สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุฟองวองพัดถล่มจีน มีผู้เสียชีวิต 5 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 31-07-2551 | 16:55:09 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 31 ก.ค.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดเหตุโคลนถล่มทับบ้านเรือนแถบภูเขาในเนปาล

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 31-07-2551 | 17:28 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เกิดเหตุโคลนถล่มทับบ้านเรือนหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านแถบภูเขาทางภาคตะวันตก ของเนปาลเมื่อเช้าวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน ในจำนวนนี้ 7 คน เป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังช่วยกันค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้กองโคลน
ทั้งนี้ เหตุโคลนถล่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งในเนปาล ช่วงฤดูมรสุมของทุกปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ไปจนถึงเดือนกันยายน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จ.น่าน ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินไข้เลือดออก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 สิงหาคม 2551 12:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทหาร จ.น่าน เร่งฉีดพ่นหมอกควัน เพื่อทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และแจกทรายอะเบทให้กับโรงเรียน และชาวบ้านใน ต.ฝายแก้ว ใน อ.ภูเพียง หลังจากที่จังหวัดประกาศให้ทุกอำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยรวม 189 คน
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ การระบาดของโรคไข้เลือดออกยังคงน่าเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ต้นปีมีผู้เสียชีวิต 1 คน ป่วย 1,279 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 4 ล่าสุด ล่าสุดมีหญิงตั้งครรภ์ 9 เดือน ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกมารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ขณะนี้อาการหนักและต้องการเลือดกรุ๊ปบี ขณะที่สาธารณสุขในจังหวัดภาคเหนือ เช่น อุตรดิตถ์ ได้ส่งอาสาสมัครชุมชนให้ความรู้กับประชาชนเรื่องการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หมอกควันไฟจากอินโดฯ พัดปกคลุมหลายพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 สิงหาคม 2551 12:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> หลายพื้นที่ของ จ.สตูล ตรัง และสงขลา มีหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย พัดปกคลุมเป็นวันที่ 3 ทำให้มีทัศนวิสัยเพียง 200-300 เมตร รถตรวจสภาพอากาศเคลื่อนที่จากกรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศ บริเวณศาลากลาง จ.สตูล พบว่ามีฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมหรือไม่ โดยจะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมงนี้
ขณะที่ นพ.สำรวม ด่านประชันกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.สตูล เตือนผู้เป็นโรคภูมิแพ้ให้หลีกเลี่ยงเข้าใกล้กลุ่มหมอกควัน เนื่องจากผู้เป็นโรคภูมิแพ้มีความไวต่ออากาศที่เปลี่ยนแปลง หากจำเป็นควรจะต้องใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก และไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้งในระยะนี้
นอกจากนี้ หมู่บ้านที่อยู่บริเวณหุบเขาควรระมัดระวัง ปิดหน้าต่างบ้านให้มิดชิด เพราะหมอกควันจะอยู่หนาแน่นบริเวณเชิงเขา และหุบเขา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ศรีลังกาเดือด! ทหารปะทะกบฏคร่า 52 ชีวิตรับซัมมิตเอเชียใต้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 สิงหาคม 2551 17:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทหารศรีลังกาคุมเข้มความปลอดภัยรับการประชุมสุดยอดผู้นำ SAARC</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – เกิดการต่อสู้อย่างหนักทางตอนเหนือของศรีลังกา 1 วันล่วงหน้าการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียใต้ในกรุงโคลอมโบ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารของรัฐบาล 14 นาย และกลุ่มกบฏ 38 คน เสียชีวิต

อูดายา นานายักคารา โฆษกกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเผยว่า ทางกลุ่มจะทำการต่อต้านอย่างแข็งกร้าวกับการรุกล้ำลึกเข้าไปในพื้นที่มัลลาวี ดินแดนที่กลุ่มกบฏยึดครองอยู่ ของทางกองทัพ ในวันศุกร์ (1) ที่ผ่านมา

“ผู้ก่อการร้ายได้ยิงปืนครกหลายร้อยลูกเพื่อชะลอทหารที่กำลังคืบเข้าไป” กระทรวงกลาโหมแถลง

การปะทะกันครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นขณะที่ศรีลังกาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดของ 8 ประเทศสมาชิกองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเชียใต้ หรือ SAARC ในกรุงโคลอมโบ ในวันเสาร์ (2)

กระทรวงกลาโหมระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธถูกส่งออกไปช่วยเหลือทหารภาคพื้นดิน ในการต่อสู้กับกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ทางตอนเหนือของประเทศ

ขณะที่ กลุ่มกบฏชี้ว่า พวกเขาต้านทานการรุกล้ำดินแดนของกองทัพ และอ้างว่าได้สังหารนายทหารไป 30 นาย รวมถึงทำให้อีก 60 นายได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังสามารถยึดพาหนะเคลื่อนทหารบาดเจ็บไว้ได้ โดยไม่แจ้งยอดบาดเจ็บและเสียชีวิตของฝ่ายกบฏ

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตของกลุ่มกบฏ โดยรัฐบาลพุ่งขึ้นเป็น 5,474 ราย ขณะที่ ทหารเสียชีวิต 492 นาย นับตั้งแต่การปะทะกันในเดือนมกราคมเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตของแต่ละฝ่ายไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากกระทรวงกลาโหมขัดขวางสื่อมวลชนไม่ให้เข้าในเขตการต่อสู้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หอพักนักเรียนในตุรกีพังถล่ม สังเวยอย่างน้อย 14 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 สิงหาคม 2551 17:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - หอพักของโรงเรียนสอนศาสนาหญิงล้วนแห่งหนึ่งในตรุกี พังถล่มลงมาในวันนี้ (1) หลังเกิดเหตุแก๊สระเบิด ส่งผลให้นักเรียนหญิงเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 27 ราย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผย

แรงระเบิดส่งผลให้อาคารดังกล่าวเกิดไฟลุกท่วม ขณะเดียวกับที่นักเรียนหญิงอายุระหว่าง 8- 16 ขวบ ที่อยู่ในอาคาร เพิ่งตื่นนอนเพื่อจะไปปฏิบัติละหมาดเวลาเช้า นักเรียนหญิงผู้หนึ่งให้สัมภาษณ์

จากนั้นหอพักความสูง 3 ชั้น ที่ตั้งอยู่ในเมืองตาสเกนต์ จังหวัดกอนยา ก็ถล่มครืนลงมา ส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

ในเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บ 27 คน โดยทั้งหมดเป็นเยาวชนที่เข้ามาศึกษาคัมภีร์อัล-กรุอานในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน

“เราเพิ่งจะตื่นนอนไปเพื่อละหมาดตอนเช้า หนูจึงลงมาข้างล่างเพื่ออาบน้ำละหมาด” เมิร์ฟ อัฟซีวัย 13 ขวบให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอนาโตเลียของตุรกี

“เกิดเสียงหวีดดังขึ้นมาจากชั้น 1 หนูจึงรีบเข้าไปดูที่ห้องครัวพร้อมกับครูอีก 2 คน แล้วครูคนหนึ่งบอกว่า สายแก๊สระเบิด”

อัฟซี เล่าต่อว่า จากนั้นเธอรีบหนีขึ้นไปที่ชั้นบน และ “5 นาทีถัดมากลิ่นแก๊สก็ฟุ้งกระจายทั่วหอพัก ก่อนจะเกิดระเบิดดังสนั่น”

อับดุลบากี อาเซต นายกเทศมนตรีเมืองตาสเกนต์ บอกว่า เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉินต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มีคนติดอยู่ใต้ซากอาคารดังกล่าวจำนวนเท่าใด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>NGO อัฟกัน แถลงเตือนเหตุนองเลือด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 สิงหาคม 2551 19:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> บีบีซีนิวส์ - องค์การบรรเทาทุกข์ในอัฟกานิสถาน เตือนว่า อาจไม่สามารถปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในบางส่วนของประเทศเทศ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่ทวีความรุนแรงอย่างตื่อเนื่อง

แถลงการณ์ร่วมขององค์การด้านมนุษยธรรม จำนวน 100 องค์การ ชี้ว่า กลุ่มติดอาวุธก่อเหตุรุนแรงมากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสถิติในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ องค์การช่วยเหลือต่างๆ ยังตกเป็นเป้าในการโจมตีมากยิ่งขึ้น ในคำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว องค์การด้านมนุษยธรรมได้ให้ความสำคัญกับจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตมากขึ้นด้วย

