คลังเรื่องเด่น
-
พระอาจารย์ทูล! เล่าถึงอดีตชาติสมัยเกิดเป็นรุกขเทวดา
พระอาจารย์ทูล! เล่าถึงอดีตชาติสมัยเกิดเป็นรุกขเทวดา และบอกว่าทำไม เทวดาชั้นต่ำมีโอกาสสร้างบารมีมากกว่าเทวดาฃั้นสูงให้หลวงปู่ขาวฟัง
การไปเกิดบนสวรรค์ชั้นสูง โอกาสที่จะได้สร้างบารมีนั้นยากมาก วันคืนผ่านไปๆ ไม่ได้นึกถึงบุญกุศลอย่างใด มีแต่เสพสุขในกามคุณที่เป็นทิพย์เท่านั้น มนุษย์เขาทำบุญให้ทานรักษาศีลภาวนาอย่างไรก็ไม่เคยรู้เรื่อง ถึงเมืองมนุษย์จะร้องกล่าวบทชุมนุมเทวดาให้มาร่วมบุญกุศล เทวดาขั้นสูงเขาก็ไม่ได้มาร่วมงานด้วย ที่มานั้นเป็นเทวดาชั้นต่ำๆ ที่เรียกว่า รุกขเทวดาและภุมเทวดา นั่นเอง หลวงปู่(หลวงปู่ขาว อนาลโย) พูดว่า ไหนลองเล่ามาให้ฟังซิว่าเขามากันอย่างไร จึงได้เล่าต่อไปว่า
ในสมัยหนึ่งกระผมเป็นหัวหน้าอุบาสกอุบาสิกาอยู่ในเมืองมนุษย์ ได้พาคณะศรัทธาทั้งหลายไปบำเพ็ญกุศลตามวัดต่างๆ และทำประโยชน์ในสาธารณกุศลทั่วไป มีวัดหนึ่งเป็นถ้ำใหญ่ มีพระเป็นจำนวนมาก กระผมได้พาหมู่คณะไปบำเพ็ญกุศลในวัดนี้เป็นประจำ และทำไปจนตราบเท่าอายุขัย เมื่อกระผมตายไป จงได้ไปเกิดเป็นรุกขเทพบุตร ได้ไปอาศัยตันรังใหญ่ต้นหนึ่งในป่าใหญ่แห่งนั้น กระผมสามารถเนรมิตให้ต้นรังใหญ่กลายเป็นปราสาทได้อย่างสวยงาม... -
“ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์”ฉบับแรกของไทย
สธ ร่วมกับ สช. และภาคีความร่วมมือลงนามประกาศใช้ “ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ ฉบับแรกของประเทศไทย” หวังใช้เป็นกรอบดูแลสุขภาวะพระสงฆ์ให้มีสุขภาพดี อายุขัยยืนยาว
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย คือ “ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ” เป็นฉบับแรก โดยทางเถรสมาคมเห็นด้วย กับการประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ฉบับนี้ เพราะปัจจุบันพระสงฆ์ป่วยเป็นโรคต่างๆมากมาย
ซึ่งมีสาเหตุที่สำคัญคือ พุทธศาสนิกชนมักถวายอาหารเฉพาะที่ญาติผู้ล่วงรับชอบทาน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่มีรสชาติหวาด มัน และเค็ม ซึ่งอาหารในกลุ่มนี้หากทานเป็นประจำต่อเนื่องจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไต เบาหวาน ความดัน หลอดเลือด ตามมาได้
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ฉบับนี้ มีหลักปฏิบัติประกอบด้วย 5 หมวด 37 ข้อ คือหมวดที่ 1 ปรัชญาและแนวคิดหลักของธรรมนูญสุขภาพของพระสงฆ์แห่งชาติ หมวดที่ 2 พระสงฆ์กับการดูแลสุขภาพของตนเองตามหลักพระธรรมวินัย หมวดที่ 3... -
สายบุญเฮ วัดดังนำพระเจ้าดวงดี ให้กราบนมัสการครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดดวงดี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใกล้กับอนุสาวรีย์สามกษัตริย์กลางเมืองเชียงใหม่ พระปลัดอาทิตย์ อภิวฑฒโน เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะตำบลศรีภูมิ ได้นำพระเจ้าดวงดี องค์จริง พระพุทธรูปสำคัญคู่วัดและเมีองเชียงใหม่ ออกมาให้ประชาชนได้กราบไหวสักการะ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี และไม่เคยนำออกมาไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนมีเพียงองค์จำลองตั้งให้กราบไหว้แทน แม้กระทั่งพระและสามเณรในวัดหากไม่ใช้ที่บวชมานานจริงๆก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากใครเห็นและกราบไหว้ขอพระพระเจ้าดวงดี ที่จะดวงดีตลอดทั้งปี โดยเฉพาะพระพักตร์ขององค์งดงามมาก
จากการสอบถามพระลูกวัด บอกว่า หลังจากการบูรณะวิหารเก่าแก่อายุ 650 ปี เมื่อเกือบ40ปีก่อน ก็ไม่มีการนำพระเจ้าดวงดีองค์จริงออกมาให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพรทำบุญ เนื่องจากเป็นประพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัดมีศิลปะสวยงามจึงไม่กล้านำออกมาไว้ในวิหารเกรงจะสูญหาย ไม่กล้าเปิดให้คนเข้าไปชม เพราะมีโบราณวัตถุล้ำค่ามาก แต่ในปีนี้ครบ 650 ปี ของการก่อสร้างวัด การบูรณะปฎิสังขรพระวิหารที่เก่าแก่... -
หลวงปู่ปรีดา(ทุย) ท่านเด็ดขาดที่สุด
หลวงปู่ปรีดา(ทุย) ท่านเด็ดขาดที่สุด
สำนักนี้ยังเข้มข้นในวัตรปฏิบัติ ถึงพริกถึงขิงที่สุดในประเทศไทยเวลานี้…
…หากจะเอ่ยถึงสำนักวัดป่าที่ยังรักษาข้อวัตร และปฏิปทา ธรรมเนียมของพระป่า ที่เข้มข้นที่สุดในยุคนี้คงจะหนีไม่พ้น สำนัก “วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) ” อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ไปได้เลยเนื่องจากเป็นวัดที่คงปฏิปทาสายพระป่า ที่หาได้ยากยิ่งมากในปัจจุบันนี้…โดยมี หลวงปู่ปรีดา (ทุย) ฉนฺทกโร เป็นผู้อบรมสั่งสอน..
