เมื่อตายแล้วเราจะรับรู้สึกอะไรได้ไงในเมื่อไม่มีสมองแล้ว

อ้าวก้อศาสนาพุทธกะวิทยาศาสตร์ มันไปด้วยกันได้นิครับ เพราะศาสพุทธก้อเปนศาสนาวิทยาศาสตร์

 

เรื่องมิตินี่มันละเอียดหลากหลายนับเป็นตัวเลขไม่ได้เลยครับคุณ FenderMan แค่เก้าอื้ที่เห็นวางอยู่ 1 ตัว ยังมี layer ของพลังงานเหมือนเงาลางๆซ้อนทับเข้าไปอีกมากมายนับไม่ถ้วน

เรื่องความเร็วของแสงนี่ที่สุดแล้วก็ยังมีตัวแปรอีก การยึดหน่วงกันของมิติต่างๆที่ทำให้ความเร็วเปลื่ยนไปจนเกิดการสร้างสรรค์เป็นมวลวัตถุขึ้นในที่สุด นักวิทย์ฯเองก็อาจมองข้ามครับ ส่วนความเร็วของจิตวิญญาณนั้นเป็นไปโดยฉับพลันทันใด หรือจะเทียบว่าเร็วกว่าแสงเปลื่ยนค่าเป็นสองเท่าในทุกๆวินาทีก็ได้ ซึ่งไม่น่าเรียกว่าเดินทางครับเพราะเวลาในมิติโลกมันไม่จริงสำหรับโลกมิติอื่นๆ การถอดจิตก็ไม่ได้หมายความว่าจิตหลุดออกจากร่างไปเฉยๆอีก..แต่เป็นการพุ่งสติสัมปชัญญะไปจดจ่อเพียงบางส่วนเท่านั้น

เรื่องพวกนี้มันน่าสนุกก็จริงแต่รู้ไว้เพื่อให้เข้าใจเท่านั้นครับ และคนที่ตอบคำถามเหล่านี้ได้ไม่จำเป็นต้องเสียชีวิตไปแล้วนะครับ รูปธรรมต่างๆในภพภูมิคู่ขนานต่างก็มาสอนมาสั่งในระบบเครือข่ายของจิตวิญญาณให้เราได้เสมอ..การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดครับ แม้แต่ครูที่มาสอนเรายังต้องขยายการเรียนรู้ออกไปเรื่อยๆเหมือนกัน ความรู้ตรงนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากหนังสือของ อาจารย์โนวา อนาลัย กับ จิตจักรวาล ครับซึ่งเปรียบเสมือนครูผู้ปราศจากร่างกายตัวตนมาสอนให้ แวะไปคุยไปถามกันในกระทู้แนะนำข้างบนได้ครับผ้ม + ยุคนี้มีความรู้ใหม่ที่เคยสอนกันมาในอดีตแต่ปรับให้ Update และน่าศึกษาเพิ่มขึ้นเยอะครับ

(smile)