*~***(((ร้านพรพระสิวลี)))>>> วัตถุมงคล เมตาตามหาเสน่ห์ (หลวงพ่อลี วัดอโศการาม)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย barbeerza, 2 ธันวาคม 2011.

  1. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    230.เหรียญหล่อเจ้าสัว3 เนื้อทองแดง เบอร์ 32072
    เหรียญเจ้าสัว รุ่น 3 วัดกลางบางแก้ว เนื้อทองแดง พร้อมกล่องเดิม เบอร์ 32072
    จำนวนการสร้าง
    เนื้อทองคำ จำนวนการสร้าง 355 องค์
    เนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 5,555 องค์
    เนื้อก้านช่อพระชัยวัฒน์ จำนวนการสร้าง 5,555 องค์
    เนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง 35,555 องค์
    เนื้อพระช่อ 9 องค์ จำนวนการสร้าง 99 องค์
    เนื้อนวะ จำนวนการสร้าง 5,555 องค์

    บูชา 1300 บาท (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2013
  2. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    231.หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500 (เนื้อดำ)
    หลวงพ่อลี ธัมมธโร หรือท่านพ่อลี เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2449 ตอนเด็กๆ ค่อนข้างจะเลี้ยงยาก งอแง และขี้โรค เมื่อท่านอายุได้ 12 ปี จึงได้เริ่มเรียนหนังสือไทย แต่สิ่งหนึ่งที่อยู่ในความคิดมาโดยตลอดคือ เรื่องบาปบุญและปรารถนาอย่างยิ่งที่จะบวชเป็นพระภิกษุในภายภาคหน้า จนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ในปี พ.ศ.2468 หลวงพ่อลีท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์สมดังปรารถนา ในสังกัดมหานิกาย

    ต่อมาหลวงพ่อลีท่านได้พบและฟังเทศน์จากพระอาจารย์บท ลูกศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เมื่อได้เห็นปฏิปทาและการปฏิบัติกิจสงฆ์จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา และออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์บทเพื่อไปพบพระอาจารย์มั่นซึ่งขณะนั้นจำพรรษา อยู่ที่วัดบูรพา จ.อุบล ราชธานี ท่านได้รับการแนะนำสั่งสอนจากพระอาจารย์ มั่นเพียงสั้นๆ ว่า คำว่า "พุทโธ" นี้ คือความพิเศษ เป็นดวงแก้วแห่งธรรม อันเป็นอุบายเบื้องต้นในการปฏิบัติกรรมฐาน นอกจากนี้ หลวงพ่อลียังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากพระอาจารย์สิงห์ ขนตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล ที่บ้านท่าวังหิน อีกด้วย

    พ่อท่านลีพากเพียรปฏิบัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐาน จนปี พ.ศ.2471 ท่านจึงได้เข้าญัตติเป็นพระธรรมยุต ที่วัดบูรพา โดยพระอาจารย์มั่นเป็นผู้บรรพชาให้เป็นสามเณร และพระปัญญาพิศาลเถร (หนู) แห่งวัดสระปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์

    เริ่มแรก"พระอาจารย์ลี"ท่านออกธุดงค์พร้อมพระอาจารย์มั่น ต่อมาหลวงพ่อลีจึงไปโดยลำพังยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้งเขมร พม่าและอินเดีย ที่สุดหลวงพ่อลีท่านได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แม่ชีขาว จ.สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ และพัฒนาเรื่อยมาจนเป็น "วัดอโศการาม" นับเป็นพระสุปฏิปันโนผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วหล้า สมณศักดิ์สุดท้ายได้รับพระราชทาน เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระสุทธิธรรมรังสี คัมภีรเมธาจารย์ ในปี พ.ศ.2500 "พระอาจารย์ลี"ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2504 สิริอายุ 55 ปี 3 เดือน 35 พรรษา

    บูชา 2800 บาท (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    232.กะลาราหูแกะ หลวงพ่อปิ่น วันศรีษะทอง (มีจาร)

    กะลาแกะวัดศรีษะทอง พระราหูอมจันทร์ เป็นทั้งศาสตร์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง และศิลป์ที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเราจะมากล่าวถึงเครื่องราง ที่ให้คุณในด้านของโชคลาภ การพ้นจากเคราะห์ภัยต่างๆ ราหูเข้าทับหรือเล็งลัคณา และยิ่งถ้าปีนี้คุณเป็นปีชง ก็ไม่ควรมองข้ามที่จะหามาติดตัวเอาไว้บ้างนะครับ เพื่อเสริมดวงชะตา พระราหูอมจันทร์ เนื้อกะลาตาเดียวแกะ ของหลวงพ่อปิ่น วัดศรีษะทอง จ. นครปฐม ท่านเป็นพระเกจิ ที่สืบทอดสรรพวิชามาจาก หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ผู้เป็นพระอาารย์ของท่าน ใช้แทนของหลวงพ่อน้อยได้ซึ่งมีราคาห่างกันอย่างมากครับ

    บูชา 3500 บาท (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    233.เหรียญฉลุ 4 มิติ พระพุทธชินราช-สมเด็จพระนเรศวร รุ่นจอมราชันย์ เนื้อทองระฆังลงยาแดง ปี 2555

    บูชา 2500 บาท (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    234.พระขรรค์หัวชมด หลวงพ่อเอิบ วัดหนองหม้อแกง (จิ๋ว)

