'3 ครอบครัวตึ๋งหนืด' แนะวิธีมัธยัสถ์ สู้วิกฤตเศรษฐกิจ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ครอบครัวไทยยุคใหม่ กำลังประสบปัญหาข้าวยากหมากแพงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเครื่องอุปโภค หรือบริโภค ทำให้หลายครอบครัวต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งบ้านไหนประหยัดกันได้ ก็ต้องช่วยกันประหยัดไว้ก่อน

โดยแต่ละบ้าน จะมีวิธีการประหยัดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ต่างจาก 3 ครอบครัวตึ๋งหนืดขั้นเทพ ที่ผ่านการประกวด "สุดยอดไอเดียตึ๋งหนืด...ตืดขั้นเทพแห่งประเทศไทย" จากสำนักพิมพ์นานมีบุ๊กส์ ที่อนุญาตให้ทีมงาน Life and Family นำวิธีตึ๊งหนืดโดนใจ และทำได้จริง มาส่งต่อเป็นแนวทางให้กับทุกครอบครัวได้อ่านกัน เผื่อว่าบ้านไหนจะนำไปประยุกต์ใช้กันได้บ้าง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>น้องพีเอ็มกับยคุณแม่ตึ๋งหนืด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> *** คุ้มค่าทุกนาทีกับบ้าน “จุลพัฒน์”

เริ่มจากบ้านแรก ที่ชูเคล็ดลับง่ายๆ ด้วยแนวคิดทื่ว่า "ใช้ของให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่เสียเงินน้อยที่สุด" กับสโลแกนนี้ "พีเอ็ม-กันตพงศ์ จุลพัฒน์" อายุ 14 ปี นักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ สุดยอดไอเดียตึ๋งหนืด...ตืดขั้นเทพแห่งประเทศไทย เล่าให้ฟังถึงวิธีตึ๋งหนืดในบ้านว่า "ที่บ้านจะมีคุณแม่เป็นต้นแบบสุดประหยัด เช่น เวลาจะซื้อของใช้ที่จำเป็น จะเลือกซื้อของที่มีการลดราคา อาทิ นมมะลิถ้าซื้อ 3 แพ็ค จะแถมนมรสโกโก้ 1 แพ็ค แม่จะซื้อ 3-4 ชุด

ส่วนกล่องนมแม่จะล้างเก็บรอส่งไปชิงโชค ซึ่งแม่เคยได้ทองคำจากการส่งมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยทองคำที่ได้มานั้น เวลาหมุนเงินไม่ทัน ก็เอาทองไปขาย หรือถ้ากล่องมีจำนวนมาก และมีการรับกล่องเพื่อนำไปทำโต๊ะ หรือเก้าอี้ให้เด็กในต่างหวัด แม่จะรีบขนไป แต่ถ้าหน่วยงานที่รับให้ส่งไปทางไปรษณีย์ แม่จะไม่ส่ง แต่จะรอส่งตามห้าง เพราะจะได้ไม่เสียเงินค่าส่ง”

อย่างไรก็ดี ถ้าช่วงที่ไม่มีการรับบริจาค หรือชิงโชค คุณแม่น้องพีเอ็ม จะเย็บกล่องนมติดกันตามขนาดแผ่นฝ้าเพดาน หงายด้านฟอยส์ขึ้น ใช้ปืนกาวเป็นตัวยึดติดกับฝ้า ลดความร้อนจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี

*** 8 วิธีตึ๋งหนืด กับบ้าน “อ่อนโพรัตน์”

สำหรับบ้านที่สอง เป็นบ้านของครอบครัว "คุณอัมพร อ่อนโพรัตน์" ที่เผยถึงวิธีสุดประหยัดในครอบครัว โดยสรุปง่ายๆ ให้ทีมงานฟังว่า

1. เมื่อต้องติดแสตมป์ ไม่ควรใช้กาว เพราะเปลือง และเลอะเทอะโดยใช่เหตุ ให้เอาแสตมป์ ไปลูบไอน้ำมาจากแก้วน้ำเย็น หรือน้ำแข็ง นอกจากไม่เปลืองกาวแล้ว ยังไม่เลอะมืออีกด้วย

