สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 13 มกราคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • เตรียมประกาศอุทัยธานีเป็นพื้นที่ควบคุมไข้หวัดนก
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 13-11-2551 | 11:55 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะมิสเตอร์เตือนไข้หวัดนก ของกระทรวงสาธาณสุข กล่าวว่า วันนี้ (13 พ.ย.) กรมปศุสัตว์เตรียมประกาศให้พื้นที่ จ.อุทัยธานี เป็นพื้นที่ควบคุมโรคไข้หวัดนก เป็นจังหวัดที่ 2 ต่อจาก จ.สุโขทัย หลังผลการตรวจยืนยันว่า ไก่ที่ตายติดเชื้อ H5N1 พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่า สภาพอากาศช่วงนี้เหมาะแก่การแพร่ระบาดของโรค

    ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกแล้ว 1 ราย ในประเทศอินโดนีเซีย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • พายุหมุน!! กลางเมืองชุมพร พบผู้บาดเจ็บ 1 คน
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 13-11-2551 | 14:27 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เกิดลมพายุหมุนที่กลางเมืองชุมพร สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินจำนวนมาก ซึ่งแรงลมกระโชกทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ อายุกว่า60 ปี ที่ ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร โค่นลงมาทับกำแพงโรงเรียนเสียหาย เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 3 ต้น ส่งผลให้ไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง

    นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านและนักเรียนที่จอดอยู่ริมถนนเสียหายกว่า 20 คัน โชคดีที่ขณะเกิดเหตุนักเรียนส่วนใหญ่นั่งเรียนอยู่ในชั้นเรียน ทำให้ไม่มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ ยกเว้นชาวบ้านที่เดินผ่านมาพอดี ทำให้บาดเจ็บ 1 คน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • พัทลุงท่วมแล้ว 2 อำเภอ-ชุมพรฟ้าโปร่ง คลายน้ำท่วม
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 13-11-2551 | 15:06:43 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">พัทลุง, ชุมพร 13 พ.ย.- บ้านเรือน จ.พัทลุง ประสบน้ำท่วมแล้ว 2 อำเภอ กว่า 50 ครัวเรือน หลังฝนตกหนักทั้งสัปดาห์ จังหวัดกำชับ 228 พื้นที่เสี่ยงรับมือ ส่วนชุมพรเริ่มดีขึ้น ฝนหยุดตก ท้องฟ้าโปร่งใส สรุปเสียหาย 8 อำเภอ 120 ล้านบาท

    ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาใน จ.พัทลุง ว่า ล่าสุด (13 พ.ย.) น้ำลำคลองเอ่อท่วมบ้านเรือนใน 2 ตำบล อ.เมือง และ 1 ตำบล อ.ควนขนุน สูง 30-50 เซนติเมตร ราษฎรเดือดร้อนกว่า 50 ครัวเรือน รวมทั้งนาข้าวและสวนยางอีก 5,000 ไร่ ซึ่งจังหวัดประกาศเตือนราษฎรพื้นที่เสี่ยงภัย ส่วนใหญ่เป็นบริเวณลุ่มต่ำ และริมทะเลสาบสงขลาจำนวน 228 หมู่บ้าน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง ควนขนุน เขาชัยสน บางแก้ว และปากพะยูน เตรียมเก็บสัมภาระและสัตว์เลี้ยงไปยังที่ปลอดภัย พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเข้าช่วยเหลือราษฎรพื้นที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว

    นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า วันนี้ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา เริ่มคลี่คลาย ซึ่งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม จ.ชุมพร รายงานความเสียหายเบื้องต้นน้ำท่วม 8 อำเภอ 55 ตำบล คือ อ.ละแม อ.พะโต๊ะ อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก อ.สวี อ.ปะทิว อ.ท่าแซะ และ อ.เมือง เริ่มสู่ภาวะปกติ ประชาชนเดือดร้อน 36,698 คน สาธารณูปโภค และพื้นที่การเกษตรเสียหาย ประเมินทั้งหมดกว่า 120 ล้านบาท และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ได้กำชับผู้เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ฝายเก็บน้ำแตกทำน้ำทะลักท่วมท่าชนะ [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-11-2551 | 03:04:45 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สุราษฎร์ธานี 14 พ.ย.-เจ้าหน้าที่ทราบสาเหตุที่ทำให้น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีแล้ว ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง
    เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจฝายเก็บกักน้ำบ้านเขาชงโค ต.คลองพา อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าตัวฝายถูกกระแสน้ำพัดขาด 2 ช่วง ช่วงละประมาณ 60 เมตร ทำให้น้ำจำนวนกว่า 5,000,000 ลูกบาศก์เมตร ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.ท่าชนะ เป็นบริเวณกว้าง ทำให้โรงเรียนอีกกว่า 20 แห่ง ประกาศปิดการเรียนการสอนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ บ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรยังได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

    ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.ไชยา น้ำยังคงขยายวงกว้าง ขณะที่ภาคเอกชน นำข้าวสารอาหารแห้ง เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวผู้สูงอายุ ที่ ต.เลม็ด ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะครอบครัวของนายรวบ และนางเนื่อม ใสสะอาด 2 สามีภรรยา อายุ 83 ปี อาศัยอยู่ภายในบ้านซึ่งถูกน้ำท่วมนานกว่า 3 วัน ไม่มีหน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยเหลือ

