สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระกรุลำพูนอายุ๕๐๐-๗๐๐ ปี

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 13 มีนาคม 2008.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ทราบล่วงหน้าแล้วว่า จะนำมาลงในหนังสือ ใช่ไม๊
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ขอให้เดินทางปลอดภัยและมีสิ่งดีๆอะไรมาถ่ายทอดให้รับรู้ด้วยครับ



    ขออาราธนาสิ่งศักดิ์ทุกๆพระองค์ที่คุณเพชรเคารพนับถือ ให้คุ้มครองคุณเพชร เดินทางปลอดภัยในทุกๆที่ที่ไป คิดสิ่งใดของให้ประสบความสำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ

    อย่าลืมนะครับ ถ้าไปเจอไม้รักพม่า ที่เป็นรักสมุ (รักสีน้ำเงิน) นำกลับมาด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    555555 อยากเห็น"รักสมุพม่า"เช่นกัน จะไปลองหาดู ผมไม่มั่นใจว่าจะสื่อสารกับคนพม่ารู้เรื่องหรือเปล่า อังกฤษปกครองพม่ามาระยะหนึ่งน่าจะเก่งกว่าเราครับ ที่นี่จะมีไม้แกะสลัก ผมคิดๆแล้วก็ไม่อยากเอาอะไรกลับมาเลยนะ กะว่าแลกตังค์ไปเพียง ๒,๐๐๐ บาทก็พอ ประมาณ ๖๐,๐๐๐ จ๊าด มีบางท่านกล่าวว่า หากนำพระพุทธรูปพม่ามาที่ห้องพระ หากในห้องพระ หรือในบ้านพักมีพระรูปเหมือนสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอยู่จะเป็นปัญหามาก เหมือนมีสื่อของการรบราฆ่าฟันกันอยู่
    </td> </tr> </tbody></table>
    ไม้รัก หรือยางรักสมุ ผมฝากซื้อมาหน่อยนะครับ อยากเห็น จะได้ไว้ศึกษาครับ

    .

    ใช่แล้วครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

    ถ้าเจอพระพุทธรูป(พระบูชา)ที่แกะด้วยไม้รัก ถ้างบประมาณไม่เกิน 500 บาท หนักตัก ไม่น้อยกว่า 3 นิ้วนะครับ ผมฝากบูชามา 1 องค์ ผมจะอัญเชิญไปขอพระเมตตาหลวงปู่อธิษฐานจิตครับ ขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งนะครับ
     
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ไม่ทราบว่าผู้ที่อัญเชิญพระธาตุพระแม่ท่านเสด็จมาแล้วแต่ละท่านมีประสบการณ์อย่างใดบ้างถ่ายทอดให้ทราบบ้างนะครับ
     
  7. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    ได้รับพระธาตุโมคคัลลานะและพระธาตุแม่กวนอิมแล้วค่ะ ได้ขอขมาและอัญเชิญท่านตามคำแนะนำด้วยค่ะ แต่ ไม่มี CD ที่ขอไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันพรุ่งนี้ ผมจะจัดส่งแบบ EMS ไปให้ครับ ขออภัยด้วยครับ สิ่งที่อยากบอกคุณ thanyaka คือ เมื่อคราวสัปดาห์หนังสือในวหนึ่ง ผมได้พบท่านผู้หนึ่งในร้านหนังสือเก่า เพื่อนเจ้าของร้านได้เป็นบุคคลที่เคยไปพบคุณไพศาล แสนไชย ที่ลำพูน ท่านยังแนะนำสถานที่รับหนังสือชุดนี้ทั้งหมดให้ทราบด้วย ด้วยการทำบุญธรรมทานเพียง ๒๐๐ บาทเท่านั้น..แค่เอกสาร xerox ของคุณthanyaka ก็มีเชื้อหาเล่มจริงพบแล้วครับ ขอบคุณมาก...

