สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• รัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลียน้ำท่วมหนัก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 29-11-2551 | 15:13:03 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ออสเตรเลีย 29 พ.ย.-เกิดน้ำท่วมหนักในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลีย ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งเข้าช่วยเหลือ ชาวบ้านที่หนีน้ำติดอยู่ตามต้นไม้และท้องถนน
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา วัดปริมาณได้มากกว่า 164 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำพีล รัฐนิวเซาธ์เวลส์ เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 6 เมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรง ถึงขั้นเมืองแทมเวิร์ธต้องถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน จนถึงเช้าวันนี้ประชาชนในเมืองแทมเวิรธ์ ยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีชาวบ้านโทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือ จากหน่วยกู้ภัยเกือบ 170 สาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องออกตระเวน เร่งให้ความช่วยเหลือผู้คนที่หนีน้ำท่วมขึ้นไปอยู่ตามต้นไม้ บ้างก็ติดอยู่ในรถที่ถูกน้ำท่วม
กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ร่องความกดอากาศต่ำ จะพาดผ่านทางใต้ของออสเตรเลีย จึงทำให้ยังคงมีฝนตกมากขึ้น ในพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งรัฐนิวเซาธ์เวลส์.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วม อ.สุคิริน ระดับน้ำสูง 70 ซม.

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 29-11-2551 | 17:14:43 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">นราธิวาส 29 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องตลอด 1 สัปดาห์ ส่งผลให้น้ำบนเทือกเขาสันกาลาคีรี แหล่งต้นน้ำในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เพิ่มปริมาณมากขึ้น จนไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ราบลุ่ม บ้านกลูบี ม.1 บ้านมาโมง ม.2 อ.สุคิริน จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 70 ซม. ถนนสายหลัก เส้นทางระหว่าง อ.สุคิริน เข้าสู่ตัว จ.นราธิวาส ถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 80 ซม. เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม. ยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ ยังมีดินถล่มทับเส้นทางเป็นระยะ ๆ ด้วย ล่าสุดในพื้นที่หมู่ 3 บ้านปารีย์ ต.มาโมง อ.สุคิริน มีกระแสลมแรง พัดต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มทับเสาไฟ จนสายไฟฟ้าขาด ได้รับความเสียหาย และกีดขวางถนนการจราจรติดขัด และไฟฟ้าดับทันที เจ้าหน้าที่ต้องเร่งซ่อมแซมท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติภายในคืนนี้
ด้าน นายวรเชษฐ พรหมโอภาศ นายอำเภอสุคิริน พร้อมด้วยกำลัง อส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 35 ได้ร่วมกันออกให้ความช่วยเหลือ อพยพประชาชน เครื่องใช้และสัตว์เลี้ยง ทั้งที่ถูกน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วม และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมนำเรือท้องแบนออกไปประจำตามจุดต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อิหร่านซ้อมรับภัยแผ่นดินไหวทั่วประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 30-11-2551 | 04:04:08 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อิหร่าน 30 พ.ย. - อิหร่านซ้อมรับภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ทุกคนพร้อมใจร่วมกิจกรรมมากกว่า 14 ล้านคน
