ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

...แหม..ผมกะว่า จะมาเล่า อยู่เหมือนกัน เพราะ ได้ข้อมูลมาเหมือนกันครับ....แต่ก็ขอบอกว่า ข้อมูลที่เล่ามาเป็นอย่างนี้ละครับ ท่าน จะได้ไม่สับสน..

ปล...และขอบอกต่ออีกว่า ลพ.เณร ของเรา นี่ละครับ ที่เป็นผู้สืบทอดวิชาโดยตรงจาก ลพ. ฤาษีลิงขาวครับ....สาธุๆๆ

 

พี่ก็เห็นรูปที่ลานโพธิ์ลงฉบับปักษ์หลังเดือนมิถุนายนแล้ว ดังที่สแกนและโพสมาให้ดูกัน ก็ตามนั้นครับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ) วัดท่าซุง ถวายรูปที่ท่านถ่ายรูปคู่กับพัดยศที่ได้รับการตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนามที่ พระสุธรรมยานเถร และในรูปก็เขียนว่า "ถวายฤาษีลิงขาว (ช่อ อภินันโท) ไว้เป็นที่ระลึก"

ถ้าถามว่าทั้งสององค์เกี่ยวข้องอย่างไรกัน ก็ต้องบอกว่ามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เกี่ยวพันกันที่แม่ของทั้งสององค์ โยมแม่ของหลวงพ่อช่อ เลี้ยงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วีระ), พระมหาเวก วัดดาวดึงษาราม ซึ่งเป็นน้องชายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาพร้อมกับหลวงพ่อฤาษีลิงขาว(ช่อ) ทั้ง 3 องค์โตมาด้วยการเลี้ยงของโยมแม่เล็ก และกินนมท่านมา ทั้ง 3 องค์ และเรียกโยมแม่เล็กว่า "แม่" ทุกองค์ โยมแม่เล็กอายุยืนกว่าร้อยปีทีเดียว

ที่ผ่านมาบางคนก็บอกว่าไม่รู้จักกัน บางคนก็บอกว่าถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำแล้วบอกว่าไม่ใช่เพื่อนท่าน บ้างก็ว่าเป็นลิงคนละฝูง ก็ถูกเพราะไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นพี่น้องกัน และก็ไม่ใช่ฝูงเดียวกันเพราะบวชกันคนละกลุ่ม เวลาหลวงพ่อฤาษีลิงดำพูดถึงเพื่อน ก็มักจะหมายถึง ทหารเรือ 4 องค์ที่บวชพร้อมกัน โดยมีรุ่นพี่ 1 องค์ และเพื่อนรุ่นเดียวกัน 3 องค์ที่หลวงปู่ปานก็เรียก ลิงดำ ลิงขาว ลิงเล็ก โดยหลวงปู่ปานมักเรียกเด็กผู้ชายขึ้นต้นว่าลิงแล้วตามด้วยลักษณะของเด็ก จึงมักได้ยินท่านเรียก ลิงดำ ลิงขาว ลิงโย่ง ลิงเผือก เป็นต้น ส่วนผู้หญิงเรียกว่า อีหมา ดังนั้นจึงมี ลิง...แต่ละชื่อมากกว่าหนึ่งคน และเมื่อคนไหนบวชก็มักเรียกว่า "หลวงพ่อลิง......" เช่นหลวงพ่อลิงดำ หลวงพ่อลิงขาว หลวงพ่อลิงเล็ก เป็นต้น แต่ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดคือ มักสับสนกับชื่อที่มีคำว่า "ฤาษี" เติมอยู่โดยเข้าใจว่า หลวงพ่อลิงขาว กับหลวงพ่อฤาษีลิงขาว คือองค์เดียวกัน เป็นต้น

