แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. Warra

    Warra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +469
    ศีล ๕ ตามความเห็นของผมคือการละเว้นกิเลส ทั้ง ๓ กองซึ่งปฏิบัติได้ในชีวิตปกติประจำวัน
    คนทั่วไปก็เจริญศีลนี้ได้โดยมิต้องทำความเข้าใจในความหมายของ โทสะ ราคะ โมหะ ลึกซึ้งนัก
    แต่หากเริ่มปฏิบัติได้ก็นับได้ว่าก้าวเข้าสู่มรรคที่พระศาสดาทรงชี้ทางและเสด็จนำไปแล้ว ผู้ที่เว้นขาดจากการละเมิดศีล ๕ แม้ต้องสละชีวิต เป็นคุณสมบัติของพระโสดาบันซึ่งเที่ยงแท้แน่นอนที่จะบรรลุการหลุดพ้นการเวียนว่าย
    ข้อ ๑ ปาณาฯ คือการละเว้นโทสะ ประทุษร้ายทำลายสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดให้มี ให้เหลือแต่สิ่งที่ชอบใจ อยากให้มี อยากให้เกิด
    ข้อ ๒ อทินนาทานาฯ และ ข้อ ๓ กาเมสุมิจฉาฯ คือ การละเว้นการการปฏิบัติเพื่อที่จะได้
    มาซึ่ง ราคะ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากให้เกิด ให้มี โดยทางที่มิชอบ
    ข้อ ๔ มุสาวาทา ฯ คือละเว้นการพูดมิชอบต่างๆพื่อปกป้องตัวเรา สิ่งที่รัก ที่ชอบที่ อยากให้มี ให้คงอยู่กับเรานานๆเพราะเกิด โมหะ คือการเห็นผิดจากความเป็นจริง ว่าสิ่งต่างๆเที่ยงเป็นสุข และ มีตัวตน มีตัวเรา ของเรา
    ข้อ ๕ สุราเมรยะมัชชะปมาทัฐถานาฯ คือการละเว้นการเสพสิ่งที่จะบั่นทอนสัมมาสติ
    (อันที่จริงหาก ๔ ข้อข้างต้นไม่สามารถละเว้นได้เลย ก็ควรได้ชื่อว่าเป็นผู้เมาแล้วแม้ไม่ได้
    เสพสุรา) หากเราไม่มีสัมมาสติที่จะรักษาธรรมอันดีที่เราเจริญแล้วให้ยิ่งๆขึ้นไป นิวรณ์หรือ
    เครื่องกั้นก็จะเกิดขึ้น ธรรมอันดีเหล่านั้นก็จะเสื่อมไปจากเราไปเป็นแน่แท้ไม่ช้าหรือเร็ว หรืออย่างน้อยเราก็จะอยู่กับที่
    จริงๆแล้วศีล ๕ คือธรรมที่เกื้อกูลกันเหนี่ยวนำกันเมื่อปฏิบัติได้ข้อหนึ่งข้ออื่นๆก็จะตามมา
