**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344


    รายการที่ 9724

    พระสมเด็จครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าเเดง(ป่ายาง) หลังตราปั๊ม


    พระสมเด็จล้อพิมพ์มาจาก พระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชยโย วัดพลับ วัดใหม่ทองเสน
    คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก นำโดยคุณหมอสมสุข คงอุไร ได้นำไปให้หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ปลุกเสกตั้งแต่ปี2514จนกระทั่งหลวงพ่อพรหมท่านมรณะภาพ จากนั้นได้นำมาให้ครูบาชุ่ม โพธิโก ปลุกเสกอีก 8 เดือน แล้วนำมาให้ครูบาอินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ปลุกเสก และต่อมาได้นำมาให้ครูบาขันแก้ว ปลุกเสก ตั้งแต่ปี2521 จนครูบาท่านมรณะภาพ หลังจากนั้นคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้นำพระชุดที่บรรจุพระใว้ในกู่พระ เจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุครูบาขันแก้วท่าน ในปี2530 ที่เหลือก็นำมาปั๊มตรายางวัด ยันต์พระ เจ้า5พระองค์ แล้วมอบให้รักษาการณ์เจ้าอาวาส สมัยนั้น แล้วมีการแจกให้ทำบุณเอาเงินเข้าวัดส่วนหนึ่งที่เหลืออีกส่วนก็นำไปบรรจุฐาน พระพุทธรูปในพระวิหาร
    #เป็นพระดีที่น่าใช้มามากๆครับ

    ราคา 4599 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    gt.jpg vvh.jpg bcbc.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9725

    กุมารทองบุญฤทธิ์ ของครูบาดวงดี วัดท่าจำปี สันป่าตอง เชียงใหม่ รุ่น มูนิธิมงคลวิสุต 52 สร้างในวาระที่ปลวงปู่มีอายุครบ 104 ปี จำนวนการสร้างน้อยมากเพียง 300 อง
    ค์
    กุมารสายเทพเป็นฝ่ายขาว
    ท่านครูบาดวงดี ท่านได้อัญเชิญจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเทพจากสวรรค์ ชั้น จาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นภพภูมิใกล้มนุษย์ที่สุด
    เข้าประทับสถิต ในหุ่นกุมาร ฉะนั้นจึงมีแต่ให้ "คุณ" ไม่มีโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น
    อาจารย์ที่ทำกุมารทองประเภทนี้ได้เก่งที่สุดคือ อาจารย์ฝ่ายพระเกจิที่มีพรรษามากๆ หรืออาจารย์ที่เป็นหมออาคมสายพุทธคุณครับ
    อาจเซ่นด้วยขนม น้ำหวานตามวาระโอกาส
    คาถาบูชา ลูกกุมารเทพฤทธิ์
    นะโม ๓ จบ
    จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะ สิกกัง รูปัง กุมาโรวา นิมิตตัง กุมารทอง
    อาคัจฉาหิ จิตติ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
    คาถาเรียกกุมาร
    นะโม ๓ จบ
    สุดยอดมวลสารประกอบด้วย ดินอาถรรพ์ ผงพุทธคุณและผงพรายกุมาร นำมาปั้นและเผาตามตำราโบราณ และนำมาลงอักขระ เจิม ตั้งชื่อ ใต้ฐานอุดด้วยผงพุทธคุณและผงพรายกุมารพร้อมกับปั้มตราหมึก ปลุกเสกตามฤกษ์อันเป็นมงคลในด้านโชคลาภ พุทธคุณดีทุกด้าน ขนาดหน้าตัก 3 นิ้วเศษ สูง 6 นิ้วเศษ หายากมาก น่าบูชามากครับ องค์นี้โค๊ตหมายเลข 18 ตัวครับ

    ราคา 6500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_4.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg Clip_9.jpg Clip_10.jpg Clip_11.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg Clip_17.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9726

    เหรียญรุ่นแรกพระเจ้าทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ ปี 42 กล่องเดิม

    สุดยอดแห่งความสมปราถนา แห่งโชคลาภ อันเป็นที่เลื่องลือ สวยกริ๊ป หายากมากๆๆ ผิวรุ้ง
    เหรียญยอดนิยมอันดับ 1 ของวัดดอยคำหายากสุดๆ
    “พระเจ้าทันใจ” ซึ่งหมายถึง พระพุทธรูปที่ใช้เวลาสร้างได้สำเร็จภายใน 1 วัน กล่าวคือ จะเริ่มพิธีตั้งแต่หลังหกทุ่มเป็นต้นไป จนสามารถสร้างองค์พระได้สำเร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนเวลา 18.00 น.) ของวันถัดไป ถ้าสร้างไม่เสร็จถือเป็นพระพุทธรูปธรรมดาทั่วไป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้ในเย็นอีกวันหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปนั้น มักจะมีขั้นตอน และพิธีกรรมที่ละเอียดซับซ้อน การสร้างพระพุทธรูป และสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกได้สำเร็จภายใน 1 วัน จึงถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะพระพุทธานุภาพ และอานุภาพแห่งเทพยดาที่บันดาลให้พิธีกรรมสำเร็จโดยปราศจากอุปสรรค ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจึงถือว่าพระเจ้าทันใจเป็นพระพุทธรูปที่จะบันดาลความสำเร็จให้แก่ผู้อธิษฐานขอพรได้อย่างทันอกทันใจ
    การสร้างพระเจ้าทันใจนั้น มีลักษณะที่แปลกกว่าการสร้างพระพุทธรูปอื่นๆ กล่าวคือจะมีการบรรจุหัวใจพระเจ้า คล้ายกับหัวใจของมนุษย์ ตลอดจนการบรรจุวัตถุมงคลสิ่งของมีค่าไว้ในองค์พระพุทธรูปด้วย และในช่วงระยะเวลาที่กำลังปั้น จะต้องมีการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ตลอดทั้งคืนจนสว่างด้วย
    หลวงพ่อทันใจเป็นที่นิยมและได้ยินถึงกิตติศัพท์ของความสำเร็จจากการอธิษฐานมากที่สุด ทั้งในเรื่่องของการขอโชคลาภทั้งจากการงาน การค้า และการเสี่ยงโชค
    เป็นเหรียญที่มาเเรง ด้วย ประสบการณ์ ขอสิ่งไหนได้สมความปรารถนา
    พร้อมรับประกันความแท้ครับ

    ราคา 14500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    เหรียญพระเจ้าทันใจ 6.0 a.jpg เหรียญพระเจ้าทันใจ 6.0 b.jpg เหรียญพระเจ้าทันใจ 6.0 c.jpg เหรียญพระเจ้าทันใจ 6.0 d.jpg เหรียญพระเจ้าทันใจ 6.0 e.jpg Clip_6.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9727

