คลังเรื่องเด่น
-
แนวทางการปฏิบัติธรรม ของ ก เขาสวนหลวง
แนวทางการปฏิบัติธรรม ของ ก เขาสวนหลวง
ก. เขาสวนหลวง ๑๗ มีนาคม ๒๔๙๗
หมายเหตุ สรุปแนวทางการปฏิบัติธรรมนี้ ท่าน ก. เขาสวนหลวงได้เรียบเรียงเขียนขึ้นด้วยตนเอง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อพิมพ์ในหนังสืออ่านใจตนเอง ท่าน ก. ได้สังเกตพิจารณา ศึกษา ค้นคว้า และปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าตามแนวนี้มาด้วยตนเอง และเป็นแนวทางที่ท่านได้ย้ำอธิบายแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ณ เขาสวนหลวงเสมอมา
ผู้ปฏิบัติควรศึกษาให้เข้าใจเป็นลำดับไป ดังนี้
การศึกษาที่เรียนรู้ได้ง่าย ทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกาล ทุกขณะได้ผลทันที ไม่ต้องรอรับผลข้างหน้า ก็คือ ศึกษาในห้องเรียน กล่าวคือในร่างกายยาววา หนาคืบ มีสัญญาใจครอง ในร่างกายนี้มีสิ่งที่น่าเรียนรู้ตั้งแต่ขั้นหยาบจนถึงขั้นละเอียด
ขั้นของการศึกษา
ก.เบื้องต้นให้รู้ว่า กายนี้ประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ส่วนใหญ่ได้แก่ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนย่อย ได้แก่ ส่วนที่จับติดอยู่กับส่วนใหญ่ เป็นต้นว่า สี กลิ่นลักษณะ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มีลักษณะไม่คงทน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เต็มไปด้วยของปฏิกูล พิจารณาให้ลึกจะเห็นว่าไม่มีอะไรเป็นแก่นสารมีแต่สภาพธรรมล้วนๆ ไม่มีภาวะที่ควรเรียกว่า “ตัวเรา... -
เหล่าเทวดา!!!ร่วมงานเผาสรีระ"หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน" ผิวกายงดงาม มองเห็นชัดเจน!! หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่า หลวงพ่อปานบอก?
เหล่าเทวดา!!!ร่วมงานเผาสรีระ"หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน" ผิวกายงดงาม มองเห็นชัดเจน!! หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่า หลวงพ่อปานบอก??
เทวดามางานเผาสรีระสังขาร หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุพรรณบุรี.
เรื่องนี้ เล่าโดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
เมื่อคราวที่เผาหลวงพ่อโหน่ง คนทั้งวัดที่มาเผาจำนวนมากเหลือเกิน เต็มวัดเต็มวา เพราะมีคนเคารพนับถือมาก พากันเห็นเทวดากลางวัน เขาว่าอย่างนั้น
หลวงพ่อปานท่านก็ยิ้มแล้วบอกว่า ท่านเจ้าคุณตาฝาดไปละมั้ง อะไรกันเทวดาจะให้คนเห็น
พระยาพิศาลสารเกษตรท่านก็บอกว่า ไม่ใช่ผมเห็นคนเดียวนะครับ ถ้าใครเขามาเล่าให้ผมฟังน่ะผมไม่เชื่อเด็ดขาด แต่นี่ผมเห็นด้วยตาของตนเอง ลูกเมียผมเห็น คนที่เขาไปเห็นหมด
หลวงพ่อปานก็ถามว่า เทวดามีรูปร่างเป็นอย่างไร
พระยาพิศาลสารเกษตรก็บอกว่า รูปร่างสวยจริงๆ ครับเทวดา มีรูปร่างสะโอดสะอง มีรัศมีกายออกมา มีเครื่องประดับแพรวพราว
หลวงพ่อปานก็ถามว่า เห็นกี่องค์
พระยาพิศาลสารเกษตร ก็ตอบว่า เท่าที่เห็นประมาณ ๑๒ – ๑๓ องค์ มาลอยอยู่รอบเมรุที่จะเผาท่าน
แล้วท่านก็ถามว่า แล้วมีอะไรอีก
ท่านพระยาพิศาลสารเกษตร ก็บอกว่า ไม่มีอะไรอีก เห็นกันจนกว่าเวลาใกล้คํ่า... -
สาธุเหนือเกล้า!! "หลวงพ่อทองดี" พระอรหันต์ผู้บรรลุธรรม ขณะพลีร่างกายให้เสือแม่ลูกอ่อนกิน เหลือเพียงครึ่งท่อนกลายเป็นหิน เมื่อหลายร้อยปีก่อน.
สาธุเหนือเกล้า!! "หลวงพ่อทองดี" พระอรหันต์ผู้บรรลุธรรม ขณะพลีร่างกายให้เสือแม่ลูกอ่อนกิน เหลือเพียงครึ่งท่อนกลายเป็นหิน เมื่อหลายร้อยปีก่อน.
