โมทนาบุญ ปี พ.ศ. 2549 - เป็นรายเดือน

หลวงตากอไผ่ฯ วัดสระมณฑล อยุธยา.. ดับเทียนชัย....

 

ก็เป็นอันว่า เสร็จพิธีมหามงคล ในครั้งนี้....

ขอกราบอาราธนาบุญบารมีพระไตรรัตน์ อันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน....
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์....
ครูบาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา พรหม เทพเทวา....
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ทั้งสิ้น ทั้งปวง.

ด้วยบุญนานาที่ได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว รวมถึงบุญโมทนาในความดี ทุกประการ....
จงเป็นกำลัง เป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าทั้งหลายที่มีส่วนร่วมบุญ และโมทนา....

ของจงมีความร่ำรวย... รวย รวย รวย.. รวยไม่นับ รับทรัพย์ไม่สิ้น....
จะกิน จะใช้ ไม่มีวันหมด ....
จนกว่าจะเข็ด จะเบื่อ....

สามารถได้เห็น และวางในทุกข์ สร้างสุขในอารมณ์....
และ สามารถละ การมี การรวย การเกิด....

ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ได้ตามความปรารถนา และบารมี ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
ในชาติปัจจุบัน นี้ ด้วยเถิด....

หากไม่ถึงพระนิพพานเพียงใดก็ตาม ขอคำว่า ไม่มี ไม่รู้ ในสิ่งที่ดี ๆ จงอย่าบังเกิดแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย....

และหากต้องเกิดอีกกี่ชาติก็ตาม ก็ขอให้ได้พบกับพระพุทธศาสนา มีความเคารพ มั่นคงต่อพระรัตนตรัย....

นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยเทอญ.

สาธุ สาธุ สาธุ

 

หลังจากนั้น....
เวลา 17.00 น. ผมได้เดินทางออกจากเขากะลา โดยรถประจำทางที่นครสวรรค์
ไปกราบเท้าพี่สาว(ผู้มีพระคุณดุจแม่)ที่พิษณุโลก อยู่ที่พิษณุโลก 1 คืน




วันที่ 8 - เช้า ไปกราบ และทำบุญที่วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช(มีงานประจำปีพอดี) บ่าย เดินทางกลับ กทม.

 

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549

- เช้า ออกจาก กทม.กับคณะนายทหาร(พี่อ๋อยฯ) มุ่งสู่วัดบ้านเด่น, แสงเจริญ
แยกนครชุม ทิศทางเข้าตรงข้ามกับทางเข้าตัวจังหวัดกำแพงเพชร เข้าไป 20 กม.
เพื่อร่วมพิธีฉลอง และถวายเจดีย์ ที่ได้เคยมาร่วมสร้าง และบรรจุพระพุทธรูปไว้แล้ว

ขณะที่อยู่ที่วัดฯ ได้ถ่ายภาพ และเกิดภาพที่พิเศษ ๆ มากมาย
ผมเองก็ งง ต่อภาพที่ปรากฏในกล้องถ่ายรูป....

ก็ลองมาชมกันดู นะครับ....

 

ภาพถ่ายเจดีย์ ที่จะฉลอง และถวาย....


คณะของพวกเรามาถึงวัดฯ ก่อนที่จะมืด....
จึงสามารถเก็บภาพไว้ ตั้งแต่เมื่อมาถึง จนถึงเวลาพิธีถวาย ประมาณ กว่า 20.00 น.

โปรดสังเกต ตัวเลขบนภาพถ่าย....

เลข 10 หมายถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549

เลข 4 ตัว ที่ตามหลังเลข 10 หมายถึง เวลา ที่ถ่ายภาพ....

(วงกลมที่สว่างที่สุด.. บริเวณใกล้ปลายยอดเจดีย์.. คือ ดวงจันทร์)

 

ภาพนี้ซิครับ.. ที่ทำให้ผม งงงัน ตะลึงต่อภาพที่เกิดขึ้น ไปชั่วขณะหนึ่ง....

ผมสามารถ ถ่ายภาพสายลม ที่พัดอย่างอ่อนช้อย.. พัดพาดผ่านองค์เจดีย์....