    เพิ่งกลับจากพม่าเช้าวันนี้เอง เป็น trip ที่สุดยอดมาก เหมือนกับที่คุณdragonlord บอกกล่าวไว้จริงๆ

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>24-04-2008 01:54 PM</TD></TR><TR title="โพส 1141347" vAlign=top><TD class=alt1 align=middle width=125>sithiphong</TD><TD class=alt2>คิดถึงคุณเพชรจังเลย

    ไม่รู้ว่า จะมีรักสมุมาฝากกันบ้างหรือเปล่า

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมถามหาจากไกด์แล้ว เธอไม่รู้จัก และก็ไม่ทราบจะไปถามหาที่ไหน เนื่องจากเวลาของการไปแต่ละสถานที่ก็จำกัดมากกับเวลา ๓ วันเต็ม(วันที่ ๔ กลับ ๖ โมงเช้า) ข้อมูลพวกนี้มันเลยเคว้งจริงๆ ที่พม่ากลับไม่นิยมของขลังแบบตามวัดต่างๆของไทยเราจัดสร้างเลยครับ กลับเป็นชาวบ้านจัดสร้างพระพุทธรูปจากไม้แกะนี่กลับมาก พระที่ชาวบ้านพม่าศรัทธา และบูชากันคือ พระพุทธเจ้า พระอุปคุต พระสิวลี พระโลกา พระแม่กวนอิม เป็นไม้แกะจากไม้จันทร์หอม และไม้กฤษณา ไม้จันทร์หอมจะหอมกว่าไม้กฤษณา และมีราคาที่สูงกว่า การต่อรองราคาจะต้องต่อรองแบบสุดๆ ไม่ต้องไปเกรงใจคือลดลงมากกว่า ๕๐% และเขาจะบอกราคาเงินไทยมา ชาวบ้านที่นั่นชอบเงินไทยมาก ๑ บาท แลกได้ ๓๐ จ๊าด(ไกด์จะแลกเปลี่ยนไปเรา ๑ บาทแลกได้เพียง ๒๕ จ๊าด) ผมไปเที่ยวนี้นำเงินไทยไปเพียง ๒,๐๐๐ บาท ยังเหลือกลับมา ประมาณ ๔๐๐ บาท ที่พม่าราคาก๋วยเตี๋ยว ๑ ชาม ประมาณ ๕๐๐ จ๊าด หากอัตราแลกเปลี่ยนเงินไทยต่อเงินดอลลาร์ บาทเราแข็งกว่าดอลลาร์เมื่อไหร่ น่าสนใจในการไปเที่ยวประเทศเหล่านี้มาก เพราะได้เปรียบมาก
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    Trip พม่านี้ไม่ทราบว่าผู้ดูแลระบบจะเห็นว่าขัดแย้งกับกระทู้นี้หรือไม่นะครับ แต่ท้ายสุดจะขมวดปมให้เกี่ยวข้องกันให้ได้..55555

    หากนำแต่ภาพของสถานที่สำคัญๆมา post เกรงว่าจะดูจริงจังกันเกินไป เลยคิดว่าน่าจะสนุกๆกันดีกว่าโดยแทรกบรรยากาศตามท้องถนนของชาวพม่า อาหารการกินที่ไปทานกันมาเข้าไปด้วยจะได้ประโยชน์กันมากกว่า เผื่อว่าจะมีเพื่อนๆจะเดินทางกันไปในอนาคตอันใกล้นี้จะได้เป็นแนวทางเพิ่มเติมจากไกด์ที่นำเที่ยวนั้น การเดินทางไปเองในประเทศนี้ค่อนข้างลำบาก ทั้งภาษา(ภาษาอังกฤษเขาดีกว่าเรามาก) ข้อห้ามการพูดคุย ข้อห้ามการถ่ายภาพในสถานที่ทางราชการ ระยะทางของสถานที่สำคัญๆ ล้วนเป็นอุปสรรคของการเดินทางแบบ back pack มาก และค่าใช้จ่ายไม่คุ้มเลยกับการเหมารถไปลุยคน ๒ คน การเดินทางไปกับไกด์ทัวร์จึงน่าจะเหมาะสมกว่า ให้ชำนาญทางมากกว่านี้ และประเทศเปิดมากกว่านี้จะดีที่สุดครับ..