    นอกจากนี้ ยังมีครอบครัวของนายสิทธิและนางเนื้อม ชุมทับ ซึ่งถูกน้ำท่วม นานกว่า 3 วัน เช่นเดียวกันโดยทั้งคู่เริ่มป่วยเป็นไข้หวัดและน้ำกัดเท้า ภาคเอกชนเตรียมประสานกับภาครัฐให้เข้าไปช่วยเหลืออพยพทั้ง 2 ครอบครัวไปอยู่ที่ปลอดภัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • เชียงรายประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวทั้งจังหวัด[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-11-2551 | 10:20:15 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เชียงราย 14 พ.ย.- ผู้ว่าฯ เชียงรายประกาศพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอ ประสบภัยหนาว เพื่อนำงบฉุกเฉินช่วยเหลือราษฎร ขณะที่ ปภ.จังหวัด หวั่นไม่เพียงพอเปิดรับบริจาคสมทบเครื่องกันหนาว

    นายสุเทพ เดชชัยศรี ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า อุณหภูมิในพื้นที่หนาวเย็นมากขึ้น และลดลงต่ำกว่า 13 องศาเซลเซียส มากว่า 4 วัน ล่าสุด (14 พ.ย.) นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงนามประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน จากอากาศหนาวแล้วทั้ง 18 อำเภอ เพื่อเร่งนำงบประมาณฉุกเฉิน 300,000 บาท มาช่วยเหลือราษฎร แต่เนื่องจากมีผู้ประสบภัยหนาวมากกว่า 196,167 คน งบประมาณดังกล่าวไม่เพียงพอ จึงต้องเปิดรับบริจาคเครื่องกันหนาว อีกทางหนึ่งที่สำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อุณหภูมิพื้นราบบริเวณหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา เชียงราย เช้าวันนี้ที่ 13.4 องศาเซลเซียส โดยหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า บ้านปู่ไข่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง บนดอยสูงต้องผิงไฟคลายหนาวในตอนกลางวัน เนื่องจากเครื่องกันหนาวไม่เพียงพอ ซึ่งนายไอใจ ปู่หมื่อ ผู้นำหมู่บ้าน เรียกร้องขอความช่วยเหลือเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เนื่องจากราษฎร ในหมู่บ้านทั้งหมด 98 ครัวเรือน 340 คน ส่วนใหญ่ฐานะยากจน และขาดแคลน ผ้าห่มกว่า 100 คน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ชาวแคลิฟอร์เนียหลายล้านคนซ้อมรับมือแผ่นดินไหว[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-11-2551 | 11:11:41 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สหรัฐฯ 14 พ.ย. - ผู้คนในแคลิฟอร์เนียหลายล้านคนซ้อมรับมือแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

    การซ้อมรับมือแผ่นดินไหวในสหรัฐครั้งนี้ ซึ่งมีชื่อว่า บิ๊กวัน มีผู้คนทางตอนใต้ ของรัฐแคลิฟอร์เนียร่วม 5 ล้านคน ลงชื่อเข้าร่วมการซ้อมรับมือแผ่นดินไหว ที่ได้ชื่อว่า เป็นการซ้อมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ที่โรงเรียน มัธยมแห่งหนึ่ง ครูและนักเรียน ร่วมซ้อมรับมือแผ่นดินไหว กันภายในห้องเรียน โดยได้มีการจำลองสถานการณ์ว่าเกิดแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ ขึ้น ขณะที่ภายในสนามฟุตบอลได้มีการซ้อมว่า มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ ซึ่งเด็กนักเรียนหลายคน ไม่เคยเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวมาก่อนเลย

    นอกจากนี้ นายอาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้เดินทางมาตรวจสอบการซ้อมรับมือแผ่นดินไหว ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ทะเลสงขลาคลื่นแรงซัดต้นสนริมหาดล้มเกลื่อน[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-11-2551 | 14:23:52 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สงขลา 14 พ.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์คลื่นลมอ่าวไทย ที่มีกำลังแรงขึ้นช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่า ล่าสุดทำให้ชายหาดพื้นที่ ม.10 บ้านปึก ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ถูกคลื่นซัดทำลายอย่างหนัก จนต้นสนริมทะเลล้มระเนระนาดตลอด 500 เมตร ขณะที่คลื่นซัดชายหาดลึกเข้ามากว่า 10 เมตร เหลือเพียง 1-2 เมตร จะถึงถนนเชื่อมอำเภอจะนะ-อำเภอเมือง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาอย่างถาวร เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปีในฤดูมรสุม เกรงว่าอีกไม่ช้าถนนจะถูกคลื่นซัดเสียหาย เหมือน 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะเพียงแค่เริ่มต้นฤดู แต่ชายหาดเสียหายอย่างหนัก คาดว่าปีนี้ปัญหาคลื่นซัดฝั่งจะรุนแรงกว่าเดิม.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"สมิทธ"เตือนใต้-ตะวันออก เตรียมรับมือพายุโซนร้อน "นูล" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2551 16:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตรวจพบพายุโซนร้อนนูล ก่อตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ความเร็วลมประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ ระหว่างวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้
    ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออกของอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.จันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี และชายฝั่งภาคใต้ ฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ทำให้มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายนนี้ เรือเล็กทุกชนิดควรงดออกจากฝั่ง และหยุดให้บริการทุกอย่าง เนื่องจากคลื่นลมแรง
    นายสมิทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า พายุโซนร้อนนูล เป็นพายุลูกใหญ่ มีกำลังแรง และสร้างคลื่นได้สูงกว่า 6 เมตร รวมทั้งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์คลื่นพายุซัดฝั่งได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ธรณีพิโรธถล่มอิเหนารุนแรง 7.5 ริกเตอร์ สังเวยแล้ว 2 ชีวิต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2551 12:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=182><TBODY><TR><TD vAlign=top width=182 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แผนที่จุดเกิดเหตุแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไฟป่าผลาญแคลิฟอร์เนียเข้าวันที่ 4 บ้านเรือนเสียหายกว่า 800 หลัง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2551 11:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle>[​IMG]</TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี – ไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียเข้าสู่วันที่ 4 ขณะที่การสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราษฎรกว่า 800 หลัง และทำให้ประชาชนนับพันคนต้องละทิ้งบ้านเรือนได้เริ่มขึ้นแล้ว