    ในทางเดียวกันหากไม่ปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งแล้วก็ยากที่จะรักษาข้ออื่นๆไว้ได้ ดังนั้นในความเห็นของผมจะเรียงข้ออย่างไรก็ได้ หน้าไปหลังหลังมาหน้า หรือเริ่มจากตรงกลางก็เช่นเดียวกัน
    ศีล ๕ แต่ละข้อนั้นสามารถป้องกันเราจากกิเลสได้ทั้งสามอย่าง แต่ผมเลือกแต่ที่คิดว่าป้องกันได้เด่นๆในแต่ละข้อและเพื่อให้เห็นความเชื่อมโยง คนเราควรถือศีลห้าให้ได้ทุกข้อ
    ตามกำลังใจของเรา เหมือนกับพระเครื่องที่มีพุทธคุณในทุกด้านแต่ก็จะเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง เราพยายามหามาบูชาให้ครบทุกด้านเพื่อเสริมและเกื้อหนุนกัน ตามที่คุณหนุ่มเมืองแกลงเพียรพยายามแนะนำช่วยเหลือเรามา
    ศีลห้าก็เช่นกัน เริ่มได้จากใจเรา เริ่มได้เดี๋ยวนี้ตอนนี้ ไม่ต้องหาจากไหน มีอยู่ครบในใจเรา
    อยู่แล้ว ป้องกันกิเลสเบื้องต่ำได้ทุกด้าน อยู่เฉยๆตอนนี้เราก็มีศีลครบแล้ว ขึ้นอยู่ว่าเราอย่าไปละเมิดอีก
    กำลังใจผมยังไม่เยอะ ยังไม่พร้อมแม้กระทั่งแค่เจ็บตัวเพื่อรักษาศีล ทนได้แค่ยุงกัดมากกว่านั้นคงไม่ยอม ยังดู ดีวีดี แผ่นผีที่ว่ากันว่าขโมยทรัพย์ทางปัญญา ยังสนใจหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาแต่ก็แค่คิดแวบๆแล้วก็เอาธรรมะเข้าข่ม ยังไม่ได้พูดความจริงที่เป็น
    ความเลวในอดีตทั้งหมด แต่ก็ตั้งใจว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่สุราเป็นข้อที่มั่นใจมาก ถ้าไม่
    เอากันถึงตายไม่ได้แตะลิ้นผมแน่นอน
    กำลังใจผมเท่านี้ผมก็มีความสุขสงบกว่าแต่ก่อนมากๆๆๆแล้วครับ
    ศีล คือสิ่งที่หอมที่สุดในสามโลก ที่มนุษย์ธรรมดาก็มีได้
    สุดท้ายนี้หากสิ่งที่เขียนนี้ผิดเพี้ยนไปจากธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าอันกล่าวไว้ดีแล้ว
    ข้าพเจ้าขอขมาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และท่านผู้อ่านมายัง ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  2. Warra