    ถนนหนทางของพม่า รถยนต์ทั้งหลายต้องขับทางด้านขวา เท่าที่สังเกตดูแล้วรถประจำทาง พวงมาลัยอยู่ขวา ประตูขึ้นลงด้านซ้าย เวลาแซงรถข้างหน้าต้องแซงซ้าย บ่อยครั้งที่ดูแล้วอันตรายพอสมควร ที่ย่างกุ้งนี้ จะเห็นพระเจดีย์ชเวดากองชัดเจน เพราะสูงมาก อาหารเช้ามื้อแรกประมาณ 8.30 น. ของ trip นี้ ที่ร้านอาหารชื่อ Oriental House เป็นร้านติ๋มซำเลิศรส ไปนั่งใน"โต๊ะเสือ" เลยต่างคนต่างหยิบแบบบุฟเฟ่ต์ ผมนับดูแล้วน่าจะประมาณเกือบ ๗๐ เข่ง ต่อ ๙ คนบนโต๊ะ เรียกว่าฝ่ายเสริฟ กับฝ่ายคนไทยนี่ทำเวลากันรวดเร็วน่าดูทั้งคู่ เรียกว่าทางฝ่ายพม่า และฝ่ายคนไทยตกใจ และหัวเราะกันถึงการทำเวลาที่ดูสูสีกันมาก...(good)
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มีการเปลี่ยนแปลงการเดินทางโดยสลับสถานที่สำคัญๆด้วยประสบการณ์ของไกด์ท้องถิ่นแล้ว มานึกทบทวนในวันสุดท้ายก็รู้สึกเห็นด้วยจริงๆ เดินทางมาที่เมืองสิเรียมประมาณ ๔๕ ก.ม.จากย่างกุ้ง พระเจดีย์เยเลพญาจึงเป็นสถานที่แรกที่ไปกราบสักการะกัน การถอดรองเท้าเดินกันในเขตบริเวณวัดเป็นเรื่องราวปกติที่ชาวพม่าทุกคนปฏิบัติกันอยู่แล้ว

    เมืองสิเรียมนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้ง กับแม่น้ำอิระวดี พระเจดีย์เยเลพญาอยู่บนเกาะกลางน้ำ การเดินทางจึงต้องเดินทางด้วยเรือประการเดียว ขึ้นฝั่งจะมองเห็นเทพรักษาประตูทั้งซ้าย และขวา คล้ายท่านท้าวจตุคามรามเทพของบ้านเรา รูปเทวดาที่นี่อาจจะมีเครื่องทรงที่ต่างจากเองไทยเรามาก รวมทั้งการให้สีที่มีความคล้ายกับสีผิวของคนจริง เทวดาของเมืองไทยจะมีสังวาลย์เท่านั้น แต่เทวดาที่นี่จะมีเครื่องทรงที่ดูมิดชิด พระพุทธรูปทรงเครื่องทองคำที่สวยงามองค์นี้มีพระนามว่า"พระงาซัด" เป็นพระพุทธรูปที่มีความสวยงามมาก ชาวสิเรียมจะศรัทธาพระอุปคุตมากสร้างไว้กลางน้ำ จะมีหินศักดิ์สิทธิ์ทองไว้เสี่ยงทายคล้ายการยกช้างของบ้านเราโดยอธิษฐานสลับกัน ๓ ครั้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    จุดต่อไปคือพระเจดีย์โบตะทาวน์ เป็นเจดีย์ที่สร้างไว้เพื่อรับพระเกศาธาตุ จำนวน ๑ เส้น ก่อนที่จะอัญเชิญไปบรรจุที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ภายในเป็นทองคำทั้งหมด การเก็บรักษาจึงบรรจุไว้ในห้องกระจกเล็กๆ เปิดช่องให้ผู้ศรัทธาโยนเงินเข้าไป ถ่ายภาพไปก็รู้สึกแสบตาเพราะประกายทองสว่างไสวไปหมด ยอดเจดีย์ที่ถูกฟ้าผ่าล้มลงมาก็นำมาเก็บรักษาบรรจุไว้ในครอบกระจก เชื่อกันว่า หากต้องการความสำเร็จ ความสมปรารถนา ให้เอาหน้าผากแตะทองคำใต้ครอบกระจกนั้น


