คลังเรื่องเด่น
-
ความจริง 12 ประการของ “พระพุทธเจ้า” ที่คุณอาจไม่เคยรู้ !
1. พระพุทธเจ้าไม่ได้มีองค์เดียวแต่มีมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ชื่อโคดมพระพุทธเจ้า องค์ต่อไป ชื่อพระศรีอริยเมตไตรในยุคที่คำสอนของพุทธศาสนายังดำรงอยู่จะไม่มีพระพุทธเจ้ากำเนิดในช่วงเวลาเดียวกัน
2. ในพระไตรปิฎกมีนามของพระพุทธเจ้า 29 องค์ ที่อยู่ในช่วง 4 อสงไขย 100,000 กัป ที่ผ่านมา (1 อสงไขย = 1 แล้วตามด้วยศูนย์อีก 140 ตัว)
3. การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้นั้นต้องบำเพ็ญบุญบารมีนานมาก ความตั้งใจนี้ เรียกว่า การปรารถนาพุทธภูมิ มีอยู่ 3 ช่วง ได้แก่
ช่วงคิดปรารถนาอยู่ในใจไม่ได้เอ่ยปาก
ช่วงเปล่าวาจาต่อหน้าพระพุทธรูป
ช่วงหลังจากได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า
ช่วงที่ 1 และ 2 สามารถเปลี่ยนคำปรารถนาได้ ถ้าบุญบารมีมากพอก็จะสามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้เลย แต่หลังจากได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วจะล้มเลิกไม่ได้
4. พระพุทธเจ้ามี 3 ประเภท หากแบ่งตามเส้นทางการสะสมบารมี ได้แก่
ปัญญาธิกพุทธเจ้า สะสมบารมีโดยใช้ปัญญา ใช้เวลาสะสมบารมี 20 อสงไขย 100,000 กัป (การเจริญปัญญาได้บุญบารมีสูงเลยเต็มเร็ว)
สัทธาธิกพุทธเจ้า สะสมบารมีโดยใช้ศรัทธา ปัญญาปานกลาง ใช้เวลาสะสมบารมี 40 อสงไขย... -
พระราชภาวนาโกศล มรณภาพแล้วอย่างสงบ ศิษย์เอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง องค์ที่ 7
พระราชภาวนาโกศล มรณภาพแล้วอย่างสงบ ศิษย์เอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง องค์ที่ 7 ผู้สืบทอดธรรมะมโนยิทธิ ด้วยอาการอาพาธ ที่ รพ.บำรุงราษฏร์
เมื่อวันที่ 11 ก.พ . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้ดูแลพระราชภาวนาโกศล (อนันต์พทฺธญาโณ) เจ้าอาวาสวัดจันทราราม หรือ วัดท่าซุง หมู่ที่ 2 ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี ได้เปิดเผยกับลูกศิษย์ ว่า หลวงพ่อได้มรณภาพลงแล้วด้วยอาการสงบเมื่อเวลา 04.49 น. ที่ โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการอาพาธ มานานหลายเดือนโดยความดันโลหิตได้ตกลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับพระราชภาวนาโกศล เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าซุง เมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยเป็นเจ้าอาวาส องค์ที่ 7 ต่อจากพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือ หลวงพ่อฤาษี ลิงดำ เกจิชื่อดังมีลูกศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ ซึ่งพระราชภาวนาโกศล ถือเป็นพระนักพัฒนาคนและเป็นผู้สืบสานเผยแพร่ศาสนาและหลักธรรมคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือที่รู้จักกันดีว่า “มโนยิทธิ” ให้ประชาชนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมากมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศ และยังเป็นพระนักพัฒนา ให้วัดท่าซุงจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจ.อุทัยธานี ได้แก่... -
การทำบุญที่ถูกต้อง และเกิดอานิสงส์มากที่สุด
บุญที่ถูกลืม
พระไพศาล วิสาโล
“คุณนายแก้ว” เป็นเจ้าของโรงเรียนที่ชอบทำบุญมาก เป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าทอดกฐินอยู่เนือง ๆ ใครมาบอกบุญสร้างโบสถ์วิหารที่ไหน ไม่เคยปฏิเสธ เธอปลื้มปิติมากที่ถวายเงินนับแสนสร้างหอระฆังถวายวัดข้างโรงเรียน แต่เมื่อได้ทราบว่านักเรียนคนหนึ่งไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ค้างชำระมาสองเทอมแล้ว เธอตัดสินใจไล่นักเรียนคนนั้นออกจากโรงเรียนทันที
“สายใจ” พาป้าวัย ๗๐ และเพื่อนซึ่งมีขาพิการไปถวายภัตตาหารเช้าที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเจ้าอาวาสเป็นที่ศรัทธานับถือของประชาชนทั่วประเทศ เช้าวันนั้นมีคนมาทำบุญคับคั่ง จนลานวัดแน่นขนัดไปด้วยรถ เมื่อได้เวลาพระฉัน ญาติโยมก็พากันกลับสายใจพาหญิงชราและเพื่อนผู้พิการเดินกะย่องกะแย่งฝ่าแดดกล้าไปยังถนนใหญ่เพื่อขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นมีรถเก๋งหลายสิบคันแล่นผ่านไป แต่ตลอดเส้นทางเกือบ ๓ กิโลเมตร ไม่มีผู้ใจบุญคนใดรับผู้เฒ่าและคนพิการขึ้นรถเพื่อไปส่งถนนใหญ่เลย
เหตุการณ์ทำนองนี้มิใช่เป็นเรื่องแปลกประหลาดในสังคมไทย “ชอบทำบุญแต่ไร้น้ำใจ” เป็นพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไปในหมู่ชาวพุทธ... -
ความกล้าจะเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จ
ความกล้าจะเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จ (คุยกับเด็กนักเรียน)
ถาม : หนูกลัวว่าจะทำไม่ได้อย่างที่ทางบ้านหวังไว้ ?