หลวงพ่อทองดี ศรีสง่า พระกลายเป็นหิน ตั้งอยู่ที่ วัดเขาสมโภชน์ ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี
หลวงพ่อคง จตฺตมโล วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรีได้เห็นถ้ำอรหันต์แห่งนี้ทางนิมิต ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อคงอยู่ ที่จังหวัดสุรินทร์ ได้เห็นนิมิตถ้ำว่ามีพระอรหันต์ได้สละชีพเพื่อเป็นอาหารให้เสือแม่ลูกอ่อนจนเหลือร่างเพียงครึ่งเดียว ส่วนชื่อนั้น เป็นการตั้งภายหลัง ตามเรื่องราวที่พระสงฆ์ปฏิบัติดีบรรลุอรหันต์และสละชีวิตเป็นทาน จึงขนานนามว่า หลวงพ่อทองดี ส่วนที่เรียกถ้ำอรหันต์ เพราะว่าเป็นถ้ำที่มีพระมาบรรลุอรหันต์ที่นี่นั้นเอง
เมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว มีพระอรหันต์รูปหนึ่ง ได้สละร่างสังขารให้เสือแม่ลูกอ่อนกิน เหลืออยู่ครึ่งร่างแล้วกลายเป็นหิน อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ ประมาณ ปี2500 หลวงพ่อคง จตมโล ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ ได้นิมิตเห็นญาณของพระรูปนี้จึงธุดงค์เดินทางมาตามนิมิต ก็ได้พบร่างท่านจริง ชื่อหลวงพ่อทองดี ศรีสว่าง หลังจากนั้นได้เจริญกรรมฐานบำเพ็ญเพียร อยู่ ณ ถ้ำแห่งนี้... -
"เพราะรักตนอย่างยิ่ง" : สมเด็จพระญาณสังวร
"เพราะรักตนอย่างยิ่ง"
" .. เพราะรักตนอย่างยิ่งนั่นเอง "จึงเป็นผู้ประพฤติดี ปฏิบัติดี เพื่อให้ตนเป็นคนดี" การสามารถรักษาจิตใจ รักษาวาจา รักษาการกระทำ ให้เป็นไปเพื่อไม่ก่อทุกข์โทษภัยแก่ผู้อื่น ไม่เรียกว่าเป็นการกระทำเพื่อผู้อื่น ไม่เรียกว่าเป็นการถือว่าผู้อื่นเป็นที่รักของตน แต่เป็นการทำเพื่อตัวเอง เป็นการถือว่าตนเป็นที่รักของตนอย่างยิ่ง ไม่มีความรักอื่นเสมอด้วยความรักตน
"ผู้ที่สามารถรักษากายวาจาใจตนให้ดีได้นั้นก็คือ ผู้ที่รักตนอย่างยิ่ง" นั่นเอง "เพราะรักตนอย่างยิ่งจึงประพฤติดี ปฏิบัติดี เพื่อให้ตนเป็นคนดี" ผู้ที่ถือเอาการได้มาด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่เลือกสุจริต ทุจริต ไม่ใช่คนรักตนเอง "ผู้ที่มีวาจาหยาบคายก้าวร้าว ทิ่มแทงหลอกลวง ไม่ใช่คนที่รักตนเอง ไม่ใช่คนที่จะทำให้ตนเองสวัสดีได้"
ตรงกันข้าม "ที่ทำเช่นนั้นเป็นการไม่รักตนเอง แม้คนจะคิดว่าการที่ทำเพราะไม่รักผู้อื่นก็ตาม" แต่ความจริงแท้เป็นการไม่รักตน เป็นการทำให้ตนต่ำทราม "เมื่อจะคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วเมื่อใด ขอให้นึกถึงตัวเอง นึกว่าตนเป็นที่รักของตน จึงไม่ควรทำลายตน" เหมือนตนเป็นที่รังเกียจเกลียดชังอย่างยิ่ง จนถึงต้องทำลายเสีย... -
"ความสุขแบบที่ไม่ต้องมีอะไร"
"ความสุขแบบที่ไม่ต้องมีอะไร"
ถ้าเราใช้พุทโธนี้มันก็จะว่าง จะเย็นจะสบาย ถ้าท่องที่เป็นเรื่องเป็นราว มันก็จะทำให้เกิดเรื่องราวภายในใจได้อยู่ ถ้าท่องในสิ่งที่ไม่มีเรื่อง มันก็จะไม่มีเรื่องปรากฏขึ้นมา ท่องพุทโธๆ ไปเวลาที่เราไม่ต้องใช้ความคิด ชีวิตเรานี้ไม่ได้คิดตลอด ไม่ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา แต่เราคิดกันตลอดเวลา คิดกับเรื่องไร้สาระ คิดเรื่องเพ้อเจ้อ คิดกับเรื่องของกิเลสตัณหา ความโลภ ความอยากต่างๆ ที่มันไม่เป็นประโยชน์กับจิตใจ มีแต่จะทำให้จิตใจเราว้าวุ่นขุ่นมัว ทำให้จิตใจไม่สุข ไม่อิ่ม ไม่พอ ถ้าเรามีพุทโธๆ ไปนี้ ความคิดต่างๆ มันก็จะเกิดขึ้นมาไม่ได้ แล้วใจเราก็จะว่าง จะเย็นจะสบายมีความสุข เราหัดมาเจริญพุทโธกัน ถ้าใช้คำบริกรรมก็พุทโธ หรือใช้คำอื่นก็ได้ ธรรมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่งคอยกั้นเพื่อไม่ให้เกิดความคิดต่างๆ ขึ้นมา ความคิดของเราส่วนใหญ่มันเป็นความคิดไปในทางที่ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ที่ไม่ดี อารมณ์ทำให้เกิดอารมณ์ร้อนขึ้นมา โลภก็ร้อน โกรธก็ร้อน หลงก็ร้อน นานๆ เราจะคิดไปในทางที่ดีสักครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่จะคิดไปในทางที่ไม่ดี ทำให้เราหิว ทำให้เราอยาก ทำให้เรารำคาญ... -
"วันวิสาขบูชา" วันสำคัญสากลของโลก
วันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งสิ่งที่สำคัญยิ่งในการบังเกิดพระพุทธเจ้าในโลกก็คือ "ธรรมะ" ที่พระองค์ทรงตรัสรู้ อันเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ทรงเปรียบเสมือนบรมครูผู้มาสอน มาชี้แนะแก่มวลมนุษย์ มิฉะนั้นคนเราก็คงไม่รู้จักหนทางแห่งการปฏิบัติธรรมเพื่อล่วงพ้นความทุกข์ เป็นแน่แท้ และวันวิสาขบูชา นี้องค์การสหประชาชาติได้มีมติรับรองให้ เป็นวันสำคัญสากล เมื่อปี พ.ศ.2542
ความหมายของวันวิสาขบูชา
คำว่า วิสาขบูชา ย่อมาจากคำว่า "วิสาขปุรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ" ดังนั้น วิสาขบูชา จึงหมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 การกำหนด วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายน แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 7 หรือราวเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม ในบางปีของบางประเทศอาจกำหนด วันวิสาขบูชา ไม่ตรงกับของไทย... -
‘ยูเอ็น-ยูเนสโก’ส่งสารวันวิสาขบูชาโลก ชวนชาวพุทธ’ร่วมฉลอง-มีน้ำหนึ่งใจเดียว’
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) จัดประชุมวิชาการนานาชาติสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ 3 เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม ภายใต้หัวข้อ “สติ:วิถีปฏิบัติและวิถีแห่งการประยุกต์บนฐานแห่งความกรุณา”
โดยมีพระพรหมบัณฑิต อธิการบดี มจร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานกรรมการบริหารสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก เป็นประธาน พร้อมด้วยประมุขสงฆ์ พระเถรานุเถระ ผู้นำชาวพุทธจากนานาชาติ นักวิชาการจำนวน 84 ประเทศ เข้าร่วมกว่า 1,000 คน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า วันวิสาขบูชาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้า เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ได้ทรงสร้างคุณูปการแก่ชาวโลกเป็นอันมาก คำสอนของพระองค์ได้แผ่ขยายไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2542 จึงมีมติรับรองให้วันวิสาขบูชา... -
"วันวิสาขบูชา วันสันติภาพโลก"
"วันวิสาขบูชา วันสันติภาพโลก"
" .. ในพระบรมราโชวาทที่ "สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน ในพิธีเปิดการสัมมนาของสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ" เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕
มีความตอนหนึ่งว่า "พระพุทธศาสนานั้น ถ้าหมายถึงคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแท้ ๆ แล้ว ก็หาภัยอันตรายมิได้ ไม่มีผู้ใดหรือเหตุใด ๆ จะเบียดเบียนทำลายได้เลยเพราะคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาเป็นธรรมะ คือหลักความจริงที่คงความจริงอยู่ตลอดกาล ทุกเมื่อ ไม่มีแปรผัน ดังนั้น การป้องกันภัยให้พระพุทธศาสนาก็ดี การทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาก็ดี พูดให้ตรงจึงน่าจะหมายถึงการป้องกันภัย ให้แก่พุทธบริษัท และการทำนุบำรุงพุทธบริษัท ยิ่งกว่าอื่น"
ทุกวันนี้ พระพุทธศาสนาได้ปรากฏความสำคัญยิ่ง ให้ประจักษ์ชัดเจนแก่โลก" จนกระทั่งสหประชาชาติ ในนามของโลก "ได้ประกาศให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสันติภาพโลก" เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พระพุทธศักราช ๒๕๔๒
วันประกาศนั้นให้ตรงกับ "วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖" หรือวันเดือนวิสาขะ "คือวันนั้น เป็นวันวิสาขบูชา วันเสด็จประสูติ ทรงตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน"... -
ครั้งหนึ่งในชีวิต!!! เป็นมงคลทีสูงสุด... สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 ทรงนำสวดมนต์พร้อมกันทั่วประเทศ...มีบทสวดพระราชวังมาฝาก อยู่ที่ไหนก็สวดได้
ครั้งหนึ่งในชีวิต!!! เป็นมงคลทีสูงสุด... สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 ทรงนำสวดมนต์พร้อมกันทั่วประเทศ...มีบทสวดพระราชวังมาฝาก อยู่ที่ไหนก็สวดได้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงนำสวดมนต์เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560 เวลา 17.30 น.