    Warra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +469
    ศีล ๕ ตามความเห็นของผมคือการละเว้นกิเลส ทั้ง ๓ กองซึ่งปฏิบัติได้ในชีวิตปกติประจำวัน
    คนทั่วไปก็เจริญศีลนี้ได้โดยมิต้องทำความเข้าใจในความหมายของ โทสะ ราคะ โมหะ ลึกซึ้งนัก
    แต่หากเริ่มปฏิบัติได้ก็นับได้ว่าก้าวเข้าสู่มรรคที่พระศาสดาทรงชี้ทางและเสด็จนำไปแล้ว ผู้ที่เว้นขาดจากการละเมิดศีล ๕ แม้ต้องสละชีวิต เป็นคุณสมบัติของพระโสดาบันซึ่งเที่ยงแท้แน่นอนที่จะบรรลุการหลุดพ้นการเวียนว่าย
    ข้อ ๑ ปาณาฯ คือการละเว้นโทสะ ประทุษร้ายทำลายสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดให้มี ให้เหลือแต่สิ่งที่ชอบใจ อยากให้มี อยากให้เกิด
    ข้อ ๒ อทินนาทานาฯ และ ข้อ ๓ กาเมสุมิจฉาฯ คือ การละเว้นการการปฏิบัติเพื่อที่จะได้
    มาซึ่ง ราคะ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากให้เกิด ให้มี โดยทางที่มิชอบ
    ข้อ ๔ มุสาวาทา ฯ คือละเว้นการพูดมิชอบต่างๆพื่อปกป้องตัวเรา สิ่งที่รัก ที่ชอบที่ อยากให้มี ให้คงอยู่กับเรานานๆเพราะเกิด โมหะ คือการเห็นผิดจากความเป็นจริง ว่าสิ่งต่างๆเที่ยงเป็นสุข และ มีตัวตน มีตัวเรา ของเรา
    ข้อ ๕ สุราเมรยะมัชชะปมาทัฐถานาฯ คือการละเว้นการเสพสิ่งที่จะบั่นทอนสัมมาสติ
    (อันที่จริงหาก ๔ ข้อข้างต้นไม่สามารถละเว้นได้เลย ก็ควรได้ชื่อว่าเป็นผู้เมาแล้วแม้ไม่ได้
    เสพสุรา) หากเราไม่มีสัมมาสติที่จะรักษาธรรมอันดีที่เราเจริญแล้วให้ยิ่งๆขึ้นไป นิวรณ์หรือ
    เครื่องกั้นก็จะเกิดขึ้น ธรรมอันดีเหล่านั้นก็จะเสื่อมไปจากเราไปเป็นแน่แท้ไม่ช้าหรือเร็ว หรืออย่างน้อยเราก็จะอยู่กับที่
    จริงๆแล้วศีล ๕ คือธรรมที่เกื้อกูลกันเหนี่ยวนำกันเมื่อปฏิบัติได้ข้อหนึ่งข้ออื่นๆก็จะตามมา
    ในทางเดียวกันหากไม่ปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งแล้วก็ยากที่จะรักษาข้ออื่นๆไว้ได้ ดังนั้นในความเห็นของผมจะเรียงข้ออย่างไรก็ได้ หน้าไปหลังหลังมาหน้า หรือเริ่มจากตรงกลางก็เช่นเดียวกัน
    ศีล ๕ แต่ละข้อนั้นสามารถป้องกันเราจากกิเลสได้ทั้งสามอย่าง แต่ผมเลือกแต่ที่คิดว่าป้องกันได้เด่นๆในแต่ละข้อและเพื่อให้เห็นความเชื่อมโยง คนเราควรถือศีลห้าให้ได้ทุกข้อ
    ตามกำลังใจของเรา เหมือนกับพระเครื่องที่มีพุทธคุณในทุกด้านแต่ก็จะเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง เราพยายามหามาบูชาให้ครบทุกด้านเพื่อเสริมและเกื้อหนุนกัน ตามที่คุณหนุ่มเมืองแกลงเพียรพยายามแนะนำช่วยเหลือเรามา
    ศีลห้าก็เช่นกัน เริ่มได้จากใจเรา เริ่มได้เดี๋ยวนี้ตอนนี้ ไม่ต้องหาจากไหน มีอยู่ครบในใจเรา
    อยู่แล้ว ป้องกันกิเลสเบื้องต่ำได้ทุกด้าน อยู่เฉยๆตอนนี้เราก็มีศีลครบแล้ว ขึ้นอยู่ว่าเราอย่าไปละเมิดอีก
    กำลังใจผมยังไม่เยอะ ยังไม่พร้อมแม้กระทั่งแค่เจ็บตัวเพื่อรักษาศีล ทนได้แค่ยุงกัดมากกว่านั้นคงไม่ยอม ยังดู ดีวีดี แผ่นผีที่ว่ากันว่าขโมยทรัพย์ทางปัญญา ยังสนใจหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาแต่ก็แค่คิดแวบๆแล้วก็เอาธรรมะเข้าข่ม ยังไม่ได้พูดความจริงที่เป็น
    ความเลวในอดีตทั้งหมด แต่ก็ตั้งใจว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่สุราเป็นข้อที่มั่นใจมาก ถ้าไม่
    เอากันถึงตายไม่ได้แตะลิ้นผมแน่นอน
    กำลังใจผมเท่านี้ผมก็มีความสุขสงบกว่าแต่ก่อนมากๆๆๆแล้วครับ
    ศีล คือสิ่งที่หอมที่สุดในสามโลก ที่มนุษย์ธรรมดาก็มีได้
    สุดท้ายนี้หากสิ่งที่เขียนนี้ผิดเพี้ยนไปจากธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าอันกล่าวไว้ดีแล้ว
    ข้าพเจ้าขอขมาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และท่านผู้อ่านมายัง ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  3. APIRAT

    APIRAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +3,220
    โมทนาสาธุด้วยครับ เวลาสวดมนต์ก็เพ่งรูปหลวงพ่อ อยากให้ท่านหายป่วยกลับมาเทศน์ แบบเผ็ดๆร้อนๆอีก ครับ
     
  4. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,787
    ขอบคุณครับ จะได้สวดตามลิงค์ครับ
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    มีพลังจักรวาลที่เราดึงมาใช้ได้อีกแบบหนึ่ง ลองไปทำดูนะครับ เป็นจุดรวมพลังพิเศษ ที่มีพลังงานสูงและได้รับการยอมรับจากสถาบันค้นคว้านานาชาติ

    - ให้สร้างปิรามิดรูปเหลี่ยม สี่ด้าน ขนาดความยาวของฐานเท่ากันทุกด้าน ด้านลาดเอียงทำมุมกับฐาน 51องศา เท่ากันทุกมุม โดยใช้หินก้อนเดียวเท่านั้นมากลึงหรือแกะ จะสร้างขนาดเล็กหรือใหญ่ก็มีผลเช่นกัน

    - ใช้แผ่นเงินบริสุทธิ์วางใต้ปิรามิด และนำปิรามิดนั้น มาวางกลางห้องโถงหรือในจุดที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้สะดวก หากสามารถเอาไปวางไว้ใต้หลังคาบ้านได้จะดีมาก

    - พลังจักรวาลที่ไม่สิ้นสุดและมีมากสุดประมาณ สามารถสื่อผ่านจากปิรามิดมายังบ้านหรือสถานที่ตั้งปิรามิดได้ง่ายและมากไปด้วยประโยชน์สุดคาดคะเนได้
     
  6. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    จริง ๆ ผมว่าจะลงหลายวันแล้ว แต่คิดว่ามีหลายท่านที่มีความรู้มากกว่าผม แต่ ถือว่าเป็นการทบทวนบทเรียนสำหรับผมละกันนะครัย เผื่อมีใครนำไปใช้

    เรื่องการเพิ่มบุญบารมีในการทำสมาธิและสวดมนต์

    การเพิ่มบุญบารมีจากการสวดมนต์ ผมยกตัวอย่างบทพาหุง นะครับ เมื่อเราสวดขอให้สวดอย่างมีสติตั้งมั่น เมื่อสวดจบ 1 จบ ก็ให้อธิฐาน ขอบุญกุศลการสวดคาถาพาหุงนี้ให้แก่ ธาตุ 4 ขันธ์ 5 กายทิพย์ ดวงจิต ดวงวิญญาณของข้าพเจ้า และแผ่ให้แก่เทพเทวดาที่ดูแลรักษาข้าพเจ้า เป็นต้น จบต่อไปก็อธิฐานให้แก่เจ้ากรรมนายเวร จบต่อไปก็อธิฐานให้แก่ เทวดาประจำตัว จบต่อไปก็อธิฐานให้แก่เทวดาประจำตัว พ่อ แม่ ลูก ภรรยา เจ้านาย หรืออื่น ๆ ตามสะดวก

    อีกวิธี หาเราต้องการสวดมนต์หลายจบ (อยากให้เลือกบทที่ชอบสวดแล้วเย็นกาย -เย็นใจ) สวดหลายจบ 3 จบ 5 จบ 7 จบ 9 จบ ก็ตามแต่ เมื่อสวดจบแล้วก็อธิฐานถวายบุญกุศลนี้บูชาแก่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดแบ่งบุญนี้ออกเป็น 2 กอง (หรือ 3 กอง) ตามสะดวก ขอแผ่บุญ อุทิศบุญนี้ให้แก่ ธาตุ 4 ขันธ์ 5 กายทิพย์ ดวงจิต ดวงวิญญาณของข้าพเจ้า และแผ่ให้แก่เทพเทวดาที่ดูแลรักษาข้าพเจ้า เป็นต้น ต่อไปก็อธิฐานให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ต่อไปก็อธิฐานให้แก่ เทวดาประจำตัว ต่อไปก็อธิฐานให้แก่เทวดาประจำตัว พ่อ แม่ ลูก ภรรยา เจ้านาย หรืออื่น ๆ ตามสะดวก

    การถวายบุญต่อพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ จะช่วยเพิ่มกำลังบุญที่เราทำให้มากขึ้นทวีคุณ หรือยิ่งกว่าทวีคูณครับ อันนี้ก็แล้วแต่จะพิจารณานะครับ