ตอบ: อะไรที่ยังไม่ได้ทำอย่าเพิ่งคิดว่าเราทำไม่ได้ ในชีวิตของหลวงพ่อยังไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่บางอย่างไม่เคยทำมาก่อน จำไว้ว่าเราต้องกล้า ความกล้าในการที่เราจะทำสิ่งต่าง ๆ จะเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จ คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่อยู่ตรงที่กล้าหรือไม่ การที่เราทำอะไรถูกต้องหรือว่าผิดพลาด เราไม่มีอะไรจะเสีย..จำไว้..มีแต่ได้อย่างเดียว ทำถูกได้กำไร ทำผิดได้บทเรียน
โทมัส อัลวา เอดิสัน ทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้าไป ๒๐๐ กว่าครั้งแล้วไม่สำเร็จ ลูกศิษย์บอกว่า "อาจารย์ครับ เราล้มเหลวมา ๒๐๐ กว่าครั้งแล้ว อาจารย์ยังจะทำอีกหรือ ?" เอดิสันบอกว่า "ใครว่าฉันล้มเหลวมา ๒๐๐ กว่าครั้ง ? ฉันประสบความสำเร็จ ได้ความรู้เพิ่มมาอีก ๒๐๐ กว่าครั้ง รู้ว่า ๒๐๐ กว่าทางนี้ทำไม่ได้ เราก็หาทางใหม่" คนที่ประสบความสำเร็จเขามีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกับเรา นึกออกไหม ? ผิดพลาดมา ๒๐๐ ครั้งนั่นก็คือกำไร เราไม่ต้องไปทดลอง ๒๐๐ ครั้งนั้นอีก เพราะรู้ว่าผิดแน่ เราก็เริ่มครั้งที่ ๒๐๑
โน่น..ทิศตะวันออกอยู่ทางด้านโน้น... -
รีสอร์ตหรูบนเกาะสมุยยอมย้าย “เศียรพุทธรูป”ออกจากชายหาดแล้ว
หลังจากชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่รีสอร์ตหรูบนเกาะสมุยนำเศียรพระพุทธรูปมาตั้งไว้ริมชายหาด และวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ ล่าสุดรีสอร์ตดังกล่าวได้ยอมย้ายเศียรพระพุทธรูปที่ตั้งไว้บนชายหาดออกแล้ว
เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์รูปภาพเศียรพระพุทธรูปตั้งโชว์อยู่บนชายหาดของรีสอร์ตหรูแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จนชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารย์ถึงความไม่เหมาะสม ทำให้มีนักท่องเทียวต่างชาติที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมชาวพุทธเข้าไปถ่ายรูปในอิริยาบถต่างๆ ทั้งโอบกอด นุ่งบิกินี่ และถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธรับไม่ได้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ
ต่อมามีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานจากทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 พื้นที่อ.เกาะสมุย ฝ่ายปกครองอำภอเกาะสมุย วัฒนธรรมอำเภอเกาะสมุย และเทศกิจเทศบาลนครเกาะสมุย ร่วมตรวจสอบกรณีชาวบ้านร้องเรียนการนำเศียรพระพุทธรูปวางในที่ไม่เหมาะสม บริเวณหน้ารีสอร์ตดังกล่าว พบมีการนำเศียรพระพุทธรูปวางไว้บริเวณชายหาด... -
ยมบาลมีจริง ?!! "พ่อเฒ่าวัย ๗๑ ปี" หลังตายแล้วฟื้น ตรงกับคำบอกเล่าของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" !!
ยมบาลมีจริง ?!! จากคำบอกเล่าของ "พ่อเฒ่าวัย ๗๑ ปี" หลังตายแล้วฟื้น สุดอึ้ง!! สาส์นลับที่ได้จากยมบาล ตรงกับคำบอกเล่าของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" !!
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ ( ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) มีการรายงานว่า มีพ่อเฒ่าวัย ๗๑ ปี ที่จังหวัดสุรินทร์ ตายแล้วฟื้น หลังจากที่ครอบครัวร่วมสวดบท อิติปิโส ภาวนาจนเกิดมีปาฏิหาริย์ กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง และเมื่อพ่อเฒ่าวัย ๗๑ ปี ฟื้นขึ้นมา ก็ได้เล่าให้ครอบครัวฟังว่า ช่วงที่ตายตนไปไปท่องแดนยมบาล พบมีแต่คนหมอบคลานเต็มไปหมด ตนนอนอยู่ในโลงศพ ยมทูตได้ปลุกให้ลุกขึ้น พร้อมกับบอกตนว่า ให้กลับขึ้นมาบอกลูกบอกหลาน ให้ช่วยกันหมั่นทำบุญทำกุศล สลึง ห้าสิบสตางค์ก็ทำบุญได้ เวลาเห็นพระเดินบิณฑบาตอย่างพากันเดินหนี ตนไม่เคยทอดกฐิน เพียงแต่เคยไปวัดทำบุญสม่ำเสมอ ตนตื่นมาก็เห็นสายสินธ์ผูกมัดข้อมือเต็มไปหมด จึงถามยายว่าตนเป็นอะไร ตนตายไปแล้วแต่ยมบาลให้กลับมาคืน เพราะลูกหลานทำพิธีบายเสรย สวดอิติปิโส ภาวนา ๗๗ รอบ จนเกิดมีปาฏิหาริย์ กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เพื่อมาบอกและเน้นย้ำ ให้ลูกหลานและชาวบ้านทุกคน หมั่นทำบุญ ทำกุศลและสร้างความดี... -
วัดใจในป่าช้า!"หลวงปู่ชา"อยากได้ธรรมะ ยอมปักกลดอยู่ใกล้ศพ พบความกลัวขั้นสุด ทำเอาน้ำตาไหล!!
ในหนังสือ “ใต้ร่มโพธิญาณ พระโพธิญาณเถร(ชา สุภทฺโท)” วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งคณะศิษย์ได้ร่วมเรียบเรียงขึ้น จากงานเขียนเก่าของครูบาอาจารย์ จากธรรมเทศนาของหลวงพ่อในแถบเสียง และการบอกเล่าจากญาติมิตรของท่าน มีอยู่ตอนหนึ่งคือ “ประสบการณ์ในป่าช้า"
หลวงพ่อเกิดความสนใจ ใคร่จะศึกษาดูว่า การอยู่ป่าช้าจะช่วยขัดเกลากิเลสได้อย่างไร หลวงพ่อเล่าถึงประสบการณ์ที่ป่าช้าในครั้งนั้นว่า...
" ...วันนั้นตอนบ่ายๆ ตั้งใจว่าคืนนี้จะไปภาวนาในป่าช้า พอจะไปจริงๆ ใจชักไม่อยากไปซะแล้ว ก็บังคับมัน คิดว่าถ้าจะตายก็ยอมตายเพราะมันลำบากนัก มันโง่นัก พูดในใจ อย่างนี้... พอไปถึงป่าช้า ปะขาวแก้วจะมาพักใกล้ๆ ก็ไม่ยอม ให้ไปอยู่ไกล ๆ โน่น ความจริงแล้ว อยากให้มาอยู่ใกล้ ๆ เป็นเพื่อนกัน แต่ไม่เอาเดี๋ยวตัวเองจะอาศัยเขา กลัวนักก็ให้มันตายเสียในคืนนี้ พอค่ำลง เขาหามศพมาฝังพอดี ทำไมถึงเหมาะเจาะอย่างนี้.. คิดอยากจะหนี.. เขานิมนต์ให้สวดมาติกาก็ไม่เอา เดินหนีไป... มันกลัว... เดินก็แทบไม่รู้สึกว่าเท้าแตะดิน
สักพักก็เดินกลับมา เขาเอาศพฝังไว้ใกล้ๆ แล้วยังเอาไม้ไผ่ที่หามศพมาทำเป็นร้านให้นั่ง...... -
อดทนทำความดี ผลจะปรากฏในชาตินี้เอง
อดทนทำความดี ผลจะปรากฏในชาตินี้เอง
ถาม : ทำบุญมาก็เยอะแล้ว แต่มีปัญหาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ความรักหรือสุขภาพ ทำสังฆทานมาหลายปี แต่ก็ยังแย่อยู่เหมือนเดิมครับ ขอความกรุณาจากหลวงพ่อ ?