    "งิ้วดำ" เป็นต้นไม้วิเศษที่มีเทพธิดารักษา เกิดอยู่ในป่าลึก โดยเฉพาะป่าที่มีอาถรรพ์เร้นลับยากที่มนุษย์จะเข้าไปถึงได้ง่ายๆ จึงเป็นไม้ที่หาได้ยากยิ่งนัก เนื้อไม้มีสีดำสนิทแข็งแกร่งมากโบราณจารย์เล่าว่าหลายร้อยปีทีเดียวจึงจะเกิดมีขึ้นสักต้นหนึ่ง จัดเป็นของทนสิทธิ์มหาวิเศษชั้นดีชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลาอันควรเทพาอารักษ์ที่ปกปักรักษาดูแลจะพลีต้นยืนตายพรายทิ้งไว้ให้เพื่อรอผู้มีบุญญาบารมีนำไปทำประโยชน์เพื่อพระศาสนา ต่อไป
    ส่วนคดไม้งิ้วดำนั้นจะเกิดขึ้นภายในลำต้นลักษณะเป็นก้อนสีดำ ดำอมน้ำตาล มนรีเป็นมันแข็งแกร่งมากเป็นของวิเศษประเภทกายสิทธิ์ซ้อนกายสิทธิ์ที่หาได้ยากเหลือเกิน เพราะขนาดไม้งิ้วดำของแท้ก็ว่ายากแล้ว ยิ่งเป็นคดด้วยแล้วจะทรงคุณเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณทีเดียว ผูใดได้ไว้ต้องถือว่าเป็นบุญวาสนาโดยแท้
    อานุภาพดีเด่นทางมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตามหานิยม ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ เตือนภัย กันไฟ กันฟ้า บูรพาจารย์ท่านกล่าวว่าดีครอบจักรวาล วิเศษดีนักแล