    และหากเป็นการนั่งสมาธิ ก็ประยุกต์ ตามวิธีที่ 2

    แต่หากเป็นการเดินจงกลม แบ่งช่วงเวลาการเดินทุก ๆ 5 นาทีเป็นอย่างน้อยแ้ล้วอธิฐานได้ทั้ง 2 แบบ แต่ใช้แบบถวายบุญกุศลแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะได้กำลังบุญมากกว่า

    สามารถแผ่บุญ อุทิศบุญ ในลักษณะนี้ต่อครูบาอาจารย์ทั้งหลาย และเทวดาที่ดูแลรักษาองค์พระได้ด้วยนะครับ เพราะผมได้วัตถุมงคลมาจากวิธีการเดินจงกลมอธิฐานนี้ หลายอย่าง

    เป็นเคล็ด ที่ได้รับการบอกกล่าวมาจาก อาจารย์ที่นับถือครับ เพราะชีวิตผมถ้าไม่ได้วิธีเหล่านี้ก็แย่กว่านี้ไปแล้ว เผื่อใครจะนำไปใช้ให้เกิดผล

    กลัวว่ากระทู้จะหายอยากบอกสิ่งดี ๆ แก่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ไว้ เผื่อเป็นประโยชน์ ครับ


    ขอให้ได้รับผลดีนะครับ ผมบอกแค่ที่รู้ในนี้มีคนรู้มากกว่ผมเยอะมาก
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ขอบคุณในจิตใจที่เป็นกุศลมากครับ
    ใครเลยจะนึกว่า ในโลกจอมปลอมแบบนี้ จะยังมีน้ำใจและรอยยิ้มที่จริงใจต่อกันได้ขนาดนี้ ขอให้พบแต่ความสุขตลอดไปนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  8. namo_2009

    namo_2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,432
    ค่าพลัง:
    +10,228
    พี่หนุ่มครับ ปี 2012 พี่ว่าจะเกิดตามคำทำนายมั้ยครับพี่ ตอนนี้ธรรมชาติเรา ก็กำลังเอาคืนอยู่แล้วอะครับ
     
  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    เป็นบทวิเคราะห์ที่ดีมากครับ
    บทแรกของคนที่จะพบความสงบคือ ศีล
    คนเราทุกคนต้องการที่สุดแบบง่ายๆคือ สุขกาย สบายใจ
    และต่อมาเราทุกคนก็หวังจะได้ ความสงบ
    เมื่อได้ครบทั้งสามอย่างแล้วต่อไปคืออยาก พ้นทุกข์
    และที่สุดของคนที่ได้ปฏิบัติคือ ต้องการ นิพพาน
     
  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    เกิดแน่ครับ แต่ไม่ร้ายแรงมากเท่าในหนัง แต่เกิดแน่นอน ขณะนี้ก็เริ่มเกิดแล้ว แต่หน่วยงานที่ตรวจวิเคราะห์เขาไม่เปิดเผยให้ทราบ ในการประชุม G20 ที่แคนาคาปลายเดือนที่แล้ว ก็มีวาระเรื่องนี้ เพราะหากเรื่องกระจายออกไป บางคนไม่เข้าใจ ก็จะขยายจนทำให้เสียเศรษฐกิจของโลก ความทุกยากลำบากจะเกิดกับเราแบบไม่สามารถปฏิเสธได้
     
  11. chanayut

    chanayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    384
    ค่าพลัง:
    +1,672
    พลังจักรวาล และความมหัศจรรย์ของปิรามิดเป็นอีกเรื่องที่ผมสนใจและติดตามจากนิตยสารรายเดือนฉบับหนึ่ง น่าทึ่งมากครับ เล้นลับซับซ้อน ผมสร้างปิรามิดเองหล่อจากปูนปลาสเตอร์ตรงกลางข้างในปิรามิดผมบรรจุอุลกะมณี อยากพิสูจน์พลังงานบางอย่างครับ ขนาดฐานประมาณ 15 ซ.ม. ทำไว้วางบนมือตอนนั่งสมาธิครับ พี่หนุ่มมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมไหมครับ กำลังศึกษาอยู่ครับ
     
