ประมูล วัดใจเบาๆ!!!ปิดคืนนี้ 22.00น (6ก.ค.59) พระหลวงตาม้าชุด44องค์ เริ่ม1xxx

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kayasid, 29 กันยายน 2015.

  1. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่52 ปิดรายการครับ

    รายการที่52 พระปางไสยาสน์ หายาก เนื้อชินเงิน กรุวัดเกาะ(สัมพันธวงศ์) ศิลปะรัตนะโกสินทร์ตอนต้น (อายุ200กว่าปี) สภาพสวย สมบูรณ์ ขนาดองค์พระ กว้าง 1.2 ซ.ม. ยาว 3.4 ซ.ม มีคุณค่าน่าสะสมและบูชาครับ (อ่านประวัติและประสบการณ์ด้านล่างครับ)

    ปกติบูชาที่ 850 บาท
    องค์นี้ ขอเปิดประมูลวัดใจที่ 400 บาท เสนอราคาประมูลได้ตั้งแต่ 450 ขึ้นไป เสนอเพิ่มครั้งละ50 บาท

    ปิดประมูลวันนี้ 29 ธ.ค.58 เวลา 22.05 น.
    ผู้ประมูลได้กรุณาเพิ่มค่าจัดส่ง ems 50 บาท และโอนภายใน 3 วัน

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yOFE39SrMOpx9PXZ" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/509/jtm9Og.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yOFE6lGAkWKrqvXb" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/68e/F0ERJL.jpg" /></a>



    พระกรุวัดสัมพันธวงศ์ หรือ พระกรุวัดเกาะ
    พระเครื่องชุดนี้ ตามที่ปรากฏหลักฐานจากท่านผู้มีความรู้ทางโบราณคดี
    แจ้งว่า พระชุดนี้สร้างในสมัยเดียวกันกับ "วัดราชบูรณะ"
    ค้นพบตามซุ้มกำแพงแก้ว พระเจดีย์ พระวิหาร และพระประธาน ของพระอุโบสถหลังเดิม

    ความเก่าแก่ของวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ)

    ตามประวัติว่า ใน ร.ศ.๑๕ ตรงกับปีมะโรง อัฐศก จ.ศ. ๑๑๕๘ พ.ศ. ๒๓๓๙ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้มีศรัทธาใน พระพุทธศาสนาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเกาะซึ่งเป็นวัดโบราณ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีคูคลองรอบวัดสร้างมาก่อนกรุงเทพพระมหานคร

    ครั้นปฏิสังขรณ์ใหม่หมดทั้งอารามเสร็จแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดเกาะแก้วลังการาม” ตามหลักฐานที่ปรากฏนี้ จึงพอประมาณได้ว่า เป็นวัดที่มีมาก่อนยุครัตนโกสินทร์

    ต่อมา ในรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธาให้ทำการปฏิสังขรณ์วัดเกาะแก้วลังการามอีก แต่ค้นหาหลักฐานไม่พบว่าได้ทรงปฏิสังขรณ์อะไรบ้าง

    ในรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชปรารภว่า วัดเกาะแก้วลังการาม เป็นวัดที่เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่หมดทั้งอาราม สมควรที่จะเฉลิมพระเกียรติให้ปรากฏสืบต่อไปภายหน้า เพื่อให้เกิดปิติปราโมทย์แก่ผู้สืบสกุลในเมื่อได้ทราบว่าบรรพบุรุษของตนได้สร้างกุศลไว้เป็นเหตุเจริญศรัทธาให้บำเพ็ญกุศลตามสติกำลัง จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามของวัดใหม่ว่า “วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร”

    การค้นพบพระกรุของวัดสัมพันธวงศ์ หรือ วัดเกาะ

    ดังกล่าวไว้ข้างต้น วัดสัมพันธวงศ์ หรือ วัดเกาะ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาแต่ก่อนกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ทางวัดได้พบพระกรุหลายครั้งด้วยกัน

    พระกรุที่ค้นพบนี้ ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้างไว้แต่เมื่อไหร เพียงแต่สันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างโบสถ์ วิหาร และกำแพงรอบโบสถ์วิหาร เพราะได้พบพระกรุมีอยู่ที่ซุ้มระหว่างโบสถ์กับวิหารเก่า ซุ้มประตูกำแพงรอบโบสถ์ วิหาร และพบท้ายสุดที่ฐานพระประธาน การค้นพบในอดีตมี ๓ ครั้ง คือ

    ครั้งที่ ๑ ซุ้มทางเดินติดต่อกันระหว่างโบสถ์กับวิหารเก่าพังลง ปราฏว่ามีพระเครื่องชนิดนี้ ตกกระจัดกระจายอยู่ทั่ว ทางวัดจึงได้รวบรวมสร้างเจดีย์บรรจุไว้ในระหว่างโบสถ์กับวิหาร และแจกให้ต้องการออกไปบ้าง

    ครั้งที่ ๒ ซุ้มประตูกำแพงโบสถ์วิหาร ด้านทิศตะวันตกพังลงปรากฏว่า มีพระเครื่องชนิดเดียวกันนี้ ตอนแรกไม่มีใครสนใจมากนัก เกิดแตกตื่นเล่าลือกันมาก เนื่องจากทหารเรือเอาไปทดลองยิงดูที่บางนาปรากฏว่ายิงไม่ออก จึงเป็นที่แสวงหากันมากในช่วงนั้น

    ครั้งที่ ๓ เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตให้รื้อพระอุโบสถ วิหาร และเจดีย์ พบพระเครื่องชนิดเดียวกันอีกที่ฐานพระประธาน ในส่วนที่อยู่ใต้ฐานของพระประธานนั้น เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ โดยค้นพบคณะที่สกัดทำการเคลื่อนย้าย ได้พบพระเครื่องเนื้อชินเงินพิมพ์ต่างๆ ๆ บรรจุอยู่ในองค์พระและใต้ฐานพระเป็นจำนวนมาก

    ส่วนที่บรรจุอยู่ในองค์พระประธานและฐานพระ แต่เดิมทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีพระเครื่องบรรจุอยู่ มาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางวัดได้ดำเนินการอัญเชิญพระประธานจากพระอุโบสถเดิมขึ้นพระอุโบสถหลังใหม่ มีการสกัดฐานเพื่อใช้รถยกพระประธานขึ้น ตามเอกสารของวัดเกี่ยวกับองค์พระประธานองค์เก่าของวัดได้บันทึกไว้ ดังนี้

