หลวงปู่ทองทิพย์ ปิดตาจันทรคราส เหล็กไหลไพรดำ เหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย apisab, 2 กันยายน 2014.

  1. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เมื่อพญาพรหมจักรสวรรคต ขุนนางจึงเชิญให้จันทรคราสปกครองเมืองอินตะปะถะสืบต่อมา
    [​IMG]

    หนึ่งปีผ่านไปจันทรคราส คิดถึงสุริยคราสผู้เป็นพี่ชาย จึงให้ขุนนางเตรียมเรือและออกเดินทางไปเมืองกาสีพร้อมนางเตวธิสังกา
    [​IMG]

    ระหว่างการเดินทางเกิดพายุ เรือสำเภาเกิดล่มกลางทะเล ทำให้จันทรคราสและนางเตวธิสังกาพลัดพรากจากกัน
    [​IMG]
    (เรือสำเภาที่จันทรคราสและนางเตวธิสังกาโดยสารล่มกลางทะเล)​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      1,432
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.2 KB
      เปิดดู:
      1,616
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.8 KB
      เปิดดู:
      1,377
    • 9753a879.jpg
      9753a879.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.6 KB
      เปิดดู:
      119
  2. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    หลังจากพลัดพรากจากจันทรคราสแล้ว นางเตวธิสังการ้องไห้คร่ำครวญเดินไปพบบ้านหลังหนึ่งในเมืองอนุปะมะ (เมืองอนุกรม) ยายปริสุทธิ (ยายปาริสุทธี)เจ้าของบ้านจึงให้นางอาศัยอยู่ด้วย ข่าวทราบถึงเจ้าผู้ครองนครคือ พญาสุตัสสะนะจักร(สุทัสสนจักร) เพราะความงามของนาง พระองค์จึงให้ขุนนางไปขอมาเป็นมเหสี ยายปริสุทธิทราบข่าวจึงปฏิเสธและนำนางเตวธิสังกาไปบวชชี ณ สำนักแม่ชีในเมืองอนุปะมะ

    พญาสุตัสสะนะจักรเมื่อผิดหวังจากนางเตวธิสังกา ได้ให้ขุนนางไปขอพระธิดาของพญาธัมมะขัติผู้ครองเมืองอนุราธะ ชื่อนางพรหมจารี พญาธัมมะขัติจึงยกพระธิดาให้ เมื่ออยู่กินกันมาไม่นานได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันบ่อย ๆเพราะพญาสุตัสสะนะจักร เป็นผู้ที่มักมากในกามคุณ หวังจะได้นางเตวธิสังกา มาเป็นอนุภรรยาอีกคน ด้วยความโกรธพญาสุตัสสะนะจักรสั่งให้ขุนนาง นำนางพรหมจารีใส่แพปล่อยลอยน้ำไป

    จันทรคราส เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็เดินทางเข้าไปในป่า เห็นครุฑกำลังคาบงูอยู่ (บางตำราว่า พญาครุฑ กับ นาค) ครุฑเห็นคนเดินมาจึงปล่อยงูตกลงมา จันทรคราส จึงรีบเคี้ยวเปลือกไม้ใส่ลงไปในปากงู พองูฟื้นเลื้อยหายเข้าไปในป่า แล้วแปลงกายเป็นเด็กน้อย จันทรคราสเดินเข้าไปหาเด็กน้อย เด็กได้บอกว่าเขาคืองูตัวที่ท่านได้ช่วยชีวิตเอาไว้ และขอตอบแทนบุญคุณท่านโดยหากมีความต้องการสิ่งใดจะนำมาให้ จันทรคราส บอกว่าไม่มีความประสงค์ สิ่งใด แต่อยากจะพบภรรยาซึ่งพลัดพรากจากกันเมื่อตอนสำเภาแตก เด็กน้อยจึงมอบแก้ววิเศษให้แก่ จันทรคราส จันทรคราสอมลูกแก้วปรากฏว่าสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นดิน รวมทั้งบิดามารดาที่เมืองจำปา พี่ชายที่เมืองกาสีและนางเตวธิสังกำลังบวชเป็นชีที่เมืองอนุปะมะ จากนั้นเด็กน้อยได้หายตัวไป