รัฐบาลขอเชิญชาวไทย ร่วมเฝ้ารับเสด็จ และขอเชิญชาวพุทธศาสนิกชนร่วมกันสวดมนต์พร้อมกันทั่วประเทศ ณ วัดใกล้บ้าน หรือ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้จากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
-คำสวดสรรเสริญพระรัตนตรัยสำนักพระราชวัง-
๑.ให้นั่งคุกเข่าลงพร้อมกัน ประนมมือ
๒.ให้ผู้เป็นหัวหน้านำสวด และคนอื่นๆ ว่าตามดังต่อไปนี้ :-
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตังอะภิวาเทมิ(กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ(กราบ)
๓.ให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ประนมมือ
๔.ให้ตั้งนะโม ๓ จบ สวดทำนองสังโยคหลวงไว้ระยะดังต่อไปนี้ :-
(นำ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต......(รับและสวดพร้อมกันต่อไป) อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ... -
น่าอัศจรรย์!! กำเนิดพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ เหตุการณ์การสำคัญในวันวิสาขบูชา "ทรงลอยถาดเสี่ยงพระบารมี" เกิดอัศจรรย์ถาดลอยทวนน้ำ!!
น่าอัศจรรย์!! กำเนิดพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ เหตุการณ์การสำคัญในวันวิสาขบูชา "ทรงลอยถาดเสี่ยงพระบารมี" เกิดอัศจรรย์ถาดลอยทวนน้ำ!!
เมื่อเสวยมธุปายาสทั้ง ๔๙ ปั้นแล้ว พระบรมโพธิสัตว์ทรงถือถาดทองเสด็จไปสู่แม่น้ำเนรัญชรา ครั้นถึงหาดทรายชายน้ำพระองค์จึงประทับนั่งคุกพระชานุ คือ นั่งคุกเข่าพระหัตถ์ซ้ายยันที่พระเพลาเบื้องซ้ายเพื่อค้ำกายไว้มั่น พระหัตถ์ขวาทรงถือถาดยื่นออกไปข้างหน้าวางลงบนกระแสน้ำ ตั้งพระหฤทัยอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า
“ถ้าจะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ขอให้ถาดทองลอยทวนกระแสน้ำไปเถิด แม้นว่ามิได้สำเร็จสมประสงค์ขอให้ถาดลอยล่องไปตามกระแสน้ำ”
แล้วทรงปล่อยถาดทองให้หลุดจากพระหัตถ์
"ถาดทองลงสู่นาคพิภพ"
ในบัดนั้นถาดทองก็ได้เลื่อนลอยทวนกระแสชลทีขึ้นไปไกลประมาณ ๘๐ ศอก แล้วจมลงสู่นาคพิภพ กระทบกับถาดอันเป็นพุทธบริโภคแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ ในอดีต ซึ่งในภัทรกัป คือ กัปอันเจริญ ได้แก่กัปปัจจุบันจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้รวม ๕ พระองค์ได้แก่
๑. พระกกุสันธพุทธเจ้า
๒. พระโกนาคมนพุทธเจ้า
๓. พระกัสสปพุทธเจ้า
๔. พระโคตมหรือพระสมณโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
๕.... -
วิธีเจริญจิตภาวนาตามแนวการสอนของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วิธีเจริญจิตภาวนาตามแนวการสอนของ
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
1. เริ่มต้นอิริยาบถที่สบาย
ยืน เดิน นั่ง นอน ได้ตามสะดวก ทำความรู้ตัวเต็มที่ และ รู้อยู่กับที่(รู้อยู่ในที) โดยไม่ต้องรู้อะไร หรือ รู้ตัว อย่างเดียว รักษาจิตเช่นนี้ไว้เรื่อย ๆ ให้ “รู้อยู่เฉย ๆ ” ไม่ต้องไปจำแนกแยกแยะ อย่าบังคับ อย่าพยายาม อย่าปล่อยล่องลอยตามยถากรรม เมื่อรักษาได้สักครู่ จิตจะคิดแส่ไปในอารมณ์ต่าง ๆ โดยไม่มีทางรู้ทันก่อน เป็นตามธรรมดาสำหรับผู้ฝึกใหม่ ต่อเมื่อจิตแล่นไป คิดไปในอารมณ์นั้น ๆ จนอิ่มแล้ว ก็จะรู้สึกตัวขึ้นมาเอง เมื่อรู้สึกตัวแล้วให้พิจารณาเปรียบเทียบสภาวะของตนเอง ระหว่างที่มีความรู้อยู่กับที่ และระหว่างที่จิตคิดไปในอารมณ์ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นอุบายสอนจิตให้จดจำ จากนั้น ค่อย ๆ รักษาจิตให้อยู่ในสภาวะรู้อยู่กับที่ต่อไป ครั้นพลั้งเผลอ รักษาไม่ดีพอ จิตก็จะแล่นไปเสวยอารมณ์ข้างนอกอีก จนอิ่มแล้ว ก็จะกลับรู้ตัว รู้ตัวแล้วก็พิจารณา และรักษาจิตต่อไป ด้วยอุบายอย่างนี้ ไม่นานนัก ก็จะสามารถควบคุมจิตได้ และบรรลุสมาธิในที่สุด และจะเป็นผู้ฉลาดใน “พฤติแห่งจิต” โดยไม่ต้องไปปรึกษาหารือใคร
ข้อห้าม... -
อย่าถือเอาคำตอบเป็นมาตรฐานร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้ตั้งคำถามที่เป็นมาตรฐาน
พระอาจารย์แนะนำว่า "อย่าถือเอาคำตอบเป็นมาตรฐานร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้ตั้งคำถามที่เป็นมาตรฐาน"
ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม สภาพจิตยิ่งละเอียดจะยิ่งรู้เห็นโทษมากขึ้น จะพยายามปรับปรุง กาย วาจา ใจ ของตนเองให้ดีขึ้น จะพยายามไม่ให้เป็นทุกข์ เป็นโทษแก่คนอื่น
เรื่องเหล่านี้จะมาพร้อมกับกำลังใจที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ บุคคลที่กำลังใจสูงย่อมเห็นโทษมากกว่าบุคคลที่กำลังใจต่ำ เหมือนกับบุคคลซึ่งอยู่ในที่สูงกว่า ย่อมมองได้ไกลกว่าบุคคลซึ่งอยู่ในที่ต่ำ
