ร่วมทำบุญบูชา มงคลสหัสธาตุรังสรรค์กรรมสิทธิ์หมื่นเขตแดนประทานพร(หมื่นฟ้ารวมหนึ่ง) พ่ออาจารย์พล

ของแจกเดือนนี้ ติดตามๆ คิดเกมส์ออกแล้ว เดี๋ยวขออนุญาติท่านก่อน ลุ้นดี มันส์แน่ๆ555+

 

ปลุกตัว

วันนี้ก็จะลงความรู้ต่อนะครับ

จริงอยู่ว่าพระเครื่องที่สำเร็จด้วยพระพุทธคุณนั้น มีอานุภาพมาก ไม่มีวันเสื่อมจนกว่าจะไม่มีคนระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า เพราะเช่นนั้น พวกเธอบางคนจึงมีความคิดวิปริตไป โดยมองว่าพระพุทธคุณนั้นเป็นวัตถุที่สามารถจับต้องครอบครองได้

หลายคนมักจะห้อยพระโดยละเลยการสวดมนต์ ละเลยการภาวนา แม้แต่คาถาปลุกพระที่ห้อย การระลึกถึงพระที่ห้อยนั้น ก็ยังคร้านที่จะทำ โดยคนเช่นนี้มักต้องการคำยืนยันจากครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พอรู้ว่าพระมีพุทธานุภาพ เทวานุภาพ ไม่มีวันเสื่อมแล้ว จึงคิดกำเริบได้ใจ ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องสวดต้องไหว้พระใดๆ ผิดวัตถุประสงค์ของการทำพระเพื่อให้เข้าถึงพระ เพราะทุกวันนี้คนสวมพระแต่ใจไร้พระกันเกลื่อนไป

การสวดมนต์ สวดบทพระพุทธคุณต่างๆ สวดคาถาระลึกถึงพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์ทั้งหลายนั้น ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องทำ ทำแล้วพระจะวิเศษเลอเลิศกว่าเดิม แต่ที่ควรจะกระทำนั้น เพราะมันเป็นอุบายในการฝึกสติ เป็นอุบายในทางไสยเวทย์ให้เธอมีดีอยู่กับตัว ได้สวดตัวได้เสกปากของตัวเอง นี่จะไปให้ครูที่ไหนเที่ยวลงนะ ลงคาถา เที่ยวเป่าเที่ยวยัด มันไม่มีสิริมงคลเสมอด้วยเรานั่งกราบพระในบ้านตั้งสติ ทำสมาธิ แล้วสวดด้วยปากเราเองนั่นหรอก

เพราะคนเรานั้นมักจะดูถูกดูแคลน ไม่เชื่อมั่นในตนเอง ไม่เชื่อในกำลังใจของตนเอง จึงต้องแสวงหาสิ่งต่างๆมากมายมาทดแทนสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้และรู้สึกว่าไม่มี โดยไม่พยายามที่จะทำ การจะทำได้นั้นมันต้องพยายาม ต้องฝึก ต้องทำจนเป็นนิสัย ทำให้ชำนาญ หลับตารู้ ลืมตาก็ยังเข้าใจ ไม่ใช่วันสองวัน เดือนสองเดือน เคยทำแล้ว ท้อแล้ว เราทำไม่ได้ สมัยครูบาอาจารย์เราก็เช่นกัน มีคนที่มาขึ้นครูเรียนวิชา ก็บอกแต่เริ่มเลยว่าผมทำไม่ได้เหมือนท่าน ก็จะทำได้อย่างไร แค่เริ่มก็คิดไปแล้ว มันจะเอามงคลที่ไหน เอากำลังใจใดเล่ามาทำ

พอไม่คิดจะทำ เลยต้องพึ่งพุทธคุณ ที่ดูเหมือนเป็นวัตถุสำเร็จสามารถหาได้ ด้วยหาเข้าใจไม่ว่าถึงเครื่องมงคลทั้งหลายจะสำเร็จเเล้วก็ตาม ก็ยังต้องใช้ตัวของเราเองที่เป็นผู้ถือผู้ใช้ ในการผสมกลมกลืนเรียกว่าภาวะที่เข้ากันได้ หากไม่รู้จักปลุกเสกตัวเองเสียเลย เธอก็เปรียบได้กับภาชนะใบหนึ่งที่หมองคล้ำเต็มเปี่ยมไปด้วยขี้ตะไคร่หาความแวววาวไม่ได้ เมื่อนำน้ำเทลงไปก็พาลจะทำให้น้ำนั้นสกปรกไปด้วย

