สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผ่นดินยุบกลางกรุงเม็กซิโซิตี คาดมีผู้เสียชีวิต 1 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 กรกฎาคม 2550 11:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดเหตุแผ่นดินยุบตัวทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ ความลึกราว 14 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 เมตร กลางกรุงเม็กซิโกซิตี เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งขุดหาชายเคราะห์ร้ายคนหนึ่งที่พลัดตกลงไป ซึ่งอาจจะเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ชาวบ้านอีกราว 30 ครอบครัว ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย โดยเหตุแผ่นดินยุบ ส่งผลให้รถคันหนึ่งตกลงไป อาคารและทางเดินเท้าพังเสียหาย ท่ามกลางความวิตกว่าอาจเกิดการยุบตัวของแผ่นดินได้อีก
สำหรับสาเหตุของแผ่นดินยุบตัวครั้งนี้อาจเกิดจากแผ่นดินไหว การสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้มากเกินไป และฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

</TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000080276</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฝนตกหนัก-ดินถล่มในฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิต 5 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>10 กรกฎาคม 2550 10:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 5 คน รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ 4 เดือน 1 คน หลังเกิดฝนตกหนักทำให้ดินถล่มทับบ้านเรือนประชาชน บริเวณภูเขาดีวาตา ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้เกือบ 1,000 กิโลเมตร โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ประชาชนนิยมขุดหาแร่ทองคำเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เสี่ยงต่อการพังถล่มของดินได้ง่าย เมื่อเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

</TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000080242</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เม็กซิโกช่วงนี้เจออะไรที่หนักจริงๆครับ

 

ปินส์เรือล่มตาย-หายนับร้อย


เมื่อ 12 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุเรือข้ามฟากฟิลิปปินส์ บรรทุกผู้โดยสารกว่า 250 คน ล่มในทะเลซิบูยันเพราะอิทธิพลของไต้ฝุ่นมันหยีที่เข้าทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ผู้จมน้ำเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ สูญหายกว่า 100 ราย ช่วยชีวิตได้ 129 คน และรถยนต์จมน้ำอีก 14 คัน เรือลำดังกล่าวแล่นจากเกาะลูซอน ทางตอนใต้ มุ่งหน้าไปยังเกาะมัสบาเตะ แต่ขณะนี้สภาพอากาศยังแปรปรวนเรือเล็กไปช่วยกู้ภัยไม่สะดวก ขณะที่อินโดนีเซียก็เกิดอุบัติเหตุเรือล่มในจังหวัดโมลุกกะ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ

http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03for14130750&day=2007/07/13&sectionid=0306

 

นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนหนีไฟป่าเกาะสเคียธอส

นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนอพยพหนีไฟป่าออกจากเกาะสเคียธอสของกรีซ


นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนที่อยู่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เกาะสเกียธอสของกรีซต่างรีบอพยพออกจากที่พักในโรงแรมเพื่อหนีไฟป่าจากเกาะดังกล่าว ขณะที่หลายครอบครัวหนีไปยังบริเวณชายหาดริมทะเล เนื่องจากเกรงได้รับอันตรายจากไฟป่าที่โหมลุกไหม้ ที่ในขณะนี้ยังมีลมกระโชกแรงด้วย เบื้องต้นมีรายงานรีสอร์ตที่พักนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเหตุไฟป่าแล้ว3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ

อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และในขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีเที่ยวบินจากเกาะสเกียธอสที่บินตรงมายังอังกฤษหรือไม่ แต่โฆษกสำนักงานบริการการบินในพื้นที่เชื่อว่าทุกคนปลอดภัยและจะกลับเข้าสู่ที่พักได้ตามปกติ

http://www.innnews.co.th/around.php?nid=48483

จีนร้อนทะลุ40องศา

เมื่อ 12 ก.ค. สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ขณะที่หลายมณฑลของจีนประสบภาวะน้ำท่วมหนัก ภาคตะวันตกของจีน ที่มณฑลซินเกียง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน รวมทั้งทางใต้ของมณฑลส่านซี กำลังเผชิญภาวะอากาศร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยพุ่งสูงราว 35-38 องศาเซลเซียส ขณะที่บางพื้นที่ในมณฑลซินเกีย อุณหภูมิสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ด้านมณฑลฟูเจี้ยนทางใต้ ก็ประสบภาวะอากาศร้อนเช่นกัน โดยตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เป็นต้นมา อุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 39 องศาเซลเซียส

http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03for17130750&day=2007/07/13&sectionid=0306