ในคำแถลงกลุ่มเอ็นจีโอยังแสดง “ความกังวลอย่างจริงจังต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ในอัฟกานิสถาน ตลอดจนผลกระทบอันสาหัสต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เผยแค่ครึ่งปีมีชาวเม็กซิกันสังเวยชีวิตแถบชายแดนมะกันแล้ว 290 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 สิงหาคม 2551 14:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พื้นที่ทะเลทรายบริเวณชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – วุฒิสมาชิกของรัฐสภาเม็กซิโกเผย ยอดชาวเม็กซิกันที่เสียชีวิต ขณะพยายามข้ามชายแดนเข้าสหรัฐฯ ในครึ่งแรกของปี 2008 มีจำนวนมากถึง 290 คนแล้ว

เอ็ดมุนโด รามิเรซ มาร์ติเนซ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการด้านประชากร พรมแดน และการอพยพกล่าวว่า จำนวนชาวเม็กซิกันที่เสียชีวิตตลอดทั้งปี 2007 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 520 ราย เมื่อเทียบกับยอดในครึ่งปีแรกของปีนี้ ชี้ให้เห็นว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น และยังทำให้เห็นแนวโน้มในปีก 6 ปีข้างหน้าด้วย

เขายังระบุว่า ในแต่ละปีมีผู้คนมากถึงราว 325,000 คน พยายามจะอพยพไปยังฝั่งสหรัฐฯ โดยทุกๆ นาทีจะมีชาวเม็กซิกัน 1 คนละทิ้งชุมชนของตัวเอง และทุกๆ นาทีต้องมีครอบครัวแตกแยก

อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิกพรรคฝ่ายค้านไม่ได้ระบุว่า อะไรเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้อพยพโดยผิดกฎหมาย แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชน และสื่อต่างรายงานว่า เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตจากความร้อนในสภาพภูมิประเทศแบบทะเลทราย จมน้ำ และอุบัติเหตุจากการกระโดดออกจากรถไฟ

ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเม็กซิโก และสหรัฐฯ ตึงเครียดอันเนื่องมาจากการปฏิบัติของสหรัฐฯ ต่อผู้อพยพโดยผิดกฎหมายหลายล้านคน ซึ่งเป็นชาวเม็กซิกันประมาณ 5 ล้านคน และความพยายามที่จะสร้างกำแพงตามชายแดนของทั้งสองประเทศความยาวกว่า 3,000 กิโลเมตรด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุฝนถล่มยะลา บ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลังคา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2551 19:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เกิดฝนตกหนักและมีพายุหมุนลมแรงเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดยะลา หลายแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา เป็นเหตุให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนหลายสิบหลังคาเรือน นอกจากนี้บริเวณถนนสายเส้นทางลัดยะลา - ลำใหม่ บริเวณ ม.6 ต.พร่อน และ ม.1 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ได้มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนนและทับสายไฟฟ้าทำให้เสาไฟฟ้าล้มขวางถนนและรถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยกันนำเลื่อยยนต์มาตัดต้นไม้เพื่อเปิดเส้นทางจราจร
ส่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลาได้มีต้นไม้ใหญ่หลายสิบต้น ได้โค่นล้มและล้มทับรถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายคัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครยะลา เร่งออกตรวจสอบและช่วยเหลือประชาชนในการตัดต้นไม้ที่ล้มทับรถยนต์ และเร่งออกสำรวจความเสียหายเพื่อรายงานให้กับทางจังหวัดได้ทราบต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ สั่งทุกอำเภอเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2551 17:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายต่อพงษ์ อ่ำพันธุ์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้านใน 2 ตำบลของ อ.หล่มเก่า และยังมีน้ำป่าไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก จนล้นทะลักออกสู่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จึงได้สั่งการไปทุกอำเภอ เพื่อให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก แต่หากว่าฝนทางเหนือเบาลง กระแสน้ำคงจะอ่อนตัวลงตามลำดับ ส่วนความเสียหายในท้องที่ 2 ตำบลใน อ.หล่มเก่าได้สั่งการให้นายอำเภอเร่งสำรวจ เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว
ทั้งนี้หลังจากน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ต.ศิลา ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร ล่าสุดวันนี้ปริมาณน้ำในวันนี้ที่ไหลมาถึง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักหลายจุด โดยเฉพาะที่บริเวณที่ทำการสำนักงานเมืองหล่มสูง ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร นอกจากนี้พื้นที่รอบนอกก็มีน้ำท่วมขังหลายจุด ทำให้พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวฮินดูเหยียบกันตายในอินเดีย ตายเกือบ 70 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2551 18:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ชาวฮินดูอย่างน้อย 68 คน เสียชีวิตขณะเกิดเหตุเหยียบกันตายระหว่างการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดนัยนาเทวี ในรัฐหิมาจัลประเทศ ทางเหนือของอินเดีย
อุบัติเหตุเหยียบกันตายนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่มีศาสนิกชนหลายหมื่นคนมารวมตัวกันประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดนัยนาเทวีแห่งนี้ โดยการประกอบพิธีเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวาน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงยืนยัน ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการเหยียบกันตาย จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 68 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 45 คน ขณะที่สำนักข่าวบางแห่งในอินเดีย รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตว่า มีอย่างน้อย 5 คน