2. เมื่อทานนมกล่องหมดแล้ว บ้านนี้จะใช้วิธีตัดกล่องออก ล้างให้สะอาด ตากแห้งเก็บไว้ขาย หรือ จะแยกแพ็คเก็บไว้ให้คนเก็บขยะเอาไปขายก็ได้ ได้บุญดีด้วย ไอเดียนี้ ใช้ได้ไม่เฉพาะนมกล่อง แต่รวมถึง ขวดน้ำ ขวดแก้ว กระป๋องน้ำอัดลมด้วย

3. เศษอาหารกินไม่หมด ให้เทใส่ถัง ใส่น้ำตาล หรือ กากน้ำตาล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ต่อ 5 (น้ำตาล 1 เศษอาหาร 5) เติมน้ำพอขลุกขลิก ปิดฝา เก็บไว้ในที่ร่ม อีก 1 สัปดาห์ จะได้ปุ๋ยน้ำชีวภาพแสนวิเศษ ใช้ผสมน้ำรดต้นไม้ ราดท่อเพื่อดับกลิ่น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> 4. เศษข้าวติดก้นหม้อหุงข้าว ขูดยาก พอขูดขึ้นมาแล้ว จะทิ้งก็เสียดาย จะกินก็ไม่ค่อยอร่อย ขอแนะนำ ให้เทน้ำซุบลงไปให้ท่วม เปิดต้มให้เป็นข้าวต้ม เติมไข่ เติมเต้าหู้ เติมเนื้อสัตว์ เติมผัก ก็จะได้ข้าวต้มแสนอร่อย ส่วนเศษข้าว ก็จะร่อนออกมาเป็นเนื้อข้าวต้ม ไม่ต้องทิ้ง แถม ล้างหม้อก็ง่ายขึ้น

5. กินอาหารจานฝรั่ง พวกสเต็ค อาจเหลือเศษไข่ดาว เศษหมูแฮม พร้อมน้ำซอสแสนอร่อย คาอยู่บนจาน ให้เอาขนมปังปิ้งเช็ดจาน จะได้น้ำซอสแสนอร่อย ทาบนขนมปัง ส่วนถ้ากิน อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น เศษข้าวอาจติดก้นชาม ให้ตักน้ำซุปราดลงไป แล้วดื่มน้ำซุปจากชามนั้น เศษอาหารก็จะไม่เหลือ แถม ล้างจานง่ายขึ้นด้วย

6. ปลูกผักสวนครัว หรือ ปลูกแปลงต้นไม้ไว้หลัง หรือ ข้างห้องครัว เศษอาหาร เปลือกไก่ รากผัก เปลืองกระเทียม และของย่อยสลายทางชีวภาพทั้งหลาย โยนลงไปเป็นปุ๋ยได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาทิ้งลงถัง

7. ต่อท่อน้ำทิ้ง จากเครื่องซักผ้า น้ำสอง น้ำสาม ที่ไม่เปื้อนผงซักฟอกมากนัก เอามารดต้นไม้ ส่วนที่เปื้อนผงซักฟอก ก็รดตามใบไว้กำจัดเพลี้ยบางชนิดได้จ้า

8. บีบมะนาวแล้ว อย่าทิ้งเปลือก เก็บเอาไว้ เวลาจะถูบ้าน เอาเปลือกมะนาว โยนลงไปในถังน้ำถูพื้น เอา ไม้ม็อบกระทืบเปลือกสัก 4-5 ที จะได้น้ำถูพื้นที่หอมกลิ่นมะนาว ชื่นใจ และน้ำมันปริมาณกะจิดริดที่ออกจากเปลือกมะนาวจะทำให้พื้นลื่นสะอาดด้วยจ้า