    พระพุทธรูปที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถเดิมไม่ปรากฏพระนาม ต่อมา ท่านเจ้าคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ นิทฺเทสกเถร อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ รูปที่ ๙ ได้ถวายพระนามว่า "พระพุทธนราสภะทศพล"

    สำหรับพระประธานองค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่สร้างด้วยไม้ เป็นซุงคว้านไส้กลวง ภายนอกถือปูนทับ พระพาหาเป็นไม้ทั้งลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าพระเพลากว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ ๑๑ นิ้ว สูงแต่ที่ประทับสุดพระรัศมี ๔ ศอก ๒ นิ้วครึ่ง

    พระพุทธรูปองค์รองลงมาซึ่งเป็นองค์กลาง ห้าพระเพลากว้าง ๒ ศอก ๕ นิ้ว ปางมาวิชัย ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง องค์ล่าสุดเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะ หน้าพระเพลากว้าง ๑ ศอก ๕ นิ้ว ใต้ฐานองค์พระโปร่ง มีพระมงกุฎ เครื่องราชูปโภคเบญจราชกกุธภัณฑ์ จำลองเป็นส่วนเล็ก ทำด้วยทองคำ สำหรับพระมงกุฎภายในและบริเวณรอบๆบรรจุพระอังคารของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ยอดพระมงกุฎบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ โดยมีผอบเป็นแก้วครอบอีกชั้นหนึ่ง เดิมที่เดียวทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีสิ่งต่างๆ และพระองคารบรรจุอยู่ภายใน ต่อมาในวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๒ หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ (หม่อมมารดาของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์) ผู้เป็นกุลทายาทในสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้สถาปนาวัดนี้ ได้มาบำเพ็ญกุศลฉลองชนมายุครบ ๗ รอบ ที่พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ

    ์ ก่อนที่พระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ หม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ ได้แจ้งแก่ทางวัดว่าประสงค์จะบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานกิจ สดับปกรณ์พระอังคารสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุลของท่าน โดยให้พนักงานโยงผ้าภูษาโยงไปที่พระพุทธรูปองค์ล่างสุด โดยท่านกล่าวยืนยันเป็นแม่นยำว่าพระพุทธรูปองค์นี้ภายในบรรจุพระอังคารของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรี ต้นราชสกุล "มนตรีกุล" สำหรับพระอัฐินั้นประดิษฐานอยู่ที่หอพระนาก ในพระบรมมหาราชวัง (ซึ่งแต่เดิมที่เดียวประดิษฐานอยู่ที่วังหน้าจนหอชำรุดรื้อลงในรัชกาลที่ ๕ จึงได้เชิญไปไว้ที่หอพระนาก)

    ในคราวอัญเชิญพระพุทธรูปจากพระอุโบสถหลังเดิม เพื่อนำขึ้นไปประดิษฐานบนพระอุโบสถหลังใหม่ ได้พบปูชนียวัตถุต่างๆ ดังกล่าวมาข้างต้น จึงนับว่าหม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ ท่านมีความทรงจำในอดีตเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของต้นสกุลท่านเป็นเยี่ยม แม้จะมีอายุชราถึง ๘๔ พรรษา (ขณะที่มาบำเพ็ญกุศลในวันนั้น)

    สำหรับแผ่นเงิน แผ่นนาก และแผ่นทองคำ ที่พบรวมอยู่กับพระมงกุฎ ได้จารึกอักษรขอม กล่าวถึงพระสูตร พระอภิธรรมต่างๆ ซึ่งบรรดาของมีค่าเหล่านั้น ทางวัดได้เก็บรักษาได้วเป็นอย่างดี เพื่อที่จะนำเข้าบรรจุไว้ในพระพุทธรูปองค์เดิมที่พบโดยจะได้บำเพ็ญกุศลถวายเป็นกรณีพิเศษ ตามพระประสงค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงษ์ประพันธ์ มีพระประสงค์ในคราวที่พระเทพปัญญามุนี (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ถาวรเถระ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และคณะได้นำสิ่งต่างๆไปถวายที่วังเพื่อของพระวินิจฉัยในอันที่ปฏิบัติต่อปูชนียวัตถุนั้น ทั้งนี้โดยที่พระวรวงศ์บพิตร เสด็จในกรมฯ ทรงเป็นกุลทายาทผู้สูงศักดิ์ และทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์อุปถัมภ์ของวัดสัมพันธวงศ์มาเป็นเวลาช้านาน

    ส่วนพระประธานองค์ใหญ่ ขณะที่สกัดทากรเคลื่อนย้าย ได้พบพระเครื่องเนื้อชินเงินพิมพ์ต่างๆ บรรจุอยู่ในองค์พระและใต้ฐานพระเป็นจำนวนมากนับเป็นหมื่นองค์ พระเครื่องชุดนี้ตามที่ปรากฏหลักฐานจากท่านผู้มีความรูทางโบราณคดีแจ้งว่า พระชุดนี้สร้างในสมัยเดียวกันกับกรุวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเมื่อสร้างแล้วนำมาบรรจุไว้ตามซุ้มกำแพงแก้วบ้าง ในองค์พระเจดีย์บ้าง ในองค์พระประธานบ้าง

    พระกุรุที่บรรจุอยู่ตามซุ้มประตูกำแพงแก้ว และในพระเจดีย์ ทางวัดได้เคยเปิดกรุนำออกแจกจ่ายแก่ประชาชนสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ อีกครั้งหนึ่ง และนำออกในคราวรื้อซุ้มประตูเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นครั้งสุดท้าย การนำออกจากซุ้มประตูแต่ละคราวก็เจ้าเป็นซุ้มๆเฉพาะที่ต้องการ ซุ้มไหนยังไม่ได้เจาะก็ให้คงไว้ เหลือมาถึงในคราวสุดท้ายที่ทำการรื้อกำแพงแก้ว


    แต่เดิมทางวัดเองก็ไม่ทราบว่ามีพระเครื่องบรรจุอยู่ มาเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ทางวัดได้ดำเนินการอัญเชิญพระประธานจากพระอุโบสถเดินขึ้นสู่พระอุโบสถหลังใหม่มีการสกัดฐานเพื่อสกัดฐานเพื่อใช้รถยกพระประธานขึ้น จึงได้พบพระจำนวนมาก มีพิมพ์ต่างๆ คือ