    ประวัติหลวงพ่อเอิบ
    หลวงพ่อเอิบองค์นี้ สมัยยังไม่บวช ก็ขลังไม่ใช่เล่น ชาวบ้านไปทำนา โดนผีตายโหงเข้า กี่หมอ กี่หลวงพ่อก็ไล่ไม่ออก ท่านขอลองบ้าง โดยหยิบรองเท้าแตะของตัวเองมาข้างหนึ่ง เสกคาถาเป่าไปที่รองเท้าแตะแล้วเดินไปตบหน้าคนโดนผีเข้าซึ่งแก่คราวลุง ไล่ผีออกทันที จนได้ฉายาว่า หมอผีรองเท้าแตะ เมื่อบวชแล้วไปเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อยู่นาน แถมได้วิชาสายหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวลจากหลวงพ่อโอด จันเสนด้วย เพราะวัดอยู่ใกล้กับหลวงพ่อพรหม เรียกว่าพระดีที่ไหน ไปเรียนมาหมด จนหลวงพ่อนะ วัดหนองบัว ต้องเตือนว่า เรียนอะไรหนักหนา แค่นี้ก็เกินพอแล้ว แม้หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ ยังชมว่า ท่านเอิบนี่วิชาขลังไม่เบา กินกันไม่ลงเลย ท่านไปเป็นศิษย์หลวงพ่อผินะ มานาน ได้วิชาสำคัญไปหมด เพราะตอนนั้นหลวงพ่อยังไม่ดังมากเพิ่งมาดังเมื่อมรณภาพแล้ว ท่านเล่าว่า เคล็ดวิชาของหลวงพ่อผินะ คือให้ปลงอสุภะจนจิตสว่าง รู้ถึงตัวกำเนิด ตัวกำหนัด เมื่อทำได้แล้ว ตอนนี้ จะเสกถอนตัวกำเนิด วัตถุมงคลก็จะกลายเป็นของศักสิทธิ์ไม่มีเสื่อม คล้ายการอธิฐานจิตของพระอริยะเจ้าแต่กลับกัน หากเสกหนุนตัวกำเนิด วัตถุมงคล ก็จะมีฤทธิ์ มีชีวิตเต้นได้ หากินได้ เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา อย่างที่สุด หาอะไรเปรียบไม่ได้ นั่นคือหลักการทำหัวชะมด เมื่อท่านเรียนแล้ว รู้หมดสิ้นแล้ว หลวงพ่อผินะ จึงสั่งว่า ไว้ให้หลวงพ่อตายเสียก่อนนะ ค่อยสร้าง มาบัดนี้ เป็นโอกาสอันดี ที่สาธุชน จะได้ของวิเศษ สุดยอดมหาเมตตา ปลัดหัวชะมด ไว้บูชากัน เพราะหลวงพ่อเอิบท่านสร้างปลัดหัวชะมดขึ้นมาเป็นรุ่นแรก ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเชิดชูหลวงพ่อผินะ ครูผู้ประสาทวิชาให้ และเพื่อหาปัจจัยในการบูรณะวัดหนองหม้อแกง ซึ่งเป็นวัดกลางทุ่ง ยากจน โดยท่านตั้งใจสร้างอย่างถูกต้องตรงตามตำรา
    หลวงพ่อเอิบ ยังจำได้ดีวันแรกที่เข้าไปวัดพระสนมลาว เพื่อขอเรียนวิชาสุดยอดของหลวงพ่อผินะ หลวงพ่อถามว่า " จะเอาวิชาสุดยอดของพ่อเลยหรือ จะเอาแน่หรือลูก" ท่านตอบว่า "เกล้ากระผมอยากเรียนเพื่อเอาไว้สร้างวัด " หลวงพ่อผินะพูดว่า " พ่ออยู่ที่นี่มานาน ยังไม่เคยมีใครเขาอยากมาเป็นศิษย์เลย เขาบอกว่า เป็นพระแปลก ไม่เหมือนชาวบ้านเขา ชอบดูศพ ชอบดมศพ ถ้าอยากจะเรียนจริงๆ ต้องเป็นพระแปลกเหมือนพ่อนะ "
    นับแต่นั้นมาท่านก็กลายเป็นศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อผินะมาโดยตลอด
    หลวงพ่อเอิบชื่อนี้ใครๆที่คลุกคลีกับหลวงพ่อผินะ เจ้าตำหรับหัวชะมดตัวละแสน ต่างรู้ดีว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อผินะฝากฝังวิชาหัวชะมดเอาไว้ หลวงพ่อเอิบยังจำได้ดี วันแรกที่เหยียบเข้าไปวัดสนมลาว เพื่อขอเรียนวิชาสุดยอดของหลวงพ่อผินะ ขณะนั้นเป็นเวลาเพลพอดี มีพระจัดภัตราหารถวายหลวงพ่อผินะ ท่านก็นั่งฉันของท่านองค์เดียวโดยที่ไม่เรียกหลวงพ่อเอิบเข้ามาฉันด้วย หลวงพ่อเอิบก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเคยนั่งปฏิบัติตามแนวทางที่หลวงพ่อพรหมวัดช่องแคสอนให้อดข้าวเพลถึง ๕ วันติดต่อกันก็เคยมาแล้ว.....
    ต่อจากหลวงพ่อพรหมท่านก็ไปเรียนวิชากับหลวงปู่สี วัดเขาบุญนาก และหลวงพ่อโอด วัดจันเสนอีกระยะหนึ่งได้วิชาที่สำคัญมาหมด เพราะบุคลิกท่านเรียบร้อย ใช้ง่าย ไปเรียนวิชากับใครเขาก็รัก เต็มใจสอนให้ทุกที่ ที่เล่ามานี้ไม่ใช่ยกเมฆให้ไปถามหลวงพ่อดู จะรู้ว่าหลวงพ่อเอิบองค์นี้เสือซ่อนเล็บจริงๆ หลวงพ่อเอิบท่านพูดถึงตัวท่านเองว่า " ฉันมันเก็งแบบเป็ด เรียกกับนกก็ปิดได้คล้ายนก เรียนกับปลา ก็ว่ายน้ำน้ำได้เหมือนปลา แต่อยู่ในน้ำไม่ได้ตลอดเหมือนปลา เรียนกับไก่ก็ขันได้เหมือนไก่ แต่ไม่เพราะเท่า " แต่ในอีกมุมหนึ่งใครก็รู้ว่าหลวงพ่อเอิบสร้างของขลังได้ขลังสุดๆเพราะเรียน รู้หัวใจมาหมด ของจะดีของจะขลัง อยู่ที่หัวใจ หลวงพ่อเอิบนี่แหละ สำเร็จหัวใจอาถรรพณ์ทั้ง ๑๐๘ ดวง ทำอะไรจะหยิบจำอะไรเป็นขลังไปเสียหมด
    บูชา 600 (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ขาว.jpg
      ขาว.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.2 KB
      เปิดดู:
      70
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2013
  6. pui_ma2

    pui_ma2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +14
    พระกศปยังพอมีอยู่ไหมครับ ถ้ามีบูชาที่เท่าไหร่ครับ / มีเหรียญดวงเศรษฐีของหลวงปู่หมุนไหมครับ
     
  7. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    ตอนนี้ไม่มีทั้งสองรายการครับผม ^ ^
     
  8. pui_ma2

    pui_ma2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +14
    ขอบคุณครับ
     
  9. misterguy

    misterguy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +1,027
    ยังมีแพะหลวงพ่ออาดเหลือมั้ยครับ
     
  10. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    มีชุดกรรมการรุ่นสามครับผม
     
  11. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    235.พระพุทธชินราช-สมเด็จพระนเรศวร รุ่นจอมราชันย์ ปี 2555 เนื้อเงิน ซุ้มนวะ

    บูชา 1500 บาท ค่าส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    236.ตระกรุดพระลักษณ์หน้าทอง หลวงปู่กาหลง รุ่น2

    ตะกรุดพระลักษณ์หน้าทอง รุ่น 2 หลวงปู่กาหลง เมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง หายากประสบการณ์สูง