การซ้อมรับภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทั่วประเทศ มีขึ้นเมื่อวันเสาร์ ทางการขอความร่วมมือชาวบ้าน ร่วมกิจกรรมมากกว่า 14 ล้านคน มุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักเรียน และตามสถานที่ชุมชนหนาแน่น โดยให้เจ้าหน้าที่คอยช่วยแนะนำชาวบ้าน ถึงวิธีปฏิบัติตัว และรู้ทางเอาตัวรอดระหว่างเผชิญสถานการณ์ร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่การพยาบาล ได้ใช้โอกาสนี้ฝึกซ้อมความพร้อมลำเลียง และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไปด้วย เช่นเดียวกับกลุ่มเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ทั้งนี้ อิหร่านตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลก และเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้ง.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยอดผู้เสียชีวิตจากฝนตก-ดินถล่มบราซิล เพิ่มเป็น 109 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 30-11-2551 | 09:22:52 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ริโอ เดอ จาเนโร 30 พย. - สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนบราซิล รายงานว่า ฝนตกระลอกใหม่ทำให้เกิดดินถล่มมากขึ้น ในรัฐซานตา คาตาริน่า ที่ประสบอุทกภัย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโคลนถล่มเพิ่ม 4 ราย ส่วนยอดรวมผู้เสียชีวิตมีจำนวน 109 ราย
หน่วยกู้ภัยพบศพเพิ่ม 4 ราย จากดินถล่มเมื่อวันศุกร์ ซึ่งชาวบ้านต้องเผชิญอันตรายจากโคลนถล่ม และน้ำท่วมมากขึ้น ทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 79,000 คน และชาวบ้านเดือดร้อน 1.5 ล้านคน ทั้งนี้ ฝนตกหนักมานานนับเดือน ทำให้มีดินถล่มราว 4,000 ครั้ง ในรัฐทางใต้ของประเทศ ไฟฟ้าดับและฝังกลบบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ถนนหลายสายจมอยู่ใต้กองโคลน คาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีก 19 ราย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แม่น้ำสุไหงโก-ลกเอ่อท่วมสูงเกือบถึงสะพานรถไฟ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 30-11-2551 | 11:12:38 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">นราธิวาส 30 พ.ย.- ชาวบ้านหลายอำเภอใน จ.นราธิวาส เดือดร้อนนับพันครัวเรือน หลังแม่น้ำสุไหงโก-ลก เอ่อล้นฉับพลัน บางส่วนต้องย้ายมาพักชั่วคราวยังจุดที่จัดไว้ และน้ำยังขึ้นสูงเกือบถึงสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ย.) สูงถึง 9.60 เมตร เนื่องจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง และยังมีน้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ด้าน อ.สุคิรินไหลมาสมทบ ทำให้แม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่งฉับพลันท่วมพื้นที่ริมฝั่ง หลายอำเภอ คือ อ.สุไหงโก-ลก นอกจากบ้านเรือน 8 ชุมชน ถูกน้ำท่วมแล้ว 2,000 ครัวเรือน ระดับน้ำบริเวณสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ขึ้นสูงเกือบถึงรางรถไฟ
นายสมเกียรติ สุวรรณนิมิต นายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมอพยพชาวบ้านบางส่วน มาอาศัยชั่วคราวที่โรงเรียนเทศบาล 4 โดยเฉพาะชุมชนท่าโรงเลื่อย ถนนชลธารเขต ซอย 2 และหัวสะพาน (บริเวณด่านศุลกากร) และน้ำยังทะลักอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับนายเถกิงศักดิ์ ยกศิริ นายอำเภอแว้ง นำเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากชาวบ้านถูกน้ำท่วมหลายตำบล โดยบ้านบูเก๊ะตาอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ได้รับความเดือดร้อนมาก
ส่วน อ.สุคิริน นอกจากน้ำท่วมหลายหมู่บ้าน ยังมีดินถล่มบนถนนบ้านมาโมง 1 บ้านกาลูบี และบ้านไอจือเร๊าะ 5 ต.มาโมง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทางหลวงสามารถจัดเก็บเศษดินเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้ได้ตามปกติ
ด้านนายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอตากใบ กล่าวว่า แม้ขณะนี้น้ำท่วมยังไม่รุนแรง แต่พื้นที่ ต.นานาค กับ ต.เกาะสะท้อน ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ผู้ป่วยโรคน้ำท่วมปัตตานีเข้ารักษากว่า 600 ราย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 30-11-2551 | 12:21:55 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปัตตานี 30 พ.ย. นพ.ยอร์น จิระนคร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า สาธารณสุขจังหวัด ยังคงส่งหน่วยปฐมพยาบาลเคลื่อนที่ ออกบริการรักษาเบื้องต้น แก่ประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์เป็นปกติ ในตำบลปะกาฮารัง ต.ปูยุด และ ต.รูสะมิแล อ.เมือง หากพบผู้ป่วยรายใด มีอาการรุนแรงจะส่งไปรักษาโรงพยาบาลปัตตานี เพื่อรักษาโรคได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผู้มารับบริการกับหน่วยปฐมพยาบาลเคลื่อนที่แล้ว 621 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคผิวหนัง ไข้หวัด และถ่ายเหลว