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเรามักจะเห็นหลวงพ่อช่อ โดนว่ากระทบกระเทียบมาโดยตลอด โดยหารู้ไม่ว่ากำลังทำสิ่งที่เป็นบาปเป็นกรรม เช่นกล่าวถึงว่า พระแอบอ้างว่าเป็นฤาษีลิงขาวอยู่แถวสุพรรณบ้าง ฯลฯ มีเยอะไม่อยากมาเขียนย้ำที่นี้อีก โดยหารู้ไม่ว่าท่านคือฤาษีลิงขาวตัวจริงตั้งแต่สมัยก่อน 2500

และที่สำคัญคือหลวงพ่อช่อคือศิษย์เอกของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคตัวจริง เหตุผลก็คือท่านมาอยู่วัดบางนมโคตั้งแต่เด็ก แต่วิธีมาอยู่ต่างจากเด็กอื่นคือแทนที่จะมาขออยู่วัด แต่เป็นหลวงปู่ปาน ขอโยมแม่เล็กให้มาอยู่กับท่านเนื่องจากเห็นว่าเป็นเด็กเรียบร้อย และโยมแม่เล็ก ก็เป็นโยมที่ส่งข้างส่งน้ำหลวงปู่ปาน เรียนวิชาจากหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อเล็กเกสโร มาตั้งแต่เด็ก จนมาบวชเมื่อปี 2461 ที่วัดช่องลม สุพรรณฯ ที่ไม่บวชที่วัดบางนมโคก็เพราะช่วงนั้นหลวงปู่ปานเป็นประธานสร้างอุโบสถ วัดสาลีและศาลาการเปรียญ วัดช่องลม โดยหลวงปู่ปานเป็นธุระจัดการบวชให้ทั้งหมดและเป็นคู่สวดให้ หลวงปู่ปานรักหลวงพ่อช่อเหมือนลูก ซึ่งลูกกับลูกศิษย์ต่างกัน และให้ลองสังเกตดูว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่ปานแต่ละองค์จะสนิทกับหลวงพ่อช่อ(ฤาษีลิงขาว)มาก ไปมาหาสู่เป็นประจำและที่สำคัญทุกองค์ให้ความเคารพและเกรงใจหลวงพ่อช่อทั้งๆที่ ถ้าดูอายุแล้วจะน้อยสุดในบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ปานทั้งหมด ก็เพราะใครไปเรียนก็มักเจอหลวงพ่อช่อที่วัดตั้งแต่ยังไม่บวชพระ แต่ละองค์ที่ไปเรียนกับหลวงปู่ปานก็ขึ้นกับว่ารับได้แค่ไหน ส่วนใหญ่จะเป็นกรรมฐาน ถ้าผ่านก็เรียนเรื่องธาตุ หรืออาจต่อเรื่องเล่นแร่แปรธาตุ (ซึ่งน้อยมาก) บางท่านก็เรียนแพทย์แผนสมุนไพร ซึ่งตำรับท่านใช้อาคมเสกกำกับด้วย รดน้ำมนต์ เป็นต้น หลวงพ่อช่อได้เรียนมาเยอะเพราะอยู่ด้วยนาน อีกทั้งตำราที่เป็นลายมือหลวงปุ่ปาน รวมทั้งผงอิทธิเจก็ได้รับมาเยอะ

อีกท้้งบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ปานก็ยกย่องหลวงพ่อช่อ เช่นเมื่อครั้งที่หลวงพ่อเณรขอเรียนวิชาจากหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ท่านก็บอกว่า "เรียนกับท่านช่อก็ครอบคลุมทุกคนหมดแล้ว" (วิชาหลวงปู่ปาน), หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ก็อาจารย์ของหลวงพ่อเณร ท่านก็ไม่สอนวิชาสายหลวงพ่อปานให้หลวงพ่อเณรก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน สอนให้แต่วิชาสายอื่น เป็นต้น