บางเรื่องที่ถามไป กำลังใจของคนถามไม่เท่ากัน ถ้าตอบชัด ๆ สำหรับคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งไปคิดว่าเหมือนกันก็บรรลัยเลย หลายคนก็ไม่รู้หนักรู้เบา ถือเอาคำตอบเป็นมาตรฐานร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้ตั้งคำถามที่เป็นมาตรฐาน ถึงเวลาได้รับคำตอบนั้นไปก็ถือว่ามาตรฐานนั้นถูก ดีไม่ดีก็เอาไปคัดง้างกับคนอื่นอีกด้วย
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๐
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม -
"ปัญญา กับความรู้คาดคะเน" : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"ปัญญา กับความรู้คาดคะเน"
" .. คนทั้งหลาย "รู้ธรรมทั้งหลายแล้วไม่พ้นทุกข์" ทั้งกลับเป็นเสี้ยนหนามยอกแทงตนและผู้อื่นเข้าด้วยซ้ำ "แต่พระพุทธเจ้าแลสาวกรู้ธรรมแล้วพ้นทุกข์ไปเลย พร้อม ๆ กับความรู้ธรรมเกิดขึ้น" เพราะเหตุใดระหว่างคนทั้งสองสามจำพวกนี้จึงต่างกันเล่า
ก็เพราะ "ความรู้เกิดจากปัจจุบันจิต อันกลายเป็นปัญญาไปในตัว กับความรู้คาดคะเน(สัญญา) มันต่างกันราวฟ้ากับแผ่นดินนั่นเอง" จึงสามารถแปรคนทั้งสองจำพวกให้ต่างกัน เหตุที่ความรู้ที่เป็นปัจจุบันจิตจะเกิดได้ ก็ต้องพิจารณาปัจจุบันธรรมคือกายกับจิตนี้เอง "เพราะกาย-จิต เป็นสถานที่สั่งสมกิเลสและเป็นสถานที่ถอดถอนกิเลสแลกองทุกข์ทั้งมวล"
ฉะนั้น เราควรตั้งจิตไว้โดยทำนองที่ว่า "ให้จิตอยู่กับกายจิตจริง ๆ จนเรียกปัจจุบันได้เต็มที่" แล้วกระแสของปัจจุบันจิตจะกระจายแสงสว่าง คือปัญญาออกตามอาการของกายแลอาการของจิตโดยรอบคอบ "จากนั้นก็จะได้เห็นทุกสิ่งทั้งที่เป็นคุณเป็นโทษ ปรากฏด้วยปัญญาอันชอบแท้" ตลอดกลางวัน กลางคืน ยืน เดิน นั่ง นอน จะเรียกว่าฟังธรรมทุกเวลาก็ได้ .. "
"ธัมมะในลิขิต"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน... -
มจร. มอบพระไตรปิฎกฉบับสากลหนึ่งเดียวของโลก รวมหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา ๓ นิกาย เถรวาท-มหายาน-วัชรยาน ไว้ในเล่มเดียว
มจร. มอบพระไตรปิฎกฉบับสากลหนึ่งเดียวของโลก รวมหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา ๓ นิกาย เถรวาท-มหายาน-วัชรยาน ไว้ในเล่มเดียว
มจร. มอบพระไตรปิฎกฉบับสากลหนึ่งเดียวของโลก รวมหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา ๓ นิกายหลักไว้ในเล่มเดียว ใช้เวลารวบรวมนานกว่า ๗ ปี ตีพิมพ์หนึ่งหมื่นเล่มกระจายทั่วโลก
พระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลกรณราชวิทยาลัย ฐานะประธานสมาคมวิสาขบูชาโลก CBT เปิดเผยว่า ปัญหาอย่างหนึ่งในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา คือ เรื่องของการรวบรวมหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา มีความแตกต่างกันทั้งลักษณะทางกายภาพ ภูมิศาสตร์ และที่สำคัญคือคำสอนของแต่ละศาสดานั้นมีรากเง้าไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นนิกาย เถรวาท มหายาน และวัชรยาน จึงมีการถกเถียง ไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน
ที่ผ่านมามีการแปลคำสอนไปคนละทิศละทางตามความเชื่อ ที่แตกต่างกัน ขาดการจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ ขาดการยอมรับซึ่งกันละกันไม่มีเอกภาพ
อธิการบดี มจร กล่าวต่อว่า เมื่อการประชุมสมัชชาศาสนาโลก ช่วง พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ประชุมจึงมีมติให้มีคณะทำงาน รวบรวมหลักธรรม คำสอน ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละนิกาย ทั้ง ๓ นิกาย ได้แก่ เถรวาท มหายาน และวัชรยาน... -
รู้แล้วต้องทึ่ง!! สุดยอดอานิสงส์จากการฟัง "เทศน์มหาชาติ" ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ได้รับถึง ๑๓ อานิสงส์ บุญใหญ่ พลาดไม่ได้ รู้แล้วรีบหาฟังเลย!! ...สาธุ
รู้แล้วต้องทึ่ง!! สุดยอดอานิสงส์จากการฟัง "เทศน์มหาชาติ" ทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ได้รับถึง ๑๓ อานิสงส์ บุญใหญ่ พลาดไม่ได้ รู้แล้วรีบหาฟังเลย!! ...สาธุ
การเทศน์มหาชาติ เทศน์มหาชาติ คือ เทศนาเวสสันดรชาดก เป็นบุญพิธีที่นิยมจัดให้มีกันมาแต่โบราณ ส่วนมากจัดให้มีในวัดเป็นหน้าที่ของชาวบ้านและวัดนั้น ๆ จะตกลงร่วมกันจัด ปกตินิยมให้มีหลังฤดูทอดกฐิน ผ่านไปแล้วจนตลอดฤดูเหมันต์ นิยมจัดเป็นงานสองวัน คือ วันเทศน์เวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์วันหนึ่ง และวันเทศน์จตุราริยสัจจกถา ท้ายเวสสันดรชาดกอีกวันหนึ่ง
วันแรกเริ่มงานด้วยพิธีทำบุญตักบาตรพระทั้งวัด หรือเลี้ยงพระตามจำนวนที่เห็นสมควร แล้วเริ่มเทศน์เวสสันดรชาดก ตามแบบเทศน์ต่อกันไปจนสุด 13 กัณฑ์ ถึงเวลากลางคืนบางแห่งจัดปีพาทย์ประโคมระหว่างกัณฑ์หนึ่ง ๆ ตลอดทั้ง 13 กัณฑ์ด้วย
วันรุ่งขึ้น ทำบุญเลี้ยงพระอีกแล้วมีเทศน์ จตุราริยสัจจกถาในระหว่างเพลจบแล้วเลี้ยงพระเพลเป็นอันเสร็จพิธี
โดยการฟังเทศน์ มหาชาติ นั้น มีอานิสงส์ ดังนี้ ...
