แก้วมณีโชติ สิ่งวิเศษสูงสุดในโลกิยภูมิ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jets-one, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ห้องพระลุงมหา


    ขออนุญาตครับ

    ขอนำภาพห้องพระลุงมหา มาให้ดูอีกที

    องค์ประธานสงฆ์ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" สร้างที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
    องค์รองประธานสงฆ์ซ้าย "หลวงปู่ฝั้น อาจาโร" สร้างที่วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    องค์รองประธานสงฆ์ขวา "หลวงปู่แหวน สุจินโณ" ไม่ทราบวัดที่สร้าง

    องค์ประธานล่าง 4 องค์ หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน รุ่น ๑ หน้าตัก ๗ นิ้ว
    สร้างที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    องค์รองประธานล่าง ๑๐ องค์ หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน รุ่น ๑ หน้าตัก ๕ นิ้ว สร้างที่วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    องค์รองประธานล่าง ๑๐ องค์ หลวงปู่หลวงปู่ลี กุสลธโร รุ่น ๑ สร้างที่วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    ส่วนพระที่ศิษย์สายวัดป่าบ้านตาดของจริงต้องมีคือ รูปหล่อเนื้อทองคำ น้ำหนัก ๑ บาทกว่า องค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน รุ่น ๑ จำนวน ๖ องค์
    ต้องขออภัย เก็บเข้าตู้เซฟหมดแล้ว ครูบาอาจารย์ท่านห้ามโชว์

    ส่วนพระองค์เล็กองค์น้อยที่ สร้างที่วัดป่าบ้านตาดเป็นจำนวนมาก
    ถ้าจำเป็นจะลงโชว์ให้

    ใครที่พากันเข้าใจว่า วัดป่าบ้านตาด ไม่เคยสร้างพระ ขอให้ถามสายตรงเขา
    ที่องค์ท่านเทศสอนพระ อย่าได้เอามาปนกับเทศสอนโยม
    เพราะพระกับโยม ย่อมจะไม่เหมือนกัน

    ศิษย์ธรรมยุติของจริง ย่อมช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
    ศิษย์ธรรมยุติของจริง ย่อมช่วยเหลือผู้อื่นให้เข้าถึงซึ่ง ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    ศิษย์ธรรมยุติของจริง ย่อมไม่ไปสร้างความรำคาญใจให้ใคร

    ส่วนพระที่แจก ในวันฌาปนกิจองค์หลวงตานั้น ครูบาอาจารย์จากประจวบคีรีขันธ์
    ท่านได้เมตตามอบให้ลุงมหา ที่ได้มีโอกาสนำพาท่านจากวัดป่าบ้านตาดไปส่งที่สถานีขนส่ง จ.อุดรธานี

    เป็นองค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ปางเดินบาตร เพื่อเป็นอุบายว่า พระดีๆไม่ต้องกลัวอด ให้มีความอุดมสมบูรณ์

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ท่านลุงมหา๑

    แล้วถ้ากรรมทำอะไรไม่ได้ ทำให้ทุกข์ไม่ได้ ให้เจ็บป่วยไม่ได้ เสียงานเสียการก็ไม่ได้
    ทำให้เสียทรัพย์สินเงินทอง ก็ไม่ทุกข์ร้อน เพราะโยนโลกธรรมทั้งแปดทั้งไปแล้ว
    ทำให้โชคร้ายไม่ได้ อุบัติเหตุก็ได้แค่แปะพลาสเตอร์ และทำให้หงุดหงิดเล็กน้อยได้ในระยะสั้นๆ
    นานๆ ไปกรรมพวกนั้นจะเบื่อไม๊ครับ แบบทำอะไรก็ไม่ได้ จนเซ็ง แล้วเลิกไปเองน่ะครับ

    เมื่อเข้าถึงอำนาจของอิทัปปัจยตาแล้ว ก็เข้าใจได้ลึกซึ้งถึงกฏของทุกเหตุและทุกปัจจัย ที่เกิดขึ้น
    เมื่อเข้าถึงกระแสแห่งเหตุปัจจัยได้แล้ว ก็ย่อมมองเห็น และหรือปรับแต่งแก้ไข ได้ตามใจชอบ ใช่ไม๊ครับ

    เมื่อสติสมบูรณ์ ลูกพี่เราเคยบอกว่าอุบัติเหตุก็เกิดได้ยาก ทำให้ประตูแห่งกรรมปิดไปอีกบานนึง
    เมื่อสัมปชัญญะสมบูรณ์ รู้สึกตัวทั่วพร้อมอยู่อย่างสม่ำเสมอ กิเลสและตัณหา อันกรรมพามา ก็ไร้พิษสง
    เมื่อปัญญาสมบูรณ์ ก็สามารถมองเห็นกระแสแห่งเหตุปัจจัยได้ทั้งสิ้น ตลอดสาย อะไรก็ไม่ใช่ปัญหา
    และเมื่อสมาธิก็สมบูรณ์ด้วย ทำให้มีกำลังแห่งจิตมากมาย และต่อเนื่องยาวนาน ไม่ขาดตอน

    ด้วยธรรมมะสี่เกลอนี้ ตัดเหตุแห่งเจ้ากรรมนายเวร ไม่ให้มาถึงตัวได้ มีหลุดบ้าง ช่างหัวมัน
    ดังนั้น นานๆ ไปพวกมันน่าจะเบื่อนะครับ และคงเลิกรามือไปเอง ในที่สุด จะเป็นแแบบนี้ได้ใช่ไม๊ครับท่าน 55555

    ขอบคุณครับ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / นักรบแสง

    .
     