    เปิดตำนานพระลักษณ์หน้าทอง

    อีกหนึ่งวิชาขลังของหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว พระลักษณ์หน้าทอง” สำหรับวิชานี้เป็นที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับอำนาจแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยม ที่ชาวโขนละครในสมัยก่อนต่างนักถือกันนัก วิชานี้หลวงปู่กาหลงเล่า ท่านได้รับการถ่ายทอดจากครูผึ่ง ซึ่งเป็นครูโขนละครในสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนที่ครูผึ่งพบท่านนั้น ครูผึ่งชรามากแล้ว ส่วนท่านเพิ่งเป็นพระได้ไม่กี่พรรษา เล่าว่าครูผึ่งพอใจในวัตรปฏิปทาของท่านจนบังเกิดเป็นความศรัทธา และได้ถวายวิชานี้ให้แก่ท่าน แต่เดิมหลวงปู่กาหลงท่านก็ไม่อยากรับวิชานี้ แต่เมื่อครูผึ่งได้พยายามอยู่หลานหนท่านก็อ่อนใจ จนรับครอบวิชานี้จากท่าน
    วิชาพระลักษณ์หน้าทอง นับเป็นวิชาสายเมตตามหานิยมที่มีอานุภาพสูส่ง ขาวโขนละครในนับถือกันมากที่สุด เชื่อกันว่าใครได้ครอบแล้วจะเป็นเมตตามหานิยมแก่ตนเองไปหาผู้ใดเขาก็รัก จะร้องรำทำเพลงประการใด ใคร ๆ ก็ชอบ ดังนั้นจึงเป็นที่นับถือกันมาก สายวิชาพระลักษณ์หน้าทองเป็นสายวิชาที่ปกปิดกันมากเพราะเป็นที่หวงแหนของครูบาอาจารย์สมัยก่อน อย่างไรก็ตามวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้นก็มีหลายสาย อย่างพวกลิเกก็มีวิชาตำรับพระลักษณ์หน้าทองเช่นกัน ใช้เสกแป้งสำหรับทาหน้าทาตัว แต่วิชาของหลวงปู่กาหลงนั้นเป็นวิชาสายในวังที่หาได้ยากเก่าแก่ที่สุด และที่สำคัญคือหลวงปู่ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่มีพลังจิตสูง และมีเมตตาสูงมากดังนั้นการทำวิชาพระลักษณ์หน้าทองของหลวงปู่จึงเหนือกว่าสายอื่น ๆ มาก ผู้ที่ได้ลงวิชากับท่านนอกจากจะเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมแล้ว ยังเป็นผู้ที่มีวาสนาดี มีคนอุปถัมภ์ค้ำชู บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างสูงสุด ความน่าอัศจรรย์ของวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงนับว่าสูงส่งยิ่งนัก
    ตำนานพระลักษณ์หน้าทอง
    ด้านตำนานของวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้น มาจากเรื่องรามเกียรติ์ ในท้องเรื่องรามเกียรติ์นั้นพระรามมีพี่น้องทั้งหมดสี่คน คนที่สนิทที่สุดคือพระลักษณ์ ตัวพระรามนั้นเป็นนารายณ์อวตาร ร่างมีสีเขียวส่วนพระลักษณ์นั้นเป็นองค์อนันตนาคราชกลับชาตมาเกิดเพื่อช่วยเหลือพระรามในการสังหารอสูร มีร่างกายสีทอง ทั้งนี้เนื่องจากองค์อนันตนาคราชแต่เดิมนั้นก็มีเกล็ดเป็นทองคำทั้งร่างเมื่อกลับชาติมาเกิดเป็นพระลักษณ์ก็มีการทองตามไปด้วย ลักษณะพระลักษณ์นั้นกล่าวคำบรรยายว่า หนึ่งพักตร์ สองกร มีพระพักตร์เป็นสีทองคำ ใส่มงกุฎยอดแหลม อยู่ในพงศ์พันธุ์แห่งองค์นารายณ์อวตาร เรียกสั้น ๆ ว่า “นารายณ์พงศ์”

    พระลักษณ์นั้นตามท้องเรื่องรามเกียรติ์เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญชาญชัย ซื่อสัตย์ต่อองค์พระรามด้วยชีวิต ดังจะเห็นได้ว่าครั้งหนึ่งอสูรนามว่ากุมภกัณฑ์มีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธ เมื่อได้ทีจะพุ่งใส่พระราม แต่พระลักษณ์ออกมารับแทนจนโดนฤทธิ์ของหอกโมกศักดิ์เจ็บเจียนตาย เกือบไม่รอด นี่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ ความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อองค์พระรามผู้พี่อย่างยากที่จะหาใครมาเปรียบได้ นอกจากนี้พระลักษณ์ยังเป็นผู้มีจิตใจเยือกเย็น คอยคิดคอยช่วยเหลือพระรามโดยตลอด

    พระลักษณ์เป็นผู้ที่มีวาสนาสูส่งผู้หนึ่งของโลกในยุคนั้นเรื่องความมีวาสนาหรือบุญบารมีของพระลักษณ์นั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะครั้งที่มีการแข่งขันยกมหาคันศรเพื่อเสี่ยงทายว่าผู้ใดที่ยกได้จะได้นางสีดาไปเป็นภรรยา เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามาแข่งขันเพื่อจะยกก็หาใครยกได้ไม่ แม้รวมคนตั้งพันมายกก็ยังยกไม่ขึ้น พอพระลักษณ์มาลองยกก็ยกได้แต่ด้วยรู้ว่าพี่ชายคือพระรามนั้นรักนางสีดาอยู่ก็เลยขอสละสิทธิ์ให้พระรามมายกปรากฏว่าพระรามก็ยกได้และได้แต่งงานกับนางสีดา นี่ก็เป็นอีกครั้งที่พระลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจทั้งยังแสดงให้เห็นถึงบุญบารมีของพระลักษณ์ว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