นอกจากนี้ ยังดูแลสุขภาพทางจิตที่เกิดความเครียดจากปัญหาน้ำท่วม หรือภาวะเจ็บป่วย โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องกินยาควบคุม อาการต่อเนื่องทุก 1-3 เดือน เช่น โรคหอบหืด โรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ และรับยาที่โรงพยาบาลตามนัด ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดออกดูแลสุขภาพ อย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่แล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบวาฬเกยตื้นตายในออสเตรเลีย 80 ตัว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 30-11-2551 | 15:38:11 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">โฮบาร์ท 30 พ.ย. – พบฝูงวาฬราว 80 ตัวขึ้นมาเกยตื้น และตายลง บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ ของออสเตรเลีย ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะเข้าไปช่วยชีวิตได้ทัน
เจ้าหน้าที่หน่วยอุทยานและสัตว์ป่าของรัฐแทสเมเนีย รุดไปยังแหลมแซนดี พาร์ค ที่อยู่ห่างไกลของออสเตรเลียในวันนี้ หลังได้รับแจ้งจากลูกเรือเฮลิคอปเตอร์คนหนึ่ง ที่พบวาฬนำร่องครีบยาวขึ้นมาเกยตื้น และได้รับบาดเจ็บ แต่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อค่ำวานนี้ แต่เมื่อไปถึงพบว่าวาฬเหล่านั้นตายแล้ว ส่วนวาฬอีก 15 ตัว ที่คาดว่า น่าเป็นวาฬฝูงเดียวกัน ว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ และมีท่าทางเศร้าโศก จากนั้นจึงเริ่มว่ายน้ำออกไปหลังวาฬเกยตื้นตัวสุดท้ายตายลง ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยอุทยาน และสัตว์ป่าคนหนึ่งระบุว่า บริเวณชายฝั่งที่ฝูงวาฬขึ้นมาเกยตื้น เต็มไปด้วยแนวปะการัง และหินแหลมคม ทำให้วาฬที่ขึ้นมาเกยตื้นได้รับบาดเจ็บ และตายลงในที่สุด
ปรากฏการณ์วาฬเกยตื้นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพิ่งจะช่วยชีวิตวาฬ 11 ตัวในบรรดาวาฬ 60 ตัว ที่ขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดตะวันตกเฉียงเหนือ ของเกาะแทสเมเนียเมื่อสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ปรากฏการณ์วาฬเกยตื้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในแทสเมเนีย ซึ่งเป็นเส้นทางที่วาฬใช้เดินทางไป หรือกลับจากทะเลขั้วโลกใต้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ปลาวาฬ 150 ตัวตายขณะเกยตื้นในออสเตรเลีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 30-11-2551 | 19:51 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปลาวาฬ 150 ตัวที่มาเกยตื้นในบริเวณชายฝั่งที่อยู่ห่างไกลทางตอนใต้ ของออสเตรเลีย ได้ถูกน้ำพัดกระหน่ำชนกับหินโสโครกจนตาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย จะมาช่วยชีวิตปลาวาฬเหล่านี้ได้ทัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า ปลาวาฬ 72 ตัว ตายหลังจากที่ได้พากันมาเกยตื้น ในบริเวณหินโสโครก ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งนับว่าเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากที่ปลาวาฬ 53 ตัว ได้พากันมาเกยตื้น และตาย ในบริเวณใกล้เคียงกับปลาวาฬฝูงก่อนหน้านี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ไปถึงบริเวณที่ ปลาวาฬพากันมาตายในวันนี้แล้ว และพบว่า ปลาวาฬเพียง 2 ตัว ยังคงมีชีวิตอยู่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คืบอหิวาระบาดซิมบับเว ตายแล้ว 400 ราย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 30-11-2551 | 23:19:52 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซิมบับเว 30 พ.ย.-ยอดผู้เสียชีวิตจากวิกฤติอหิวาตกโรคระบาดในซิมบับเวเพิ่มขึ้น เป็นอย่างน้อย 425 คน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า สถานการณ์จะเลวร้ายลงอีก