1
1. กัณฑ์ทศพร
ผู้ ใดบูชากัณฑ์ทศพร ผู้นั้นจะได้รับทรัพย์สมบัติดังปรารถนา ถ้าเป็นสตรีจะได้สามีเป็นที่ชอบเนื้อ เจริญใจ... -
ทำบุญผสมความโกรธ ตายแล้วเป็นอสูรหน้ายุ่ง
*** ทำบุญผสมความโกรธ ตายแล้วเป็นอสูรหน้ายุ่ง ***
ผู้ถาม : “หลวงพ่อคะ เวลาคนเราทำบุญหน้าบูดหน้าบึ้งอารมณ์เสียนี่ ผลบุญที่ทำไปจะได้รับอย่างไรคะ”
หลวงพ่อ : คนหน้าบูดไม่มีนะ มันมีแต่ข้าวบูดขนมบูด หน้าอาจจะเปลี่ยนเป็นหน้าเบี้ยวหรือปากเบี้ยว ความจริงเขาบอกว่าถ้าทำบุญผสมโทสะ ใช่ไหม เรื่องนี้ฉันจะไปเจ๊งที่สมุทรสงคราม เรื่องมีอยู่ว่า ไปเทศน์ที่ วัดท้องคุ้ง อ.อัมพวา ไปเทศน์ที่นั่นก็มีโยมผู้ชายคนหนึ่งแกชอบมาถามปัญหา ถามปัญหาทุกครั้ง ก็เป็นปํญหาที่เราเข้าใจตอบได้ มาครั้งหลังฉันข้าวเพลอยู่ โยมก็บอกว่า พระเดชพระคุณทั้ง 3 องค์ครับ ตอนนั้นไปเทศน์ 3 ธรรมาสน์นะ เจ้าคุณธรรมบาล ด้วย มหาประยูร ด้วย แกบอกว่า อะไรที่ถามพระเดชพระคุณทั้ง 3 องค์ก็ตอบได้ แต่เที่ยวนี้ผมมีข้อข้องใจ ว่าคนที่ทำบุญไปแล้วไปเกิดเป็นเทวดามีหน้าตาสดชื่น มีวิมานอยู่ มีกายเป็นทิพย์ ถ้าไปเกิดในอบายภูมิก็มีหน้ายุ่งมีแต่ความทุกข์
อยากจะทราบว่าพวกอสูรมีวิมานอยู่เหมือนกัน มีร่างกายเป็นทิพย์เหมือนกัน แต่หน้ายุ่งๆ ทำบุญอะไรครับ เจ๊งเลย ตอบไม่ได้ ต่างคนต่างมอง ฉันก็เลยมองหน้าเจ้าคุณธรรมบาล ท่านเป็นอาวุโส เจ้าคุณธรรมบาลก็ส่ายหน้า... -
อานาปานะ (สติ) แบบพระพุทธเจ้า
รู้จักอานาปานสติ
คำว่า “อานาปานสติ” แยกออกเป็นสามคำ คือ คำว่า "อานะ" แปลว่า ลมหายใจเข้า ตรงกับคำว่า อัสสาสะ
คำว่า "อาปานะ" ลมหายใจออก ตรงกับคำว่า ปัสสาสะ และ
คำว่า “สติ” แปลว่า ความระลึกได้, นึกได้, ความไม่เผลอ, การคุมใจไว้กับกิจหรือกุมจิตไว้กับสิ่งที่เกี่ยวข้อง, จำการที่ทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้
รวมสามคำเข้าด้วยกันเป็น “อานาปานสติ” แปลว่า ความกำหนดพิจารณาลมหายใจเข้า และลมหายใจออก หมายถึงการใช้สติเป็นตัวกำหนดดูลมหายใจเข้าและลมหายใจออกขณะปัจจุบัน แต่ ละขณะๆ -
"ถ้าไม่รู้ละไม่ได้" : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
"ถ้าไม่รู้ละไม่ได้"
" .."คนที่จะละความชั่ว ถ้าไม่เห็นความชั่วของตนแล้วก็ละไม่ได้เหมือนกัน" ถ้าไม่รู้จักความผิดของตน ไม่รู้จักความโง่ของตน เข้าใจว่าตนฉลาดอยู่ร่ำไป อะไรก็เข้าใจว่าเป็นดีหมด ไม่ยอมฟังเสียงใครทั้งนั้น "อย่างนี้ก็ไม่ทราบว่าจะไปละความโง่อันนั้นได้อย่างไร"
มีแต่เพิ่มพูนความโง่ขึ้น จิตมีทิฏฐิมานะกล้าขึ้นกว่าเก่าทวีคูณ ไม่ทราบว่ามันไปดีได้อย่างไร นี่เพราะไม่เห็นความโง่ของตน "ถือเอาความโง่เป็นความฉลาด" โง่ฝังอยู่ในใจเฉย ๆ ก็ยังคลางแคลง แต่เมื่อเอาความโง่มาแสดงให้ปรากฏออกภายนอกในที่สาธารณะแล้ว เป็นสิ่งที่น่าอับอายขายขี้หน้า
เพราะความโง่นั้นฝังอยู่ภายในตัวของเรา แต่เราเข้าใจผิดคิดว่า อันนั้นเป็นความฉลาดเลยถือมานะทิฏฐิว่า ตนเด่นตนดี อันนั้นเรียกว่า "ไม่รู้จักความชั่วไม่รู้จักความโง่" แล้วก็ไม่ทราบจะชำระอะไรได้ ก็หมดหนทาง "ความชั่วหรือความโง่นี้ หากไม่รู้จักแล้วละยากอย่างนี้" โดยทั่วไปการกระทำของใครคนนั้นก็ว่า ตนทำถูกหมด มันถูกตามกิเลสของตนเอง .. "
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
คณะสงฆ์ร่วมปฏิบัติศาสนกิจในวันวิสาขบูชาเมืองมาเก๊า
พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรและสมาคมพร้อมด้วยคณะสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจเจริญศาสนสัมพันธ์ เถรวาท มหายานเนื่องในวันวิสาขบูชา และงานฉลองครบ 20ปีการจัดตั้งพุทธสมาคมที่เมืองมาเก๊า
วันนี้ (4 พ.ค. 60) พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรและสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหารพร้อมด้วยคณะสงฆ์ เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจเจริญศาสนสัมพันธ์ เถรวาท มหายาน เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) เวลา 18.00 น. ณ พุทธสมาคมเมืองมาเก๊าเนื่องในวันวิสาขบูชา และงานฉลองครบ 20 ปีการจัดตั้งพุทธสมาคมประจำเมืองมาเก๊า -
รู้แล้วจะช็อค !!! เผย..วิธีคัดเลือก “เพชฌฆาต” และขั้นตอนก่อนจะ “ประหารนักโทษ” ของไทยโบราณ ที่ไม่ใช่ใครก็จะทำได้ !!!