    ที่นี่จะมี "เทพทันใจโบตะทาวน์" (ไม่ใช่หลวงพ่อทันใจ หรือพระทันใจของบ้านเรา) เทพที่บันดาลความสำเร็จให้ทุกท่านที่มีศรัทธา และอธิษฐานขอเพียงเรื่องเดียว มีชื่อเสียงมากกว่าเทพทันใจในที่ต่างๆของพม่า บวงสรวง และบนด้วยผลไม้ ดอกไม้ ธูปเทียน ชุดละ ๒,๕๐๐-๓,๐๐๐ จ๊าด ประมาณ ๘๐-๑๐๐ บาท เชื่อว่าขออะไรจากท่านก็สามารถขอได้ทันใจ ให้สังเกตว่า เทพทันใจโบตะทาวน์นี้จะชี้นิ้วชี้ ข้างขวายื่นไปข้างหน้าในลักษณะ"การประกาศิต" หากต้องการให้ท่านสงเคราะห์ในเรื่องใด หลังจากถวายผลไม้ ธูป เทียน ดอกไม้ ผ้าสีพันรอบกายแล้ว ก็จะอธิษฐานจิตขอให้ท่านสงเคราะห์ขณะที่ยืนขึ้น ให้หน้าผากของเราแตะกับนิ้วชี้ที่ยื่นไว้แล้วของรูปเทพทันใจโบตะทาวน์...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2008
  15. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    คุณเพชรคะ
    วันนี้ได้โอนเงิน 1500 บาทเรียบร้อยแล้วนะคะ
    ที่ scb สาขา นิชดาธานี
    (สำหรับบูชาพระธาตุพระโมคคัลลานะเถระ 9 องค์ค่ะ)
    ขอบคุณมากนะคะ
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาถึงอาหารเที่ยงหลังชม และสักการะพระเกศาธาตุแล้ว ที่ร้านอาหารชื่อว่า "Western Park" มีชื่อเสียงด้านกุ้งมังกร(กอน) และเป็ดปักกิ่ง (มาทานที่พม่า น่าจะชื่อเป็ดเมียนม่านะ)ร้านนี้ผมให้ ๕ ดาวเลยนะครับ แม้ว่าจะทานกุ้งมังกรไม่ได้เลยก็ตาม ชมภาพกันเลยดีกว่านะครับ เมนูปลาที่สด และอื่นที่จานใหญ่ และรสชาดดีมาก...มาพม่าต้องตั้งใจมาร้านนี้ให้ได้กันนะ ถือว่าดีที่สุดใน trip พม่าครั้งนี้...อร่อยจนลืมเก็บภาพเมนูปลามาให้ชมกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2008
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สาวพม่าแทบจะทุกคนจะทาแป้งที่ทำจากเปลือกไม้ชนิดหนึ่ง ชื่อว่า "ทานาคา" ในเมื่อจะทา เดี๋ยวนี้ก็เลยประดิษฐ์การทาบนใบหน้าในรูปแบบที่มีลวดลายสวยงาม เรียกว่าตกแต่งกันเป็นแฟชั่นกันไปเลย..

    และใครว่าพม่ายากจน หากเห็นภาพนี้แล้วจะไม่เชื่อ ในอนาคตพม่า อาจจะต้องทุ่มเทงบประมาณส่วนหนึ่งมารณรงค์การลดความอ้วนในเด็กที่เพิ่มมากขึ้น...

    ผู้หญิงในชุดข้าราชการผ้าม่วงในรถบรรทุก สภาพแวดล้อมการตั้งร้านขายกาแฟขนาดเล็กๆที่สามารถพบได้ทั่วไปในพม่า การยกเทินสิ่งของด้วยศีรษะ ผู้ยากไร้ยากจนที่สามารถพบได้ทั่วไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2008
  18. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ดูแล้วอยากไปเลยพี่เพชร
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นี่ยังไม่ถึงจุด highlight เลยนะครับ กวง หากถึงสถานที่สำคัญๆ ๒ จุดแล้วจะตื่นตาตื่นใจ มุมมองต่อพม่าเปลี่ยนไปบ้าง