  12. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    ขอบคุณในเจตนาและความเชื่อถือที่มีให้ครับ
    ผมก็ยังวนเวียนอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตนี่แหละครับ
    บางครั้งพวกเราก็อาจจะมีโอกาสได้พบกันครับ ผมก็เข้าไปแค่สามที่ มีของ uamulet.com เวปวัดโฆสิตาราม ลป.กวย และพลังจิตแค่นี้ที่เป็นสมาชิก
     
  13. pei

    pei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    779
    ค่าพลัง:
    +2,855
    ขออนุโมทนา เป็นบุญแล้วจริงๆ
     
  14. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  15. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    ผมขอตัวพักผ่อนก่อนครับ พี่หนุ่มเมืองแกลง และ ญาติธรรม ทุกๆท่าน ราตรีสวัสดิ์ ครับ
     
  16. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,787
    พี่หนุ่มครับ ราตรีสวัสดิ์ ทุกๆท่านครับ ราตรีสวัสดิ์ นอนหลับฝันดีทุกคนครับ
     
  17. APIRAT

    APIRAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +3,220
    ฝากไว้ก่อนนอนคืนนี้ เป็นบทพิจารณาสังขารของคนอีสาน เขาผูกเป็นกลอนไว้น่าคิด เปรียบคนแต่ละช่วงอายุ ในวงเล็บผมแปลเองเพื่อให้เข้าใจความหมายครับ เริ่มเลย
    10 ปี อาบน้ำบ่หนาว (ตอนเด็กเล่นน้ำ อาบฝนก็ไม่มีหนาว)
    20 ปี กอดสาวบ่เบื่อ (อันนี้ไม่ต้องแปล รู้กัน)
    30 ปี ตื่นเมือก่อนไก่ (เริ่มสร้างฐานะครอบครัว ต้องตื่นก่อนไก่ขัน)
    40 ปี มือไขว้หน้าผากคะนึง (มาครึ่งทางเริ่มคิดเรื่องฐานะ
    ครอบครัว คิดทุกอย่าง ปัญหามากมาย)
    50 ปี ไปบ่ถึงทอดหุ่ย (เรี่ยวแรงเริ่มถอยจากเคยลุยก็เริ่มล้า)
    60 ปี เป่าขลุ่ยบ่ดัง (เรี่ยวแรงไม่ไหว แม้เป่าขล่ยก็ไม่ดังซะแล้ว)
    70 ปี เนื้อหนังเป็นลูกรวก(เนื้อหนังมังสาเหี่ยวย่นชราดูไม่ได้)
    80 ปี หนักหนวกที่หู (หูตึง หูแช ใครถามอะไรก็ได้ไม่ได้ยินได้ร้อง
    แต่ร้อง หา..หา...ไม่รู้หาอะไร)
    90 ปี ลูกหลานดูนั่งให้ (ไปไหนไม่ได้ เห็นหน้าลูกหลานก็ดีใจนั่ง
    น้ำตาไหล)
    100 ปี ไข้กะตาย บ่ไข้กะตาย (อันนี้ไม่ต้องแปล เพราะส่วนให่อยู่
    ไม่ถึง สุดท้ายตาย คั่กๆ)
    ฝากกันไว้ลองคิดดูว่า จริงไม๊ คำโบราณพูดอะไรไว้มักไม่ผิดครับ เป็นบทพิจารณาสังขารและความจริงของชีวิตง่ายๆ
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,872
    สร้างจากวัตถุธรรมชาติ จะได้รับพลังงานมากที่สุดและสัมผัสได้ด้วยกายเราเอง
    เมื่อจะทำสมาธิ หากเป็นปิรามิดขนาดเล็ก ลองเอามาวางไว้บนมือ แล้วเอาพระเครื่องมาวางแนบปิรามิด อะไรที่อยากสัมผัส จะทราบได้เองครับ เร็วและชัดเจนมาก เป็นการรวมพลังจากจักรวาลผ่านมายังวัตถุมงคลเพื่อสื่ออำนาจให้เกิดเร็วขึ้น ผมลองมาปีกว่าแล้ว ชัดเจนมากสำหรับพลังงานในพระเครื่องและพลังงานอื่นๆที่มาพร้อมกัน ฝรั่งเขาใช้วิธีนี้เช่นกันครับ
     
