คลังเรื่องเด่น
-
ทำพระคาถาเงินล้านให้ได้ผลต้องทำอย่างไร
ญาติโยมที่ไม่เคยใช้พระคาถาเงินล้านแล้วอยากจะใช้ ขอให้ทราบว่า คนที่จะทำพระคาถาเงินล้านให้ได้ผล หรือที่เรียกว่า "ทำขึ้น" อันดับแรกเลย...ต้องประกอบไปด้วยศรัทธา คือ ความเชื่อมั่น
อันดับที่สอง...ต้องมีการสวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ เคยทำวันละเท่าไร ต้องทำวันละเท่านั้น
อันดับที่สาม...ต้องมีการให้ทานเป็นปกติ เพราะว่าทานเป็นพื้นฐานของโภคสมบัติและความร่ำรวยทั้งปวง
อันดับที่สี่...ต้องมีสมาธิที่ทรงตัว อาตมาเคยบอกว่าให้ภาวนาวันละ ๑๐๘ จบ ก็เพื่อว่าอย่างน้อย ๆ ในช่วงนั้นกำลังสมาธิของเราจะได้สูงขึ้น
ดังนั้น...ใครอยากจะทำพระคาถาเงินล้านให้ได้ผล ก็ให้ดูกติกาด้วยว่าเราทำได้ครบถ้วนหรือไม่ ? เราทำด้วยความเคารพศรัทธาหรือทำเพราะอยากรวย ? เรามีความเพียรพยายามปฏิบัติได้สม่ำเสมอทุกวันหรือเปล่า ? เรามีการทำบุญใส่บาตร ถือศีลปฏิบัติธรรมทุกวันหรือเปล่า ? เรามีกำลังสมาธิที่ทรงตัวหรือเปล่า ? ถ้าหากว่ากฎเกณฑ์กติกาเหล่านี้ครบ ท่านทำต่อเนื่องไม่เกิน ๒ เดือน จะเกิดผลแน่นอน
เรื่องของคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา คนที่ทำคาถาขึ้น มีสิทธิ์ที่จะฝึกอภิญญาได้สำเร็จ คราวนี้คนที่จะฝึกอภิญญาได้สำเร็จ ต้องเป็นคนที่จริงจังสม่ำเสมอ... -
"พระโสดาบันคือชาวบ้านชั้นดี" โอวาทธรรม หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง
"พระโสดาบันคือชาวบ้านชั้นดี"
“…ความจริง พระโสดาบัน ไม่ใช่ของสูง เป็นของธรรมดา ที่เรียกกันว่า ชาวบ้านชั้นดี
ท่านพระอริยะเบื้องสูงท่านกล่าวว่า ธรรมที่จะทำให้คนเป็น พระโสดาบัน เหมือนกับของเด็กเล่น คือเป็นของทำง่าย ๆ มี พรหมวิหาร ๔ ประจำใจ เราก็เป็นพระโสดาบันได้แบบสบายถ้าเรามีความฉลาด
…แต่ถ้าหากว่าเราโง่ ปล่อยให้จิตเป็นทาสของกิเลส ยังมีอารมณ์อิจฉาริษยาบุคคลอื่น อยากจะพิฆาตเช่นฆ่าทำลายบุคคลอื่น ให้มีความทุกข์ ขาดความเมตตาปรานี มีอารมณ์อิจฉา มีอารมณ์หวั่นไหวในกฎของกรรมอันเป็นสิ่งธรรมดา อันไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ อย่างนี้ป่วยการจะกล่าวไปไยถึงพระโสดาบัน แม้แต่เราจะเป็นคนก็ยังเป็นไม่ได้ เพราะจิตเป็นวิสัยของอบายภูมิ คือเป็นวิสัยของสัตว์นรก เป็นวิสัยของเปรต เป็นวิสัยของอสุรกาย เป็นวิสัยของสัตว์เดรัจฉาน ..
…ฉะนั้น อารมณ์ประเภทนี้ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จงเว้นเสีย ทรง พรหมวิหาร 4 ให้เป็นปกติ…
…องค์ของ พระโสดาบัน คือ..