    หากทางรัฐบาลเขาเปิดประเทศเมื่อๆไหร่ พี่ไทยเราคงสู้ลำบาก ที่นั่นเขารับทีวีไทยได้ทั้ง ๓-๕-๗-๙-๑๑ เรียกว่ารู้เราทุกอย่าง แต่เราไม่รู้เขานี่เลยสิ..แบบนี้ลำบาก เขาดูละครไทย โฆษณาไทยเหมือนการซึมซับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ความคิด การแสดงออกของทางฝั่งไทย เขามีทรัพยากรที่มากมายจริงๆ ประชากรน้อยกว่าเราร่วมๆ ๑๐ ล้านคน แต่พื้นที่มากกว่าเรา และยังเป็นตลาดที่ใหม่มาก ภาษาอังกฤษของเขานี่เรียกว่าคล่องปรื๋อ พี่ลงค้นดูความสัมพันธ์ทางการฑูตของไทย-พม่าแล้ว สรุปได้ดังนี้ครับ..
    <TABLE borderColor=#9900cc cellSpacing=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>
    สหภาพพม่า เป็นประเทศที่ 3 ในทวีปเอเซียต่อจากเวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับพม่า ถึงแม้ว่าการเสด็จฯครั้งนี้ จะมีระยะเวลาสั้นเพียง 4 วัน และได้ประทับอยู่แต่เพียงในนครย่างกุ้งก็ตาม
    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น นับเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ไทยเสด็จฯ ไปทรงเยือนสหภาพพม่าอย่างเป็นทางการ เพื่อวางรากฐานความสัมพันธ์และยืนยันถึงมิตรภาพฉันท์พี่น้องระหว่างประเทศทั้งสองที่มีต่อกัน อีกทั้งเป็นการกระชับเกลียวสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศในด้านวัฒนธรรม ศาสนา และความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจอันดีต่อกันได้ไม่ยาก
    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>สหภาพพม่า เป็นประเทศที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติ โดยมีถึงกว่า 135 เชื้อชาติจากประชากรราว 50 ล้านคน
    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>
    ทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพพม่า ไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับพม่าเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2491 และมีการเปิดสถานเอกอัครราชทูตของทั้งสองฝ่ายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2492 ไทยและพม่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน โดยมีความสัมพันธ์กว้างขวางในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ
    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>ย่างกุ้ง
    ย่างกุ้ง คืออดีตเมืองหลวงของสหภาพพม่าหลังยุคอาณานิคม เป็นส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยมปากน้ำอิระวดี โดยตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งปากทางสู่ทะเลอันดามัน และห่างทะเลราว 21 ไมล์ ในทางธรณีวิทยา สันนิษฐานว่าแผ่นดินดังกล่าวเคยเป็นเกาะกลางทะเล เช่นเดียวกับเมืองพะโค หงสาวดี และปากน้ำอิระวดีก็เคยอยู่ลึกไปถึงเมืองแปรเกือบกลางประเทศ ส่วนตำนานการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ระบุว่าพื้นที่นี้เคยเป็นเมืองโอกะหล่าปะมาก่อน ซึ่งเก่าแก่ ถึง 2,500 ปี ในสมัยพุทธกาล

    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=130>ต่อมาในยุคล่าอาณานิคม อังกฤษได้ยึดเมืองนี้ไว้ในปี พ.ศ.2395 และตั้งย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงของพม่าตอนล่าง เพื่อความสะดวกในการติดต่อค้าขายทางทะเล ชื่อเมืองย่างกุ้งที่ฝรั่งเรียกนั้น คือ แรงกูน ( Rangoon ) เขียนเพี้ยนไปเพราะอิงตามรูปอักษรพม่า รัฐบาลอาณานิคมอังกฤษได้ค่อยๆ พัฒนาเมืองนี้ให้เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางราชการและการค้า ดังพบว่ามีถนนหนทางและตึกรามร้านค้าเป็นแถวแนวได้สัดส่วน สิ่งปลูกสร้างเป็นแบบยุคอาณานิคม จนปัจจุบันกลิ่นไอสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมยังปรากฏให้เห็น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกปรับใช้เป็นสำนักงานกระทรวง กรม กองของรัฐ ตลอดจนอาคารร้านค้าและที่พักอาศัย