หนังสือพิมพ์ซันเดย์ เมลของซิมบับเว รายงานอ้างคำแถลงของรัฐมนตรีสาธารณสุขซิมบับเว ที่ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค ในซิมบับเวแล้ว อย่างน้อย 11,000 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 425 คน แต่คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเลวร้ายลงอีก ในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากเชื้อโรคจะแพร่พันธุ์ได้ดี โดยเฉพาะตามแหล่งน้ำท่วมขังต่าง ๆ ซึ่งหากประชาชนในประเทศ ยังขาดการดูแลสุขอนามัยที่ดี และรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต อาจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งของซิมบับเวต้องปิดทำการ เพราะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยที่เข้ามารักษาอาการจำนวนมากได้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วม-ดินถล่มในบราซิล เพิ่มเป็นอย่างน้อย 110 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-12-2551 | 05:16:49 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">บราซิล 1 ธ.ค.-ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม จากฝนตกหนัก ในรัฐทางภาคใต้ของบราซิล พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 110 คนแล้ว
สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนบราซิล รายงานว่า ฝนตกระลอกใหม่ ทำให้เกิดดินถล่ม มากขึ้น ในรัฐซานตา คาตารินา ที่ประสบอุทกภัย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิต จากโคลนถล่ม เพิ่ม 4 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 110 ราย ขณะที่ชาวบ้าน ต้องเผชิญอันตรายจากโคลนถล่มและน้ำท่วมมากขึ้น ทำให้มี ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย เกือบ 79,000 คน และได้รับความเดือดร้อนอีกกว่า 1.5 ล้านคน
ทั้งนี้ ฝนตกหนักมานานนับเดือน ทำให้เกิดเหตุดินถล่มราว 40,000 ครั้งในรัฐทางใต้ ของประเทศ ฝังกลบบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ถนนหลายสายจมอยู่ใต้กองโคลน และกระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ คาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีก 19 ราย.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำป่าหลากท่วมหาดใหญ่-เมืองสงขลา เร่งอพยพราษฏรไปที่ปลอดภัย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ [ 01-12-2551 | 09:19 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลา ส่งผลให้น้ำ ทั้งจากบริเวณต้นน้ำของ อ.นาหม่อม และน้ำป่าจากเขาคอหงส์ ไหลหลากเข้าท่วม บริเวณสามแยกคอหงส์ และบริเวณสี่แยกคลองหวะ เขตเทศบาลตำบลคอหงส์ รอยต่อเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะที่โรงเรียนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และเขตเทศบาลตำบลคอหงส์ ประกาศปิดการเรียนการสอน 11 แห่ง
นอกจากนี้ น้ำป่าจากเขาเทียมดา ได้ไหลหลากเข้าท่วมถนนกาญจนวณิช เส้นทาง สายหลักสงขลา-หาดใหญ่ บริเวณบ้านบางดาน เขตเทศบาลตำบลเขารูปช้าง และบริเวณห้าแยกน้ำกระจาย เขตเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าไปแก้ปัญหาสภาพการจราจร และช่วยเหลือราษฎร ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว
ด้านนายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 02.00 น. ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เข้าไปอพยพราษฎร จำนวนเกือบ 100 คน ที่บ้านปลักธง เขตเทศบาลตำบลคอหงส์ ไปพักอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ฝนกระหน่ำชายแดนใต้ ยะลา-นราฯ น้ำสูงหลายอำเภอ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-12-2551 | 13:21:08 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ยะลา, นราธิวาส 1 ธ.ค.- ผู้ว่าฯ ยะลาประกาศ 2 อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วม โรงเรียนปิดสอนไม่มีกำหนด พร้อมเร่งกันพื้นที่สำคัญกลางใจเมือง ส่วนนราธิวาสแม่น้ำ 3 สายล้นตลิ่งท่วม 12 อำเภอ สูงกว่าเมตร
นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า แม่น้ำปัตตานีและสายบุรี น้ำขึ้นสูงมากจากฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยบ้านเรือนอำเภอรามันถูกแม่น้ำสายบุรี เอ่อท่วม 6 ตำบล คือ อาซ่อง เกะรอ ท่าธง บาลอ ตะโละหะลอ และกายูบอเกาะ ส่วนอำเภอเมืองแม่น้ำปัตตานีเอ่อท่วม 2 ตำบล คือ ตาเซะและยุโป จึงประกาศ อำเภอรามันและอำเภอเมืองเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม เพื่อเร่งช่วยเหลือ ราษฎรในเบื้องต้น ขณะเดียวกันโรงเรียนใน อ.รามัน ปิดการเรียนการสอนวันนี้ 3 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านยะต๊ะ โรงเรียนบานกาลูปัง และโรงเรียนอาเหฮูโต๊ะ เนื่องจากน้ำท่วมภายในอาคาร
ส่วนเขตเทศบาลนครยะลาเจ้าหน้าที่ตั้งเครื่องสูบน้ำ 8 เครื่อง ไว้ตามจุดต่าง ๆ แต่ที่เป็นห่วงคือ หากฝนตกหนักในอำเภอกรงปินัง บันนังสตา ธารโต และเบตง อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มทับเส้นทางสาย 410 ยะลา–เบตง ซึ่งกำชับให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยะลา และสำนักงานทางหลวงชนบท นำเครื่องจักรกลเตรียมพร้อมไว้ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ จ.นราธิวาส น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืน แม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี ล้นตลิ่งท่วมเป็นวงกว้าง 209 หมู่บ้าน 43 ตำบล 12 อำเภอ คือ อ.เมือง สุคิริน เจาะไอร้อง บาเจาะ รือเสาะ ตากใบ จะแนะ ศรีสาคร แว้ง สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และระแงะ ในระดับ 100-120 เซนติเมตร ซึ่งน้ำเพิ่มขึ้น จากวานนี้เฉลี่ย 20-30 ซม. ถนนหมู่บ้านจมน้ำ 89 สาย ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ
นอกจากนี้ กระแสน้ำเชี่ยวยังพัดบ้านเรือนที่อยู่ทางน้ำไหลผ่านใน อ.สุไหงปาดี เสียหาย 21 หลัง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ช่วยอพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนคอสะพาน ถูกน้ำพัดเสียหาย 12 แห่ง เจ้าหน้าที่ติดป้ายเตือนให้ระวังการสัญจร ทางด้าน อ.สุไหงโก-ลก โรงเรียนหลายแห่งปิดสอนเช่นกัน รวมทั้งสถานที่ราชการและมัสยิด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แอนแทรกซ์ระบาดที่ซิมบับเวที่แย่เพราะเชื้ออหิวาต์-ศก.ล่ม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย คม ชัด ลึก [ 01-12-2551 | 13:55 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">
(1ธ.ค.) องค์การการกุศล เซฟ เดอะ ซิลเดรนของอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นที่กรุงฮาราเร่ของซิมบับเวว่า ได้เกิดการแพร่ระบาด ของเชื้อโรคแอนแทรกซ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน เป็นเด็ก 2 คนกับผู้ใหญ่ 1 คน ในแถบหุบเขาแซมเบซี่ และกำลังเป็นภัยคุกคามต่อฝูงปศุสัตว์ 60,000 ตัว ในทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งยิ่งเป็นปัญหาซ้ำเดิมประเทศ ที่ซึ่งกำลังพยายาม รับมือกับการระบาดไปทั่วประเทศ ของอหิวาตกโรค ซึ่งนับจากปลายเดือนสิงหาคม มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 11,000 คน และคร่าชีวิตประชาชนไป 425 คนแล้ว แอนแทรกซ์เป็นโรคระบาดในสัตว์ที่สามารถส่งต่อไปยังมนุษย์ ผ่านทางการสัมผัส หรือรับประทานเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ ราเชล พาวด์ส ผู้อำนวยการของเซฟ เดอะ ซิลเดรนในซิมบับเว กล่าวว่า การขาดแคลนอาหาร ทำให้ครอบครัวที่หิวโหย จำเป็นต้องรับประทานเนื้อสัตว์ ทั้งที่รู้ว่าตายเพราะโรคนี้ และป้อนเนื้อให้กับลูกๆ เธอกล่าวด้วยว่า การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในซิมบับเว ในปัจจุบันร้ายแรงที่สุด ในรอบเกือบ 30 ปี เจ้าหน้าที่ได้พยายามใช้มาตรการกักกันโรค เพื่อป้องกันไม่ให้โรค แพร่ระบาดออกไป แต่การล่มสลายของเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ไม่มีทางเลือกมากนัก ซิมบับเวกลายเป็นประเทศยากจนอย่างหนัก หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจนานนับสิบปี และการปราบปรามอย่างรุนแรง ของประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ้ ต่อการท้าทาย ทางการเมืองจากพรรคฝ่ายค้าน คือ แนวร่วมเพื่อการเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตย (Movement for Democratic Change.)