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ก็ยังดีกว่าคิดเองเออเองหลงประเด็นนะครับ อ้อพิจราณาก่อนเขียนแล้วครับ ก่อนหน้านั้นก็เข้ามาอ่านผ่านๆหลายรอบ

    แต่สาระไม่ได้อยู่ที่บอกว่ากระทู้เก่า
    เห็น จขกท เทิดทูบูชากับเศษหินไรซักอย่างอยู่ แล้วก็บอกว่า
    แล้วกระทู้ก็เหมือนปิดร้างตายไปนานแล้ว ก็มีคนมาขุด มาโหนกระแส หรือมีสิ่งอย่างอื่นที่นับถือคล้ายกันกับ จขกท คงจะเป็นไอ้เรื่อง พ่อจิตรา อะไรนี้มั้ง หรือจะเนื่องด้วยจุดประสงค์ไรก็ตามแต่

    แล้วก็มีอีกคนเข้ามาอธิบายที่ จขกท กระทำสิ่งที่ดูเป็นการขัดแย้งในสิ่งที่ตนเองบอกว่าทึ่ง และนำคำสอนมาปฏิบัติ แล้วก็มาอธิบายในสิ่งที่ จขกท เคยเขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว


    แต่ก็เอาเหอะ ยังขี้เกียจหาเรื่องโต้แย้งพอดีไม่ได้ว่างมาก หรือไม่มีอะไรทำ
    และถ้าจะเขียนสิ่งที่เป็นประโยชน์แก้ผู้อื่น ก็เคยๆหาๆมาเขียนในกระทู้อื่นอยู่แล้ว ส่วนในกระทู้นี้ก็เห็นมีคนอื่นเขียนไว้ในนี้อยู่แล้ว
    และดูๆแล้วถ้าเขียนเพิ่มไปก็จะเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันไปอีก

    ความจริง ลุงมหา๑ ไปตั้งกระทู้ใหม่ซักพักก็น่าจะจบแล้ว (หลังจากตอบข้อความของคนอื่นๆในกระทู้นี้ไปจนหมด)

    หรือว่าท่าน ลุงมหา๑ กระหายสงคราม ต้องการให้มีการเถียง โต้แย้ง สนทนา ไม่งั้นก็ทิ้งๆข้อความเขียนไว้ละกัน ไว้เหงาเบื่อๆไม่มีอะไรทำจะเข้ามาตอบ??? (หรือจะวางฟอร์มเท่ๆกดไม่เห็นด้วยทำเป็นว่าอ่านแล้ว แต่ขี้เกียจเถียงเพราะไม่ใช่สาระก็แล้วแต่)(||)(||)(||)(||)(||)(||)
     
  4. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    อ้อเกือบลืม ต่ออีกหน่อย แล้วที่บอกว่า พระพุทธองค์ก็ได้ทรงละขันธ์ไปตั้งสองพันกว่าปีแล้วไม่ใช่หรือ? จะสื่ออะไรครับ

    ผมขอคิดไปเอง แบบอารมณ์คนพาล หาเรื่องเถียง โต้แย้ง เหมือนหากรรมใส่ตัว มั้งนะครับ >>>


    เหมือนเป็นข้ออ้างให้ตัวเองดูดีจังครับ
    คงจะสื่อ ประมาณว่า ถึงผ่านกาลเวลามานานแค่ไหนเก่าแค่ไหน ธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ก็ยังมีมาถึงปัจจุบัน ยังมีประโยชน์ แม้พระองค์ดับขันธ์ไปสองพันกว่าปีแล้ว สรุปง่ายๆเป็นอกาลิโก ปฏิบัติได้จริงเห็นผลจริงไม่จำกัดกาลเวลา บลาๆๆๆ ประมาณนี้ซินะครับ

    ถ้าใช่ไม่ทราบว่าได้ศึกษา ธรรมหรือคำสอนมั้ย (ถ้าไม่ก็อย่าเอามาอ้าง ถ้าศึกษาแต่ไม่ทำตามก็อย่าเอามาอ้าง ถ้านับถือพวกเศษหินก้อนดินอยู่ด้วยก็อย่ามาอ้าง)


    สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ข้อที่ท่านห้ามๆได้เอามาทำตามมั้ยครับ หรือเลือกศึกษา เลือกทำตาม และสนับสนุนในสิ่งที่อยากจะทำ ที่คิดว่ารวมคิดไปเองว่าเป็นประโยชน์ เชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ นับถือในสิ่งที่อยากจะนับถือไปเกือบซะหมดไอ้สิ่งที่คิดว่าดีว่าประเสริฐที่มีอยู่เต็มโลกธาตุนี้นับถือบูชามันเข้าไป (ข้อความถึงตรงนี้กล่าวถึง ลุงมหา๑ )


    สรุปโดยย่อ ก็แค่คนที่พึ่งตัวเองยังไม่ได้ก็แค่นั้น ต้องดิ้นพล่านเสาะแสวงหาที่พึ่งก็ให้วุ่น ไม่กราบไปไหว้อ้อนวอน โอ้ยยขำ โดยเฉพาะพวกที่ปากว่ามีสัจจะนับถือพระรัตนไตย (ข้อความอันนี้ว่าโดยรวม)
     
  5. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    การปฏิบัติธรรมจริงๆ รู้จริงๆ เห็นจริงๆ เป็นอย่างไร?