ตอบ : สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นผลจากการกระทำในอดีต สิ่งที่เราทำในปัจจุบันจะเป็นผลสืบไปในอนาคต เพราะฉะนั้น..ต้องทนทำความดีไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอ ผลก็จะปรากฏให้แก่เราในชีวิตนี้ เพราะว่าเราทำตอนนี้ พ้นจากวินาทีนี้ไปก็เป็นอดีตไปแล้ว ตรงนี้แหละที่จะตามเราไปถึงอนาคต ส่วนปัจจุบันที่เดือดร้อนอยู่เพราะว่าอดีตเราทำกรรมไม่ดีเอาไว้ ฉะนั้น..แก้ไขปัจจุบันให้ดี พยายามอดทนทำในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญาไปเรื่อย ๆ ถ้าต่อเนื่องยาวนานพอเดี๋ยวปัจจุบันชาติก็ดีเอง ไม่มีอะไรยากหรอก
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนธันวาคม ๒๕๕๒ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
ที่มา วัดท่าขนุน -
เตรียมเสนอ"มส."รับโล่สันติภาพโลกที่สวีเดน
เตรียมเสนอ"มส."รับโล่สันติภาพโลกที่สวีเดน 30 มิถุนายนนี้
ตามที่ประเทศสวีเดนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสันติภาพโลก ที่กรุงสตอกโฮล์ม ในวันที่ 30 มิถุนายน 2561 นั้น เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดประชุมได้จัดประชุมเตรียมการ โดยมีตัวแทนองค์กรสันติภาพสากลประกอบด้วยนางอิงมารี เฮดแบร์ (Ing-Marie Hedberg) ประธานสันติภาพสากลประเทศสวีเดน และคณะกรรมการจัดประชุมโดยมีพระวิเทศปุญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม ในฐานะเลขานุการและกรรมการบริหารสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป เข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ที่ประชุมได้สรุปโปรแกรมงานรอบสุดท้าย เพื่อกำหนดพิจารณาผู้ที่ควรได้รับรางวัลเพื่อสันติภาพและผู้ได้รับรางวัลทูตสันติภาพ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบและปรับการเชิญผู้ที่มาบรรยายให้มีหลายองค์กรและหลากหลายศาสนามากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ความเห็นชอบผู้ที่ควรได้รับรางวัลจากทั่วโลกเป็น 20 รูป/คน
ในโอกาสนี้พระราชธรรมสารสุธี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย(มจร) ได้นำคณะผู้บริหาร เข้าร่วมสังเกตการณ์และเข้าเยี่ยมชมห้องประชุมสันติภาพโลกที่โรงแรม Couryard Marriott... -
มส.ชี้ชัด!ไอทีสอนวิชาคุณธรรมไม่ได้ต้องมีครูดีต้นแบบ
มส.ชี้ชัด!ไอทีสอนวิชาคุณธรรมไม่ได้ต้องมีครูดีต้นแบบ
วันที่ 9 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม มจร ได้ปาฐกถาเรื่อง "ครูกับการพัฒนาคุณธรรมให้กับเด็กยุคดิจิตอล" ในพิธีปัจฉิมนิเทศประกาศนียบัตรวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มจร ความตอนหนึ่งว่า
การพัฒนาคุณธรรมมิใช่แค่ถ่ายทอดความรู้ หรือบอกกล่าว ในยุคดิจิตอลเด็กจะต้องมีการสืบค้นคว้า เด็กอยู่กับเครื่องจักรเป็น " ยุคแห่งการไม่สนใจเพื่อนมนุษย์ "นั่งใกล้กันไม่คุยกันแต่สนใจโทรศัพท์มือถือ ทำให้เราห่างเหินกัน สิ่งเหล่านี้สอนให้เราเก่งได้ แต่สอนให้เป็นคนดีไม่ได้ เพราะเครื่องจักรไม่มีหัวใจไม่เป็นต้นแบบ ข้อมูลมีแต่เรื่องร้ายๆ ถ้าเราปล่อยให้เด็กอยู่กับเรื่องร้ายๆ จะเกิดอะไรขึ้น "คนที่เรียนผ่านดิจิตอลจิตใจขาดความอ่อนโยน" ในยุคดิจิตอลสอนได้ทุกวิชายกเว้นวิชาคุณธรรมจริยธรรม ถ้าสอนได้เป็นคนดีหมดเเล้ว เพราะการจะเป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรมจะต้องถ่ายแบบถ่ายทอดมีต้นแบบที่ดี เลียนแบบในการทำความดีมันยาก แต่เลียนในการทำความชั่วมากง่าย เพราะมันตามกิเลส... -
อักขระขลังพุทธคุณแรง!! "นะ โม พุท ธา ยะ"ครอบจักรวาล แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม
อักขระขลังพุทธคุณแรง!! "นะ โม พุท ธา ยะ" อานุภาพครอบจักรวาล สวดทุกวัน แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม ไม่เกรงภยันตรายทั้งปวง !!
ที่สุดแห่งความเข้มขลังอันมากไปด้วยพุทธคุณหลากหลายประการ เรียกว่า ครอบจักรวาล โบราณว่าฝอยท่วมหลังช้างก็ไม่หมด ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และอื่นๆอีกมาก นั่นคือ "คาถาพระเจ้าห้าพระองค์" ซึ่งมี ๕ อักขระอันศักดิ์สิทธิ์ คือ "นะ โม พุท ธา ยะ" เป็นอักขระที่ใช้แทนพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในกัปป์นี้ และ ยังแทนความหมายของแม่ธาตุใหญ่ที่ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่งอีกด้วย จึงถือได้ว่า เป็นคาถาหลักๆที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีความเชื่อว่า หากผู้ใดบริกรรมคาถาบูชาสรรเสริญพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ สวด "นะโมพุทธายะ" ด้วยจิตอันสงบ มั่นคง แน่วแน่ จะเกิดพุทธคุณครอบจักรวาลทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ แคล้วคลาด คงกระพัน มีกำลังกาย กำลังใจที่ดี ไม่เกรงกลัวต่อภยันตรายต่างๆ
สำหรับความหมายของ "นะ โม พุท ธา ยะ" มีดังนี้
นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ หรือ อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒... -
หลวงปู่ตื้อ ..เมื่อญาติโยมไม่สนใจฟังธรรม
จุดเด่นหลวงปู่ตื้อ
จุดเด่นที่ทำให้หลวงปู่ตื้อ เป็นที่กล่าวขวัญกันมากคืออุปนิสัยขวานผ่าซากในวาจา ท่านมีนิสัยโผงผางไม่กลัวใคร มีเทศนาโวหารที่ไม่เคยไว้หน้าใครไม่ว่าคนมั่งมีหรือยาจกท่านใช้คำพูดเหมือนกันหมด พูดตรงๆ ไม่ต้องเสกสรรปั้นแต่ง
ท่านบอกว่า ท่านเทศน์ตามความจริง ไม่ได้เทศน์เพื่อเอาสตางค์หรือเทศน์เพื่อเอาใจใคร
ญาติโยมบางคนบอกว่า หลวงปู่ตื้อ เทศน์หยาบคาย รับไม่ได้ก็มี
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ กำลังแสดงธรรมเทศนาอยู่ ท่านเทศน์ผ่านเครื่องขยายเสียง มีญาติโยมบางกลุ่มคุยกันจ๊อกแจ๊ก แข่งกับการเทศน์ของท่าน ในขณะที่ท่านหลับตาเทศนาอยู่ ท่านได้หยุดเทศน์ฉับพลัน แล้วพูดผ่านไมโครโฟนเสียงดังว่า
“เอ้า ! หลวงตาตื้อเทศน์ให้ฟัง พวกสูบ่ฟัง เอ้า ! ฟังตดซะ”
แล้วก็มีเสียงประหลาดดังผ่านลำโพงออกมาสองสามชุด ทุกคนเงียบกริบ โยมคนหนึ่งตั้งสติได้ก่อนเพื่อน จึงพูดเสียงดังว่า “ขอให้หลวงตามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์”
แล้วโยมคนอื่นๆ ก็ยกมือ และกล่าวพร้อมกับว่า “สาธุ !”