..1. เคารพในพระพุทธเจ้า
..2. เคารพในพระธรรม
..3. เคารพในพระสงฆ์
..4. มีศีลบริสุทธิ์
..5. มีจิตรักพระนิพพานเป็นอารมณ์... -
"สติกับความเพียร" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"สติกับความเพียร"
" .. สติติดแนบกับตัว ดูหัวใจเจ้าของตลอดเวลา "นี่ชื่อว่าผู้มีความเพียร ในอิริยาบถใดก็ตามถ้ามีสติกําากับใจอยู่ เรียกว่าเป็นความเพียรทุก ๆ อิริยาบถ" จะเดินจงกรมไม่เดินจงกรมความเพียร "คือสติจับกันกับจิตซึ่งเป็นตัวภัย" ออกมาจากกิเลสปรุงแต่งออกมานั้น "จับตลอดเวลาไม่ละเว้น นี่คือผู้มีความเพียร"
นอกจากนั้นจะพิจารณาทางด้านปัญญาแยบคายไปในแง่ใดภูมิใด "สติก็ไม่ปราศจาก มีสติครอบอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นความเพียรทั้งด้านสติทั้งด้านปัญญากําาหนดอยู่นั้น" โลกอันนี้เหมือนไม่มี เพราะโลกนี้เป็นโลกของกิเลสทั้งมวล ไม่ว่าสัตว์ตัวใดบุคคลใดสร้างแต่กิเลสเข้าสู่ภายในใจ เผาลนจิตใจให้รุ่มร้อนทั่วถึงกันหมด นี่เป็นเรื่องของกิเลส .. "
"ชาติสุดท้าย"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๔ -
สืบเนื่องจากเรื่อง "หมาไปสวรรค์" ..หลวงปู่ดู่จะเทพระ เอาอานิสงส์ส่งให้
หมาไปสวรรค์
สมัยก่อนที่บ้านอาจารย์ศุภรัตน์ เลี้ยงหมาสีขาวดำ พันธุ์เทอเรีย ชื่อกลอฟ ที่บ้านพักอาจารย์เก่า ทุกคืนจะมีการนั่งสมาธิเวลา 2 ทุ่ม ของทุกคืน ไอ้กลอฟจะขึ้นบ้านชั้น 2 ที่มีการนั่งสมาธิ ตลอดชีวิตของไอ้กลอฟเวลา 2 ทุ่มจะขึ้นมานั่งสมาธิทุกคืน วันสุดท้ายของชีวิตมัน มันตะเกียกตะกายขึ้นมาหน้าพระตรงที่เขานั่งสมาธิและก็สิ้นใจ หน้าหิ้งพระคืนนั้น อาจารย์ศุภรัตน์ได้ไปหาหลวงปู่ แล้วก็เล่าเรื่องไอ้กลอฟให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่ดู่พูดว่า "หมาแกไปดีนะ" มันนั่งสมาธิทุกคืน และหมอพิเชฐก็บอกว่าเห็นเหมือนกันว่ามันไปดีแล้ว เดี๋ยวคืนนี้ข้าจะเทพระให้มัน
แล้วหลวงปู่ก็หันมาพูดกับลูกศิษย์ว่า
ดูซิหมายังไปได้ ถ้าพวกแกไปไม่ได้
"อายหมามันไหม"
ความเมตตาของพระโพธิสัตว์ไม่มีประมาณ ไม่ว่าจะคน หรือ สัตว์
ศุภรัตน์ แสงจันทร์
https://web.facebook.com/groups/578421352265490/user/100005219172557/ -
การเข้าถึงธรรมด้วยสัมมาสติ - สมเด็จพระญาณสังวร
การเข้าถึงธรรมด้วยสัมมาสติ - สมเด็จพระญาณสังวร -
"ใจเป็นโทษ" (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
"ใจเป็นโทษ"
" .. ถ้าใจของเราเป็นโทษเสียแล้ว
จะไปทำบุญทำทานอะไรก็ไม่ได้ผล
เหมือนกับเราขนปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ที่ตายแล้ว .. "
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร -
ร.4 ทรงออกประกาศไม่รับ “พระ(ที่สึก)” ทำราชการมหาดไทย-กลาโหม-กรมท่า?!?
ภาพประกอบเนื้อหา - จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
ทุกวันนี้การอุปสมบท บรรพชา ระยะสั้น 3 วัน, 7 วัน, 1 เดือน ฯลฯ ตามประเพณีนิยมสำหรับชายไทย เพื่อการศึกษาพระธรรมเพียงอย่างเดียว มีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ในอดีตการอุปสมบท บรรพชา สำหรับผู้ชายไม่ใช่แค่เรื่องของประเพณีนิยม หรือการศึกษาพระธรรม หากนี่ยังเป็นโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนความรู้อีกด้วย เพราะ “วัด” ก็คือสถานที่เรียนรู้วิทยาการต่างๆ ในวันที่ยังไม่มีโรงเรียน เช่นนี้พระสงฆ์ สามเณร ที่บวชเรียนบางรูป “สึก” ออกมาตามเหตุปัจจัย