    วัวธนูรุ่น2ครูบาคำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูล

    ตำนาน แห่ง สุดยอดวัวธนูโลหะยอดนิยม อันดับ1 ของล้านนา
    เป็นวัวธนูอันดับ1ของล้านนา พุทธคุณป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันคุณไสย ลบล้างเสนียดจัญไร ปกปักรักษาทรัพย์สินเงินทอง ป้องกันเหล่าโจรกรรมต่างๆได้อีกด้วย หรือว่าจะเอาไปทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น ในเวลากลางวันให้หันหน้าเข้าบ้าน…ให้อธิฐานจิตเอาในทางโชคลาภ ส่วนในเวลากลางคืนให้เอาวัวธนูหันหน้าออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรม
    #กล่าวกันว่า เมื่อคราวที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มรณภาพลง ในย่ามของหลวงพ่อจะมีเครื่องรางที่ท่านพกติดตัวไปตลอดด้วย นั่นก็คือ วัวธนูของหลวงปู่ครูบาคำแสน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นเรื่องราวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของ วัวธนูหลวงปู่ครูบาคำแสนครับ
    #คาถาสำหรับปลุกเสกวัวธนู
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3หน)
    โอม...โคโน มหาโคโน, โอม โคโส มหาโคโส, โอมกูจักมนต์วัวธนู กูสูงได้เก้าพันศอก, ปล๋ายหนอกได้เก้าพันวา, กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว, เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม, โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
    โอม...โคโน มหาโคโน, โอมกูจักมนต์วัวธนู, กูบินฆะฆะ ตัวมีราคะมัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไอ้ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ
    #วิธีปฏิบัติต่อวัวธนู ของหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูล
    ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะเป็นอาหาร ครบ 7วันให้เปลี่ยนทั้งหญ้าและน้ำเสียครั้งหนึ่ง ห้ามเอาวัวธนูไว้ปะปนกับพระพุทธรูปและเครื่องรางของขลังต่าง ๆ และทั้งห้ามเอาไว้สูงกว่าพระพุทธรูป วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภัย ภูตผีปีศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่อยู่อาศัย และยังป้องกันพวกมิจฉาชีพเหล่าโจรกรรมทั้งหลายได้อีกด้วย หรือว่าถ้าจะเอาใช้ไปในทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนให้หันหน้าวัวธนูออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย ในเวลากลางวันให้หันหน้าวัวธนูเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ให้จุดธูป ๓ ดอก ทุกเช้าค่ำ
    วัวธนูมีใว้สำหรับป้องกันภูตผีปิศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่ อยู่อาศัย และทั้งยังป้องกันเหล่าโจรกรรมต่างๆได้อีกด้วย หรือว่าจะเอาไปทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น ในเวลากลางวันให้หันหน้าเข้าบ้านให้อธิฐานจิตเอาในทางโชคลาภ ส่วนในเวลากลางคืนให้เอาวัวธนูหันหน้าออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย นับวันจะกลายเเป็นตำนาน ไปเสียแล้วกับ วัวธนู ครูบาคำแสน หายากมากๆ นานๆจะเจอสักตัว แบบนี้หากยากแล้วครับ เวลานี้ วัวธนูหลวงปู่คำแสนทุกรุ่น เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ราคาขยับสูงขึ้นตามความต้องการที่มีเพิ่มมากขึ้นแรงด้วยประสบการณ์ดี ครับ เวลานี้ ของแท้ๆ หาอยากแล้วครับ ผู้ที่มีก็เก็บเงียบกันหมด
    สวย ๆ พร้อมรับประกันความแท้ครับ

    ราคา 22500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 a.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 b.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 c.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 d.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 e.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 f.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 g.jpg วัวธนูครูบาคำแสน 15.0 h.jpg Clip_14.jpg Clip_15.jpg
    724_n.jpg?_nc_cat=111&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_ohc=PK_YUHOh_TcAX-BMAF9&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9728

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระคงโพธิ์เม็ด สวยเดิมๆ


    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล องค์นี้พิมพ์พระคงโพธิ์เม็ด
    ลงรักสวยเดิมๆครับ


    ราคา 7500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    bnvi.jpg bnv.jpg nb.jpg Clip_3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9729

    พระผงเกศารุ่นแรก เนื้อไม้งิ้วดำ ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง จ.เชียงใหม่ #สร้างน้อยหลักสิบองค์ #สุดยอดของหายาก #เห็นเส้นเกศาชัดเจน


    สร้างปลายปี ๒๕๓๓ ผู้สร้างคือคณะศิษย์และพระเณรในวัด ที่จดจำได้ก็มี พระไพบูลย์ อินทปัญโญ (พระอาจารย์พิณ) ผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด พระอธิการปรีชา เปสโล ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสามเณร ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่ง พระอาจารย์วุฒิ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดศิลามงคล (วัดครูบาบุญมี) อ.ดอยหล่อ ทางเดียวกับวัดใหม่หนองหอย และยังมีพระอาวุโสอีกรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ชื่อพ่อหนานเรือง รวมทั้งพระเณรรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดฟ้าหลั่งตอนสมัยนั้น
    สร้างจาก ผงเกศาเนื้อผงเถ้า จากการเผาดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาบูชาพระ แล้วตักเอาแต่ผงเถ้า ผสมดินจอมปลวกด้านหลังวัด น้ำมันละหุ่ง ผงว่าน และเกศาของหลวงปู่ ใช้เวลารวบรวมมวลสารกว่า ๓ ปี เพราะดอกไม้ต้องนำมาตากแห้งแล้วเผา เก็บผงเถ้าครั้งหนึ่งก็ได้ไม่มาก ว่านยาต่างๆ ก็ต้องโขลกต้องตำกันเองภายในวัด หลังจากนั้นก็นำมากดพิมพ์ได้ประมาณหมื่นกว่าองค์ ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เซนติเมตร
    พระผงเกศารุ่นแรก เนื้อไม้งิ้วดำ ซึ่งทำมาจากไม้งิ้วดำที่ศิยษ์จากแม่สะเรียงนำมาภวายหลวงปู่ เมื่อหั่นเป็นท่อนๆแล้วโขลกกันเอง ใช้เวลาโขลกนานมากเนื่องจากเนื้อไม้งิ้วดำเป็นไม้ที่แข็ง เล่าพระเณรสู้แรงโขลกไม่ไหว ทำให้ได้มวลสารไม่มาก จากนั้นนำมาผสมเกศา (ผสมมากกว่าเนื้อธรรมดา)เพราะผู้ทำตั้งใจทำเก็บไว้ใช้กันเอง และผสมดินจอมปลวก น้ำมันละหุ่ง ผงเถ้าดอกไม้เล็กน้อย กดได้ประมาณ 50 กว่าองค์ และมีแตกหักไม่สมบูรณ์เสียเป็นส่วนใหญ่

    สุดยอดหายาก มีเพียงหลักสิบองค์เท่านั้นครับ

    ราคา9999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    mbmb.jpg nmbp.jpg iiu.jpg mlk.jpg t.jpg ,n.jpg m,n,.jpg vg.jpg Clip_17.jpg Clip_18.jpg Clip_14.jpg Clip_15.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9730

    รูปหล่อกะไหล่นาค ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง จ.เชียงใหม่


    อีกรุ่นที่ได้รับความนิยม จัดสร้างปี 2540 จำนวนน้อยเพียง 700 องค์ ตอกโค๊ต ตัวนะ ทุกองค์ มวลสารดี ประวัติสร้างชัดเจน พระแท้ ดูง่าย สร้างน้อย สภาพสวย ผิวเดิมๆแบบนี้ นานๆมาทีครับ รีบเก็บก่อนแพงกว่านี้ครับ

    ราคา 2500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    fgd.jpg kk.jpg mn.jpg mn;.jpg mn['.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344