ในขณะที่เป็นเวลา นาทีเดียวกัน (6.56 PM) ผมพยายามถ่ายภาพซ้ำอีก....
ก็ไม่ปรากฏภาพเช่นนี้ อีกเลย....

แม้แต่ในห้วงเวลา นาที ถัด ๆ ไป ก็ตาม....

ซึ่งภาพในลักษณะนี้ ผมก็เพิ่งเคยถ่ายภาพได้ เป็นครั้งแรก....
(และก็ยังไม่เคยถ่ายภาพในลักษณะ เช่นนี้ ได้อีกเลย)

 

ภาพต่อ ๆ มา ก็เกิดภาพ ในลักษณะ "ดวงแก้ว" ที่ปรากฏให้ทุกท่านได้เห็นมาแล้ว....

ก็นำมาเสนอ เพื่อเกิดความคิดเห็น ในเชิงเปรียบเทียบ ดูนะครับ....

ผมเองก็ดื้อ ที่จะเชื่อในสิ่งต่าง ๆ
จึงพยายามถ่ายภาพมาให้มากที่สุด ใน 1 นาที
โดยไม่เปลี่ยนสถานที่ภ่ายภาพเลย (เท้าที่ยืนถ่ายภาพจะอยู่ที่เดิมตลอดเวลา)

 

ภาพต่อมา....

 

พิธีของสงฆ์ ในการฉลอง และรับการถวายเจดีย์ ไว้ในพระพุทธศาสนา....

 

เมื่อเวลา กว่า 20.00 น.

การเกิดภาพในลักษณะ "ดวงแก้ว" ก็ยังปรากฏอยู่ อย่างสม่ำเสมอ....

 

หลังจากเสร็จพิธีการแล้ว....

คณะของพวกเรา ก็มุ่งสู่ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ ลำพูน....
และเดินทางถึงวัดฯ ก่อน 02.00 น.

เพื่อที่.... วันรุ่งขึ้น(วันที่ 11 ก.พ.49)
ในเวลาเช้า จะได้เดินทางพร้อมกับพระคุณเจ้าตุดีฯ เพื่อไปสร้างเจดีย์บนยอดดอยอูแจ่ะ....

...................................................................

ก็จะมานำเสนอในอันดับ ต่อ ๆ ไป....
เพราะว่า ขณะนี้ เวลาพ้นจาก 04.00 น. แล้ว
เวลา 05.30 น. นัดกับคุณเต้อฯ เพื่อพาไปพบท่านอาจารย์สุรชัยฯ
เพื่อการสงเคราะห์ในเรื่องการปฏิบัติธรรม อาชีพ และอื่น ๆ

สาย ๆ ก็ต้อง เตรียมของจัดของ ส่งให้กับทางวัดฯ และท่านผู้ศรัทธา
เมื่อวันวาน คุณวิโรจน์ฯ ที่โทร.มาสอบถามเรื่องการส่งวัตถุอันเป็นมงคล

ก็เป็นอันว่า ไม่ได้นอนกันน่ะคืนนี้....
พรุ่งนี้ จะได้นอนตอนไหน ก็ยังไม่รู้เลย....

ความจริง ถ้าหากตายคืนนี้ พรุ่งนี้ ได้.. ก็คงจะดี....
เพราะใจกำลังทำงานในด้านความดี....
จิตยังไม่ทันได้สั่งในเรื่องเลว ๆ
อย่างน้อย ๆ ไปสวรรค์ ไปพรหม ก็ยังดีเน๊าะ....

แล้วเมื่อไรที่จะตายหนอ....
...........................

 

ต่อเนื่องจากโพส ที่ 131 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549

ขอย้อน มาลงในรายละเอียดในเดือน กุมภาพันธ์ 2549 เพื่อจะได้ไม่งง....
(เรื่องนี้ มันยาว ไปเรื่อย....)

