สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยหนาว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 10:06:03 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูมิภาค 14 ม.ค. - หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยหนาว ซึ่งในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก อุณหภูมิในเช้าวันนี้ ลดลงถึง 0 องศาเซลเซียสแล้ว
อากาศที่กลับมาหนาวเย็นอีกระลอก ส่งผลให้ประชาชนในหลายพื้นที่ ของจังหวัดพิษณุโลก ได้รับผลกระทบจากภัยหนาว ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนภูเขาสูงของเทือกเขาภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย ซึ่งในเช้าวันนี้วัดอุณหภูมิได้ 0 องศาเซลเซียส จึงเกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง หรือน้ำแข็งบนยอดหญ้า และทั้งพบว่ามีคนเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และหวัด เป็นจำนวนมาก เนื่องจากร่างกายปรับสภาพไม่ทัน และยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวเป็นจำนวนมาก
อากาศที่หนาวเย็น ยังส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร เช่น มะลิที่จังหวัดจันทบุรี ไม่ออกดอก ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นถึง 8 เท่าตัว จากกิโลกรัมละ 200 บาท เป็น 1,600 บาท ซึ่งถือว่าแพงที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากดอกมะลิขาดตลาด ขณะที่ดอกไม้ชนิดอื่น ที่ใช้ในการร้อยมาลัยก็แพงขึ้นตามไปด้วย อาทิ ดอกจำปา จากที่เคยขายดอกละ 20-30 สตางค์ ก็ขึ้นเป็นดอกละ 1.50 บาท ดอกรัก จากกิโลกรัมละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็น 100 บาท
ในขณะที่ภาคใต้ กลับมีคลื่นลมแรง จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้จังหวัดพังงา ต้องประกาศห้ามไม่ให้เรือขนาดเล็กทุกประเภท รวมถึงเรือท่องเที่ยวไปตามเกาะต่าง ๆ ออกจากฝั่ง และย้ำให้ทุกฝ่ายเข้มงวดกับเรือทุกลำที่ให้บริการ และต้องให้นักท่องเที่ยวสวมชูชีพทุกคนตลอดการเดินทาง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ทะเลสงขลาคลื่นซัดชายฝั่งทลาย-ต้นสนล้มระเนระนาด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 10:08:39 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สงขลา 14 ม.ค.- นายรอหาด หมันเจริญ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ตรวจสอบความเสียหายตามแนวชายหาดในพื้นที่ ม.8 บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว หลังถูกคลื่นลมอ่าวไทยกำลังแรงซัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเช้ามืดที่ผ่านมา (14 ม.ค.) ต้นสนและต้นไม้อายุนับร้อยปีริมฝั่งกว่า 20 ต้น หักโค่นขวางถนนสายทุ่งใหญ่-จะนะ
นอกจากนี้ แนวชายหาดยังถูกคลื่นซัดกลืนหายไปกว่า 1 กิโลเมตร ชาวบ้านเกรงว่า คลื่นจะซัดถึงถนนในอีกไม่กี่วัน เพราะขณะนี้พื้นที่ชายหาดเสียหายอย่างมาก แม้ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามทำแนวกันคลื่นมาหลายปี แต่ยังไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ฟิจิเผชิญฝนตกหนักซ้ำอีกระลอก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 10:39:20 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซูวา 14 ม.ค. – ฟิจิเผชิญฝนตกหนักอีกกระลอกในวันนี้ ซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วม ให้ทวีรุนแรงยิ่งขึ้น หลังเผชิญฝนตกหนักมานาน 5 วัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน บ้านเรือนประชาชน ธุรกิจ และพื้นที่เกษตรกรรมถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย
หลังจากปริมาณฝนเริ่มลดลงในหลายพื้นที่ของฟิจิเมื่อวานนี้ แต่กลับมีฝนตกกระหน่ำลงมา อีกระลอกในหลายพื้นที่ ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงวันนี้ ส่งผลให้เมืองลาบาซา บนเกาะวานัว เลวู มีน้ำท่วมสูง 6 เมตร ขณะที่เมืองนาดี ทางตะวันตกของเกาะวิติเลวู เกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ ต้องเผชิญน้ำท่วมอีกครั้ง ทั้งยังทำให้นักท่องเที่ยวหลายร้อยคน ไม่สามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ เพื่อเดินทางออกจากฟิจิ นายกเทศมนตรีเมืองระบุว่า ตามถนนหนทางในเมือง มีน้ำท่วมสูง 65 ซ.ม. (ราว 2 ฟุต) ส่วนร้านค้า และสำนักงานในเมืองถูกน้ำท่วม ได้รับความเสียหายไป ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และนับแต่วันศุกร์มีการยืนยันผู้เสียชีวิต หรือสูญหายแล้วอย่างน้อย 8 คน
ผู้อำนวยการสำนักอุตุนิยมวิทยาฟิจิ คาดว่า จะยังมีฝนตกหนักต่อไปในพื้นที่ภาคตะวันตก จนถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เช่นในเมืองวานัว เลวู โดยฝนที่อาจตกลงมาอย่างหนักในคืนนี้จะทำให้มีน้ำท่วมสูงขึ้นบริเวณพื้นที่ต่ำ บริเวณแม่น้ำ และลำธาร อย่างไรก็ดี คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วม จะบรรเทาลงในหลายพื้นที่ในวันศุกร์ และวันเสาร์นี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมารัฐบาลฟิจิประกาศให้พื้นที่เกาะวิติเลวู ทางตะวันตก เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งยังจำกัดการเดินทางเข้าไปในเมืองนาดี เมืองบา และเมืองซิกาโตกา ของเกาะวิติเลวู
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เหนือเย็นจัดชาวบ้านป่วยเพิ่มแห่รักษานับพันราย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 11:28:05 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูมิภาค 14 ม.ค.- แพทย์ย้ำดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะอุณหภูมิยังลดลงต่อเนื่อง ห่วงหมู่บ้านบนเขาเผชิญหนาวเหน็บที่พิษณุโลก 0 องศาฯ ขณะที่ลำปางชาวบ้านเจ็บป่วยแห่เข้ารักษาเพิ่มขึ้น เฉพาะ รพ.ศูนย์ลำปาง รับผู้ป่วยวันละ 1,500 ราย
