โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    กำลังจะออกไปแล้วต้องกลับมาเพิ่มเติมให้อีกนิด
    คือ"เขา" ใครก็ไม่รู้มาฝากมาบอก

    "เขา"ว่าตอนนี้ร่างกายศิลามณีเริ่มชาจากท่อนล่างลงไป เรียกว่าไม่เหมือนเดิม
    ถ้าเป็นยังงี้ต่อไปจะต้องนั่งรถเข็นแน่ เขาเลยบอกว่า ปกติศิลามณีนั่งสมาธินั้น
    จะนั่งแบบรับเข้า คือปล่อยอารมณ์ จะว่าปล่อยวางก็ไม่ได้เพราะเขาไม่ได้ปล่อย
    วางแบบนั้น ทำให้มีบางอย่างที่ไม่ดีแทรกเข้ามาเลยเริ่มชาแล้วล่ะ

    วิธีแก้ไข ท่านบอกว่าเคยเห็นดวงอาทิตย์ใหม ให้กำหนดเหมือนดวงอาทิตย์
    อยู่ในกลางตัวเรา แล้วคิดถึงแสงที่แผ่ออกมาไม่มีสิ้นสุด นั่งดูการแผ่ของมัน
    จนอาการชานั้นหายไปค่อยหยุด (ราวๆ 4 วันจากที่เห็น)
    ลักษณะจากที่ลองทำดูอย่างเขาบอก ก็จะเห็นแสงที่แผ่ออกมากระทบสะท้อน
    อยู่ใต้ผิวหนังของเรา เหมือนร่างกายเราเป็นลูกโป่ง ข้างในไม่มีอะไรนอกจาก
    ดวงอาทิตย์เล็กๆ อืมม แสงสีส้มสะท้อนไปๆมาๆก็เข้าท่าดีนะ

    อันนี้ไม่รู้นะ จะเชื่อก็ดีไม่เชื่อก็ช่าง ผมแค่เป็นกระบอกเสียงเฉยๆ
     
  2. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    อันนี้ไม่รู้นะ จะเชื่อก็ดีไม่เชื่อก็ช่าง ผมแค่เป็นกระบอกเสียงเฉยๆ

    เชื่อซี่...ทำไมจะไม่เชื่อละคะ

    ที่คุณจิ-โป ว่ามานะถูกต้อง วันนั้นนะคะ ตอนที่กำลังจะเริ่มก้มตัวลงนั่งสมาธิ จัดท่าอะไรเสร็จแล้ว คือต้องนั่งขัดตมาท เอามือวางไว้ตรงขาทั้งสองข้าง.... ก็ทราบว่าใจไม่ชอบ...รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว ไม่อยากนั่งแบบมีฟอมร์.... เพราะเวลาที่ ศิลามณี นั่งเองที่บ้าน หรือ ไปนั่งที่บ้านครูบาอาจารย์ ไม่ใช่ท่านี้ นะคะ แล้วก็มีอาการแบบที่คุณจิ-โป ว่าคือมีอาการชา...

    แต่มันจำเป็นต้องนั่งตามฟอมร์... ไม่งั้นเดี๋ยวพระผู้ช่วย ที่ท่านดูแลอยู่ในห้องกรรมฐาน ท่านจะมาติงเอา ...เพราะท่านก็จับตามอง ศิลามณี ตั้งแต่วันแรกที่เข้าปฏิบัติ ตอนเดินจงกลม แล้วคะ เนี่องจากเดินเร็วกว่า ชาวบ้านเขา...คนอื่นเขาเดินช้ายิ่งกว่าหอยทากอีก...ส่วน ศิลามณี เดินช้าคล้ายเต่า...

    กราบขอบคุณ ครูบาอาจารย์ ในความเมตตา และ ขอบคุณ คุณจิ-โป ด้วยนะคะ
     
  3. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ช่วงที่เข้าปฏิบัติธรรม.... พระวิปัสนาจารย์ ท่านสอนให้กำหนดทุกอิริยาบท ..ร่วมทั้งอิริยาบทย่อยด้วย.....แม้เวลานอน และ เมื่อลืมตาตื่นขึ้น ท่านก็ให้กำหนด ... ท่านว่ากำหนดแล้วได้บุญ...กำหนด นอนหนอ ๆ ตี 4 หนอ อันนี้ได้คะ ... หลับ และ ตื่นตามเวลาที่ ศิลามณี ตั้งใจว่าจะตื่นกี่โมง.. แต่ตอนที่จะกำหนดตื่นนอนนี่ กำหนด ตื่นหนอ ไม่ทันสักทีคะ ก็ลืมตาแล้วนี่คะ...