รู้แล้วจะช็อค !!! เผย..วิธีคัดเลือก “เพชฌฆาต” และขั้นตอนก่อนจะ “ประหารนักโทษ” ของไทยโบราณ ที่ไม่ใช่ใครก็จะทำได้ !!!
หลายคนไม่เคยรู้ว่า ตำแหน่ง “เพชฌฆาต” เป็นตำแหน่งที่โปรดเกล้าพระราชทานให้แก่ผู้มีดวงอันเหมาะสมโดยจะมีบรรดาโหราจารย์นำดวงชะตาไปคำนวณอย่างละเอียดเพื่อคัดเลือก เพราะถือว่า การประหารชีวิตคนอันเป็นสัตว์ประเสริฐนับเป็นกรรมหนักรุนแรง จึงต้องเฟ้นหาดวงเพชฌฆาตที่มีดวงคุ้มตัวเองได้ มิฉะนั้นชีวิตจะสั้น
วิธีคัดเลือกเพชฌฆาต
เมื่อคัดเลือกได้คนที่มีดวงเหมาะสมแล้ว ผู้นั้นต้องเชี่ยวชาญเพลงดาบอย่างดี มีความรู้เรื่องดาบ มีความแม่นยำในการลงดาบ เพื่อจะได้ไม่เป็นการทรมานนักโทษจนเกินไป และผู้เป็นเพชฌฆาตจะต้องมีความรู้ทางด้านคาถาอาคมเป็นพิเศษด้วย เช่น คาถาสวดวิญญาณผีตายโหง อาคมก่อนหยิบดาบเพชฌฆาต รวมทั้งสามารถแก้อาถรรพณ์หากผู้ถูกประหารมีวิชาด้านคงกระพันชาตรี
เพชฌฆาตหรือมือประหาร จะต้องอยู่ประจำ ณ เรือนจำตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้เตรียมการ จากนั้นเมื่อได้เวลาเพชฌฆาตจะอัญเชิญดาบออกจากที่ตั้งไปทำการบวงสรวงด้วยเครื่องเส้น เสร็จพิธีแล้วจึงค่อยเก็บดาบไว้ที่ตั้งเดิมแล้วรอเวลาประหาร... -
เนื้อนาบุญสำคัญไฉน!?? การให้ธรรมทานมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ “อภัยทาน” แค่เพียงครั้งเดียว!! จริงหรือไม่!??
เนื้อนาบุญสำคัญไฉน!?? การให้ธรรมทานมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ยังได้บุญน้อยกว่าการให้ “อภัยทาน” แค่เพียงครั้งเดียว!! จริงหรือไม่!??
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ว่า แม้วัตถุทานจะบริสุทธิ์ดี เจตนาในการทำทานจะบริสุทธิ์ดี จะทำให้ทานนั้นมีผลมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับเนื้อนาบุญเป็นลำดับต่อไปนี้ คือ
๑. ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่มนุษย์ แม้จะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมเลยก็ตาม ทั้งนี้เพราะสัตว์ย่อมมีวาสนาบารมีน้อยกว่ามนุษย์และสัตว์ไม่ใช่เนื้อนาบุญที่ดี
๒. ให้ทานแก่มนุษย์ที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรมวินัย แม้จะให้มากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
๓. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๕ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าให้ทานดังกล่าวแก่ผู้มีศีล ๘ แม้จะให้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
๔. ให้ทานแก่ผู้ที่มีศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าถวายทานแก่ผู้มีศีล ๑๐ คือสามเณรในพุทธศาสนา... -
สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเปิดประชุมสัมนาวิชาการพุทธศาสนาระดับนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา พร้อมประทานธรรมกถา
สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเปิดประชุมสัมนาวิชาการพุทธศาสนาระดับนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา พร้อมประทานธรรมกถา
การประชุมวิชาการนานาชาติสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ ๓ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก
วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ หอประชุม มวก. ๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) เสด็จเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ ๓ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ระหว่างวันที่ ๖ - ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ภายใต้หัวข้อ “สติ:วิถีปฏิบัติและวิถีแห่งการประยุกต์บนฐานแห่งความกรุณา มีพันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ เข้าร่วม ๘๕ ประเทศ กว่า ๒,๐๐๐ รูป/คน
ในการนี้ สมเด็จพระสังฆราช ประทานธรรมกถาความว่า ในนามคณะสงฆ์ไทยขอต้อนรับพระเถรานุเถระเพื่อนสหธรรมิกจากนานาประเทศด้วยไมตรีจิต ขออนุโมทนาสาธุการ... -
"กระแสของพระนิพพาน"
"กระแสของพระนิพพาน"
ทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงดำเนิน ได้ทรงปฏิบัติ เพื่อหลุดพ้นจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด พระองค์ทรงให้ชื่อว่า "มรรค" มรรคที่มีองค์ ๘ เรียกสั้นๆ ว่า "มรรค ๘" เป็นทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงปฏิบัติ เพื่อที่จะทำให้พระทัยของพระองค์ได้หลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตาย แล้วพระองค์ก็ทรงนำเอามรรค ๘ ที่พระองค์ทรงดำเนินนี้ มาเผยแผ่สั่งสอนให้แก่ผู้ที่ต้องการจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ให้นำเอาไปปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติได้ครบถ้วนก็จะได้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อย่างที่พระพุทธองค์ได้ทรงหลุดพ้น มรรคที่มีองค์ ๘ นี้ก็มี ๑. สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบหรือความเห็นที่ถูกต้อง ข้อที่ ๒. ก็คือสัมมาสังกัปโป แปลว่าความคิดหรือความดำริที่ถูกต้อง ๓. สัมมากัมมันโต การกระทำที่ถูกต้อง ๔. สัมมาวาจา การพูดที่ถูกต้อง ๕. สัมมาอาชีโว อาชีพที่ถูกต้อง ๖. สัมมาวายาโม ความเพียรที่ถูกต้อง ๗. สัมมาสติ การระลึกรู้ที่ถูกต้อง และ ๘. สัมมาสมาธิ ความตั้งมั่นของจิตที่ถูกต้อง นี่คือองค์ประกอบของมรรค ๘ ที่ผู้ปฏิบัติจะต้องเจริญ จะต้องทำให้เกิดขึ้นมาภายในใจ เพราะเมื่อมีมรรคที่เป็นองค์ ๘ นี้แล้ว... -