ในการเทศน์อีกครั้งหนึ่ง ได้มีกลุ่มพระภิกษุหนุ่ม เป็นมหาเปรียญและได้รับการศึกษาที่ทันสมัย ตามมาฟังเทศน์ด้วยในระหว่างที่หลวงปู่ตื้อขึ้นเทศน์... -
นิสัยเทวดาทำบุญ กับ นิสัยเปรตทำบุญ
นิสัยเทวดาทำบุญ กับ นิสัยเปรตทำบุญ
เทวดากับเปรต อยู่คนละมุมกัน อยู่คนละด้านกัน
เทวดาจะไม่ทำบาป จะมีแต่ให้ จะไม่อยากได้อะไร อยากให้ ให้แล้วมีความสุข
เปรตนี้อยากได้ ได้แล้วมีความสุข ได้แบบไม่ถูก ได้ด้วยการทำบาป ด้วยการฉ้อโกง ด้วยการโกหกหลอกลวง ด้วยการลักทรัพย์ ด้วยการฆ่าผู้อื่น อันนี้จะทำให้ใจหิวโหย ได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ได้หนึ่งล้านก็อยากจะได้สองล้าน ได้สองล้านก็อยากจะได้สามล้าน อันนี้ก็จะทำให้หิวให้อยากเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ส่วนคนชอบให้ จะไม่โลภอยากได้ อยากแต่จะให้ ให้แล้วมีความสุข แล้วไม่อยากเบียดเบียนผู้อื่น ไม่อยากทำบาป ทำมาหากินก็ทำด้วยวิธีสุจริต ได้เงินมามากเกินกว่าจะใช้ได้ก็เอาไปทำบุญทำทาน นี่เป็นลักษณะของเทวดา ไม่ได้หวังจะต้องร่ำรวยมหาศาล พออยู่ได้กินได้ ไม่เดือดร้อนก็พอแล้ว นิสัยเทวดาจะเป็นแบบนี้ ไม่โลภ ไม่อยากเกินความจำเป็น ขอให้มีแบบพอมีพอกิน พอมีเกินกว่านั้นก็เอาไปทำบุญ
เราเคยบิณฑบาตที่กรุงเทพฯ มีร้านขายของอยู่ร้านหนึ่ง วันหนึ่งๆเขาจะใส่บาตรพระเป็น100รูป หุงข้าวหม้อเบ้อเร่อเลย เขาเตรียมใว้ ฐานะเขาก็ไม่ร่ำรวยอะไร มีห้องแถวสองห้อง ขายของอะไรตามปกติ แต่ใจเขาไม่โลภ... -
ทำบุญอย่างไร ให้ได้บุญ ทำบุญอย่างไร ให้ได้บุญ
ทำบุญอย่างไร ให้ได้บุญ ทำบุญอย่างไร ให้ได้บุญ
ชาวพุทธเรานั้นถือว่าเป็นบุคคลที่ชอบทำบุญ แต่บุญที่ทำกันเป็นส่วนใหญ่มักจะเป็นการบริจาคเงินหรือปัจจัยในโอกาสต่างๆ เช่น ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลาไถ่ชีวิตโค กระบือ ช่วยบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม สร้างห้องส้วมให้โรงเรียน หรือช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นต้น การ “ทำบุญ” ในทางพุทธศาสนาไม่ได้มีเพียงการให้ทานหรือทำบุญกับพระและวัดเท่านั้น แต่ยังสามารถทำได้ถึง 10 วิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีเป็นอย่างไร เชิญอ่านเพื่อความเข้าใจเพิ่มดังต่อไปนี้
ให้ทาน นั้นหมายถึง การให้ การสละ หรือการเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใด และไม่ว่าจะให้แก่ใครก็ถือเป็นบุญทั้งสิ้น เพราะการให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ อีกทั้งสิ่งที่เราบริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่นก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นประโยชน์ต่อผู้รับและสังคมโดยส่วนรวม การให้ทานนี้อยู่ที่ไหนๆก็ทำได้ และไม่จำเป็นต้องเงิน เช่น การแบ่งของกินให้กับแม่บ้านที่ทำงานหรือยาม เป็นต้น ข้อสำคัญ... -
พระในบ้าน(อยากให้ลูกทุกคนบนโลกได้อ่าน) คุณดูแลดีพอแล้วหรือยัง..!?
พระในบ้าน(อยากให้ลูกทุกคนบนโลกได้อ่าน) คุณดูแลดีพอแล้วหรือยัง?
วันนี้คุณบูชาพระที่มีชีวิตในบ้านคุณหรือยัง?
พระ หมายถึงผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม เพราะเป็นผู้มีคุณสมบัติดีอยู่ในตัวและประกอบความดีต่อผู้อื่น โดยมิได้มุ่งหวังการตอบแทน ทำด้วยดวงใจอันเปี่ยมล้น ด้วยความรัก ความปรารถนาดี และความสงสารเป็นมูลฐาน หากผู้ใดทำได้ดังนี้ไม่ว่าผู้นั้นจะครองเพศแบบไหน วัยไหน โลกย่อมสรรเสริญ ว่าผู้นั้นเป็นพระ ในสายตาของเขา และพร้อมที่จะยกมือขึ้นไหว้บูชา หรือยอมก้มกราบด้วยความเต็มใจอย่างแท้จริง
ความเป็นพระ ไม่ใช่จะมีเฉพาะนักบวชในศาสนาเท่านั้น ความจริงเราท่านทุกคนต่างก็เคยประสบพระหรือมีพระผู้ประกอบด้วยคุณงามความดีดังกล่าวมาแล้วทุกคน และมิได้พบที่ในป่าถ้ำลำเนาเขา หรือแดนบุญใดๆ แต่พบกันอยู่ที่บ้านมีอยู่ในบ้านของเรานั้นเอง จึงเรียกในที่นี้ว่า พระในบ้าน
พระในบ้าน นั้นคือ พ่อ กับ แม่ และก็คงไม่มีใครกล้าคัดค้านว่า พ่อแม่ ไม่ได้เป็น พระ เหตุที่ท่านทั้งสองได้นามว่าเป็นพระนั้นเพราะท่านมีความเป็นพระ คือ คุณธรรมความดีอยู่ในตัว และได้ปฏิบัติภารกิจอันเป็นหน้าที่ของตัวเองอย่างครบถ้วนบริบูรณ์... -
"เจ้าพ่อเขาใหญ่"ผู้กล้าหาญแห่งพงไพร ปกป้องผืนป่ามาทั้งชีวิต! แม้ร่างจะสิ้นแต่วิญญาณยังคงอยู่ !!