    ขออนุญาตครับ

    ผู้ปฏิบัติจริง ผู้ปฏิบัติได้นั้น ในหมู่ฆราวาส ต้องเป็นประเภท

    "ปฏิบัติง่าย รู้ธรรม เห็นธรรมง่าย" นะครับ

    เพราะฆราวาสมีกิจของมนุษย์มาก ทำให้เวลาการปฏิบัติน้อย

    แต่ผู้รู้ธรรม เห็นธรรมจริง แทบจะหาไม่ได้

    เห็นหลายๆท่านอ้างกันว่า เคยบวชเป็นพระ สึกออกมาแล้วปฏิบัติต่อ

    อันนี้ต้องระวัง เพราะหลักสูตรของพระส่วนมากเป็น หลักสูตรของ "เนยยะ"

    คือ "ปฏิบัติยาก รู้ธรรม เห็นธรรมได้ยาก" อันนี้องค์หลวงตามหาบัวเป็นผู้บอกเล่าเอง

    เพราะ ธรรม จริงๆนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ที่มันยาก ก็เพราะทฤษฎี

    ครูบาอาจารย์องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต องค์ท่านจึงสอนว่า


    "รู้อะไรมา เรียนอะไรมา ลืมให้หมด"

    "อยากรู้อะไร ให้ปฏิบัติเอา"


    เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะปฏิบัติธรรมได้เร็วก็คือ "ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย"

    เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาที่จะต้องไปลืมธรรมที่ได้ "รู้อะไรมา จำอะไรมา"

    ซึงการที่จะลืม ก็คือ ตอนที่ ท่านนั่ง "สมถะภาวนา" นั่นล่ะครับ

    ถ้าท่าน "รู้อะไรมามาก" ท่านก็จะเสียเวลาในการ "สะสมกำลังสติ สะสมกำลังสมาธิ" มากตามไปด้วย

    เหมือนกับว่า บ้านหลังเดิม มีข้าวของเครื่องใช้เต็มบ้านไปหมด
    ท่านก็ต้องมาเสียเวลา เก็บไปทิ้งนอกบ้าน เพื่อบ้านจะได้สะอาด

    เหมือนกับว่า การลบ ข้อมูลใน หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์
    ถ้าข้อมูลขยะเยอะ ก็ต้องลบทิ้งไปให้หมด

    เพื่อเตรียม พื้นที่ๆจะรับข้อมูลใหม่ๆที่เป็นประโยชน์

    การปฏิบัติธรรม ก็เหมือนกัน

    เพราะการปฏิบัติธรรมนั้นก็คือ "การขัดเกลากิเลส" ไปทีละนิด ทีละหน่อย
    เมื่อถึงเวลาอันควร ก็โล๊ะ กิเลสทิ้งไปทั้งหมด

    ซึ่ง "การขัดเกลากิเลส" ไปทีละนิด ทีละหน่อย แท้ที่จริงก็คือ

    "การละนิสสัย" ที่ไม่ดี แล้ว ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ไปรับเอาแต่ "นิสสัย" ที่ดีเข้ามาแทนที

    ซึ่งการบวชเป็นพระ ก็คือ ต้อง ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
    ซึ่งก็คือ การ "ละนิสสัย" ที่ไม่ดี ให้เหลือ ให้เพิ่มเอาแต่ "นิสสัย" ที่ดีเอาไว้ ให้มากขึ้นๆ

    เพราะฆราวาส มีกิจของมนุษย์มาก ต้องพบต้องเจอกิเลสรอบๆตัวมาก
    ทำให้การปฏิบัติของมนุษย์ยากกว่าพระสงฆ์มาก

    เพราะต้องรับ ต้องรู้ ต้องเห็น กิเลส รอบๆตัวเรามาก

    ซึ่งตัวกิเลสอันนี้ มันอยู่ในจิต มันอยู่ในใจ และมันมีธรรมชาติที่จะแผ่ขยาย
    กินพื้นที่ในใจของมนุษย์ อยู่ตลอดเวลา

    เหมือนไวรัสในคอมพิวเตอร์ เปิดเครื่องใช้งานเมื่อไร มันก็แผ่ขยายไปๆ เมื่อนั้น

    โปรแกรมตรวจหาไวรัสก็คือ การฝึกจิต ให้มีสติ ให้มีสมาธิ เพียบพร้อมสมบูรณ์

    เพื่อว่า "ปิดความคิด" คือ เอาการรับรู้ไปอยู่ที่"องค์ภาวะนา" ซึ่งกิเลสแทรกเข้ามาได้ยากขึ้น

    เมื่อไรที่เรามี "กำลังสติ",เมื่อไรที่เรามี "กำลังสมธิ" เต็มที่
    เมื่อนั้น กิเลส ก็แทรกเข้ามาในจิต ไม่ได้
    เพราะจิตจะ "สะอาด สว่าง สงบ"

    เมื่อไรที่เราฝึกการรู้ตัวทุกอิริยาบถ ผ่านครบถ้วน
    คือ การรู้ว่า ตนมีสติ ตนมี สัมปชัญญะ ครอบคลุม ตลอดเวลา ที่ร่างกายมีการตื่นอยู่ (ยกเว้นเวลานอนหลับ)