…แปลกนะ ลองสังเกตดูซิ ในความดุ ในความเป็นระเบียบ (แต่ลึกๆท่านมีเมตตาตามากๆ) ในความที่ยังรักษาข้อวัตร-ปฏิปทาอย่างเข้มงวดกวดขันอย่างนี้ ทำไมยิ่งทำให้พระ-เณร พากันหลั่งไหลอยากจะเข้ามาอยู่ศึกษาเพื่อจำพรรษากับท่านมากขึ้น..เพราะอะไรก็เพราะพระเหล่านั้นท่านชอบพอใจในข้อวัตรปฏิบัติที่จริงจังที่หลวงปู่วางไว้ และมาเพื่อมุ่งอรรถมุ่งธรรมจริงๆ พระโกโรโกโสอยู่ไม่ได้ พระที่ไม่ชอบข้อวัตร ไม่ชอบภาวนา แบบนี้จะอยู่ไม่ได้ เพราะไม่ยินดีก็จะไม่อยากมาอยู่..ไม่ต้องสงสัยเลยลูกศิษย์หมู่พระเณรในวัดนี้มีแต่พระปฏิบัติกันจริงจัง เหมือนกับว่าท่านเหล่านี้จะไม่ค้างอยู่ในโลกเลย…
….... -
“การสร้างพระบารมีของพระพุทธเจ้า”(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
“…การสร้างพระบารมีของพระพุทธเจ้า…”
…การสร้างพระบารมีของพระพุทธเจ้ามีมากน้อยต่างกัน บางองค์ ๑๖ อสงไขย ๘ อสงไขย ๔ อสงไขย อย่างน้อย ๔ อสงไขย นับไม่ได้ ๔ หน นับไม่ได้ ๑๖ หน นับไม่ได้ ๘ หน เรียกว่าอสงไขยๆ แล้วก็แสนมหากัปๆ เศษด้วยกันทั้งนั้น นี่กว่าจะเต็มสมบูรณ์ความเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าน้ำกว่าจะเต็มตุ่มเต็มถังนี้ก็ ๑๖ อสงไขย กว่าจะเต็มตุ่ม ตุ่มใหญ่ ตุ่มแห่งความเป็นพระพุทธเจ้า บรรจุอรรถธรรมไว้อยู่นั้นหมด พุทธวิสัยความสามารถของพระพุทธเจ้าอยู่นั้นหมด ไม่มีใครมีความสามารถเหมือนพระพุทธเจ้า เพราะเวลาสร้างก็สร้างเอาหนักเอาหนา ฟังซิว่า ๔ อสงไขยนับไม่ได้ถึง ๔ หน ถ้าเราเทียบอย่างทุกวันนี้ก็เรียกว่า ๔ ล้านแล้วอีกแสนมหากัป คำว่ากัปหนึ่งนี้นานแสนนานนะ จึงเรียกว่าหนึ่งกัปอีกด้วยนะ แสนมหากัปอีกด้วย นั่นมากไหม ๔ อสงไขยแล้วยังแสนมหากัปอีก มากขนาดไหน
กัปหนึ่งนี้นานแสนนานกว่าจะนับเป็นกัปหนึ่งได้ กัปหนึ่งกัลป์หนึ่ง นี่ละพระพุทธจ้าแต่ละพระองค์ๆ ทรงพยายามอุตส่าห์ทุกสิ่งทุกอย่าง คอก็ตัดขาดไปได้เลยเพื่อสร้างพระบารมี ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความเสียดาย... -
“กาลามสูตร ต้องใช้สติปัญญาใคร่ครวญก่อน” (หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ)
เรื่อง “กาลามสูตร ต้องใช้สติปัญญาใคร่ครวญก่อน”
(คติธรรม หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ)
หนังสือกาลามสูตรนี้ เป็นพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้วอย่างชัดเจน พระพุทธเจ้าทรงมีพระญาณหยั่งรู้เห็นว่า ในช่วงปลายพระพุทธศาสนา จะมีพุทธบริษัทในยุคนั้นทำการแก้ไขเพิ่มเติม พระธรรมคำสอนของเราจะเกิดความวิบัติ การตีความในพระธรรมวินัยจะไม่ตรงตามหลักความเป็นจริง ถึงจะมีคำอ้างอิงอยู่ว่า นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ก็ตาม นั้นเป็นความอ้างเพื่อให้คนทั้งหลายเข้าใจผิด คิดว่าเป็นพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้อง ถึงจะมีคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ แต่ผู้ตีความในคำสอนของพระพุทธเจ้าก็จะแทรกแซงความเห็นส่วนตัวแฝงเข้าไปมากมายทีเดียว แล้วนำไปเผยแพร่แก่กลุ่มชาวพุทธด้วยกันเป็นอย่างมาก ในยุคสมัยนี้ ถึงจะมีอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมอยู่ ก็มีจำนวนน้อย จะเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้องออกไปเผยแผ่ในที่ต่างๆ เพื่อให้พุทธบริษัททั้งหลายได้รับข้อมูลในหมวดธรรมที่เป็นจริง ก็ไม่ทั่วถึงชาวพุทธทั้งหลายได้ เพราะพุทธส่วนใหญ่ ยังเชื่อถือฝังใจในคำสั่งสอนของครูอาจารย์ตัวเองว่าถูกต้องแล้ว ถ้าครูอาจารย์สอนถูกก็โชคดีไป... -
ปีใหม่นี้เดินทางปลอดภัย! พระคาถาขับรถ แคล้วคลาดปลอดภัย ฉบับหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
ปีใหม่นี้เดินทางปลอดภัย! พระคาถาขับรถ แคล้วคลาดปลอดภัย ฉบับหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี
คาถาขับรถปลอดภัย ภาวนาก่อนเวลาขับรถเดินทางไกล ซึ่งทางที่ดีแล้วก่อนการเดินทางทุกครั้งเราต้องตรวจสอบเช็คสภาพรถของตัวเองทุกครั้ง
คาถาเวลาขับรถบทนี้ เป็นคาถาภาวนาก่อนขับรถ หรือขณะขับรถ เป็นคาถาที่ใช้สวดเวลาเดินทางไกลให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย ของ “หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม” วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี
ตั้งนะโม 3 จบ
(แผ่เมตตาให้เทวดา)
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
ให้ภาวนาไปเรื่อยๆ ในขณะขับรถหรือเดินทางไกล
พระคาถาบทนี้มีพบเห็นอยู่ในหนังสือสวดมนต์ทั่วไป
มีหลายท่านต่างยืนยันมาว่าพระคาถาบทนี้ ภาวนาหรือสวดแล้วเห็นผลจริง เช่น สามารถป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ หรือช่วยบรรเทาจากหนักให้กลายเป็นเบา
หลวงพ่อจรัญกล่าวว่า เวลาขับรถให้ภาวนาพระคาถาบทนี้ ถ้าจะภาวนาเป็นหัวใจก็ภาวนาว่า “เมตตา คุณณัง อรหัง เมตตา”
แหล่งอ้างอิง : หนังสือกฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ วัดอัมพวัน เล่มที่ 7 เรื่องพระภูมิ เจ้าที่
เรียบเรียงโดย
อุทัย เลิกสันเทียะ
http://deep.tnews.co.th/contents/392896 -
กว่าจะมาเป็นองค์พระ! การแกะพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งแร่เหล็กไหล หน้าตัก 39 นิ้ว หนึ่งเดียวในโลก
กว่าจะมาเป็นองค์พระ! การแกะพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งแร่เหล็กไหล หน้าตัก 39 นิ้ว หนึ่งเดียวในโลก ค้นเจอบนดอยสำนักสงฆ์บ้านลั้วะ!