    บ้านเรือนราษฎรราว 800 หลังคาเรือน ซึ่งรวมทั้งคฤหาสน์หรูมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ไปจนถึงบ้านเคลื่อนที่ ต่างได้รับความเสียหายจากไฟป่า ที่มาพร้อมกับกระแสลมแรงหลายต่อหลายครั้งทั่วภูมิภาคนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (13) เป็นต้นมา

    ทางการได้สั่งอพยพประชาชนอย่างน้อย 50,000 คน ออกจากบ้านเรือน ซึ่งล่าสุดไฟได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วเกือบ 22,000 เอเคอร์ ตั้งแต่เขตซานตาบาร์บารา ถึงพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของนครลอสแองเจลิส

    ไฟป่า ที่เผาผลาญนครลอสแองเจลิส เมื่อวันศุกร์ (14) ที่ผ่านมา นับเป็นไฟป่าที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบเกือบ 50 ปี ของเมือง จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บทั่วภูมิภาคแล้ว 11 คน

    นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ (16) ที่ผ่านมา ทางการได้ส่งหน่วยค้นหาท้องถิ่น และทีมกู้ภัย ซึ่งรวมทั้งสุนัขค้นหาศพผู้เสียชีวิตลงพื้นที่ไฟไหม้ ในนครลอสแองเจลีส และที่จอดรถบ้านเคลื่อนที่ทางตอนเหนือของซิลมาร์ ซึ่งมีบ้านเรือนถูกเพลิงเผาผลาญไปกว่า 500 หลังคา

    ด้าน ไมเคิล มัวร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครลอสแองเจลิส กล่าวกับสื่อว่า พื้นที่จอดรถบ้านเคลื่อนที่ได้รับความเสียหายประมาณ 30% แต่ขณะนี้ยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต

    ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของลอสแองเจลีสยังคงต่อสู้กับไฟป่า โดยในคืนวันเสาร์ (15) ที่ผ่านมา สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว 9,500 เอเคอร์ หรือประมาณ 30% หลังจากกระแสลมแรงในท้องถิ่นทำให้เพลิงลุกลาม

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของไฟป่าครั้งนี้

    ส่วน อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัย กล่าวว่า ทางการกำลังรับมือกับพายุสมบูรณ์แบบ โดยปัจจัยแวดล้อม ทั้งกระแสลมแรง และอากาศแห้งจัดส่งผลให้ไฟป่าทวีความรุนแรงขึ้น

    ทั้งนี้แคลิฟอร์เนียมักถูกไฟป่าเผาผลาญ เนื่องจากสภาพอากาศแห้ง และกระแสลมแซนตา แอนา รวมทั้งความเจริญ ที่ทำให้มีการสร้างบ้านอย่างรวดเร็วจนขยายรุกล้ำเข้าพื้นที่ป่า โดยเพียง 1 ปีที่ผ่านมา แคลิฟอร์เนียได้รับความเสียหายจากเพลิงครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และบ้านเรือนเสียหายกว่า 2,000 หลัง คนกว่า 640,000 คนไร้ที่อยู่ ประเมินความเสียหายมูลค่าราว 1,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จนท.กู้ภัยจีนเร่งหาผู้รอดชีวิต หลังน้ำท่วมสูงในอุโมงค์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2551 15:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อุโมงค์ทางรถไฟใต้ดินยาว 75 เมตร ในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียงถล่มลงมาเมื่อวันเสาร์ที่ 15 พ.ย. -ไชน่านิวส์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้(17 พ.ย.) หน่วยกู้ภัยจีนเร่งค้นหาคนงาน 17 คน ที่สูญหายไปหลังจากอุโมงค์รถไฟใต้ดินพังถล่ม ขณะกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนแล้ว

    ถนนเหนือจุดก่อสร้างรถไฟใต้ดินในเมืองหังโจว ทางตะวันออกของจีน ได้พังถล่มลงมาเมื่อวันเสาร์(15 พ.ย.) ทำให้คนงานติดอยู่ใต้ดิน และก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ มีรถตกลงไปอย่างน้อย 11 คัน พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่ยังสูญหายเชื่อว่าเป็นคนงานก่อสร้าง แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิต เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงบริเวณที่เป็นหลุมลึก ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็กำลังเร่งสูบน้ำออก