    เห็นหลายๆท่านอวดอ้างว่า "ตนรู้ธรรม ตนเห็นธรรม"
    แต่การแสดงธรรม กลับมี อาการ ของการอวดอ้าง ว่าตนรู้ธรรม ตนเห็นธรรม มากกว่าผู้อื่น
    ซึ่งอาการนี้ มีแต่ผู้รู้ธรรม ผู้เห็นธรรมมากกว่า จึงจะมองเห็น
    แต่ผู้รู้ธรรม ผู้เห็นธรรมน้อยกว่า จะมองไม่เห็น

    เหมือนกลุ่มที่พาคุยโม้โอ้อวดว่า ตนเป็นผู้รู้ธรรม ผู้เห็นธรรม ที่บ้างท่านถึงกลับกล้ากล่าวว่าตนนั้นถึงขั้น "อริยะ"

    แต่แล้วก็มาตกม้าตาย ตอนที่ พากันไป เคารพ ยกย่อง เชิดชู "สมีคำ"

    แล้วทำไมไม่รู้ว่า ผู้ที่พวกตนพากันไป เคารพ ยกย่อง เชิดชู นั้นเป็นแค่ "พระทุศีล ถึงขั้น ปาราชิก แล้ว"

    เพราะฉะนั้น เอาแบบแน่ๆ ที่จะเห็น "จิต" ของตน
    เพราะฉะนั้น เอาแบบแน่ๆ ที่จะเห็น "กิเลสในใจ" ของตน

    ก็คือกลุ่มผู้ปฏิบัติที่ ผ่านการ "สะสมกำลังสติ สะสมกำลังสมาธิ" ได้เต็มเปี่ยมแล้ว
    แล้วต่อมาก็จะเห็น "จิต" ของตน เห็น "การเริ่มต้นของความคิด" ในใจตน
    แล้วก็ "เห็น อยู่ตลอดเวลา" "รู้อยู่ตลอดเวลา" ที่ยังตื่นอยู่
    ในผู้ปฏิบัติ ที่มีบุญบารมีที่จะสอนผู้อื่นได้นั้น จะสามารถ "เห็นจิต" ของผู้อื่นด้วย

    ผู้ปฏิบัติ ที่จะสามารถ "รู้ทันกิเลส" จนสามารถ "ระงับกิเลส" ได้คือ ผู้ปฏิบัติที่

    ๑ มีกำลังสติ มีกำลังสมาธิเต็มที่
    ๒ เห็นจิตของตน เห็นการเริ่มต้นของความคิดในใจตน
    ๓ มีความคิดที่เป็นเฉพาะด้านกุศลเท่านั้น ด้านอกุศล เกิดขึ้นไม่ได้
    เพราะจะถูกตัดออกไปตั้งแต่ ยังไม่ทันเริ่มคิด
    ๔ มีความรู้ตัวทุกอิริยาบถ

    แค่นี้ก็เหลือกิน เหลือใช้แล้วครับ

    ผิดจากนี้ ให้ไปถามครูบาอาจารย์ เอาเองว่า

    ที่ท่านนำ ที่ท่านพา ปฏิบัตินั้น ถูกต้อง ถูกทาง แน่หรือ?

    ธรรมนั้น แม้ว่าจะมีขั้น จะมีตอน
    แต่ผู้รู้เร็ว ผู้เห็นเร็ว อาจจะเร็วจนดูเหมือนว่าข้ามขั้นตอนก็เป็นไปได้

    ที่สำคัญคือ ผู้รู้ธรรม ผู้เห็นธรรม จะไม่มีอาการ

    โง่
    โอ้อวด
    อวดดี
    สร้างความรำคาญให้ผู้อื่น

    เพียงแต่ว่า ถ้าผู้อื่น เข้าใจไปว่า ผู้รู้ธรรม ผู้เห็นธรรม ผู้นั้น

    โง่
    โอ้อวด
    อวดดี
    สร้างความรำคาญให้ผู้อื่น

    อันนี้ต้องถามตนเอง ต้องถามครูบาอาจารย์ของตนว่า
    ตนนั้น รู้ธรรม แน่หรือ
    ตนนั้น เห็นธรรม จริงหรือ
    ตนนั้น ปฏิบัติได้ จริงหรือ

    เพราะผู้ที่รู้ธรรม ผู้ที่เห็นธรรมจริงๆนั้น ต้องสามารถ ช่วยเหลือ เกื้อกูล ผู้อื่น ให้ เข้าถึงซึ่ง

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา

    ได้สะดวก ได้ง่ายขึ้น

    ไม่ใช่อ้างว่าตนรู้ธรรม ไม่ใช่อ้างว่าตนเห็นธรรม แล้วทำไมจึง ทำให้ผู้อื่นได้เข้าถึงซึ่ง

    ศรัทธา
    ทาน
    ศีล
    สมาธิ
    ปัญญา

    ได้ยากขึ้น ได้ลำบากขึ้น

    สรุป

    ถ้ารู้ธรรม เห็นธรรมแล้ว

    นิสสัยเดิม จะเก็บเอาไว้ได้อย่างไร?
    นิสสัยเดิมจะเก็บเอาไว้ทำไม?
    ต้องสามารถ ช่วยเหลือ เกื้อกูล ผู้อื่น ให้ เข้าถึงซึ่ง ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ได้สะดวกขึ้น ได้ง่ายขึ้น?