ดังนั้นการฝึกฝนขัดเกลา หมั่นเพียรปลุกตน จึงเหมือนการทำความสะอาดภาชนะให้พร้อมรองรับอำนาจพระพุทธคุณตลอดเวลา หลายคนพอเริ่มสวดมนต์ก็มักจะเกิดเรื่องแย่ๆหลายอย่างประเดประดังเข้ามา แล้วก็มักจะคิดว่าสวดไปทำไม อยู่เฉยๆดีกว่าไม่เห็นจะเกิดอะไร พอมาสวดแล้วนี่เจอแต่ปัญหา กำลังใจก็เลยหมด

การระลึกถึงพระพุทธเจ้านั้น ไม่มีส่วนผิดหรือที่จะว่าทำแล้วไม่ดีแต่อย่างใด ตัวเราเองก็ไม่ผิด แต่เหตุที่เกิดนั้นมันมีสองลักษณะ คือพอเริ่มสวดแล้ว กรรมมันจะเปิด เจ้ากรรมนายเวรเค้าจะเริ่มให้คุณให้โทษได้รุนแรงขึ้น บางคนพอเริ่มสวดแล้วเฮงใหญ่เลยก็มีมาก บางคนพอเริ่มสวดไปคราวเคราะห์มันมา ทุกข์หนักก็มากมี ที่เป็นเช่นนั้นเพราะกรรมที่มันนอนก้นได้ฟุ้งขึ้นมา เราก็ควรจะคิดดูว่าไอ้กรรมนี้มันอยู่กับเรา ไม่วันใดวันหนึ่งเราก็ต้องใช้มันแน่นอน เพื่อจะแสวงหาที่สุดแห่งทุกข์ ถ้าเราไม่ใช้ตอนนี้แล้วเราจะใช้เมื่อไหร่

แต่หากใครทำใจไม่ได้ ก็อธิษฐานใจไว้ก่อนก็ได้ ว่าอย่าให้อกุศลกรรมแลเจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณทั้งหลาย แสดงผลแห่งวาระกรรมอันระงับดับไว้แต่หนหลัง แล้วก็สัญญาไปว่าเราจะสวดจะบำเพ็ญบารมีเพื่อขัดเกลาและทดแทนความผิดพลาดที่เคยได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายไว้ในเบื้องอดีตชาติ

สิ่งนี้ก็อยากให้ทำความเข้าใจและถือปฏิบัติกันให้จริงจัง ไม่ต้องให้สอนให้บอกจ้ำจี้จ้ำไชใดๆ ทำเป็นกิจวัตรเหมือนข้าวที่เราหิวเราก็ต้องกิน ไม่มีใครไประงับเราไว้ไม่ให้คลายความอยากอาหารได้ เช่นนั้นเอง คือทำให้เป็นนิสัยในทุกๆวัน แล้วเจ้าทั้งหลายจะได้ชื่อว่ามีของดีอยู่กับตัว มีมงคลคุ้มกาย ดำรงค์ชีวิตอยู่ในร่มพระพุทธคุณโดยแท้จริง ถ้าทำเช่นนี้ได้ไม่ต้องสักอะไรแม้ปลายเข็มก็ดีเลิศประเสริฐกว่ามากนัก

 

แจ้งโอนเงินครับเมื่อวันที่ 20 /01/ 59 จำนวน 4100.- บาท เรียบร้อยแล้วครับ ที่อยู่แจ้งทาง pm

 

หลายคนถามว่าทำไมพ่ออาจารย์ท่านออกวัตถุมงคล ทำไมไม่สอนธรรมมะ ทำไมไปสอนให้ยึดติด

ก็จะตอบรวมๆแบบนี้ ท่านว่าคนเรานี่มีหลายแบบ กว่าจะลุถึงประโยชน์ยิ่งใหญ่ได้นั้น ต้องเจออะไรมากมาย ผ่านการขัดเกลาอย่างหนัก ธรรมมะนั้นถึงจะเข้าใจด้วยตนเองไม่ใช่ด้วยว่าผู้ใดสอน