    ๑. พระท่ากระดาน เกศบัวตูม (มีทั้งพิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก)

    ๒. พระปางห้ามญาติ ยกพระหัตถ์ซ้ายบ้าง ยกพระหัตถ์ขวาบ้าง

    ๓. พระปางปรกโพธิ์

    ๔. พระปางห้ามสมุทร ยกพระหัตถ์ทั้งสองข้าง

    ๕. พระปางไสยาสน์

    ๖. พระปางทรงเครื่อง หรือ ทรงธิเบต หรือทรงเขากวาง

    ๗. พระปางยอดธง

    พระเครื่องทั้งหมด มีชนิดปิดทองก็มี ชนิดอาบปรอทก็มี ทางวัดได้นำออกให้ประชาชนบูชาเพื่อนำทุนทรัพย์สมทบทุนในการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๑๕ มีประชาชนสนใจบูชาไปเป็นจำนวนมาก

    อภินิหารของพระกรุวัดเกาะ

    พระเครื่องเท่าที่ได้พบในสมัยต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่สูงอายุเล่าลือกันสืบมาว่า ไปตรงกับเหตุการณ์ของบ้านเมืองในลักษณะต่าง ๆ กัน เช่นครั้งแรกไปตรงกับกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสเมืองจันทบุรี ถูกฝรั่งเศสยึดคราวนั้น พระเครื่องวัดเกาะไปมีชื่อเสียงปรากฏ ในหมู่ทหารเรือทางจันทบุรีเป็นส่วนมาก
    ครั้งที่สองไปตรงกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารเรือเอาไปทดลองยิงที่บางนา ปรากฏว่ายิ่งไม่ออก ก็เล่าลืออภินิหารกันไปต่าง ๆ ถึงสงครามอินโดจีน จนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ที่ได้พระเครื่องวัดเกาะไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งก่อนนั้น กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก ก็ไม่เคยอพยพหนีไปอยู่ที่อื่นเลย เพราะเชือถือในอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องวัดเกาะ แม้พวกที่ได้รับพระเครื่องชนิดนี้ไปใช้ในสนามรบก็ปลอดภัย แคล้วคลาดไม่เป็นอันตราย โดยเฉพาะอภินิหารทางแคล้วคลาดและป้องกันอัคคีภัย นับว่าเป็นเยี่ยม เท่าที่ปรากฏแก่บุคคลในลักษณะต่าง ๆ กันเช่น

    เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๐๖ เป็นวันวางศิลากฤษ์พระอุโบสถหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่นี้ ทางวัดได้ทูลอาราธนา เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ญาโณทยมหาเถระ) วัดสระเกศ มาเป็นประธานสงฆ์และเชิญ ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตร ีเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ เมื่ื่อเสร็จจากพิธีแล้ว ท่านเจ้าคุณ พระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทเทสสกเถระ) อดีตเจ้าอาวาส ได้มอบพระเครื่องที่ได้จากพระเจดีย์และซุ้มประตู กำแพง โบสถ์ วิหาร ปางต่าง ๆ กัน จำนวน ๙ องค์ เป็นที่ระลึก ซึ่ง ฯพณฯ ได้เล่าให้ท่านเจ้าอาวาสฟังว่า

    “พระเครื่องของวัดเกาะพิมพ์แบบนี้ สมัยเป็นนายทหารครั้งสงครามอินโดจีน ได้มาเข้าแถวรับแจกจากางวัด เมื่อนำไปใช้นับว่ามีอภินิหารในทางแคล้วคลาดคุ้มครองดีนัก แม้นเข้าที่คับขันก็สามารถฟันฝ่าอันตรายหนีกระสุนปืนรอดกลับมาได้”

    แต่ในครั้งนี้มีน้อย เพราะทางวัดได้พบเฉพาะซุ้มประตูด้านเดียว ยังไม่แพร่หลาย รู้จักกันเฉพาะคนภายในและผู้เคยได้รับแจกไว้คุ้มครองป้องกันตนเท่านั้น
    ในการพบพระกรุนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเสมอเล่ากันว่าในการพบครั้งที่ 1 ตรงกับกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส ครั้งที่ 2 ตรงกับสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้น ทำให้ผู้ที่มีพระเครื่องกรุนี้อยู่ในครอบครองต่างเชื่อมั่นในอภินิหารต่างๆ เช่น นำติดตัวไปในสมรภูมิชายแดนด้านจันทบุรีและการแคล้วคลาดจากภัยทางอากาศในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เฉพาะเรื่องแคล้วคลาดนั้นถือว่าเป็นเยี่ยม

    ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลเป็นอย่างยิ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2015
  2. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่53 ปิดรายการครับ

    รายการที่53 พระชินราชจักพรรดิ์พิมพ์นางพญา เนื้อผงสีแดง สภาพสวย สมบูรณ์ มาพร้อมตลับสแตนเลสแบบมีเข็มหมุดเปิดหน้าได้

    ปกติบูชาที่ 850 บาท
    องค์นี้ ขอเปิดประมูลวัดใจที่ 400 บาท เสนอราคาประมูลได้ตั้งแต่ 450 ขึ้นไป เสนอเพิ่มครั้งละ50 บาท

    ปิดประมูลวันนี้ 29 ธ.ค.58 เวลา 22.10 น.
    ผู้ประมูลได้กรุณาเพิ่มค่าจัดส่ง ems 50 บาท และโอนภายใน 3 วัน

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONeL1Nw8RTVVBym" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/93e/OVeLYY.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONeMNGVyQDdK7PL" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c6a/QJUFbT.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONeOzAkYH5PIWqm" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/933/EVfhai.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONh3Temq4mZK0uF" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/169/jF083e.jpg" /></a>

    พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ... ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ๒๐ มกราคม ๒๕๑๕ ..


    เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ พุทธสมาคมพิษณุโลก ได้จัดพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ขึ้น ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก .. วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์ พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ

    พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ ๑ และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๙ หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย (ข้อมูลเก่าต้นฉบับ ระบุว่าไม่ปรากฎว่ามีการกระทำอีกเลย แต่วัดใหญ่ พิษณุโลก ได้จัดพิธีมหาจักพรรดิ์ขึ้นอีกหลายครั้ง เพียงแต่อาจไม่ยิ่งใหญ่ เต็มรูปแบบเท่า 2515 - jcainfo)

    รายนามเกจิร่วมเสกในพิธีมหาจักรพรรดิ์เมื่อปี 2515

    สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย
    พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นประธานบริกรรมปลุกเสก
    รายนามเกจิร่วมเสก.................
    ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    ลพ.หอม วัดชากหมาก ระยอง
    ลพ.สุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
    ลป.ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
    ลพ.มิ่ง วัดกก ธนบุรี
    ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    ลพ.เทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา
    ลพ.เนื่อง วัดจุฬามณีสมุทรสงคราม
    ลพ.แพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    ลพ.เกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    ลพ.พรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    ลพ.โอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    ลพ.กวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
    ลพ.สด วัดหางน้ำ ชัยนาท
    ลพ.พริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    ลพ.ถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    ลพ.กี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    ลพ.ขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    ลพ.อุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
    ลพ.ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนเเก่น
    ลพ.สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร
    พระอาจารย์นำเเก้วจันทร์ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
    ลพ.กรับ วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
    ลพ.เปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี
    ลพ.เต๋ คงทอง จ.นครปฐม
    ลพ.เผือก วัดสาลีโข จ.นนทบุรี
    ลพ.จ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
    ลพ.เเจ่ม วัดวังเเดงเหนือ จ.อยุธยา
    ลพ.คง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง
    ลพ.โต๊ะ วัดเกตุชัยโย จ.อ่างทอง
    ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    ลพ.ปี้ วัดลานหอย จ.สุโขทัย
    ลพ.เกตุ วัศรีเมือง จ.สุโขทัย
    ครูบาตัน วัดเชียงทอง จ.ตาก
    ลพ.เกตุ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันต์
    ลพ.เส็ง วัดกัลยาณ์ ธนบุรี
    ลพ.ลมูล วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
    ลพ.บุญ วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี
    ลพ.ชื่น วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
    ลพ.เจริญ วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
    ลพ.ชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี
    ลพ.ผัน วัดราษฏ์เจริญ จ.สระบุรี
    พระครูสนิทวิทยาการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
    ลพ.เย็น วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง
    ลป.จันทร์ วัดสำราญ จ.อุบลราชธานี
    พระอาจารย์พวง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย
    พระอาจารย์ฉลอง วัดสว่างอารมณ์ จ.สุโขทัย
    ลพ.เปรื่อง+พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ จ.พิษณุโลก
    ลพ.เฉลิม+ลพ.เปรื้อง วัดโพธิญาณ จ.พิษณุโลก
    ฯ ล ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2015
  3. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่54ปิดรายการครับ

    รายการที่54 พระรอดจงอางศึกเนื้อผงใบลานปี14(แจกทหารไปรบ)+พระปรกใบมะขามรุ่นอายุ90ปี ลพ.แพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี สภาพสวย สมบูรณ์ +พระกรุบูชาองค์เล็ก เนื้อตะกั่วลงรักสีดำ ยุคต้นรันโกสินทร์

    ขอเปิดประมูลวัดใจที่ 400 บาท เสนอราคาประมูลได้ตั้งแต่ 450 ขึ้นไป เสนอเพิ่มครั้งละ50 บาท

    ปิดประมูลวันนี้ 29 ธ.ค.58 เวลา 22.15 น.
    ผู้ประมูลได้กรุณาเพิ่มค่าจัดส่ง ems 50 บาท และโอนภายใน 3 วัน

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONlq122uIB4Oze1" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/7e8/SS4wLW.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONls8U8ccaR9ybn" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/d3a/ceLVCt.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/ydqEjCUwYUxAEgAC" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/df2/ucGbc0.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONldfNuhPfc9xE7" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c39/CWctOr.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONliztIxuRKrnhn" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/5fc/flH0FA.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONlmtfdEUcafahV" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/b00/AB9WjN.jpg" /></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2015
  4. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่55 ปิดรายการครับ

    รายการที่55 พระผงรูปเหมือนรุ่นเงินทองมั่นคงปี30 ล.พ.เกษม เขมโก(พระอรหันต์แห่งล้านนา) สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง เนื้อผงพุทธคุณหลังติดจีวรหลวงปู่

    ขอเปิดประมูลวัดใจที่ 400 บาท เสนอราคาประมูลได้ตั้งแต่ 450 ขึ้นไป เสนอเพิ่มครั้งละ50 บาท

    ปิดประมูลวันนี้ 29 ธ.ค.58 เวลา 22.20 น.

    ผู้ประมูลได้กรุณาเพิ่มค่าจัดส่ง ems 50 บาท และโอนภายใน 3 วัน

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONoEF02ZuNCEpRS" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/792/w4U8nZ.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONoIyLy6UiDRcGM" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/9ee/Hlokgv.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yONoL2Ck5ZtYkCib" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/d09/k9YUiP.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/l8K9" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/33e/QOWzy.jpg" /></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2015
  5. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,700
    ค่าพลัง:
    +5,783
    โอนแล้วครับ รายละเอียด PM ครับ
     
  6. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    ขอบคุณครับ จัดส่งพร้อมพระของขวัญปีใหม่ครับ

    ;38
     
  7. hatachiii

    hatachiii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +11
    54=450 บาท
     
  8. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    ขอบคุณครับ
     
  9. runkey

    runkey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,114
    ค่าพลัง:
    +1,876
    52= 450 บาทครับ
     
  10. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    ขอบคุณครับ :cool:
     
  11. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สรุปรายการประมูล 29 ธ.ค.58

    รายการที่51. พระสังกัจจายน์ เนื้อดินเผา หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท เปิด400-เสนอครั้งแรก450- =ยังไม่มีผู้เสนอราคาครับ ปิด22.00น.

    รายการที่52 พระปางไสยาสน์ หายาก เนื้อชินเงิน กรุวัดเกาะ(สัมพันธวงศ์) ศิลปะรัตนะโกสินทร์ตอนต้น ราคาประมูลปัจจุบันอยู่ที่ 450 บาท เสนอเพิ่มครั้งละ50บาท ปิด22.05 น.