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ครูบาบุญปั๋น ชยานันโท ได้แชร์คลิปวิดีโอการแกะสลักพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งแร่เหล็กใหล หน้าตัก39นิ้ว (หนึ่งเดียวในโลก) ที่ค้นเจอบนดอยสำนักสงฆ์บ้านลั้วะ14หลังคา จ.เชียงราย ซึ่งทางเจ้าของเฟซบุ๊กได้โพสต์คลิปพร้อมทั้งระบุข้อความทั้งหมดเอาไวดังนี้
วันนี้..กว่าจะมาเป็นองค์พระ อัพเดตการแกะพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งแร่เหล็กใหล(หนึ่งเดียวในโลก)หน้าตัก39นิ้ว ..ทุกๆท่านทุกๆคน คงส่งกำลังใจมาทุกขั้นตอนในการแกะ ตอนนี้ครูบาและช่างสุพรรณ(ช่างแกะฝีมือคนเชียงราย)ทุ่มเทสุดฝีมือ เพื่อเป็นพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งคู่พระพุทธศาสนาสืบไป อธิษฐานร่วมกันเน้อสาธุดังๆ..สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ สาธุเจริญพร
ภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ครูบาบุญปั๋น ชยานันโท
เรียบเรียงโดย
อุทัย เลิกสันเทียะ
http://deep.tnews.co.th/contents/392913 -
กาฬสินธุ์สานสัมพันธ์ไทย-กัมพูชารับเศียรพญานาค
กาฬสินธุ์สานสัมพันธ์ไทย-กัมพูชารับเศียรพญานาค
ไทยและกัมพูชา ร่วมสร้างพญานาค 9 เศียรน้ำหนัก 15 ตัน ประทับหน้าพระมหามณฑปมงคลยอดแก้ว วัดป่าพุทธมงคล
ที่บริเวณมหามณฑปมงคลยอดแก้ว วัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พระราชศีลโสภิต (หลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะกรรมการวัด ร่วมกันต้อนรับคณะอัญเชิญพญานาค 9 เศียร และพระพุทธรูปหยกเขียว หยกขาวแกะสลัก ที่เดินทางจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยผ่านมาทางช่องจอม จ.สุรินทร์ ก่อนจะใช้เครนยกลงประดิษฐานหน้าบันไดพระมหามณฑปด้านทิศตะวันออก 1 คู่ ซึ่งต้องค่อยๆยกลงเนื่องจากมีน้ำหนักมากถึงเศียรละ 15 ตันและระวังการสึกกร่อนของลวดลายที่ช่างบรรจงแกะสลักอย่างประณีตบรรจง แต่ก็สามารถยกลงประดิษฐานหน้าบันไดที่กำหนดจุดไว้ด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางเสียงอนุโมทนาของชาวบ้าน
ทั้งนี้ การแกะสลักหินทรายพญานาคดังกล่าว ได้ติดต่อช่างฝีมือในกรุงพนมเปญดำเนินการแกะสลัก ที่ได้รับการประสานงานระหว่างศิษยานุศิษย์ในประเทศไทย คนไทยในประเทศกัมพูชา และชาวกัมพูชา ที่ได้เริ่มดำเนินการแกะสลักตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 60 ที่ผ่านมา เบื้องต้นนำมาถวาย 2... -
ตูนรับล่วงหน้า 17 ล้าน “พระว.วชิรเมธี” ประมูลงานศิลปะสมทบยกย่องตูนจิตโพธิสัตว์
วันที่ 22 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย พระมหาวุฒิชเย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) พระนักเทศชื่อดังจากไร่เชิญตะวัน ได้นำผลงานทางศิลปะที่ชื่อว่า “จิตโพธิสัตว์” หล่อด้วยบรอนซ์กว้าง 11.9 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ออกมาแสดงเพื่อเตรียมนำประมูลสำหรับสนับสนุนการวิ่งการกุศลโครงการก้าวคนละก้าวของตูน บอดี้สแลม ที่กำลังวิ่งอยู่ในเส้นทางระหว่าง จ.ลำปาง-พะเยา และมีปลายทางอยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เบื้องต้นจะวิ่งไปถึงวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง ซึ่งสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ และมีกำหนดวิ่งไปให้ถึงปลายทางที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย ที่เป็นจุดเหนือสุดในประเทศไทยในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ต่อไป
พระมหาวุฒิชัย กล่าวว่าจากการที่ได้รู้จักกับตูน บอดี้สแลม และก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ แล้วพบว่าต่างเป็นคนที่ถ่อมเนื้อถ่อมตนอย่างสม่ำเสมอต้นเสมอปลาย และต่อมาทราบว่าเขาได้วิ่งจนค่าเลือดสูงและอาจถึงแก่ชีวิตได้จากนั้นมีคนนำภาพขณะตูน บอดี้สแลม ทำกายภาพบำบัดด้วยอาการเจ็บปวดจึงอยากช่วยเป็นกำลังใจให้... -
หม้อสองใบไขความจริงในกฎแห่งกรรม
"หม้อสองใบไขความจริงในกฎแห่งกรรม"
ในสมัยพุทธกาล มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วก็เอาแต่ร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า
พระพุทธเจ้าจึงตรัสถามว่า ” ดุก่อน มาณพ เหตุใดเธอจึงร้องไห้เสียใจอยู่เช่นนี้”