    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  6. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    ขอบคุณครับ ที่เขียนอธิบายอะไรเยอะแยะ

    แต่ว่าคำถามถึง กรมเจ้ากรรมนายเวร ที่เราถามยังไม่ทราบคำตอบเลยครับ

    ท่านเขียนออกมาตั้งแยะแบบนี้ เราจะเขียนต่อยังไงล่ะเนี่ย เฮ้อ..ไม่อยากโม้เลย
    ว่าฝึกมาตั้งแยะ ตั้งแต่สิบกว่าขวบล่ะมั้ง นะ พลังการฝึกปรือเกินสามสิบปีแล้วครับ 555

    อืม...ไปต่อยากจังแฮะ พอดีมีคอมเสีย เค้าโทรมาตามให้ไปซ่อมให้หน่อย


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
    .
     
  7. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    ไม่ได้เข้าเวป พลังจิต นี้มาแรมปี ขออภัยทุกๆท่านด้วยนะครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ที่ผมสมัครเป็นสมาชิกใหม่ ด้วยความชอบเรื่องแปลก และไม่ได้รู้อะไรมากมายกับใครเขาเลยในขณะ นั้นจะไปก็อป เรื่องราวเหล่านี้มาจากเว็ป
     
  8. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ต้องมุ่งหน้าต่อไป

    ขออนุญาตครับ

    อ้าวยังไม่ได้คำตอบอีกหรือครับ

    ๑ ลองพิจารณาใหม่ นะครับ

    ๒ เขียนเรื่อง ครูบาอาจารย์ และ วิธีการ ขั้นตอน ที่ฝึกฝนมาซิครับ





    เหตุที่ผมต้องมาเขียนต่อ ก็เพราะว่า

    ๑ ผมไม่ต้องไปขออนุญาตใคร เพราะ ผมไม่ได้เป็นผู้เริ่มเขียน กระทู้
    ๒ ผมเป็นผู้สะสมความรู้เรื่องเหล็กไหล ไว้ น่าจะเรียกได้ว่า มากที่สุด ในยุคปัจจุบัน
    เพราะความรู้ ประสบการ การได้สัมผัส ของผมนั้น หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้
    แต่ที่ภูมิใจมากที่ องค์พ่อ ๑๖ ท่านได้เมตตาบอกว่า


    "เจ้าคนนี้ ช่างเป็นผู้มีปัญญานัก"

    ใครไม่รู้ องค์เทพท่านก็ยังรู้ น่าภูมิใจนัก

    หลายๆท่านเชื่อกันว่า "พระสงฆ์ เป็นผู้ที่สืบทอด พระธรรมคำสอนเอาไว้มากที่สุด"
    แต่ในความเป็นจริง มีพระธรรมเป็นอันมากที่พระสงฆ์ไม่รู้ หรือ ไม่อยากจะพูดถึง

    ผมจึงต้องเสาะหาครูบาอาจารย์มาก จากเทวดา จากเทพ จากพรหม จากปู่ฤๅษี
    และที่สำคัญ ครบถ้วนมากที่สุด ก็จากพุทธภูมิระดับสูง

    เห็นบางท่านเชื่อว่าตนเก่งกล้าสามารถ แต่เห็นเหล็กไหล เป็นแค่ ก้อนหิน น่าเอน็จ อนาจใจนัก

    ส่วนเรื่อง พระอาจารย์เกษม นั้น ผมมีครูบาอาจารย์ ที่ท่านบวชมานาน เพียงแต่ท่าน สิกขาลาบท ไปช่วงหนึ่งแล้วกลับมาบวชต่อ
    ถ้านับพรรษารวมกันได้ ท่านน่าจะมีพรรษาสูงที่สุดในหมู่พระธรรมยุติจังหวัดกาฬสินธุ์
    องค์ท่านบอกว่า ท่านเคยศึกษา ท่านเคยร่วมวัดกับ พระอาจารย์เกษม ครับ
    เมื่อเห็นว่าท่านอายุมากขึ้นๆ ท่านจึงกลับมาอยู่ที่วัดที่ท่านเคยอยู่ตั้งแต่ ยังเป็นพระหนุ่ม

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2014
  9. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ยกมาให้บางคนอ่าน จะได้ใช้สติปัญญาลองพิจารณาดู

    คำสอนที่น่าสนใจที่สุดขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    "พระโพธิ์สัตว์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก"
    "เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต"
    "ต้องให้ความเคารพท่านด้วย"


    คำสอนที่น่าสนใจที่สุดขององค์หลวงปู่มหาบัว ญานสัมปันโน

    "เราไม่มี บุญ-บารมี พอที่จะแก้ไขภัยพิบัติได้"

    ส่วนใครที่ปัญญาน้อยแสนน้อย แถมยังกล้าหาญชาญชัย
    เที่ยวเอาคำสอนครูบาอาจารย์ ไปอ้างในทางที่ผิด ก็ ขอให้รับกรรมกันเอาเอง

    ตัวใครตัวมันกันละทีนี้

    ลุงมหา

     
  10. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อ่านหนังสือไม่ออกหรือครับ?

    ขออนุญาตครับ

    อ่านหนังสือไม่ออกหรือครับ

    หัวข้อห้องนี้คือ "วิทยาศาสตร์ทางจิต -ลึกลับ" ครับ

    ห้อง "อภิญญา - สมาธิ"

    หรือ แม้แต่ห้องย่อย "สายป่าธรรมยุติ - หลวงปู่มั่น" ทางเว็บก็มีให้

    ท่านอยากจะทำอะไรกันแน่?

    หรือท่านอยากให้ทางเว็บปิดห้องนี้ หรือ แม้แต่ปิดกระทู้นี้

    ก็ให้ไปร้องขอทางเว็บเอาเอง

    หรือว่าโดนไล่ออกจากวัดธรรมยุติมา?