    โครงการรถไฟใต้ดินแห่งนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยมีมูลค่า 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2011 ปัญหาคุณภาพการก่อสร้างยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังในจีน อันเป็นผลมาจากการขาดการวางแผนที่ดี หรือใช้วัสดุก่อสร้างไม่มีคุณภาพ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนรับเด็กเสียชีวิตเพราะนมเมลามีนอาจมากกว่า 4</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 พฤศจิกายน 2551 08:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle>[​IMG]</TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คนงานในเซี่ยงไฮ้กำลังจะทำลายนมเมลามีน - เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) คนงานจีนนำนมผงปนเปื้อนสารเมลามีนมาทำลาย ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ - เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กระป๋องนมผงเมลามีนเกลื่อนกลาด - เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เทนมทิ้ง - เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เจ้าหน้าที่จีนควบคุมดูแลการทำลายผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนสารเมลามีน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี – ที่ผ่านมาสื่อทางการรายงานว่ามีเด็กทารกในจีนเสียชีวิตจากการบริโภคนมปนเปื้อนสารเมลามีน 4 ราย แต่ล่าสุดรัฐบาลคาดว่าน่าจะมีเด็กเสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 5 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้มีทารกฝาแฝด วัย 9 เดือน 1 คนรวมอยู่ด้วย โดยเด็กคนดังกล่าวเป็นลูกของสามีภรรยาที่เป็นเกษตรกรในมณฑลเหอหนัน ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา

    ด้านคณะแพทย์ของโรงพยาบาลเด็กได้ทำการตรวจอัลตราซาวน์พบว่า มีก้อนนิ่วอยู่ในไตทั้งสองข้างของหนูน้อยรายนี้ และหลังจากเด็กดังกล่าวเสียชีวิตลง 1 วัน สื่อของทางการก็รายงานว่า พบสารเมลามีนในนมผงที่ทารกรายนี้เคยดื่ม ส่วนทารกฝาแฝดอีกรายหนึ่งปลอดภัยเนื่องจากกินนมแม่ สาเหตุที่แม่เลี้ยงลูกด้วยนมได้เพียง 1 คน เนื่องจากมีปริมาณน้ำนมไม่เพียงพอสำหรับลูกแฝดนั่นเอง

    ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบนม 2 นายของบริษัทนมจีนรายใหญ่ “เหมิ่งหนิว” ถูกพรรคพวกของผู้ค้านมราว 5 คนรุมสกัม เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนนี้ได้ถกเถียงกับผู้ค้านมว่าสินค้าของพวกเขาไม่ได้มาตรฐานที่ทางการจีนกำหนดใหม่ หลังจากเกิดเหตุพบนมผงปนเปื้อนสารเมลามีนเป็นเหตุให้มีเด็กที่ทานอย่างน้อย 4 รายเสียชีวิต

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดเสียชีวิตจากเหตุธรณีพิโรธอิเหนาเพิ่มเป็น 6 ราย บาดเจ็บเกิน 150</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 พฤศจิกายน 2551 16:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270><TBODY><TR><TD vAlign=top width=270 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สภาพบ้านเรือนหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – เจ้าหน้าที่เผย ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.5 ริกเตอร์ บนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซียวานนี้ (17) เพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 150 คนแล้ว

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยดึงศพอีก 2 ศพขึ้นมาจากซากปรักหักพังได้ในวันนี้ (18) เพิ่มเติมจากยอดผู้เสียชีวิต 4 ราย ที่รายงานก่อนหน้าในเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้คนหลายพันคนต้องหลบหนีขึ้นที่สูง เนื่องจากหวั่นภัยสึนามิ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้

    รุสตัม ปากายา หัวหน้าศูนย์วิบัติภัย ของกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า “เราบันทึกได้ว่ามีผู้เสียชีวิต 6 ราย ในเหตุแผ่นดินไหว และผู้ได้รับบาดเจ็บราว 158 คน”

    ขณะที่หัวหน้าเขตบูโอล ในสุลาเวสีกลางเผยว่า บ้านเรือนกว่า 1,120 หลังคาถูกทำลายราบ จนเหลือแต่ซาก

    เหตุแผ่นดินไหวในน้ำตื้น ที่ถล่มนอกชายฝั่งเมืองโกรอนตาโล ช่วงเช้ามืดวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการได้ประกาศว่ามีความรุนแรงมากพอที่จำทำให้เกิดสึนามิครั้งใหญ่ได้ในทันที ทว่าไม่มีวี่แววของคลื่นยักษ์เกิดขึ้น

    ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุด โดยสึนามิ ที่เกิดจากแผ่นดินไหวเข้าถล่มเมื่อเดือนธันวาคมปี 2004 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200,000 คน ใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย ซึ่งในจังหวัดอาเจะห์เพียงแห่งเดียวมียอดผู้เสียชีวิตถึง 168,000 คนทีเดียว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    โลกเปลี่ยนแปลง โรคจะคุกคามมนุษย์มากขึ้น
    <HR SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->โลกเปลี่ยนแปลง โรคจะคุกคามมนุษย์มากขึ้น


    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]
    นับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา จะมีใครสังเกตเห็นบ้างไหมว่า โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างช้าๆ โดยที่แกนโลกจะ"หันข้าง"เข้าหาดวงอาทิตย์ อยู่ในระนาบตั้งฉากกับรัศมีจากดวงอาทิตย์ เป็นผลทำให้ เวลากลางวันจะเท่ากับเวลากลางคืน เมื่อปรากฎการณ์นี้เป็นอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นแกนโลกจะค่อยๆ ชี้ออกจากดวงอาทิตย์ เป็นผลทำให้ในซีกโลกเหนือกลางวันจะสั้นขึ้นเรื่อยๆ และจะสั้นที่สุดในวันที่ 21 ธันวาคม 2551