    ในเรื่องรามเกียรติ์พระลักษณ์มีอาวุธเป็นพระขรรค์กายสิทธิ์เรื่องการได้อาวุธคู่บารมีของพระลักษณ์นั้นก็เป็นด้วยบุญของพระลักษณ์เช่นกัน เล่าว่าก่อนหน้านั้นมีอสูรตนหนึ่งภาวนาขอพรจากพระเป็นเจ้าเมื่อบำเพ็ญตบะจนแก่กล้าพระเป็นเจ้าก็ประทานพรให้ อสูรขออาวุธวิเศษพระเป็นเจ้าก็บันดาลให้เกิดพระขรรค์แก้วร่วงหล่นลงมาจากบนฟ้า แต่ด้วยกรรมบังตาอสูรเกิดความไม่พอใจคิดว่าพระเป็นเจ้าหมิ่นเกียรติตนเองจึงเขวี้ยงพระขรรค์ลงมาเช่นนี้ อสูรจึงทิ้งพระขรรค์นั้น ต่อมาพระลักษณ์เดินทางมาถึงพบพระขรรค์วิเศษทิ้งเอาไว้ พระลักษณ์ลองนำมากวัดแกว่งดูปรากฏว่าสะท้านสะเทือนไปทั้งสามโลก อสูรตนดังกล่าวรู้ว่าเป็นฤทธิ์อำนาจจากพระขรรค์ที่ตนบำเพ็ญตละจึงจะมาเอาคืน ต่อสู้ด้วยกับพระลักษณ์ พระลักษณ์จึงได้ใช้พระขรรค์วิเศษฟันตัวอสูรจนขาดเป็นสองท่อน อสูรนั้นก็ถึงแก่ความตาย ตำนานเรื่องพระลักษณ์จากรามเกียรติ์นั้นมีด้วยกันหายตอนแม้ว่าจะไม่มีบทบาทมากเท่าพระรามแต่ก็เป็นบุคคลสำคัญที่ใคร ๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดี

    ที่สำคัญคือด้วยการที่พระลักษณ์ในกายทอง องค์พระลักษณ์จึงเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมสูงมาแต่กำเนิด ทั้งคำว่าลักษณ์ ยังเป็นคำเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “รัก”อีกด้วย ดังนั้น นามพระลักษณ์หน้าทองนี้จึงเป็นตัวแทนแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยมได้เป็นอย่างดีที่สุด และในสายวิชาทางไสยศาสตร์ที่มักมาจากตำนานทางศาสนาพราหมณ์ ก็ได้นำเอาตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์หลายองค์มาเป็นครูในสายวิชา อย่างพระรามก็มักเป็นครูในสายวิชาทางการรบทัพจับศึก คงกระพันชาตรี ส่วนพระลักษณ์ผู้น้องที่มีร่างเป็นทองคำนั้นก็เป็นครูสายวิชาเสน่ห์เมตตามหานิยม พระรามและพระลักษณ์จึงเมือนพลังคู่ หยินหยาง พระรามเป็นอำนาจประดุจพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน พระลักษณ์เป็นอำนาจประดุจพระจันทร์เต็มดวงยามเที่ยงคืน ที่เยือกเย็นเป็นเสน่ห์อันสุดประมาณมิได้ ด้วยเหตุนี้กำเนิดแห่งวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงบังเกิดขึ้นด้วยบุญบารมีแห่งพระลักษณ์บุคคลสำคัญผู้หนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์