นี่ซิคนจริง !!! "ปลัดจ่าง" สู่ตำนาน "เจ้าพ่อเขาใหญ่" นักรบผู้กล้าหาญแห่งพงไพร ปกป้องผืนป่ามาทั้งชีวิต !! แม้ร่างจะสิ้น แต่วิญญาณยังคงอยู่ !!
ขอย้อนไปในอดีต เมื่อราษฎรบ้านท่าชัย และบ้านท่าด่าน จังหวัดนครนายก ได้พากันขึ้นไปถากถางป่าปลูกข้าว ปลูกพริก ไม้ผล และปลูกบ้านเรือนอยู่บนยอดเขา ประมาณ ๓๐ หลังคาเรือน จนเกิดเป็นชุมชนเล็ก ๆ ขึ้นมา และต่อมาทางการได้ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลเขาใหญ่ ขึ้นกับอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก นั้น
ในสมัยนั้น ปลัดจ่าง นิสัยสัตย์ ชาวอำเภอเขานางบวช จังหวัดนครนายก มาดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกองทัพ ดูแลหัวเมืองด้านทิศบูรพา ได้แก่ ปราจีนบุรี นครนายก เป็นต้น ท่านเคยผ่านสมรภูมิศึกสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างโชกโชน ท่านมีบุคลิกที่สง่างาม สมชายชาตินักรบ เมื่อเสร็จศึกสงคราม ท่านมักออกเยี่ยมเยือนนักรบไทย ลูกหลานของท่านเสมอ
ครั้งหนึ่ง ท่านได้ทราบข่าวว่า ลูกน้องของท่านไปตั้งตัวเป็นโจรอยู่บนเขาใหญ่ และเห็นลูกน้องถากถางป่าบนเขาใหญ่จนเตียนโล่ง ท่านก็เกิดความเสียใจ ท่านมีความสามารถในการปราบปรามโจรผู้ร้าย และรู้จักภูมิประเทศในแถบนี้เป็นอย่างดี มีความชำนาญในการใช้ปืนบนหลังม้า... -
พุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ ตอน เหตุให้เชื่อชาติหน้า
พุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ ตอน เหตุให้เชื่อชาติหน้า
ปัญหา คนในโลกเชื่อกันว่า ตายแล้วเกิดก็มี ตายแล้วสูญก็มี อะไรเป็นมูลเหตุให้เชื่อเช่นนั้น?
พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกบัญญัติอัตตาที่มีสัญญาว่า เบื้องหน้าแต่ตายไปยั่งยืน (มีอยู่ ไม่สูญ) ย่อมคัดค้านสมณพราหมณ์พวกบัญญัติความขาดสูญ ความพินาศ ความเกิดของสัตว์ ที่มีอยู่ นั่นเพราะเหตุไร เพราะท่านสมณพราหมณ์เหล่านี้แม้ทั้งหมด ย่อมหมายมั่นกาลข้างหน้า กล่าวยืนยันความหวังอย่างเดียวว่า เราละโลกไปแล้วจักเป็นเช่นนี้ๆ เปรียบเหมือนพ่อค้า ไปค้าขายย่อมมีความหวังว่า ผลจากการค้าเท่านี้จักมีแก่เรา เพราะการค้าขายนี้ เราจักได้ผลเท่านี้ ดังนี้ฉันใด ท่านสมณพราหมณ์พวกนั้นก็ฉันนั้นเหมือนกันแล ชะรอจะเห็นปรากฏเหมือนพ่อค้า จึงหวังว่าเราละโลกไปแล้ว จักเป็นเช่นนี้ ๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตย่อมทราบเรื่องนี้ดี
“ดูก่อนสมณพราหมณ์ พวกบัญญัติความขาดสูญความพินาศ ความไม่เกิดของสัตว์ที่มีอยู่ เป็นผู้กลัวสักกายะ (กายของตน) เกลียดสักกายะ แต่ยังวนเวียนไปตามทสักกายะนั้นอยู่แล เปรียบเหมือนสุนัขที่เขาผูกโซ่ล่ามไว้ที่เสาหรือที่หลักมั่น... -
ประโยชน์ของการสวดมนต์ ไหว้พระ
ประโยชน์ของการสวดมนต์ ไหว้พระ
๑. จะทำให้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้มีความรู้สึกละอายแก่ใจและเกรงกลัวต่อการทำชั่ว ถ้าสวดมนต์พร้อมคำแปลจะทำให้เข้าใจคำสอนไปด้วย
๒. เป็นการฝึกสมาธิ คือ ให้ใจมีความสงบตั้งมั่นอยู่กับคำสวดมนต์อย่างต่อเนื่อง
๓. ฝึกให้มีสติ เห็นหรือรู้เท่าทันอาการของจิต หรือกิริยาของจิต หรือพฤติแห่งจิตที่แสดงออกมาเป็นความคิด นึก ตรึก ตรอง ปรุงแต่งและอารมณ์ต่างๆ แทรกคำสวดมนต์เป็นระยะๆ
๔. มีปัญญาเห็นว่า ถ้าขาดสติเผลอเพลินติดไปกับความคิด นึก ตรึก ตรอง ปรุงแต่งอารมณ์ต่างๆ เหล่านั้นก็จะทำให้ลืมคำสวดมนต์และจะทำให้เกิดทุกข์ ถ้ามีสติ สมาธิ ปัญญารู้เท่าทัน ก็จะไม่เผลอเพลินติดไปกับสิ่งใดให้ใจเป็นทุกข์ เรียกว่า เห็นอริยสัจจ์
๕. ฝึกสติ สมาธิ ปัญญา รู้คำสวดมนต์ควบคู่ไปกับรู้ความ คิด นึก ตรึก ตรอง ปรุงแต่งและอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดแทรกคำสวดมนต์ได้ทุกความคิดอย่างต่อเนื่อง โดยรู้อยู่กับที่ไม่เผลอเพลินติดไปเลย แล้วจะรู้หรือเห็นจิตที่คิด นึก ตรึก ตรอง ปรุงแต่ง และอารมณ์ต่างๆ... -
กำเนิด "วัดอมราวดี" วัดไทยในอังกฤษ (สาขาวัดหนองป่าพง ประเทศอังกฤษ)
กำเนิด "วัดอมราวดี" วัดไทยในอังกฤษ (สาขาวัดหนองป่าพง ประเทศอังกฤษ)
กำเนิดวัดอมราวดี (สาขาวัดหนองป่าพง) ประเทศอังกฤษ
ในระหว่างที่พระอาจารย์โรเบิร์ต สุเมโธ (พระลูกศิษย์ของ หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าจิตตวิเวก(ซึ่งเป็นสาขาวัดหนองป่าพง เช่นเดียวกัน) ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้น ก็ได้เริ่มมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก คณะสงฆ์เริ่มเติบใหญ่ มีคณะแม่ชี รวมถึงผู้ที่เข้ามาเพื่อศึกษาปฏิบัติธรรมในวัดก็ทวีปริมาณขึ้นทุกที แต่เนื่องจากวัดป่าจิตตวิเวกเริ่มจะคับแคบมีเนื้อที่จำกัด อีกทั้งวัดป่าจิตตวิเวกเดิมเป็นคฤหาสน์ที่มีความสวยงาม ไม่สามารถต่อเติมอะไรได้มากเพราะกฎหมายบังคับไว้ จึงเป็นเหตุให้ท่านพระอาจารย์ต้องการก่อตั้งวัดสาขาเพิ่มในประเทศอังกฤษ