    จากนั้น ดวงอาทิตย์จะขึ้นค่อนไปทางใต้มากที่สุด และ ดวงอาทิตย์จะเริ่มตกเร็วขึ้น ในส่วนพื้นที่ของประเทศไทยจะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากประเทศจีนเริ่มพัดเข้ามา ลมนี้จะนำมวลอากาศเย็นภาคพื้นทวีปเข้ามา ทำให้ ประเทศไทยมีสภาพอากาศแห้งและเย็น ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของฤดูหนาว ที่มีแนวโน้มว่าจะหนาวเย็นกว่าทุกปีที่ผ่านมา

    ปรากฏการณ์โลกเปลี่ยนแกน ทำให้โลกหันด้านที่แตกต่างกันเข้าหาดวงอาทิตย์ บริเวณต่างๆ บนโลกจึงได้รับพลังงานความร้อนที่ไม่เท่ากันนี่เอง ที่กลายเป็น โจทย์ซึ่งกล่าวขานกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ว่า ประเทศไทย อาจจะมีหิมะตก ให้เห็น ทั้งๆที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต

    ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง หลายฝ่าย หลายสำนัก ต่างพากันวิเคราะห์ และ วิตก ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย และพลโลกบ้าง ซึ่งแน่นอน ไม่เพียงแค่ นักวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่ตื่นเต้นกับปรากฎการณ์นี้ แม้แต่ นักไสยศาสตร์ ก็พยายามจะเชื่อมโยงความเชื่อ ของตนเอง ให้เข้าไปสู่ปรากฎการณ์ที่เหลือเชื่อต่างๆนานาด้วย

    นักพาราสิตวิทยา คาดการ และเป็นห่วงกันไปต่างนานา เกรงว่า จะเกิด เชื้อโรคร้าย ที่แปลกๆเกิดขึ้นมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ความวิตกกังวล หรือ การคาดคะเน เดากันไปต่างๆนานา ทุกอย่างล้วนยังไม่มีใครกล้ายืนยัน อะไรจะเกิดขึ้นจริง หรือ ไม่จริง

    ที่แน่ๆ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อ ฤดูหนาวย่างเข้ามาเทียบอยู่บนเรือนชานของ ปวงชนชาวไทย ในช่วงความเปลี่ยนของแกนโลกที่เอียงเข้าไปหาดวงอาทิตย์ในครั้งนี้ คือ ความหนาวเย็นของประเทศไทยจะหนาวมากขึ้น และจะเป็นช่วงที่มีฝุ่นละอองมากขึ้นด้วย เพราะ เป็นช่วงที่โลกมีความกดอากาศสูง อากาศจะเย็น แห้งและมีฝุ่นฟุ้งกระจายทั่วไป

    ปรากฎการณ์เช่นนี้ มีจะผลผลโดยตรงต่อผิวพรรณ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวไวและมีความเสี่ยงของการเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ชนิดผิวไว (Atopic Dermatitis) และผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่คนทั่วไปเป็นกันมาก แต่มักไม่รู้ตัวว่าตนเองมีความเสี่ยงของโรคหรือเป็นๆ หายๆ จึงไม่ทราบวิธีดูแลรักษาและเตรียมป้องกันมิให้อาการโรคลุกลาม (Proactive and Preventive ) รวมถึงการหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่เป็นต้นเหตุและตัวกระตุ้นอาการโรคได้อย่างเหมาะสม

    โรคผื่นภูมิแพ้ชนิดผิวไว (Atopic dermatitis) เป็นภาวะของผิวที่มีความไวต่ออากาศ ความชื้น สารเคมี เชื้อโรค และฝุ่นละออง ทำให้ผิวอ่อนแอ ขาดความชุ่มชื้น มีอาการแห้ง คัน ลอกเป็นขุยหรือเป็นสะเก็ด และมีผื่นตามข้อพับ เช่น แขน ขา และคอ มักจะเป็นๆ หายๆ หรือเกาจนเป็นปื้นดำ หนา ลุกลามไปทั่วร่างกาย และหากมีการอักเสบ อาจมีตุ่มน้ำใสๆ มีน้ำเหลืองซึม หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังร่วมด้วยได้ โรคผื่นผิวหนังชนิดนี้มักจะมีประวัติในครอบครัวหรือตนเองมีอาการภูมิแพ้อย่างใดอย่างหนึ่งร่วมด้วย เช่น แพ้อากาศมีน้ำมูกไหลหรือจามเป็นประจำโดยเฉพาะในตอนเช้า มีอาการหอบหืด หรือเป็นผื่นที่ข้อพับเป็นๆ หายๆ ปัจจัยที่มากระตุ้นได้แก่ แสงแดด ฝุ่นละออง มลภาวะ เชื้อโรค การใช้สารเคมีและการดูแลผิวอย่างไม่ถูกวิธี เช่น อาบน้ำอุ่น การล้างหน้าแรงๆ รวมถึงการมีความเครียด วิตกกังวล จะกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคมากขึ้น

    การดูแลรักษา หากมีผิวแห้ง ลอก ให้ทาครีมบำรุงผิว (Moisturizer) หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีฟองและไม่รบกวนผิว เช่น การถู การเกา ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ, AHA, BHA หรือบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นก่อนการใช้ โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็นให้งดการใช้น้ำอุ่นควรใช้ออยล์ (Oil)ทาก่อนและหลังอาบน้ำเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและลดอาการคัน ในกรณีที่คันมากแพทย์จะให้แอนตี้ฮีสตามีนเพื่อช่วยลดอาการหรือให้ยาทาผื่น เช่น สเตียรอยด์ครีม จะช่วยให้ผื่นยุบเร็วขึ้น หากมีอาการติดเชื้อมีน้ำเหลืองซึม แพทย์อาจให้ประคบเปียก โดยใช้ผ้าก๊อสชุบน้ำปิดหมาดๆ วางบริเวณที่เป็นประมาณ 10-15 นาที เพื่อลดอาการคัน ได้ด้วย