โดยในสมัยรัชกาลที่ 4 มีพระสงฆ์ระดับพระราชาคณะ พระครู ฯลฯ บางรูป ฝากตัวกับเจ้าขุนนาง ด้วยหวังว่าเมื่อ “สึก” ออกไปจะได้เป็นขุนนาง เช่นนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงออก “ประกาศพระสงฆ์ที่จะสึกมารับราชการ” (ณ วันพุธ เดือน 6 ขึ้น 7 ค่ำ ปีขาลฉศก ศีกราช) ไว้ดังนี้
“…พระบาทสมเด็จพระมหากษัตรราธิราชพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทรมหนทรายุธยา บรมราชธานีนี้ 3 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จฯ... -
ผู้เชี่ยวชาญ คาด ไทยเสี่ยงน้ำท่วมใหญ่ ก.ย.-พ.ย. ปี’64 แนะรัฐปรับโครงสร้างรับมือ
สถานการณ์น้ำท่วมตอนนี้ถือว่าต้องจับตาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากร่องมรสุมแล้ว ก็ยังมีพายุโซนร้อน “โกนเซิน” ที่จ่อจะขึ้นฝั่งเวียดนาม ทีมข่าว PPTV พูดคุยกับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ประเมินว่า ปีนี้ประเทศไทยมีโอกาสเสี่ยงเกิดน้ำท่วมใหญ่ แต่จะไม่เท่าเหตุน้ำท่วมเมื่อปี 54
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ประเมินว่า ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2564 ไทยมีโอกาสเสี่ยงเกิดน้ำท่วมใหญ่ สาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งอุณหภูมิน้ำทะเลสูงทำให้เกิดฝนได้ง่าย ประกอบกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ มีมากกว่าปีที่แล้ว และพายุ “โกนเซิน” ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งเวียดนามใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ไม่น่าจะหนักเท่าเหตุน้ำท่วมปี 54 เพราะปริมาณฝนมีน้อยกว่า
“เราไม่ได้กลัวว่าปี 54 หรอก เรากลัวแค่น้ำท่วม 10 ปี ก็คือ ปี 45 ถ้าจำได้นะ ปี 45 น้ำท่วมอยุธยา แต่ไม่เข้ากรุงเทพนะ เค้าเรียกน้ำท่วม 10 ส่วนนั้นนะ มันมีโอกาสสูงในน้ำท่วมรอบ 10 ปี เพราะฉะนั้นต้องเฝ้าระวัง ว่าอีก 2 เดือนมันอาจเป็นไปได้” รศ.ดร.เสรี... -
๒๑ วิธี ของ สติปัฏฐาน เส้นทางแห่งการบรรลุธรรม
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒
[ฉบับมหาจุฬาฯ] ทีฆนิกาย มหาวรรค
มหาสติปัฏฐานสูตร
หมวดกายานุปัสนา
๑. อานาปานบรรพ
๒. อิริยาปถบรรพ
๓. สัมปชัญญบรรพ
๔. ปฏิกูลมนสิการบรรพ
๕. ธาตุมนสิการบรรพ
๖. นวสีวถิกาบรรพ (แยกมาได้ ๙ วิธี)
๖.๑
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้าซึ่งตายแล้ว
๖.๒
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้าซึ่งถูกกาจิกกิน นกตะกรุม
จิกกิน แร้งทึ้งกิน สุนัขกัดกิน สุนัขจิ้งจอกกัดกิน หรือสัตว์เล็กๆ
หลายชนิดกัดกินอยู่
๖.๓
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้า เป็นโครงกระดูกยังมีเนื้อ
และเลือด มีเอ็นรึงรัดอยู่
๖.๔
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้า เป็นโครงกระดูกไม่มีเนื้อ
แต่ยังมีเลือดเปื้อนเปรอะ มีเอ็นรึงรัดอยู่
๖.๕
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้า เป็นโครงกระดูกไม่มี
เลือดและเนื้อ แต่ยังมีเอ็นรึงรัดอยู่
๖.๖
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้า เป็นโครงกระดูกไม่มีเอ็น
รึงรัดแล้ว กระจุยกระจายไปในทิศใหญ่
๖.๗
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้า ซึ่งเป็นท่อนกระดูกสีขาว
เหมือนสีสังข์
๖.๘
ภิกษุเห็นซากศพอันเขาทิ้งไว้ในป่าช้า ซึ่งเป็นท่อนกระดูกกอง
อยู่ด้วยกันเกินกว่า ๑ ปี... -
“สภาพจิตปกติ ของ“พระอรหันต์”คือ “อุเบกขา” เพราะอยู่ด้วยจิตที่ ลงตัวพอดีด้วยปัญญา : ป. อ. ปยุตฺโต
“สภาพจิตปกติ
ของ“พระอรหันต์”
คือ “อุเบกขา”
เพราะอยู่ด้วยจิตที่
ลงตัวพอดีด้วยปัญญา
.
