คลังเรื่องเด่น
-
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
"กูไม่ฉันเพราะเมตตามึงต่างหาก" พระวิสุทธิสารเถร (ภูสิต ขันติธโร)
.
"กูไม่ฉันเพราะเมตตามึงต่างหาก"
กวางเข้ามาในนิมิตของท่าน
.. ขอเล่าย่อๆ เรื่องอาหารถวายพระ เมื่อครั้ง **พระอาจารย์จันทร์ สร้างวัดแรกของท่าน ที่วัดป่าถ้ำภูเคย ทองผาภูมิ กาญจนบุรี "วันหนึ่งท่านต้องเข้ากรุงเทพ กวางตัวหนึ่งที่เคยเข้ามากินอาหารในวัด ได้โดนสุนัขไล่ กวางก็วิ่งหนีไปเข้าบ้านโยม โยมเห็นกวางเข้ามาแทนที่จะช่วย กลับเอาปืนมายิงกวางตายและเอาเนื้อกวางมาทำอาหารถวาย"
พอกลับมาท่านนั่งภาวนา "กวางที่โดนยิงก็เข้าในนิมิตของท่านเล่าให้ท่านฟังว่าโดนโยมอยู่ใกล้วัดยิงตาย พรุ่งนี้เขาจะเอาเนื้อกวางที่โดนยิงเข้ามาถวายให้ท่านฉัน ขอให้ท่านฉันให้ด้วย เพราะอานิสงค์ที่ ท่านฉันเนื้อกวางให้นี้ กวางจะขอเกิดเป็นคน จะขอเวลาแค่ ๑๖ ปี ก็พอและโตพอที่จะจับปืนเพื่อจะไปฆ่าโยมที่ยิงเขา" ท่านก็ไม่ได้รับปากอะไร
พอเช้าโยมที่ยิงกวางก็เอาอาหารมาถวายจริง ๆ "ท่านก็ไม่ฉันอาหารเขา คืนที่สองก็มาต่อว่าอีกว่าทำไมไม่ฉัน" ท่านก็อธิบายเรื่อการจองเวร ก็จะไม่มีวันจบถ้าฉันเนื้อกวางนี้ "กวางได้ไปเกิดก็จะไปฆ่าโยม ภพต่อไปกวางก็จะต้องโดนฆ่าอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้ ไม่มีวันจบ ถ้าโยมคนนี้สำนึกผิดก็ควรให้อภัยเขา"... -
บรรยายธรรมในหัวข้อ "ปกิณกธรรม" ออกอากาศช่อง MCU TV ในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม
บรรยายธรรมในหัวข้อ "ปกิณกธรรม"
ออกอากาศช่อง MCU TV ในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม
โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
ณ สำนักงานเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๙.๐๐ น. -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
จุดเริ่มต้นการปรารถนาพระพุทธเจ้า / พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง)
จุดเริ่มต้นการปรารถนาพระพุทธเจ้า /
พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง)
***************************************************
ที่มา https://www.youtube.com/@user-bt6ib6yy9r -
ตั้งเป้าไว้ให้จิตคุ้นชิน “ตายเมื่อไร ขอไปพระนิพพานที่เดียว”
สภาพของเราก็ดี ของเขาก็ดี สภาพของคนหรือสัตว์ก็ตาม ล้วนเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุดดังนี้ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้ เกิดใหม่เมื่อไร ก็เป็นอย่างนี้เมื่อนั้น
ดังนั้น ขึ้นชื่อว่าการเกิดใหม่ ไม่ควรจะมีสำหรับเราอีก ให้เราเอาใจเกาะพระนิพพานเข้าไว้ ตั้งใจว่า เราตายเมื่อไร ขอไปพระนิพพานแห่งเดียว
....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
สังขาร, วิญญาณ
สังขาร, วิญญาณ
"สังขาร" ตัวนี้ไม่ได้หมายความว่าร่างกาย มันเป็นอารมณ์ใจ หมายความว่า อารมณ์ของใจ หรืออารมณ์ที่เข้ามาหนุนใจ เข้ามาแทรกกับใจ
นี่ถ้าเป็นอารมณ์ด้านดีเป็น ปัจจัยของความสุข ท่านเรียกว่า กุศล คือ ฉลาด
ถ้าอารมณ์ด้านชั่วสร้างความทุกข์ เรียกว่า อกุศล แปลว่าโง่ ไม่ฉลาดก็โง่
