโลกา" - สถานที่เชื่อมมิติระหว่างเทพกับมนุษย์ เพื่อส่งพลังสวรรค์มาคุ้มครองแผ่นดินไทย
"วัดหลวงพ่อโอภาสี" อยู่ในซอยพุทธบูชา 39 หลวงพ่อโอภาสีนี้เป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ท่านบำเพ็ญเพียรทางจิตด้วยการเพ่งพระอาทิตย์ บูชาไฟเพื่อทำเตโชกสิณ เล่ากันว่าท่านนำข้าวของทั้งหลายที่ญาติโยมถวายมาเผาไฟ เพื่อแสดงถึงการตัดกิเลสทั้งหลาย เพราะท่านถือว่า จิตใจของมนุษย์นั้นถูกเผาผลาญด้วยไฟราคะแห่งกิเลสซึ่งไม่สามารถต้านทานได้ นอกจากจะกลายเป็นเถ้าถ่าน มีเพียงการตายเท่านั้นจึงจะหลุดพ้น
แต่เดิมนั้นหลวงพ่อโอภาสีอาศัยอยู่ที่วัดบวรนิเวศ และได้เดินทางมาแสวงหาที่สงบปฏิบัติธรรมที่ละแวกนี้ เมื่อก่อนนี้คนเรียกวัดหลวงพ่อโอภาสีว่าสวนอาศรมบางมด จนเมื่อได้มีการออกประกาศจัดตั้งให้เป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2536 นี้เอง
สำหรับตัวหลวงพ่อนั้นได้มรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และยังเก็บไว้ให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้กัน โดยอยู่ภายในองค์เจดีย์หลวงพ่อโอภาสีนั่นเอง และมีประชาชนเดินทางมาบูชาถึงที่วัดเป็นจำนวนมาก... -
“เทวดาพูดภาษาอะไร?” มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” เทพยดาท่านใช้สื่อสารกัน
“เทวดาพูดภาษาอะไร?” มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” เทพยดาท่านใช้สื่อสารกัน
“เทวดาพูดภาษาอะไร?” มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” เทพยาดาเขาใช้สื่อสารกัน
ภาษาเทพเป็นภาษาสวรรค์ไม่มีใครสามารถแปลภาษาเทพ หรือเข้าใจภาษาเทพได้ ถึงแม้มีก็จะมีเพียงผู้ที่ปฏิบัติในระดับสูง ภาษาเทพมีอยู่ด้วยกันหลายระดับ บางอย่างก็เป็นภาษาของภพภูมินั้นๆ เช่นภาษาของผีก็มีเหมือนกันมนุษย์เรามีเทวดาปกปักษ์รักษา แต่ "เรามิใช่เทวดา" ไม่มีความจำเป็นต้องไปรู้ภาษาเทพ รู้แล้วได้อะไร?
เมื่อศึกษาเรื่องเสียงพูดแปลกๆ ขณะทำสมาธิ และสอบถามไปยังพระกรรมฐานที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสมาธิ และผู้รอบรู้เรื่องสมาธิหลายท่านจึงได้ทราบข้อสังเกตที่เหมือนๆ กันในหลายๆ ส่วน เช่น ภาษาที่พูดออกมานั้น ผู้พูดมักจะพูดออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แต่จะมีความรู้สึกนึกคิด หรือรู้สึกตัวตลอดเวลา หรือ ภาษาที่พูดออกมานั้นมักจะรัว และเร็วกว่าภาษาพูดธรรมดาที่คนทั่วไปพูดกัน และที่น่าสนใจที่สุดคือ ภาษานี้มักจะผลมาจากการทำสมาธิถึงขั้นหนึ่งจนจิตมีความละเอียดพอที่จะสัมผัสกับพลังงานต่างมิติ ไม่ว่าจะเป็นสัมภเวสี เทพ เทวดา ฯลฯ... -
ศีล 5" ก็พาขึ้นสวรรค์ได้!! พระยายม บอกหลวงปู่คะนึง !!