ใครที่เข้าวัดทุ่งเศรษฐี สมัยเมื่อ พ.ศ. 2531 - 2541 บ่อยๆก็จะเจอคนที่เกิดทันและรู้จักหลวงปู่ปาน มาที่วัดบ่อยๆ ก็จะรู้อะไรดีๆที่คนทั่วไปไม่รู้เยอะ

• สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ เขมจารีมหาเถร) พระอุปัชฌาย์หลวงพ่อเณร ซึ่งรู้จักหลวงปู่ปานดี และเป็นผู้แนะนำให้หลวงพ่อเณรไปเรียนกับหลวงพ่อฤาษีลิงขาว (ช่อ) และบอกว่าเป็นศิษย์เอกพร้อมทั้งเขียนจดหมายฝากไป
• หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา (ศิษย์หลวงพ่อปาน)
• หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย (ศิษย์หลวงพ่อปาน)
• หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา (ศิษย์หลวงพ่อปาน)
• หลวงพ่อช่อ (ฤาษีลิงขาว) (ศิษย์หลวงพ่อปาน)
• พระครูวิจิตรสาธุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ฯ ผู้ที่เทศน์คู่กันมากับหลวงพ่อฤาษีลิงดำตั้งแต่ครั้งสมัยหนุ่มๆ

รวมทั้งหลวงพ่อช่อมักพาหลวงพ่อเณรไปสนทนากับเพื่อนสนิทท่านซึ่งก็คือ พระมหาเวก วัดดาวดึงฯ (น้องชายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) อีกทั้งญาติพี่น้องอีกหลายคนก็ไปมาหาสู่ที่วัดทุ่งเศรษฐีตลอด เป็นต้น

เรื่องราวหลวงปู่ปาน และเรื่องราวที่เกี่ยวกับท่าน ลพ.เณร ท่านจะรู้ดีแต่ก็ไม่ค่อยจะเล่าให้คนท่วไปฟัง เพราะรำคาญถึงกับเอ่ยปากว่า "พระหนะดี แต่ลูกศิษย์ชอบทำให้ครูบาอาจารย์เสีย ชอบทำให้ลูกศิษย์พระแต่ละองค์ทะเลาะกัน" พี่ก็ไม่ค่อยอยากเขียนถ้าไม่จำเป็น ความลับมีเยอะทั้งบอกได้และไม่ควรบอกแม้เป็นเรื่องจริง เดี๋ยวจะติดกรรมที่ทำให้คนเกิดเสื่อมศรัทธา ถ้าสิ่งที่เขียนไปกระทบผู้อื่น

 

วันนี้มีหนึ่งประสบการณ์เกี่ยวกับเหรียญพยัคฆ์ปราบเซียนของหลวงพ่อเณรมาเล่าให้ฟังกันครับ เรื่องมีอยู่ว่าคนนครปฐม จ่าที่รู้จักกันบูชาเหรียญพยัตฆ์ปราบเซียนไป แล้วเด็กวัยรุ่น ญาติๆแกมาเห็นเหรียญเข้าชอบใจ เลยขอบูชาต่อจากแก เด็กคนนี้จับเหรียญแล้วบอกว่าขนลุกเลย แถมใส่แรกๆรู้สึกมึนหัวอีกต่างหาก เด็กคนนี้ก็แขวนเหรียญนี้เหรียญเดียวเลย ปกติเท่าที่ฟังมาเด็กคนนี้จะไม่ได้เป็นเด็กเรียบร้อยทั่วไป แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นวันก่อนนี้เลย เด็กคนนี้ขี่รถมอเตอร์ไซด์มาเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆของเขา แล้วระหว่างทางเด็กคนนี้เกิดอยากกินก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาซะงั้น เด็กคนนี้เลยขอเพื่อนแยกทางไปเพื่อกินก๋วยเตี๋ยว ถัดจากทางที่เด็กคนนี้แยกกับเพื่อนมาหน่อยเดียว มีคู่อริของเด็กกลุ่มนี้ซ้อนรถเครื่องมากันหลายคัน แล้วยิงกลุ่มเพื่อนของเด็กคนนี้ด้วยปืนลูกซอง หนีกันจ้าระหวั่น ผลปรากฏว่าไม่มีคนตาย เพราะเป็นปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ อานุภาพไม่สูงมาก ประกอบกับไม่โดนจุดสำคัญของร่างกาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บกันทุกคน บางคนกระสุนฝังในก็มี ส่วนเด็กที่แขวนเหรียญพยัคฆ์ปราบเซียนเพียงเหรียญเดียวในตัว มาเล่าให้จ่าฟังอีกทีว่าโดยปกติแล้วเค้าจะไม่แยกจากกลุ่มเพื่อนขาแว้นของเค้าเลย แต่ในวันนั้นเกิดอยากกินก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาพอดี แบบอยากมาก เลยต้องขอแยกจากกลุ่มเพื่อนออกไป จึงแคล้วคลาดจากกระสุนปืนของคู่อริไป คาดว่าประสบการณ์เหรียญนี้คงมาให้ได้อ่านอีกจากเด็กคนนี้แน่ๆครับ รอชมกันได้เลย สุดท้ายพุทธคุณเหรียญหลวงพ่อเณรมิมีประมาณ ใช้ได้จริงๆจากปากเด็กนครปฐม จบครับ...