    อำนาจเสน่ห์แห่งจันทร์ซ้อนจันทร์
    ดังที่กล่าวมาเบื้องต้นว่าวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้นเป็นวิชาที่ครูบาอาจารย์ท่านหวงแหนเป็นที่สุด เพราะวิชานี้เป็นเสน่ห์อย่างล้นเหลือแต่ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่กาหลงจึงบันดาลให้ท่านได้พบกับครูผึ่งและได้รับการครอบวิชานี้มา การครอบครูวิชาพระลักษณ์หน้าทองนั้น หลวงปู่กาหลงกล่าวว่าปีหนึ่งทำได้แค่ครั้งเดียว และการครอบครูพระลักษณ์ที่ถูกต้องนั้นและดีที่สุดนั้นต้องได้วันจันทร์ที่ตรงกับพระจันทร์เต็มดวง เรียกว่าจันทร์ซ้อนจันทร์ ตามความเชื่อของไสยศาสตร์นั้น วันจันทร์เป็นวันแห่งเมตตามหานิยมอยู่แล้วผู้ที่เกิดวันจันทร์ตามตำราโหราศาสตร์ก็กล่าวว่าเป็นผู้ที่มีเมตตา มหาเสน่ห์ หากเป็นชายก็เจ้าชู้ หากเป็นหญิงก็อ่อนหวานชนให้รักใคร่ยิ่งนัก ยิ่งวันจันทร์ที่ได้กำลังจากพระจันทร์ คือมาเต็มดวงในวันจันทร์พอดียิ่งถือว่าขลังมาก เพราะตามปกตินั้นวันจันทร์เต็มดวงก็ถือว่าเป็นมงคลที่เหมาะแก่การปลุกเสกเครื่องรางของขลังทางด้านเมตตามหาเสน่ห์อยู่แล้วเนื่องจากพระจันทร์นั้นเป็นสิ่งที่มีบทบาทและอิทธิพลต่ออารมณ์ความรักความใคร่ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เมื่อใดก็ตามที่พระจันทร์มาทาบทับเต็มดวงในวันจันทร์วันนั้นถือว่าเป็นวันอาถรรพณ์หากได้ปลุกเสกเครื่องรางทางเมตตามหานิยมในวันนี้นับว่าขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าทุกวันเพราะได้กำลังซ้อนทับทวีถึงสองเท่า แต่ในปีหนึ่ง ๆ นั้นจะหาวันพิเศษเช่นนี้ก็ไม่ง่ายเท่าใดนัก บางปีอาจไม่มีเลยบางปีอาจมีวันหรือสองวันเท่านั้น
    อาถรรพณ์พระลักษณ์หน้าทอง
    การครอบครูพระลักษณ์หน้าทองตามตำรับหลวงนั้น มีข้อกำหนดอันละเอียดอ่อนที่ผู้เขียนทราบมาคือในสมัยก่อนนั้นจะมีการขูดเอาเนื้อจากเศียรพระลักษณ์ที่มีความเก่าจนมาสามารถใช้การได้ ผงจากเนื้อพระลักษณ์ที่ยุดออกมานั้น ในวงการโขนละคร นางร้องนางระ เขาถือว่าเป็นผงเสน่ห์ ผงดังกล่าวสามารถนำมาเจิมหน้าเจิมตา นำมาผสมกับแป้งผัดหน้าได้ เป็นผงวิเศษที่มีอำนาจเมตตามหานิยมอย่างสูงส่ง เพราะถือว่าได้ผงที่เป็นของสมมุติแทนองค์พระลักษณ์และมาจากพระพักตร์ท่านโดยตรงอีกด้วย แต่การจะขูดเอาผงหน้าพระลักษณ์มานั้นไม่ใช่จะขูดก็เข้าไปขูดเพราะหากทำผิดอาจต้องอาถรรพณ์เป็นอันตรายแก่ตัวเองได้ การขูดผงหน้าพระลักษณ์นั้นต้องรูวิธี คือ ห้ามเข้าไปขูดผงต่อหน้าพระลักษณ์โดยตรงต้องเข้าไปข้าง ๆ ข้างซ้ายหรือขวาก็ได้ ทำการกราบขอขมาขออนุญาตแล้วจึงทำการขูดเอาผงพระลักษณ์หน้าทองออกมาเป็นของมงคลหากไปทำผิดครูเข้าอาจเกิดอาการทางท้อง หรือไม่สบาย หรือประสบอาถรรพณ์อย่างหนึ่งอย่างใดได้ ที่ชาวโขนละครเรียกกันว่า ผิดแรงครูนั่นเอง

    อนึ่งผงจากเศียรครูพระลักษณ์หน้าทอง ขูดตามประเพณีนี้หลวงปู่ท่านได้เก็บสะสมไว้และนำมาเป็นมวลสาระสำคัญในการทำเครื่องรางชุดพระลักษณ์หน้าทองด้วย จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องพระลักษณ์หน้าทองตำรับหลวงปู่กาหลงนั้น ย่อมเป็นเครื่องรางที่มีอิทธิคุณสูงส่งทางด้านเมตตามหานิยมอย่างมิต้องสงสัย

    พิธีเข้มขลังครอบครูพระลักษณ์หน้าทอง
    การทำพิธีครอบครูพระลักษณ์หน้าทองนั้น แต่เช้ามาหลวงปู่กาหลวงท่านจะทำการนั่งบริกรรมปลุกเสกในปะรำพิธี กำหนดจิตระลึกถึงครูบาอาจารย์ เทพยดาผู้รักษาวิชานี้เพื่อให้เกิดความเข้มขลัง การนั่งบริกรรมของหลวงปู่กาหลงนั้นท่านนั่งนานเป็นชั่วโมงและในวันพิธีดังกล่าวหลวงปู่กาหลงท่านมิได้มานั่งปรกอธิษฐานเพียงผู้เดียวยังมี หลวงพ่ออั้นวัวโรงโคมาร่วมนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกให้ด้วย ดังนั้นเรื่องความศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นที่เชื่อถือได้ว่าเข้มขลังสุด ๆ หลังจากนั้นผู้ที่รอคอยการครอบครูจะค่อย ๆ ทยอยเข้าไปหาหลวงปู่ท่าน ยกพานครูแก่หลวงปู่กาหลง จากนั้นหลวงปู่กาหลงทำการครอบเศียรพระลักษณ์หน้าทองให้ เสร็จแล้วครอบด้วยหนังตะลุงเก่าอีกครั้งหนึ่ง แล้วทำการครอบด้วยพานครูอีกครั้งเป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นผู้ครอบทำการรับน้ำพระพุทธมนต์จากหลวงปู่อั้น วัดโรงโคเป็นอันเสร็จพิธี

    ผู้ที่ผ่านการครอบครูพระลักษณ์หน้าทองซึ่งปีหนึ่งสามารถทำได้เพียงหนเดียวเท่านั้น ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับจากพระลักษณ์หน้าทองก่อให้เกิดเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่ชมชอบของหญิงชายทั้งหลาย และเท่ากับเป็นการเพิ่มบารมี ความรุ่งโรจน์ของดวงชะตาชีวิต ให้เกิดความก้าวหน้าในการงาน ทำมาค้าขายดี และรียกได้ว่าคนผู้นั้นเป็นผู้ที่มีบุญบารมีดีที่ได้ครอบครูพระลักษณ์หน้าทองจากหลวงปู่ ซึ่งพิธีเช่นนี้หาได้ไม่ง่ายนัก และใช่ว่าใครจะทำได้ศักดิ์สิทธิ์ดังเช่นหลวงปู่กาหลงทานด้วย