    [​IMG]

    (จันทรคราสเห็นครุฑจับงูบินผ่านมา จึงทำให้ครุฑตกใจ ปล่อยงูตกลงมาตาย จันทรคราสเคี้ยวเปลือกไม้ช่วยชีวิตงู งูกลายเป็นด็กน้อย มอบแก้ววิเศษแก่จันทรคราส)

    [​IMG]
    :):มีคนบอกว่า เป็นครุฑแปลกแตกต่างจากครุฑในจิตรกรรมแบบไทยๆ::)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.3 KB
      เปิดดู:
      1,669
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.9 KB
      เปิดดู:
      1,676
  3. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    จันทรคราสเดินทางต่อไปพบกับพญาทอน (บางตำราว่า วิทยาธร) นอนจมกองเลือดเนื่องจากถูกทำร้าย แต่เขาไม่สามารถช่วยพญาทอนได้ เพราะเปลือกไม้ที่นำติดตัวมาหมดแล้ว พญาทอนขอให้ช่วยจัดการเผาศพหลังจากที่ตายและมอบดาบวิเศษให้ป้องกันตัว เวลาหิวให้เอาปลายดาบแช่น้ำผึ้งกินแทนข้าวได้ พร้อมกับร้องเท้าวิเศษอีกคู่หนึ่ง เวลาสวมใส่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เมื่อสั่งลาเสร็จ พญาทอนก็สิ้นลมหายใจ หลังจากจัดศพให้เป็นที่เรียบร้อย จึงสวมรองเท้าวิเศษและสะพายดาบวิเศษเหาะไปยัง เมืองสังกัสสะนคร

    [​IMG]

    (รูปกลางบน:พญาทอนที่ถูกทำร้ายสั่งเสียจันทรคราสก่อนตายพร้อมมอบรองเท้าวิเศษและดาบวิเศษ รูปกลางล่าง:จันทรคราสเผาศพพญาทอนตามคำร้องขอ รูปขวา:จันทรคราสเหาะด้วยรองเท้าวิเศษ)

    จันทรคราสเข้าไปพักผ่อนอยู่ในถ้ำ ขณะนั้นมีกระแสน้ำพัดเอาหญิงสาวสามคนลอยมาติดอยู่ที่หน้าถ้ำ

    [​IMG]

    (จันทรคราสพักในถ้ำ พบลูกสาวเศรษฐีสามคนลอยมาติดหน้าถ้ำ)

    ภายหลังทราบว่าเป็นลูกสาวของเศรษฐีเมืองสังกัสสะนคร ชื่อปทุมมา ทิพย์โสดา และสุกัญทา (ประทุมบุปผา ทิพยโสตเทวี และสุคนธเกศี) ฝ่ายเศรษฐีทราบข่าวว่าลูกสาวหายได้ระดมคนค้นหาแต่ไม่พบ จึงไปหาโหรให้ทำนาย และโหรบอกว่านางทั้งสามคนได้หลงทางไปไกล อีกประมาณหนึ่งเดือนจะมีชายหนุ่มนำมาส่งถึงบ้าน

    ต่อมาจันทรคราสได้พานางทั้งสามเดินทางเข้าป่า เพื่อที่จะพานางไปส่งถึงบ้านจนถึงเขตเมืองสังกัสสะนคร ผ่านโจรป่า ผ่านยักษ์ จนมาพบพรานป่า กำลังออกล่าสัตว์จึงได้สอบถามเกี่ยวกับเส้นทางที่จะไปบ้านของสามสาว

    [​IMG]

    (ทางขวา: จันทรคราสสอบถามทางกับพรานป่า เพื่อนำลูกสาวเศรษฐี ปทุมมา ทิพย์โสดา และสุกัญทา ไปส่ง ทางซ้าย:จันทรคราสพานางทั้งสาม มาถึงบ้านศรษฐี)