ปัญญา กับ อุเบกขา จึงคู่กัน
พอปัญญาถึงขั้นเป็น“โพธิญาณ”
หยั่งรู้ความจริงของ ชีวิต และ โลก
เจนจบ รู้เท่าทันสังขาร จิตก็ลงตัว
เรียกว่า..วางพอดีกับชีวิต และโลก
เป็น “อุเบกขา ด้วย ปัญญา”
นี่คือ..จิตพระอรหันต์”
.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )
ที่มา : ธรรมนิพนธ์ เรื่อง “จะอยู่อย่างเป็นเหยื่อ หรือขึ้นเหนือไปนำเขา”
=AZX21EOYRhXFHOIgNucGBjK5ZxJw8MmOl1FWhtbHFJeX1QMsuQ3Etr7sf_zjXk6-kbP-3xfbFhKLiUpQQRlizSP0jpLL45-21lpWo3IS1F-NRM1Z37KNtIyv7a0YjiiiupsnW1MeUKvmvyZplryp46nO&__tn__=-UC*F']ธรรมะเพื่อทางพ้นทุกข์ โดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ -
สมุทรปราการช้ำไม่เลิก บางบ่อท่วมสูงเกือบถึงเอว ทั้งพระทั้งโยมขนของหนีน้ำจ้าละหวั่น
ที่ชุมชนวัดบางบ่อ หมู่ 3 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งว่าน้ำในคลองสำโรงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมวัดบางบ่อ โรงเรียน และชุมชนซึ่งหน้าวัดบางบ่อ มีระดับน้ำท่วมสูงถึงเอว โดยเฉพาะภายในโรงเรียนและวัดบางบ่อ ส่วนบนถนนมีปริมาณน้ำสูงเกือบ 50 เซนติเมตร รถเก๋งไม่สามารถผ่านได้ ต้องเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่หรือกระบะยกสูงเท่านั้น
ขณะที่ชาวบ้านบางรายอพยพหนีน้ำที่มาพร้อมกับปลิง ไปอาศัยอยู่บ้านญาติพี่น้อง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเด็กและคนชรา ที่จะอพยพกันแต่ละทีก็ลำบาก เพราะไม่มีเรือ ต้องอาศัยภาชนะ หรือกะละมังขนาดใหญ่บรรทุกสัมภาระ คนสูงอายุและเด็กออกจากพื้นที่ ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า น้ำท่วมทุกปีแต่ปีนี้ท่วมหนักที่สุด เพราะระดับน้ำในคลอง มีระดับน้ำที่สูงล้นตลิ่ง เมื่อมีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำจึงไม่มีที่จะระบาย
ขณะที่ภายในวัดบางบ่อ ซึ่งด้านหลังติดกับคลองสำโรง ก็มีน้ำท่วมทั่วทั้งวัด รวมทั้งถนนหน้าวัด และชุมชน ก็มีระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร ชาวบ้านช่วยกันหากระสอบทราย มากันคลื่นน้ำที่เกิดจากรถยนต์ขนาดใหญ่วิ่งผ่าน ไม่ให้เข้าบ้านที่อยู่อาศัย และภายในโรงเรียนวัดบางบ่อ มีน้ำท่วมทั่วบริเวณโรงเรียน... -
ความถูกต้อง กับ ความถูกใจ (พระไพศาล วิสาโล)
… คนไทยทะเลาะกัน ส่วนหนึ่งก็เกิดจากอัตตารวมหมู่ ไม่ใช่อัตตาเฉพาะคน มันเป็นอัตตาที่ซับซ้อน อิงอุดมการณ์ หรือผลประโยชน์ ในทางพุทธศาสนาก็สอนไว้ ว่ามีเหตุปัจจัย 3 ประการที่ทำให้คนเราทะเลาะกัน คือ ตัณหา มานะ และทิฐิ
ตัณหาคือความยึดติดในผลประโยชน์ มานะก็คือความถือตัว ความรู้สึกว่ากูแน่ ส่วนทิฐิคือการยึดติดในความเชื่อหรืออุดมการณ์ เรื่องพวกนี้สัมพันธ์กับอัตตาแทบทั้งนั้น ถ้าเป็นในระดับกลุ่ม มันจะยิ่งทวีความซับซ้อน…
อาตมาพยายามเตือนให้คนอย่าสร้างความกลัว เกลียด โกรธ ให้แก่กัน ตอนนี้ Hate Speech (วาจาที่สร้างความเกลียดชัง) เกิดขึ้นมาก แต่ไม่ใช่ Hate Speech ที่กระทำกับคนเฉพาะกลุ่ม แต่มุ่งเจาะจงมาที่ตัวบุคคล…
เดี๋ยวนี้คนสนใจเรื่องความถูกต้องน้อย แต่สนใจเรื่องความถูกใจมากกว่า แสวงหาเรียกร้องแต่สิ่งที่ถูกใจ สะใจ ดูในเฟซบุ๊คสิ มีแต่ปุ่มกด Like หรือ “ชอบใจ” ที่จริงไม่ได้เสียหายอะไรหรอก เพียงแต่ ความชอบใจ ความถูกใจมันยังไม่พอต้องมีความถูกต้องด้วย
ความถูกต้องเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อใช้เหตุผลไตร่ตรอง ตอนนี้สังคมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เขาจะไม่ถามว่าคุณคิดอะไร แต่จะถามก่อนเลยว่าคุณฝ่ายไหน... -
"โลกุตตรธรรม" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"โลกุตตรธรรม"
" .. "โลกุตตรธรรมนี้บังเกิดขึ้นแก่ท่านผู้ใดแล้ว ท่านผู้นั้นไม่มีความเสื่อมเลย" เพราะบรรลุถึงความจริง รู้จริงในใจ "คุณพระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐจริง จริงอย่างนี้ตลอดไปเลย" คุณพระธรรมเจ้าเป็นสิ่งที่ประเสริฐจริงอย่างนี้ คุณพระสงฆ์เจ้าเป็นสิ่งประเสริฐจริงอย่างนี้