    สุดยอดวัตถุมงคลพระลักษณ์หน้าทอง
    ในการทำพิธีครอบครูเศียรพระลักษณ์หน้าทองตำรับครูผึ่งหรือตัวหรับหลวงนั้น ในวาระนี้ทางหลวงปู่กาหลงท่านยังได้ทำการปลุกเสกเครื่องรางชุดพระลักษณ์หน้าทองเพื่อเป็นเครื่องมงคลแก่ศิษย์ที่ต้องการเครื่องรางสักอย่างที่มีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ในการปลุกเสกนั้นหลวงปู่กาหลงท่านได้ทำการปลุกเสกร่วมกับ หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค และหลวงพ่อทรงวัด ศาลาดิน
    โดยเครื่องรางพระลักษณ์หน้าทองนั้นมีด้วยกัน 3 ประเภทได้แก่
    1.เหรียญพระลักษณ์หน้าทอง
    2.ผ้ายันต์พระลักษณ์หน้าทอง
    3.ตะกรุดพระลักษณ์หน้าทอง
    สำหรับเศียรพระลักษณ์หน้าทองนั้นได้ออกแบบเป็นเศียรพระลักษณ์ถอดแบบมาจากเศียรครูพระลักษณ์หน้าทอง มีสองเอ คือเนื้อนวะโลหะ ด้านหลังอุดผงพระลักษณ์ และพลอยนพเก้า กับเนื้อผงมวลสารผงกำเนิดพระลักษณ์เต็มสูตรฝังตะกรุดเงินไว้ด้วย

    ในด้านของเศียรพระลักษณ์หน้าทองเนื้อนวะนั้นมีเคล็ดลับที่หลายท่านไม่รู้บอกไว้ตรงนี้ด้วยคือ ด้านหน้าของเศียรพระลักษณ์หน้าทอง หากท่านสังเกตตรงชฎาขององค์พระลักษณ์จะเห็นว่ามีช่องว่างเล็ก ๆ อยู่ช่องหนึ่ง ช่องที่เว้นว่างเอาไว้ท่านบอว่าให้เอาไว้ติดพลอยประจำวันเกิดของคนผู้นั้น เช่นคนเกิดวันอาทิตย์ก็หาเม็ดทับทิมเล็ก ๆ มาติดเอาไว้ คนที่เก็ดวันจันทร์ก็หามุกดามาติด คนเกิดวันอังคารก็หาหินสีชมพูอาจเป็นโรสควอสต์ซ มาติดเอาไว้ คนเกิดวันพุธก็หาหยกหรือมรกตมาติด คนเกิดวันพฤหัสก็ควรหาอำพัน หรือพลอยสีเหลืองมาติด คนเกิดวันศุกร์ก็ให้หาพลอยสีฟ้ามาติด คนเกิดวันเสาร์ก็หานิลมาติด จะได้เป็นสิริมงคลประจำตัวของบุคคลผู้นั้น เพราะได้อัญมณีประจำวันของแต่ละคนมาเสริมอำนาจแห่งองค์พระลักษณ์หน้าทอง เยกว่าเสริมดีให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าน้อยคนที่จะรู้

    นอกจากนี้ยังมีผ้ายันต์พระลักษณ์หน้าทอง ที่อบด้วยสีผึ้งหลวงปู่ มีกลิ่นหอมเป็นเสน่ห์เมตตาชั้นสูงเช่นกัน ผ้ายันต์นี้หลวงปู่ท่านกล่าวว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ทำด้วยกันทั้งหมดสองสีเท่านั้นคือ ผ้ายันต์สีขาวและผ้ายันต์สีเหลือง กล่าวว่าหากผู้ใดได้กราบไว้ ท่องพระคาถาบูชาทุกวันจะเป็นที่รักของมหาชนทั้งหลาย มีผู้ใหญ่คอยช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูไปตลอดชีวิต ผ้ายันต์นี้ท่านว่าให้เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไว้ใช้สำหรับเช็ดหน้าเช็ดตา ก่อนออกจากบ้าน ก่อนไปพบเพศตรงข้ามให้ระลึกถึงหน้าของคนผู้นั้นแล้วเอาผ้ายันต์นี้เช็ดหน้าเช็ดตาของพรให้สมหวังจะดีนักแลใช้ในการเข้าหาผู้ใหญ่ก็ได้เช่นกันเขาเห็นเรารักเราเหมือนลูกนั่นแล นับเป็นผ้ายันต์ที่มีอำนาจเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างแรงกล้าดีนัก