    เดี๋ยวนี้ที่บ้าน ศิลามณี ตื่นตี 3 ทุกทีเลย..แต่ไม่ค่อยยอมลุกขึ้นมาทำสมาธิ ... เอาแต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนหลับต่อ....
     
  4. chaiyawat

    chaiyawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอบคุณทุกกระทู้ที่ให้ความรู้ สงสัยนิดนึงครับ ในการนั่งสมาธิ มีวิธีอย่างไรที่จะป้องกันไม่ให้มีกระแสบางอย่างที่ไม่ต้องการเข้ามาได้ครับ เพราะทุกท่านที่นั่งสมาธิล้วนเพื่อปฏิบัติธรรม เป็นการทำดีทั้งนั้นเลย ไม่อยากให้ได้รับผลที่ตรงข้ามกับการทำดี
     
  5. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ง่ายที่สุดที่ทำได้ครับ คือเมื่อเราไม่อยากรับเราก็ต้องส่งออก
    เมื่อเราส่งออกก็จะไม่มีกระแสใดๆเข้ามาทวนกระแสแห่งการส่งเราได้
    เช่นการแผ่แสงออกรอบๆตัวเรา แผ่กระแสบุญออกโดยคิดถึงบุญใหญ่
    ที่ได้ทำตลอดเวลาเป็นต้น

    การส่งออกนั้นอย่าตีความแบบวิปัสนาว่าจิตไม่ควรส่งออก แต่ให้ดูตรงจุดนี้
    คือการรับเข้านั้นเช่น นั่งแบบปล่อยวาง ว่างจากอารมณ์ ไม่คิดไม่นึก
    ตลอดจนถึงการตีความธรรมมะบางตอน บางประโยคแล้วดื่มด่ำอยู่กับรสแห่ง
    พระธรรมนั้น ล้วนเป็นการรับเข้า เพราะเมื่อจิตไม่คิดไม่นึกปล่อยวางตาม
    ธรรมชาติ กระแสแห่งธรรมชาติก็ดี แห่งวิญญาณอื่นก็ดีจะไหลเข้ามาสู่จิต
    เดิม และจิตจะรับปรุงออกมาเป็นเวทนาต่างๆ

    ส่วนการส่งออกที่พูดถึงคือ จิตเดิมตั้งใว้ และกำหนดสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันเรียก
    ว่ากสิณ เช่น แสงสว่าง ดินน้ำ้ลมไฟสีแดงเขียวเหลืองอสุภะต่างๆเป็นต้น
    อันนี้จะมีจิตเดิมและสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเพื่อให้จิตไปจับตรงที่เรากำหนด
    อันจะทำให้เวทนาต่างๆหายไปเหลือเพียงสิ่งที่เรากำหนดและจิต นี่เรียกว่า
    ส่งออก เพราะออกจากจุดเดิมของจิต การออกจากจุดเดิมของจิต ไม่ว่าจะเป็น
    ออกนอกกายนี้ หรือมองลงไปตรงอกเรา ตรงฐานรวมกาย เหล่านี้ต้องผ่าน
    สภาพอันหนึ่งเรียกว่าเมื่อใดที่เลื่อนจิตออกจากจุดเิดิมเรียกส่งออกทั้งนั้น

    และเมื่อเกิดสภาวะทั้งสองอย่างเกิดคือมีจิตเดิมและจุดที่เรากำหนดเมื่อนั้น
    ไม่มีอะไรแทรกได้แต่ว่าเมื่อใดที่มีเพียงจิตเดิมรอรับการปรุงที่ฐานจิตเดิมนั่น
    จะมีกระแสอะไรแทรกแน่นอน ดีบ้างร้ายบ้างตามบารมี มีบุญมากก็มาดีบุญน้อย
    ก็มาร้ายครับ
     
  6. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ขอถามคุณจิ-โป หน่อยครับ
    เวลาผมนั่งสมาธิ แล้วไปที่ลมหายใจ หรือสึกว่า เหนื่อย แต่จังหวะ การหายใจก็ปกติ
    ทุกอย่าง แล้วผมก็ลองไปจับไว้ที่ หัวใจ ก็รู้สึกว่า หัวใจมันเหนื่อย เหมือนไม่มีแรงเต้น
    แต่จะไม่ได้ยินเสียงนะครับ แค่รับรู้