    ล็อกเก็ตครูบาศรีวิชัย ปี 2539 ศรีวิชัยยาชนะ ตอกโค๊ 9 และ50 สวยเดิมๆ



    ที่ระลึกในการสร้างอนุสาวรีย์ ศรีวิชัยยาชนะ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน

    ครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่นศรีวิชัยยาชนะ สร้างในปี พ.ศ.2539 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เช่าบูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ในการจัดสร้างอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ณ รอยต่อบริเวณถนนสายลี้-เถิน อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นผู้ตั้งชื่อรุ่นนี้ ว่า “ศรีวิชัยยาชนะ” พิธีพุทธาภิเษก วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2539 ณ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน

    ตอก๙โค๊ต 50พิธีครองราชครบ 50 ปีในหลวง ร 9 สวยกล่องเดิมๆครับ



    ราคา 2550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ล.ก.ครูบาปี 39 1.1 a.jpg ล.ก.ครูบาปี 39 1.1 b.jpg ล.ก.ครูบาปี 39 1.1 c.jpg Clip_19.jpg Clip_21.jpg Clip_22.jpg
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9731

    รูปหล่อโบราณ รุ่นแรกครูบาอิน อินโท เนื้อทองผสม ก้นตั

    “พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า
    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี
    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ
    รูปหล่อโบราณรุ่นแรกครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง เนื้อทองผสม ก้นอุดกริ่ง จัดสร้างในปี ๒๕๓๓ หลวงปู่ครูบาอิน เจริญอายุ ได้ ๘๘ ปี ได้มีการจัดสร้างรูปหล่อขนาดบูชา หน้าตัก ๕ นิ้ว ขึ้นเป็นครั้งแรก จำนวนร้อยกว่าองค์ และรูปหล่อโบราณขนาดเล็ก โดยหลวงปู่ครูบาอินอธิษฐานจิตเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน 1000 องค์
    เนื้อหาเข้มขลัง สวยน้ำทองเดิม ๆน่าบูชามากครับ

    บูชาแล้วครับ

    รูปหล่อครูบาอิน a.jpg รูปหล่อครูบาอิน b.jpg รูปหล่อครูบาอิน c.jpg รูปหล่อครูบาอิน d.jpg Clip_11.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9732

    เหรียญรุ่นแรกครูบาสิงห์แก้ว (ครูบาผีกลัว) วัดปากกอง บล็อก Sขีด สวยๆ


    เหรียญหลักยอดนิยมของเมืองเหนือ ท่านโด่งดังมากเรื่องปราบผี จนเป็นที่ขนานนามที่ว่า ครูบาผีกลัว แห่งสารภีวัตถุมงคลของท่านพุทธคุณเด่นใช้เรื่องกันผีได้ดีมาก ครับ
    พิธีปลุกเสกที่วัดพระธาตุดอยสุเทพในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2515 โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ทรงเป็นประธาน โดยนิมนต์สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ 108 รูป ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร, หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท, หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่, หลวงพ่อเกษม เขมโก จังหวัดลำปาง, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม, ครูบาคำแสน อินทจักรโก วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่, ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่, ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุ่ย จังหวัดลำพูน, พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และอาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส เป็นต้น นับเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ แถมมีพระเกจิอาจารย์ดังทั้งภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคใต้ รวมพลังปลุกเสกกันอย่างเข้มขลัง
    รับประกันความแท้ครับ

    ราคา 5500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    Clip_288.jpg Clip_331.jpg Clip_332.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9733

    เหรียญรุ่น 2 ครูบาสิงห์แก้ว วัดปากกอง (ครูบาผีกลัว) กะไหล่ทอง


    เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างจำนวนน้อย หลวงพ่อท่านจัดสร้างเองเพื่อใช้แจกศิษย์แทนเหรียญรุ่นแรกที่หมดไป
    ประสบการณ์ในท้องถิ่น โด่งดังมากตอนเผาศพไฟไหม้ไฟ มีเหรียญรุ่นนี้อยู่ในกระเป๋าเสื้อ
    พุทธคุณทางด้านเมตตา คงกระพัน กันผี
    เหรียญดีน่าใช้ครับ

    ราคา 3350 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    Clip_212.jpg Clip_213.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9734

    ขุนแผนรุ่นแรกครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน หลังจาร เส้นเกศา

    ขุนแผนดวงดีมหาลาภ เนื้อขนมจ๋อก พระเครื่องยุคแรก ยอดนิยมของท่านครูบาดวงดี ยติโก พุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม ลูกศิษย์หลวงปู่ทราบถึงพุทธคุณกันเป็นอย่างดี หลังเส้นเกศา หลวงปู่เมตตาจารหลังหมึกเดิมๆจากวัดครับ

    น่าบูชามากๆครับ

    ราคา 3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_335.jpg Clip_337.jpg Clip_341.jpg Clip_350.jpg Clip_351.jpg Clip_334.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9735

    เหรียญหลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ปี 2517 ตอกโค๊ตนของดีน่าใช้เบาๆ