ชายผู้นั้นทูลตอบว่า “บิดาของข้าพเจ้าตายจากไปเมื่อวานนี้พระเจ้าข้า”
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “บิดาของเธอตายไปแล้ว จะทำอะไรได้ แม้เธอร้องไห้ไปมากเท่าใดก็ไม่อาจช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาได้”
ชายหนุ่มผู้นั้นจึงกราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้ามาขอพร ขอพระองค์ได้ทรงโปรดช่วยบิดาของข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด”
พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่า “ตถาคตจะทำอะไรให้บิดาของท่านได้
เล่า”
ชายหนุ่มทูลตอบว่า
“พระองค์ต้องทรงทำได้อย่างแน่นอนพระเจ้าข้า ดูแต่พวกนักบวชธรรมดา เมื่อเขาประกอบพิธีกรรมบางอย่าง ก็ยังทำให้คนที่ตายแล้วขึ้นสวรรค์ได้ พระองค์ทรงเป็นผู้มีพลานุภาพ ขอได้ทรงประกอบพิธีให้บิดาของข้าพระพุทธเจ้าได้ขึ้นสวรรค์ด้วยเถิด”
พระพุทธองค์ตรัสว่า
"ท่านจงไปตลาดแล้วซื้อหม้อดินมา 2 ใบ”
ชายหนุ่มดีใจมากเข้าใจว่าพระบรมศาสดาจะทรงประกอบพิธีกรรมให้ เขาจึงไปซื้อหม้อดินมา 2 ใบ... -
ตั้งตนไว้โดยชอบ-พระอาจารย์วิชัย กัมมสุทโธ
"เรายกมันขึ้นมาพิจารณาด้วยสติปัญญา เมื่อรู้ว่าถ้าเราถือแบบนี้เป็นไปเพื่อความทุกข์ จะถือทำไม ทำไมไม่วาง นี้ล่ะคือว่าให้รู้เหตุรู้ผล เหตุอย่างนี้ ผลเป็นอย่างไร เหตุอย่างนี้ ผลเป็นอย่างไร
เมื่อเรารู้แล้วว่าผลเป็นทุกข์ เราจะละทุกข์อย่างไร ก็ละที่เหตุนั่นเอง เมื่อไปถือมั่นความเห็นอย่างนี้เป็นเหตุ มันก็ผลก็คือทุกข์ ก็วางความเห็นนี้ซะ ก็จบ ผลคือทุกข์ก็เกิดไม่ได้ เพราะเหตุไม่มี แค่นี้น่ะ ปัญญาหยิบขึ้นมาวิจัยแค่นี้ ก็จะไม่ทุกข์แล้ว เข้าใจยังล่ะ
ถ้าเราเข้าใจอย่างนี้ ทำไมต้องไปหาเรื่องมาขัดแย้งตัวเองให้ทุกข์ล่ะ อยู่ด้วยความไม่ขัดแย้งในใจตัวเองไม่ได้หรือ นี่คือความไม่เห็นแจ้งในเหตุในผล
นี้ล่ะพระพุทธเจ้าจึงบอก ธรรมของสัตบุรุษ ให้รู้จักเหตุรู้จักผลไง เหตุดีผลดี เหตุไม่ดีผลไม่ดี เมื่อเรารู้เหตุว่าทำอย่างนี้ผลจะเป็นอย่างไร เราก็ละเหตุนั้นเสีย อย่าไปทำมัน ก็จบ ง่าย ๆ เลยนะ ความเห็นอย่างนี้เป็นไปเพื่ออะไร ถ้าเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ ก็เจริญเสีย ถ้าความเห็นนี้เป็นไปเพื่อความทุกข์ ความขัดแย้ง เบียดเบียน ก็ละความเห็นนี้เสีย ก็จบ ง่าย ๆ แค่นั้นน่ะ ง่าย ๆ แค่นี้... -
เทวดาที่เป็นมิจฉาทิฐิ
เทวดาที่เป็นมิจฉาทิฐิ
ถาม : อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องธรรมะเจ้าค่ะ มีคำว่าเทวดาที่เป็นมิจฉาทิฐิ แล้วก็เทวดาที่เป็นสัมมาทิฐิ… ?
ตอบ : คนเขียนนี่ต้องเป็นมิจฉาทิฐิแน่เลย จริง ๆ ก็คือ ไม่ว่าใครก็ตามที่ยังไม่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้า เรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิได้ทั้งหมด
ส่วนท่านที่เป็นมิจฉาทิฐิจริง ๆ เขาจัดเป็นอีกพวกหนึ่ง เรียกว่ามาร
มาร เป็นเทวดาอยู่ชั้นสูงสุดเสียด้วยซ้ำ คืออยู่ที่ชั้น ๖ เขาเป็นผู้ที่มีมิจฉาทิฐิ แต่บังเอิญได้ทำบุญใหญ่ ในเมื่อได้ทำบุญใหญ่ กำลังบุญสูงมาก ส่งให้เขาขึ้นไปถึงขนาดนั้น แต่ว่าความที่เป็นมิจฉาทิฐิ ทำให้ท่านสนุกสนานกับการที่ได้ขัดขวางการทำความดีของคนอื่นเขา
เอาเป็นว่าถ้าหากว่าบุคคลที่เข้าไม่ถึงความเป็นพระอริยเจ้า มีโอกาสที่จะคิดผิด พูดผิด ทำผิดได้เสมอ ลักษณะของการพูดผิด คิดผิด ทำผิด ไปจากสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอน เรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิได้
แต่ว่าเทวดาท่านเป็นผู้ที่ทรงความดีสูงมาก โอกาสที่ท่านจะพลาดยาวเลยนั้นมีน้อย พอถึงเวลามีโอกาสท่านก็สามารถที่จะพลิกกลับมาได้ ขณะเดียวกัน พวกเราทั้งหมดก็เหมือนกัน สามารถเปลี่ยนจากร้ายเป็นดีได้ ขณะเดียวกัน ที่ดี ๆ อยู่... -
รู้จักอารมณ์พระโสดาบันไหม
รู้จักอารมณ์พระโสดาบันไหม
พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตอนอยู่บ้านสายลม มีโยมผู้ชายอยู่คนหนึ่ง ตั้งแต่จุดขายสังฆทานจนถึงจุดที่หลวงพ่อวัดท่าซุงนั่ง เขาพนมมือกล่าวเสียงลั่นมาแต่ไกลเลย
“หลวงพ่อครับ ผมพยายามทำความดี สร้างศาลามากี่หลัง สร้างโบสถ์มากี่หลัง ถวายระฆังมากี่ลูก ทำไมจนป่านนี้ผมยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ละครับ”