    ทั้งสี่คนเดินทางต่ออีกประมาณ 7 วัน จึงถึงบ้านของเศรษฐี สองเศรษฐีสามีภรรยาดีใจมากที่เห็นลูกสาวอีกครั้ง จึงได้ยกลูกสาวทั้งสามให้เป็นเมียของจันทรคราส​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98 KB
      เปิดดู:
      1,437
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78 KB
      เปิดดู:
      1,350
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      96.2 KB
      เปิดดู:
      1,395
  4. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    จันทรคราสคิดถึงนางเตวธิสังกา จึงสวมรองเท้าและอมลูกแก้ววิเศษ สะพายดาบเหาะไปถึงแม่น้ำจิระวดี ได้พักอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ เห็นผู้หญิงนั่งอยู่บนแพและร้องไห้ จันทรคราสลงไปดึงแพเข้าฝั่งและถามได้ความว่า ชื่อนางพรหมจารีถูกพญาสุตัสสะนะ (สุทัสสนจักร,สทัศนจักร)พระสวามีเอาใส่แพลอยน้ำ นางได้ขอให้พาไปส่งพ่อแม่ที่เมืองอนุธาระ(เมืองอนุราช) ด้วยความสงสาร จันทรคราสชวนให้นางพักค้างคืนที่นั่นก่อน เมื่อนางหลับสนิทจึงอุ้มเหาะไปยังเมืองอนุธาระ ขณะที่เหาะไปนั้นนางได้ฝันไปว่ามีเทพบุตรเอาแก้วให้อม สามารถมองเห็น เมืองอนุธาระ

    นางสุละโยธา (นางสุริยโยธา) แห่งเมืองปัญจา เป็นแม่เลี้ยงนางพรหมจารี ได้ฟังเรื่องต่าง ๆ นางโกรธแค้นมากที่ทำให้นางพรหมจารีต้องตกระกำลำบาก จันทรคราสได้เรียนวิชาอาคมจากนางสุละโยธา เมื่อส่งนางพรหมจารีถึงวังของพญาธัมมะขัติ(พญาธรรมขันตี)ผู้เป็นบิดาแล้ว พญากาวินตะ (พญากาวิน)ผู้ครองเมืองไกยะราชได้ส่งสาสน์และเครื่องราชบรรณาการมาสู่ขอนางจากพญาธัมมะขัติ แต่นางพรหมจารีปฏิเสธ เพราะยังเป็นหนี้บุญคุณจันทรคราสที่เคยช่วยชีวิต ในที่สุดพญาธัมมะขัติจึงได้ยกนางให้จันทรคราส

    ต่อมาขุนนางได้มาอัญเชิญนางพรหมจารีไปเป็นมเหสีของพญากาวินตะ แต่นางปฏิเสธเช่นเคยและได้บอกแก่ขุนนางไปว่า แม้พญากาวินตะจะตักน้ำมาล้างเท้าให้ทุกวันหรือเอาไปบูชาดุจพระเจ้า นางก็ไม่ยอมทั้งสิ้นพวกขุนนางจึงนำความไปกราบทูล พญากาวินตะโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง จึงยกทัพไปถึงเมืองอนุธาระ นางพรหมจารีไม่หวั่นวิตก ได้เตรียมทัพซึ่งเป็นผู้หญิงล้วน ๆ ต่อสู้กับพญากาวินตะโดยใช้อาคมต่อสู้

    [​IMG]

    (ด้านซ้าย กองทัพสตรีล้วนของนางพรหมจารี ต่อสู้กับกองทัพพญากาวินตะ โดยนางพรหมจารีควงดาบสองมือเหยียบหัวช้างเข้าสู้ต่อกรกับพญากาวินตะบนหลังช้าง เป็นภาพที่ผมประทับใจมาก )​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.3 KB
      เปิดดู:
      1,677
  5. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พญากาวินตะกระโดดขึ้นนั่งคอช้างคู่บารมีสู้รบกันบนหลังช้าง ในที่สุดต่างฝ่ายต่างหมดแรง ต่อมาพญากาวินตะถูกขุนนางจับตัวไว้ได้และ ทรมานด้วยเหล็กเผาไฟแดงฉานทาบฝ่าพระบาทจนสุกไหม้จึงยอมแพ้ (บางตำราว่า พญากวินตะใช้เวทย์มนต์ซ่อนกองทัพมาจับนางพรหมจารีแต่ถูกจับได้ โดนมัดเหมือนผูกปู)
    [​IMG]