มันจริงใจอยู่อย่างนั้น แล้วไม่หวั่นไหว "ไม่แปรไปนับถือสิ่งอื่นใดว่าวิเศษยิ่งกว่านี้" นี่จึงเรียกว่า "บรรลุธรรมของจริง" แต่คนธรรมดาสามัญเอาแน่นอนไม่ได้นะ "บางทีมันก็พลิกไปทางนู้นพลิกมาทางนี้" เพราะว่าใจมันยังไม่สงบอย่างจริงจัง "ปัญญายังตัดกระแสของกิเลสไม่ได้" .. "
"การปฏิบัติภาวนาประจำชีวิต"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ -
เคล็ดวิธีปิดอบายด้วยไตรสรณคมน์
เคล็ดวิธีปิดอบายด้วยไตรสรณคมน์
อาจารย์รอบทิศ ดร.ทางพุทธศาสนารุ่นใหม่ และแฟนพันธุ์แท้พระเกจิคณาจารย์
ผู้ออกหาความรู้เรื่องโลกวิญญาณกับพระเกจิอาจารย์ต่างๆทั่วไทยมากว่า 20 ปี -
โกนเซิน! พ่นพิษน้ำหลากท่วมชุมชนตลาดเก่า พระลุยน้ำเดินบิณฑบาต
โกนเซิน! พ่นพิษน้ำหลากท่วมชุมชนตลาดเก่า พระลุยน้ำเดินบิณฑบาต
เมื่อเวลา 07.40 น.วันที่ 10 กันยายน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงาน ความคืบหน้า สถานการณ์น้ำป่าอุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก และ จากอ่างเก็บน้ำทับลานล้านอ่าง ไหลหลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้านตีนเขา และในบ้านทับลานใน ม.10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และมวลน้ำป่าได้ไหลลดระดับ ผ่านแควขโมง และ ไหลผ่านมาตามแควหนุมาน ทั้งนี้ก่อนหน้าทาง จ.ปราจีนบุรีได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชุมชนตลาดเก่าเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน พบที่ชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่ตั้งติดต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี อันเกิดจากแควหนุมานที่น้ำไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี ไหลมารวมบรรจบรวมกันกับแควพระปรงที่น้ำไหลมาจากเทือกเขาสอยดาวจาก จ. สระแก้วมารวมบรรจบกันกับแควหนุมานที่ เทศบาลตำบลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี รวมกันเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมท่วมชุมชนตลาดเก่า ที่ตั้งติดริมต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ระดับน้ำท่วมสูง 20 ซม. 50 เมตร จากท้ายซอยชุมชนฯบริเวณท่าเรือเก่า เข้ามากลางซอย... -
ศีลและธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความไม่ประมาท (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
ศีลและธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความไม่ประมาท ศีลเป็นเหตุให้งดเว้นไม่ทำสิ่งที่ เป็นโทษ...
ธรรมเป็นเครื่องบำรุงจิตให้งดงามสร้าง อัธยาศัยนิสัยที่ดี ศีลเป็นเหตุให้งดเว้นไม่ทำสิ่งที่เป็นโทษ ถ้ามีเพียงศีลก็มีเพียงงดเว้นได้จากโทษ...
... แต่ก็ยังมิได้ทำความดี ถ้ามีธรรม อยู่ด้วย จึงจะนำให้คุณความดีและทำให้จิต ใจงามดังเช่น ไม่ฆ่าสัตว์เพราะมีศีล และเกื้อกูลสัตว์ด้วยเมตตา กรุณา เพราะมีธรรม ความเมตตา กรุณา ซึ่งเป็นธรรมจึงอยู่คู่กับการไม่ฆ่าสัตว์ คือมีศีล
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจากหนังสือ 100 คำสอนสมเด็จพระสังฆราช คำสอนที่ 82 -
ทุกข์ ถ้าวางไม่เป็น ก็อย่าแบกไว้
ถาม : ไม่อยากออกไปหาความทุกข์ค่ะ
ตอบ : ไม่ต้องออก อยู่กับทุกข์นั่นแหละ เพียงแต่อย่าแบกทุกข์เอาไว้
ถาม : วางไม่เป็นค่ะ ?
ตอบ : วางไม่เป็นก็อย่าแบกสิ จะได้ไม่ต้องวาง ใช้คำว่า "ธรรมดา" ธรรมดาการเกิดมาต้องมีทุกข์เช่นนั้น เพราะฉะนั้น..ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีทุกข์เช่นนี้จะไม่มีกับเราอีก ถ้าเราสามารถออกจากกองทุกข์ได้ในชาตินี้ ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดเพื่อมาทุกข์อีกนับชาติไม่ถ้วน การที่เราทุกข์ชาตินี้ก็แค่พักเดียวเท่านั้น ทำไมเราจะอยู่กับทุกข์นี้ไมได้ ก็แค่อย่าไปแบกเอาไว้เท่านั้น
ธรรมดา..ทำไม่ถูกใจเขาก็ต้องด่าเรา ธรรมดา..มีครอบครัวก็ต้องปวดหัว ธรรมดา..มีงานก็ต้องเครียด ให้เห็นธรรมดาให้ได้ พอเห็นธรรมดาก็แบกน้อยแล้ว
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"ปัญญาอริยมรรค" (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
.