หลวงพ่อก็หัวเราะ “โยมรู้จักอารมณ์พระโสดาบันไหม”
“ไม่รู้จักครับ”
“เออ..ซื้อหนังสือตรงข้าง ๆ นั่นนะ ถามเขาว่ามีเล่มไหนมีอารมณ์พระโสดาบัน กลับไปอ่านตรงจุดนั้นแล้วก็ทำเสียมันจะได้เป็น สิ่งที่โยมทำมันเป็นบุญ กำลังบุญมีส่วนเสริมในความดีเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำอะไรให้เราเป็นอย่างที่ต้องการได้หมด โดยเฉพาะความเป็นพระอริยเจ้าต้องทำด้วยตัวเองทั้งนั้น”
แกก็ดีนะ ได้ยินคำแนะนำ ก็หันไปซื้อหนังสือเลย ได้หนังสือก็กราบลาหลวงพ่อไปเลย
เดือนหน้ามาอีก “หลวงพ่อครับ ผมรู้จักอารมณ์พระโสดาบันแล้วครับ” รายงานตั้งแต่ประตูเหมือนเดิม
หลวงพ่อก็ถาม “แล้วเป็นอย่างไร ทำได้หรือเปล่า”
“ไม่ยากครับ ไม่ยาก”
“เออ พยายามทำเอาไว้”
“แต่ผมอ่านไปตรงที่ว่า... -
ขอให้เกิดมาหน้าตาดี
ขอให้เกิดมาหน้าตาดี
ถาม : หลวงพ่อครับ แล้วถ้าบางคนเกิดมาหน้าตาขี้เหร่ แล้วเขาก็พยายามขอให้ชาติหน้าเกิดมาหน้าตาดี ?
ตอบ : ขออย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำด้วย เมื่อสักครู่ได้เปรียบว่า จิตเป็นคนขับรถ ร่างกายเป็นรถ ถ้าเราไปได้รถโปเก เพราะว่าสตางค์เรามีแค่พอซื้อ และเราก็ไม่ขวนขวายหาสตางค์เพิ่ม ก็คงได้แต่รถโปเกคันนั้นต่อไป แต่ถ้าเราขวนขวายหาสตางค์เพิ่ม เราก็จะซื้อรถที่ดีกว่านั้นได้ ก็คือการปฏิบัติความดีใน ศีล สมาธิ ปัญญานั่นแหละ
อย่างเช่นท่านอธิบายไว้ว่า การให้ทานเกิดมาจะรวย การรักษาศีลเกิดมาจะสวย การปฏิบัติภาวนาเกิดมาจะฉลาด ถ้าหากว่าเราอยากจะหน้าตาดี ก็ตั้งหน้าตั้งตารักษาศีลของเราให้ดีไว้ เพราะบุคคลที่จะรักษาศีลได้ จิตต้องประกอบไปด้วยเมตตาพรหมวิหาร ถ้ารักเขา…สงสารเขา….ก็ไม่คิดจะฆ่าเขา รักเขา…สงสารเขา….ก็ไม่คิดลักขโมยเขา รักเขา….สงสารเขา….ก็ไม่คิดล่วงละเมิดสิ่งที่เขารักของที่เขารัก รักเขา….สงสารเขา….ไม่อยากให้เขาเสียใจก็พูดแต่ความเป็นจริง และท้ายสุดรักตัวเอง….สงสารตัวเอง…..ไม่อยากให้ตัวเองสุขภาพไม่ดีหรือขาดสติสัมปชัญญะก็ไม่ไปแตะต้องเรื่องสุราเมรัย
ในเมื่อจิตประกอบไปด้วยเมตตาเป็นปกติ... -
อยู่ในโลกแต่ไม่ติดในโลก
อยู่ในโลกแต่ไม่ติดในโลก
ถาม : แรก ๆ คิดว่าทำไมแต่ก่อนเราคุยกันรู้เรื่อง แต่เดี๋ยวนี้ทำไมคุยกันไม่รู้เรื่อง ?
ตอบ : ประเภทคุยกันคนละเรื่อง เราพยายามจะอิงไปทางด้านศีลธรรม แต่ของเขาเองพยายามจะเลี้ยวเข้าไปหาในเรื่องของประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม ก็เลยคุยกันไม่รู้เรื่อง
ถาม : ทำให้เรามองว่า เอ๊ะ…การที่เราพยายามปฏิบัติธรรมจะทำให้เราแยกตัวเองออกมาหรือเปล่า ?
ตอบ : เรายังอยู่กับโลกแต่เรามีศีลเป็นกรอบ
เคยเห็นน้ำที่อยู่บนใบบัวใบบอนไหม ? กลิ้งไปกลิ้งมาแต่ไม่ติดบนใบบัวใบบอน ลักษณะของการอยู่กับโลกของเราก็ให้อยู่ในลักษณะอย่างนั้น ยังกลิ้งอยู่ในโลกแต่ไม่ติดในโลก ไปสุดขอบของศีลเมื่อไรเราก็เลี้ยวกลับ ปล่อยให้ที่เหลือเป็นเรื่องของกฎของกรรมเข้ามาจัดการก็แล้วกัน เราไม่ได้มีหน้าที่ไปยุ่งด้วย
ถาม : แต่ดีที่หนูได้พิจารณาหลาย ๆ อย่าง ?
ตอบ : ทำไปเถอะ อยากรู้อะไรก็ต้องเข้าไปอยู่วงการนั้น ๆ ถึงจะได้รู้จริง
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
ที่มา วัดท่าขนุน -
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พระราหุล ทำใจเหมือน ดิน น้ำ ลม ไฟ
ทรงให้พระราหุล ทำใจเหมือนดินน้ำไฟลม
พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ได้ตรัสสสอนพระราหุล
ถึงการพิจารณาธาตุ ๕ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ โดยแยกออกเป็นส่วน ๆ ตอนท้าย
ได้ตรัสให้พระราหุลทำใจเหมือน ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ พอสรุปเป็นใจความได้ดังนี้
“๑. ราหุล ! เธอจงทำจิตให้เหมือนแผ่นดินเถิด
เพราะเมื่อเธอทำจิตให้เหมือนแผ่นดินเป็นประจำอยู่เสมอแล้ว
เมื่อกระทบอารมณ์ ที่ชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ดี
อารมณ์เหล่านั้นจะไม่สามารถทำให้จิตใจหวั่นไหวได้
ราหุล ! เปรียบเสมือนคนทั้งหลาย ทิ้งสิ่งของที่สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง
ถ่ายอุจจาระรดบ้าง ถ่ายปัสสาวะรดบ้าง บ้วนน้ำลายรดบ้าง เทสิ่งของสกปรกอื่นลงบ้าง
ลงที่แผ่นดิน แต่แผ่นดินจะอึดอัดระอา หรือรังเกียจด้วยสิ่งของนั้น ๆ ก็หาไม่ ฉันใด ?