    จะใช่วิธีไหนแก้ได้บ้างครับ เพราะไม่รู้จะไปจับที่ไหนดี ขอถามอีกเรื่องครับ บ้างครั้งนั่งไปแล้วรู้สึกว่า ฝ่ามือมันใหญ่ขึ้นนี่เป็นเพราะอะไรหรอครับ (เวลาที่วางมือทับกัน)
     
  7. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เท่าที่มองๆดูเหมือนกับคนหายใจออกแล้วขี้เกียจหายใจเข้า จังหวะที่หาย
    ใจออกสุดแล้วจิตจับที่ความซาบซ่านทางกาย อันเป็นอาการของกำลังจิตที่อ่อน
    ลักษณะนี้จิตจะไปจับหมด ทั้งมือที่วาง กายที่นั่ง ลมหายใจตอนหายใจออกสุด
    ตอนแรกจิตมีพลัง พอหมดแรงก็หยุดรับเอาเวทนาทำให้เหนื่อยเมื่อกำหนดลม
    และเกิดอาการมือพองตัวพองเมื่อจับที่กาย ด้วยว่าจิตหมดกำลังเลยหยุด
    รับเวทนานั่นเอง


    วิธีแก้ไม่ได้ให้เปลี่ยนการปฏิบัติ แต่ต้องฝึกให้พลังใจพลังจิตเข้มแข็งขึ้น
    มีหลายวิธีเช่น
    -ไปนั่งที่สูงๆนั่งสมาธิแล้วลืมตามองลงมาข้างล่าง
    -กำหนดกายเช่นตอนตื่นใจเราบอกตัวเราว่า"ลุก" ก็ลุกเลยอย่ากลิ้งไปกลิ้งมา
    -อดอาหาร กำหนดซัก 2 วันกินแต่น้ำ
    -หัดเป็นคนโมโหง่ายต่อกิเลส เช่นรู้ว่าเริ่มเฉื่อยสบายเพราะสุขก็อย่าปล่อยจิต
    ไหลตามสุข ให้คิดว่า"หยุด" แล้วยกจิตออกจากอารมณ์กิเลสนั้นๆ

    เมื่อเรามีกำลังใจที่เข้มแข็งแล้ว การจับที่ลมหายใจแม้ว่าจะขาดห้วงไป
    รู้สึกว่าไม่หายใจแล้วก็จะยังคงสบายอยู่ไม่รุ่มร้อนตามอาการ
    และแม้ร่างกายจะพองโตเหมือนจะเท่าภูเขา หรือหมุนเหวี่ยงหกคะเมนตี
    ลังกาทั้งๆที่ยังนั่งสมาธิอยู่ ใจเราก็จะแยกออกมาจากอาการเหล่านี้ได้

    ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อยกเว้นประการเดียวตรงนิโรธสมาบัติซึ่งต้องดูสุขภาพทางกาย
    เป็นสำคัญเพราะนิโรธสมาบัตินั้นต้องมีร่างกายเข้มแข็งถ้าอ่อนแอก็ทำไม่ได้ครับ
     
  8. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ขอบคุณครับ เด๋วจะกลับไปลองฝึกใหม่ครับ

    จริงอย่างที่คุณจิ-โป ว่านั้นแหละครับ จิตมันชอบไหลพอสุขเข้าหน่อยก็ปล่อยไปเลย เด๋วต้องบังคับมั้งแล้ว

    ขอถามเพิ่มครับ
    เวลาที่ผมสวดมนต์ ผมจะสวด
    บูชาพระตันตรัย / กราบพระรัตนตรัย / นะโม ตัสสะ / ไตรสรณคมน์ / พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ /พาหุง / มหากา / อิติปิโส อายุ +1 / แผ่เมตตา / อุทิศส่วนกุศล

    ตอนสวดก็ไม่มีอะไร แต่พอมาถึงบทกรวดน้ำ ช่วง อิทัง สัพพะ เปตานัง กับ อิทัง สัพพะ เวรีนัง
    จะมีอาการขนลุกขึ้นมาทันที อยากจะถามว่า พวกเค้าเหล่านั้นได้รับผลบุญใช่ไหมครับ

    อีกข้อแล้วกันครับ สงสัย ไม่รู้จิตคิดไปเองหรือเปล่า บางครั้งในเวลานั่งสมาธิ พอหลับตา ภาวนา พุท โธ ไป จิตมันเหมือนกับจะเห็น ผู้หญิง 1 คน ผมยาว ใส่ชุดสีขาว ไม่เห็นหน้า ทำให้บางครัังรู้สึกกลัว
    อย่างเฃ่น ที่ทำงาน ผมไปเข้าห้องน้ำ ก็ทำสมาธิไปด้วย มันจะเห็นภาพว่า มี ผู้หญิงคนนี้ ยืนอยู่ที่มุมด้านขวา จะมาแบบนี้ตลอด