 

สุดยอดมากเลยครับ กับสุดยอดประสบการณ์ วันนี้ ผมพาเพื่อนไปสักยันตร์เพิ่มครับ สักเก้ายอดกับ แก้วหนุนดวง เลยเก็บภาพมาอวดกัน

 

เลี่ยมสวยครับ ฝากเลี่ยมมั่งได้มั้ย

 

อีกประสพการณ์นึง จากพี่ธีรพล ลูกศิษย์หลวงพ่อเณรตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อดังตอนเป็นเณรอยู่วัดสลุด บ้านเขาก็อยู้ใกล้วัดทุ่งฯนีึ่แหละ ลูกสาวสอบเอ็นทรานส์ติดมหาวิทยาลัยลัยรัฐที่ต่างจังหวัดและต้องไปอยู่หอที่มหาวิทยาลัย เรื่องมีอยู่ว่าหอที่ต้องไปอยู่นี่ผีเยอะมาก เยอะขนาดที่ว่านักศึกษาทั้งหอไม่มีใครเลยสักคนที่อยู่ห้องคนเดียวได้ ทุกคนที่อยู่จะรวมๆกันเป็นกลุ่ม 5 คน 10 คนแล้วแต่กลุ่ม ห้องก็จะว่างเยอะ เพราะเวลานอนจะไปนอนรวมกัน พี่ธีรพลรู้พุทธคุณดีจงให้ลูกสาวห้อยพยัคฆ์ปราบเซียนไปด้วย และอัญเชิญหลวงปู่ฤาษีขาวขนาดบูชาไปด้วย โดยเอาหลวงปู่ไปไว้บูชาในห้อง และห้อยเหรียญพยัคฆ์ปราบเซียนไว้ ตั้งแต่วันนั้นจนปัจจุบัน 1 ปีแล้ว ห้องลูกสาวแกเป็นห้องเดียวที่ไม่โดนหลอก และนอนคนเดียวและถ้าไปนอนห้องเพื่อนก็จะไม่โดนหลอกเพราะห้อยเหรียญอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นคนเดียวที่รอดจากการโดนหลอก ส่วนเพื่อนๆก็สุมหัวเช่นเดิม

พี่ธีรพลแกมีประสพการณ์เยอะเพราะทำธุรกิจขึ้นล่องทั่วประเทศ ไว้จะทยอยเล่าเรื่อยๆเพราะเจอทีไรพี่เขาก็เล่าให้ฟังตลอด

 