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บึ้ม!! กลางถนนในโซมาเลีย ตาย 15 เจ็บเกือบ 50 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2551 17:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดเหตุระเบิดในเมืองโมกาดิชูเมืองหลวงของโซมาเลีย ขณะกลุ่มสตรีนับสิบคนกำลังร่วมกันทำความสะอาดถนน ด้วยการสนับสนุนจากเอ็นจีโอท้องถิ่นเมื่อเช้าตรู่วันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และบาดเจ็บอีก 40 คน ชาวบ้านได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก นับเป็นเหตุระเบิดรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ที่มุ่งโจมตีพลเรือนในเมืองหลวงของโซมาเลีย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดอาฟเตอร์ช็อก 2 ระลอกในมณฑลเสฉวน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-08-2551 | 17:00:03 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 1 ส.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อก 2 ระลอก ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 รู้สึกได้ถึงในเมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน
ซินหัว รายงานว่า อาฟเตอร์ช็อกระลอกที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.32 น. ตามเวลา ท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 15.32 น. ตามเวลาในไทย โดยมีขนาด 6.1 ริกเตอร์ และมีศูนย์กลางอยู่ที่เขตผิงหูและเป่ย์ฉวน 2 พื้นที่ที่ประสบแผ่นดินไหวครั้งก่อน ส่วนอาฟเตอร์ช็อกระลอกแรกเกิดขึ้น ในเขตเหวินฉวน ศูนย์กลางแผ่นดินไหว เมื่อเดือน พ.ค. ห่างจากระลอกที่ 2 ประมาณ 6 ชม. และมีขนาด 3.9 ริกเตอร์
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เคยเกิดอาฟเตอร์ช็อกในเสฉวนไปแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บหลายสิบคน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• "ไชเทน" ปะทุพ่นเถ้าถ่าน ชาวชิลีหวั่นภูเขาไฟระเบิด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 02-08-2551 | 13:16 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูเขาไฟไชเทน ในประเทศชิลี ปะทุขึ้นอีกครั้งพ่นเถ้าถ่านคลุ้งไปทั่วท้องฟ้า และสร้างความหวาดหวั่น ให้ประชาชนที่เกรงว่าภูเขาไฟอาจจะระเบิด
สำนักงานธรณีวิทยา และเหมืองแร่ ระบุว่า ภูเขาไฟไชเทน ปะทุถึง 105 ครั้ง ในจำนวนนี้มีหลายครั้งสร้างแรงสั่นสะเทือนถึง 4.0 ริกเตอร์
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดแผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนของจีน มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 02-08-2551 | 11:12:08 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จีน 2 ส.ค. - เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดปานกลางในมณฑลเสฉวนของจีน มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน
แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.32 น. เมื่อวานนี้ ตามเวลา ในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางเหนือ ของเมืองเมี่ยนหยาง ราว 65 กิโลเมตร แรงสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ส่งผลให้เกิดดินพังถล่มในหลายจุด ขณะที่มีก้อนหินจำนวนหลายตัน ร่วงลงมาจากภูเขาเป็นเหตุให้เส้นทาง ที่จะไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 2 แห่ง ถูกตัดขาด นอกจานี้ยังมีบ้านเรือน ในเขตผิงหวู่พังเสียหายไปถึง 540 หลัง และมีบ้านเรือนที่เสียหายบางส่วนอีกกว่า 2,400 หลัง ขณะที่มีผู้บาดเจ็บแล้วถึง 231 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดแผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์ในไต้หวัน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 02-08-2551 | 08:28:56 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ไทเป 2 ส.ค. – ทางการไต้หวันรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ริกเตอร์ บริเวณภาคตะวันออกของเกาะ ส่งผลให้อาคารสั่นไหว แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ และความเสียหายใด ๆ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันระบุว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองฮัวเหลียน ไปทางตะวันออก 10 กม. และเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.55 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 01.55 น. ตามเวลาในไทย เมืองฮัวเหลียนอยู่ห่างจากกรุงไทเป ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 120 กม.
ไต้หวันเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7.6 ริกเตอร์ในเขตตอนกลางเมื่อปี 2542 มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,300 คน และเมื่อปลายปี 2549 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเมืองเกาสง ทำให้สายเคเบิลใต้ทะเลได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตหลายล้านคนทั่วเอเชีย.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• จ.น่าน ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินไข้เลือดออก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 02-08-2551 | 12:46 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทหาร จ.น่าน เร่งฉีดพ่นหมอกควัน เพื่อทำลายแหล่ง เพาะพันธุ์ยุง และแจกทรายอะเบทให้กับโรงเรียน และชาวบ้านใน ต.ฝายแก้ว ใน อ.ภูเพียง หลังจากที่จังหวัดประกาศให้ทุกอำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน โรคไข้เลือดออก ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยรวม 189 คน
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ การระบาดของโรคไข้เลือดออกยังคงน่าเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ต้นป ีมีผู้เสียชีวิต 1 คน ป่วย 1,279 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 4 ล่าสุด ล่าสุดมีหญิงตั้งครรภ์ 9 เดือน ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกมารักษาตัว ที่โรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่ ขณะนี้อาการหนักและต้องการเลือดกรุ๊ปบี ขณะที่สาธารณสุขในจังหวัดภาคเหนือ เช่น อุตรดิตถ์ ได้ส่งอาสาสมัครชุมชน ให้ความรู้กับประชาชนเรื่อง การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อังกฤษให้การช่วยเหลือวาฬเกยตื้นให้กลับลงสู่ทะเลได้อีกครั้ง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 02-08-2551 | 10:25:35 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อังกฤษ 2 ส.ค. - สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่ระดมกำลัง ช่วยเหลือวาฬ เคราะห์ร้ายที่พลัดมาเกยตื้น อยู่นอกชายฝั่งลองสโตนทางภาคใต้ ทำให้มันสามารถกลับลงสู่ทะเลได้อีกครั้ง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ระบุว่าวาฬจมูกขวดตัวนี้ มีอาการขาดน้ำ และไตวายหลังจากที่ต้องเกยตื้น อยู่นานถึง 12 ชั่วโมง และที่น่าเป็นห่วงก็คือผลจากการตรวจเลือดของมันพบว่า อาการไตวายดังกล่าว เป็นไตวายอย่างถาวร ก่อนหน้านี้ไม่นานวาฬตัวนี้ ก็เพิ่งเกยตื้นกับสันทราย กลางทะเลมาแล้วครั้งหนึ่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุฝนกระหน่ำพัทยาชั่วข้ามคืนกว่า 30 หลังคาเรือนเสียหายประเมินค่าไม่ได้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 02-08-2551 | 13:39 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เพียงชั่วข้ามคืน ในเขตพื้นที่ ท่องเที่ยวหลักของเมืองพัทยา สร้างความเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน เบื้องต้น ยังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ ด้านเมืองพัทยาชี้เป็นการประเดิมชิมลาง ของสภาพอากาศโลกอนาคตอาจหนักกว่านี้ เผยเตรียมประสานกรมอุตุฯ ประชุมร่วม เพื่อหามาตรการเร่งด่วนป้องกันเหตุในอนาคต