วันที่ 6 – เดินทางไปพุทธสถาน รอยพระพุทธบาทเขากะลา ช่วยงานบุญ
เวลา 16.29 น. เททอง หล่อพระศรีอาริยเมตไตรย์ เพื่อไปประดิษฐานที่ วัดพระธาตุแก่งสร้อย

วันที่ 7 - ฉลองสมเด็จองค์ปฐม และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เลี้ยงพระ 1,348 รูป พร้อมมหาสังฆทาน
เวลา 17.00 น. เดินทางออกจากเขากะลา ไปกราบเท้าพี่สาว(ผู้มีพระคุณดุจแม่)ที่พิษณุโลก นอนพิษณุโลก 1 คืน

วันที่ 8 - เช้าไปกราบ และทำบุญที่วัดหลวงพ่อพระพุทธชินราช(มีงานประจำปีพอดี) บ่ายเดินทางกลับ กทม.

วันที่ 10 - เช้าออกจาก กทม. มุ่งสู่วัดบ้านเด่น, แสงเจริญ แยกนครชุม ตรงข้ามกับทางเข้าตัวจังหวัดกำแพงเพชร เข้าไป 20 กม. ร่วมพิธีฉลอง และถวายเจดีย์
จากนั้นมุ่งสู่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ถึงวัดฯ ก่อน 02.00 น.

วันที่ 11 - เช้า เดินทางพร้อมกับพระคุณเจ้าตุดีฯ เพื่อไปสร้างเจดีย์บนยอดดอย ผ่านดอยเต่า ฮอด อมก๋อย และตรงเข้าไปอีกประมาณกว่า 2 ช.ม.(รถยนต์วิ่ง) เรียบ ลัดเลาะ ไปตามไหล่เขา.. ก่อนที่จะถึง อูแจ่ะ ประมาณ ครึ่ง ช.ม.(เดินเท้า) รถที่ไม่ใช่ โฟว์วีล ต้องจอดรอที่นี่ เพราะทางชันมาก

เมื่อรถโฟว์วีล ถึงสำนักสงฆ์ อูแจะ ก็พักค้างคืนที่นี่ ก่อน เพราะว่าเย็นแล้ว

วันที่ 12 - เช้า หลังพระฉันภัตราหาร เดินเท้าขึ้นดอย ยังไม่มีทางรถยนต์ ชาวบ้านที่ชำนาญ และชินต่อการเดินเท้า ในเส้นทางนี้ ก็เดินประมาณ 2 ช.ม. ถึงยอดดอย
ตัวผมเอง ก็เดินกับคณะของสุภาพสตรี เดินไปพร้อมกัน ก็เกือบ 4 ชั่วโมง

สร้างเจดีย์ครอบเจดีย์ของเก่าแต่ดั้งเดิม นอนค้างคืน(เต้นท์) บนยอดดอย

วันที่ 13 - เดินทางกลับ ถึง กทม.(ดอนเมือง) เวลา 06.29 น.(ของวันที่ 14)

 

เรามาดูกันต่อที่....

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2549 - เช้า พระฉันภัตราหาร

จากภาพแรก ซ้ายไปขวา ของท่านผู้ชมภาพ....

พระคุณเจ้า.. ตุ๊เจ้าวันชัยฯ.. ตุ๊เจ้าตุดีฯ.. ตุ๊เจ้าจอดิ๊ฯ.. และ ตุ๊เจ้าวิทยาฯ..
.........................................................................

 

จากรูปนี้ เกิดดวงแก้วปรากฏ ตรงกระเป๋าของพระภิกษุ ที่กำลังให้พร....
(ภาพที่ 3 และ ขยายใหญ่ ในภาพที่ 4)
เป็นเรื่องบังเอิญ หรือเปล่า ก็ไม่ทราบได้....

ผมเพิ่งจะถวาย "พระบรมสารีริกธาตุ" แด่พระภิกษุทั้ง 4 รูป....

จากพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจาก คุณยุทธพงษ์ คันธิยะรัตน์
แห่งอำเภอ เชียงคำ พะเยา

...........................................................

ตามเกร็ด ที่ผมเคยโพสเล่าเรื่องนี้ไว้แล้ว.... ดังนี้....

ตามที่คุณยุทธพงษ์ฯ คันธิยะรัตน์ จากพะเยา ได้มอบพระบรมสารีริกธาตุ มาให้ 101 องค์ ได้จัดสรร ดังนี้....