ขอแชร์ ประสบการณ์คนใก้ลชิด เผยแผ่บารมีหลวงพ่อ คือ หมอศัลยกรรมหนุ่ม ชื่อดัง ในแวดวงศัลยกรรมจะรู้จักดี ซึ่งผมสนิทเป็นการส่วนตัว ในช่วงสองเดือน ที่ผ่านมา เจอผู้ไม่หวังดีดิสเครดิต จากเวปต่างๆ อย่างหนัก จนแทบ จากเดิมที่คนไข้ จองผ่ายาว ห้าเดือน กลายเป็นว่า วันนึงคนไข้จะโทมาจองแต่ละคน เหมือนถูกหวย คือน้อยมาก คนไข้ไม่เชื่อถือ เรียกว่า เกือบย่อยยับ คุณหมอเป็นถึง อาจารย์แพทย์ เกียรตินิยม ไม่มีทางสนใจถึงพลังทางพุทธคุณ ของเครื่องรางของขลัง อยู่แล้ว แต่สุดท้าย หมอกลับเลือก มาปรึกษาผม เพราะแกเห็นผมสนใจสิ่งเหล่านี้ และแกหมดที่พึ่งเพราะอะไรๆก็แย่ไปหมด ผมก็เลยพาหมอมาหา หลวงพ่อเณร เย็นวันอาทิตย์ ไม่ค่อยมีคนแล้ว และได้ บูชาของ ไปประมาณ 5500 บาท เป็นค่าทำบุญวัตถุหลวงพ่อ ซึ่งวันนั้นพี่ลูกกรอก ก็ได้ให้คำปรึกษาคุณหมอท่านนี้กับแฟน นางแบบ คุณหมอด้วย และผมได้พาไปกราบหลวงพ่อพูดคุยกับหลวงพ่อใช้เวลาประมาณ 20-30นาที เพราะ หลวงสอบถามอาชีพการงาน และ สอนให้ปลงเรื่อง ติฉินนินทา ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น ไม่ได้พูดถึงพลังอนุภาพวัตถุมงคลท่านเลย ทั่งยังเมตตาขอบัตรประชาชนคุณหมอกับแฟนเขียนชื่อแปะทอง และสวดเพิ่ม บน ยันต์พลิกดวงให้ทั้งคู่ด้วย ลายมือหลวงพ่อเอง ส่วนผมได้ขอชานหมากหลวงพ่อไป
เหตุการณ์นี้ประมาณเดือนพฤษภา พอถึงเพียงแค่กลาง มิถุนา หมอได้ออกแถลงการณ์
เหตุการณ์ข้อเท็จจิง ทุกอย่างกลับตาลปัตร ผู้ดิสเครดิต ทุกคน แถลงการ์ขอโทษคุณหมอ ทุกเวปที่ผาดพิง จากเดิมที่คนไข้โหลงเหลง คิวผ่าเหลือนิดเดียว เพราะถูกยกเลิก ทุกวันนี้ คนมาจองคิวปรึกษา ผมได้พูดคุยกับเลขาคุณหมอ ณ วันนี้ มีถึง 30-40คิว ต่อวัน(หมอปรึกษา บ่าย2-6โมงเย็น) และแฟนนางแบบคุณหมอ จากที่ว่างงานอยู่ก็ได้ ถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบหนังสือ และ ละครที่ถ่ายไว้ ได้ออนแอร์ เรื่อง คู่แค้นแสนรัก ช่อง 7 (แต่ไม่ใช่นางเอกนะครับ) แฟนหมอยังบอกผมเลยว่างานเยอะ จนไม่ว่าง ขอบคุณผมที่พาไปเจอหลวงพ่อ และ หลังไปหาหลวงพ่อ และแถลง คุณหมอก็ได้รับเชิญออกรายการ ของ ช่อง TPBS เกี่ยวกับการศัลยกรรม เป็นtalkโชวว์ ตอนกลางคืนวันพุธ และอีกรายการยังไม่ทราบชื่อ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นชื่อเสียงแทบไม่เหลือ ส่วนประสบการณ์ผมนั้นหนักไปทางเรื่องสาวๆครับ
เท่าที่ผมจำได้หมอ แกบูชาพร้อมแฟน คือ แก้วหนุนดวง สาริการ้อยรัก พญากาเผือก สีผึ้ง น้ำมันว่านเสก ปิดตาบูชาสีดำรุ่นพิเศษ ปิดตาแช่น้ำมนต์ และปิดตาเกราะเพชร ยันพลิกดวง เบี้ยแก้ใหญ่สีทอง ช้างผสมโขลง ดวงแก้วเศรษฐี ผ้ายันต์ขาวแดงผืนใหญ่ รูปข้างล่าง คือเครื่องรางของหมอครับ แกเอามาเพิ่มหลังจากไปหาหลวงพ่อ โดยเอาพระเก่าเก็บมาห้อยเสริม ด้วย รวมกับของวัดทุ่ง ซึ่งแกใส่ไว้ในกระป๋าถือติดตัวตลอด แบ่งกับแฟนบูชา เพราะไม่สะดวกเวลาผ่าตัด เบี้ยแก้หมอแกใส่ไว้กับ กุญแจรถสปอร์ตแกครับ เลยไม่มีในรูป ส่วนเขี้ยวเสือในรูป หมอแกไปบูชา ของวัดบางพระครับ เพราะ ที่วัดทุ่ง หมดเกลี้ยง
ปล . ปกติหมอไม่เคยพกเครื่องรางอะไรเลย ก่อนมาเจอหลวงพ่อเณร