วันนี้ (2 ส.ค.51) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่าบริเวณโครงการถนนคนเดิน หรือถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ พื้นที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองพัทยา เกิดความเสียหายในระดับหนึ่ง เนื่องจากผลพวง ของพายุฝนทำให้บ้านเรือน และสถานประกอบการต่างๆ ในละแวกดังกล่าว ได้รับความเสียมากกว่า 30 หลังคาเรือน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่า ความเสียหายได้
จากความเสียหายดังกล่าว นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา นำคณะสมาชิกสภาเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย โดยนำกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจประสานรถกระเช้าเมืองพัทยา จำนวน 2 คัน ทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการเบื้องต้น โดยทำการจัดการพื้นที่ที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
นายวีรวัฒน์ เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นการประเดิมชิมลาง ของสภาพอากาศ ของโลกที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยเชื่อว่า พายุฝนที่สร้างความเสียหายในครั้งนี้ มีผลมาจากสภาวะโลกร้อนประกอบกับเข้าช่วงฤดูฝน ที่ส่งกำลังลมมาจาก ฝั่งทะเลทางทิศใต้ และขึ้นมาจนถึงชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก และอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยาจะไม่นิ่งนอนใจ ต่อปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดังกล่าว อย่างแน่นอน โดยเร็ววันนี้ จะประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยา ในการการประชุมร่วม เพื่อประเมินสถานการณ์ในอนาคตว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร และหามาตรการเร่งด่วน เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันเหตุดังกล่าวต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สถานการณ์น้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังวิกฤติ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 02-08-2551 | 17:10:20 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เชียงราย 2 ส.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายยังวิกฤติ น้ำท่วมขยายวงกว้างไปถึงฝั่งพม่า สร้างความเสียหายการค้า ตามแนวชายแดนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
ร้านค้าบริเวณตลาดสายลมจอย และบ้านเรือนชาวบ้านชุมชนเกาะชายฝั่งอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวมทั้งร้านค้า และบ้านเรือนบริเวณตลาดท่าล้อ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ยังคงถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร สร้างความเสียหาย กับการค้า ตามแนวชายแดน ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทหารหน่วยเฉพาะกิจกองกำลังผาเมือง จึงนำรถบรรทุกขนาดใหญ่ลงพื้นที่คอยช่วยเหลือ และอพยพสิ่งของหากน้ำไหล ทะลักเข้าท่วมอีก ส่วนเทศบาลตำบลแม่สาย นำกระสอบทรายทำเป็นผนังกั้น ริมฝั่งแม่น้ำสาย ป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และย่านการค้าสำคัญของอำเภอแม่สาย
ส่วนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขา พื้นที่อำเภอน้ำหนาว และจากอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอล่มเก่า บ้านเรือนถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย และถูกน้ำท่วมขังกว่า 30 หลังคาเรือน พืชผลทางการเกษตรเสียหายกว่า 1 พันไร่ นอกจากนี้ ถนนสาย กบกระทอน-น้ำหนาว บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 87-88 ถูกน้ำท่วมขัง ระยะทางกว่า 100 เมตร รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังออกสำรวจ ความเสียหาย และให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยอดเหยื่อน้ำท่วมเหมืองถ่านหินจีนรวม 30 คนแล้ว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 03-08-2551 | 13:40:56 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 3 ส.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิต จากเหตุน้ำท่วมเหมืองถ่านหิน ทางใต้ของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 30 รายแล้ว หลังทีมกู้ภัยพบศพเพิ่ม
หน่วยกู้ภัยพบศพอีก 23 ราย จากคนงานเหมืองทั้งหมด 29 คน ที่สูญหายไป ในเหมืองนาตู ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง หลังจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้จีนเป็นผู้ผลิต และบริโภคถ่านหิน รายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในอินโดนีเซียเสียชีวิตอีก 1 รายแล้ว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 03-08-2551 | 13:06:38 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อินโดนีเซีย 3 ส.ค. - ผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในอินโดนีเซียเสียชีวิตอีก 1 รายแล้ว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 112 คน
ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันโรคติดต่อของอินโดนีเซียระบุว่า เหยื่อไข้หวัดนกรายล่าสุดนี้ เป็นคนงานชายวัย 19 ปี ของโรงงานแห่งหนึ่ง เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่โรงพยาบาลชานกรุงจาการ์ตา แต่ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดอื่นๆ นับเป็นเหยื่อรายที่ 112 แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของเหยื่อไข้หวัดนกทั่วโลก ที่มีจำนวน 240 คน นับแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในเอเชีย เมื่อปี 2546
ด้านผู้เชี่ยวชาญมีคำเตือนอินโดนีเซียว่า การเลี้ยงไก่ตามบ้านเรือนของประชาชน และการให้บริการทางการแพทย์ที่ยังไม่ทั่วถึงนั้น จะทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อไข้หวัดนกแหล่งใหญ่ของโลกได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกบุรีรัมย์พุ่ง 600 ราย ตาย 1 - พบอาการรุนแรงมากขึ้น