    จันทรคราสคิดถึงนางเตวธิสังกาและขออนุญาตนางพรหมจารีกับพญาธัมมะขัติไปตามหา นางเตวธิสังกา ได้ไปอาศัยกับยายปริสุทธิก่อน วันหนึ่งนางเตวธิสังกาได้ออกจากสำนักมาเยี่ยมยายปริสุทธิ พอทราบเรื่องราวที่ยายเล่าให้ฟัง จึงเชื่อว่าชายคนนั้นคือจันทรคราสพระสวามีของตนเองแน่ ๆ จึงขอลาสิกขากับอาจารย์ด้วย ความรักอันดูดดื่มในอดีต นางถึงกับวิ่งเข้าไปสวมกอดร้องไห้ละล่ำละลัก ยายปริสุทธิจึงผูกข้อมือให้ทั้งสองคน
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.7 KB
      เปิดดู:
      1,450
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.9 KB
      เปิดดู:
      1,182
  6. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พญาสุตัสสะนะจักรรู้ข่าวการลาสิกขาของนางเตวธิสังกา พระองค์ทรงพิโรธเพราะเคยสัญญากับยายปริสุทธิแล้วหากนางลาสิกขาเมื่อใดให้บอกทันที จะมาสู่ขอเป็นมเหสี ยายปริสุทธิผิดสัญญาจึงถูกปรับเป็นช้างร้อยเชือก วัวร้อยตัว ม้าร้อยตัว เงินและทองคำอีกต่างหาก จันทรคราสจึงเนรมิตช้าง ม้า วัว เงินทองจนครบจำนวนแล้วสั่งให้เสนาอมาตย์มารับเอาไป ขณะที่เสนาอมาตย์กำลังเปิดคอกสัตว์นั้น สัตว์เหล่านั้นได้บินหนีไปหมด คงเหลือเฉพาะเงินกับทองเท่านั้น

    [​IMG]

    (เมื่อเสนาอมาตย์ของ พญาสุตัสสะนะจักร เปิดกรง เหล่าช้างร้อยตัว วัวร้อยตัว ม้าห้าร้อยตัว ที่จันทรคราสเนรมิตมา ก็บินไปสิ้น ::สุดยอดจินตนาการเลยครับ ยูนิคอนก็ยูนิคอนเถอะ เจอช้าง กับวัวบินก็จ๋อยเลย::)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94 KB
      เปิดดู:
      1,290
  7. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พญาสุตัสสะนะจักร รู้ข่าวว่าพญาพันธุ (พระยาพุทธโคษา) เจ้าเมืองกันทะรัฐ (เมืองคันธาระ) มีธิดาสวยชื่อ นางอุตตะมะธานี(อุตมธานี) จึงให้ขุนนางไปสู่ขอเป็นมเหสี ขณะนั้นกองทัพของนางพรหมจารีบุกมาถึงเมืองอนุปะมะ (เมืองอนุกรม) พอดี

    [​IMG]

    (กองทัพนางพรหมจารีเดินทางไปทำสงครามกับพญาสุตัสสะนะจักร แห่งเมืองอนุปะมะ)

    นางได้ส่งสาสน์ท้าให้พญาสุตัสสะนะจักรมาทำสงคราม เมื่อกองทัพบุกประชิดเมืองนางจึงสั่งให้ยิงปืนถล่มกำแพงเมืองจนพังทลาย กระสุนปืนถูกวังของพญาสุตัสสะนะจักร ทหารจับตัวพญาสุตัสสะนะจักรได้แล้วนำไปประหารชีวิต

    เมื่อเสร็จสิ้นศึกสงครามนางพรหมจารีได้ยกเมืองให้จันทรคราสกับ นางเตวธิสังกาปกครองต่อไป