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สงขลาท่วมหนัก อ.รัตภูมิ ตัดขาดทั้ง 5 ตำบล

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-12-2551 | 14:07:00 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สงขลา 1 ธ.ค.- นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา เปิดเผยว่า อ.รัตภูมิ เป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสูง และขณะนี้เข้าขั้นวิกฤติแล้วทั้ง 5 ตำบล 46 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ ต.เขาพระ เส้นทางทุกจุดจมน้ำ ชาวบ้านนับร้อยครัวเรือน ถูกตัดขาด จากโลกภายนอก และเดือดร้อนอย่างหนัก โดยอำเภอกับโรงพยาบาลรัตภูมิ นำอาหารกล่อง พร้อมน้ำดื่มเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที แต่ยังไม่เพียงพอ จึงประสานขอความอนุเคราะห์ จากหลายองค์กรเพื่อสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค
สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เพราะมีน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ไหลหลากฉับพลัน ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นทับบ้านเรือนเสียหาย 5 หลัง แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งนำสะพานแบริ่งมาใช้ชั่วคราวแทนสะพานขาด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ทะเลชุมพรคลื่นแรงซัดหอยรากกองเต็มหาด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-12-2551 | 14:45:06 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ชุมพร 1 ธ.ค. - ชาวบ้านริมทะเล จ.ชุมพร แห่เก็บหอยรากถูกคลื่นมรสุมซัดขึ้นเต็ม หาดอ่าวคอสน กว่า 10 ตัน ทั้งส่งขายและบริโภคเอง ด้านสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อม ระบุปีนี้ คลื่นแรงผิดปกติ คาดเป็นผลจากภาวะโลกร้อน วอนทุกฝ่ายร่วมกันอนุรักษ์ระบบนิเวศน์
น.ส.ชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขาธิการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ปีนี้คลื่นลมมรสุมถือว่าแรงกว่าทุกปี เนื่องจากซัดหอยรากขึ้นมากอง ตามชายหาด อ่าวคอสน ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวนกว่า 10 ตัน คาดว่าเป็นเพราะ ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และธรรมชาติที่ถูกทำลาย โดยเฉพาะโขดหิน ดินดอน แนวปะการังในท้องทะเล ที่เป็นแนวป้องกันภัย จากคลื่นซัดโถมเข้าหาฝั่ง ถูกทำลายไปมากจากเรือประมง ทั้งอวนลากเดี่ยวลากคู่ และอวนล้อม ซึ่งมีผลกระทบ ต่อทรัพยากรทะเลอย่างมาก เพราะเรือดังกล่าวมักฝ่าฝืนกฎหมายกำหนด ลักลอบลากอวนจับปลา ภายในพื้นที่ห่างจากฝั่ง 3,000 เมตร ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องเข้มงวดดูแลป้องกันอย่างจริงจัง
นายเดิม สรนัย อายุ 65 ปี อาชีพทำประมง กล่าวว่า ฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือชาวบ้านเรียกว่า ลมว่าว บริเวณดังกล่าวจะมีหอยรากลอยขึ้นมาอยู่ตามริมชายหาด เป็นประจำทุกปี แต่ไม่มากเท่าปีนี้
โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง ทำให้ดอนหอยราก ที่อยู่ลึกลงไปในทะเลประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณหน้าอ่าวคอสน ลอยขึ้นมากองเต็มชายหาด ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเก็บหอยรากไปทำอาหาร และจำหน่ายกว่า 10 ตัน กิโลกรัมละ 15 -20 บาท เฉลี่ยรายได้วันละ 300-1,000 บาท ส่วนหอยรากที่เน่าเสีย หรือไม่ได้ขนาด จะทำเป็นปุ๋ยหมักใช้ในสวนปาล์ม ยางพารา และสวนผลไม้.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• คลื่นความหนาวปกคลุมสหรัฐ ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่าครึ่งร้อย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ [ 01-12-2551 | 15:26 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">คลื่นอากาศหนาวที่แผ่ปกคลุมทั่วบริเวณเกรสเลค(***) ทำให้เที่ยวบินกว่า 50 เที่ยว ที่ท่าอากาศยานนานาชาติโอแฮร์ ในนครชิคาโก ของสหรัฐฯ ต้องถูกยกเลิก ขณะที่การให้บริการเที่ยวบินตามสนามบินใหญ่ๆ หลายแห่งในนครนิวยอร์กต้องล่าช้าออกไป