"ปัญญาอริยมรรค"
" .. "ปัญญาภายนอกคือปัญญาสมมุติ" ไม่ทำให้จิตแจ้งในพระนิพพานได้ "ต้องอาศัยปัญญาอริยมรรค" จึงจะเข้าถึงพระนิพพานได้
"ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์" เช่น "ไอน์สไตน์ มีความรู้มาก มีความสามารถมาก" แยกปรมาณูที่เล็กที่สุด จนเข้าถึงมิติที่ ๔ แล้ว "แต่ไอน์สไตน์ไม่รู้จักพระนิพพาน" จึงเข้าพระนิพพานไม่ได้
"จิตที่แจ้งในอริยมรรคเท่านั้น" จึงเป็นไปเพื่อการตรัสรู้ ตรัสรู้ยิ่ง ตรัสรู้พร้อม "เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ เป็นไปเพื่อนิพพาน" .. "
"หลวงปู่ฝากไว้"
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล -
ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ตาม พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (หลวงพ่อเล็ก)
ขอเชิญทุกท่านร่วมภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ
ตาม พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (หลวงพ่อเล็ก) วัดท่าขนุน
เพื่อความคล่องตัว ร่ำรวยกันนะคะ -
จิตมีธรรมะคือสติปัญญาคุ้มครองตัวเอง (หลวงปู่ไม อินทสิริ)
"… อยู่ในสังคมใดก็ตาม... แม้เราจะพูดเราก็รักษาการพูดของตัวเอง... แสดงออกก็แสดงออกในทางที่ดีให้มีสติ... ให้มีปัญญา... ตอนที่เราแสดงออก... อย่าให้มันไปกระทบกับคนอื่น...
... แม้คนอื่นเค้าจะไปกระทบเรา... แต่ถ้าจิตของเรามีธรรมะ... เหมือนกับไม่กระทบ... มันเป็นอย่างนั้น... คนที่ปฏิบัติธรรมมันต้องคุ้มครองตัวเอง... มีเกราะป้องกันตัวเองคืออย่างนี้... คือสติปัญญาคุ้มครองตัวเองอย่างนี้ นี่แหละหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า... เราปฏิบัติธรรมต้องปฏิบัติหาทางที่พ้นทุกข์... ไม่ใช่หลงความสุขอย่างเดียว... ความสุขนี้ถ้ามันไม่พ้นทุกข์แล้วมันจะสุขได้อย่างไร…"
Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก พระธรรมเทศนาองค์หลวงปู่ไม อินทสิริ โดย กลุ่มเด็กวัดป่ากรรมฐาน (กลุ่มมดงาน) -
"แพ้ใจ คือพ่ายต่อกิเลส" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"แพ้ใจ คือพ่ายต่อกิเลส"
" .. "ที่เรียกว่าแพ้ใจ คือ พ่ายต่อกิเลส"แพ้ใจหรือแพ้จิตใจนั้น โดยตรง "คือแพ้ความอยากความปรารถนาที่ผิด ๆ แพ้โทสะในใจตนเอง" เพราะว่าจิตนี้มีสิงที่ไม่บริสุทธึ์ปนอยู่มาก ที่ปนอยู่มานาน จนติดเป็นนิสัยสันดานก็มี ที่ปนเข้ามาใหม่ ๆ ก็มี
ที่เคยกล่าวว่า "จิตเป็นเหมือนนาย กายเป็นเหมือนบ่าว" นั้น ถ้ายกจิตมา วิจัยดูอีกแล้วจะได้พบ "นายที่ยึดครองจิตใจอยู่อีกชั้นหนึ่ง" เช่น ความปรารถนาอยากได้อย่างผิด ๆ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้กระซิบสั่ง จิตใจให้ดิ้นรนไปต่าง ๆ เหมือนอย่างเป็นทาส "ดังมีคำเรียกว่า เป็นทาสของตัณหา จึงจำเป็นโดยแท้ที่จะให้การบริหารแกจิต" เพื่อให้จิตมืพลังที่จะเอาชนะจิต .."
"๑๐๑ ญาณทรรศน์"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๔ -
คติความเชื่อของคนไทย ทำไมต้องบูชา เจ้าป่า เจ้าเขา
คติความเชื่อของคนไทย ทำไมต้องบูชา เจ้าป่า เจ้าเขา
สำนักวรรณกรรมเเละประวัติศาสตร์ เคยให้ข้อมูลเรื่องเทวดาประจำถิ่น เคยให้ความรู้เรื่อง เทวดาประจำถิ่นหรือประจำท้องถิ่น ไว้ว่า
จากกรณีข่าว "น้องจีน่า" ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจกันอยู่ตอนนี้ โดยผู้ต้องสงสัยมีการกล่าวอ้างถึงความเชื่อเรื่องเจ้าที่ ผีถ้ำ ทางสำนักวรรณกรรมเเละประวัติศาสตร์ เคยให้ข้อมูลเรื่องเทวดาประจำถิ่น ไว้ว่า
เทวดา หมายถึง ผู้ที่อยู่ต่างภพกับมนุษย์และมีอำนาจเหนือธรรมชาติ ดลบันดาลให้เกิดสิ่งต่างๆขึ้นได้ทั้งร้ายและดี ในประเทศไทยคำว่า “เทวดา” เป็นคำยืมจากภาษาบาลี ซึ่งโดยความหมายแล้วกินความตั้งแต่เทวดาหรือเทพเจ้าในศาสนาฮินดู (พราหมณ์) พุทธศาสนา รวมไปถึงเทวดาประจำถิ่นตามความเชื่อพื้นเมืองด้วย
เทวดาประจำถิ่นหรือประจำท้องถิ่น ในประเพณีไทยเทวดาประจำท้องถิ่นนี้มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ได้แก่ เทวดาที่คอยดูแลรักษาประจำถิ่นที่ เช่น พระภูมิเจ้าที่ เจ้าทุ่ง เจ้าป่า เจ้าเขา ซึ่งเป็นใหญ่ในที่แห่งใดแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ บ้างก็เรียกว่า เทพารักษ์ หากเป็นกรณีเทวดาที่สถิตอยู่ตามต้นไม้เรียกว่า รุกขเทวดา นอกจากนี้ ในหลายกรณี... -
ท่าบริหารสมองให้ คิดดี พูดดี ทำดี !!!