    ฝ่ายขุนนางทั้งหลายที่ไปสู่ขอนางอุตตะมะธานี รู้ข่าวพญาสุตัสสะนะจักรถูกประหารชีวิต จึงยกนางอุตตะมะธานี (นางอุดมธานี) ให้เป็นมเหสีของจันทรคราสอีกคนหนึ่ง ต่อมานางได้ตั้งครรภ์จันทรคราสดีใจมากที่จะได้ทายาทไว้สืบสกุล จึงได้มอบหมายให้นางเตวธิสังกาและขุนนางคอยปฏิบัติรับใช้เอาใจใส่เป็นพิเศษ ต่อมาเมืองกันทะรัฐได้เกิดศึกสงคราม จันทรคราสจึงอาสาไปช่วยรบและได้มอบให้ขุนนางช่วยดูแลเมืองอนุปะมะแทน

    หลังจากเสร็จสิ้นสงครามซึ่งใช้เวลาถึง ๓ ปี จันทรคราสก็กลับถึงเมืองอนุปะมะทราบว่า นางอุตตะมะธานีคลอดบุตรเป็นชาย จันทรคราสปลื้มใจมาก และให้โหรทำนายลักษณะพร้อมทั้งตั้งชื่อให้ว่า“ทุกขัติยะวงศา” เมื่อเจ้าชายเจริญวัย จันทรคราสได้มอบเมืองอนุปะมะให้แก่เจ้าชายและนางอุตตะมะธานี ปกครองต่อไปส่วนจันทรคราสกับนางเตวธิสังกา กลับไปครองเมืองอินตะปะถะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ นางเตวธิสังกาด้วยความสุข.
    ที่มา:ส่วนหนึ่งจาก หนังสืออ่านประกอบ สื่อสารภาษา ท่าวังผาน่าอยู่ คู่เมืองน่าน จิตรกรรมสูงค่าฝาผนังวัดหนองบัว เรื่อง....จันทรคราสชาดก
    โดย : นัทธมน คำครุฑ

    เรื่องราวจากเว็บ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.7 KB
      เปิดดู:
      1,338
  8. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    จัดส่งแล้วจ้า

    ex105233296th
     
  9. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พี่ชายท่านหนึ่งเล่าขอเสริมเรื่อง " พระปิดตาจันทคราส" ให้ฟังว่า ที่หลวงปู่สร้างถ้ามองกันผิวเผินก็อาจจะว่าก็ปู่สร้างให้ศิษย์ไว้คุ้มตัวอันนี้ก็ถูกอยู่ แต่ถ้ามองให้ลึกใช้ปัญญาพินิจพิจารณากันให้ดีๆ หลวงปูีท่านไม่ใช่พระธรรมดา ท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีมานับภพนับชาติไม่ได้ ปัญญาท่านต้องเป็นเลิศแน่ไม่ใช่ปัญญาแบบเรา ๆท่าน ๆ และด้วยลีลาของท่านที่ชอบเล่านิทานชาดก หรือเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ล้วนมีความเกี่ยวพันกับท่านทั้งสิ้น ดังนั้นการสร้างพระจันทคราสน่าจะบ่งบอกอะไรบางอย่างเช่นกัน หรือจะบอกว่าท่านเป็นใคร? ในอดีตมาบ้าง อย่างเช่นจำปาสี่ต้น เป็นต้น.

    เราลองมาไขรหัสปริศนานี้ดูกัน บ้านเกิดหลวงปู่ท่านอยู่ที่อำเภอเชียงขวัญ (เดิมคือบุ้งเชียงขวัญ) ท่านถือกำเนิดในสกุล "จันทคัต" นามสกุลช่างใกล้เคียงกับจันทคราสจริงๆ