ด้านสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า พายุหิมะอาจทำให้ มีหิมะตก หนาถึง 9 นิว ในรัฐอิลลินอยส์ นอกจากนี้หิมะที่ตกหนักยังส่งผลกระทบ ต่อการจราจร ในรัฐโคโลราโดด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภัยหนาวเชียงรายเดือดร้อนนับแสนคน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-12-2551 | 15:50:46 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เชียงราย, แพร่ 1 ธ.ค. - จ.เชียงราย เย็นจัด เฉพาะพื้นราบ 7.8 องศาเซลเซียส ราษฎรประสบภัยกว่า 100,000 คน เตือนผู้ขับขี่วิ่งฝ่าหมอกผ่านดอยสูง ส่วน จ.แพร่ อดีตครูวัย 62 ปี เสียชีวิต คาดหัวใจวายเฉียบพลันจากอากาศหนาวเย็น
สถานีอุตุนิยมวิทยาเชียงราย รายงานสภาพอากาศวันนี้ (1 ธ.ค.) ที่พื้นราบวัดได้ 7.8 องศาเซลเซียส ยอดดอยต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส โดยช่วงเช้ามีหมอกลงจัด ระยะมองเห็นสั้นลง ประชาชนที่สัญจรควรระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเส้นทาง ดอยสูง และใกล้แหล่งน้ำ ส่วนผู้ประสบภัยหนาว จากการสำรวจของสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พบราษฎรทั้ง 18 อำเภอ ในพื้นที่ราบและยอดดอย ขาดแคลนเครื่องกันหนาวถึง 140,000 คน
ด้าน ร.ต.อ.เติมพงศ์ กันจินะ ร้อยเวร สภ.สอง จ.แพร่ พร้อมแพทย์โรงพยาบาลสอง ร่วมชันสูตรศพนายวิชิต ปริญญานิลกุล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ก่อนอายุราชการ เมื่อเช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) บ้านเลขที่ 109 หมู่ 4 ต.เตาปูน สภาพศพอยู่บนที่นอนคลุมผ้าห่มผืนบาง ร่างกายไม่มีบาดแผล และภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมา 3 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุอาจมาจาก โรคประจำตัวของนายวิชิต ซึ่งเป็นโรคหัวใจ ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมา อากาศหนาวเย็นมาก ร่างกายต้านทานไม่ไหว ทำให้หัวใจวายเฉียบพลัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เวนิสประสบภัยน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 22 ปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-12-2551 | 19:39:03 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เวนิส 1 ธ.ค. - เมืองเวนิสของอิตาลีกำลังเผชิญอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 22 ปี วันนี้ โดยมีระดับน้ำสูงกว่า 1.5 เมตร
ศูนย์ตรวจสอบกระแสน้ำในเวนิส ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทิศทางลม ส่งผลให้ระดับน้ำเริ่มลดลง จากระดับที่สูงถึง 1.56 เมตร ทางการเวนิสเตือนว่า ระดับน้ำทะเลที่ไหลทะลักเข้ามาในเมือง อาจส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.6 เมตร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และเตือนให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเก็บตัว อยู่ในบ้านหรือที่พัก ทั้งนี้ ถนนเกือบทุกสาย ในเมืองเวนิส รวมทั้งย่านที่มีนักท่องเที่ยว จำนวนมาก เต็มไปด้วยน้ำ นับแต่เมื่อเช้า ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์ตรวจสอบกระแสน้ำฯ คาดว่า ระดับน้ำอาจลดลงสู่ระดับปกติในเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 01.00 น. วันพรุ่งนี้ ตามเวลาในไทย และจะเพิ่มระดับขึ้นมาใหม่ ในเช้าวันพรุ่งนี้ ตามเวลาท้องถิ่น