ซึ่งขั้นตอนทั้งหลายนั้นก็จะเริ่มจากการเชื่อและศรัทธาในพระรัตนตรัยก่อน มีศาสนาขึ้นมาในใจก่อน เครื่องมงคลที่ทำทั้งหลายนั้น ก็ทำให้เขาเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ให้รู้ว่าพุทธคุณนั้นมีจริง เทวานุภาพนั้นมีจริงให้เค้าออกจากทุกข์ที่ฉาบฉวย มีกำลังใจในการปฏิบัติ มีชีวิตที่ดี ก็สุดแท้แต่เขาจะเลือกอะไร ตามจริตของเค้า ตามวาระของเค้าที่จะประสบเคราห์กรรมอะไร โฉลกจะใช้เครื่องมงคลใด ตามความเชื่อเดิมที่หยั่งรากลึกในจิตใจของเค้าที่จะถูกกระตุ้นขึ้นมา

ซึ่งการขัดเกลานั้นมันต้องค่อยเป็นค่อยไป เพาะบ่มไปเรื่อยๆ เหมือนเธออยากกินผลมะม่วง เธอปลูกวันนี้พรุ่งนี้จะได้กินเลยนั้นก็หาไม่ มรรคผลนิพพานก็ดุจเดียวกัน เมื่อมามีศรัทธาตรงนี้ เราก็ให้หมั่นไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิทำกรรมฐาน เพราะทุกอย่างมันต้องทำต้องเก็บ เป็นปัจจัตตังจะรู้ได้ด้วยตนเอง เราพูดเสมอว่าไม่มีใครสวดมนต์เฉยๆแล้วเป็นพระอรหันต์ สมาธิก็เช่นกันนั่งได้แล้วเป็นอรหันต์ฤา ก็เปล่า แต่มันเป็นการฝึกจิตของเรา ให้เรามีมหาสติที่มั่นคงขึ้นเพื่อจะนำเราไปในขั้นต่อไป เพื่อจะให้เห็นสัจธรรม

คนเรานั้นผ่านทุกขเวทนามามากมาย รับทุกข์แล้วก็เจ็บเนื้อร้อนใจ ทำไมเธอไม่คิดกันเล่าว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่มีความทุกข์เข้ามาให้เห็นให้พิจารณากันประจำ ทำไมมีโอกาสถึงปานนั้น จะไม่มองไอ้ตัวทุกข์นี้ให้ออก พิจารณาเข้าไปสิว่าทุกข์นี้คืออะไร ผลเป็นอย่างไร สาเหตุมาจากอะไร ต้นตออยู่ที่ไหน พิจารณา พิจารณา พิจารณา มันจะทำให้เรานี้เคยชินไปเอง มีทุกข์กี่เรื่องก็พิจารณามันเข้าไป มันจะทำให้เราเข้าถึงปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ เธอจะได้ชื่อว่าผู้รู้พึงรู้เฉพาะตนของเธอ เพื่อที่จะมองให้เห็นทุกข์ เพื่อจะกระทำที่สุดแห่งทุกข์ เพื่อที่จะหาหนทางออกจากทุกข์

คนสมัยนี้มีเม็ดมะม่วงคือตัวทุกข์อยู่ในมือกันทุกคน แต่ไม่อยากลงทุนปลูกรอเวลาเสียเลย เขาอยากจะกินเนื้อมะม่วงเลย หายใจเข้า หายใจออกเขาจะไปนิพพานกันเลย บันไดมีให้เดิน กลับหาหนทางที่จะกระโดดเพราะคิดว่าไวกว่าคนอื่นเค้า หาได้ใส่ใจเลยว่าจิตตนเองนั้นพัฒนาการไปถึงขั้นไหน ตกลงมาจะเจ็บแค่ไหน คนที่เค้าค่อยๆเดินๆอย่างมั่นคง ทำไมเค้าไปถึงก่อน จริงหรือไม่

เรื่องของเครื่องมงคลของคาถาอาคมนั้น มันทำให้คนรู้จักท่องบ่นมนต์ ทำตัวอยู่ในศีลในธรรมตามคำสั่งสอนครูบาอาจารย์ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานนำไปสู่การสวดมนต์ทำสมาธิ เจริญสติ พิจารณาทุกข์ หาหนทางดับทุกข์ที่เป็นของเฉพาะตนต่อไป ก็ลองมองส่วนที่ดีที่มีประโยชน์แก่โลกบ้างก็ยังดี ก่อนจะไปกล่าวหาใครว่างมงาย มันก็เหมือนไปชี้หน้าตราหน้าด่าบรรพบุรุษตัวเองตั้งแต่กษัตริย์ยันไพร่ในอดีตไม่รู้กี่ชัวคน ที่เค้าใช้สิ่งเหล่านี้เป็นอุบายธรรมสืบทอดกันมา ขอให้มีคนที่เข้าใจ มีคนที่ดีขึ้นซักหนึ่งคนก็ยังดี เมล็ดพันธุ์เหล่านี้สมควรจะเร่งปลูกฝังกันไว้