ถ้าว่าที่อยู่เฉยๆ ไม่ไปยุ่งกับความดีหรือความชั่ว เรียกว่า "อัพยากฤต"
อารมณ์อย่างนี้เข้ามาสิงใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกว่า "สังขาร"
จำให้ดีนะบาลีกับภาษาไทยนี้ไม่เหมือนกัน
ภาษาไทย "สังขาร" หมายถึง ร่างกาย
แต่ว่าบาลี "สังขาร" นี่หมายถึง อารมณ์ที่เข้ามาคุมใจ
ความรู้อารมณ์ในเวลาที่เมื่อรูปมากระทบตาเป็นต้นเรียกว่า "วิญญาณ"
วิญญาณ นี้แปลว่า การวิเศษ รู้เห็น
เห็นรูป เป็น "จักขุวิญญาณ"
หูฟังเสียงเป็น "โสตวิญญาณ"
จมูกกระทบกลิ่นเรียกว่า "ฆานวิญญาณ"
ลิ้นกระทบรสเรียกว่า "ชิวหาวิญญาณ"
กายถูกต้องสัมผัสเรียกว่า "กายวิญญาณ"
"วิญญาณ" นี่แปลว่ารู้วิเศษ รู้เปรี้ยว รู้เค็ม รู้หนาว รู้ร้อน
"วิญญาณ" ตัวนี้ไม่ใช่ใจนะ
ที่เขาเขียนไว้เทศน์มักจะบวกกันดะนะ งงเต็มที "วิญญาณ" ตัวนี้ไม่ใช่ใจ มันเกาะอยู่กับกาย... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
ซักซ้อมการปล่อยวางเพื่อวาระสุดท้ายของจิต
โอวาทเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๖
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องไปยังมณฑลพิธีหน้าศาลาการเปรียญวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ตั้งแต่ก่อน ๗ โมงเช้า เนื่องเพราะว่าตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ผู้เป็นเจ้าของงาน และท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ลงไปรออยู่ก่อนแล้ว
งานนี้ความจริงกระผม/อาตมภาพต้องทำการบวงสรวง นอกจากเพื่องานสืบชะตาหลวง ๘๖ ปีของตุ๊พ่อสิงห์แล้ว ยังต้องขออนุญาตหล่อพระด้วย แต่เนื่องจากว่าเสียงไม่อำนวยให้ จึงขอให้ทางวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ เปิดเสียงบวงสรวงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงแทน ก็แปลว่าหลังจากที่ออกจากวัดมา ๓๐ ปี นี่เป็นครั้งที่สองที่เปิดเสียงของหลวงพ่อฤๅษีฯ ในการบวงสรวง
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการบวงสรวงเพื่อขออนุญาตสร้างเกาะพระฤๅษี ในปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ นั้น กระผม/อาตมภาพก็เปิดเสียงบวงสรวงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านตามปกติ แต่มีเสียงด่ากรอกหูมาว่า "พวกแกใช้ข้าจนตายแล้ว... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
‘สมเด็จพระสังฆราช’ ลงพระนามประกาศระเบียบมส. คุมเข้มสำนักปฏิบัติธรรม
‘สมเด็จพระสังฆราช’ ลงพระนามประกาศระเบียบมส.
คุมเข้มสำนักปฏิบัติธรรม
หากพบแนวทางปฏิบัติไม่เป็นตามหลักมหาสติปัฏฐานสูตร หรือหลักสูตรที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี ให้งดการดำเนินงาน...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการประกาศระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการส่งเสริมสำนักปฏิบัติธรรมแห่งคณะสงฆ์ พ.ศ. 2567 ลงในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เล่มที่ 112 ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชได้ลงพระนามในระเบียบมหาเถรสมาคม ดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2567...