 

อีกหนึ่งประสบการณ์จากปากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ที่พึ่งผ่านมาไม่นานนี้นะครับ ผมฟังจากเจ้าตัวมาเองเลย นำมาเล่าให้ได้อ่านกันบ้าง ชายวัยกลางคน คนนี้เจอผมที่หน้าตู้ที่วัดนี่ล่ะครับ แกเล่าให้ฟังพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ตะกรุดลูกปืนพระปิดทวาร ในตู้วัตถุมงคลที่วัดทุ่ง แกเล่าให้ฟังว่าตัวแกห้อยตะกรุดลูกปืนพระปิดทวารของหลวงพ่อ กระโดดข้ามรั้วเข้าไปในสวนลุมพินี เพื่อจะเอาศพเพื่อนๆแกที่เสียชีวิต จากคมกระสุนของคนกลุ่มใดไม่อาจทราบได้ ขณะแกเข้าไปเอาศพ ก็มีลูกปืนยิงมาไม่ขาดสายจากที่ใดไม่อาจทราบอีกเหมือนเดิม แต่กระสุนปืนมากมายไม่สามารถทำอะไรแกได้เลย เพราะว่ากระสุนไม่โดนตัวแกเลยไงครับ แกเล่าต่อว่าแกเห็นมาหลายคนแล้วห้อยพระเต็มคอแต่ก็ตาย ตัวแกห้อยอย่างเดียวไม่ตาย แถมตอนท้ายของการชุมนุม คนตรวจดูรูปผู้ชุมนุมเพื่อนำตัวไปสอบสวน มีรูปแกอยู่แต่เค้าก็ไม่จับตัวแกปล่อยตัวซะงั้น ทั้งๆที่เอารูปมาเทียบแต่ก็ไม่จับแก 555 จบแล้วครับ แคล้วคลาดสุดๆว่างั้นเลยครับ

 

ได้ครับ

 

วันนี้คึกคักจริงๆครับ กราบหลวงพ่อเณรครับ : )

 

เข้ามากราบ ลพ.ตอนเช้าครับ....