    ศิษย์ธรรมยุติ ขวางโลก ขวางธรรม แบบนี้ มีด้วยหรือ?

    ลุงมหา

     
  11. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เกี่ยวกับผู้เขียนต้นฉบับ และ อ.เกษม


    ขออนุญาตครับ

    ท่านผู้เขียน ต้นฉบับ ท่านกล่าวถึง ท่าน อ.เกษม ด้วยความชื่นชม ในครูบาอาจารย์ของท่าน เท่านั้น

    ท่าน อ.เกษม ไม่ได้มีส่วนใหนเกี่ยวข้อง กับ เรื่องนี้แต่อย่างไร

    และเมื่อ ท่าน อ.เกษม เปลี่ยนไป ท่านเจ้าของต้นฉะบับ ท่านก็ไม่ได้เขียนต่อแต่อย่างไร

    ปัจจุบัน ท่านหยุด ผลิตยา ยกโรงงานให้ คุณแม่องค์ญาณ แล้ว

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ ทุกท่านที่ติดตามอ่าน

    ส่วนใครที่กล้าหาญบังอาจ ล่วงเกิน องค์พ่อเวชสุวรรณ องค์พ่อยมราช ก็รอรับผลกันเอาเอง

    ขอเตือนท่านที่เข้ามาอ่าน ขอความกรุณา อย่าได้ ไปฟ้ององค์ท่าน ให้เกิดผลกรรมแก่ตนเอง

    ลุงมหา

     
  12. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    วันไหว้ครูประจำปี


    ขออนุญาตครับ

    เรียนเชิญญาติธรรมทุกท่าน งานไหว้ครู คุณแม่องค์ญาณ, องค์พ่อ ๑๖, องค์พ่อจิตรา

    วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ก่อนเวลา ๑๐ โมงเช้า

    เจอกันที่ หน้าสถานีตำรวจปากช่อง ประมาณ ๘ โมงเช้านะครับ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2014
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    วันไหว้ครูองค์พ่อ


    ขออนุญาตครับ

    งานวันครูองค์พ่อผ่านไปด้วยดี ชื่นมื่นกันทั่วหน้า

    ผมได้มีโอกาสพบกับ ศิษย์คนแรกขององค์พ่อ ท่านน่ารักมาก บอกเล่าเรื่องราวมากมาย

    ผมได้มีโอกาสพบท่านแสนยาสี ที่ท่านเดินถ่ายคลิปวีดีโอไปทั่ว
    แต่องค์พ่อท่านบอกว่า "ห้ามนำออกอากาศ"
    พูดคุยกับไปมา จึงได้ทราบว่า ท่านเกิดไล่ๆกับผม ต่างกันไม่กี่สัปดาห์
    มิน่าละ ผมกับท่านมีส่วนคล้ายกันมาก ทั้งเรื่องโลก เรื่องธรรม

    เห็นองค์พ่อเรียกท่านว่า "หมอ" แต่ลุงมหา ไม่ใช่หมอ เพียงแต่ลุงมหา รู้จักหมอเยอะ

    ท่านดูดวงเป็นด้วย แต่ลุงมหา เคยดูดวงแค่ประมาณ ๒๐๐ ดวง
    แล้วก็ไม่ค่อยดูให้ใครด้วย เพราะเสียเวลาเยอะ

    ผมถ่ายวีดีโอไว้ประมาณ สองชั่วโมงครึ่ง
    ว่างๆจะไปโหลดไว้ให้ท่านแม่
    เพราะต้องรีบไปตามนัดอีกที่หนึ่ง

    ช่วงนี้ชีพจรลงเท้า บางวันขับรถมากถึง แปดร้อยกว่ากิโลเมตร
    ดีไม่ดีจะได้ขึ้นเหนือด้วย ดีว่าทางโน้นไม่มีปัญหา ก็เลยไม่ต้องไป

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับศิษย์ขององค์พ่อที่มาก่อนรวยก่อน
    ช่วยกันออกค่าใช้จ่ายต่างๆ

    ปีนี้ของขวัญเป็นพระสมเด็จวัดพระแก้ว ที่นำมาโดยพราหมในวังโดยตรง

    ลุงมหา
     
  14. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    คงไม่ผิดนะคะ ถ้าหากบังเอิญดิฉันได้ชมคลิปและประมวลภาพบรรยากาศในงานไหว้ครูองค์พ่อฯ
    ซึ่งทางเว็บฯได้ลงไว้แล้ว
     
  15. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ความถูกต้อง ความเหมาะสม

    ขออนุญาตครับ

    ความถูกต้อง ความเหมาะสม เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลด้วย
    คนหนึ่งทำ อาจจะผิด แต่อีกคนทำ กลับเป็นถูกไปได้

    ขอเมตตาลงเว็บลิ้งค์ให้ด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง

    เว็บลิงค์ งานไหว้ครูองค์พ่อ ๒๕๕๗

    https://picasaweb.google.com/112099154293866924400/2557?noredirect=1

    ขอโมทนาบุญ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2014
  16. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842

    ครับ ก็เอาเป็นว่า ได้รับคำตอบแบบงงงงก็แล้วกันนะครับ 555

    เรื่องครูบาอาจารย์ เราไม่มีที่เป็นคนเลยมั้ง ครับ มีแต่หนังสือ กับอื่นๆ อีกมากมาย
    มีท่านพุทธทาส ที่ใกล้เคียงสุด แต่ท่านก็บอกว่า
    "ไม่ทำตามที่สอน อย่ามาอ้อนเรียกอาจารย์"
    และท่านก็สอนแยะจัง เราทำตามได้ไม่หมด
    ก็เลยไม่ทราบว่าจะเรียกท่านว่าอาจารย์ได้รึเปล่า