ทั้งนี้ ระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการส่งเสริมสำนักปฏิบัติธรรมแห่งคณะสงฆ์ พ.ศ. 2567 มีสาระสำคัญคือ ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมสำนักปฏิบัติธรรมแห่งคณะสงฆ์ไทย ซึ่งมหาเถรสมาคม (มส.) แต่งตั้งโดยการเสนอของคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประกอบด้วย 1.ประธานกรรมการรูปหนึ่ง 2.กรรมการโดยตำแหน่ง ประกอบด้วย แม่กองบาลีสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง ประธานกรรมการการศึกษาปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ประธานกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประธานศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย... -
รักษาอารมณ์ให้อยู่กับปัจจุบันจึงจะรู้เห็นธรรมที่แท้จริงได้
พระอาจารย์กล่าวว่า “คนเรา...ถ้าสติไม่สมบูรณ์ก็ต้องทำอะไรผิดพลาดเป็นธรรมดา แต่โบราณท่านบอกว่าให้เอาความผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียนในการสอนตัวเราเอง จนกระทั่งใช้คำว่า ผิดเป็นครู
ฉะนั้น...ในส่วนของความผิดพลาดก็คือ สอนให้เรารู้ว่าต่อไปอย่าทำเช่นนั้นอีก แต่เราก็อาจจะไปพลาดเรื่องอื่นต่อไป เพราะว่าเป็นธรรมดาของคนที่สติสัมปชัญญะยังไม่สมบูรณ์ ปัญญายังไม่รู้เท่าทันกิเลส โอกาสผิดพลาดมีได้ แต่ว่ามีแล้วอย่าไปเศร้าหมองนาน ให้เริ่มต้นทำความดีใหม่ทันที
พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า อย่ามัวไปคิดถึงความหลัง และอย่าไปฟุ้งซ่านกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ให้รักษาอารมณ์อยู่กับปัจจุบันจึงจะรู้เห็นธรรมที่แท้จริงได้”
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เพราะ "โมหะ โลภะ ทิฐิมานะ" จึงทำให้มนุษย์เข่นฆ่ากันเอง : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
เพราะ "โมหะ โลภะ ทิฐิมานะ" จึงทำให้มนุษย์เข่นฆ่ากันเอง : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
**********
ที่มา https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
การปลุกพระ
การปลุกพระ
ผู้ถาม : หนูขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า มีประโยชน์อย่างไรบ้างเกี่ยวกับการปลุกพระคะ ?
หลวงพ่อ : ความจริงพระท่านตื่นอยู่แล้วนะ การเข้าพิธีปลุกพระนั้นเป็นพิธีกรรมก็มีประโยชน์ แต่ว่าบางทีก็เป็นพิธีขายเหมือนกัน แต่ไอ้ที่เขาทำมีประโยชน์ก็มี ที่เขาทำขายก็มีใช่ไหม
ที่เรียกว่า ปลุกพระ ความจริงไม่ได้ปลุกหรอก เขาเรียกว่าอาราธนาพระหรืออาราธนาบารมีท่าน ความจริงใช้เวลาเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ แต่บางทีล่อกันทั้งคืนน่ะซิ ไอ้นี่เป็นนโยบายขาย นี่มันเรื่องของคน ให้คนเขานึกว่าแหม..ปลุกกันทั้งคืนเลย
ปลุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ความจริงปลุกทั้งคืนนะ ไอ้พวกปลุกก็คือพวกปลุกพระสงฆ์หรอกนะ ดีไม่ดีนั่งหลับ ถ้าคนจัดงานโง่นะจึงจะประกาศแบบนั้น ถ้าคนจัดงานเพื่อผลประโยชน์จริงๆด้วยความฉลาดเขาไม่ประกาศแบบนั้น
ตามปกติถ้าเข้าไป เขาจะนิมนต์รวดเดียว ถ้าท่านพอใจขนาดไหนก็เลิกได้ทันที อันนี้เขารีบทำ ทำรวมแล้วก็ทำแบ่ง ถ้าพวกบอกทั้งคืน องค์นี้กะหัวค่ำนะ องค์นี้กะสว่างนะ เสร็จ ไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งส่งเดช อย่างดีที่สุดตอนต้นน่ะหน่อยหนึ่ง ต่อไปก็ไม่มีอะไร นั่งหลับไปบ้าง เขาเห็นไม่เป็นเรื่องเขาไม่เอาด้วยหรอก... -
หลวงพ่อชอบทำบุญหมดตัว
หลวงพ่อชอบทำบุญหมดตัว
"เอ๊ะ หลวงพ่อทำกรรมอะไรไว้ แม้แต่หมอจะฉีดยาก็ต้องถวายสตางค์ก่อนครับ"
ไอ้กรรมประเภทนี้ต้องถามพระพุทธเจ้าท่าน
"แหม อยาก ได้กรรมประเภทนี้จัง"
อย่าเลย ต้องป่วยทุกวัน เอ..เวลาหมอจ่ายมากๆก็น่าป่วยเหมือนกันนะ บางทีหมอต้องขับรถจากนี่ไปวัดท่าซุง ไปถึงปั๊บก่อนจะลงมือตรวจรักษา หมอจ่ายตังค์ มันเป็นระเบียบ (หัวเราะ)
เออ ถ้าพูดถึงเรื่องนี้นะ ถ้าพูดถึงชาติก่อนฉันก็นึกไม่ออก ถ้าพูดถึงชาตินี้อาจจะมีผลอยู่ เพราะว่าตั้งแต่เด็กๆมา ฉันชอบทำบุญหมดตัว แต่กางเกงไม่ได้แก้นะ คือถ้าจะทำบุญก็ทำบุญโละ พอตอนบวชก็เหมือนกัน ถ้าใครถวายผ้าไตรจีวรดีๆ ฉันเอาไปทอดกฐินผ้าป่าหมด
ฉันใช้ผ้าเก่าๆเรื่อยมานะ แล้วต่อมาเริ่มเป็นนักเทศน์ อายุ 20 เศษๆ ใช่ไหม เทศน์นี่ปีหนึ่งได้ผ้าไตรปีละ 200 กว่า แต่ว่าวันเข้าพรรษา ฉันต้องซื้อผ้าไตรใช้
"ทำไมละครับ"
แจก แจกพระที่มีจีวรเก่า ในกรุงเทพฯนี่พระจีวรเก่าเยอะ ใช่ไหม หายาก เราก็สังเกตดู วันอุโบสถก็ตาม วันมีเทศน์ที่วัดก็ตาม พระต้องใช้ผ้าชุดดีที่สุด ถ้าวันนั้นยังเก่าอยู่เราก็จำไว้ ไม่ใช่วัดประยูรวงศ์และวัดอนงค์นะ วัดอื่นด้วยนะ... -
ชีวิตเหมือนดั่งความฝัน
ชีวิตเหมือนดั่งความฝัน
รูปมันก็ปรากฏขึ้นเดี๋ยวเดียว ท่านบอกว่าชีวิตเหมือนความฝัน รูปโฉมโนมพรรณเหมือนดอกไม้
ชีวิตของเราที่ทรงตัวอยู่นี้มันก็เหมือนความฝัน มันมีอยู่แล้วไม่ช้ามันก็สลายตัวไป
รูปโฉมโนมพรรณเหมือนดอกไม้ ดอกไม้เมื่อแรกยังตูม ต่อมามันก็แย้มทีละน้อยๆ ในที่สุดก็พังไป
สภาวะของรูปมันก็เป็นเช่นเดียวกัน เสียง กลิ่น รส และสัมผัสมันก็เหมือนกัน
ท่านบอกว่าทุกสิ่งทั้งหมดนี้จงรักษาอารมณ์ให้เป็นเอกัคคตารมณ์ว่ามันไม่มี
คำว่าไม่มีนี่ ความจริงมันมีแล้วมันก็ไม่มี เพราะต่อไปมันจะพัง รูปมันทรงอยู่ได้ไม่นานมันก็พัง