    นพ.พรเลิศ ตรีทศเดช แพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณ กล่าวว่า "โชคดีหน่อยที่โรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis) นี้นั้นไม่ใช่อยู่ๆก็จะอักเสบขึ้นมาเลยทีเดียว โดยไม่สามารถรู้ล่วงหน้า ในวงการของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว แพทย์สามารถจะทำนายได้ค่อนข้างแม่นยำว่า ลักษณะผิวแบบใดที่มีโอกาสจะเป็นโรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis) ได้สูง และลักษณะผิวที่จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงก็คือ ลักษณะผิวแบบ seborrhea skin ลักษณะของผิวแบบ seborrhea skin นั้น ระยะแรกๆ จะมีอาการหน้ามัน T-Zone มีอาการคันศีรษะเป็นครั้งคราว หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาอาการก็จะมากขึ้น โดยหน้าจะมันเยิ้มแต่หลังล้างหน้าจะมีอาการผิวแห้ง หน้าตึงเกินกว่า 3 ชั่วโมง เกิดสิวเทียม และมีรังแคร่วมกับอาการคันศีรษะมาก ถ้าไม่ทำการรักษาก็จะเข้าสู่โรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis)ในที่สุด การบำบัดอาการ Seborrhea skin ได้ยิ่งเร็วเท่าไรและดีเท่าไรก็จะลดโอกาสที่จะดำเนินไปสู่ โรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis) ได้มากเท่านั้น

    การบำบัดแก้ไข สามารถกระทำได้ดังต่อไปนี้

    ในกรณีของคนที่มีกำลังมีอาการของ seborrhea skin เต็มที่ เช่น มีสิวเทียม มีรังแค หน้ามันมากแต่ล้างแล้วแห้ง หน้าตึงเกินกว่า 3 ชั่วโมงหลังล้าง ต้องทำการรักษาแบบ active โดยรักษาสิวเทียม รักษารังแค ใช้เจลล้างหน้า ใช้ moisturizer ที่เหมาะสม

    ในกรณีของคนที่มีประวัติ เคยเป็น seborrhea skin มาแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีอาการเด่นชัด จะต้องใช้การPreventive ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมัน เจลล้างหน้า moisturize และการ skin care

    ในกรณีของคนที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย แต่มีแนวโน้มที่จะเป็น เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ คนที่มีผิวผสม หน้ามัน T-Zone ซึ่งคนเหล่านี้หากปล่อยไว้ก็มีโอกาสที่จะเป็น Seborrhea skin แน่ ก็จะต้องทำการ proactive ซึ่งก็คือป้องกันล่วงหน้า ทำได้โดยคล้ายๆกับการ preventive นั่นเอง

    นายแพทย์ พรเลิศ ตรีทศเดช ยืนยันว่า "การบำบัดอาการ seborrhea skin นั้นสามารถลดโอกาสเป็นโรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis) ได้เป็นอย่างมาก"

    นอกจากโรคผื่นภูมิแพ้ชนิดผิวไวแล้ว ช่วงปลายฝนต้นหนาว คือตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ เราจะพบปัญหาผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่น (Seborrhic Area) หรือบริเวณทีโซน (T- zone) ซึ่งเรียกว่า โรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrhic Dermatitis) ซึ่งพบบ่อยๆ มักเป็นเรื้อรัง พบได้ที่ใบหน้า บริเวณหัวคิ้ว สองข้างจมูก ไรผม คาง อาจพบได้ที่ทรวงอกและแผ่นหลัง รวมถึงที่บริเวณศีรษะ ลักษณะเป็นรังแค (Dandruff) ซึ่งมีลักษณะเป็นสะเก็ดบางๆ ลอกเป็นขุยสีขาว มีอาการคันร่วมด้วย หากเป็นมากจะทำให้หนังศีรษะลอกเป็นขุย แสบ แดง คัน ข้างบนมีสะเก็ดขาวหรือเหลืองเป็นมันทั่วศีรษะ การเกิดผื่นอักเสบชนิดนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่พบว่าเซลล์ผิวหนังบริเวณที่เป็นจะมีการแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้เซลล์ผิวหนังที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่เคลื่อนตัวขึ้นมาทดแทนเซลล์หนังกำพร้าชั้นบนเร็วขึ้น และถูกรบกวนจากยีสต์ (P.Ovale) และกรดไขมัน ซึ่งเชื้อ P.Ovale เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่คล้ายเชื้อราและชอบไขมัน (Lipophilic Yeast) ซึ่งปกติพบได้ในรูขุมขนและเป็นตัวการปล่อยสารที่รบกวนผิว ทำให้ผิวอักเสบ นอกจากนี้กรดไขมัน (Fatty Acid) เป็นสารที่เปลี่ยนแปลงมาจากไขมันธรรมชาติที่สร้างจากต่อมไขมันระบายสู่รูขุมขนบริเวณผิวมัน กลายเป็นกรดไขมันมารบกวนผิว ทำให้เกิดผื่นอักเสบยิ่งขึ้น