ราหุล ! เธอจงทำจิตให้เสมอแผ่นดินฉันนั้นแล
เพราะเมื่อเธอทำจิตให้เหมือนแผ่นดินอยู่
เมื่อมีการกระทบกับอารมณ์เกิดขึ้น
ความรักหรือความชัง ก็จะไม่สามารถครอบงำจิตเธอได้ฉันนั้น
๒. ราหุล ! เธอจงทำจิตให้เหมือนน้ำเถิด
เมื่อเธอทำจิตให้เหมือนน้ำแล้ว
จะไม่เกิดความชอบหรือความชัง ครอบงำจิตได้
ราหุล !... -
วิจัย”มจร”พบวิธีปลูกฝังยั้งคิดแก้ทะเลาะวิวาท
วิจัย”มจร”พบวิธีปลูกฝังยั้งคิดแก้ทะเลาะวิวาทสำหรับนักเรียนอาชีวศึกษาตามแนวพุทธ
วันที่ 21 ธ.ค.2560 พระปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า ได้ร่วมสัมมนาประชาวิจารณ์ดุษฏีนิพนธ์ สาขาพระพุทธศาสนาภาคพิเศษ บัณฑิตวิทยาลัย มจร ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยการวิจัย โดมีผศ.ดร.ประพันธ์ ศุภษร ผู้อำนวยการหลักสูตรพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย มจร กล่าวเปิด มีผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกคือ ผศ.ดร.วุฒินันท์ กันทะเตียน จากมหาวิทยาลัยมหิดล และผศ.ดร.อุทัย สติมั่น จากมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นผู้วิจารณ์ และดร.ตวงเพชร สมศรี เป็นผู้ดำเนินรายการ
การสัมมนาประชาวิจารณ์ดุษฏีนิพนธ์มีประเด็นเรื่องน่าสนใจ 2 เรื่อง คือ 1)เรื่อง “กระบวนการปลูกฝังการยั้งคิดเพื่อแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษาตามแนวพุทธ” โดยพระภิญโญ ตสฺสนาโม นิสิตปริญญาเอก สาขาพระพุทธศาสนา นำเสนอว่า รูปแบบในการแก้ปัญหานักเรียนทะเลาะวิวาท ด้วยการใช้หลักโยนิโสมนสิการในแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษา ผลการวิจัยพบรูปแบบในการแก้ปัญหา 4 ประการ คือ 1)รูปแบบโยนิโสมนสิการ... -
หลวงปู่ดู่กับหลวงพ่อเกษม ๒พระอริยเจ้าผู้จุดประทีปในใจมหาชน
“…เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2531 วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้าแต่งหน้ากำลังจะไปรับลูกที่โรงเรียน ก็สังเกตเห็นว่าคอของตนเองบวมจึงไปโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพื่อทำการตรวจ แพทย์พบว่ามีก้อนเนื้อขนาด เท่าลูกมะปรางอยู่ในคอ แพทย์บอกว่าอาจจะเป็นเนื้อร้ายต้องผ่ามาพิสูจน์ เมื่อรู้ดังนั้นข้าพเจ้าก็รีบเดินทางไปหาหลวงพ่อดู่ที่วัดสะแก พอไปถึงก็กราบเรียนท่าน ท่านพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่ปงไม่เป็นหรอกมะเร็ง”
แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่ามีชาวบ้านมาหาท่าน เขาเป็นมะเร็งในมดลูก ท่านทำมือให้ดูว่าก้อนเนื้อมีขนาดเท่าลูกส้มโอ หมอบอกว่าต้องผ่าตัด เขากลัวมากเลยมาหาท่าน ท่านก็เมตตาให้เขาดื่มน้ำมนต์และให้ภาวนาไปด้วย
ชาวบ้านผู้นั้นก็ปฏิบัติตามคือดื่มน้ำมนต์และภาวนาพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ อย่างเคร่งครัดจนครบ 3เดือนก็ไปหาหมอตรวจดูปรากฏว่าก้อนเนื้อนั้นได้หายไปอย่างน่าอัศจรรย์
หลังจากที่ท่านเล่าให้ฟังแล้วท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตดอกบัวให้ข้าพเจ้านำกลับไปต้มกับ
น้ำมนต์ ดื่มเป็นประจำทุกวันและให้ภาวนาไตรสรณคมน์ไปด้วย คืนหนึ่งข้าพเจ้านอนหลับฝันไปว่า ข้าพเจ้ากับสามีนั่งอยู่ในเรือลำหนึ่งโดยนั่งข้างหน้าและมีคนนั่งอยู่กัน เต็มลำ... -
บทสวดมนต์นมัสการ.."พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์"พระนามพระพุทธเจ้าตั้งแต่องค์แรกถึงองค์ปัจจุบัน
บทสวดมนต์นมัสการ.."พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์"พระนามพระพุทธเจ้าตั้งแต่องค์แรกถึงองค์ปัจจุบันโบราณจารย์ท่านถือว่าเป็นพระคาถาแก้วสารพัดนึก
บทสวดมนต์นมัสการพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓จบ )
นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส
สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ
สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
โสภีโต คุณะสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม
ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถี
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฏิปุคคะโล
สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท
สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม
สิขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห
กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยะปุงคะโว ฯ
เตสาหัง สิระสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตะเม วะจะสา มะนะสา เจวะ
วันทาเมเต ตะถาคะเต สะยะเน อาสะเน ฐาเน คะมะเน จาปิ สัพพะทา... -
"น้ำมนต์ธรณีสารหลวงล้านนา"อานุภาพยิ่งใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทำเอง กินเอง อาบเอง..เห็นผลชะงัด
ล้างอาถรรพ์ คุณไสย ให้ออกไป.."น้ำมนต์ธรณีสารหลวงล้านนา"อานุภาพยิ่งใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทำเอง กินเอง อาบเอง..เห็นผลชะงัด..แน่นอน
คาถาทำน้ำมนต์ธรณีสารหลวงล้านนา
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓จบ)
พุทธังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิพุทธังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิธัมมังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิสังฆังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิพุทธังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิธัมมังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิสังฆังชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัเวทิตัพโพ วิญญูฮีติ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต... -
สภาวะพระนิพพาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
*** สภาวะพระนิพพาน ***
ใจความในหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน (ชุดเก่า)
เล่าเรื่องโดยหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ) ตอนหนึ่งว่า ….