    ..พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองลำปางน้อยคนที่จะรู้จัก....
    .....ประวัติ เล่าขานสืบมาคับ.... หลวงพ่อเมืองวัดท่าแหนเกจิแดนล้านนายุค250ถึง251กว่าที่ร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลสำคัญๆในยุคนั้นทั่วประเทศท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทิมวัดช้างให้ท่านหลวงพ่อเมืองท่านเก่งทางมองเห็นอดีตและอนาคต(จากบรรทึกการสนทนาของหลวงพ่อเกษม เขมโกที่ถวายตอบข้อซักถามขององค์ในหลวงเราเมื่อคราวเสด็จเยือนอาการอาพาธของหลวงพ่อเกษม ที่สุสานไตรลักษณ์)ท่านเป็นประธานปลุกเสกหลวงพ่อแช่มวัดฉลองภูเก็ตปี12ที่นายหัวไมตรี บุญสูงเศรษฐีเจ้าของเหมืองแร่เป็นประธานฆราวาสสร้างและฮือฮาโด่งดังเพราะหลวงพ่อเมืองมองเห็นว่าหลวงพ่อแช่มมาร่วมพิธีปลุกเสกจึงให้จัดอาสนะเพิ่มอีก1ที่สำหรับหลวงพ่อแช่มเป็นที่ฮือฮากันมากคิดดูว่าถ้าไม่ดีจริงคนทางใต้คงไม่นิมนต์พระทางเหนือไปเป็นประธานปลุกเสกวัตถุมงคลโดยเฉพาะของหลวงพ่อแช่มวัดฉลองซึ่งชาวใต้นับถือท่านมาก..คิดดูครับ..ขออนุญาตเล่าเกล็ดเล็กๆน้อยๆจากประสบการณืจริงเมื่อยุคปีพ.ศ251กว่าเป็นต้นมาหมู่บ้านที่ผมอยู่ห่างจากหมู่บ้านท่าแหนของหลวงพ่อเมืองประมาณ5ก.มช่วงฤดูฝนคือประมาณระยะช่วงนี้ชาวบ้านนอกชนบทยุคนั้นอุปกรณืทำนาที่สำคัญยิ่งคือควายชึ่งมีกันแทบทุกครัวเรือนเอาไว้ไถนาบางบ้านมีเยอะเลี้ยงกันแทบทุกหลังไอ้พวกโขมยโจรขี้ลักควายจะจ้องโขมยควายชาวบ้านก็ช่วงหน้านี้แหละเพราะหลังจากทำงานไถนาเหน็ดเหนื่อยทั้งวันตอนเย็นเสร็จงานชาวบ้านมักตั้งวงก๊งส.ร.ถ(สุราต้มกลั่น)กันแก้ปวดเมื่อยชึ่งเหนื่อยกันมาทั้งวันพอกลางคืนฝนตกตลอดบรรยากาศให้..หลับเป็นตาย..ตื่นเช้าสีหูสีตาลงกระไดบ้านมาเตรียมไถนาต่อปรากฎว่าคอกโล่งเกลี้ยงโจรลักไปหมดไม่รู้ถูกต้อนไปถึงไหนแล้วบางคนถึงกะลมจับเพราะนาก็ยังไม่เสร็จต้องถือพานดอกไม้ธูปเทียนไปหาหลวงพ่อเมืองที่วัดท่าแหนขอหลวงพ่อช่วยดูให้ว่าไอ้โจร500มันเอาไปทางไหนชึ่งหลวงพ่อมักจะบอกให้ไปทางทิศไหนก็จะเกณฑ์ชาวบ้านออกติดตามและไม่พลาดเจอแทบทุกรายจริงๆแต่จะเจอสภาพตัวเป็นๆหรือซากแค่นั้นและครับและเสือร้ายโขมยยุคนั้นส่วนใหญ่อยู่เขตติดต่ออ.แม่ทะทางทิศตะวันตกมีอยู่2อำเภอเยอะจริงมีหลายก๊กบ้างขโมยไปเรียกค่าไถ่บ้างขโมยไปชำแหละเป็นที่รู้กันในยุคนั้น..หลวงพ่อเมืองเป็นที่กล่าวขวัญรู้กันในยุคนั้นของหายไม่รู้พึ่งใครวิ่งไปหาหลวงพ่อเมืองให้หลวงพ่อนั่งทางในดูให้และมักเจอตามที่หลวงพ่อบอกทุกรายจึงเป็นที่ศรัทธาของคนสมัยนั้นมา หลวงพ่อเมือง หรือที่ชาวบ้านรู้กัน คือท่านหยั่งรู้ ฟ้าดิน
    ประวัติหลวงพ่อเมือง อุตฺตโม วัดท่าแหน
    หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม
    วัดท่าแหน ตำบลแม่ทะ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
    "พระผู้มีอตีตังสญาณ ผู้หยั่งรู้"
    พระครูอุดมเวทวรคุณ (นามเดิม เมืองใจทาหลี) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2435 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะโรง เป็นบุตรคนโตของ นายดวงแก้ว นางต่อม ใจทาหลี ณ บ้านเลขที่ 15 บ้านท่าแหน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ
    1. พระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง)
    2. นายมูล ใจทาหลี
    3. นางเกี๋ยง โยธา
    4. นายซุน ใจทาหลี
    5. นางคำใส ฟูชุม
    เมื่อเยาว์วัยได้เข้าเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์คันธรฐ ที่วัดท่าแหน โดยเรียนอักขระภาษาภาคพายัพ (ภาษาพื้นเมือง) จนจบหลักสูตร เมื่อท่านได้เรียน อักขระพื้นเมือง ตลอดจนเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานจบแล้ว จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2449 ณ วัดท่าแหน โดยมีอาจารย์ตันธวงศ์ วัดสันดอน ต.ดอนไฟ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์
    เมื่อบรรพชาเป็นสามเณร ก็ได้เล่าเรียนตำรับตำราต่างๆ และเมื่ออายุครบบวช จึงได้ทำการอุปสมบท ในวันที่ 21 มิถุนายน 2455 ณ วัดท่าแหน โดยมีพระคันธวงศ์เป็นผู้อุปชฌาย์ พระคันทะรต เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปิ่นไชย วัดบ้านหลวง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้ปฏิบัติศาสนกิจอยู่วัดท่าแหน ก็ได้มีความสนใจใคร่เรียนรู้วิธีปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากัมมัฏฐานจึงได้ค้นคว้าจากตำราเก่าแก่ และทดลองปฏิบัติเรื่อยมา โดยไปศึกษาค้นคว้านอกสำนักบ้าง โดยมีหลักฐานจากการบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่สืบต่อกันมา อาทิเช่น
    1. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    2. ไปจำพรรษา ณ วัดพระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    3. ไปจำพรรษา ณ วัดศรีหมวดเกล้า อ.เมือง จ.ลำปาง 1 พรรษา
    4. ไปจำพรรษา ณ วัดสันดอน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง 1 พรรษา
    ซึ่งทั้งนี้ไปเพื่อค้นคว้าศึกษาด้านสมถะวิปัสสนากัมมัฏฐาน หลวงพ่อเมือง ท่านเสาะแสวงหาหนทางวิธีวิปัสสนากัมมัฏฐานไปแทบทั่วทุกแห่ง เมื่อครั้งที่พระเทพวิสุทธิโสภณ (อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) ในปี พ.ศ.2473 ขณะนั้นยังเป็นพระสิงห์คำได้ไปตรวจตราคณะสงฆ์แทน เจ้าคณะมณฑลพายัพกับพระมหาปู อัตตลีโว อดีตเจ้าคุณอุบาลีคณูปมาจารย์ วัดพระสิงห์เจ้าคณะภาค 5 ได้ตรวจไปจนถึงวัดท่าแหน พบหลวงพ่อเมืองอยู่ในกุฎิมืดทึบไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องลมเล็กๆ ประมาณคืบเศษ มีเนื้อตัวผอมเหลือง จึงได้ถามหลวงพ่อเมืองว่าเป็นโรคอะไร หลวงพ่อเมืองก็ได้ตอบว่าไม่เป็นอะไร และภายหลังได้ทราบว่า หลวงพ่อเมืองท่าเป็นพระชอบอยู่ป่าช้าเจริญสมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐานเพ่งกสิณอยู่เป็นนิจ กระทั่งวันหนึ่ง หลวงพ่อเมืองได้เป็นพบคำภีร์โบราณ (หนังสือภาคพายัพ) ในตู้พระไตรปิฎก ณ วัดบ้านหลุก ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้ทราบถึงวิธีปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในขณะที่อ่านนั้น ท่านก็ได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นหอมมาก หลวงพ่อเมืองไม่เคยได้สัมผัสกลิ่นชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นหลวงพ่อเมืองจึงขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดบ้านหลุก นำเอาตำราวิปัสสนากัมมัฏฐานนี้กลับไป วัดท่าแหน เพื่อศึกษาและปฏิบัติ โดยศึกษานานอยู่ 6 ปี จึงสามารถกระทำจิตใจให้แน่วแน่เป็นสมาธิได้ คือสามารถรวมใจเป็นดวงเดียว ซึ่งเรียกกันว่า บริกรรมนั่งทางใน จนสามารถนั่งทางในมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนธรรมดาสามัญมองไม่เห็นได้ ตั้งแต่นั้นมาก็มีลูกศิษย์ลูกหาให้ท่านนั่งทางในดู หลวงพ่อเมืองก็สามารถทำนายทายทักให้ถูกต้องแม่นยำ หรือแม้กระทั่ง หลวงพ่อเกษม เขมโก ยังได้เอ่ยกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อพระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อเกษมว่า "ชาติที่แล้วพระองค์ทรงเป็นนักรบใช่หรือไม่" หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ตอบพระองค์ท่านว่า "เราไม่รู้สิต้องไปถามหลวงพ่อเมือง ท่านมีอตีตังสญาณ" แสดงให้เห็นว่า หลวงพ่อเกษม ทราบดีว่า หลวงพ่อเมือง ได้สำเร็จในการปฏิบัติธรรมถึงขั้น ทิพย์จักษุฌาน ซึ่งเป็นระดับความสำเร็จของการปฏิบัติกัมมัฏฐานขั้นสูงชั้นหนึ่ง
    หลวงพ่อเมือง ได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยความกรุณา โดยไม่เลือกชั้นวรรณะมีหรือจน ท่านปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเท่าเทียมทั่วกัน โดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ท่านช่วยเหลือประชาชนในด้านสุขภาพ และเดือดร้อนประการอื่นๆ ด้วยการนั่งสมาธิแล้วแจ้งให้ผู้มาขอความช่วยเหลือได้ทราบถึงมูลเหตุ และแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ เช่น ทำบุญให้ทาน หรือกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคและเป็นมูลเหตุให้เกิดความเดือดร้อนที่ได้ขุดพบ ซึ่งทั้งนี้เป็นผลที่พอใจของทุกคน ฝูงชนจึงได้หลั่งไหลไปสู่วัดท่าแหนไม่ขาดสายบางวันก็มาเต็มคันโดยสาร และค้างคืนที่วัดก็มี ที่กรุงเทพมหานครก็เช่นกันหากหลวงพ่อเมืองมาพัก ณ วัดใด ฝูงชนจะพากันไปวัดนั้นอย่างคับคั่ง
    ถึงแม้นท่านจะมีความเมตตาธรรมต่อผู้อื่นทั่วไปอย่างไรก็ตาม แต่ทุกชีวิตที่เกิดย่อมที่จะหนีไม่พ้นสังขารไปได้ ดังนั้นเมื่อปลายแห่งชีวิต โรคภัย ไข้ เจ็บ ก็เริ่มคุกคามหลวงพ่อเมือง จนกระทั่งศิษยานุศิษย์ได้นำท่านไปรักษายังโรงพยาบาลหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายได้นำท่านไปทำการผ่านตัด และรักษาที่โรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่อาการของหลวงพ่อก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น ศิษยานุศิษย์จึงได้นำท่านกลับมายังวัดท่าแหนและแล้วหลวงพ่อเมืองก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดท่าแหน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2519 เวลา 21.39 รวมอายุได้ 85 ปี ซึ่งนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ญาติพี่น้องและคณะศิษยานุศิษย์ ประชาชนทั่วไป ที่ได้สูญเสียท่านพระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง อุตฺตโม)ไปอย่างไม่มีวันกลับ
    อ้างอิงจากหนังสือ พระเครื่องเมืองลำปาง 2556 หน้า 119-120 โดย ธีรเดช จังตระกูล(ต้น ลำปาง)