    บ่งบอกอะไรในอดีตไหม?ส่วนฉายาท่าน"พุทธปัญโญ" กับ"รัตนโคตร"บ่งบอกอะไรในอนาคตอย่างไร น่าคิดนะครับ หรือจะเป็นความบังเอิญก็ไม่รู้ซินะ (บ่อมีญานทัสนะ) ลูกศิษย์เคยได้ยินหลวงปู่พูดถึงว่า"หลวงปู่ทวดนั่งสมาธิบนดวงจันทร์ได้ ท่านก็นั่งบนดวงจันทร์ได้เหมือนกัน เรื่องราวที่ทีานเล่าให้ลูกศิษย์ฟังในแต่ละเรื่อง เขาเชื่อว่าหลวงปู่คือตัวละครในเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำปาสี่ต้น ก็ดี หรือเรื่องกวางทองโพธิสัตว์ หรือเรื่องจันทคราสชาดก ก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าหลวงปู่ท่านทรงฌานสมาบัติอยู่ตลอด ใครไปใครมาหาท่าน ๆ รู้หมดเป็นใครในอดีต มาจากไหน และจะไปไหน ล่วงรู้บุพกรรมหมด ไม่ว่าเหตุการณ์ในอดีตจนไปจนถึงเหตุการณ์ในอนาคต มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ลูกศิษย์ท่านเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ท่านชอบดูมวย พอดีมีข่าวมาขั้นรายการมวย ก็ปรากฎเป็นภาพนายกทักษิณ ท่านเห็นก็พูดกับลูกศิษย์ว่าคนนี้อีกหน่อยจะไม่ได้อยู่เมืองไทย ขณะนั้นลูกศิษย์ก็ฟังแล้วเฉยๆไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นอีกหลายปีก็มีเหตุการณ์ทำให้ท่านไปอยู่เมืองนอกจริงๆ ดั่งคำพูดปู่พูดไว้ไม่ผิด นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ เท่านั้น เกี่ยวกับญานทัสสนะของหลวงปู่ต้องบอกว่าสุดยอดจริงๆครับ

    ดังนั้นถ้าเราถอดรหัสจากพระเครื่องที่ท่านสร้างก็จะทราบถึงเหตุการณ์ในอดีตสู่อนาคตและที่สำคัญล้วนเกี่ยวกับท่านครับ จากจันทคราสในอดีต. ลองไปดูพระพิทักษ์โลกที่ท่านสร้าง. ทำไมต้องเป็นพิทักษณ์โลกบ่งบอกถึงอะไรรึเปล่า? รูปแบบพระพิทักษ์โลก เป็นรูปพญาธรรมนั่งบนลูกโลกทั้งใบ (หมายถึงปกครองโลกมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด) บอกอะไรในอนาคตข้างหน้าหรือไม่? หรือจะบอกว่าใครกันแน่ที่นั่งบนลูกโลก ผู้ที่นั่งบนลูกโลกก็คือพญาธรรมิกราชที่จะมาค้ำชูศาสนาหลังกึ่งพุทธกาลนั่นเอง ในคัมภีร์กล่าวไว้ว่า ท่านจะเสด็จมาในช่วงเกิดกลียุค ที่มีภัยพิบัติ10ประการ. ในบางตำนานล่าวว่าท่านขี่ม้าขาวออกสีควันบุหรี่ มือถือต้นชี้ตายปลายชี้เป็น เพื่อชุบชีวิตคนบุญที่ตายแล้วให้กลับฟื้นคืนชีวิต (เหมือนเรื่องหนังจักรๆวงศ์ๆนะครับ) ซึ่งดันไปตรงกับคัมภีร์ของชาวฮินดูในเรื่อง"นารายณ์สิบปาง"เป็นการอวตารของพระนารายณ์เพื่อมาช่วยโลกในแต่ละยุคแต่ละสมัย ปางที่สิบนี้มีชื่อว่า "กัลกีวตาร" เป็นกษัตริย์ขี่ม้าขาว ในมือทรงอาวุธเช่นกัน ช่างบังเอิญมาสัมพันธ์กับพระพิทักษ์โลกของหลวงปู่และที่วัดก็มีสร้างพญาธรรมขี่ม้าถืออาวุธเช่นกัน และที่วัดก็ชื่อ"วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร"มีคำว่า"พระราม"ซึ่งก็คืออวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์เช่นกัน เพียงแต่คนละยุคกันเท่านั้น น่าคิดนะครับ หรือแม้แต่พระเครื่องรุ่นสุดท้าย เนื้อว่านซึ่งมีส่วนผสมไพรดำรวมอยู่ด้วย มีชื่อเรียกกันว่า"พิมพ์พระศรีย์" เป็นรูปพระศรีอริยเมตไตรย์ทรงเครื่อง ก็น่าจะบ่งบอกถึงอะไรบางอย่างอีกเช่นกัน ซึ่งยุคพระศรีย์นี้ถือว่าเป็นยุคทองมีความสงบ เจริญรุ่งเรืองในด้านจิตวิญญาน ในยุคนั้นปราศจากการเบียดเบียน มีแต่เมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2014
  10. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    พระปิดตาจันทราคราส เนื้อเหล็กใหลเงินยวง ​