เมื่อเห็นทางสวยระรื่นฉันก็เดินไป เดินไปแล้วก็ไปเข้าวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งกำแพงก็เป็นแก้ว คล้าย ๆ แก้วผสมทอง แลดูเหลืองเลื่อมอร่าม พื้นที่ก็เหมือนแก้วผสมทอง ไปดูก็เจอะหอระฆังหลังหนึ่ง แต่ว่ามีกุฏิอยู่ ๓ หลังแต่ว่าไม่เหมือนกุฏิ แต่มันสวยเหลือเกิน มียอดระยิบระยับแพรวพราว แต่ละหลังสวยงามมาก มองเท่าไรก็สวยงาม แต่ฉันรู้สึกว่าอ่อนเพลียมาก ไปอย่างคนไม่มีแรง
เมื่อไปถึงที่ตรงนั้นแล้วก็เลยนั่งพักอยู่ที่หอระฆัง รู้สึกว่าอากาศมันเย็นสบาย ก็เลยเอนกายลงนอน เมื่อนอนลงไปแล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เห็นพระองค์หนึ่งมีฉัพพรรณรังสีรัศมีทั้ง ๖ ประการผ่องใส เดินมาทางด้านทิศตะวันออก พอถึงกำแพง ท่านไม่ได้ลอดประตู พอถึงกำแพง กำแพงมันแยกออกไป เปิดเป็นช่องให้ท่านเดินเข้ามา เมื่อท่านเดินเลยมาแล้ว กำแพงมันก็ติดกันเข้าไป ท่านก็เดินตรงมาหาฉัน
ฉันรู้เลยทีเดียวว่าองค์นี้คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าพระพุทธเจ้าเห็นแล้วย่อมไม่เหมือนใคร มีรัศมีทั้ง ๖ ประการ พวยพุ่งจากพระวรกาย พระอื่นไม่มี... -
พศ.-มส.-สสส. มอบให้วัดใหญ่ กทม. เป็นศูนย์กลางจัดสวดมนต์ข้ามปี 2560
พศ.-มส.-สสส. มอบให้วัดใหญ่ กทม. เป็นศูนย์กลางจัดสวดมนต์ข้ามปี 2560 ขณะที่ "พงศ์พร" ยัน มส. ไม่ได้ห้ามบวชแก้บน พร้อมไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติฯ ปรับเนื้อหาเทียบวุฒิบาลี-ปริญญา...
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม พศ.ร่วมกับมหาเถรสมาคม (มส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวจัดสวดมนต์ข้ามปี วิถีพุทธ ร้อยใจไทย ด้วยแสงธรรม โดย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. กล่าวว่า มส.มีมติให้ทุกวัดทั่วโลกจัดกิจกรรมดังกล่าวในวันที่ 31 ธ.ค. โดยส่วนกลางมีพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลาง ร่วมกับ 11 วัด คือ 1. วัดราชบพิธฯ 2. วัดไตรมิตรฯ 3. วัดเทพศิรินทร์ 4. วัดพิชยญาติการาม 5. วัดประยุรวงศาวาส 6. วัดสามพระยา 7. วัดยานนาวา 8. วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก 9. วัดคลองเตยใน 10. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ 11. วัดสระเกศ ส่วนภูมิภาคให้คณะสงฆ์ร่วมกับส่วนราชการกำหนดวัดศูนย์กลางตามความเหมาะสม ทั้ง พศ.ยังได้ตั้งศูนย์ประสานงาน โทร.0-2441-7998 พร้อมทั้งเตรียมโปสการ์ดคำอำนวยพรปีใหม่จาก สมเด็จพระสังฆราช แจกผู้เข้าร่วมงานด้วย
พระพรหมเมธี โฆษก มส. กล่าวว่า... -
วธ.จัดสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ-วัดทั่วโลก เสริมมงคลปี 61
วธ.จัดสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ-วัดทั่วโลก เสริมมงคลปี 61
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงปีใหม่นี้ วธ.ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชน จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2561 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน 11 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.สวดมนต์ข้ามปี ในวัดทั่วประเทศและต่างประเทศ คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560
2.ไหว้พระ10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดวชิรธรรมสาธิต วันที่ 31 ธันวาคม 2560 –1 มกราคม 2561 เวลา 08.00 – 16.30 น. ซึ่ง วธ. ร่วมมือกับ ขสมก.จัดรถให้บริการรับ-ส่งฟรี
3.สักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “ทศพุทธปฏิมาธิราช” อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 10 องค์ ได้แก่ 1.พระพุทธสิหิงค์ ปางสมาธิ 2.พระพุทธรูปทรงเครื่องแสดงวิตรรกมุทราสองพระหัตถ์ 3.พระพุทธ รัตนมหามุนี (พระแก้วน้อย) ปางประทานพร 4.พระไภษัชยคุรุ... -
รวมพุทธวจนะธรรมบทมหายานของพระอาจารย์จีนวินยานุการ(เย็นอี่)
สรรพสิ่งทั้งหลายมีใจเป็นผู้นำ มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้ามนุษย์ทั้งหลายพูด หรือทำด้วยใจชั่ว ความทุกข์ย่อมติดตามตัวเขา เหมือนล้อเกวียนหมุนตามเท้าโคฉะนั้น
สรรพสิ่งทั้งหลายมีใจเป็นผู้นำ มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้ามนุษย์ทั้งหลายพูด หรือทำด้วยใจบริสุทธิ์ ความสุขย่อมติดตามเขา ดุจดั่งเงาตามตน ฉะนั้น
พระพุทธวจนะธรรมบทมหายาน คัดจากหนังสือพุทธวจนะมหายานธรรมบทไทย-จีน ของพระอาจารย์จีนวินยานุการ(เย็นอี่)เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เย็น และนาย สุชิน ทองหยวก -
แม่ชีทองสุขผู้เบิกบานกับการให้ทาน
แม่ชีทองสุขผู้เบิกบานกับการให้ทาน จากทรัพย์ภายนอกพัฒนาสู่ทรัพย์ภายใน
แม้จะเสร็จสิ้นลงแล้ว สำหรับโครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนานาชาติถวายเป็นพระราชกุศล ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีนิสิตทั้งพระภิกษุ ภิกษุณี สามเณรี แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมประมาณ 130 รูป/คน ได้รับความเมตตาจาก ดร.สยาดอภัททันตะวิโรจนะ มหาคันถวาจกบัณฑิต มหากัมมัฏฐานาจริยะ สำนักวิปัสสนาวัดงุยเตาอูกัมมัฏฐาน ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน สหภาพเมียนมาร์ เป็นประธานนำฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและแสดงธรรมแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ
เป็นโครงการที่เป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาของมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดโดยวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติร่วมกับหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ภายใต้การนำของพระหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้ช่วยอธิการบดี ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติและผู้อำนวยการหลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษา มจร ระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค. 2560 ซึ่งมีผู้สนใจร่วมสนับสนุนอาหาร-น้ำปานะผู้ปฏิบัติธรรมตลอดเวลาในจำนวนนี้มีแม่ชีทองสุข นามเจ็ดสี จากประเทศฮ่องกง รวมอยู่ด้วย
พระปราโมทย์... -
นักวิจัยเตือน “ญี่ปุ่น” อาจเกิดเเผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เเรงถึง 9 เเมกนิจูด !