    ซึ่งผู้ที่พลาดโอกาสไม่ได้ครอบครูพระลักษณ์หน้าทองก็สามารถนำเอาพระลักษณ์หน้าทองจากการปลุกเสกในวาระนี้ไปอธิษฐานจิตใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะก่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์เช่นเดียวกัน ผู้ที่นำไปใช้ย่อมเป็นเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม เป็นสง่าราศีดุจว่าพระลักษณ์หน้าทองมาให้พรหามงคลแก่ตัวท่านเองฉันนั้น
    คาถาและการใช้วัตถุมงคลพระลักษณ์หน้าทอง
    ตั้งนะโม 3 จบ
    โอมพระพักตร์ พระลักษณ์หน้าทอง สุวรรณผุดผ่อง หน้าทองพระพักตร์ ชายเห็นชายรัก สาวเห็นสาวรัก ผู้ใหญ่เห็นก็รัก พากันโสมนัส ใครเห็นใครก็รัก รู้จักกูถ้วนหน้าไม่ว่าใคร นะจับจิต โมจับใจ พุทโยงใย ธาหลวงใหล ยะร้องไห้มาหากู ปะสะสัมมะปติฏฐามิ
    โอมพระแลงเป็นแสงพระลักษณ์ พระฤาษีจับปากกา พระลักษณ์จับหน้า จับตาสวาหะ นะเห็นหน้ากูอยู่ไม่ได้ โมร้องไห้ครวญครางพุทกอดไว้มิใคร่วาง ธาครวญครางสะอื้นไห้ ยะหลงใหลในจิต หญิงใดชายใดได้เพ่งพิศเห็นหน้ากูก็อยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พหูชะนาเอหิ

    พระคาถานี้ภาวนา 3 จบ พร้อมกับนำเศียรพระลักษณ์หรือตะกรุดวนที่ใบหน้า 3 รอบ โดยวนตามเข็มนาฬิกา (ทักษิณาวัตร) เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มีสง่าราศี เสริมวาสนา ชะตาชีวิตบุญบารมีดีนักแล ค้าขายประกอบกิจการสิ่งใดก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ
    หากเป็นผ้ายันต์ให้ท่องพระคานี้สามจบแล้วนำไปลูบที่หน้าผาก ที่แก้มสองข้าง เป็นเมตตามหานิยมดีนักแล

    บูชา 900 บาท (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ศราวุธ

    ศราวุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +567

    จากรูป ช่วยตรวจสอบให้ใหม่ว่าเป็นเนื้อกระไหล่เงินหรือเนื้อปรอท ถ้าเป็นเนื้อปรอทผมขอจองครับ
     
  14. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    ที่ลงเป็นกะไหล่เงินครับ แต่ ปรอทก็มีครับผม
     
  15. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    237.ลีลาทุ่งเศรษฐี เนื้อว่าน หลวงพ่อเต๋คงทอง พิมพ์ใหญ่(สวยแชมป์)

    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พิมพ์ลีลา รุ่นแรก ปี06 เนื้อดินผสมว่าน

    หลวงพ่อเต๋ท่านเป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก และ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง สองเกจิดังในสมัยโบราณ รวมทั้งท่านยังได้ศึกษาวิชาเพิ่มจากฆราวาสอีกสองคน หนึ่งในนั้นคืออาจารย์ดังของเขมรในสมัยโบราณซึ่งเป็นผู้สอนวิชาการสร้างกุมารทองให้แก่หลวงพ่อเต๋ ในยุคต้นๆหลวงพ่อจะสร้างเป็นเครื่องรางเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตะกรุดหนังหน้าผากเสือ(หนังเสือ) แต่ในชุมชนที่วัดสามง่ามในสมัยโน้นมีพวกโจรชุกชุมมาก ชอบเข้าปล้นบ้านเรือนต่างๆ หลวงพ่อเต๋ท่านจึงได้เริ่มสร้างกุมารทองขึ้นมาเพื่อคุ้มครองบ้านเรือนด้วย กุมารทองของหลวงพ่อไม่เพียงแต่คุ้มครองบ้านเรือน ยังให้โชคให้ลาภ แถมมีเมตตามหานิยม พวกร้านค้าต่างๆในถิ่นนั้นนิยมบูชาประจำร้าน เอาไว้เรียกลูกค้าเข้าร้าน เรียกได้ว่าหลวงพ่อเต๋ท่านเป็น เทพเจ้าแห่งกุมารทองในยุคปัจจุบัน แต่ไม่ต้องไปหากุมารของแท้ครับ ไม่มีมามากแล้ว ในสมัยก่อนกุมารทองของท่านแท้ๆเล่นหากันหลักหมื่นมานานแล้วครับ

    บูชา 3000 (ค่าส่ง 60 บาท)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2014
  16. Hermitt99

    Hermitt99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    396
    ค่าพลัง:
    +914
    แวะมาเยี่ยมชมครับ กำลังดูว่ายังมีอะไรเหลือให้บูชามั่งเนี่ย
     
  17. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ สอบถามได้ครับผม ^ ^
     
  18. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    238. ลูกอมผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง

    ลูกอมผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง ขุนแผนราคาไปไกลแล้ว
    ลูกอมยังพอเก็บได้ครับ เนื้อเดียวกัน

    บูชา 800 บาท ค่าส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    239. ลูกอมผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง

    ลูกอมผงพรายกุมาร รุ่นเจดีย์ทอง ขุนแผนราคาไปไกลแล้ว
    ลูกอมยังพอเก็บได้ครับ เนื้อเดียวกัน

    บูชา 800 บาท ค่าส่ง 60 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. barbeerza

    barbeerza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +98
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...