1. บรรจุที่องค์ปฐม พุทธสถาน รอยพระพุทธบาทเขากะลา อธิษฐานลอยน้ำ ได้ 10 องค์ (ภายหลังก็ลอยน้ำทั้งหมด)

2. เพื่อบรรจุเจดีย์ปู่แก้วมาเมือง วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ. ลี้ ลำพูน 10 องค์

3. ครูบาพรรณฯ เจ้าอาวาส วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เพื่อบรรจุเจดีย์ วัดนาเลี่ยง อ.ลี้ ลำพูน 10 องค์

4. ตุ๊เจ้าตุดี โฆสิตธรรมโม วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เพื่อสถานที่ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 10 องค์

5. ตุ๊เจ้าวิทยาฯ เพื่อบรรจุเจดีย์ สำนักสงฆ์อู่แจ้ะ อ.อมก๋อย เชียงใหม่ 10 องค์

6. ตุ๊เจ้าอนุชาฯ เพื่อบรรจุเจดีย์ วัดดอนแก้ว ต.นาทราย อ. ลี้ ลำพูน 10 องค์

7. ตุ๊เจ้าเตอะเลอะฯ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เพื่อบรรจุเจดีย์ วัดกู่พฤกษาราม อ.อมก๋อย เชียงใหม่ 10 องค์

8. ตุ๊เจ้าพงษ์เกษมฯ เพื่อบรรจุเจดีย์ วัดมณฑลวงศาพัฒนา อ. ลี้ ลำพูน 10 องค์

9. ตุ๊เจ้าครูบาอุดรฯ เพื่อบรรจุเจดีย์ วัดพระพุทธบาทผาหนาม อ. ลี้ ลำพูน 9 องค์

10. มอบให้ พ.อ.(พิเศษ)หญิง ทวีพรฯ ผู้ศรัทธา จัดหาผอบแก้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทุกวัด 9 องค์

11. มอบให้คุณธัญญแก้วฯ ผู้ศรัทธา จำนวน 3 องค์

เมื่อได้รับพระบรมสารีริกธาตุ 101 องค์ อย่างไม่คาดฝัน ไม่ได้คาดคิดมาก่อน….
ในใจก็ปีติ อย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้คิดจะนำไว้บูชาเพื่อประโยชน์แก่ตน....
คิดเพียงว่าจะทำอย่างไร จึงจะเป็นบุญ เป็นกุศล แก่ท่านผู้มอบมาให้....

เมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่คิดจะถวายพระบรมสารีริกธาตุ ก็คือ พุทธสถาน รอยพระพุทธบาทเขากะลา....

เพราะว่า คุณยุทธพงษ์ฯ ได้ทราบข่างงานบุญที่นี่ และศรัทธาร่วมบุญไว้แล้ว
จึงคิดมอบพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ ณ ที่เขากะลา....

จึงเตรียมภาชนะแก้ว ใส่น้ำสะอาด และอธิษฐานจิตว่า....
เพื่อเป็นบุญบารมีของเจ้าของพระบรมสารีริกธาตุ

ลูกขอตั้งจิตอธิษฐานว่า....
หากพระบรมสารีริกธาตุองค์ใด ที่ลอยน้ำ ลูกจะขอนำไปถวาย ณ พุทธสถาน รอยพระพุทธบาทเขากะลา....

จากนั้น ก็ได้นำพระบรมสารีริกธาตุ วางลงในน้ำ ปรากฏว่า มีลอยน้ำอยู่ 9 องค์
(นอกนั้นจมทั้งหมด)

จึงตักออกมาเพื่อบรรจุลงซองใส ไว้ชั่วคราวก่อน แต่ปรากฏว่า....
เมื่อนับจำนวนพระบรมสารีริกธาตุ กลับกลายเป็น 10 องค์ ไปได้....
ไม่ได้เสด็จมาเพิ่ม แต่บังตาให้เห็นเป็น 9 องค์ ทั้งที่จริง ๆ ลอยอยู่ 10 องค์....

ที่กล่าวว่า บังตา ก็เพราะว่า ผมมอง และนับ อย่างตั้งใจอย่างยิ่ง....
ตอนแรก ที่ยังวางพระบรมสารีริกธาตุลงในน้ำยังไม่หมด ก็มีลอยน้ำอยู่เพียง 8 องค์….
เมื่อวางพระบรมสารีริกธาตุลงในน้ำหมดแล้ว มีลอยน้ำเพิ่มอีกเพียง 1 องค์….