    อีกประการ ตอนปีที่แล้ว ท่านไม่ยอมเป็นอาจารย์แล้วครับ
    มีปัญหาบางอย่าง เลยขอเป็นแค่ลูกพี่ก็พอ (ด้วยความเคารพอย่างสูง)
    มีรายละเอียดในกลอนมนตราด้วย ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว ไม่ได้ค้นมาให้ชม

    ส่วนวิธี ขั้นตอนที่ฝึกฝน มันยุ่งยาก ยาวเหยียด เยอะแยะ ยุบยับ ยั้วเยี้ย ๆๆๆ
    สงสัยว่าจะฝึกมาตั้งแต่อยู่ในท้องนั่นแหละครับ 555 เล่าได้ยากเย็นมาก ขอบอก


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  17. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เรือที่ไม่มีหางเสือ ระวังไฟธาตุแตกนะครับ

    ขออนุญาตครับ

    ตั้งแต่องค์หลวงตามหาบัว องค์ท่านละขันธ์ไป
    สถานีวิทยุเสียงธรรม ก็สับสนชอบกล
    ชอบเอาแต่ธรรมปรมัติ มาออกมากขึ้น
    ต่างจากเมื่อก่อน ที่การจัดสัดส่วน จัดเวลา เหมาะสมดีแล้ว เช่น

    ช่วงใหน เน้นศรัทธา เน้นทาน เน้นศีล เน้นสมาธิ
    ช่วงไหน เน้น ธรรมปรมัติ ธรรมเพื่อความหลุกพ้น
    ช่วงไหน เน้น ธรรมเบาสมอง นิทานธรรม

    ฟังที่ท่านเล่ามา เหมือนจะใกล้ แบบที่นิยายกำลังภายในเรียกว่า

    "ไฟธาตุแตก"

    ต้องระวังกันนะครับ

    เพราะการปฏิบัติธรรมมาตรฐานแบบธรรมยุตินั้น

    ต้องรู้จัก "ความสงบ" ก่อน

    แล้วก็ไปที่ "สมาธิ"

    แล้วก็ไปที่ "ปัญญา"

    ผิดจากนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ท่านอื่นๆ ท่านพากันไปฝึกอะไรกัน

    เห็นบางท่าน บางกลุ่ม บางพวก พูดถึง "จิต" พูดถึง "นิพพาน"
    และยังบอกกันว่า "ตายแล้วจะได้ไปนิพพาน"

    ผมก็เลยสงสัยว่า ที่พากันปฏิบัติอยู่นี้ สงสัยยังไม่มีใครตายกันเลย

    ผมก็เลยรอดู รอฟังว่า มีใครตายไปกันบ้างไหม?
    ผมก็เลยรอดู รอฟังว่า ใครที่ตายไปแล้ว ได้ไปเมืองนิพพานไหม?
    ผมก็เลยรอดู รอฟังว่า ใครที่ตายไปแล้ว ได้กลับมาบอก ได้กลับมาเล่าบ้างไหม?
    ผมก็เลยรอดู รอฟังว่า ใครที่ตายไปแล้ว ได้กลับมาบอก ได้กลับมาเล่า ว่าอย่างไรบ้าง?

    ส่วนท่านที่ปฏิบัติจนวุ่นวายสับสน เหมือน เรือที่ไม่มีหางเสือ ระวังไฟธาตุแตกกันนะครับ

    เฮ้อ ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2014
  18. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ตอบ ท่านลุงมหา๑
    ไม่เคยขออนุญาติใครเลยครับ

    ขอบคุณที่ห่วงใย แต่เรื่องไฟธาตุแตก ไม่ต้องเป็นห่วงครับ
    เราคิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่ง สำหรับยุคนี้ครับ ๕๕๕

    เคยแตกมาแล้วทีนึง เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วล่ะมั้ง นะ แต่โชคดีที่ปะได้ทัน
    หลังจากนั้น ยังทดลองให้เกือบๆ แตกอีกหลายครั้ง
    จนเข้าใจขั้นตอนโดยละเอียด แล้วมันก็ไม่สามารถเป็นปัญหาได้อีกแล้วครับท่าน

    การฝึกฝนและค้นหาของเรานี้ ก็ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าอะไรดี
    จะบอกว่าเป็นการปฏิบัติธรรมมาตรฐานแบบธรรมยุติ หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนัก
    อันที่จริง วัดที่อยู่มาปีกว่านี้ ก็เพิ่งรู้เมื่อวันก่อนนี้เอง ว่าเป็นวัดมหานิกาย (รึเปล่า)
    มีเรื่องที่ควรทราบตั้งแยะ แต่เราไม่เคยสนใจจะทราบเลย โยนทิ้งซะเกือบหมด
    มีแต่หลักธรรมล้วนๆ ซึ่งเกือบทั้งหมดก็ได้มาจากเกาะมะพร้าวนาฬิเก
    ของยอดนักปราชญ์แดนใต้ เรื่องอื่นๆ นอกจากนี้ ไม่ค่อยสนเลยครับ ขอบอก