 

ไว้ถ้ามีโอกาสก็ถ่ายกุญแจรถหมอมาให้เพื่อนๆดูด้วยนะ จะได้เห็นกันว่าเบี้ยแก้ก็เป็นพวงกุญแจได้ การเอาไว้กับพวงกุญแจหนะดีไม่ลืมติดตัวแน่ๆ

คนสมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องคุณไสย ลมเพลมพัด คุณผี ยาสั่ง ฯลฯ หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้มันมีจริง ผู้มีวิชาเขาก็ปล่อยออกมาเป็นระยะอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีภพภูมิต่างๆอีก ถ้าช่วงดวงเราตกเกิดเดินชนกัน ก็จะรู้สึกวูบวาบ แล้วก็จะเจ็บป่วย อีกทั้งวิญญาณต่างๆอีกอาจจะเห็นว่าเราเป็นผู้ที่ทำบุญก็จะมาเกาะคอยขอส่วนบุญอีก อีกทั้งไปงานศพต่างๆ คนโบราณจะติดเบี้ยแก้ไว้เสมอกันสิ่งไม่ดี หรือดวงวิญญาณต่างๆจะได้ไม่มากินตัว

เรื่องของหมอก็เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตโดยไม่สนใจวัตถุมงคล จนกระทั่งถึงจุดที่ต้องหันมาสนใจแล้วก็เห็นผลจากสิ่งเหล่านี้สามารถแก้ปัญหาไปได้ แต่หมอก็โชคดีอย่างนึงที่เจอของจริง ไม่ได้เจอกับของโปรโมทจนกลายเป็นคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีจริง

 

สาธุครับ เด๋วให้หมอถ่ายมาลงให้ดู แต่ พุทธคุณ อีกอย่างขอเบี้ยแก้ ที่ผมชอบและหมอได้บูชา คือ ใช้อธิฐาน แก้จากร้ายกลายเป็นดี ขึ้นโรงขึ้นศาลจวนตัว หรือมีข้อพิพาท ด้วยครับ เพราะเห็นสมัยก่อนเค้าพกเบี้ยแก้ เวลามีคดีความ ตัวผมเองก็ยังไม่มีเลย แต่ตั้งใจจะเก็บแน่นอน เพราะเป็นสายวัดกลางบางแก้ว และหลวงพ่อบอกว่า ทำยาก กว่าจะเรียกปรอทเข้าแต่ละเบี้ยได้ ขอบคุณครับ

 

พี่ลูกกรอกครับ แล้วตะกรุดมหาระงับนี่ใช้ด้านกับลมเพลมพัด และเป็นคงกระพันชาตรีได้ไหมอะครับ?

 

ถูกต้องแล้วพุทธคุณด้านนึงของเบี้ยแก้คือกลับร้ายกลายเป็นดี คดีถ้อยร้อยความ ขึ้นโรงขึ้นศาล ฯลฯ ที่หมอสำเร็จได้ก็โดยเบี้ยแก้ กับแก้วหนุนดวงนั่นแหละ

เบี้ยแก้ของหลวงพ่อเณร นั้นจริงๆแล้วจะเรียกว่าควบรวมหลายตำราก็ได้เพราะจัดสร้างตามตำราของครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อเณรเรียนมาโดยตรงจากอาจารย์ เช่น

• หลวงพ่ออิน วัดลาด ท่าใหม่ จันทบุรี หรือหลวงตาอินเทวดา (ศิษย์หลวงปู่จัน วัดนางหนูและหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
• หลวงพ่อฮวด วัดสุวรรณดาราราม อยุธยา (ศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อายุ 100ปี มาจำพรรษาที่วัดทุ่งเศรษฐี ตราบจนมรณภาพ)
• หลวงพ่อใบ วัดกลางบางแก้ว (ศิษย์เอกหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วและเป็นเจ้าอาวาส องค์ถัดจากหลวงปู่เพิ่ม)
• ตำราหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว (เรียนจากหลวงลุง คือหลวงพ่อทับ วัดสลุด ศิษย์เอกหลวงปู่เผือก และหลวงปู่เผือกเป็นญาติทางยายของหลวงพ่อเณร อีกทั้งศิษย์เอกฆราวาสของหลวงปุ่เผือกก็คือตาผิว เมืองจันทร์ ตาแท้ๆของหลวงพ่อเณร)