    โรคนี้เป็นกันมากถึง 3-5% ของประชากรโลก พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ปัจจุบันพบโรคนี้บ่อยขึ้น อัตราของผู้ที่เป็นโรคนี้เพิ่มขึ้น โรคนี้พบได้ทั้งปีทุกฤดูกาล แต่ช่วงที่อากาศเย็นและแห้งพบได้มากขึ้น ทั้งนี้มีปัจจัยที่เป็นสิ่งกระตุ้น ได้แก่ รังสีอุลตร้าไวโอเลต มลภาวะเป็นพิษ สารเคมีที่อยู่รอบตัวเรา ทำให้เซลล์ผิวหนังอ่อนแอและถูกรบกวนจากเชื้อยีสต์ได้ง่ายขึ้น

    การดูแลรักษาในระยะมีผื่นอักเสบ บวมแดง ควรปรึกษาแพทย์ โดยแพทย์จะให้ยาที่ช่วยลดผื่นอักเสบด้วย สารสเตียรอยด์ (Topical Steroid) อ่อนๆ ทาติดต่อกัน 5-6 วัน ผื่นอักเสบก็จะหาย หรือให้ยาพวกแอนตี้ฮีสตามีน(Antihistamine) เพื่อลดอาการคัน เมื่อหายแล้วให้ทาคีโตโคนาโซนครีม (Ketoconazol) ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อป้องกันการเห่อของโรคและควบคุมเชื้อยีสต์ หากมีรังแคควรใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิเนียมซัลไฟด์ และซิงค์ ไพริไทนอล (Selenium sulfide and Zinc pyrithione) หรือใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของยาต้านเชื้อรา ชนิดคีโตโคนาโซนสระทุกวันหรือวันเว้นวัน การใช้แชมพูประเภทนี้ควรทิ้งไว้ 5-10 นาทีจึงล้างออก เมื่อดีขึ้นแล้วลดการใช้ลงเป็น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ไปสักระยะหนึ่ง

    โรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมันนี้ สามารถป้องกันได้ (Preventive) โดยการหลีกเลี่ยงการรบกวนผิว หลีกเลี่ยงแสงแดด ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำร่วมกับการทาครีมบำรุงผิว (Moisturizer) หรือรับประทานอีฟนิ่ง พริมโรส ออยล์(Evening Primrose Oil) หรืออีพีโอ (EPO)เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว ซึ่งมีกรดไขมันชนิดแกมม่า ไลโนเลนิก แอสิด (Gamma Linolenic Acid) หรือ จีแอลเอ (GLA) ซึ่งมีรายงานว่า GLA ช่วยรักษาสมดุลธรรมชาติของเซลล์ผิวหนังและช่วยป้องกันการทำลายของโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin)

    อย่างไรก็ตาม หากมีการดูแลสุขภาพที่ดี ผิวแข็งแรง หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนผิว ทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด ก็จะเป็นการป้องกันการเกิดผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมันได้อีกทางหนึ่ง

    ดังนั้น ในสภาวะที่การกล่าวขานถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะเกิดขึ้น ว่าจะมีผลกระทบต่อคนทั้งโลกที่กล่าวขานกันอยู่ทั่วโลกในเวลานี้ ไม่เพียงแต่ว่า เราจะต้องระวังตัวเท่านั้น แต่จะต้องอย่าเครียด อย่าวิตกจนเกินเหตุด้วย มิฉะนั้นโรคอื่นๆอาจจะมาหา ไม่เพียงแค่โรคผื่นคันเท่านั้น