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2011
  9. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    อะงั้น ศิลามณี ก็คล้ายๆคุณ noinid0209... แต่เห็นแค่มือพนม.. ไม่เห็นทั้งตัวนะคะ แวบเข้ามาในสมาธิเมื่อหลับตา....ขณะกำลังจะก้มลงกราบพระนะคะ ...ศิลามณี เข้าใจเอาเองว่าน่าจะเป็นเทวดาผู้คุ้มครองรักษา..ละมั้ง เดี๋ยวรอฟังจาก คุณจิ-โป..อีกที
     
  10. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ขอถามเพิ่มครับ
    เวลาที่ผมสวดมนต์ ผมจะสวด
    บูชาพระตันตรัย / กราบพระรัตนตรัย / นะโม ตัสสะ / ไตรสรณคมน์ / พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ /พาหุง / มหากา / อิติปิโส อายุ +1 / แผ่เมตตา / อุทิศส่วนกุศล

    ตอนสวดก็ไม่มีอะไร แต่พอมาถึงบทกรวดน้ำ ช่วง อิทัง สัพพะ เปตานัง กับ อิทัง สัพพะ เวรีนัง
    จะมีอาการขนลุกขึ้นมาทันที อยากจะถามว่า พวกเค้าเหล่านั้นได้รับผลบุญใช่ไหมครับ

    อีกข้อแล้วกันครับ สงสัย ไม่รู้จิตคิดไปเองหรือเปล่า บางครั้งในเวลานั่งสมาธิ พอหลับตา ภาวนา พุท โธ ไป จิตมันเหมือนกับจะเห็น ผู้หญิง 1 คน ผมยาว ใส่ชุดสีขาว ไม่เห็นหน้า ทำให้บางครัังรู้สึกกลัว
    อย่างเฃ่น ที่ทำงาน ผมไปเข้าห้องน้ำ ก็ทำสมาธิไปด้วย มันจะเห็นภาพว่า มี ผู้หญิงคนนี้ ยืนอยู่ที่มุมด้านขวา จะมาแบบนี้ตลอด

    ขอบคุณครับ[/QUOTE]

    ตอนที่แผ่เมตตา อาการนั้นเกิดจากปิติ ส่วนเขาจะได้หรือไม่ได้แล้วแต่ว่าเป็น
    ภูมิธรรมชั้นไหน ถ้าเราแผ่โดยให้อารมณ์จากการสวดมนต์ นั่งสมาธิแล้วแผ่นั้น
    ภูมิเทวดาชั้นสูงที่เสพอารมณ์เป็นเครื่องอยู่ย่อมได้ไป แต่ภูมิธรรมชั้นต่ำเช่น
    โอปาติกะ อากาศเทวดาเปรต อสุระกาย เหล่านี้ไม่ได้เพราะเขาเพียงต้องการ
    สิ่งของที่เป็นทิพย์ เช่นของทิพย์เกิดจากการใส่บาตร หรือสังฆทานเป็นต้น

    ส่วนที่เป็นวิญญาณที่มองเห็นนั้น ตามมาจากสถานธรรม สถานธรรมนั้นเป็น
    ของจีนสายพระโพธิสัตว์ อยากตามก็ตามไป ไม่มีอันตรายกับเรา เพียงแต่จะ
    คอยดึงเราไปทางสายพระโพธิสัตว์มากกว่าหลุดพ้น เราสังเกตุตัวเองก็พอ
    ถ้าถึงทางแยกที่ต้องเลือกว่าซ้ายนิพพาน ขวาช่วยเหลือคนเมื่อไหร่ ผู้หญิงนี้จะ
    ดึงเราไปช่วยคนทันที ก็แล้วแต่ตัดสินใจครับ

    ส่วนของคุณศิลามณี ให้ดูมือที่เขาพนมใว้ สังเกตุว่าพนมแบบดอกบัวหรือ
    แบบรากบัว ถ้าเห็นเป็นรากบัวเมื่อไรก็ให้รู้ว่าเขาอยากให้เราเข้าสายพระโพธิ
    สัตว์เหมือนกัน ถ้าพนมมือแบบดอกบัวธรรมดาก็หวังได้ว่าพ้นทุกข์แน่ คำสอน
    ต่างๆที่เขามาพูดให้ฟังในสมาธิก็ดี ในนิมิตก็ดีให้รวมลง อนิจจังทุกขังอนัตตา
    เสมอๆครับ
     