ที่ผ่านมา เมืองเวนิสเผชิญน้ำท่วมมาแล้ว 50 ครั้ง ในช่วงระหว่างปี 2536-2545 โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2509 ซึ่งเมืองเวนิสจมอยู่ ใต้ระดับน้ำสูงถึง 1.94 เมตร ขณะเกิดน้ำท่วมหนักเป็นบริเวณกว้างในอิตาลี ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว องค์การยูเนสโก เตือนว่า เมืองเวนิสอาจเป็นหนึ่ง ในมรดกโลกที่ถูกคุกคาม จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำป่าหลากท่วมห้าแยกเกาะยอรถเล็กสัญจรไม่ได้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ [ 02-12-2551 | 09:59 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จากเหตุการณ์ที่ฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้มีน้ำท่วมขัง และนาข้าวใน อ.สิงหนคร อ.กระแสสินธ์ อ.สทิงพระ และ อ.ระโนด ได้รับความเสียหายประมาณ 60,000 ไร่ ในส่วนของ อ.เมืองสงขลา มีน้ำไหลมาจากเขาท่วมถนนสายหาดใหญ่-สงขลา บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยทักษิณ บ้านเขาแก้ว ต.เขารูปช้าง และบริเวณ ห้าแยกเกาะยอ น้ำป่าไหลมาจากเขาเทวดา ทำให้บริเวณห้าแยก มีน้ำท่วมขัง รถเล็กไม่สามารถไปมาได้ และอาจจะเกิดอันตรายได้ ทางตำรวจภูธร เมืองสงขลา ได้จัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุการณ์น้ำท่วม และแจ้งเตือนผู้ที่ใช้รถ ให้ระมัดระวัง ในการขับขี่ระหว่างน้ำท่วม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สงขลา-สุราษฎร์ฯ ประเมินน้ำท่วมเสียหายกว่า 120 ล้านบาท

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 02-12-2551 | 10:12:32 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ภูมิภาค 2 ธ.ค.- ปัญหาน้ำท่วมสงขลา 13 อำเภอ เริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะหาดใหญ่ คืนสู่ภาวะปกติแล้ว หลังฝนเบาบาง น้ำคลองอู่ตะเภาลดต่ำกว่าตลิ่ง สรุปเสียหาย เบื้องต้น 58 ล้านบาท ส่วนสุราษฎร์ฯ เสียหาย 63 ล้านบาท จากน้ำป่าถล่มระลอก 2
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ล่าสุด (2 ธ.ค.) คลี่คลายแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ชั้นในกลับสู่ภาวะปกติ และเทศบาลนครหาดใหญ่ ลดระดับการเตือนภัยของระดับน้ำ ในคลองอู่ตะเภา จากธงสีแดงที่หมายถึง การเตรียมอพยพ เป็นธงสีเหลืองหมายถึงการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งระดับน้ำ คลองอู่ตะเภาขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่ง 1.50 เมตร อย่างไรก็ตาม โรงเรียนในพื้นที่ เสี่ยงภัยบริเวณริมคลองยังคงประกาศปิดการเรียนการสอนอีก 1 วัน ส่วนสภาพอากาศ เช้าวันนี้เริ่มปลอดโปร่ง ไม่มีฝนตก คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วม อีกหลายอำเภอจะดีขึ้นเช่นกัน
นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดสงขลา รายงานความเสียหายเบื้องต้นของน้ำท่วมระหว่าง 18 พ.ย. 1 ธ.ค. รวม 13 อำเภอ 87 ตำบล 517 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 169,502 คน 44,507 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,302 หลัง ปศุสัตว์ 1,789 ตัว สัตว์ปีก 18,463 ตัว พื้นที่การเกษตร 51,216 ไร่ ถนน 678 สาย คอสะพาน 31 แห่ง เหมือง 6 แห่ง วัด 2 แห่ง โรงเรียน 23 แห่ง สถานที่ราชการ 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 152 แห่ง ประเมินความเสียหาย 58 ล้านบาท
ด้านนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า น้ำป่าที่ไหลหลากระลอก 2 ช่วงวันที่ 19–30 พ.ย. พื้นที่ได้รับผลกระทบ 65 ตำบล 447 หมู่บ้าน 10 อำเภอ คือ อ.เมือง คีรีรัฐนิคม ท่าฉาง วิภาวดี กาญจนดิษฐ์ พุนพิน ดอนสัก บ้านนาเดิม บ้านตาขุน และเกาะพะงัน พื้นที่การเกษตร 91,792 ไร่ ราษฎรเดือดร้อน 20,089 ครัวเรือน 80,400 คน เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ประเมินความเสียหาย 63 ล้านบาท สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ดีขึ้นมาก และฝนตกเบาบาง ส่วนผู้ประสบภัยทั้งน้ำป่าดินถล่มในอำเภอวิภาวดี ยังคงอาศัยอยู่ที่ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยที่ศูนย์ศิลปาชีพบ้านท่านหญิง 380 คน เดินทางกลับบ้านแล้วเมื่อเย็นวานนี้ (1 ธ.ค.) แต่การเดินทางเข้าพื้นที่เป็นไป ด้วยความยากลำบากต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>