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>ญี่ปุ่นกำลังเผชิญภัยไต้ฝุ่น </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>13:35 น. ไต้ฝุ่นกำลังแรง ม่านหยี่ ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะโอกินาวา ทางใต้ของญี่ปุ่นด้วยความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ทำให้ประชาชนกว่า 6 หมื่นครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ หลายร้อนคนต้องอพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ขณะที่เที่ยวบินในประเทศอย่างน้อย 245 เที่ยวบินไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 5 คน
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นคาดว่า ไต้ฝุ่นลูกที่ 4 ของฤดูกาลลูกนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกรรโชกแรงทางตะวันตกและทางใต้ของญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และพายุอาจเคลื่อนตัวถึงภาคกลางและกรุงโตเกียวในวันอาทิตย์ ญี่ปุ่นและหลายประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก เผชิญกับไต้ฝุ่นปีละหลายลูก โดยเมื่อ ปีที่แล้ว ไต้ฝุ่นซานซานทำให้มีผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่นถึง 9 คนและอีก 300 คนได้รับบาดเจ็บ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=269370&lang=T

 

ปินส์เรือล่มตาย-สูญหายนับร้อย
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>มีผู้โดยสารเสียชีวิตแล้ว 12 ศพ และสูญหายจำนวนมากจากอุบัติเหตุเรือเฟอร์รีล่มนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อเช้าตรู่วันพฤหัสบดี

โดย นาวาเอกโรเดอริก ปาเรย์โน โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ประจำเกาะลูซอน ทางภาคใต้ของประเทศกล่าวว่า เรือเอ็มวี บลู วอเตอร์ ปรินเซส อับปางลงนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ในจังหวัดเกซอน ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางใต้ราว 220 กม. ขณะเกิดเหตุ บนเรือมีผู้โดยสารมากกว่า 250 คน คาดว่าน่าจะมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีผู้รอดชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 129 คน

นาวาเอกปาเรย์โนระบุว่า เรือลำดังกล่าวล่มห่างจากชายฝั่งเพียง 500 เมตรเท่านั้น หลังเกิดเหตุทางการได้ส่งเรือและเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำเข้าไปช่วยกู้ภัย อุบัติเหตุทางเรือเป็นเรื่อง ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในฟิลิปปินส์ เพราะสภาพภูมิประเทศประกอบด้วยเกาะจำนวนมากถึง 7,000 เกาะ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยหละหลวม โดยเฉพาะปัญหาการบรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโศกนาฏกรรมบ่อยครั้ง

ที่อินโดนีเซีย เกิดเหตุเรือบรรทุกผู้โดยสาร 60 คนล่มระหว่างเส้นทางจากเกาะบูรูไปยังอัมบอน เมืองเอกของจังหวัดมาลูกู ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย อย่างไรก็ตาม มีเด็กเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 ศพ และสูญหายอีกหลายสิบราย ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เจ้าหน้าที่การท่าเรือบอกว่า ปัญหาทางเครื่องยนต์อาจเป็นต้นเหตุ

วันเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า มีเรือสินค้าลำหนึ่งของเกาหลีใต้ ซึ่งมีระวางขับน้ำ 26,000 ตัน แล่นจากจีนไปยังอิหร่าน ประสบเหตุล่มในน่านน้ำห่างจากชายฝั่งโอมานประมาณ 150 กม. ทำให้ลูกเรือสูญหายหลายคน เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=133505&NewsType=1&Template=1

 

หายนะคร่าชีวิตฤทธิ์ธรรมชาติ-มนุษย์

คอลัมน์ ข่าวเด็ด7วัน



ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ 3 ทวีปทั่วโลก ต่างเต็มไปด้วยคราบเลือด หยาดน้ำตา และความสูญเสีย