*** ตระกูล “มั่งมีธนพร” ชูแนวคิด “ประหยัดวันนี้ มั่งมีในวันหน้า”

ปิดท้ายกันที่บ้านของ “คุณแม่ศรันย์ภัทร มั่งมีธนพร" จ.นนทบุรี ที่ชูแนวคิด "ประหยัดในวันนี้ เพื่อความมั่งมีในวันหน้า" โดยตัวเธอมีไอเดียตึ๋งหนืดง่ายๆ คือ สบู่ก้อนที่ผ่านการใช้งานมาจนเหลือก้อนเล็กๆ จะหยิบมาใช้ก็ไม่สะดวก หรือจะทิ้งก็เสียดาย จึงนำสบู่มาแปลงกายเป็นสบู่เหลวไว้สำหรับล้างมือแทน โดยนำสบู่ก้อนเล็กๆ ที่เก็บรวบรวมไว้มาตั้งไฟหลอมละลายรวมกันแล้วเทเก็บไว้ในขวด หรือเวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์ กินข้าวนอกบ้านตามร้านอาหารต่างๆ จะไม่พลาดที่จะเก็บพวกไม้จิ้มฟัน กระดาษทิชชู กลับมาใช้ที่บ้าน รวมทั้งอาหารที่กินเหลือ ไม่ว่าจะเหลือน้อย หรือมาก ก็จะให้พนักงานทางร้านห่อกลับไปกินที่บ้านเสมอ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ครอบครัว "มั่งมีธนพร"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้เวลาซักผ้า จะซักอาทิตย์ละครั้ง และเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีสีเข้ม เพื่อป้องกันการเปื้อน เวลาซักจะได้ซักง่าย และใช้น้ำน้อย ขณะที่เวลาซื้อของจะจดรายการอย่างละเอียด และเลือกซื้อสินค้าที่ใช้ได้นาน ถ้าวันไหนจำเป็นต้องซื้ออาหารนอกบ้าน จะขอซองเครื่องปรุงเพิ่มทุกครั้ง เพราะสามารถนำมาแยกเก็บได้ โดยแยกน้ำตาลมาเทรวมไว้ในขวดเก็บไว้สำหรับชงกาแฟ หรือปรุงอาหาร ส่วนพริกป่นก็แยกมาเทรวมกันไว้ สำหรับใช้ปรุงอาหารต่อไป

อย่างไรก็ดี บ้านหลังนี้ ยังเน้นการหารายได้เสริม ด้วยการรับซื้อของตามห้างสรรพสินค้า เนื่องจากบางคนไม่อยากเดินทางลำบาก ไม่อยากเสียค่าเดินทาง แต่การหารายได้เสริมในครั้งนี้ ต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อนว่า ห้างใดจะมีกิจกรรมลดราคาสินค้าบ้าง เช่น ซื้อของครบตามที่กำหนด แล้วจะได้รับคูปอง ซึ่งครอบครัวนี้เชื่อว่า วิธีนี้ เปรียบเสมือนได้รับเงินสดที่จะนำไปใช้ซื้อของจำเป็นในครอบครัว พร้อมกับยังได้คะแนนสะสมจากบัตรเครดิตไว้แลกของกำนัลเพิ่มอีกด้วย

“การช่วยกันประหยัด ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกครอบครัวต้องช่วยกัน ท่ามกลางข้าวของที่แพงมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วยคุมรายรับ รายจ่ายได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ลูกๆ ที่บ้านจะได้รู้จักกับการใช้จ่ายไปในตัวด้วย ซึ่งพี่จะสอนลูกว่า เงินทุกบาทหามายากยิ่ง เวลาจะซื้อของต้องเก็บเงินเอง แต่การจะซื้อในแต่ละครั้ง พี่จะตั้งคำถามกับลูกเสมอว่า มีเหตุผลอะไรที่จะต้องซื้อ ถ้าลูกตอบไม่ได้ ก็ถือว่าอด” คุณแม่ศรันย์ภัทร ตัวแทนของครอบครัวกล่าว

หลากวิธีตึ๊งหนืด กับ 3 ครอบครัวที่เสนอไปข้างต้น ทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงจะเป็นแนวทางให้กับทุกบ้าน ได้นำไปประยุกต์ใช้ เพื่อรับมือกับภาวะข้าวยากหมากแพง ที่ส่งผลต่อสภาพความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันกันได้ไม่น้อย

ดังนั้น ผู้ที่จะช่วยพยุงความมั่งคงทางการเงินให้กับครอบครัวได้ดีที่สุด เห็นทีจะหลีกไม่พ้น สมาชิกภายในบ้านที่จะเป็นพลังสำคัญ เพราะถ้าทุกคนช่วยกัน ไม่ว่าจะใช้จ่ายอย่างพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย และรู้จักประยุกต์ใช้สิ่งของเหลือใช้ เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถเอาตัวรอดจากภาวะข้าวยากหมากแพงได้ครึ่งทางแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>