    บูชาแล้วครับ

    Clip_433.jpg Clip_434.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2022
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344

    รายการที่ 9736

    ล็อกเก็ตรุ่นแรก ครูบาอินถา วัดยั้งเมิน 1 ใน 108เหรียญ


    จัดสร้างพร้อมเหรียญรุ่นแรก
    เหรียญประสบการณ์ เหนียว คงกระพัน เมตตามหานิยม ครบเครื่องครับ
    ข่าวดังฮือฮาไปทั่วอำเภอสะเมิง ชาวบ้านหลั่งไหลกันไปบูชาเหรียญรุ่นแรก ครูบาอินถา ฐิตธมฺโม วัดยั้งเมิน ต.ยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ หลังจากรู้ข่าว นายวิชัย ดวงป้อ บ้านยั้งเมินถูกยิงทำให้เหรียญหมดไปจากวัดในเวลาอันรวดเร็ว ข้อมูลจากผู้ถูกยิง นายวิชัย ดวงป้อ หรือ นายใส อายุ ๔๕ ปี คนบ้านยั้งเมิน เล่าว่า เมื่อเย็นวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๔ ตนกับเพื่อนชื่อ นายเรือน คนบ้านยั้งเมินเหมือนกัน ได้ชวนกันไปดื่มเหล้าที่ร้านอาหารในตัวอำเภอสะเมิง ขณะขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านมา เหมือนมีอะไรมาดลใจให้แวะที่วัด(วัดยั้งเมิน) ก็เลยแวะพูดคุยกับ ครูบาอินถา สักครู่หนึ่ง ก่อนไปครูบาได้มอบเหรียญรุ่นแรกของท่าน ให้คนละหนึ่งเหรียญ ก็เลยเอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ขากลับประมาณ ๕ ทุ่มเศษได้ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมาบ้านคนเดียว เพราะนายเรือน ได้ขอตัวกลับก่อนตอนที่อยู่ร้านอาหารแล้ว พอขับมาถึงบ้านแม่สาบ ตรงศาลาใกล้ๆทางเข้าวัดพระธาตุดอยนก ต.สะเมิงใต้ ก็ถูกคนลอบยิงกระสุนเข้าเต็มหน้าอกด้านขวา แต่ยังสามารถขับรถไปต่อได้ ก็เลยรีบกลับให้ถึงบ้านอย่างรวดเร็ว พอถึงบ้านก็ตรวจดูร่างกาย ปรากฏว่ากระสุนถูกที่หน้าอกขวา ๓ นัดแต่ไม่มีเลือดตกยางออกมีแต่รอยช้ำเป็นจุดแดงๆ เสื้อที่สวมใส่เป็นรู ๓ รู รุ่งเช้าตื่นขึ้นมารีบไปกราบขอบพระคุณ ครูบาอินถา ที่ได้ให้เหรียญไว้คุ้มครอง ทำให้ตนรอดตายมาได้
    ล็อกเก็ต จัดอยู่ในชุดกรรมการ 1 ใน 108 หมายเลข 97น่าบูชามาก ครับ

    ราคา 3500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    nbmb.jpg bnb.jpg up.jpg w.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2022
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9737

    รูปหล่อจัมโบ้ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เนื้อเงิน ปี 39
    ก้นอุดผง เลี่ยมพร้อมใช้


    รุ่นสร้างเจดีย์ชเวดากองจำลอง ปี 2539 ตอกโค๊ตชัดเจน จัดสร้างน้อยหายากมากครับ

    ราคา 4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    รูปหล่อจัมโบ้ครูบาชัยวงศ์ a.jpg รูปหล่อจัมโบ้ครูบาชัยวงศ์ b.jpg รูปหล่อจัมโบ้ครูบาชัยวงศ์ c.jpg รูปหล่อจัมโบ้ครูบาชัยวงศ์ d.jpg