    รายการที่53 พระชินราชจักพรรดิ์พิมพ์นางพญา เนื้อผงสีแดง สภาพสวย สมบูรณ์ เปิด400-เสนอครั้งแรก450- =ยังไม่มีผู้เสนอราคาครับ ปิด22.10น.


    รายการที่54 พระรอดจงอางศึกเนื้อผงใบลานปี14(แจกทหารไปรบ)+พระปรกใบมะขามรุ่นอายุ90ปี ลพ.แพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี สภาพสวย สมบูรณ์ +พระกรุบูชาองค์เล็ก ราคาประมูลปัจจุบันอยู่ที่ 450 บาท เสนอเพิ่มครั้งละ50บาท ปิด 22.15 น.

    รายการที่55 พระผงรูปเหมือนรุ่นเงินทองมั่นคงปี30 ล.พ.เกษม เขมโก(พระอรหันต์แห่งล้านนา) [/COLOR]เปิด400-เสนอครั้งแรก450- =ยังไม่มีผู้เสนอราคาครับ ปิด 22.20 น.

    ท่านใดสนใจเชิญร่วมประมูลครับ ห้ามพลาด ขอบคุณครับ ;aa40
     
  12. natimm

    natimm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +93
    รายการที่54
    500บาทครับ
     
  13. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    ขอบคุณครับ
     
  14. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    อีก3 นาที จะเริ่มปิดประมูลครับ
     
  15. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ ยินดีด้วยครับ ท่านชนะประมูลรายการที่ 52 ที่ 450 บาท + ค่าส่ง ems 50 บาทครับ
     
  16. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ ยินดีด้วยครับ ท่านชนะประมูลรายการที่ 54 ที่ 500 บาท + ค่าส่งems 50 บาท
     
  17. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่ 51 , 53, 55 ไม่มีผู้เสนอราคาครับ ท่านใดสนใจบูชาได้เลยครับ องค์ละ 450 บาท + ค่าส่งems 50 บาท ครับ
     
  18. natimm

    natimm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +93
    แจ้งโอนเงินแล้วครับ รายละเอียดที่ PM ครับ
     
  19. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    สวัสดีครับ ได้รับเงินโอนแล้ว ขอบคุณมากครับ วันนี้จัดส่งให้แล้วจะแจ้งให้ทราบครับ

    thx1
     
  20. kayasid

    kayasid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,607
    ค่าพลัง:
    +10,414
    รายการที่56 ปิดรายการครับ

    รายการที่56 พระขรรค์กายสิทธิ์ (เหล็กไหลบารมี) หลวงป๋า วัดหลวงพ่อสดฯ จ.ราชบุรี สีทองท้องปลาไหล เมตตาโชคลาภ ป้องกันภัย คุณไสย สัมภเวสี ต่างๆ(อานุภาพสูงมากในด้านปราบ และป้องกันภัย) ที่ด้ามมีอักขระเลข 9 และตัวพุทโธซ้อนตามตำรับของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ องค์จริงสวยมาก สีสุกปลั่งดังทองคำ ถ่ายรูปยากครับ เป็นเงามืดสะท้อน (สร้างด้วยเนื้อพญาเหล็กสีทองท้องปลาไหลล้วน)

    ขนาดกว้าง 0.8 ซ.ม. สูง 9.1 ซ.ม.

    รับประกันความแท้ 100 % ทำบุญได้มาจากวัดโดยตรงครับ
    -ปกติให้บูชา 4,000
    ขอเปิดประมูลวัดใจที่ 2,950 บาท เสนอราคาประมูลได้ตั้งแต่ 3,000 ขึ้นไป เสนอเพิ่มครั้งละ50 บาท

    ปิดประมูลวันที่ 11 ธ.ค.58 เวลา 15.00 น.
    ผู้ประมูลได้กรุณาเพิ่มค่าจัดส่ง ems 50 บาท และโอนภายใน 3 วัน

    การโอนเงิน - บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ตรีเพชร เลขที่ 006-2-70184-6 ชื่อบัญชี นายกิตติศักดิ์ โสภาที

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yOxK2vIY7oR77w8T" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/b0d/hiVo6R.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yOxK4DB3OScPsLvA" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/755/AmC52e.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/yOxK77rPNYmXvcsX" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/191/j8D49Y.jpg" /></a>


    <a href="http://www.mx7.com/view2/xVrZUijZX9JxV3Qk" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/214/1dC4Sn.jpg" /></a>
    หลวงป๋าท่านเรียนวิชาเรียกเหล็กไหล จากอ.เสือ ศิษย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ครับ

    เรื่องเล่าธาตุกายสิทธิ์ (เหล็กไหล) โดยหลวงป๋า


    เรื่องอานุภาพเหล็กไหล หรือพญาสมิงเหล็ก เท่าที่ข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมาแต่โบราณกาล จนเป็นที่ฝังจิตฝังใจ กันอยู่ทั่วไปว่า มีอานุภาพในทาง “มหาอุด” คือ ปืนยิงไม่ออก 1 “คงกระพัน” คืออาวุธแหลมคมทุกชนิดทำ อันตรายไม่ได้ 1 และ “แคล้วคลาด” คือ ปลอดภัยจากสรรพอันตราย 1 อานุภาพทั้ง 3 ประการนี้ “มหาอุด” คือว่า ปืนยิงไม่ออก ดูจะเป็นอานุภาพที่ฝังใจผู้สนใจมีไว้ในครอบครองมากที่สุด และโดยเหตุที่วัตถุธาตุนี้หายากด้วยยากที่สุด จึงมีราคาแพงที่สุด

    ข้าพเจ้าก็ยังไม่ใช่เป็นผู้รู้แจ้งเจนจบหรือผู้ชำนาญในเรื่องนี้ เพียงแต่พอรู้เรื่อง มีความเข้าใจจากการประมวล ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่เชื่อถือได้ และจากประสบการณ์ที่ได้เคยเห็น ได้เคยสัมผัสมาแล้วบ้าง จึงใคร่จะเล่า สู่ท่านผู้อ่านที่ไม่เคยได้รู้หรือยังไม่เคยได้มีประสบการณ์ ได้รู้บ้าง เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น กว่าที่จะฝังจิตฝังใจ หรือผูกใจอยู่กับความเชื่อ อยู่แต่เพียงว่า “เหล็กไหลจะต้องยิงไม่ออก” ซึ่งเท่าที่ข้าพเจ้าทราบ วัตถุธาตุ ที่ชื่อว่า “เหล็กไหล” มิได้มีอานุภาพเช่นนั้นเสมอไป และยังกลับมีอานุภาพอื่นที่น่าสนใจยิ่งกว่าอานุภาพเพียงเท่านั้น