ก็น่าที่จะเป็น 9 องค์ พอบรรจุลงซองใส แล้วยกขึ้นมานับ กลายเป็น 10 องค์….

จากนั้น ก็คิดในใจว่า องค์อื่น ๆ ก็คงจะไม่ลอยน้ำแล้ว....
จึงได้นำภาชนะแก้วที่มีพระบรมสารีริกธาตุจมน้ำอยู่ ถือเดินไปเพื่อที่จะรินน้ำทิ้ง….

ปรากฏว่าขณะที่เดิน น้ำในภาชนะแก้ว ก็กระเพื่อมเบา ๆ ตามแรงเดิน….
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏแก่สายตาของผม....

พระบรมสารีริกธาตุที่จมน้ำอยู่นั้น ลอยขึ้นมาทั้งหมด....
ไม่ว่าจะเป็นองค์เล็ก องค์ใหญ่ ต่างก็ลอยน้ำทั้งสิ้น....

ตอนแรกก็ลอยอยู่ห่าง ๆ กัน สักครู่หนึ่งก็ลอยมาติดกันเป็นแพ
เหมือนมีแม่เหล็กดึงกันเข้ามา….

ก็นับว่าเป็นพุทธานุภาพโดยแท้ ที่เมตตาทำให้ลูกได้มีโอกาสเกิดความศรัทธาแก่ตน เป็นอย่างยิ่ง….

ขณะที่กำลังมองดูอยู่อย่างอัศจรรย์ใจ และชุ่มชื่นจิต.. เสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้นมา….
พี่(พ.อ.หญิง)ทวีพรฯ ก็โทรเข้ามาพอดี ….

จึงเล่าเรื่องให้ฟัง พี่อ๋อย(ทวีพรฯ) ก็เกิดความศรัทธา ขอเป็นเจ้าภาพ ผอบแก้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ….

โอ้.. อะไรจะเหมาะเจาะพอดี เช่นนี้…. ไม่น่าเชื่อว่าพี่เขาจะโทร. มา หา ในเวลานั้น…. บุญ โดยแท้….

เลยตัดสินใจมอบพระบรมสารีริกธาตุ แด่พี่อ๋อย ไป 9 องค์….

อีกรายหนึ่ง คือ คุณธัญญแก้วฯ โทร.เข้ามา ก็เลยได้อานิสงส์ ได้รับไปบูชา 3 องค์

จากนั้น ก็นั่งคิดว่า ในขณะนี้ ที่ไหนกำลังทำการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์บ้าง จะได้นำไปถวาย….

ก็เป็นเรื่องแห่งความบังเอิญอีก หรือเปล่าก็ไม่รู้ ….มีรายการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์ ดังข้างต้น….รวมทั้งสิ้น 11 รายการ นับจำนวนโดยรวม ได้ 101 องค์ พอดี….

ตอนแรก ใจก็คิดว่า น่าที่จะแบ่งไว้บูชาบ้าง….
แต่จิตก็คิดได้อีกอย่างหนึ่งว่า….
หากเราเก็บไว้บูชา ก็จะได้บุญแก่เราเพียงผู้เดียว….
ถ้าเราสละ ละในสิ่งรัก ยกสิ่งที่หวง ออกไปได้ ก็เป็นการเพียรละ ความโลภ ของตัวเอง….

ยิ่งได้มอบไว้ ถวายไว้ ในพระพุทธศาสนา….
โอ้โฮ…. กว่าที่จะสิ้น พ.ศ. 5000 คนที่กราบไหว้ บูชา มีจำนวนมากมาย นับไม่สิ้น….
แล้วจะนับถึงอานิสงส์ ให้หมดสิ้น ไปได้อย่างไรกัน….

ด้วยบุญราศี ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้น จวบจน ณ บัดนี้
ได้มีผู้ศรัทธา คือ คุณยุทธพงษ์ คันธิยะรัตน์
มอบพระบรมสารีริกธาตุ มาให้ 101 องค์ เพื่อเป็นทานแก่ผู้ศรัทธา และถวายไว้ในพระพุทธศาสนา….

ขอกราบอาราธนาบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย อันมี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ สมเด็จองค์ปฐม เป็นองค์ต้น สมเด็จองค์ปัจจุบัน เป็นที่สุด พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ คุณแห่งพระธรรม คุณของพระอริยสงฆ์ ทั้งหลาย ครูบา อาจารย์ ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา ครูบาชัยลังก๋า ครูบาศรีวิชัย ครูบาพรหมจักร ครูบาอภิชัยขาวปี หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา หลวงปู่ปานวัดบางนมโค และองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด บุญบารมีแห่งพระโพธิสัตว์เจ้า ทุก ๆ พระองค์ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ท่านปู่พระอินทร์ ท่านท้าวมหาพรหม ท่านท้าวผกาพรหม ตลอดจนถึง พรหม เทพเทวา ทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ

ขอผลบุญนี้ จงเป็นกำลัง เป็นปัจจัย ให้คุณยุทธพงษ์ คันธิยะรัตน์ และข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด
หากไม่ถึงพระนิพพานเพียงใดก็ตาม ขอคำว่า ไม่มีในสิ่งที่ดี ๆ จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย

และต้องหากเกิดอีกชาติใดก็ตาม ก็ขอให้มีโอกาสได้พบ มีความเคารพ และมีความมั่นคง ตรงต่อพระรัตนตรัย นับตั้งแต่ บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยเทอญ.

สาธุ สาธุ สาธุ
กราบ กราบ กราบ
..................

 

ทีมงานของเราคนหนึ่ง เป็นโชเฟอร์ เจ้าของรถ 4 W ที่พาคณะพวกเราถึงยอดดอยและชาวกะเหรี่ยง ท่านนี้ผมจำชื่อไม่ได้ เคยรับใช้ใกล้ชิดกับหลวงปู่วงศ์ฯ อย่างยิ่ง....

อยู่ระหว่างทางแยก เราต้องเดินไปทางซ้ายมือ....
ส่วนทางด้านขวามือ เป็นเส้นทางที่ทำจาก "เกลือ" เป็นถนน
เพื่อให้รถสามารถขึ้นถึงยอดดอย....
(ถนนที่โรยด้วยเกลือ ทำจากเกลือ..ทำทำไม ทำอย่างไร โพสต่อ ๆ ไป ก็จะเล่าให้ฟัง)

ระหว่างทาง ก็ได้พบกับมูลของช้าง แสดงว่า เป็นเขตป่าทึบจริง ๆ
..............................................................

 

ถึงยอดดอยก็กว่า เที่ยง ไปแล้ว....
ดอยนี้ มี 2 ยอด มีร่องสูงประมาณ 5 เมตรคั่นกลาง....
ยอดที่หลวงพี่ตุดีฯ ยืนถ่ายภาพอยู่นี้ เป็นยอดดอยที่สูงสุด (วันนี้ ไม่ได้สร้างยอดดอยนี้)

ลักษณะของทั้ง 2 ยอดดอย มีร่องรอยของเจดีย์โบราณ ที่หลงเหลือเพียงซากเก่า
ที่พอจะมองได้ว่า เป็นเจดีย์เก่า เท่านั้นเอง....
.............................................

 

ลักษณะของอีกยอดดอยหนึ่ง ที่ต่ำกว่าเล็กน้อย เกือบที่จะเสมอกัน....
ห่างกันประมาณ 30-40 เมตร มีร่องคูคั่นกลาง

ภาพตั้งแรก แต่ก่อนที่จะเริ่มบูรณะใหม่....
และการเดินทางไปสร้าง ณ วันนั้น(วันที่ 12 ก.พ.2549)....
............................................................

 

ภาพต่อมา....

 

ภาพต่อมา.. พระภิกษุ ที่ขึ้นไปร่วมงานการก่อสร้างเจดีย์....

 

ร่วมแรง ร่วมมือ ร่วมพลังสามัคคี.. เพื่อหวังในบุญ ในอานิสงส์....

สาธุ สาธุ สาธุ