เกิดโศกนาฏกรรมอันน่าสะพรึงกลัว เป็นข่าวใหญ่หลายชิ้นด้วยกัน

เปิดหัวสัปดาห์วันที่ 19 กรกฎาคม ในทวีปเอเชีย

ชาวญี่ปุ่นในจังหวัดนิอิงาตะ บริเวณชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

วัดระดับความแรงได้ถึง 6.8 ริกเตอร์ ขนาดคนโตเกียวที่อยู่ห่างออกไปตั้ง 200 กว่ากิโลเมตรยังรู้สึกได้

หลังจากนั้นก็เกิด "อาฟเตอร์ช็อก" หรือแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวตามมาเฉียดร้อยครั้ง

ขณะเดียวกัน ก็มีคลื่นยักษ์ "สึนามิ" ซัดเข้าสู่ชายฝั่ง แต่เคราะห์ดีที่เป็นคลื่นขนาดเล็ก จึงไม่เกิดเหตุร้ายแรง

ผลจากการที่แผ่นดินไหวเขย่าแรงมาก อาคารบ้านเรือน เส้นทางคมนาคมพังยับเยิน

มีผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บนับพันคน ส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองคาชิวาซากิ

อีก 12,000 กว่าคน ต้องแปรสภาพเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย เพราะอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด

ขบวนรถไฟจำนวนมากถูกเขย่าจนตกราง คว่ำไม่เป็นท่า

ปัญหาใหญ่น่าวิตกกังวลที่สุดขณะนี้ ก็คือ

เหตุธรณีพิโรธดังกล่าว ทำให้อุปกรณ์ในโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค. (เทปโก) ในจังหวัดนิอิงาตะได้รับความเสียหาย กระทั่งน้ำเสียปนเปื้อน "สารกัมมันตรังสี" รั่วออกจากโรงงานลงสู่ทะเล

ในเบื้องต้น ผู้แทนเทปโกแถลงว่ากัมมันตรังสีที่รั่วออกไปอยู่ในระดับไม่เป็นอันตราย

อย่างไรก็ตาม การสอบสวนภายหลังพบว่า กัมมันตรังสีที่หลุดไปสู่สภาพแวดล้อมนั้นมีมากกว่าที่เคยประกาศเอาไว้ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงตัดสินใจสั่งให้เทปโกปิดโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ประมาณ 1 ปี เพื่อตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยให้ละเอียด ก่อนเปิดดำเนินการใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ เหตุแผ่นดินไหวยังสร้างความเสียหายให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ค่ายยักษ์ใหญ่ เช่น "โตโยต้า" กับ "ฮอนด้า"

แต่ทั้งสองบริษัทยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาพรวม รวมทั้งยอดส่งออกรถยนต์ต่างประเทศ



ตัดภาพมาที่นครเซาเปาโล เมืองธุรกิจการค้าอันดับ 1 ของประเทศบราซิล ทวีปอเมริกาใต้

ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ว่า 17 กรกฎาคม คือ วันวิปโยคของอุตสาหกรรมการบินบราซิล

ภายหลังจากเครื่องบินรุ่น แอร์บัส เอ-320 เที่ยวบิน 3054 ของสายการบินแทม

ลื่นไถลเสียหลักขณะฝนตกหนักจนตัวเครื่องหลุดจากรันเวย์สนามบินคอนกอนยาส นครเซาเปาโล

ก่อนพุ่งออกนอกเขตสนามบินผ่าข้ามถนนหลวง ชนกับตึกฝั่งตรงข้าม มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน

ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ตึกที่ถูกชนเป็นสำนักงานและคลังของสายการบินแทนนั่นเอง!