สงครามโลกครั้งที่ 3
สงครามโลกครั้งที่ 3
หลวงพ่อ : ตอนบวงสรวงเมื่อเช้าพระท่านพูดเรื่อง "สงครามโลกครั้งที่ 3"
ถามท่านว่า "ถ้าสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น จะเป็นยังไง ประเทศไทย"
พระท่านบอกว่า "คนที่จนอยู่กระท่อม จะมีเงินนับแสน คนที่มีเงินจำนวนแสนไม่ถึงล้าน ถือว่าจน คนฐานะดีนิดหน่อย ต้องมีเงินเป็นล้าน รวยใหญ่"
ถามท่านว่า "สงคราม จะมาถึงประเทศไทยไหม"
พระท่านบอกว่า "สงครามของเขา ไม่ถึงประเทศไทย แต่สงครามในประเทศไทย ยังมี"
ปักษ์ใต้ กรมหลวงชุมพร ขอยืนยัน
"ใครรักษาทิศใต้ ท้าววิรุฬหก ใช่ไหม"
กรมหลวงชุมพร บอก "ผมครับ รับหน้าที่ทางทิศใต้"
ถามว่า "ยันอยู่ไหม"
ท่านบอก "ยันไม่อยู่ครับ แต่ตียันมาเลเซีย เลยยึดไม่ปล่อย"
ถาม "ทิศเหนือ ใครรับผิดชอบ"
ท้าวเวสุวัณ บอก "ผมครับ"
ถาม "เป็นยังไง"
ท้าวเวสสุวัณท่านบอก "เชียงตุง ยัน แม่น้ำแยงซีเกียง"
คุณยกทรง : "สงครามโลกครั้งที่ 3 บ้างก็กลัวจะเกิด บ้างก็อยากให้เกิดไว ๆ ไอ้ที่กลัวจะเกิด คือกลัวจะตาย ไอ้ที่อยากให้เกิดไว ๆ เพราะหลวงพ่อบอกว่าถ้าเกิดเมื่อไหร่ รวยเมื่อนั้น"
หลวงพ่อ : "ไอ้ที่รวย ไม่ใช่อะไรหรอก สงครามของเรา มันไม่ใหญ่โต... -
เคล็ดบูชาพระอุปคุต (สำหรับวันเป็งปุ๊ด)ตำรับสมเด็จพระสังฆราชแพ
เคล็ดบูชาพระอุปคุต (สำหรับวันเป็งปุ๊ด)ตำรับสมเด็จพระสังฆราชแพ
สวัสดีครับ หลายท่านคงรู้จักองค์พระอุปคุต กันนะครับ ว่าท่านเป็นพระมหาลาภ ในบรรดาพระอรหันตสาวกของพระพุทธเจ้า จะมีพระไตรภาคีมหาลาภอยู่ก็คือ
1.พระสังกัจจายน์ หรือพระมหากัจจายนะ 2.พระสีวลีเถระเจ้า และ
3. พระอุปคุต โดยพระอุปคุตนอกจากท่านจะเด่นทางลาภแล้ว ท่านยังเด่นในเรื่องการปราบอุปสรรคคือเน้นในด้านความสำเร็จด้วยนั่นเอง ดังมีเรื่องเล่าในสมัยพระเจ้าอโศกสังคายพระไตรปิฏก พระยามารจะมาแกล้งพอดีพระอุปคุตท่านได้รับความไว้วางใจแห่งมูลพระสงฆ์ให้คอยปราบพระยามารผู้มีฤทธิ์ซึ่งท่านสามารถจับพระยามารผูกไว้ถึง7ปี 7เดือน 7วัน จนกระทำสังคายนาเสร็จ ย่อมแสดงให้เห็นว่าพระอุปคุตท่านเลิศในด้านลาภและขจัดอุปสรรคต่างๆด้วย ฉะนั้นการไหว้ท่านก็ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จไร้ข้อข้องขัดและเสริมลาภในชีวิตของท่านด้วย แต่น้อยคนนะครับที่จะรู้ว่าการขอบารมีหลวงพ่อชนะจน หรือพระอุปคุตนั้นมีพิธีการไหว้ขอพรอย่างไร ในที่สุดเพจพุทธคุณและเว็บพลังจิตก็ไปค้นมาให้ท่านจนได้ โดย เคล็ดนี้บันทึกโดยท่านอาจารย์ อุรคินทร์ วิริยะบูรณะ... -
ลป.เดินหนอิเกสาโร-ลพ.กัสสปมุนี-พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า-ผงสัมฤทธิ์ ช่วยค่าโฮสเวปพลังจิต
เนื่องจากผมได้เรียนขออนุญาติทางเวปมาสเตอร์ของเวปพลังจิตไปเรื่องขอนำวัตถุมงคลที่ผมเก็บไว้ออกให้บูชาและส่วนหนึ่งหลังหักต้นทุนในการจัดหาแล้ว.....จำนวน 100 บาทขอนำไปช่วยค่าโฮสเวปพลังจิตครับ
......ทั้งนี้ทางเวปมาสเตอร์(วีระชัย)ได้อนุญาตเป็นที่เรียบร้อย ตอนแรกกะว่าจะรีบตั้งกระทู้เลย แต่......มีเสียงหนึ่งเข้ามาในโสตประสาทของผมตอนนั่งสมาธิว่า ให้ลงหลังขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 นะ.....เสียงย้ำๆอยู่ 2ครั้งได้ ผมจึงขออนุญาติตั้งกระทู้ให้ได้บูชาวัตถุมงคลเพื่อหาปัจจัยช่วยค่าโฮสของเวปพลังจิตในครั้งนี้กันครับ(หลังวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 6 แล้ว)
...... กระทู้นี้ตอนแรกตั้งใจจะให้บูชาเพียงแค่รูปหลวงปู่เดินหนลพ.กัสสปมุนีเพียงเท่านั้น แต่เนื่องจากระหว่างรอ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 มาถึงผมก็ได้เห็นภาพวัตถุมงคลอีก 3 สิ่งปรากฏแวปๆในนิมิตรสมาธิ จึงขอจัดหนักมอบเป็นชุดของมงคลเป็นที่ระลึก แก่สมาชิกทุกท่านที่ร่วมช่วยค่าโฮสของทางเวปพลังจิต(เวปพระศาสนาอันดับ 1 ของเมืองไทย) อันมีดังนี้ครับ
1.รูปหลวงปู่เดินหนอิเกสาโร-ลพ.กัสสปมุนี หลังยันต์พุทธเกษตรอันศักดิ์สิทธิ์....และรูปทุกใบหลวงพ่อกัสสปมุนี... -
ช่วยภพภูมิที่เค้าไปไหนไกลๆไม่ได้ ...ให้เค้า และสอนให้เค้าช่วยตนเอง
ครั้งแรกๆ เบื้องต้น ให้สวด-ภาวนา น้อมกำลังไตรสรณคมน์และพระโพธิสัตว์ทั้งหลายผ่านรูปนามกายใจของเรา มาช่วยเค้า
ต่อไป....