นพ.วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ห่วงสุขภาพประชาชนต้านทาน สภาพอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องไม่ไหว ทำให้เจ็บป่วยมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ รวมถึงราษฎรบนภูเขาบ้านร่องกล้า ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จำนวน 130 ครอบครัว กว่า 1,000 คน ขณะนี้ประสบความหนาวเย็นอย่างหนัก ต้องก่อไฟผิงเพิ่มความอบอุ่น โดยอุณหภูมิเช้าวันนี้ (14 ม.ค.) อยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส เกิดน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพในระยะนี้ไว้เป็นพิเศษ
นพ.ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ นายแพทย์ 9 ด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า อุณหภูมิในพื้นที่ลดลงมาตลอดกว่า 1 สัปดาห์ ขณะนี้พื้นที่ทั่วไปประมาณ 11 องศาเซลเซียส ยอดดอยต่ำกว่า 5 องศาฯ ซึ่งสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างมาก ส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วย เข้ามารักษาตามโรงพยาบาลรัฐ ทั้ง 13 อำเภอ เฉลี่ยวันละ 5,000 คน โดยเฉพาะโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง วันละกว่า 1,500 คน ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินทางหายใจ เช่น ไข้หวัด ไอ จาม และเจ็บคอ รวมถึงผู้ป่วยปอดบวม คาดว่าปีนี้ มีผู้ป่วยจากอากาศหนาวมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยอดผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคระบาดในซิมบับเว พุ่งเฉียด 2,000 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 11:40:42 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ฮาราเร 14 ม.ค.- องค์การอนามัยโลกระบุ ยอดผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคระบาดในซิมบับเว พุ่งเฉียด 2,000 คน แล้ว และอีกเกือบ 40,000 คน ติดเชื้อ นับจากโรคนี้ระบาดในซิมบับเวตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีรายงาน อหิวาตกโรคในซิมบับเวแพร่ลามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น แอฟริกาใต้ และบอตสวานาอีกด้วย ซิมบับเวเผชิญการระบาดของอหิวาตกโรค ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังย่ำแย่ถึงขีดสุด เกิดการขาดแคลนอาหาร เชื้อเพลิง ไฟฟ้า ทั้งยังขาดแคลนเงินสดรวมถึงเงินสกุลต่างชาติเอาไว้จับจ่ายใช้สอย ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขยืนยันการที่ซิมบับเวไม่สามารถนำเข้าสารเคมีบำบัดน้ำ ได้อย่างพอเพียง จึงส่งผลให้อหิวาตกโรคแพร่ระบาดเช่นนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงนำน้ำในแม่น้ำและจากบ่อน้ำที่ตื้นเขินมาดื่มกิน ทดแทนน้ำก๊อกที่มักจะเหือดแห้ง ขณะเดียวกัน ระบบกำจัดของเสียในซิมบับเวก็ล้มเหลว ขยะและกองสิ่งปฏิกูลกลายเป็นที่เล่นสำหรับเด็ก จึงทำให้เด็กติดเชื้ออหิวาตกโรคได้ง่าย
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลซิมบับเวประกาศให้การระบาดของอหิวาตกโรคเป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ นับจากนั้น ก็มีรัฐบาลจากหลายประเทศ รวมถึงองค์กรชั้นนำระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก แพทย์ไร้พรมแดน ออกซ์แฟม ยูเสด และหน่วยงานอื่นของสหประชาชาติเข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น การระบาดของโรคอาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงที่ซิมบับเวเข้าสู่ฤดูฝนในเดือนนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สหรัฐหนาวตายแล้ว 1 ราย อุณหภูมิลบ 29 องศาฯ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 14:16:32 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สหรัฐ 14 ม.ค. - อากาศหนาวเย็นในสหรัฐลดต่ำลงสู่ระดับขั้วโลก ขณะที่หิมะตกลงมาอย่างหนักทางตอนบนของแถบมิดเวสต์
พื้นที่หลายส่วนของสหรัฐในขณะนี้กำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดพอ ๆ กับอากาศในแถบขั้วโลกเหนือ ส่วนพื้นที่ตอนบนของแถบตอนกลางด้านตะวันตก หรือมิดเวสต์ของสหรัฐ ก็มีหิมะตกลงมาอย่างหนัก สภาพท้องถนนที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ เป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก ในรัฐมินนิโซตา ไปจนถึงรัฐอินเดียนา ไฮเวย์บางแห่งต้องถูกปิด เนื่องจากมีรถคว่ำกีดขวางการจราจร อุณหภูมิในเมืองฟาร์โก รัฐนอร์ทดาโคตา ลดต่ำลงไปอยู่ที่ลบ 29 องศาเซลเซียส จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิต จากสภาพอากาศหนาวเย็นจัดแล้ว 1 คน โรงเรียนหลายแห่งหยุดการเรียนการสอน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐ เตือนด้วยว่า คลื่นความเย็นระลอกใหม่จะเข้าปกคลุมรัฐต่าง ๆ ในแถบริมมหาสมุทรแอตแลนติกตอนกลาง ราววันพฤหัสบดีและศุกร์นี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ปภ.สรุปพื้นที่ประสบภัยหนาว 41 จังหวัด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ [ 14-01-2552 | 12:08 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ภัยหนาว มีจังหวัดประสบภัยหนาว 42 จังหวัด เป็นจังหวัดในภาคเหนือ 15 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคตะวันออก 2 จังหวัด และภาคกลาง 6 จังหวัด ซึ่งได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาวแล้ว 41 จังหวัด และได้แจกจ่ายเครื่องกันหนาวแก่ประชาชนที่เดือดร้อนไปแล้วกว่า 650,000 ผืน