  11. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ขอบคุณมากครับ บางครั้งก็รู้สึกกลัวครับ

    จากที่คุณ จิ-โป บอก ผมนึกได้ว่าเคยไปบ่น เจ้าแม่กวนอิมไว้ครับ ว่าจะไม่ทานเนื้อ
    อาจจะมาจากกรณีก็เป็นไปได้ครับ

    ผมเพิ่งจะเลิกทานเนื้อ ได้ 4-5 เดือนมานี้เองครับ
     
  12. Assarin

    Assarin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +104
    คุณจิ-โปคะ ทิพย์มีเรื่องจะถาม ก่อนปีใหม่พี่สาวชวนไหว้พระราหูที่หน้าบ้าน แล้วก็ใช้กล้องมือถือถ่ายไว้ ทิพย์เห็นเป็นดวงกลมๆสีออกม่วงๆ ลอยขึ้นลอยลงระหว่างถาดของไหว้ ว่าจะตัดเป็นคลิปเล็กๆมาลงให้ดู แต่ยังไม่ได้ทำ และที่บ้านที่ทิพย์อยู่มีคนบอกว่าเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวในบ้านหลายคน ทำเอาหลอนๆไม่กล้าลงไปตอนดึกๆเลยค่ะ คุณจิโปช่วยดูให้ได้ไหมคะว่าเป็นใคร
     
  13. sorakran2007

    sorakran2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +945
    คุณ จิิ-โป รู้จักปู่ฤาษีเกศแก้วไหมครับ ท่านมาสารคามวันนี้ ที่วังป่าวังน้ำเย็น ผมอยากทราบว่าท่านมีความสามารถด้านไหนบ้าง ประวัติท่านเป็นมายังไงครับ ผมหาในเน็ตแล้วไม่มีเลย.. พอดีเห็นคุณ จิ-โป เคยตอบไว้ในกระทู้หนึ่ง เลยน่าจะพอทราบประวัตินะครับ... ที่วัดป่าวังน้ำเย็นมีสังขารหลวงปู่ทองใส่อายุ 140 ปีด้วยนะครับ พึ่งจัดงานครบ 50 วัน วันนี้เอง...
     
  14. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ที่ศิลามณี เห็นนั้นเป็นมือพนมประกบกันธรรมดา..นะคะ เห็นมีแขนถึงแค่ขอศอกทั้งสองข้าง... ว่าแต่ว่า....พนมมือแบบรากบัวเป็นยังไงคะ ศิลามณี ไม่เคยเห็น หรือรู้จักมาก่อน... เคยเห็นแต่พนมมือแบบดอกบัว ตามที่พระวิปัสนาจารย์ท่านสอน ......

    ศิลามณี สงสัยเรื่องเดินจงกลม...จำเป็นไหมคะที่เราจะต้องเดินจงกลม แล้วถึงมาทำสมาธิ...พระอาจารย์ท่านสอนว่าให้เดินจงกลม กับเมื่อนั่งสมาธิให้ใช้เวลาเท่ากัน คือ ถ้าเดิน 15 นาที ก็ให้นั่งทำสมาธิ 15 นาที ด้วยเช่นกัน..นะคะ .....

    ไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ศิลามณี รู้สึกว่าใจชอบเดินจงกลม มากกว่าเมื่อก่อน เพราะเมื่อเดินแล้ว รู้สึกว่าสมาธินิ่งไม่วอกแวก....พอเดินเสร็จตามกำหนดแล้ว จึงมานั่งสมาธิต่อ รู้สึกว่าสมาธิยิ่งนิ่งขึ้นกว่าเก่า ไม่รู้สึกกระวนกระวาย ..และ นั่งได้นานกว่าเมื่อก่อน .... เวทนาที่เคยมีก็หายไป...ไม่มาให้เห็นเหมือนเมื่อวันสองวันแรกๆ.... นานๆถึงจะมาให้เห็น คะ..

    แต่จริงๆแล้ว ศิลามณี ก็แอบโกงเล็กน้อย ตอนนั่งสมาธิในห้องกรรมฐานนะคะ พอเวทนาเขาจะมาแวบๆ ศิลามณี ก็ลุกก่อนเวลาบ้าง.....
     