เเฟ้มภาพ AFP Photo/Kazuhiro Nogi
คณะวิจัยญี่ปุ่น เเจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น โดยอาจมีความรุนแรงถึงระดับ 9 เเมกนิจูด นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอกไกโด
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะวิจัยแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าในอนาคตอันใกล้นี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 แมกนิจูดในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ทางเหนือสุดของประเทศ โดยจะส่งผลทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นเเล้วเมื่อราว 400 ปีก่อน เเละบริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะฮอกไกโดจะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในวงรอบ ทุก 340 – 380 ปี
นายนาโอชิ ฮิราตะ อาจารย์มหาวิทยาลัยโตเกียว หัวหน้าของคณะวิจัยชุดนี้ ระบุว่า มีความเป็นไปได้อยู่ระหว่าง 7- 40 % ที่จะเกิดเเผ่นดินไหวขนาด 9.0 เเมกนิจูดในช่วง 30 ปีข้างหน้า เเละแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจังหวัดอาโอโมริ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ขณะที่นายโยชิมะซะ ฮายาชิ รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น หวังว่าการคาดการณ์ของการวิจัยนี้... -
หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่สิม คือลูกหลานโพธิสัตว์!! คำยืนยันจากนิมิตหลวงปู่มั่น
หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่สิม คือลูกหลานโพธิสัตว์!! คำยืนยันจากนิมิตหลวงปู่มั่น เมตตาผูกพันกับชาวภูไทเป็นพิเศษ เพราะสืบเชื้อสายจากพระเวสสันดร
ผู้เล่าเคยสังเกต ดูท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จะไม่คลุกคลีด้วยกับบุคคลผู้มักเอาเปรียบ ข่มเหง รังแกสัตว์ โดยเฉพาะพวกฉ้อราษฏร์บังหลวงถึงไม่มีใครบอกท่านๆ ก็รู้ เข้าไปหา ท่านจะเฉยๆ ไม่ค่อยพูดด้วย ไม่ยินดีต้อนรับ
ส่วนชนต่างชาติต่างภาษา ก็มีพม่าที่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จะยอมรับและเคยไปจำพรรษา ส่วนชาวยุโรปดูจะเมตตาชาวรัสเซียเป็นพิเศษเพราะเหตุใดก็สุดวิสัยจะเดาได้
ส่วนภูมิประเทศที่ไม่เป็นสัปปายะแก่ท่าน หากไม่มีความจำเป็นแล้วท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ก็จะไม่ไป เช่น อุบลราชธานี ผู้เล่าได้กล่าวไว้ว่า หลังจากท่านกลับจากลพบุรีสู่กรุงเทพฯ แล้ว ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้สนทนากับท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ (จันทร์ สิริจนฺโท) ว่า มีวาสนาจะสอนหมู่ได้ไหม แล้วท่านก็กลับอุบลฯ ไปยังวัดพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล พร้อมด้วยพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาขโมและพระมหาปิ่น ปัญญาธโร
ระหว่างเดินธุดงค์รุกขมูลอยู่ถิ่นอุบลฯ ถูกต่อต้านจากชาวบ้านอย่างแรงด้วยวิธีการต่างๆ สารพัด ท่านว่า... -
แนะพุทธศาสนิกชนถวายอังสะไหมพรม หมวกไหมพรม แด่พระภิกษุสงฆ์
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าช่วงนี้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศมีสภาพอากาศหนาวเย็นจนอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย ทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ในขณะที่กลุ่มพระภิกษุสงฆ์ก็เช่นเดียวกัน และพบว่าพระสงฆ์ร้อยละ 60 เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ถือปฏิบัติเคร่งครัดยังครองจีวรแบบปกติ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันเสี่ยงอาการอาพาธได้ง่าย ทั้งโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไซนัส คออักเสบและปอดอักเสบ รวมถึงภาวะแทรกซ้อน เป็นอันตรายได้
แพทย์ขอให้พระสงฆ์รักษาสุขภาพและปฏิบัติกิจออกกำลัง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เช่น กวาดลานวัดและฉันอาหารให้ครบ 5 หมู่
ด้าน นายแพทย์สมนึก อร่ามเธียรธำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ ระบุสิ่งพื้นฐานจำเป็นที่พุทธศาสนิกชนที่จะทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ในช่วงฤดูหนาว ควรเลือกสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นและเครื่องนุ่งห่มที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เช่น อังสะไหมพรม หรือเสื้อกันหนาว, หมวกไหมพรม ถุงมือถุงเท้า ผ้าห่มที่เป็นเครื่องใช้ที่มีสีเดียวกับจีวร อนุโลมให้ใช้ได้ในฤดูหนาว ที่สำคัญควรพิถีพิถันสิ่งของที่มีประโยชน์ เช่น...
หน้า 299 ของ 406