  19. Jirang

    Jirang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,252
    ตอบเรื่องศีลคุณมะบอมครับ

    สำหรับตัวผม ผมไม่ได้ตีความขนาดว่า แค่คิดหรือวางแผนก็ผิดศีลข้อนั้นๆครับ เช่นถ้าผมคิดฆ่าใคร แต่ผมไม่ได้ฆ่า ผมตีความว่าศีลข้อนั้นผมยังไม่ขาด แต่จิตใจผมเศร้าหมอง
    ผมมองศีลเป็น 2 ลักษณะ 1 คือเป็นตัวเช็คสติ 2 คือเป็นตัวที่ทำให้ชีวิตสงบสุข สังคมสงบสุข
    ผมไม่มีความรู้เรื่องการเรียงศีลแต่ละข้อ แต่ผมโยงเรื่องศีลกับกิเลศ 3 ตัวครับ คือ โลภะ โทสะ โมหะ
    ข้อ 1 โทสะ ข้อ 2,3 โลภะ ข้อ 4,5 โมหะ
    ศีลทุกข้อสามารถขาดได้ง่ายๆถ้าไม่มีสติกำกับ เช่นตบยุงด้วยความพลั้งเผลอ เพราะเป็นความเคยชิน กัดปุ๊บ โกรธปุ๊บ ตบปุ๊บ
    ข้อ 5 นี่สัมพันธ์โดยตรงกับสติ ทำให้ข้ออื่นขาดง่ายขึ้นไปอีก
    ผมมาเห็นว่าศีลทุกข้อเป็นตัวเช็คสติตอนผมถือศีล 8 ครับ จะพบเลยว่าตัวเองเผลอบ่อยมาก มากกว่าศีล 5 เยอะ แต่ในชีวิตจริงของผมในบางครั้งผมเองก็ตัดสินใจทำผิดศีลโดยมีสติครับ คิดดีแล้ว และยอมรับผลกรรมที่จะเกิดขึ้น
    ดูแล้วตอนนี้ผมมั่นใจศีลตัวเองหลักๆแค่ 2 ข้อคือ 1, 4 ข้ออื่นๆประคองไม่ให้ขาดกระจุย เอาแค่ด่างพร้อยพอครับ ปัจจุบันผมพยายามถือพรหมวิหาร 4 ได้ศีล 5 เป็นผลพลอยได้ครับ
     
  20. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    เกือบลืมร่วมแสดงความคิดเลยครับ ตามความคิดผม ที่ข้อ๑.ปาณาติปาตาฯ เป็นข้อแรกเพราะเป็นบาปหนักที่สุดในห้าข้อจากการเรียงลำดับของศีล ๕ ในทางกลับกัน หากคิดว่าละเมิดศีลข้อ ๕.คือการดื่มสุรา ซึ่งเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย คิดว่าโทษน้อยที่สุด แต่หากดื่มเข้าไปแล้วย่อมขาดสติและจะนำพาไปสู่การละเมิดข้ออื่นได้ทั้งหมด จากคนที่ไม่โกหก ก็สามารถโกหกได้สบาย สามารถประพฤติผิดในกาม เมาแล้วข่มขืนก็เห็นอยู่บ่อยๆ รวมถึงสามารถลักทรัพย์ และทำร้ายผู้อื่นแม้กระทั่งพ่อแม่ ลูกเมียตัวเองก็ยังทำร้ายได้อีกด้วย ดังนั้นหากเริ่มต้นด้วยการผิดศีลข้อ ๕ แล้วอาจมีผลให้ทำผิดข้ออื่นร่วมด้วย จึงได้รับผลที่หนักกว่าการผิดศีลข้อ๑ถึง๔ข้อใดข้อหนึ่งเสียอีก ก็ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ คุณมะบอม...
     

แชร์หน้านี้

Loading...