    เพราะแท้ที่จริง วัตถุธาตุ ที่ชื่อว่า “เหล็กไหล” หรือ “พญาสมิงเหล็ก” นั้น เป็นวัตถุธาตุที่มีกายสิทธิ์ กับทั้งจิตวิญญาณของผู้สร้างขึ้นด้วยฤทธิ์ ที่ได้พัฒนาจากอณูธาตุที่สร้างขึ้นแต่เดิมมาจนเป็นวัตถุธาตุกายสิทธิ์ใน ปัจจุบันนี้ เป็นเวลาช้านานนับประมาณไม่ได้

    อีกทั้ง เทพเทวาที่ติดตามเฝ้าปกปักรักษาอยู่ ซึ่งมีผลให้ จิตวิญญาณของผู้สร้างขึ้นด้วยฤทธิ์แต่เดิม และกายสิทธิ์ที่สถิตอยู่กับวัตถุธาตุนั้น เปลี่ยนแปลงไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ เป็น อนิจฺจํ ทุกฺขํ และ อนตฺตา

    ครั้นเมื่อมาถึงยุคปัจจุบันนี้ จึงอาจมีอานุภาพตามคุณลักษณะของธาตุธรรม ที่จะเป็นฝ่ายพระ (ฝ่ายบุญกุศล) ล้วน ๆ ที่จะให้สุขสมบัติแก่ผู้มีอยู่ในครอบครองแต่ถ่ายเดียว หรือว่าจะมีอานุภาพตามลักษณะของธาตุธรรม เป็นฝ่ายมาร (ฝ่ายบาปอกุศล) ล้วน ๆ ที่จะให้ทุกข์สมบัติ แก่ผู้มีไว้ในครอบครองแต่ถ่ายเดียว และ/หรือจะมีลักษณะของธาตุธรรม 2 ฝ่าย ปะปนกัน ที่อาจให้ทั้งสุข สมบัติแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติดี มีศีลมีธรรม และ ที่ให้ทั้งทุกข์สมบัติแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติชั่ว ทุศีล ขาดหิริโอตตัปปะ และไร้คุณธรรม ได้ตามส่วนของเขา และตามระดับคุณธรรมของผู้มีไว้ในครอบครอง

    วัตถุธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก) นี้

    เกิดมีขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจของพวกฤาษีผู้มี ฌาน (สมาธิระดับสูง) และ อภิญญา (ความสามารถพิเศษ)
    แก่กล้าในระหว่างอันตรกัป คือ ในระหว่างที่ว่างจากพระพุทธศาสนาเป็นระยะเวลายาวนานนั้น
    บรรดามนุษย์ผู้มีบุญ คือ คุณธรรมจากการที่ได้เคยรักษาศีล และเจริญภาวนาสมาธิมาก่อน ที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนั้น ได้ออกบำเพ็ญพรต (ถือศีล) พรหมจรรย์ (การออกบวชเว้นเมถุน-คือเว้นชีวิตคู่)
    ด้วยมุ่งหวัง “อมตธรรม” ก็คือ ปรารถนาพระนิพพานที่สิ้นสุดแห่งทุกข์ และที่เป็นบรมสุขนั้นแหละ

    แต่ไม่รู้จักทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) ให้ถึงอมตมหานฤพานได้ เพราะยังไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
    จึงได้แต่เจริญสมาธิภาวนา จนได้ฌานและอภิญญาแก่กล้า
    แต่ก็รู้ว่าตนเองนั้นยังไม่อาจพ้นความตายได้ ยังไม่เห็นทางที่จะถึงอมตธรรมที่ไม่ตายได้
    ก็ปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ยั่งยืนที่สุด ดุจว่าเป็นอมตธรรม
    เพื่อรอผู้ตรัสรู้ (พระพุทธเจ้า) มาตรัสสอนทางปฏิบัติให้ได้บรรลุถึงอมตธรรม
    เพื่อจักได้เข้าสู่กระแสธรรม นำไปให้ถึงอมตธรรมตามที่ได้มุ่งหวัง

    จึงค้นหาวิธีสร้าง "วัตถุธาตุอันเป็นที่สถิตแห่งจิตวิญญาณของตน" ให้คงทนยั่งยืนที่สุด
    ดุจว่าเป็นอมตธรรมนั้นด้วยฤทธิ์อำนาจของตน ก่อนเบญจขันธ์ของตนจะแตกทำลาย (ก่อนทำกาละ/ตาย)

    ครั้นพากันทำวัตถุธาตุนั้นขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจของพวกตนที่แก่กล้ารุนแรง
    จนเกินอำนาจการควบคุมให้อยู่ในสภาวะพอเหมาะตามต้องการได้
    วัตถุที่ปรุงขึ้นด้วยฤทธิ์อำนาจนั้นก็ระเบิดเป็นจุณ วิจุณ
    เป็นอณูธาตุ เป็นที่สถิตอยู่ของจิตวิญญาณฤาษีนั้นเองด้วย และกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงด้วย
    และแม้เทพเทวาที่รู้คุณวิเศษของวัตถุธาตุเช่นนั้น ก็ติดตามครอบครองยึดถือเป็นเจ้าของ

    อณูธาตุเหล่านั้นมีทั้งที่กระจัดกระจายออกนอกแนวแรงดึงดูดของโลก คือ หลุดออกไปนอกโลก
    และทั้งที่กระจัดกระจายไปในบรรยากาศของโลก แล้วตกลงสู่พื้นดิน
    และวิวัฒนาการไปตามธรรมชาติ ตลอดระยะเวลายาวนานหลายกัปหลายกัลป์มาจนถึงปัจจุบันนี้