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย 1784 เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมฟิลิปปินส์คร่าชีวิตผู้คน 9 ราย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 14:45:30 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">คากายัน เดอ โอโร 14 ม.ค. - เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เผยว่า เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มทั่วฟิลิปปินส์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 คน และเกือบ 200,000 คน ต้องอพยพจากบ้านเรือน
คณะกรรมการประสานงานภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (เอ็นดีซีซี) ระบุว่า แนวปะทะอากาศเย็นที่พาดผ่านพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ 11 จังหวัด ตั้งแต่เกาะลูซอน ทางตอนเหนือของประเทศ ไปจนถึงเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำให้บางส่วนของจังหวัดมิซามิส ออกซิเดนทัล และมิซามิส โอเรียนทัล ทางภาคใต้ ต้องจมอยู่ใต้น้ำ
ฝนที่ยังตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องยกเลิกบริการเที่ยวบินขนาดเล็ก โรงเรียนต้องปิดทำการเรียนการสอน แม่น้ำหลายสายในจังหวัดอากูซัน เดล นอร์เต มีระดับน้ำเอ่อล้นจนทำให้เกิดน้ำท่วม และมีรายงานเกิดคลื่นซัดฝั่งตามพื้นที่แนวชายฝั่งหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกิดดินถล่ม น้ำท่วมในเขตบิโคล ทางภาคตะวันออก และมีเรือประมงขนาดเล็กอับปางในเขตเซ็นทรัลวิซายา ขณะนี้มีผู้สูญหาย 9 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน ส่วนประชาชนอีก 37,889 ครอบครัว หรือราว 191,586 คน ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปอยู่ในที่ปลอดภัย.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ชาวบ้านชายฝั่งทะเลสงขลาเริ่มอพยพหนีคลื่นซัด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 14:25:47 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สงขลา 14 ม.ค.- นายรอหาด หมันเจริญ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา เปิดเผยว่า ปัญหาคลื่นซัดกระหน่ำชายฝั่งอย่างรุนแรงในพื้นที่ ม.8 บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว ทำให้บ้านเรือนเสียหายแล้วประมาณ 100 ครัวเรือน ล่าสุดชาวบ้านส่วนหนึ่งพากันอพยพไปอาศัยตามบ้านญาติ เพราะเกรงว่าช่วงกลางคืนคลื่นจะซัดเข้ามารุนแรงขึ้นจนไม่ทันตั้งตัว ขณะที่เทศบาลฯ เร่งนำกระสอบทรายแจกจ่ายตามบ้านเรือนประชาชนที่ประสบภัย เพื่อใช้เป็นแนวกันคลื่นชั่วคราว โดย 2-3 เดือนที่ผ่านมา เทศบาลฯ ใช้งบประมาณป้องกันคลื่นกระแทกฝั่งไปแล้ว 300,000 บาท แต่ยังป้องกันไม่ได้มากเท่าที่ควร ซึ่งจะเร่งสำรวจความเสียหายรายงานจังหวัด เพื่อขอความช่วยเหลือแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ตัวเลขคนติดเชื้ออหิวาตกโรคในซิมบับเวพุ่งเกิน 40,000 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 16:34:31 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เจนีวา 14 ม.ค. - องค์การอนามัยโลก ระบุอหิวาตกโรคระบาดในซิมบับเว คร่าชีวิตผู้คนเกิน 2,000 คนแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 40,448 คน
นับจากเชื้ออหิวาตกโรคระบาดในซิมบับเว เมื่อเดือน ส.ค. จนถึงบัดนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวพุ่งไปอยู่ที่ 2,106 คน และภายในวันเดียวมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 1,642 คน
โฆษกองค์การอนามัยโลก ยอมรับว่า ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของอหิวาตกโรคในซิมบับเวได้ และคาดว่าถ้าซิมบับเวเข้าสู่ฤดูฝน จะยิ่งทำให้เชื้อแพร่กระจายผ่านทางน้ำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกรุงฮาราเร ที่สถานการณ์ทวีความเลวร้ายที่สุด เพราะมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ถึง 238 คน และผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 10,939 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สุราษฎร์ฯ คลื่นถล่มหมู่บ้านประมง-เซาะถนนพัง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-01-2552 | 17:33:46 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สุราษฎร์ธานี 14 ม.ค. - ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์คลื่นอ่าวไทยฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานี สูงกว่า 2 เมตร พัดถล่มหมู่บ้านชาวประมงบ้านพอด หมู่ 1 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่กว่า 50 หลัง เริ่มได้รับผลกระทบบางส่วน ขณะที่กระสอบทราย ที่ทหารค่ายวิภาวดีนำมาวางไว้ เป็นแนวป้องกันถูกคลื่นเซาะลงทะเล รวมทั้งเซาะถนนเลียบชายทะเลสายหาดบ้านพอด-ดอนสัก เสียหายกว่า 1 กิโลเมตร รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้
สำหรับเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะสมุย เกาะพะงัน ลดเที่ยวบริการจากเดิม เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงและคลื่นแรง เรือเฟอร์รี่ไม่สามารถเทียบท่าได้ ทำให้ต้องเสียเวลาไปกว่า 30 นาที เนื่องจากท่าเทียบเรือของบริษัท ราชา เฟอร์รี่ ใช้ได้เพียงท่าเดียว จากปกติมีบริการ 3 ท่า
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ทะเลนราฯ คลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเรือประมงจมหาย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 15-01-2552 | 01:20:39 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">นราธิวาส 15 ม.ค.-คลื่นลมแรงสูงกว่า 3 เมตร ซัดเรือประมงจมหายกลางทะเล จ.นราธิวาส 1 ลำ ทำให้ชาวประมง 4 คนสูญหาย