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 03-08-2551 | 14:28 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">บุรีรัมย์ - พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกบุรีรัมย์พุ่งร่วม 600 ราย เสียชีวิต 1 ราย เผยแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยสัปดาห์ละ 40 -50 ราย ระบุผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีอาการรุนแรง และมีอาการแสดงของโรคเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งพบกลุ่มวัยรุ่นอายุ 20-25 ปี ป่วยมากขึ้น
วันนี้ (3 ส.ค.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาเปิดเผยถึง สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ตั้งแต่ต้นปี จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกเข้ามารับการตรวจรักษาแล้ว 566 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กอายุ 10 ขวบ ในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณ อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยสัปดาห์ละ 40-50 ราย เพราะช่วงนี้มีฝนตกชุก และมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เอื้อต่อการแพร่ขยายพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย
ส่วนอำเภอที่มีอัตราการผู้ป่วยมากที่สุด คือ อ.เมือง อ.พุทไธสง อ.ชำนิ อ.ละหานทราย และ อ.คูเมือง นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการรุนแรง และมีอาการแสดง ของโรคเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มอายุผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ที่พบในกลุ่มอายุ 5 – 14 ปี แต่ขณะนี้พบผู้ป่วยในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุ 20 -25 ปีมากขึ้น และขอเตือนผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาแอสไพรินมารับประทานเอง เพราะจะทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้น
นพ.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ,อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และสถานศึกษา ร่วมมือกับเครือข่ายชุมชน ในการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้เลือดออก ในระดับพื้นที่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง
“ขอฝากเตือนให้ผู้ปกครองเฝ้าสังเกตบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีอาการป่วยผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว หากล่าช้าอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้” นพ.สมพงษ์ กล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายในอินเดียเพิ่มเป็น 148 รายแล้ว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 สิงหาคม 2551 12:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายภายในวิหารแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาทางภาคเหนือของอินเดียเพิ่มเป็น 148 รายแล้ว ตำรวจแถลงเมื่อวันจันทร์ (4)