    จึงมีสภาพ ลักษณะ และอานุภาพที่แตกต่างกันไปตามธรรมชาติที่แวดล้อม เป็นอยู่
    และเปลี่ยนแปลงไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ คือ
    ความเป็นสภาพไม่เที่ยง (อนิจฺจํ)
    ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย เป็นทุกข์ (ทุกฺขํ) คือทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้นาน
    จนถึงเป็น อนตฺตา ได้ในที่สุด

    ครั้นเมื่อมาถึงยุคปัจจุบันนี้
    จึงอาจมีอานุภาพตามคุณลักษณะของธาตุธรรมที่จะเป็นฝ่ายพระ (ฝ่ายบุญกุศล) ล้วนๆ
    ที่จะให้สุขสมบัติแก่ผู้มีอยู่ในครอบครองแต่ถ่ายเดียว

    หรือว่าจะมีอานุภาพตามลักษณะของธาตุธรรมเป็นฝ่ายมาร (ฝ่ายบาปอกุศล) ล้วนๆ
    ที่จะให้ทุกข์สมบัติ แก่ผู้มีไว้ในครอบครองแต่ถ่ายเดียว

    และ/หรือจะมีลักษณะของธาตุธรรม 2 ฝ่าย ปะปนกัน
    ที่อาจให้ทั้งสุขสมบัติแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติดี มีศีลมีธรรม
    และ ที่ให้ทั้งทุกข์สมบัติแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติชั่ว ทุศีล ขาดหิริโอตตัปปะ และ ไร้คุณธรรม
    ได้ตามส่วนของเขา และตามระดับคุณธรรมของผู้มีไว้ในครอบครอง

    อณูธาตุอันเป็นที่สถิตอยู่ของจิตวิญญาณธาตุของฤาษี ที่ปรารถนาดำรงคงทนยั่งยืนที่สุดดุจอมตธรรม
    จึงต้องเสพ หรือ ดูดซึมสิ่งที่อยู่แวดล้อมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงอณูธาตุนั้น ให้ดำรงคงอยู่คู่กับเบญจขันธ์ของตน เช่น
    - ในบริเวณบางแห่งที่มีแร่ธาตุประเภทอัญมณีมาก ก็จะวิวัฒนาการเป็นวัตถุธาตุที่เหมือนอัญมณีสีต่าง ๆ ได้
    - บริเวณที่มีทั้งแร่ธาตุ ดินกากยายักษ์ หิน และทั้งว่านยาสมุนไพรที่วิเศษต่าง ๆ
    ที่เหมาะแก่การรักษาธาตุขันธ์ของเขา ก็จะเสพหรือดูดซึมเข้าไปปรุง หล่อเลี้ยงธาตุขันธ์ของเขา
    จึงวิวัฒนาการมาเป็นวัตถุธาตุกึ่งอัญมณี-หิน-เหล็ก รวมกัน แต่ไม่ดูดเหล็ก

    กล่าวโดยส่วนใหญ่แล้วมีส่วนผสมของแร่เหล็กเป็นตัวยืน
    ที่เมื่อถูกเชิญ หรือถูกบังคับเรียกออกมาจากรังด้วยเวทมนตร์ของผู้ทรงวิทยาคม
    ก็จะไหล หรือ ย้อยหยดลงมาในสภาพเป็นของเหลว
    หรือ ยืดออกมาในสภาพเป็นของอ่อนนิ่มก่อน จึงชื่อว่า “เหล็กไหล”
    เมื่อมากระทบกับอากาศเย็น หรือ น้ำพระพุทธมนต์ที่รองรับไว้
    ก็จะกลับแข็งตัวเหมือนโลหะเหล็ก หรืออัญมณีที่แข็งเหมือนเหล็ก

    นอกจากนั้น วัตถุธาตุกายสิทธิ์นี้ยังขยายขนาดและขยายเผ่าพันธุ์ มีสมาชิกทั้งแก่และอ่อนสถิตอยู่ร่วมกันในรัง
    ดุจดังว่าเป็นอาณาจักรของเขา เรียกว่า “รังเหล็กไหล” หรือ “โคตรเหล็กไหล”

    กรณีที่ธาตุกายสิทธิ์ถูกผู้มีอำนาจสิทธิเหนือกว่า เช่น
    ผู้เป็นพระอริยเจ้าเชิญออกมา หรือ ผู้ทรงวิทยาคมเรียกบังคับให้ออกมาจากรัง...จนหมดทั้งรัง
    รัง หรือ โคตรเหล็กไหลนั้น บางท่านเรียกว่า "มูล หรือ ขี้เหล็กไหล"
    เเต่ มูล หรือ ขี้เหล็กไหลจริงๆ มีอยู่อีกต่างหาก

    ธาตุกายสิทธิ์ที่ถูกเชิญ หรือ เรียกบังคับออกมานี้ ชื่อว่า "เหล็กไหลตัด"
    เหล็กไหลประเภทนี้ มีกัมมันตภาพรังสีอยู่ด้วยมาก
    ประเภทนี้มีฤทธิ์อำนาจมาก มีอานุภาพร้อนเเรง
    จึงมีทั้งคุณอนันต์เเก่คนดีมีศีลมีธรรม เเละเป็นโทษมหันต์เเก่ผู้ทุศีล หรือขาดคุณธรรมได้

    รัง หรือ โคตรเหล็กไหล ที่มีสมาชิกธาตุกายสิทธิ์สถิตอยู่มากมายนั้น
    นานปีนับร้อย - พัน - หมื่น - เเสน - ล้าน - โกฏปี
    ย่อมได้รับความกระทบกระเทือนจากปัจจัยเเวดล้อมตามธรรมชาติ ได้เเก่
    เเดด ลม ฝน เเผ่นดินไหว น้ำไหลเซาะ ฯลฯ เป็นต้น
    บางส่วนก็เเตกหลุดออกจากรังเดิมไปตามธรรมชาติ
    ถูกกระเเสน้ำกระเเสลม...ซัดพัดพาไปติดอยู่ ณ ที่ใดที่เหมาะสม ก็ขยายเผ่าพันธุ์ ณ ที่นั้นต่อๆไปอีก