ต่อมานางมากาเร็ต แธตเชอร์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายปิดโรงเรียนต่างๆ ภายในสหราชอาณาจักร หลายร้อยแห่ง พระอาจารย์สุเมโธ เกิดความคิดว่าถ้าได้สถานที่ที่กว้างขวางอย่างโรงเรียนเก่าเพื่อมาสร้างเป็นวัด คงจะมีความเหมาะสม เพราะมีเนื้อที่กว้างขวาง มีห้องโถงขนาดใหญ่ มีอาคารหลายหลัง หลายห้อง มีระบบสาธารณูปโภคครบ... -
10 วัดบนเขา เมืองไทย ที่คุณไม่ควรพลาด..ต้องไปสักครั้งในชีวิต
10 วัดบนเขา เมืองไทย ที่คุณไม่ควรพลาด..ต้องไปสักครั้งในชีวิต
ประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา เพราะเต็มไปด้วยวัดวาอารามมากมาย นับกันไม่หวาดไม่ไหว ในแต่ละวัดก็จะมีจุดเด่นต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นพระประธาน พระอุโบสถ เจดีย์ วิหาร ฯลฯ นอกจากนี้บางวัดในต่างจังหวัด ยังตั้งอยู่ในบริเวณที่มีทัศนียภาพสุดแสนตระการตา วันนี้เลยขอพาท่านไปพบกับ 10 วัดบนเขา สุดอันซีนในเมืองไทย ที่คุณต้องไปสักครั้ง
1. วัดถํ้าเสือ
วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ มีความสวยงาม มหัศจรรย์ และเป็นที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานที่น่าสนใจ สภาพโดยทั่วไปของ วัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน “วัดถ้ำเสือ” นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
วัดถ้ำเสือ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านถ้ำเสือ ตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ พื้นที่บริเวณวัดประมาณ 200 ไร่ ประกอบไปด้วยพื้นที่ราบ หุบเขาและยอดเขา... -
ถ้าหากว่าไม่มีการทบทวน การปฏิบัติของเราก็จะสำเร็จได้ยาก
การที่เราเป็นนักปฏิบัติ จำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนอารมณ์ปฏิบัติของเราอยู่เสมอ
จะได้รู้ว่าตอนนี้เราทำไปถึงที่ใดแล้ว ?
มีความก้าวหน้าหรือถอยหลังอย่างไร ?
จำเป็นต้องเร่งในจุดไหน ?
ต้องผ่อนในจุดไหน ?
หรือว่าปรับเปลี่ยนทิศทางในการปฏิบัติของตนอย่างไร ?
ถ้าหากว่าไม่มีการทบทวน การปฏิบัติของเราก็จะสำเร็จได้ยาก การไตร่ตรองทบทวนตัวนี้ก็คือวิมังสาในอิทธิบาท ๔ นั่นเอง
คราวนี้สิ่งที่จะเป็นเครื่องวัดการปฏิบัติของเรานั้น ในส่วนที่หยาบที่สุดก็คือนิวรณ์ ๕ ได้แก่
ความยินดีในรูปสวย เสียงไพเราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ ๑ ความโกรธเกลียดอาฆาตแค้นผู้อื่น ๑ ความง่วงเหงาหาวนอนชวนขี้เกียจปฏิบัติ ๑ ความฟุ้งซ่านหงุดหงิดรำคาญใจ ๑ และความลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติ ๑ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งอยู่ในใจเรา แสดงว่าคุณภาพของใจเราตกต่ำมาก
โดยเฉพาะตัวอุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ คือความฟุ้งซ่าน หงุดหงิดและรำคาญใจนั้น ตัวฟุ้งซ่านสามารถนำให้เกิดทั้งราคะ โลภะ โทสะ และโมหะ เมื่อเป็นดังนั้น การฟุ้งของเราต่อให้เป็นการฟุ้งในเรื่องจะกระทำความดี ก็ยังเป็นการฟุ้งซ่านของใจอยู่ คุณภาพของใจเรายังไม่ดีพอ... -
ทำไมนั่งสมาธิถึงได้บุญมาก? อ่านเถิดแล้วจะเกิดสติ มองเห็นความจริง
ทำไมนั่งสมาธิถึงได้บุญมาก? อ่านเถิดแล้วจะเกิดสติ มองเห็นความจริง
ทำไมนั่งสมาธิ ถึงได้บุญมาก
เราเคยสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า เพราะอะไรในหนังสือถึงบอกว่าบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมากกว่าการบริจาคทานใดๆ คือการวิปัสสนากรรมฐานหรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่านั่งสมาธิ
ทำไมการนั่งเฉยๆและกำหนดลมหายใจถึงได้บุญมาก? จริงๆแล้วการนั่งสมาธิมีประโยชน์แน่นอนในแง่ที่ทำให้เรามีสติมากขึ้น นิ่งขึ้น แต่บุญมาจากไหน เพราะอะไรทำสมาธิแล้วสามารถส่งบุญให้แก่ผู้มีพระคุณหรือเจ้ากรรมนายเวรต่างๆได้
ถึงแม้จะไม่เข้าใจมากนักแต่ก็พยายามจะนั่งสมาธิ (เวลาที่อ่านหนังสือแนวศาสนาเสร็จใหม่ๆและยังคึกอยู่ก็พยายามจะนั่ง) แต่ก็ห่างหายไป ไม่สม่ำเสมอ ทำไม่ค่อยได้เพราะเป็นคนคิดฟุ้งตลอดเวลา
จนกระทั่งคนรู้ใจแนะนำว่าเราควรจะฟังธรรมะของอ.สุจินต์บ้าง แล้วย้อนถามเราว่า เรานั่งสมาธิทำไม เราบอกนั่งเพราะจะได้ได้บุญ จะได้ส่งบุญ นั่งเพื่อให้มีสมาธิเวลาทำงาน เค้าบอกว่าไม่ใช่แล้ว ถ้านั่งเพื่ออยากจะได้บุญ ไปฟังอ.สุจินต์ซะ
หลังจากเค้าให้ซีดีมาฟัง เพิ่งจะอ๋อ...แท้ที่จริงแล้ว นั่งสมาธิแล้วได้บุญเพราะอย่างนี้นี่เอง ถ้าเราเข้าใจธรรมะก่อนแล้วจึงปฏิบัติ... -
สิ้นหลวงปู่นาค วัดดอนเสือ ชัยนาท สิริอายุ 93 ปี 5 เดือน
เมื่อเวลา 7 ก.พ. เวลา 22.30 น. ร.ต.อ.พิจักษณ์ สุรยเสนีย์ พนักงานสอบสวน สภ.สรรพยา ได้รับแจ้งเหตุเจ้าอาวาสวัดกรุณามรณะภาพ ที่หมู่ 5 ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จึงรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร ร.พ.สรรพยา