การทำเบี้ยแก้แต่ละตำรานั้นมีทั้งส่วนที่เหมือนกันและส่วนที่ต่างกัน เช่นต่างกันที่ยันต์ที่ปิดก้นเบี้ย เป็นต้น ซึ่งหลวงพ่อก็ได้ควบรวมตำราต่างๆมาทำให้พวกเราใช้กัน

 

สอบถามหน่อยครับ เหรียญหลวงปู่เผือกด้านหลังเป็นสมเด็จโต ออกมาตอนปีไหนครับ แล้วมีประวัติการสร้างอย่างไรบ้างครับ ^_^

 

ประสบการณ์ แจ๋วเลยครับท่านพี่ทั้งหลายวันนี้ น้องเอาตะกรุดมหาจักรพรรดิ ปี 53 มาอวดครับ ไม่รู้เป็นรุ่นที่เท่าไหร่ ของหลวงพ่อ ครับ อยากถามพี่ลูกกรอก ว่าตะกรุดจักรพรรรดินี่ หลวงพ่อท่านลงครบสูตรไหมครับ เพราะได้ ยินมาว่าตะกรุดจักรพรรดิ ถือเป็นราชันของตะกรุด ขนาดสมัยโบราณ หลายสิบปีก่อน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา อริยะจารย์ ผู้ฟื้นฟูวิชาสายประดู่โรงธรรม ได้ ออกให้บูชา ในราคา พันบาท สมัยก่อน พันบาท นี่ก็ประมาณ หมื่นนึงนะครับ รบกวนพี่ลูกกรอกด้วยครับ และอีกเรื่องนึงครับ ห้อยตะกรุด ด้านเมตตารวม กับตะกรุดจักพรรดิ มีผลทำให้ตะกรุด ข่มอำนาจกันเองไหมครับ และเวลาหลวงพ่อเณรท่าน เศกท่าน เสกกัน การโดน ถอนพุทธคุณไหมครับ

 

ส่วนนี่รูป ตะกรุดมหาจักรพรรดิ ที่หลวงพ่อสร้างออกมากี่ ทีก็หมด เหมือนตะกรุด เกราะเพรช ครับ ผมศรัธาหลวงพ่อมากๆๆครับ นับถือท่านเป็นพ่อแท้ๆๆ ท่านสั่งสิ่งใดผมเชื่อหมด ครับ และอีกรูปตะกรุดช้างผสมโขรง ครับ ใช้ค้าขาย เข้าสมาคม เป็นที่รัก แก่ทุกคนได้ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นไปได้ขอข้อมูลตะกรุดมหาจักพรรดิ โดยละเอียดครับ พร้อมวิธี ใช้ครับ

 

ตะกรุดมหาระงับใช้ได้ทั้งกัน และแก้โดยอธิษฐานแล้วแกว่งน้ำทำน้ำมนต์ สำหรับคงกระพันมีอยู่ในตัว

ที่จริงสำหรับเรื่องคดีความ นั้นสามารถใช้ได้ทั้งเบี้ยแก้และตะกรุดมหาระงับ แต่ตะกรุดมหาระงับจะไม่สะดวกเวลาพกเพราะยาว 9 นิ้วฟุต

 

เหรียญหลวงปู่เผือกหลังสมเด็จโต แจกเป็นเหรียญที่ระลึกงานประจำปีเดือนกุทภาพันธ์ สำนักสงฆ์ทุ่งเศรษฐี 2529 ก่อนจะตั้งเป็นวัดทุ่งเศรษฐี ในปีเดียวกัน