เที่ยวบิน 3054 บรรทุกผู้โดยสารกับลูกเรือ 186 คน มุ่งหน้าออกจากเมืองปอร์โต้ อาเลเกร ทางภาคใต้

ขณะนักบินกำลังนำเครื่องลงจอดบนรันเวย์สนามบินคอนกอนยาส เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เมื่อตัวเครื่องแล่นแตะพื้นด้วยความเร็วสูงผิดปกติ ประกอบกับพื้นรันเวย์ลื่น ส่งผลให้นักบินควบคุมเครื่องไม่อยู่ พุ่งทะลุสนามบิน ผ่ากลางข้ามถนนหลวง ชนอาคารแทมและปั๊มน้ำมันจนระเบิดกลายเป็นลูกไฟประลัยกัลป์ แผ่ความร้อนสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ย่างสดผู้โดยสารและลูกเรือตายยกลำ

ขณะที่คนบนพื้นราบโดนลูกหลงเสียชีวิต 20 กว่าคน <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

เบื้องต้น มีกระแสข่าวว่า สาเหตุโศกนาฏกรรมการบินครั้งร้ายแรงที่สุดของบริษัทและอเมริกาใต้ครั้งนี้เป็นเพราะพื้นรันเวย์เปียกฝนจนลื่น ทั้งยังสั้นเกินไป จึงมีระยะเบรกไม่เพียงพอ

3 วันถัดมา ผู้บริหารสายการบินแทม ยอมรับว่า ระบบเบรก (Thrust Reversers) ของเครื่องเอ-320 เที่ยวบิน 3054 ลำนี้มีปัญหา โดยตามปกติจะใช้งานได้ 2 ตัว

แต่ในวันเกิดเหตุเปิดใช้ได้เพียง 1 ตัว เนื่องจากอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง แต่นำเครื่องขึ้นบินได้ เพราะได้รับความเห็นชอบจากบริษัทแอร์บัสและสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติบราซิลแล้ว!?!

ความสูญเสียครั้งนี้ทำให้สังคมบราซิลเรียกร้องให้มีการปรับปรุงขยายรันเวย์ และออกระเบียบบังคับให้สายการบินต่างๆ เร่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย หรือไม่เช่นนั้นก็ปิดสนามบินไปเลย



ปิดท้ายสัปดาห์เลือดที่เขตแมตฮันตัน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทวีปอเมริกาเหนือ

ช่วงเย็นวันพุธที่ 19 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะผู้คนกำลังเดินทางกลับบ้าน

จู่ๆ ก็เกิดระเบิดเสียงตูมใหญ่ดังสนั่น พื้นถนนสายเล็กซิงตัน ใกล้กับสถานีรถไฟแกรนด์ เซ็นทรัล ยุบตัวลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

วินาทีเดียวกันนั้นเอง กลุ่มควันขนาดมหึมาและเศษหินดินทราย เขม่าควันหนาทึบ พวยพุ่งขึ้นมาจากรูพื้นผิวที่ยุบตัว

นอกจากนั้น "หม้อแปลงไฟฟ้า" ยังระเบิดตามมาอีกหลายลูก

ฝูงชนต่างพากันหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนก หนีตายไม่คิดชีวิต

เพราะคิดว่านิวยอร์กตกเป็นเป้าการก่อวินาศกรรมซ้ำรอยเหตุ "11 กันยาฯ" ซึ่งสมาชิกขบวนการ "อัล ไคด้า" ขับเครื่องบินโดยสารพุ่งชนตึกแฝด "เวิลด์ เทรด" พังพินาศราบเป็นหน้ากลอง!

เมื่อเริ่มตั้งหลัก-ตั้งสติกันได้ ทั้งนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรี และหน่วยดับเพลิง รีบแถลงข่าวลดกระแสความสับสนว่า

สาเหตุไม่ได้มาจากการก่อการร้าย

แต่เพราะ "ท่อไอน้ำ" ใต้ดินระเบิด

มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากตกใจจนหัวใจวาย บาดเจ็บ 22 ราย

ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่านาทีระทึกว่า รู้สึกเหมือนเกิดแผ่นดินไหว เห็นคนนับร้อยร้องไห้ หวีดร้อง วิ่งหนีกันโกลาหล แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมใหญ่บนพื้นกว้างหลายสิบเมตร ลักษณะเหมือนหลุมที่เคยเห็นหลังอิรักถูกทิ้งระเบิด มีเสียงระเบิดดังฟู่ๆ ดังสนั่น

ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที บริเวณดังกล่าวถูกกันเป็นเขตห้ามเข้า เพราะทางการเกรงว่า "แร่ใยหิน" ซึ่งใช้ห่อหุ้มท่อฟุ้งกระจายไปในอากาศและเป็นอันตรายต่อสุขภาพถ้าหายใจเข้าไป แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปลอดภัย

ที่มาของเหตุระเบิดเชื่อว่า สืบเนื่องมาจากท่อส่งไอน้ำ มีอายุงานใช้งานมานานกว่า 80 ปีแล้ว เมื่อมีน้ำฝนเย็นจัด ซึมผ่านชั้นดินรั่วเข้าไปตามรอยแตกของท่อไอน้ำ ซึ่งร้อนจัด จึงเกิดปะทุระเบิดขึ้นมา

สังคมอเมริกาตั้งคำถามว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาครัฐ หรือเอกชนที่รับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่อส่งไอน้ำ ท่อส่งแก๊ส ฯลฯ ทั้งที่อยู่ใต้ดินและบนดิน ควรให้ความสำคัญกับการซ่อมบำรุง หรือเปลี่ยนไปใช้ "ของใหม่" แทน

ถือเป็น "บทเรียน" ของ "หายนะ" หลายรูปแบบที่ทุกชาติทั่วโลกสามารถนำมาใช้เป็นกรณีศึกษา เพื่อวางแผนป้องกันและรับมือภัยลักษณะเดียวกันนี้ไม่ให้เกิดขึ้นในชาติของตน!

http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03for21220750&day=2007/07/22&sectionid=0306

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดอุบัติเหตุทางเรือในแอฟริกา-อิตาลี เสียชีวิตและสูญหาย กว่า 200ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2550 18:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เจ้าหน้าที่การท่าเรือเซียร์ราลีโอนรายงานวันนี้ว่า เกิดเหตุเรือโดยสารล่ม โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ นอกชายฝั่งทะเลทางภาคเหนือของประเทศ เนื่องจากคลื่นลมแรง และว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 50 ราย และสามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารได้ 2 ราย ในขณะที่ผู้โดยสารอีก 148 รายยังคงสูญหาย
ด้านเจ้าหน้าที่อิตาลีรายงานวันเดียวกันนี้ว่า เกิดเหตุเรือสำรวจทะเลลำหนึ่งชนกับเรือบรรทุกสินค้าอีกลำหนึ่งนอกชายฝั่งเกาะซิซิลี ของอิตาลี เป็นเหตุให้เรือสำรวจทะเลจมลงวันนี้ ทำให้มีผู้สูญหาย 1 ราย ในขณะที่ผู้ที่อยู่บนเรือสำรวจทะเลอีก 13 รายได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000090924
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผู้นำย้ำจีนอากาศปรวนรุนแรง-กว้างสุด ภัยธรรมชาติซัดรอบด้านแผ่นดินมังกร

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">9 สิงหาคม 2550 17:41 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภัยแล้งขาดน้ำทำให้แผ่นดินแห้งจนแตกระแหงในหย่งโจว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ปากบ่อน้ำหน้าหมู่บ้านที่แห้งขอด</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ซินหัวเน็ต – แผ่นดินมังกรพบเจอกับภัยพิบัติรอบด้าน กระหน่ำทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ภัยแล้ง พายุลูกเห็บ อีกทั้งภัยธรรมชาติในปีนี้ มีความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างผิดปกติ โดยตัวเลขทางการระบุ มีผู้เดือดร้อนไปกว่า 280 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตในปีนี้แล้ว 1,279 คน รองนายกรัฐมนตรีจีนกำชับ ให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันทำงานต้านภัยพิบัติ ช่วยเหลือ และป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นายหุยเหลียงอี้ว์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติจีน ได้เรียกประชุมกรรมการบรรเทาสาธารณะภัยโดยได้ระบุว่า ในปีนี้ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศจีนมีความรุนแรงมากอย่างเห็นได้ชัด บางแห่งประสบภัยคุกคามอย่างหนัก และสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้นำมาซึ่งความเดือดร้อนและเสียหายกับเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าการเกษตรอย่างยากที่จะประเมินได้