    Clip_3.jpg

    9.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9738

    เหรียญรุ่นแรกเจ้าพ่อกู่ช้าง หางแตก รมน้ำตาล เดิมๆเหรียญประสบการณ์ของเมืองลำพูน


    วัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง

    เพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณะ ศาลเจ้าพ่อกู่ช้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวลำพูน ทำพิธีปลุกเสกในบริเวณกู่ช้างโดยเกจิชื่อดังของภาคเหนือในยุคนั้น
    เหรียญเจ้าพ่อกู่ช้าง ผู้กล่ำงาเขียว รุ่นแรก ปลุกเสกโดยเกจิคณาจารย์สายเชียงใหม่ ลำพูน ชื่อดังมากมายในสมัยนั้น
    เหรียญสุดยอดประสบการณ์ จัดเป็นอีกหนึ่งของดีแห่งเมืองลำพูน (ท้องที่หวงแหนกันมากครับ)
    ประวัติ-เจ้าพ่อกู่ช้าง
    มีตำนานว่า กู่ช้างเป็นเจดีย์บรรจุซากช้างคู่บารมีของพระเจ้ามหันตยศ ชื่อ"ปู่ก่ำงาเขียว" ล่ำลือกันว่ามีฤทธิ์เดชมาก ส่วนงานำไปเก็บไว้ในเจดีย์สุวรรณจังโกฏที่วัดจามเทวี ชาวลำพูนเคารพนับถือมาก ถึงกับสร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ใกล้กับเจดีย์
    ความหมายของคำว่า"ผู้ก่ำ งาเขียว" ในภาษากลางก็คือ ช้างตัวผู้ผิวสีดำเข้ม และมีงาสีเขียว อันว่าช้างเชือกนี้เป็นช้างคู่บารมีของกษัตริย์ผู้ครองนครหริภุญไชยในอดีต คือพระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ ผู้เป็นพระโอรสของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตรีย์แห่งนครหริภุญไชย ช้างปู้ก่ำ งาเขียว เป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์ นำพากษัตริย์ออกรบจนชนะข้าศึกศัตรูทุกครั้ง มีส่วนทำให้นครหริภุญไชย เป็นมหานครอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น และเมื่อสิ้นอายุไขลง ร่างก็ถูกนำไปฝังที่บ้านกิ่งแก้ว และพระเจ้ามหันตยศได้สร้างกู่ (เจดีย์) ครอบไว้อีกทีเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ์
    เหรียญสุดยอดประสบการณ์ของเมืองลำพูน น่าบูชามากๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_3.jpg Clip_10.jpg Clip_15.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9739

    พระผงสมเด็จอวตาร 84 ครูบาชัยวงค์เจิมน้ำหมาก ติดเส้นเกศา

    ปี 2540 เมื่อหลวงปู่ครูบาชัยวงค์อายุได้ 84 ปี ท่านป่วยหนักมากจนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่ออาการทุเลาลงมาแล้ว ท่านกลับมาวัด หลวงปู่ได้บอกว่า ในขณะที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ท่านได้ตายไปแล้ว เนื่องด้วยเหตุของอุปฆาตกรรมมาริดรอน แต่สามารถต่ออายุออกไปได้อีก
    หลวงปู่จึงให้สร้างวัตถุมงคลเพื่อสงเคราะห์ลูกหลาน พร้อมทั้งกำหนดมวลสาร และ ตั้งชื่อรุ่นนี้ให้เอง
    พระผงสมเด็จอวตาร 84 เป็นพระผงที่รวบรวมมวลสาร ต่างๆ เช่น ผงพระธาตุ 500 อรหันต์ ผงพระธาตุสีวลี ผงพระปัจเจกพุทธเจ้า ผงหลวงปู่เทพโลกอุดร ชานหมากอันศักดิ์สิทธิ์ ผงธูปอธิษฐาน เกษา น้ำหมาก และ ผงพุทธคุณต่าง ๆ ด้านหลังองค์พระติดเกศาของหลวงปู่
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้ให้ชื่อพระรุ่นนี้ว่า "สมเด็จอวตาร84 รุ่นฆ่าไม่ตาย"
    พุทธคุณคือ เป็นพระที่คลายกฏแห่งกรรม ได้คือ ถ้ามีกรรมที่มาตัดรอนให้เรา ถึงแก่ชีวิต ก่อนอายุขัย จากเจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลายทั้งปวง ...ด้วยพระพุทธานุภาพ ที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ จะช่วยให้กรรมนั้นๆ จากหนักเป็นเบาได้
    หลวงปู่อธิษฐานจิตให้อย่างเต็มที่ 1 ไตรมาส
    เจิมน้ำหมาก ติดเส้นเกศา สวยเดิม จากวัด


    บูชาแล้วครับ


    oo.jpg fdg.jpg vbnv.jpg bnv[.jpg bvnv.jpg Clip_11.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9740

    เหรียญกิ่งไผ่ หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 18เลี่ยมโบราณดูง่าย


    เหรียญกิ่งไผ่สวัสดี หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี ๒๕๑๘ เนื้อทองแดง สร้างและปลุกเสกเนื่องในงานครบรอบ ๑ ปี ศาลจ้าวแม่สุชาดา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ เหรียญหลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ รุ่น สวัสดี ๑๔ หรือที่รู้จักกันดีในนาม เหรียญกิ่งไผ่ สร้างปี ๒๕๑๘ เป็นรุ่นนิยมอีกหนึ่งรุ่นของท่านที่ระลึกในงานครบรอบ 1 ปี อนุสาวรีย์เจ้าแม่สุชาดา 9 เมษายน 2518 ประสบการณ์มากมาย เหรียญกิ่งไผ่สวัสดี หรียญรุ่นนี้น่าสะสมมากเพราะมีประสบการณ์เหลือเชื่อจากเหรียญรุ่นนี้มากมาย แถมยังราคาย่อมเยาว์อีกต่างหาก จัดเป็นชุดของดีราคาถูกอีกเหรียญหนึ่งครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_25.jpg Clip_26.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9741