  15. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    ดวงๆที่ว่าถ้าเป็นนักเล่นกล้องเขาก็ว่าแฟร์ล่ะครับ เป็นแสงสะท้อน
    ทำมุมกับเลนส์อย่างเขาว่ากัน
    แต่ถ้าจะให้ดีต้องมีรูปมาให้ดูกันครับ ไม่ต้องรีบร้อน ใจเย็นๆว่างเมื่อไหร่
    ก็เอารูปมาลงดูเป็นขวัญตาหน่อย
    ส่วนในบ้านถ้าอยากรู้แน่ๆเอารูปบ้านบางส่วนก็ได้มาลงให้ดูหน่อย จะได้
    ไปถูก ไม่งั้นไม่รู้หลังไหนครับ
     
  16. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ท่านพระฤาษีเกศแก้ว อดีตนั้น อืมม เคยเห็นรูปเด็กอินเดียที่อยู่ข้างๆฝา
    วัดใหม บางวัดก็มี บางวัดไม่มี เป็นเด็กสองคนผิวสีเขียวและขาวนั่งเล่น
    คนโทหกวางข้างๆ พระฤาษีก็เป็นเด็กคนผิวสีดำคนนั้น ประวัติท่านยาวมาก
    คือท่านมาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆมาโผล่ที่หนองบัวลำภูแล้วมาสร้างกระท่อมก่อน
    แล้วตอนนี้เป็นอาศรมใหญ่มาก บารมีท่านมาก ในทางทิพย์ยิ่งสวยงามนัก

    แต่ก่อนท่านถ่ายรูปไม่ติดครับ ถ่ายมาแล้วว่างเปล่า เดี๋ยวนี้ไม่รู้ติดรึเปล่า
    ไม่ได้ไปหาท่านนานแล้วตั้งแต่ท่านเทศน์ ก.ไก่ถึง ต.เต่า นั่งฟังจนหูชา

    จะหวังของดีจากท่านยากครับ แม้กรรมฐานจากท่านก็ไม่ง่าย ท่านสอนแต่
    คนที่เป็นพี่น้องท่านมาจากอินเดีย(ร่างใน) ผมเคยคุยกับท่านทำนองว่าจะให้
    ท่านสอน ท่านก็หัวเราะแล้วบอกว่า "ใครพามาคนนั้นกับคนนี้ก็มีฤทธิ์เท่ากัน
    เป็นพี่น้องกัน" ผมเลยจะถามถึงพระนิพพาน ท่านก็ว่าที่ทำอยู่ดีแล้ว จะถาม
    อะไรอีก ผมเลยไม่รู้จะถามอะไร นั่งมองหน้ากันอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ไม่มีอะไร
    คุยเลย ท่านนั่งหลับตาพริ้มๆ ลืมตาดูเราเป็นพักๆ แล้วพูด อืมมๆ เหมือนคุย
    กับใครอยู่ เลยเข้าไปดูมั่งว่าท่านหลับตาคุยกับใคร เลยสนุกกันทั้งคณะ ท่าน
    เทศนาใหญ่เลยโทษฐานสอดรู้สอดเห็น ตั้งแต่ ก.ไก่ จนถึง ต.เต่า ว่าเต่ามัน
    หดหัวในกระดอง ไม่โผล่ออกมาดูใครนอกจากหาอาหาร(ว่าผมสอดรู้นั่นล่ะ)
    การดูของเต่าคือหาอาหารไม่เหมือนคน อยากรู้อยากดูไปหมด (กรรมเลย5+)

    จากวันนั้นมาหลายปี ไม่ได้ไปหาพระฤาษีเลย มีแต่สอดส่องไปดู อันเป็นนิสัย
    ที่ติดมาแต่ดั้งเดิม (สงสัยไม่เคยเกิดเป็นเต่าเหมือนท่านว่า)
    เอาเป็นว่า ถ้าได้ของดีจากท่านก็ยอดละครับ ทั้งของและธรรมะ.
     
  17. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    รบกวนคุณจิ-โป อีกรอบครับ
    ผมอยากจะถามว่า เมื่อสิงหา 52 ผมกับแฟนตัดสินใจเอาลูกออกก่อนกำหนด โดยอายุครรภ์ 5 เดือน
    หมอบอกว่าเด็กไม่แข็งแรง กระบังลมรั่วทำให้น้ำเข้าไปท่วมหัวใจและทำให้เต้นผิดปกติ หมอ
    แนะนำว่าให้เอาออก และตอนออกผมเดินไปดูลูกของผมและอธิฐานว่าถ้ามีโอกาสให้กลับมา
    เกิดเป็นลูกผมอีก และหัวหน้าที่ทำงานแฟนบอกว่า ดวงจิตเค้ายังอยู่กับเราและจะมาเกิดเป็นลูกเราอีก
    หรือถ้าอยากให้เค้าไปเกิดเลยให้ ถวายสังฆทาน 7 ครัั้ง ครั้งสุดท้ายให้ถวาย พระปรางห้ามญาติ
    ถ้าผมจำไม่ผิด แต่ผมก็ไม่ได้ทำ มีแต่ใส่บาตร ให้เค้า แต่ก็ไม่ค่อยบ่อย อยากจะถามคุณจิ-โปว่า