“ดังนั้น ขอเรียกร้องให้ทุกพื้นที่ และเจ้าหนาที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน จะต้องเข้าใจในนโยบายของพรรค และของรัฐ โดยร่วมมือกันบรรเทาภัยพิบัติ ถือคนเป็นที่ตั้ง ป้องกันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ทำงานเป็นเอกภาพ และทำการประเมินการณ์ล่วงหน้า เพื่อที่จะประกาศเตือนหรือให้ข่าวสารเรื่องภัยพิบัติอย่างถูกต้อง” หุยระบุ

นอกจากนั้น ในที่ประชุมได้มีการระบุว่า อากาศในประเทศจีนปีนี้ มีความแปรปรวนสุดขั้วอย่างผิดปกติ มีภัยพิบัติมาก และขยายวงกว้างไปกว่าภัยธรรมชาติที่พบเจอในปีที่ผ่านๆมาอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้ทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง ก็กำลังส่งผลอย่างรุนแรง บางแห่งมีการเจอภัยพิบัติซ้ำซ้อน และมีหลายพื้นที่ต้องประสบภัยพิบัติที่หนักเป็นประวัติการณ์

อีกทั้ง ในขณะนี้สถานการณ์การป้องกันอุทกภัยบริเวณแม่น้ำใหญ่แต่ละแห่งยังน่าเป็นห่วง ในขณะที่ภัยแล้วบริเวณเจียงหนัน หัวหนัน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ บริเวณริ่มฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ก็มีโอกาสที่จะประสบกับไต้ฝุ่นและน้ำท่วม ส่วนพื้นที่ป่าไม้บริเวณมองโกเลียใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ก็จำเป็นต้องระวังไฟป่ากันอย่างเต็มที่

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">น้ำท่วมสวนสาธารณะในอู่ฮั่น</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table>

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="333"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="333"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพมุมสูงของน้ำท่วมที่กระจายตัวไปหลายพื้นที่ของจีน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อนึ่ง ในวันเดียวกัน อีกหน่วยงานของรัฐบาล ก็ได้ออกมายืนยันตัวเลขสอดคล้องกับคำกล่าวของรองนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า จากตัวเลขผู้ประสบภัยพบว่า ภัยธรรมชาติของจีนในปี 2007 เกิดจากอากาศที่แปรปรวนที่มากผิดปกติ มีการเกิดภัยพิบัติควบคู่ในหลายพื้นที่ บางที่มีการเกิดซ้ำซ้อน หลายแห่งเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงกว่าที่เคยมี

โดยจากตัวเลขถึงวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้ที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติแล้วทั้งสิ้น 280 ล้านคนครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1,279 คน สูญหาย 239 คน มีการย้ายที่อยู่อย่างฉุกเฉินไปแล้วกว่า 6,153,000 คนครั้ง มีพื้นที่การเกษตรที่เสียหายไปทั้งสิ้น กว่าร้อยล้านไร่ บ้านที่พังทลายยราว 790,000 หลัง และทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงไปแล้วถึง 110,180 ล้านหยวน

เฉพาะตัวเลขผู้ประสบภัยในเดือนก.ค.ของประเทศจีน ก็มีผู้ที่ประสบความเดือดร้อนถึง 130 ล้านคนครั้ง มีผู้เสียชีวิต 712 คน สูญหาย 163 คน และต้องย้ายถิ่นฐานฉุกเฉิน 3,755,000 คน มีพื้นที่การเกษตรราว 66 ล้านไร่ มีบ้านเรือนพังทลาย 464,000 หลังคาเรือน บ้านที่เสียหาย 1,160,000 หลัง และทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรง 61,970 ล้านหยวน

ทั้งนี้ ภัยธรรมชาติของจีนที่เกิดขึ้น ได้แก่อุทกภัย ดินถล่ม ภัยแล้ง พายุลูกเห็บ แผ่นดินไหว โดยมีลักษณะพิเศษที่ต่างจากที่ผ่านมาเช่น เขตที่เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนพายุลูกเห็บที่เกิดขึ้น ก็กินพื้นที่ขยายวงกว้างออกไป นอกจากนั้นยังประสบกับเหตุแผ่นดินไหวที่มากกว่า 5 ริกเตอร์หลายครั้ง</td></tr></tbody></table>