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    เหล็กใหลเงินยวงของหลวงปู่ ไม่ได้ทำพิธีกรรมแบบบังคับให้เหล็กใหลมาอยู่กับเรานะครับ เป็นเหล็กใหลเงินยวงที่ เทวดา ท่านนำมามอบให้ และก็มีบ้างที่ท่านคว้าในอากาศ

    ลองพิจราณาดูนะครับ บังคับให้คนอื่นมาเป็นพวกเรา กับคนอื่นยินดีที่จะมาช่วยเรา

    และชุดนี้เป็นชุดที่หลวงปู่สั่งไว้ เมื่อถึงเวลาให้ออกมาให้คนที่เชื่อศรัทธาหลวงปู่ ที่สำคัญหลวงปู่หล่อหลอมเองกับมือหลวงปู่ทุกองค์ จึงไม่เหมือนพระโรงงานนะครับ

    ลองคิดดูหลอมเหล็กในฝ่ามือประกบในบล็อกดินน้ำมัน ท่านทำอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2014
  12. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  13. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  14. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  15. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  16. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
  17. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ตะกรุดหลวงปู่ทองทิพย์ ขนาด ๒ นิ้ว ท่านใดจะบูชาเชิญได้นะครับ ๒,๕๐๐ บาท มีแค่สิบดอกหมดแล้วหมดเลยจ้า

    เคยมีคนเอาไปแขวนคอน้องหมาและยิง ก็ยิงไม่ออกโดนหลวงปู่เอ็ดไปแทบไม่กล้าเข้าวัดเลยฮะ

    สิ่งดี ๆ ก่อนปีใหม่นะครับไม่ผิดหวัง รับประกันความแท้ และรับประกันความปลอดภัย


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    มีคนหาตะกรุดหลวงปู่ทองทิพย์ ถามผมว่าจะหาได้ที่ไหน เขาหามาหลายสิบปี ไม่เจอสักที ทำไมผมมีเยอะจัง ก็ตอบเขาตรง ๆ ครับว่า หลวงปู่เมตตาแค่นั้นหละครับ พอท่านเมตตาก็จะพบเจอท่าน แต่เมื่อเจอแล้วก็ต้องมีกำลังที่จะเก็บ และเมื่อเจอแล้วปล่อยให้หายไปก็อาจจะไม่พบเจออีกเลย เพราะวัตถุมงคลของหลวงปู่ ที่หลวงปู่ท่านจารให้มีน้อย เพราะลูกศิษย์จะนำไปขอความเมตตาให้ท่านจารให้ ใครนำไปท่านก็เมตตา ตอนนี้หลวงปู่ท่านละสังขาร คนที่เขามีก็นำออกมาให้บูชากัน แต่ก็มีเท่าที่เห็น ไม่ได้มีเป็นร้อยเป็นพัน หลักสิบเอง ดังนั้นเห็นแล้วก็ต้องรีบ มีเท่าที่เห็น
     
  19. อภิชาติ๖๐

    อภิชาติ๖๐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +138
    ขอราคาด้วยจ้า.5555
     
  20. apisab

    apisab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,083
    ค่าพลัง:
    +1,704
    ปิดตาสองหน้า V๓ องค์ที่ ๑ เนื้อเหล็กใหลเงินยวง

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...