ที่เกิดเหตุพบพระครูพิศิษฎ์ชัยคุณ โกวิโท หรือหลวงปู่นาค เจ้าอาวาสวัดกรุณา (วัดดอนเสือ) ละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 20.29 น. วันที่ 7 ก.พ. สิริอายุ 93 ปี 5 เดือน พรรษา 65 โดยมีพระพระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ญาติโยม พร้อมศิษยานุศิษย์ ทยอยเข้ากราบสักการะสังขาร โดยมีกำหนดประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ในวันศุกร์ที่ 9 ก.พ. 2561 ณ วัดกรุณาหลวงปู่นาคเดิมชื่อบุญนาค เทพเนียม เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2467 ที่ จ.ชัยนาท จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดท่าไม้ อ.เมือง จ.ชัยนาท หลังจากนั้นบิดาและมารดาได้นำท่านไปฝากเรียนกับหลวงพ่อเทียบ เจ้าอาวาสวัดตลุก อ.สรรพยา โดยบวชเป็นสามเณรอยู่กับหลวงพ่อทรัพย์ จากนั้นได้ออกมาช่วยบิดาและมารดาค้าขาย
ต่อมาในปี 2495 ญาติผู้ใหญ่ของท่านเสียชีวิตลง ท่านจึงบวชเป็นเวลา 3 เดือน ที่วัดสรรพยาวัฒนาราม ในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2495... -
เจออาถรรพ์หินตะรุเตา! แห่ส่งคืนแทบไม่ทัน พร้อมเขียนขอขมาลาโทษ
วันที่ 7 ก.พ. ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติตะรุเตา อ.ละงู จ.สตูล เจ้าหน้าที่และผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ กำลังช่วยกันแกะกล่องพัสดุที่จ่าหน้ากล่องว่า “ขอคืน หิน จากหาดหินงาม เกาะตะรุเตา จ.สตูล” โดยไม่ได้ระบุชื่อที่มาของผู้ส่ง แต่ตรวจสอบว่าพัสดุชิ้นนี้ส่งมาจาก กรุงเทพมหานคร
ซึ่งนี่ไม่ใช่พัสดุกล่องแรกที่ส่งมาถึงสำนักงานอุทยานแห่งชาติตะรุเตา โดยทุกรอบปีจะมีพัสดุที่ขอคืนหิน จากเกาะหินงามมาปีละไม่น้อยกว่า 20-30 ก้อน บ้างส่งมาทางไปรษณีย์ และบ้างส่งมาทางบริษัทรับส่งพัสดุทั่วไปเพื่อไม่ให้ง่ายต่อการจัดส่งและไม่ต้องมีการระบุประวัติคนส่งคืน
นายจินดา ศรีสุพพัตพงษ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า การจัดส่งพัสดุเพื่อส่งคืนหิน จากเกาะหินงามในหมู่เกาะอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ในแต่ละปีมีมาก 20-30 ก้อน บ้างส่งมาจาก กทม. ต่างจังหวัด และต่างประเทศก็เคยมี เคยมีส่งมาเยอะสุด 6 ก้อนเต็มกล่อง พร้อมถ้อยคำขอขมาลาโทษที่ล่วงเกิน ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นผลจากสิ่งที่นักท่องเที่ยวหยิบไปประสบพบเจอสิ่งที่ไม่คาดฝัน และชีวิตเจออุปสรรค ประกอบด้วยกลัวความผิดจึงเลือกส่งกลับมาในรูปแบบนี้... -
หวั่นชะตา 140 ชีวิต-ยอดตายดินไหวไต้หวันพุ่ง! ธรณีสูบตึกชั้น 4 ลงผลุบลงไปอยู่ชั้น 1
(Central News Agency via AP)
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เอพีรายงานถึงความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวในไต้หวันขนาด 6.4 แม็กนิจูด ที่เมืองฮัวเหลียน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 214 คน แต่ยังวิตกชะตากรรมของผู้ประสบภัย 147 คน จากทั้งหมด 213 คนในอาคารที่พักอาศัย 12 ชั้นของตึกหยุนชุ่ย
ในอาคารดังกล่าวมีทั้งห้องพัก ร้านค้า ร้านอาหาร เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนทำให้ตัวตึกเอียงไปด้านหนึ่ง เอียงจากฐาน ชั้นล่างแบนราบลงดิน ชั้นแรกของอาคารจมลงในดินและเอียงเพิ่มขึ้น ชั้น 4 กลายเป็นชั้น 1 เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถเครนช่วยยกตึกขึ้น
Rescue workers are seen by a damaged building after an earthquake hit Hualien, Taiwan February 7, 2018. REUTERS
เหตุแผ่นดินไหวเกิดช่วงช่วง 23.50 น. วันที่ 6 ก.พ. ซึ่งคนส่วนใหญ่อยู่ในอาคารบ้านเรือน จากนั้นยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายระลอก เกือบ 100 ครั้ง ทำให้ชาวเมืองติดค้างอยู่กลางแจ้งเพราะไม่กล้ากลับเข้าตึกที่อยู่อาศัย
เจ้าหน้าที่กู้ร่างผู้เคราะห์ร้ายออกมา REUTERS/Tyrone Siu
มีคนอยู่ในที่หลบภัยชั่วคราว 830 คน บ้าน 1,900 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้... -
พ่อเฒ่าตายแล้วฟื้น หลังลูกหลาน "สวดอิติปิโส 77 รอบ "เผยท่านยมบาลปล่อยตัวขึ้นมาบอกเรื่องสำคัญ
พ่อเฒ่า "ตายแล้วฟื้น" หลังลูกหลานทำพิธี "สวดอิติปิโส ภาวนา 77 รอบ" เผย..ท่านยมบาลปล่อยตัว ให้ขึ้นมาบอกเรื่องสำคัญ
วันที่ 7 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งว่า มีพ่อเฒ่าอายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3บ้านนาโพธิ์ หมู่ 3 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ตายแล้วฟื้น ภรรยาและลูกหลานญาติพี่น้องเตรียมงานบุญให้ แต่พ่อเฒ่า กลับฟื้นลืมตาขึ้นมาทักทายภรรยา สร้างความฮือฮา ประหลาดใจและดีใจ ให้กับลูกหลาน ญาติพี่น้อง และชาวบ้านเป็นอย่างมาก ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว โดยพบ ภรรยา และลูกหลาน ญาติๆ มาเตรียมสถานที่ช่วยจัดงานศพ โดยทราบชื่อชายคนดังกล่าวคือ นายประหยัด ล้นเหลือ อายุ 71 ปี โดยมีอาจารย์กำลังประกอบพิธีบายเสรย (ภาษาเขมรพื้นถิ่นสุรินทร์) หรือพิธี ขัน 5 ขัน 8 เพื่อเรียกขวัญ ต่ออายุ หลังเกิดเหตุการณ์เหลือเชื่อตายแล้วฟื้น