เมื่อวานนี้ (3) ศาสนิกชนชาวฮินดูหลายหมื่นชีวิต หลั่งไหลขึ้นไปยังวิหารนัยนาเทวีในรัฐหิมาจัลประเทศ เพื่อเข้าร่วมเทศกาลสำคัญทางศาสนา แต่จู่ ๆ ก็เกิดข่าวลือสะพัดว่าเกิดเหตุแผ่นดินถล่ม สร้างความสับสบอลหม่านทั่วบริเวณ ประชาชนจึงเบียดเสียดกันลงบันไดเพื่อหนีเอาชีวิตรอด จนเกิดเหตุเหยียบกันตาย

“ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 148 ราย และบาดเจ็บอีก 48 คน” โฆษกตำรวจแถลงเมื่อเช้าวันจันทร์ (4)

เหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ ในจำนวนนี้ครึ่งต่อครึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก เจ้าหน้าที่กล่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุโซนร้อนลูกที่ 5 ก่อตัวใกล้แหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 สิงหาคม 2551 11:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>การก่อตัวของพายุเฮอริเคนดอลลีในอ่าวเม็กซิโก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี – ศูนย์เตือนภัยเฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ เผย พายุฤดูร้อนลูกที่ 5 ของปี 2008 ในฤดูเฮอริเคน ณ มหาสมุทรแอตแลนติก ได้ก่อตัวขึ้นใกล้กับแหล่งผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติหลักทางตอนเหนือของอ่าวเม็กซิโก ในวันอาทิตย์ (3) ที่ผ่านมา

พายุโซนร้อนเอดูอาร์ด ซึ่งก่อตัวขึ้นห่างจากปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 155 กิโลเมตร เมื่อเวลา 18.00 น.วานนี้ (3) ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 05.00 น. ของประเทศไทย คาดว่า จะเกยฝั่งรัฐเทกซัสด้วยระดับความรุนแรงเทียบเท่าพายุเฮอริเคนในอีก 2-3 วันนี้ ศูนย์เตือนภัยเฮอริเคนในไมอามี เผย