เสียงที่เรามีความพอใจฟังแล้วก็หายไป
กลิ่นที่สัมผัสจมูกกระทบแล้วก็หายไป
การสัมผัสที่พึงพอใจ สัมผัสแล้ว เลิกสัมผัสก็หายไป
รสที่สร้างความซาบซ่านจากปลายลิ้น กลางลิ้น โคนลิ้น แล้วรสก็หายไป
อย่าไปสนใจมัน มันผ่านไปแล้วก็หมดไป ไม่ช้าร่างกายมันสลายตัว
ท่านบอกว่า จงรักษาอารมณ์นี้ให้เป็นเอกัคคตารมณ์ มีความรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่มี
(จากหนังสือ ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า หน้า 115-116) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๗ -
กลับจากทำบุญถูกรถชน
กลับจากทำบุญถูกรถชน
ผู้ถาม : ลูกได้ไปทำบุญที่ อยุธยา ขากลับถูกรถชนอาการสาหัส ทุกคนตั้งใจไปด้วยจิตที่เป็นกุศล แต่ทำไมหนอขากลับจึงได้รับอกุศลเป็นผลสนองตอบ
บุญกุศลที่ลูกทำไป ทำไมจึงไม่ช่วยลูกในตอนนั้น
หลวงพ่อ : แปลกจริงๆ นะ พระพุทธเจ้าท่านแนะนำบุญให้บุคคลอื่นเขา พระพุทธเจ้าก็ป่วย
อย่าลืมนะว่า พระโมคคัลลาน์ เป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณมีฤทธิ์มาก ก็ถูกโจรทุบ
กฎของกรรมเดิมทำไมไม่คิดล่ะ ชำระหนี้มันไปเสีย ใช่ไหม เป็นกฎของกรรมเก่า
กรรมชาติก่อนทำไว้ก่อนบุญที่ทำเมื่อวานซืนนี้ มันตามมาทัน
ผู้ถาม : อย่างหลวงพ่อนี่ดีอย่าง ไม่ค่อยป่วยกับเขานะ
หลวงพ่อ : ฉันไม่ค่อยป่วย เพราะมันป่วยหนัก เมื่อคืนขึ้นไปก็ยุ่งเลย ทั้งเป็นไข้ ทั้งเสียดท้อง เห็นหน้าลูกเห็นหน้าหลานหายแล้ว เดี๋ยวลูกหลานกลับไปเป็นใหม่ก็ได้
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 341 เดือนสิงหาคม 2552 หน้า 40) -
ส่วนสุด 2 อย่าง
ส่วนสุด 2 อย่าง
"ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายจงละส่วนสุด 2 อย่าง คือ
1. อัตตกิลมถานุโยค
2. กามสุขัลลิกานุโยค
เพราะว่าส่วนสุด 2 อย่างนี้ การปฏิบัติของเธอ ถ้าเอาจิตเข้าถึงไม่มีผลในการปฏิบัติ คือไม่บรรลุมรรคผล "
คำว่า "อัตตกิลมถานุโยค" นะ ทรมานเกินไป นั่งกรรมฐานแช่อิ่ม คิดชั่วโมง คิดเวลา อันนี้ไม่มีผล
"กามสุขัลลิกานุโยค" ย่อหย่อนเกินไปเวลาที่จะปฏิบัติอยากได้อย่างนั้น อยากได้อย่างนี้ ไอ้ตัวอยากนี่มันเป็นตัณหา เราปฏิบัติแล้วตัดตัณหา แต่ไปมีตัณหาเสียก่อนมันก็ไม่ได้
ก็รวมความว่าเครียดเกินไปก็ดี ย่อหย่อนเกินไปอยากได้เกินไปก็ดี ไม่มีผล
องค์สมเด็จพระทศพลตรัสว่า ต้องปฏิบัติเป็น "มัชฌิมาปฏิปทา" คือทำจิตกลางๆ คือพอสบายๆ
คำว่า "มัชฌิมาปฏิปทา" ปฏิบัติแค่จิตมันไม่เครียด ถ้าอารมณ์ใจสบายๆ นี่มันมีผล
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 341 เดือนสิงหาคม 2552 หน้า 43) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗
หน้า 11 ของ 412