    ตอนนี้แฟนผมท้องอยากจะรู้ว่าดวงจิตของเค้าจะมาเกิดเป็นลูกผมอีกหรือเปล่า แล้วเค้ายังอยู่ใกล้ ๆ
    หรือเปล่า ถ้าดวงจิตเค้ามาไม่ได้ผมจะได้ถวายสังฆทาน ตามที่หัวหน้าแฟนบอก เพื่อที่เค้าจะ
    ได้ไปเกิดใหม่โดยที่ไม่ต้องรอ

    ขอบคุณครับ
     
  18. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    การพนมมือแบบรากบัวเป็นหนึ่งในใตรรัตน์ บอกไม่ได้ดูเอาเองไม่มีหน้าที่
    บอกหลักไตรรัตน์เดี๋ยวเขาว่า ถ้าเห็นในสมาธิจะรู้เองไม่ต้องบอก

    ส่วนเดินจงกลมพูดได้ อันนี้ท่านไม่ห้าม
    ท่านว่า"กรรมฐานกองใดเกิดจากจงกลมจะไม่เสื่อม" พระที่สอนท่านเลยเอา
    จุดนี้มาสอนเรา ให้จงกลมเท่ากันกันนั่งสมาธิ แต่ของหลวงปู่ท่านนั่งก่อนค่อย
    จงกลมเพื่อฝ้งสิ่งที่รู้ให้แน่นขึ้น เดินไปพิจารณาไปว่าเราเห็นอะไรในนิมิตแห่ง
    สมาธิ ก็จะเป็นการคิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้หลงทาง
    จะเดินก่อนนั่ง หรือนั่งก่อนเดินก็ไม่เป็นไรครับ ตามความสะดวก

    เดินบ้างก็ดีเพราะนั่งมากจะมีเท้าไม่งาม มีตุ่มขึ้น อ้อ สังเกตุตรงนี้ก็ได้นะ
    ขออภัยที่น่าเกลียดเอารูปเท้ามาลง ที่ลงก็เพื่อให้ดูว่า คนที่นั่งสมาธิมากอย่าง
    ผมนี่นั่งมา 30-31 ปี จะมีตุ่มประมาณนี้ ถ้าไปเห็นพระมาสอนกรรมฐานแล้ว
    ศิลามณีดูว่าเท้าซ้ายไม่มีตาตุ่มแบบผมขึ้นก็อย่าวางใจ เพราะข่าวช่อง 7 เมื่อ
    กี้บอกว่า เจ้าอาละวาสที่ลำปางชื่อพระอนิจจัง สำนักปฏิบัติธรรมใช้คนเข้าไป
    กวาดกุฏิแล้วกระทำอันไม่งามกับหญิงนั้น ตอนนี้กำลังหนีอยู่

    ที่จะบอกคือ ให้ดูว่าถ้าพระไม่มีตุ่มแบบผมแล้วบอกว่าสำเร็จ จะสอนนั่นนี่
    ให้ ก็อย่าวางใจให้อยู่ห่างๆพระนั้นใว้ หรืออย่าอยู่สองต่อสองแบบในทีวี
    ก็เหมือนเราดูคนล่ะ เขามาโกหกว่าขยันทำนาเก่ง แต่ตัวขาวยังกะหยวกกล้วยก็
    ต้องอย่าพึ่งเชื่อ เพราะอย่างผมนั่งจนตุ่มขึ้น หลังขดหลังแข็งทั้งอดทน และทน
    อดกับเวทนาอย่างมากยังไม่ได้อะไรเท่าไหร่เลย.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ตุ่ม.JPG
      ตุ่ม.JPG
      ขนาดไฟล์:
      841.5 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1010033.jpg
      P1010033.jpg
      ขนาดไฟล์:
      746.2 KB
      เปิดดู:
      38
  19. ladykiller