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันทำให้คลื่นทะเลที่สูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มชายฝั่งทะเล จ.นราธิวาสเป็นแนวยาว ล่าสุดตำรวจน้ำนราธิวาสรับแจ้งว่า มีเรือประมงพื้นบ้านถูกคลื่นซัดจมกลางทะเล ชาวประมงสูญหาย 4 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม โดยตำรวจน้ำนำเรือออกช่วยเหลือ แต่ไปได้ครึ่งทางเจอคลื่นสูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มจนต้องนำเรือกลับเข้าฝั่ง

ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส เตือนเรือประมงควรงดออกจากฝั่ง เนื่องจากทะเลฝั่งอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือประมงงดออกจับปลาชั่วคราว จอดเทียบท่าริมทะเลตั้งแต่แม่น้ำบางนราถึง อ.ตากใบ ส่งผลทำให้อาหารทะเลมีราคาสูงขึ้น.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อ.ภูเรือ อุณหภูมิติดลบ 3 องศาเซลเซียสจนเกิดแม่คะนิ้ง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 15-01-2552 | 10:13:52 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูมิภาค 15 ม.ค.- ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเดือดร้อนจากอากาศหนาว หลายจังหวัดต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาวเพิ่ม ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการผิงไฟคลายหนาวแล้วนับ 10 คน