    ---------------
    ที่มา : แนวหน้า
    http://www.naewna.com/news.asp?ID=129538

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • อุโมงค์รถไฟใต้ดินที่จีนถล่มเสียชีวิตอย่างน้อย 3 เจ็บอีก 17
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 16-11-2551 | 17:22:18 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จีน 16 พ.ย.-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน จากอุบัติเหตุอุโมงค์รถไฟใต้ดินพังถล่มในจีน และยังมีผู้สูญหายอีก 17 คน
    อุบัติเหตุเกิดขึ้นที่เมืองหังโจว ในมณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออก เมื่ออุโมงค์รถไฟใต้ดิน ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เกิดพลังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนและยังมีผู้สูญหายไปอีก 17 คน ซึ่งคาดว่าทั้งหมดเป็นคนงานก่อสร้าง และโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตนั้นเลือนลางเต็มที อุโมงค์ที่พังถล่มลงมานั้น ทำให้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ บนผิวจราจรข้างบน มีความยาวถึง 75 เมตร ทำให้ถยนต์ข้างบนหล่นลงไปถึง 11 คัน แต่โชคดีที่ไม่มีผู้คนในรถ ได้รับบาดเจ็บรุนแรง โดยมีผู้บาดเจ็บ 19 คน ทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล สำหรับอุโมงค์รถไฟไต้ดินแห่งนี้ มีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 69 กิโลเมตร มีกำหนดจะสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2554
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ไฟป่าเผาแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 16-11-2551 | 23:07:09 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สหรัฐ 16 พ.ย.-ไฟป่ายังคงเผาผลาญพื้นที่ป่าทางตอนเหนือของนครลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ชาวบ้านไม่มีทางเลือกต้องอพยพออกนอกพื้นที่
    กระแสลม “ซานตา อะนา” ซึ่งมีความเร็วลมไม่แพ้พายุเฮอริเคน ยิ่งทำให้ไฟป่าลุกลามขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ล่าสุด ลุกไหม้ครอบคลุมพื้นที่ป่าในเขตลอสแอนเจลิส เคาตี้ ริเวอร์ไซด์ และออร์เรนจ์ เคาตี้ รวมถึงย่านซาตา บาร์บารา กินบริเวณกว่า 2 หมื่นไร่ บ้านเรือนถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายกว่า 800 หลัง ชาวบ้านนับพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ด้าน นายอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ทั้ง 3 เขต คาดว่ากระแสลม ซานตา อะนา จะลดความรุนแรงลงในวันนี้ แต่อากาศในพื้นที่จะยังคงแห้งอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ผจญเพลิง ยังคงต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อควบคุมเพลิง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • น้ำท่วมเวียดนามคร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 11 ราย
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 17-11-2551 | 00:09:00 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เวียดนาม 17 พ.ย. - เหตุน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางและใต้ของเวียดนาม คร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้วอย่างน้อย 11 คน
    สื่อในประเทศเวียดนาม รายงานว่า เหตุน้ำท่วมอันเนื่องมาจากน้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนหลายพันหลังคาเรือนในนครโฮจิมินห์ ทางภาคใต้ จมอยู่ใต้น้ำสูงกว่า 1 เมตร แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ที่จังหวัดคันฮัว พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กอายุ 2 ขวบ ที่จมน้ำเสียชีวิต ส่วนที่จังหวัดฝูเย็น มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 คน
    น้ำที่ท่วมสูงยังทำให้ทางหลวงสายหลัก และทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ตอนเหนือ และตอนใต้ของประเทศ จมอยู่ใต้น้ำหลายช่วง ขณะที่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเวียดนาม คาดว่าจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องอีกหลายวัน เนื่องจากพายุโซนร้อน “นูล” อาจจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนาม ในวันอังคารนี้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • แผ่นดินไหวรุนแรง 7.5 ริกเตอร์ ที่อินโดนีเซีย
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 17-11-2551 | 02:03:18 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อินโดนีเซีย 17 พ.ย. - เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงถึง 7.5 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ส่งผลให้ทางการต้องประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ
    สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.34 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 21 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งเมืองโกรันตาโล บนเกาะสุลาเวสี ประมาณ 135 กิโลเมตร สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 7.5 ริกเตอร์ จากนั้นเกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อก) ตามมาอีก 1 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6 ริกเตอร์
    หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทางการอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนประชาชน ให้ระวังภัยจากคลื่นสึนามิทันที แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือการเกิดคลื่นสึนามิแต่อย่างใด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • ไฟป่าในแคลิฟอร์เนียเผาผลาญบ้านเรือนหลายร้อยหลัง
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 17-11-2551 | 07:49:08 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ลอสแองเจลิส 17 พ.ย. - เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสหรัฐ ต่อสู้กับไฟป่าที่เผาผลาญ กินพื้นที่ทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เมื่อวานนี้ สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราษฎรหลายร้อยหลัง และทำให้ประชาชนนับพันคน ต้องละทิ้งบ้านเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาศพผู้เสียชีวิต
    ไฟป่าที่เผาผลาญตั้งแต่เขตซานตาบาร์บารา ถึงพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของนครลอสแองเจลิส และเขตออเรนจ์ เคาน์ตี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นับเป็นไฟป่าที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบเกือบ 50 ปี ของนครลอสแองเจลิส จนถึงขณะนี้มีผู้บาดเจ็บแล้ว 11 คน ส่วนบ้านเรือนราษฎรอีกราว 800 หลังคาเรือน ซึ่งรวมทั้งคฤหาสน์หรูมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ฯ ไปจนถึงบ้านเคลื่อนที่ ต่างได้รับความเสียหาย และทางการได้สั่งอพยพประชาชนอย่างน้อย 50,000 คน ออกจากบ้านเรือน ซึ่งล่าสุดไฟได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วเกือบ 55,625 ไร่ โดยทางการได้ส่งหน่วยกู้ภัย และสุนัขค้นหาศพผู้เสียชีวิตลงพื้นที่ไฟไหม้ ไมเคิล มัวร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครลอสแองเจลิส ระบุว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประสบภัย แต่ขณะนี้ยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต
    ด้านนายอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัย กล่าวว่า ทางการกำลังรับมือกับไฟป่าที่ปัจจัยแวดล้อม ส่งผลให้ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งกระแสลมแรง และอากาศแห้งจัด ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3,700 นาย รวมทั้งมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ รถเกลี่ยดิน และรถดับเพลิง เข้าควบคุมเพลิงทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • พายุโซนร้อนนูลจ่อพัดถล่มตอนใต้เวียดนาม
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 17-11-2551 | 09:21:31 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ฮานอย 17 พ.ย. – สถานีวิทยุวอยซ์ ออฟ เวียดนาม ของทางการเวียดนาม รายงานว่า “นูล” พายุโซนร้อนกำลังแรง จะพัดถล่มชายฝั่งตอนใต้ของเวียดนาม ช่วงเย็นวันนี้ จะทำให้เกิดฝนตกหนักในจังหวัดภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศ และอาจกระทบการเก็บเกี่ยวกาแฟของเวียดนาม
    สถานีวิทยุวอยซ์ ออฟ เวียดนาม ออกประกาศฉุกเฉินว่า พายุโซนร้อนนูล กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว โดยจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม และอาจสร้างความเสียหายครั้งรุนแรง เนื่องจากประชาชนในบริเวณดังกล่าว ไม่มีประสบการณ์รับมือพายุมากนัก นอกจากนี้ พายุอาจกระทบการผลิตน้ำมัน และก๊าซนอกชายฝั่งตอนใต้ของเวียดนาม อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนัก เป็นอุปสรรคต่อการเก็บเกี่ยวกาแฟ บริเวณที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...