    ladykiller Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +55
    <DIR>ถามคุณจิ-โป อ่ะคะ ว่าฝันเห็นคนใส่ชุดขาวมาเข้าฝันแล้วเหมือนกับว่าเค้ามาพูดว่า พร้อมรึยัง ขณะที่ในฝันตอนนั้น เหมือนกำลังเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ พอเราไม่ตอบ เค้าก็มาหลายครั้งเลย แล้วก็พูดว่า พร้อมยัง เหมือนกับจะชวนเราไปทำอะไรไม่รู้ แต่ที่เห็นเค้ามานุ่งขาว ห่มขาว นั่งสมาธิหลับตา แล้วมีมุ้งเหมือนปักกด อ่ะค่ะ แล้วก็มีดอกบัว มีแสง เหมือนสีทองๆ ระยิบระยับ ไปหมดเลย เท่าที่จำได้ ฝันน่าจะประมาณ ตี 3- ตี4 อยากจะถามคุณ จิ-โป ว่าหมายความว่าอะไรคะ
    </DIR>
     
  20. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ผมเองไม่รู้ครับ เพราะการรู้ของผมคือต้อง"เห็น" ในบางส่วนเช่น สถานที่
    หรือหน้าตาคนๆนั้น ส่วนมากที่ตอบๆอยู่นี่คือถามเขาเอา เพราะส่วนมากในเวป
    นี้เราไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัวนะครับ อย่าวางใจในคำตอบผมมาก

    เขาว่า คนเรานั้นจะเกิดมาได้ยากมาก เหมือนเต่ากลางทะเลผุดขึ้นมาหายใจ
    แล้วโผล่หัวเข้าห่วงเล็กๆได้พอดี โอกาศแบบนี้ยากยิ่งนัก อีกทั้งคนเราบางคน
    มีบุญได้เกิดมาสามวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง หรืออยู่ในครรภ์หนึ่งเดือนบ้าง หลาย
    เดือนบ้าง ต้องตายในครรภ์ทั้งแบบเอาออกมา(แทงค์)หรือออกมาเองตาม
    ธรรมชาติ(หลุด) เหล่านี้เรียก "กรรม"

    กรรมแบบนี้ก็ของเด็กก็ต้องมาเกิดกับพ่อแม่ที่มีกรรมพรากของรักเช่นกัน
    ต่างคนต่างมีกรรมมาคนละแบบ เมื่อเด็กตายไป พ่อแม่ที่มีกรรมพรากของรักก็
    ย่อมมีจิตยึดหน่วงเด็กที่มีกรรมไม่ให้ไปเกิดใหม่ จากการณ์นี้ การส่งเด็กไป
    เกิดนั้น ย่อมต้องการทั้งบุญของเด็กเอง และกุศลของพ่อแม่ที่ส่งเด็กไป
    เขาถึงให้ถวายอย่างใหญ่ จนสุดท้ายถวายพระเพื่อให้กุศลของพระส่งเด็กไป

    ตานี้เมื่อยังไม่ถวาย แต่อยากให้เด็กมาเกิดย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะการเกิด
    นั้นนับจากปฎิสนธิแล้ว ถ้ายังส่งเด็กไปเกิดไม่ได้ จนลูกคลอดออกมานั้น
    อันตรายจากผีเด็กย่อมตามมาเพราะความหีงหวงพ่อแม่

    เท่าที่ฟังเขาเล่าแบบอ้อมโลกเหมือนเทวดาทั่วไปจนพิมพ์ไม่ทันก็จับใจความ
    ได้ว่า ลูกไม่ใช่เด็กคนนั้นมาเกิด และจะไปเกิดใหม่ไม่ได้เลยจนกว่าจะได้กุศล
    จากพ่อแม่ก่อน หรือมีพระเก่งๆที่ส่งได้(หายาก)
    เมื่อเรารับรู้กรรมเข้าใจในกรรมจะเกิดการปลง เมื่อปลงแล้วจะขาดจากสัญญา
    เมื่อขาดจากสัญญาแล้วส่งกุศลให้เขาไปดี เขาก็จะไปได้ ใจเรานั้นต้องตัดให้
    ขาดจากสัญญาให้ได้ พยายามมองให้เห็นกรรมเกี่ยวเนื่องจากมุมมองทั้งของ
    เด็ก และของเราเพื่อปลงครับ

    บอกตรงๆผมมองไม่เห็นอะไรเลย ฟังเขาว่ามาทั้งนั้นไม่แน่ที่ผมมองไม่เห็น
    อาจจะเกิดจากท่านไปเอ่ยปากฝากลูกคนนี้ใว้กับใครรึเปล่า ผมเลยไม่เห็นแต่
    "เขา"เห็น เรื่องแบบนี้พูดยาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...