ให้เค้าช่วยตนเอง คือ อธิษฐานว่า อนุญาตให้มาอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าได้ตลอดไป
ได้ตลอดเวลา
เมื่อเค้า มีกำลังมากขึ้น มีแสงสว่างมากขึ้น เค้าจะคิดได้ว่า จะไปเกิดตามกรรมหรือรอสวดภาวนาพร้อมเราและหมู่คณะไปเรื่อยๆก่อน บางตน(ที่มีบุญเก่ามาก)จะรอไปจนกว่าจะพบพระอริยะเจ้าหรือพระพุทธเจ้าองค์ใหม่จะเทศน์โปรด พอท่านเทศน์ก็น้อมตามคำสอนไป ก็จะมีโอกาสได้พบความพ้นทุกข์ถาวร
เป็นประโยชน์มาก ฟังเพิ่มเติมที่
- - - - - -
เลือกฟังหัวข้ออื่น คลิกhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLwqIndQpKBE6MkcvsgE_rgXYrytZJKGhQ
- - - - - -
อ่านข่าวสารงานบุญที่ www.luangtama.com -
ผีมีจริงไหม - มนุษย์เกิดมาจากไหน - ชีวิตและปฏิปทา หลวงปูมั่น ภูริทัตโต - หลวงตามหาบัว
ผีมีจริงไหม - มนุษย์เกิดมาจากไหน - ชีวิตและปฏิปทา หลวงปูมั่น ภูริทัตโต - หลวงตามหาบัว
DrSeripiput Srimuang :- Published on Dec 14, 2016 -
กราบสาธุ !!! "สมเด็จพระสังฆราช"ประทานพระโอวาทแก่ชาวไทยเนื่องใน"วันวิสาขบูชา"
กราบสาธุ !!! "สมเด็จพระสังฆราช"ประทานพระโอวาทแก่ชาวไทยเนื่องใน"วันวิสาขบูชา"
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทแก่ปวงชนชาวไทยเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปีพุทธศักราช 2560 โดยให้ชาวไทยตะหนักถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชาว่า นอกจากจะให้สำนึกในพระพุทธคุณแล้ว วันวิสาขบูชายังชวนให้ตระหนักว่าความเกิดและความดับนั้น มีขึ้นได้ทุกขณะ และเป็นของควบคู่กัน
ถ้าท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในพระสัทธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อใด ความผาสุกทุกประการย่อมเกิดผลขึ้น
รายละเอียดตอนหนึ่งของพระโอวาส
คุณค่าของวันวิสาขบูชานอกจากเตือนให้สำนึกในพระพุทธคุณ ยังชวนให้เกิดความสลดสังเวชว่า ความเกิดและความดับนั้นมีขึ้นทุกขณะและเป็นของคู่กัน แม้ในความเกิดพระรูปพระโฉมของพระศาสดา ก็ยังมีความดับไปตามกฎสามัญ ความระลึกชอบได้เช่นนี้ ย่อมสามารถโน้มน้าวพุทธบริษัทผู้เกิดมาแล้วบนโลกนี้ให้เพียรเจริญรอยตามบนอริยมรรค จนสู่จุดหมายที่เหนือความเกิดและดับ ด้วยการละความหลงจับยึดในสิ่งมายาทั้งปวง คลายความมัวเมายึดถือตนลง เว้นวางการแบ่งเขาแบ่งเรา อันจะช่วยยุติความเบียดเบียน ก้าวร้าว บาดหมาง และชิงชังกัน... -
"กำลังของจิต" : หลวงปู่ชา สุภัทโท
"กำลังของจิต"
" .. "จิตมีความสงบ เป็นจิตที่มีกำลัง" จิตที่คิดมากเป็นจิตที่วุ่นวาย นำทุกข์เข้ามาสู่เรา "เห็นโทษของการคิดมากไม่มีกำลังนั้น คือทุกวันนี้โดยมากเป็นโรคประสาทกันแยะ" โรคประสาทนี้ คือการคิด ๆ มากเกินไป "จิตก็เสียกำลังเพราะจิตนี้จะไม่มีกำลังด้วยการคิด จิตนี้จะมีกำลังด้วยการหยุด หยุดถึงจะมีกำลัง"
"ถ้าคิดให้มากก็ยุ่งมากวุ่นวายมาก เป็นเหตุให้เกิดโรคประสาท" สมัยนี้โรคประสาทยิ่งเป็นกันมากทุกที ๆ เพราะว่าจิตไม่มีกำลังพอ "จิตที่คิดมากก็เหมือนกับมีดที่เราลับไว้คมแล้ว ๆ ก็เอาไปทำงานตัดหญ้า ดายหญ้า ตัดต้นไม้ มิได้หยุดและก็ไม่ได้ลับมีดนั้น"
ได้แต่เอาไปตัดเอาไปฟัน เอาไปทำงานไม่ได้ลับมีดมันก็หมดคม มันก็ไม่คม เจอต้นไม้ก็ตัดต้นไม้ เจอหญ้าก็ตัด เจอหินก็ฟันหิน เช่นนั้นมีดก็เสื่อมสภาพกลายเป็นมีดที่ไม่คม "จิตที่คิดมากก็เหมือนกันฉันนั้น เป็นจิตที่เสียกำลังเป็นจิตที่หมดกำลัง" .. "
"สุภัททานุสรณ์"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
หน้า 376 ของ 412