คอมพิวเตอร์ซึ่งใช้พยากรณ์เส้นทางและความรุนแรงของพายุเครื่องหนึ่ง ระบุว่า พายุโซนร้อนเอดูอาร์ดจะทวีกำลังเป็นเฮอริเคน ที่มีความเร็วลม 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่การพยากรณ์อากาศอย่างเป็นทางการ ชี้ว่า พายุลูกนี้จะมีความเร็วสูงสุดเพียง 111 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ แหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐฯ หลายแห่งอยู่ในเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุลูกนี้ ซึ่งจะกระทบต่อการกลั่นน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ทำให้บริษัทผลิตน้ำมันต้องเสริมความแข็งแรงของแท่นขุดเจาะ เพื่อต้านทานแรงจากลมพายุ และเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายเกินควร

เฮอริเคนหลายลูกในปี 2004 และ 2005 รวมถึงพายุเฮอริเคนแคทรีนา ได้สร้างความเสียหายให้กับเครื่องขุดเจาะน้ำมัน และท่อส่งน้ำมันจำนวนมากในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบอันดับที่ 3 และ 15% ของก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ พายุเฮอริเคนดอลลี ได้ขึ้นฝั่งทางใต้ของเทกซัส ในวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างรุนแรง ทว่า ก่อให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• จนท.ตุรกีควบคุมไฟป่าได้แล้ว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 04-08-2551 | 02:30:43 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ตุรกี 4 ส.ค. - เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงตุรกี สามารถควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่ป่า และบ้านเรือนจำนวนมากในจังหวัดอันตัลยา
ตลอด 4 วันที่ผ่านมา พื้นที่ป่าของจังหวัดอันตัลยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ของตุรกี ถูกไฟป่าเผาทำลายไปแล้วถึง 25,000 ไร่ ทางการต้องเกณฑ์พนักงาน ดับเพลิง ถึง 2,000 คน เพื่อช่วยกันสกัดเปลวเพลิงตลอด 24 ชั่วโมง มาตั้งแต่วันศุกร์ ก่อนที่วานนี้ (3 ส.ค.) จะสามารถควบคุมเพลิงส่วนใหญ่ ให้ลุกไหม้ในวงจำกัดได้แล้ว
ไฟป่าครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนถูกเผาผลาญอย่างน้อย 60 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และสูญหาย 1 คน ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนใน 6 หมู่บ้าน ออกนอกพื้นที่ นอกจากนี้ ยังเกือบจะสร้างความเสียหายให้กับ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง รวมถึงอัฒจันทร์ในยุคกรีกโบราณ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดไฟป่าเพียง 37 กิโลเมตร.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุโซนร้อนก่อตัวใกล้แหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 04-08-2551 | 07:34:07 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ไมอามี 4 ส.ค. - ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า พายุโซนร้อนลูกที่ 5 ของฤดูเฮอริเคน ในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ ได้ก่อตัวขึ้นใกล้แหล่งผลิตน้ำมัน และก๊าซแหล่งใหญ่ ในอ่าวเม็กซิโก เมื่อวานนี้
พายุโซนร้อน “เอดูอาร์ด” ก่อตัวขึ้นห่างจากปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี ไปทางตะวันออก เฉียงใต้ ราว 155 กิโลเมตร เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับเวลา 05.00 น. ในไทย และคาดว่าจะทวีกำลังมีระดับความรุนแรง ใกล้กับ พายุเฮอริเคน แล้วเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งตอนบนของรัฐเทกซัส ภายในวันอังคารนี้ โดยคอมพิวเตอร์พยากรณ์อากาศเครื่องหนึ่งคาดว่า พายุโซนร้อนเอดูอาร์ด จะทวีกำลังเป็นเฮอริเคน มีความเร็วลม 119 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่พยากรณ์อากาศ อย่างเป็นทางการ คาดว่า พายุลูกนี้จะมีความเร็ว 11 กิโลเมตร/ชั่วโมง
คาดว่าแหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐ ส่วนมากจะอยู่ในเส้นทางการเคลื่อนตัว ของพายุเอดูอาร์ด ซึ่งจะกระทบต่อการกลั่นน้ำมัน ส่งผลให้บริษัทผลิตน้ำมัน ต้องเสริมความแข็งแรงของแท่นขุดเจาะน้ำมัน ให้สามารถต้านทานแรงจากพายุ และเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายเกินควร.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>