    เราฝึกไล่จับลมหายใจตั้งแต่สิบกว่าขวบ แบบเด็กๆ ไม่มีใครสอน เป็นได้เอง
    เคยบวชเณรตอนปิดเทอม จบป.สี่ ล่ะมั้ง นะ จำไม่ได้แล้ว
    เคยซื้อหนังสือสมาธิ จากแผงข้างถนน เล่มละห้าบาท มาฝึกเมื่อปี 29 หรือ 30
    ตอนเป็นทหารเกณฑ์รักษาพระองค์ ฝึกไม่กี่วันก็คล้ายผ่านนิมิตรได้แล้วมั้ง นะ

    ธรรมะไม่รู้จักเลยครับ คงรู้เท่าชาวบ้านทั่วไปแหละ
    จากนั้นก็มาฝึกโยคะอาสนะ ปราณยาม อันนี้ฝึกมาก ฝึกนาน ฝึกบ่อย ฝึกแบบเซเว่น
    คือฝึก 24 ชั่วโมงเลยมั้ง นะ 555 มีฝึกในฝันด้วยนะ ขอบอก

    ส่วนกำลังภายใน ฝึกมาในร้านหนังสือเช่า ตอนสิบหก ไล่อ่านจนเกือบหมดร้านแน่ะครับ
    ทั้งกำลังภายใน นิยายไทย เรื่องแปล นิยายวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย อ่านมันทั้งวัน

    แล้วมาต่อเรื่องเต๋า เซ็น และอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีขายในร้านหนังสือใหญ่ๆ
    ไล่อ่านกันเป็นแผงๆ เลยครับ เค้ามีอะไรขาย เราได้อ่านมาหมดแหละครับ คิดว่านะ
    กว่าจะมาเรียนรู้เรื่องธรรมะ จากสวนโมกข์ ก็ตอนอายุ 30 เศษแล้วครับ
    ได้อ่านผ่านตามาบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยลึกซึ้งเท่าไหร่ จนมาได้อ่านของท่านพุทธทาส
    แค่สองสามเล่มเองมั้ง นะ ก็ทิ้งโลกเข้าวัดเลยครับ ฝึกร่วมสองปีกว่าล่ะมั้ง นะ
    กว่าจะคิดเอาเองว่าสำเร็จแล้ว ก็กลับสู่โลก แต่โลกมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วครับท่าน

    เรื่องนิพพาน เราโชคดีที่ไม่เคยคิดวุ่นวายกับมันเลย มีแค่เรื่องเดียว ที่เคยสงสัย
    คือนิพพานมันดีจริงหรือ มันว่างเปล่า ไม่มีอะไร ไม่เหลืออะไร ต้องกลายเป็นคนตายด้าน
    ไม่เหลือทุกข์สุข ไม่สนใจสิ่งยั่วยวนใดๆ ไม่เหลืออะไรให้ทำอีกแล้ว คิดเอาเองว่าคงน่าเบื่อมากกก

    ขออภัยถ้าสิ่งที่พล่ามมา ไม่ถูกใจบางท่าน ที่เที่ยวแบกกระไดเดินไปมา
    หรือชอบเอาแพมาอวดกัน ว่าของฉันทำมาจากวัดใหญ่ๆ ดีสุด สวยสุด ถูกต้องที่สุด

    แม้ท่านจะคิดว่าเราอาจไม่มีหางเสือ แต่เรายังมีพวงมาลัยนะครับ 555
    แลัวยังมีปีกยกระดับ ปีกแก้เอียง สองเครื่องยนต์บนปีก ก็เร่งหรือผ่อน เพื่อบังคับเลี้ยวได้ ฮิฮิฮิ
    เราไม่ได้ปฏิบัติอะไรนี่ครับ แล้วมันจะสับสนวุ่นวายได้อย่างไรกัน จริงมะท่าน

    เฮ้อ...ให้ซุปเปอร์โมทนาบุญ
    (เห็นท่านชอบขออยู่เรื่อย เลยจัดให้ซักที เอาแบบซุปเปอร์เลยละกัน 555)


    กระต่ายป่าข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  19. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ความเพียร ความเพียร ความเพียร

    ขออนุญาตครับ

    เหตุที่ต้องขออนุญาตก็ด้วยเหตุ ๒ ประการ

    ๑ เดี๋ยวครูบาอาจารย์จะบอกว่า ไปเขียนทำไมไม่ขออนุญาต

    ๒ เดี๋ยวผู้ดูแลเว็บจะจัดการเอา เช่น ให้ใบเหลือง ให้ใบแดง
    ล๊อก ย้า่ย ลบ โดยไม่ต้องแจ้งเหตุผล

    ก็พอดี ครูบาอาจารย์บางท่าน บางสาย สั่งให้หยุดเขียน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับท่าน
    ผมก็เลยต้องขออนุญาตเอาไว้ก่อน เผื่อมีการพาดพิง

    หลายๆท่านเห็นดี เห็นงาม รูปแบบ ทิศทางของการปฏิบัติ ก็ว่ากันไป

    แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมเห็นว่า ปฏิบัติแบบธรรมยุติ

    หายใจเข้า "พุทธ"
    หายใจออก "โธ"

    แค่นี้อย่างน้อย ก็ได้ความอด ความทน ความเย็นกาย ความเย็นใจ

    แค่นี้ก็ได้ความสุขกายสะบายใจ เหลือกิน เหลือใช้แล้วครับ

    ไม่ต้องฟุ้งซ่านไปขัดคอใครเขา ให้เขารำคาญใจ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  20. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200

แชร์หน้านี้

Loading...