การบริหารสมอง คือการปรับสมดุลให้ทุกส่วนของสมองได้ทำงานเท่ากัน ไม่เพียงป้องกันสมองเสื่อม แต่สามารถฝึกให้สมองให้ คิดดี พูดดี ทำดี ได้ด้วย
เมื่ออายุ 50 ปีสมองของเราจะเริ่มเสื่อมลง คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถชะลอความเสื่อมของสมองลงได้ ผศ.ดร.ก.บ.ศุภลักษณ์ เข็มทอง อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคม คณะกายภายบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล จะมาแนะนำการบริหารสมองครบทุกส่วน ได้แก่ ด้านซ้าย ขวา หน้า และหลัง โดยใช้กิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การร้องเพลงฟังเพลงเก่าๆ การหลับตาฝึกประสาทสัมผัส การลองทำในสิ่งที่ไม่ถนัด การเล่นเกมโซโดกุ รวมไปถึงการฝึกโยคะนิ้ว ซึ่งหากเราบริหารสมองครบทุกด้านก็จะสามารถชะลอความเสื่อมของสมองลงได้
สำหรับผู้สูงอายุไว้ฝึกเพื่อป้องกันความเสื่อมของสมอง แต่ดูแล้วน่าจะเหมาะกับทุกวัย อีกทั้งยังได้ผลมากเกินความคาดหมาย มาลองทำดูกัน
สมองซีกขวา (ความคิดสร้างสรรค์)
บริหารสมองซีกขวาด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. เกี่ยวกับ ศิลปะ ดนตรี การร้องรำ ร้องเพลง เช่น ฮัมเพลง โดยไม่ดูเนื้อร้องเพลงเก่าๆ ทบทวนความจำเก่าๆ
2. ฝึกใช้มือข้างที่ไม่ถนัดบ้าง เช่น แปรงฟัน เขียนหนังสือ หรือให้ฝึกใช้ทั้งสองมือ
3.... -
อารมณ์ของนักปฏิบัติ
แรก ๆ ของนักปฏิบัติ จะไม่กล้ากระดิกออกจากกรอบเลย พอทำไประยะหนึ่งจะเริ่มปรับได้ จะค่อย ๆ กลมกลืนขึ้นเรื่อย ๆ กลืนกับโลกขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงที่สุดแล้ว ก็จะกลายเป็นคนธรรมดาที่ยิ่งกว่าธรรมดา
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"แก่นของพระพุทธศาสนา" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"แก่นของพระพุทธศาสนา"
" .. ใจเป็นของไม่แน่นอนคลอนแคลน "เดี๋ยวคิดไปโน่นไปนี่ ไม่นิ่งอยู่กับที่ได้ ใจเป็นอนัตตาหาได้มีสาระอะไรไม่" คิดอยากโกรธเกลียดใครก็ได้ แล้วนำความเดือดร้อนมาให้แก่ตัวเอง
"ใจเกลียด ใจโกรธ ใจเป็นโทษทุกข์ทรมานด้วยตนเอง" จึงเห็นว่าใจนี้ไม่มีสาระ แล้วไม่เข้าไปยึดเอาใจมาเป็นของตัว ปล่อยวางใจเสีย เห็นใจสักแต่ว่าผู้นึกคิดทำความรู้เท่าแล้วอยู่
"เมื่ออายตนะ ผัสสะ ยังมีอยู่จำเป็นจะต้องรู้ต้องเห็น แต่ไม่เข้าไปทำความเศร้าหมองให้ใจ" เมื่ออายตนะนี้ดับไปแล้ว ผัสสะย่อมไม่ปรากฏ ย่อมดับไปด้วยกัน "อันนี้เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา" .. "
"ถาม-ตอบต่างประเทศ"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
"อย่าไปดูถูกใครเขา" ให้คิดว่าดวงจิตทุกดวงจิต มี"พระนิพพาน"เป็นที่ไปสุดท้าย
..."อย่าไปดูถูกใครเขา ให้คิดเสียว่า..ดวงจิตทุกดวงจิต มีพระนิพพานเป็นที่ไปสุดท้าย ทุกดวงจิตต่างลงมาบำเพ็ญเพียร เพื่อเป็นพระอรหันต์กันทั้งสิ้น แต่ในระหว่างทาง ที่จะไปถึงพระนิพพานได้นั้น ดวงจิตแต่ละดวงจิตก็ต้องเผชิญการทดสอบ การบำเพ็ญเพียรที่แตกต่างออกไป ตามกรรมของแต่ละดวงจิต
เวลาที่เราเห็นใครทำดี เราก็โมทนาในความดีของท่านทั้งหลายนั้น หากเห็นเขาทำอะไรไม่ดี ก็ให้สงสารเขา แล้วถ้าพอจะช่วยเขาได้ ก็ช่วยตามกำลังของเรา แต่หากช่วยไม่ได้ ก็ให้ถืออุเบกขา เพราะเราไม่สามารถจะช่วยเขาทั้งหลายนั้นได้ทั้งหมด แล้วให้คิดเสียว่า..ดวงจิตนั้นได้กระทำการที่เสี่ยง ต่อการไปนรกให้เราได้เห็น ได้เรียนรู้ เขาได้เสียสละตนเอง แสดงเหตุที่เสี่ยงต่อการไปนรกให้ เราได้เห็น และเราก็อย่าได้ไปทำตามเขานะลูก"...