อุตรดิตถ์ประกาศเขตประสบภัยพิบัติหนาวครอบคลุมทั้งจังหวัดแล้ว หลังอุณหภูมิลดลงต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เฉลี่ย 6-8 องศาเซลเซียส สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ยากไร้ ที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่บนภูเขาสูงทั้งในอำเภอบ้านโคก, ฟากท่า, น้ำปาด, ท่าปลา และลับแล
เช่นเดียวกับจังหวัดยโสธร ก็ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว ครบทุกอำเภอแล้วเช่นกัน โดยมีประชาชนที่รอความช่วยเหลือมากกว่า 144,000 คน

และยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการผิงไฟไล่หนาว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์กว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีบาดแผลเพราะถูกไฟลวก หรือไฟไหม้ตามร่างกาย เนื่องจากเผลอหลับ แต่โชคดียังไม่มีใครอาการหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต

ส่วนที่จังหวัดเลยวันนี้ อุณหภูมิในตำบลบ่อปลา อำเภอภูเรือ ลงไปติดลบ 3 องศาเซลเซียส จนเกิดแม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างแข็งไปทั่วบริเวณ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สถานการณ์น้ำท่วมในฟิจิเริ่มคลี่คลายลงแล้ว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 15-01-2552 | 10:47:11 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซูวา 15 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ฟิจิเผยวันนี้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุด ในรอบหลายสิบปีในฟิจิเริ่มคลี่คลายลงแล้ว ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11 คน และอีก 9,000 คนต้องอาศัยในศูนย์อพยพผู้ประสบภัย

แม้ปริมาณฝน รวมทั้งระดับน้ำท่วมจะลดลง และมีแสงแดดเข้ามาแทน ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของฟิจิวันนี้ แต่ผู้อำนวยการสำนักอุตุนิยมวิทยาฟิจิ เตือนว่า อาจมีฝนตกลงมาอีก และเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ดังนั้นจึงยังคงแนะนำให้ชาวบ้าน ที่อาศัยตามแนวชายฝั่งอพยพไปอยู่ในพื้นที่สูง

อุทกภัยครั้งรุนแรงในฟิจิที่เริ่มขึ้นตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสร้างความเสียหาย ให้พื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของเกาะวิติเลวู เกาะหลักของฟิจิ สะพาน และถนนหนทาง ถูกน้ำพัดเสียหาย ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายพันคนตกค้าง และทำลายไร่อ้อยเสียหายหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11 คน และอีก 9,000 คน ต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพผู้ประสบภัย 131 แห่ง