    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>ในตอนที่พม่าทั้งประเทศเพิ่งตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ในปี พ.ศ.2428 นั้น ประชากรในเมืองย่างกุ้งมีชาวพม่าแท้ๆอาศัยอยู่เพียงบางตา แต่เป็นแขกเสียร้อยละ 50 อีกร้อยละ 10 เป็นคนจีน ส่วนใหญ่เข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างอังกฤษ พอพม่าได้รับเอกราชในปี พ.ศ.2491 ยังมีแขกและจีนตกค้างอยู่ในเมืองย่างกุ้งเป็นจำนวนมาก พอในปี พ.ศ.2505 รัฐบาลสังคมนิยมของนายพลเนวิน ได้ประกาศนโยบายปิดประเทศ คนต่างด้าวจึงต้องออกนอกประเทศ ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ในเมืองย่างกุ้งเป็นชาวพม่า ส่วนแขกและจีนมีจำนวนน้อยลงมาก และมีเฉพาะผู้ที่หันมาถือสัญชาติพม่าเท่านั้น แขกในพม่ามีทั้งแขกฮินดู และแขกอิสลาม ส่วนชาวจีนนั้น ส่วนใหญ่เป็นจีนกวางตุ้ง

    สำหรับตัวเมืองย่างกุ้งนั้นมีภูมิทัศน์งามแปลกตา ผสมกลมกลืนด้วยอาคารบ้านช่องทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ ไม้ใหญ่ ทะเลสาบ และถนนหนทาง สิ่งโดดเด่นอีกอย่างของย่างกุ้ง คือ ย่างกุ้งเป็นเมืองนานาศาสนา ด้วยมีศาสนสถานหลากหลาย ไม่ว่าพุทธ ฮินดู อิสลาม คริสต์ และขงจื้อ กระจายตามย่านชุมชน โดยเฉพาะเจดีย์นั้น ย่างกุ้งเป็นเมืองเจดีย์เมืองหนึ่ง เป็นรองก็แต่พุกาม มเย่าก์อู และมัณฑะเลย์

    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>ผังเมืองของย่างกุ้งในปัจจุบัน มีรากฐานมาจากยุคอาณานิคม โดยกำหนดให้เจดีย์ซูเหล่เป็นแกนกลางของการตัดถนน โดยวางถนนเป็นแนวนอนขนานไปกับแม่น้ำย่างกุ้งจากทิศตะวันออกไปตะวันตก จากนั้นก็ตัดถนนขนานไปกับถนนเส้นหลัก เรียกว่าเป็นการวางผังเมืองในแบบกระดานหมากรุก

    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=91>ย่างกุ้งจากที่เคยเป็นเมืองหลวงที่มีโครงสร้างเป็นระบบแบบมหานครมาก่อน กลับต้องแบกรับภาระความเจริญเติบโตที่ยากจะควบคุม อีกทั้งย่างกุ้งมีปัญหาเรื่องระบบสาธารณูปโภค ยังต้องแบ่งสันการใช้ไฟฟ้าให้ย่านต่างๆ เป็นเวลา ปัจจุบันย่างกุ้งจึงอาจกำลังมีปัญหา อันเนื่องจากการขยายตัวและความหนาแน่นของประชากร ที่อาจส่งผลกระทบต่อทางการเมือง การปกครอง และการพัฒนา

    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55>การย้ายศูนย์กลางราชการไปยังเมืองพินมะนา ( Pyinmana ) จึงอาจเป็นทางออกของปัญหา โดยปล่อยให้ย่างกุ้งเป็นเพียงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ แล้วตั้งเปียงมนาให้เป็นศูนย์ราชการ อย่างไรก็ตาม ย่างกุ้งยังถือเป็นนครหลวง ในขณะที่พินมะนากลายเป็นราชธานีเป็นที่พำนักของผู้นำประเทศ ที่ทำการรัฐบาล และที่ตั้งของกระทรวงต่างๆ
    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=34>
    สรุปเหตุการณ์สำคัญของสหภาพพม่า (ฉบับย่อ)


    </TD></TR><TR class=style38><TD colSpan=2 height=55><TABLE borderColor=#cccccc cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=1><TBODY><TR><TD width="16%">พ.ศ. 1587 </TD><TD width="84%">พระเจ้าอะนอระธา สถาปนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...