สำหรับ นายประหยัด ล้นเหลือ อายุ 71 ปี สมรสกับ นางสุเพียบ ล้นเหลือ อายุ 74 ปี อาชีพทำนา มีลูก 3 คน ชาย 1 คน หญิง 2 คน สองสามีภรรยาเป็นครอบครัวชอบช่วยเหลือสังคม เข้าวัดทำบุญสม่ำเสมอและไม่ดื่มสุรา เมื่อวันที่ 1 ก.พ.61 นายประหยัด... -
เตือนสติ! บาปกรรมหนัก 3 ข้อ ของการคบชู้ เป็นชู้ นอกใจ
การผิดประเวณีถือว่าเป็นอาชญากรรมต่อสังคมอย่างหนึ่ง ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ถ้ามนุษย์มั่วสุมกันในในเรื่องเพศ ใครจะไปร่วมหลับนอนกับใครก็ได้ จะทำให้สังคมเสื่อมโทรม ทำลายระบบของครอบครัว ทำลายคู่สามีภรรยา และ บรรดาลูก ๆ จึงนำไปสู่การทำให้สังคมทั่วไปในโลกต้องพบความหายนะเหมือนดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
หนทางที่จะนำไปสู่ความชั่วมีอยู่ 4 อย่างด้วยกัน
1. ด้วยสายตา 2. ด้วยกับความคิดจินตนาการ 3. คำพูด 4. การปฏิบัติ
4 ประการนี้คือ ขั้นตอนที่มนุษย์จะไปสู่การกระทำความชั่ว ขั้นแรกเริ่มต้นด้วยกับสายตา คือการมอง หลังจากนั้นคือ การคิดจินตนาการ ต่อมาคือ คำพูด และตามด้วยการปฏิบัติในสิ่งที่ได้ก่อตัวจากสายตา ความคิดและคำพูด
โทษของการเป็นชู้
1) ทุกข์ทางใจ
จิตที่เป็นปกติสุขไม่อาจคิดลงมือคบชู้ การจะคบชู้ได้ต้องใช้จิตที่เป็นทุกข์เท่านั้น เพราะรู้ ๆ กันทั้งโลก ทุกชาติทุกภาษา ว่าเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องบาดใจ แม้แต่การแตะเนื้อต้องตัวคนมีเจ้าของด้วยความกำหนัด ก็นับว่าสมควรอดสูใจได้แล้ว เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าจะมากหรือน้อยก็เป็นการล่วงละเมิดสมบัติต้องห้ามของผู้อื่นอยู่ดี... -
ตะกรุดคอแมว เชือกแดง หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร อิทธิคุณแคล้วคลาด ปลอดภัย
หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร ถือกำเนิดเมื่อ เดือน 5 ปี มะโรง พุทธศักราช 2459 (โดยสมัยนั้นยังไม่มีการจดบันทึกวันเดือนปีเกิด ทางคณะศิษย์ยานุศิษย์จึงขอให้วันที่ 1 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิด เพื่อมุฑิตาจิตต่อองค์หลวงปู่)
เกิดที่บ้านนาเอือด อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี โดยสมัยนั้นการเดินทางไปประเทศลาวยังสะดวก ไม่ยุ่งยากดังเช่นปัจจุบัน ฉะนั้นคนในหมู่บ้านนาเอือด และครอบครัวหลวงปู่จึงอพยพไปอยู่ยังประเทศลาว
เนื่องจากมีพื้นที่เหมาะแก่การเพราะปลูก โดยครอบครัวหลวงปู่และญาติอีก 2 ครัวเรือนได้จับจองพื่นที่ ณ ตีนเขาลูกหนึ่งประกอบอาชีพทำนาทำไร่
ซึ่งในทุกๆ วันจะมีพระรูปหนึ่ง พระรูปนี้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับโยมพ่อของหลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่หลังเขาจะเทียวมาบิณฑบาตร โปรดทั้ง 3 ครอบครัวอยู่เสมอ ซึ่งพระรูปนั้นก็คือ “สำเร็จตัน” ศิษย์แห่งองค์สมเด็จลุน นั้นเอง
บวชตั้งแต่เด็กรับใช้พระพุทธศาสนาตลอดชีวิต
เมื่อหลวงปู่จันทร์หอม มีอายุได้ 12 ปี สำเร็จตันจึงขอพาไปรับใช้อุปฐาก และสอนสั่งหนังสือให้ หลวงปู่จันทร์หอม ขณะนั้นยังเป็นเด็กมีความซุกซนอยากรู้อยากเห็น
เมื่อไปอยู่กับสำเร็จตัน... -
วัดดังลำปางสร้างนรกจำลองสอนธรรมะแนะยึดศีลห้า
ลำปาง-วัดสร้างนรกจำลองตีแผ่ชีวิตหลังความตายซ่อนปริศนาธรรมแนะคนยึดศีลห้าละบาปกรรม
ที่วัดสันตินิคม ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จ.ลำปาง มีการจัดสร้างพระมหาธาตุจุฬามณีพุทธเจดีย์เก้ายอดขึ้นภายในวัด ด้านในทำเป็น 4 ภพภูมิ เพื่อสอนพุทธศาสนิกชนให้ลดละเลิกในสิ่งไม่ดี และหันมาถือศีล 5 โดยหลวงปู่สะอาด กุสลจิตโต เป็นพระผู้คิด และนักประดิษฐ์ เริ่มจากชั้นใต้ดินมีการสร้างปติมากรรมเมืองนรกทำขึ้นเกือบเสร็จแล้วใช้ระบบแสงสีเสียงเอฟเฟคเสมือนจริง มีพญามัจจุราช และท้าวสุวรรณ และท้าวสุวารคอยยืนจดบันทึกเหตุการณ์ในชั่วชีวิตที่ผ่านมา ว่า ทำทำผิดศีลข้อไหนบ้าง ทั้งเคยฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดปด ประพฤติผิดในกาม ดื่มของมึนเมา และยาเสพติดหรือไม่ หากทำผิดเมื่อตายไปแล้วก็จะต้องพบเจอสิ่งเหล่านี้
ขณะยืนอยู่บริเวณหน้าพญามัจจุราช ก็จะมีเสียงโหวยหวนพูดเสียงดังขึ้นว่า “เจ้าลงมาแล้วรึ? ขอรอพวกเจ้าอยู่ เจ้าจงฟังข้า เมื่อเข้ามาสู่เมืองของข้าแล้ว อย่าดูเพื่อความสนุกสนานเจ้าจงดูให้เกิดความคิด แล้วย้อนถามใจตัวเองว่า ได้ทำอะไรไว้บ้าง ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด ดื่มน้ำเมา ยาเสพติด เคยทำกันบ้างไหม?...
หน้า 285 ของ 406