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง เลี่ยมโบราณ


    ของดีราคาเบาๆน่าใช้บูฃามากครับ


    ราคา 650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_27.jpg Clip_28.jpg


    clip_36-jpg.jpg clip_34-jpg.jpg clip_35-jpg.jpg

    หลวงปู่หล้า จันโทภาโส เกจิชื่อดังแห่งวัดป่าตึง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปฏิปทาของท่านที่อัศจรรย์เสมือนมี อภิญญา คือ ตาทิพย์-หูทิพย์ ซึ่งทำให้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ชื่อเสียงของหลวงปู่หล้า เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันงดงาม เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า"หลวงปู่หล้าตาทิพย์"
    หลวงปู่หล้า (พระครูจันทสมานคุณ) ท่านเกิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ ซึ่งอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่สมัยของเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ กับเจ้าอินทวโรรส สุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๘ หลวงปู่หล้าเกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๗ ค่ำเดือน ๑๑ ตรงกับวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๔๔๑ ที่บ้านปง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โยมพ่อชื่อ นายเงิน โยมแม่ชื่อ นางแก้ว นามสกุล บุญมาคำ เหตุที่มีนามสกุลนี้ หลวงปู่หล้าเล่าว่า
    เพราะพ่ออุ๊ย (ปู่) ชื่อบุญมา แม่อุ้ย (ย่า) ชื่อ คำ เมื่อมีการตั้งนามสกุล กำนันจึงตั้งให้เป็น บุญมาคำ หลวงปู่หล้าเป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัวจากจำนวนพี่น้อง 4 คน เมื่ออายุได้ 1 ขวบ ต้องกำพร้าพ่อ โยมแม่จึงได้เลี้ยงดูลูกทั้งหมดเพียงลำพัง หลวงปู่หล้าเล่าให้ฟังว่า การเลี้ยงลูกสมัยก่อน ต้องช่วยกันทำงาน ช่วยเลี้ยงวัว หากใครทำผิดก็จะถูกเฆี่ยน ทำพลาดก็ถูกเอ็ด
    เมื่อหลวงปู่หล้าอายุได้ ๘ ขวบ โยมแม่ก็นำไปฝากกับครูบาปินตา เจ้าอาวาสวัดป่าตึงให้เป็นเด็กวัด หลวงปู่หล้าจึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือเป็นครั้งแรกกับครูบาอินตา ซึ่งสมัยนั้นจะเรียนหนังสือพื้นเมือง จนอายุได้ ๑๑ ขวบก็ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงเข้ารุกขมูล เข้ากรรมอยู่ในป่า การเข้ากรรม หรือ อยู่กรรม เรียกว่า ประเพณีเข้าโสสานกรรมซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนาที่พระสงฆ์จะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งมักจะกระทำกันในบริเวณป่าช้าที่อยู่นอกวัด พระสงฆ์และผู้ที่เข้าบำเพ็ญ โสสานกรรมจะต้องถือปฏิบัติเคร่งครัดเพื่อต้องการบรรเทากิเลสตัณหา
    ขณะที่บวชเป็นสามเณรอยู่นั้น หลวงปู่หล้าไม่ได้เรียนแต่เพียงหนังสือพื้นเมืองเท่านั้น แต่ยังได้เรียนหนังสือไทยไปด้วย โดยเรียนกับพระอุ่นซึ่งเคยไปจำพรรษาที่วัดอู่ทรายคำในเมืองเชียงใหม่ และเรียนหนังสือไทยที่โรงเรียนประจำมณฑลพายัพ ปัจจุบันคือโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย แต่ครูบาปินตาไม่สนับสนุนให้พระเณรเรียนหนังสือไทย ในที่สุดพระอุ่นจึงต้องเลิกสอน หลวงปู่หล้าศึกษาเล่าเรียนทั้งอักขรวิธีและธรรมปฏิบัติกับครูบา ปินตาเรื่อยมาจนกระทั่งอายุได้ ๑๘ ปี จึงเดินทางเข้าไปจำพรรษาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพน หลวงปู่หล้าเรียนนักธรรมที่วัดเชตุพนเพียง ๑ ปี ยังไม่ทันสำเร็จก็ต้องเดินทางกลับวัดป่าตึง เพื่อปรนนิบัติครูบาปินตาที่ชราภาพ หลวงปู่หล้าอยู่ปรนนิบัติครูบาปินตาจนกระทั่งล่วงเข้าปี พ.ศ.๒๔๖๗ ครูบาปินตาก็มรณภาพด้วยวัย ๗๔ ปี ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่หล้าอายุ ๒๗ ปีเท่านั้น หลวงปู่หล้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าตึงต่อจากครูบาปินตา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๗
    นอกจากนี้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ เมื่อครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๗๗ จนถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘ รวมเป็นเวลา ๕ เดือนกับ ๒๒ วัน ในครั้งนั้นหลวงปู่หล้าได้เดินทางไปร่วมสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพด้วย หลวงปู่หล้าเล่าถึงความยากลำบากในการสร้างถนนไว้ในหนังสือ ประวัติวัดป่าตึงว่า การสร้างถนนมีการแบ่งงานกันตามกำลังของคน ผู้คนที่ไปร่วมเป็นชาวบ้านจากวัดป่าตึงทำได้ ๕ วาใช้เวลา ๑๔ วัน ส่วนพวกที่มาจากเมืองพานทำได้ ๖๐ วา เมื่อปี ๒๕๐๔ หลวงปู่หล้าได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น พระครูจันทสมานคุณ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุ ๖๓ ปี มีคนพากันยกย่องหลวงปู่หล้าว่าท่านสามารถรู้เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่บอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่า ท่านมีตาทิพย์ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี ๕ หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด ครั้นพอถึงเวลา ๖ โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยนำญาติโยมมาหา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"
    กเหตุการณ์หนึ่งคือ ครั้งหนึ่งมีคณะผู้มากราบนมัสการหลวงปู่หล้าเกินจำนวนที่แจ้งความประสงค์จะขอของขลังจากท่าน แต่ท้ายที่สุดก็ได้รับแจกกันครบทุกคนอย่างน่าอัศจรรย์ ... จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของท่าน ไม่เพียงเท่านั้น อดีตครูใหญ่ของโรงเรียนบ้านป่าตึงท่านหนึ่งเล่าเพิ่มเติมว่า เช้าวันหนึ่งประมาณตี ๕ หลวงปู่หล้าได้ให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหาร (ราวกับว่าจะมีแขกมาหาที่วัด)ปรากฏว่า พอถึง ๖ โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก็นำคณะญาติโยมมาหาท่านที่วัดจริงๆ หรือเวลาที่มีชาวบ้านทำของหายหรือถูกลักขโมย เมื่อมาถามหลวงปู่หล้า ท่านก็จะบอกให้ไปตามทิศนั้นทิศนี้ จนกระทั่งได้ของคืนมาทุกครั้ง แต่หากท่านห้ามว่า ไม่ต้องไปตามเพราะจะไม่ได้คืน ก็จะเป็นจริงตามนั้น
    ปาฏิหาริย์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งก็คือ เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ หัวเมืองเหนือ พระองค์ท่านได้เสด็จนมัสการหลวงปู่หล้าที่วัดจนเป็นที่เอิกเกริก ประชาชนจำนวนมากแห่แหนไปต้อนรับพระองค์อย่างมืดฟ้ามัวดิน เมื่อพระองค์ท่านจะเสด็จกลับ หลวงปู่หล้าก็ได้ถวายพระพรแด่พระองค์ ซึ่งคราวนี้ดูหลวงปู่จะตั้งใจเป็นพิเศษ
    ปรากฏว่า หลังจากล้างรูปขณะที่หลวงปู่หล้าถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่นั้น...มีแสงสีส้มแดงที่หน้าผากของหลวงปู่!! อันแสดงถึงกระแสจิตของหลวงปู่ที่ตั้งใจและอัดอย่างเต็มที่แก่พระราชาผู้เป็นธรรมราชาแห่งแผ่นดินสยาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,250
    ค่าพลัง:
    +1,344
    รายการที่ 9742

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อโต วัดท่าแค(วัดชัยชนะสงคราม) ปี 2519 เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง

    พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดตาก ที่ชาวเมืองตากเคารพและสัทธามาก สร้างหลังชนะสงครามแก่ศัตรูครั้งอดีต เพราะศักดิ์สิทธิ์และขอพรได้สมปรารถนาทำให้ลิเกหลานคณะมีงานทำทั้งปีลองมาเที่ยวชมและกราบไหว้ได้ครับ หรือถ้าไม่มีโอกาสก็เช่าบูชาพระหลวงพ่อโตไว้ติดตัวครับแล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลง

    เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากอีกเหรียญหนึ่งของจังหวัดตาก สร้างปี2519 เหรียญนี้เป็นเนื้อทองแดงกะไหล่ทองเต็มทั้งเหรียญ เหรียญสภาพสวย ๆ