เรื่องนี้ หลวงปู่คำคะนึง ได้เล่าไว้เมื่อตอนที่หลวงปู่ได้ท่องเมืองนรก ท่านเห็นและได้สอบถามจากพระยายมโดย ตรง โดยมีเนื้อความดังต่อไปนี้
หลวงปู่คำคะนิงท่องเที่ยวต่อไป ถึงทางแยกแห่งหนึ่ง จ่ายมบาลบอกว่า “ตรงนี้เป็นชุมทางไปสู่สวรรค์ชั้นต่างๆ เส้นทางเป็นสายรุ้งพุ่งจากพื้น เป็นวงโค้งขึ้นไปในอากาศนั้น เป็นเส้นทางสำหรับผู้เจริญวิปัสสนาได้บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน เมื่อตายแล้ว ต้องขึ้นเส้นทางนี้ไปสู่สวรรค์เบื้องสูงสำหรับอริยบุคคลชั้นโสดาบัน ที่เป็นอู่ทอง อู่แก้วคล้ายบุษบก มีสายชักขึ้นและชักลงจากพื้นดินไปในอากาศนั้น เป็นอู่ยนต์สำหรับผู้ที่จะไปสวรรค์ ตามกำลังบุญวาสนา ที่สร้างไว้สมัยเป็นมนุษย์นั่นเอง!
อู่ทอง อู่แก้ว อันสวยงามรุ่งเรืองนี้ ! เลื่อนขึ้นเลื่อนลงรับผู้มีวาสนาขึ้นสู่สวรรค์อยู่ตลอดเวลา แสดงว่า “แม้จะมีคนบาปหนาตกนรกมากจนมืดฟ้ามัวดิน ขณะเดียวกันก็มีคนดีๆ ขึ้นสวรรค์มากเหมือนกัน” นอกจากอู่ทองคำ อู่แก้วบุษบกแล้ว ยังมีบันไดเงินบันไดทอง และบันไดแก้ว แพรวพรายทอดขึ้นสู่ท้องฟ้าไปสรวงสวรรค์ เมื่อคนขึ้นไปแล้ว บันไดวิเศษเหล่านี้ก็จะลอยเลื่อนขึ้นไปจนสุดสายตา... -
อาราธนาพระทุกวันตายไปสวรรค์ชั้นยามา
อาราธนาพระทุกวันตายไปสวรรค์ชั้นยามา " ตอนเช้ากับตอนหัวค่ำจับพระที่ห้อยคอ ขอท่านคุ้มครองตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นยามา
โดยหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
(จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน)
"..เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้มีท่านผู้หนึ่งไปหาอาตมาที่วัดท่าซุง ไปถามว่า "คุณพ่อตายแล้วไปอยู่ที่ไหน" อาตมาไม่ได้บอกท่านผู้นั้น แต่ให้ไปฝึกพระกรรมฐานกับเขาในมหาวิหาร๑๐๐ เมตรไม่เกิน ๓ วันคุณก็พบกับคุณพ่อคุณได้ บอกคุณก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะคุณก็ไม่หายสงสัยคุณก็จะถามเรื่อยไปและก็ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ
ในที่สุดท่านผู้นั้นก็ตัดสินใจ วันรุ่งขึ้นก็ไปฝึกพระกรรมฐาน เพียงแค่วันแรกก็สามารถคุยกับคุณพ่อได้ แต่ในขณะที่ท่านผู้นี้ถามอาตมาได้บอกชื่อผู้ตาย อาตมาก็นึกถึง เมื่อนึกถึงผู้ตายก็มายืนข้างหน้า จึงถามว่า "เวลานี้คุณไปอยู่ที่ไหน" เขาตอบว่า "เวลานี้ผมไปอยู่บนสวรรค์ชั้นยามาครับ"
ถามว่า "ไปอยู่ชั้นยามาได้ ปกติคุณทำอะไรสมัยยังมีชีวิตอยู่" ตอบว่า "ปกติผมทำสมาธิ"
ถามว่า "คุณทำสมาธิเวลาไหน" ตอบว่า"เวลาตอนเช้ากับตอนคํ่าครับ ตอนเช้าผมตื่นนอนขึ้นมา ก็จับพระที่สร้อยห้อยคออยู่มาพนมมือ...
หน้า 393 ของ 412