    ชื่อว่า "พญาสมิงเหล็ก" ก็มี / "เหล็กไหลเจ้าป่า" ก็มี / "หล็กไหลโกฏปี" ก็มี
    เเละสมาชิกที่วิวัฒนาการเป็นธาตุกายสิทธิ์ ที่เคยอาศัยอยู่ในรังน้อยใหญ่
    ก็หลุดจากรังเดิมต่อๆไปอีก ถูกกระเเสน้ำพัดพาไปอยู่ตามถ้ำ ตามเเอ่งน้ำ
    บนภูเขา หรือออกจากถ้ำ / ภูเขา ไปอยู่ตามเชิงเขาเเละตามพื้นดินภายนอกก็มี
    ที่อยู่ตามน้ำ เรียกว่า "เหล็กไหลตาน้ำ" หรือ "เหล็กหลบ" ก็มี
    เเละที่อยู่ตามพื้นดินภายนอก ถูกเเดดเเผดเผาจนเป็นสีน้ำตาลอมส้ม เรียกว่า "เหล็กไหลเพลิง" ก็มี ฯลฯ

    วัตถุธาตุกายสิทธิ์ที่ตัดเอง (หลุดออกมาเอง) โดยธรรมชาติ
    ทั้งหมดเหล่านี้จึงรวมเรียกว่า "เหล็กไหลบารมี"

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก)

    -จะช่วยให้ความคุ้มครองป้องกันสรรพอันตรายแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้ทรงศีล ทรงธรรม ตามสมควรแก่บุญบารมี

    - ทำหน้าที่เป็นภาคผู้เลี้ยง ช่วยให้ผู้มีไว้ในครอบครอง เจริญด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ เป็นอุปการะแก่การบำเพ็ญบารมีธรรมให้ถึงนิพพานสมบัติแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้ประกอบคุณธรรมเพิ่มพูนบารมีธรรมได้เป็นอย่างดี

    ธาตุกายสิทธิ์ประเภทดีมีคุณธรรม จะช่วยชักนำให้ผู้มีอยู่ในครอบครอง
    ปฏิบัติธรรมอยู่ในคุณความดี คือ ทานกุศล ศีลกุศล และ ภาวนากุศล ให้เจริญเเก่กล้ายิ่งๆขึ้นไป เพื่อที่จะเขาจะได้อนุโมทนาบุญ และได้มีโอกาสบำเพ็ญบารมีธรรมด้วย
    จึงให้แต่คุณแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง ผู้เป็นคนดีมีศีลมีธรรม

    ส่วนธาตุกายสิทธิ์ประเภทที่ด้อยคุณธรรม ก็ปรารถนาอยู่ว่า
    ผู้ที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของจะปฏิบัติอยู่ในคุณธรรมดี เพื่อที่เขาจะได้ร่วมอนุโมทนา และได้มีโอกาสบำเพ็ญบารมีธรรมด้วย เพื่อเลื่อนภูมิจิตใจให้สูงขึ้น
    แต่ถ้าเจ้าของผู้ครอบครองเป็นคนชั่วช้า ลุแก่อำนาจกิเลส (โลภะ ราคะ โทสะ โมหะ)
    ธาตุกายสิทธิ์ประเภทนี้ กลับจะให้โทษแก่ผู้ครอบครองได้ง่าย และรุนแรงด้วย


    ฉะนั้น
    - ของดีต้องอยู่กับคนดี จึงดีเลิศ คนไม่ดีถึงจะได้ครอบครองของดี ก็มีอยู่ได้ไม่นาน
    - ส่วนคนดีได้ครอบครองของที่มีอานุภาพที่ทั้งดีและไม่ดี ก็จะมีแต่ดี ไม่มีโทษ
    - แต่คนไม่ดีที่ได้ครอบครองของที่มีอานุภาพทั้งดีและไม่ดี ย่อมไม่ได้ผลดี
    และยังจะชักนำกันไปในทางที่ไม่ดีอันมีโทษได้

    เพราะฉะนั้นผู้มีของดี หรือ มีของที่มีอานุภาพทั้งดีและไม่ดี
    จึงต้องประพฤติปฏิบัติตนอยู่แต่ในคุณความดีโดยส่วนเดียว จะประมาทมิได้ จึงจะมีแต่ดีกับดีโดยตลอด

    เหตุที่มีข่าววัตถุธาตุกาย สิทธิ์/เหล็กไหลในปัจจุบันนี้มาก เพราะเหตุสำคัญ 2 ประการ คือ

    1. มีการทำของเทียมขึ้นจำหน่ายให้แก่ผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์
    ด้วยความโลภหรือด้วยความปรารถนาลามก
    2. ในยุคปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเป็นที่ตั้งมั่นสำคัญของ

    พระพุทธศาสนาเป็นบ่อเกิดและที่สถิตอยู่ของ ผู้มีบุญบารมี
    ผู้บำเพ็ญบารมีธรรมเพื่อความบรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันต
    สาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสัพพัญญูพุทธเจ้าระดับอธิษฐานบารมี
    ที่ได้กระทำมาแล้ว เป็นจำนวนมาก เทพเทวาผู้สัมมาทิฏฐิ ผู้ดูแลรักษาธาตุ
    กายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยง

    จึงเปิดบารมีธรรมแก่ผู้กำลังบำเพ็ญบุญบารมี
    ในระดับต่าง ๆ ให้ได้รับธาตุกายสิทธิ์ ภาคผู้เลี้ยงที่มีอยู่ในโลก ในจักรวาล
    เพื่อเป็นอุปการะแก่การบำเพ็ญบารมีธรรมให้ยิ่งขึ้นไปได้สะดวก
    และเพื่อช่วยกันสืบบวรพระพุทธศาสนาในประเทศไทยนี้
    ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่ออำนวยประโยชน์สุขและ
    ความสันติสุขแก่สาธุชนหมู่ใหญ่ ทั้งแก่ชาวไทยและชาวโลกให้ได้มากที่สุดเป็นสำคัญ

    เหตุนั้นแท้ที่จริงแล้ว ธาตุกายสิทธิ์นี้จึงได้มีการใช้กันอยู่แล้ว ในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม
    และศิษยานุศิษย์ ตลอดทั้งผู้ปกครอง ผู้กอบกู้ และผู้รักษาประเทศชาติบ้านเมือง
    ไทยเรามาแต่โบราณกาลแล้ว เพียงแต่ไม่มีสื่อมวลชนกระจายข่าวกันมาก
    และไม่มีการทำของเทียม (ปลอม) หลอกลวงจำหน่ายกันมากขึ้น ดังเช่นทุกวันนี้เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...