    ราคา 4999 บาท สนใจสอบยถามได้ครับ 0861936900

    Clip_17.jpg Clip_18.jpg Clip_32.jpg

    หลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม จ.ตาก

    ประวัติหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม จ.ตาก
    สร้างขึ้นราวปีพุทธศักราช 2299 ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำจังหวัดตาก "หลวงพ่อโต-บันดาลชัยให้สมปรารถนา" คือ คำบอกเล่าในพุทธบารมีหลวงพ่อโต ตามหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อครั้งพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถี กับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด จนมีชัยชนะ บริเวณดอยช้าง ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก ซึ่งเป็นเมืองตากเดิมในสมัยนั้น
    จนกระทั่งต่อมามีการย้ายเมืองตาก มาอยู่ในปัจจุบัน คือ ต.ระแหง อ.เมืองตาก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ทางทิศตะวันออก โดยให้แม่น้ำปิง เป็นคูเมืองปราการ สู้ข้าศึกศัตรูพม่าที่ยกทัพเข้ามาทางด้านด่านแม่ละเมา และต้องตีฝ่าเมืองตากเป็นแห่งแรก ก่อนจะกรีธาทัพเข้าไปยังหัวเมืองชั้นใน ชื่อเมืองตาก ปรากฏอยู่ในจารึกประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาลตามที่ได้กล่าวมา ย้อนไปในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระเจ้าหงสาวดี นำกองทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยสั่งให้พระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งขณะนั้นเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองขึ้นของพม่า ต่อเรือรบแล้ว ลำเลียงมาไว้ที่ตำบลระแหง เพื่อจะเข้าตีกรุงศรีอยุธยา

    สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จึงสั่งให้แม่ทัพไทยยกทัพขึ้นไปสู้รบทัพหน้าของพระเจ้าหงสาวดี เมื่อยกกองทัพไปถึงบ้านท่าแค ตำบลเชียงเงิน เมืองตาก แม่ทัพไทยได้สั่งให้ทหารขุดดินหลังบ้านท่าแค (ปัจจุบันพื้นที่ ที่ขุดลงไปกลายเป็นหนองน้ำเรียกหนองคา) ขึ้นมาทำคันคูต้านกองทัพข้าศึก ที่ตั้งทัพอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ที่บริเวณวัดหนองบัวค่ายหรือวัดบัวล้อมร้าง (ปัจจุบันปรากฏเพียงซากวัดร้างอยู่ใน ต.หนองบัวใต้)

    ปรากฏว่าการ ศึกครั้งนั้นรบชนะพม่า จึงได้สร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์เรียกว่า วัดดอยท่าชัย หรือ วัดชัยชนะสงคราม ในสมัยต่อมา แต่ชาวบ้านยังนิยมเรียกว่า วัดท่าแค ตามชื่อหมู่บ้านเดิมมาแต่โบราณกาล

    "หลวงพ่อโต" แห่งวัดชัยชนะสงคราม ได้รับการบอกเล่าตามหลักฐานประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดย นายสมศักดิ์ สะมะโน หัวหน้ากลุ่มอำนวยการและประสานงาน สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตาก ในฐานะปราชญ์พื้นบ้านของเมืองตาก ว่า องค์หลวงพ่อโต ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ณ วัดชัยชนะสงครามแห่งนี้ สร้างขึ้นราวปีพุทธศักราช 2299 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ดำรงตำแหน่งเป็นหลวงยกกระบัตร เจ้าเมืองตาก

    พระองค์ทรงสร้างตำหนัก สวนม่วง ปัจจุบันตำหนักสวนม่วงนี้อยู่ที่ตำบลป่ามะม่วง ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงตรงข้ามกัน ซึ่งในสมัยนั้นพระองค์ได้ทรงทำนุบำรุงสร้างวัดวาอารามหลายแห่ง และที่วัดดอยท่าชัย หรือวัดชัยชนะสงคราม พระองค์ทรงโปรดให้สร้างพระอุโบสถและพระประธานในอุโบสถขึ้น ชาวบ้านขนานนามว่า "หลวงพ่อโต" จากนั้นไม่เคยมีผู้ใด บูรณปฏิสังขรณ์ เพราะยุ่งกับสงคราม ไทย-พม่า จึงเป็นเหตุให้วัดถูกทิ้ง-รกร้างว่างเปล่าเป็นเวลามานาน จนอุโบสถเหลือเพียงแต่ผนังตึก 4 ด้าน ส่วนองค์หลวงพ่อโตถูกน้ำฝนชะทำให้สึกกร่อน

    ต่อมาเมื่อราวปี พ.ศ.2449 พระอธิการยิ้ม เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระครูเจ้าคณะแขวง กิ่งอำเภอเชียงเงิน พร้อมด้วยพระศักดาเรืองฤทธิ์ เจ้าเมืองตาก พร้อมศรัทธาพุทธศาสนิกชนชาวบ้านร่วมกันบูรณะพระอุโบสถ และซ่อมแซมองค์หลวงพ่อโต โดยใช้ใบมงคั้นเอาน้ำผสมกับปูนขาวเหนียว เสริมตกแต่งให้รูปทรงของหลวงพ่อโต ดีดังเดิม ดังที่เห็นในปัจจุบันและได้ก่อสร้างเสริมอาสนะหลวงพ่อโต กว้างขวางออกไปอีก

    เมื่อซ่อมเสร็จในปีเดียวกันนี้ ได้มีพ่อเลี้ยงเป็นชาวเชียงใหม่ ได้ล่องเรือบรรทุกพระพุทธรูปมาจอดที่ท่าน้ำหน้าวัดชัยชนะสงคราม แล้วขึ้นมานมัสการหลวงพ่อโตในโบสถ์ เห็นมีพระประธานองค์เดียว จึงมีจิตศรัทธานำพระพุทธรูป สมัยเชียงแสน สิงห์สาม ที่บรรทุกมาในเรือ หรือพระสองพี่น้อง เนื้อทองสัมฤทธิ์ถวายไว้ในโบสถ์ข้างๆ องค์หลวงพ่อโตซ้ายและขวา

    จวบจนปัจจุบันพุทธศาสนิกชนชาวบ้านที่ ศรัทธาในองค์หลวงพ่อโตได้ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถอีกหลายครั้ง เพื่อเป็นพุทธบูชา เป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตสืบไป พระพุทธรูปปางต่างๆ

    พระพุทธรูปที่สำคัญของไทย "หลวงพ่อโต -บันดาลชัยให้สมปรารถนา" คือ คำบอกเล่าในพุทธบารมีหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม ชาวบ้านที่ศรัทธาองค์หลวงพ่อโต ได้ร้องขอบน บานให้การงานสำเร็จ บางคนก็ขอให้ขายที่ดิน บางคนก็อยากให้ลูกหลานสอบได้ บางคนบนบานอยากเป็นข้าราชการ บางคนก็ได้โชคลาภก้อนโต

    นอกจากผลไม้สดตามฤดูกาลนานาชนิดแล้ว เนื้อสัตว์ หัวหมู ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะเชื่อว่าหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม ไม่โปรด

    ส่วนการเดินทางไปนมัสการหลวงพ่อโต วัดชัยชนะสงคราม ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน ก่อนเข้าตัวเมืองตาก ข้ามแม่น้ำปิง ไปยังฝั่งตะวันออก วัดชัยชนะสงคราม ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ เชิงสะพานกิตติขจร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...