โฆษกตำรวจ ระบุว่า ขณะนี้เมืองลาบาซา บนเกาะวานัวเลวู ไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้า ดังนั้น จึงแนะนำไม่ให้ประชาชนเดินทางไปไหนเพราะสภาพอากาศอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ เช่นเดียวกับเมืองนาดี ที่เป็นประตูสู่ฟิจิสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ ซึ่งรัฐบาลฟิจิได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานยามวิกาลในเมืองบา นาดี และซิกาโตกา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ชายฝั่งทะเลใต้เสียหายหนัก คลื่นยังซัดกระหน่ำต่อเนื่อง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 15-01-2552 | 10:54:12 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูมิภาค 15 ม.ค.- คลื่นลมอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ซัดกระหน่ำเข้าชายฝั่งหลายจังหวัด ภาคใต้เสียหายมากขึ้น ทั้งบ้านเรือน ต้นไม้-ถนนเลียบชายทะเล ชาวบ้านกลัวไม่ปลอดภัย ทยอยไปพักที่อื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์คลื่นลมอ่าวไทย ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ (15 ม.ค.) คลื่นยังสูงกว่า 2 เมตร และพัดถล่มหมู่บ้านชายฝั่งตลอดเวลา โดยเฉพาะ ต.หน้าสตน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร ต.ขนาบนาค และ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง เสียหายกว่า 30 กิโลเมตร

แม้บางแห่งสร้างเขื่อนกันคลื่น ยื่นลงไปในชายทะเล แต่ไม่สามารถป้องกันความแรง ของคลื่นได้ ทำให้น้ำทะเล ซัดกระแทกเข้ามาท่วมขังตามบ้านเรือน รวมถึงถนนสายหัวไทร-ปากพนัง ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบางส่วนใน อ.หัวไทร เริ่มอพยพไปพักอาศัยชั่วคราว ตามบ้านญาติ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะเกรงว่าคลื่นจะซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง จนไม่ทันตั้งตัว ทางอำเภอหัวไทร เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อขอความช่วยเหลือจากจังหวัด

ส่วน จ.สุราษฎร์ธานี หมู่บ้านชาวประมงบ้านพอด หมู่ 1 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก ยังถูกคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซัดกระหน่ำตลอดเวลา และสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 2 หมู่บ้าน ต.ดอนสัก ซึ่งนายธณวรรต รอดจิตต์ ปลัดอำเภอดอนสัก พร้อมนางวันทนี เชยกลิ่น นายกเทศบาลตำบลดอนสัก นำเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบว่าถนนเลียบชายทะเลคลื่นเซาะกว่า 2 กิโลเมตร ต้นมะพร้าวล้มกว่า 50 ต้น ประชาชนเดือดร้อนกว่า 50 ครัวเรือน 250 คน และช่วยอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว พร้อมเตรียมเสนอจังหวัดจัดทำแผนแก้ปัญหาถาวร

นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ได้รับรายงานความเสียหายเบื้องต้นจากคลื่นซัดชายฝั่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง และเขตเทศบาลเมืองสิงหนคร อ.สิงหนคร มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 40 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 4 หลัง ทางเทศบาลตำบลเกาะแต้ว พบว่ายังมีบ้านเรือนเสี่ยงถูกคลื่นซัดอีก 50 หลัง จึงระดมกระสอบทรายและหินขนาดใหญ่ มาวางป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังแนวหาดทั้ง 3,000 เมตร โดยเฉพาะจุดเสี่ยงคลื่นซัดถนนสายทุ่งใหญ่-จะนะ เนื่องจากคอสะพานเริ่มชำรุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำสัญลักษณ์เตือนภัยการสัญจร.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• นักดับเพลิงเร่งดับไฟป่าในออสเตรเลีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 15-01-2552 | 17:03:43 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซิดนีย์, ออสเตรเลีย 15 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลีย เร่งดับไฟป่าที่เผาผลาญ กินพื้นที่เข้าไปในเขตชานเมืองของนครซิดนีย์ ในวันนี้ ขณะเดียวกัน ได้แจ้งเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้าน แทนที่จะพยายามดับไฟป่าด้วยตัวเอง

โฆษกหน่วยดับเพลิงในพื้นที่ชนบทในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เผยว่า ไฟป่าในย่านลอนดอนเดอร์รี ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 60 กม. สร้างความเสียหายแก่รถยนต์ และโรงเรือนขนาดเล็ก แต่ไม่มีบ้านเรือนประชาชนหรืออาคารสำนักงานธุรกิจ ได้รับความเสียหาย และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ทางการได้ระดม เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ราว 150 คน ออกดับไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วราว 93.75 ไร่

ไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูร้อนของออสเตรเลีย บางครั้งไฟลุกลามกินพื้นที่ เข้าไปในเขตเมือง สร้างความเสียหายอย่างหนัก ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พื้นที่ไฟป่าปะทุขึ้น มีอุณหภูมิสูง 40 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดไฟป่าได้ง่าย แม้มีแนวปะทะอากาศเย็นในวันนี้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลง หนำซ้ำยังทำให้เกิดกระแสลม จนยากแก่การควบคุมเพลิง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คลื่นโถมบ้านแหลมตะลุมพุกเสี่ยงเสียหายหนัก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 15-01-2552 | 18:29:51 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">นครศรีธรรมราช 15 ม.ค. - ชายฝั่งทะเลนครศรีธรรมราชคลื่นซัดรุนแรง หอบทรายเข้าท่วมโอ่งน้ำใช้ดื่มไม่ได้ หมู่บ้านแหลมตะลุมพุกเสี่ยงเสียหายหนัก กระสอบทรายแนวกั้นคลื่นอาจต้านไม่อยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานความเสียหายของชายฝั่งทะเลนครศรีธรรมราช จากคลื่นลมแรง ซัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ อ.ท่าศาลา อ.เมืองบางส่วน อ.ปากพนัง อ.หัวไทร ว่า หลายชุมชนริมทะเล โดยเฉพาะ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง เป็นพื้นที่เสี่ยง และเกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง ซึ่งหมู่บ้านชาวประมง ม.2 และ ม.3 ราว 200 หลังคาเรือน ถูกน้ำทะเลซัดเข้าท่วมกว่า 6 ชั่วโมง รวมถึงพื้นที่ริมทะเลบ้านหน้าโกฐ ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง กระแสคลื่นพัดพาน้ำทะเลท่วมตุ่ม และโอ่งน้ำขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านรองรับน้ำฝนไว้บริโภค กลายเป็นน้ำเค็ม พร้อมกับทรายเข้าท่วมครึ่งโอ่ง

นายแพรก สังข์แก้ว อายุ 78 ปี ราษฎร ม.10 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง กล่าวว่า เดิมบริเวณนี้เป็นสวนมะพร้าวกว่า 600 ต้น เนื้อที่ยาวกว่า 120 เมตร ปัจจุบันถูกน้ำทะเลกลืนหายไปหมด มะพร้าวเหลือเพียง 4 ต้น และเหลือเนื้อที่เพียงไม่ถึง 10 เมตร ยังไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ใด

ด้านนายสุนีย์ ทองแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง กล่าวว่า บ่อปลากะพง และบ่อปลาดุกทะเล ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ หายไปกับกระแสน้ำทะเล ส่วนชาวประมง ไม่สามารถออกทะเลได้ มานานกว่า 2 เดือนแล้ว เนื่องจากคลื่นลมแรงสูง 2-4 เมตร เบื้องต้นจัดหากระสอบทราย มาป้องกันแนวกัดเซาะชั่วคราว และไม่ทราบว่าจะต้านทานได้นานเท่าใด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• รัสเซียเตือนภัยสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 16-01-2552 | 09:08:036 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">มอสโก 16 ม.ค. - สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติในรัสเซีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน รัสเซียประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ที่เมืองเปโตรพาฟลอฟ-กัมชาตสกี้ทางตะวันออกของรัสเซีย ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 ริกเตอร์ในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับญี่ปุ่น

แผ่นดินไหวรุนแรงดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.49 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 00.49 น.ในไทย อยู่ทางตะวันออกของหมู่เกาะคูริลในมหาสมุทรแปซิฟิก และอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว ราว 1,787 กิโลเมตร โดยที่เมืองเปโตรพาฟลอฟ-กัมชาตสกี้ ซึ่งมีประชากร ราว 200,000 คนอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 725 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก แถลงว่า ไม่มีแนวโน้มเกิดคลื่นยักษ์สึนามิรุนแรง และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คลื่นความร้อนสร้างความเสียหายหลายจุดในนครซิดนีย์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 16-01-2552 | 11:15:24 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ออสเตรเลีย 16 ม.ค. - คลื่นความร้อน ทำให้เกิดไฟป่าขึ้นรอบนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินจำนวนมาก

คลื่นความร้อนทางตะวันออกของออสเตรเลีย ทำให้สภาพอากาศแห้งแล้ง และยังก่อให้เกิดไฟป่าขึ้นครั้งแรกในช่วงฤดูร้อนที่นครซิดนีย์ ซึ่งไฟป่าได้เกิดขึ้นหลายจุดชานนครซิดนีย์ รถยนต์ โรงรถ และโรงานต่างๆ ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย เปลวเพลิงของไฟป่ามีความสูงถึง 5 เมตร อุณหภูมิสูงขึ้นกว่า 40 องศาเซลเซียส พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่ามากที่สุด คือ เขตลอนดอนเดอรี ทางตะวันตกของซิดนีย์ เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงราว 150 คน ต้องร่วมมือกับผู้คนในท้องถิ่นป้องกันบ้าน 15 หลัง ที่ตกอยู่ในความเสี่ยง และสามารถช่วยให้บ้านรอดจากเปลวเพลิงไฟป่าไปได้ในที่สุด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ระบาดในเนปาลครั้งแรก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 16-01-2552 | 16:10:29 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กาฐมาณฑุ 16 ม.ค. - นายกฤษณะ บาฮาดูร์ มาฮารา รัฐมนตรีการสื่อสารและสารสนเทศเนปาล เผยวันนี้ว่า พบสัตว์ปีกในเนปาลติดเชื้อไข้หวัดนก สายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 1 นับเป็นครั้งแรกที่พบไข้หวัดนกในเนปาล

นายมาฮารา กล่าวว่า มีรายงานพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1 ในไก่และเป็ด ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของประเทศ โดยศูนย์กลางการระบาดอยู่ใกล้รัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย ซึ่งกำลังพยายามควบคุมการระบาดในสัตว์ปีก นับแต่เมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางการเนปาลได้ประกาศให้บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่วิกฤติ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบนกยักษ์บินหมดแรงตกกาญจนบุรี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 16-01-2552 | 15:55:55 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กาญจนบุรี 16 ม.ค. - นายบุญล้อม หนูสั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ตรวจสอบนกขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านจับไว้ได้ ช่วงเที่ยงวันนี้ (16 ม.ค.) และนำใส่กรงไว้ที่วัดสาลวนาราม หมู่ 13 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยลักษณะของนกมีขนสีน้ำตาล จงอยปากยาวประมาณ 3 นิ้ว ความสูงของนก 2 ฟุต น้ำหนัก 5.5 กก. เบื้องต้นคาดว่าเป็นนกตระกูลแร้ง และไม่เคยพบในประเทศไทยมาก่อน อาจเป็นนกที่หนีอากาศหนาว ระหว่างบินมาไกลเกิดหมดแรง จึงร่วงลงมาไม่สามารถบินต่อไปได้ ชาวบ้านที่ไปพบจึงจับมาดูแลไว้ ซึ่งนกดังกล่าวจะส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตรวจสอบลักษณะรูปพรรณและที่มาให้แน่ชัดอีกครั้ง หลังจากนกพักฟื้นแข็งแรงดีแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ท้องร่วงระบาดหนักในซิมบับเว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 17-01-2552 | 23:11:56 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซิมบับเว 17 ม.ค. –สถานการณ์โรคท้องร่วงยังระบาดหนักในซิมบับเว สหประชาชาติ และกาชาดสากลอยู่ระหว่างเร่งช่วยเหลือ

นางแอน เวเนมาน ผู้อำนวยการองค์กรยูนิเซฟ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนซิมบับเวนาน 3 วัน ระบุสถานการณ์โรคท้องร่วงระบาดในพื้นที่ยังรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อยู่ที่กว่า 2,225 ราย ผู้ป่วยมากกว่า 42,675 ราย เฉลี่ยผู้ป่วยมีเพิ่มขึ้นวันละ 1,550 ราย ขณะที่ชาวบ้านในซิมบับเวมากกว่า 5 ล้านคน ยังต้องพึ่งพาอาหารและความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ จากต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม นางเวเนมาน กล่าวภายหลังได้พบหารือกับประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ เมื่อวันศุกร์ ระบุสถานการณ์โรคท้องร่วงในบางพื้นที่เริ่มควบคุมได้บ้างแล้ว แต่องค์กรต่างชาติยังต้องเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลางที่จีน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 18-01-2552 | 12:41:47 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 18 มค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 ริกเตอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อคืนวันเสาร์ โดยมีรายงานความเสียหายบางส่วน

แผ่นดินไหวเกิดขึ้น เมื่อเวลา 20.41 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันเสาร์ บริเวณรอยต่อระหว่างมณฑลหยุนหนานกับมณฑลกุ้ยโจว และอยู่ลึกใต้พื้นดิน 10 กิโลเมตร สื่อท้องถิ่นในจีน รายงานว่า ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ แต่อาคารบางแห่งได้รับความเสียหาย

ก่อนหน้านี้มณฑลเสฉวนในจีน เกิดแผ่นดินไหว 8.0 ริกเตอร์ เมื่อปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 87,000 คน.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>