ธรรมะจาก...หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง จ.สระบุรี -
ช้างแสนรู้ ก้มกราบพระครู ผู้ให้ชีวิตใหม่
ช้างแสนรู้ ก้มกราบพระครู ผู้ให้ชีวิตใหม่
หัวใจช้างไม่ต่างจากคน! พลายแสนเมือง พลายแสนเขื่อน ช้างแสนรู้ ก้มกราบพระครู ผู้ให้ชีวิตใหม่ ไถ่ชีวิตจากช้างลากไม้ สู่ช้างของแผ่นดิน...
ภาพล้านความรู้สึก นี่คงเป็นคำขอบคุณของสัตว์ใหญ่ แม้พูดไม่ได้ เเต่พวกเขากำลังบอกว่า ขอบคุณจากหัวใจ
เพจเฟซบุ๊ก พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ เผยเเพร่ภาพสุดประทับใจ ช้างพลายม้วนตัวกราบเเทบเท้าอย่างน่าเอ็นดู พระครูบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ พร้อมกับเล่าว่า
พลายแสนเมือง & พลายแสนเขื่อน อดีตช้างลากไม้ ที่ได้ไถ่ชีวิตไว้ พลายแสนเขื่อน 1,100,000 บาท พลายเเสนเมือง 959,999 บาท วันศุกร์ที่ 3 กันยายนนี้
จะไปยื่นหนังสือเพื่อมอบให้เป็นมรดกของแผ่นดินต่อไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่มีคำว่าบังเอิญ
ก่อนที่พระครูจะอัปเดต วันนี้แวะไปเยี่ยมช้างพลายแสนเขื่อนและพลายแสนเมือง 2 อดีตช้างลากไม้ที่พระครูอ๊อดและญาติธรรมได้ไถ่ชีวิตเอาไว้...
อยู่ในระหว่างขั้นตอนการทำหนังสือเพื่อมอบให้เป็นช้างมรดกของแผ่นดินต่อไป ช่วงนี้ให้ ทั้ง 2 เชือกได้พักผ่อนอย่างเต็มที่กินให้เต็มที่เริ่มสมบูรณ์ขึ้นมาก
ปฎิกริยาของช้างทั้ง 2... -
“แบม จณิสตา” ฝึกลูกให้กตัญญูบวชหน้าไฟส่งคุณปู่ขึ้นสวรรค์
แม้จะเลี้ยงลูกแบบฝรั่งคือฝึกให้คิด ให้ลองทำกิจกรรมทุกอย่าง แต่ “คุณแม่แบม-จณิสตา จรูญสมิทธิ์ (ลิ่วเฉลิมวงศ์)” ก็ยังเลี้ยงลูกในวิถีพุทธ และวัฒนธรรมไทย ที่ต้องอบรมให้เป็นเด็กที่มีความกตัญญูและมารยาทแบบไทยๆ ซึ่งเมื่อครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักก็คือ พ่อของสามี “รศ.นพ.ถาวร จรูญสมิทธิ์” ที่จากไปด้วยโรคชรา ก็เลยให้ลูกชายคนที่ 2 “น้องวินซ์-นราธิปพงศ์ จรูญสมิทธิ์” ทำหน้าที่เป็นตัวแทนลูกหลานด้วยการบวชหน้าไฟให้แก่คุณปู่ เพื่อส่งคุณปู่สู่สุขคติ…ซึ่งน้องวินซ์ในวัย 8 ขวบก็ไม่อิดออด ยอมเสียสละละทิ้งทรงผมสุดเท่ห์ โกนผมเพื่อส่งคุณปู่ขึ้นสวรรค์ … อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ขอขอบคุณที่มา
https://mgronline.com/celebonline/detail/9640000088348
หน้า 114 ของ 411