เมื่อมีเครื่องมงคลแล้วรู้จักการไหว้พระสวดมนต์ทำสมาธิ ก็อย่าเพิ่งไปหยุดแค่จุดตรงนั้น ต้องก้าวต่อไปด้วยเพื่อพัฒนาการของตนเอง ก้าวเข้าไปหาความทุกข์ ใช้สติ ใช้การพิจารณา ทำต่อไปทีละขั้น ทีละขั้น ถ้ามันยังไม่พอก็กลับมาสวดมนต์ทำกรรมฐานใหม่ ฝึกไปเรื่อยๆ ฝึกจิตฝึกใจตนเองเพาะบ่มไปชาตินี้ไม่ได้ ชาติหน้าก็ยังมี ด้วยว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลนั้นก็ยังรอวาระที่จะอุบัติอยู่ ดีกว่าพร่ำบ่นขอให้เกิดทันท่าน ขอให้นิพพาน ทันท่านแล้วอย่างไรเล่า เธอก็จะเป็นชนกลุ่มน้อยที่สดับธรรมแล้วไม่มีพัฒนาการสิ่งใด เพราะของเก่าเธอไม่มี เธอก็ต้องไปรอไปอธิษฐานถึงพระองค์อันจะอุบัติในกัปต่อไปเรื่อยๆอีก

การสวดมนต์นั่งสมาธินี้ไม่ได้สอนเพื่อให้ทำแล้วว่าจะได้นิพพานใดๆ ธรรมมะทั้งหลายของพระพุทธเจ้าก็เช่นกัน ก็เป็นเพียงแนวทางให้เรานำไปปรับใช้ในชีวิต ให้เราศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยว่ารู้ธรรมมากอ่านพระธรรมมามากจะเป็นอรหันต์แต่อย่างใด ธรรมมันต้องเกิดขึ้นในใจของเธอเอง เธอต้องมีธรรมที่เธอเข้าใจเป็นของเธอเอง เป็นธรรมที่เกิดจากการฝึกฝนขัดเกลา เป็นธรรมที่เหมาะแก่จริตของเรา ไม่ใช่จะไปงมงายยึดตามคนอื่นเสียหมด พระอรหันต์ในโลกนั้นมีอยู่ แต่จะเเสวงหาทำไม ได้ประโยชน์อะไร ไปหาธรรมต่างๆนานามามากมาย ฟังแล้วรู้เรื่องบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ตามไม่ทันบ้าง เพราะเธอไม่ได้ฝึกตนเอง เธอยังไม่ผ่านทุกข์ ไม่รู้จักทุกข์ ยังไม่เห็นธรรม แต่จะเที่ยวไปรับธรรมมาขบคิด คิดไม่ออกก็วิตกเป็นกังวลขึ้นมาอีก ไปนั่งสมาธิจิตก็ตก จิตก็หลอนเพ้อเจ้อต่อไปอีก จะแสวงหาสิ่งใดทำไม ในเมื่อเธอทั้งหลายหากคิดจะเริ่มทำที่สุดแห่งทุกข์ ตัวเธอก็เป็นอรหันต์ได้เองเช่นกัน

ค่อยๆเดินไปตามทางเถิด พระพุทธองค์ท่านก็ยังค่อยๆเดิน หาได้ก้าวกระโดดใดๆไม่ แนวทางนั้นมีไว้ให้ปฏิบัติ ไม่ใช่เพื่ออ่านให้เข้าใจประกวดความรู้แข่งกัน

เคยบอกกล่าวกันไป เรื่องเครื่องมงคลนั้นท่านมักจะพูดเสมอว่าทำเพียงเพื่อรักษาสิ่งที่เรียนมาเอาไว้ ดังนั้นผมจึงนำมาโพสต์ให้บูชา ซึ่งในกระทู้นี้ก็ไม่ได้บังคับอะไรให้ใครมาเช่า หากสังเกตุเครื่องมงคลของท่านมีหลายชนิดเนื่องจากแต่ละรายการนั้นสร้างเพียงเล็กน้อย ที่ว่าน้อยคือน้อยมากจริงๆรุ่นๆหนึ่งสิบกว่าองค์ ไม่ได้สร้างเป็นร้อยเป็นพันแต่อย่างใด เพื่อให้มีคุณค่าในตัวของมันเอง มีคนโทรมาถามผมหลายท่านว่าทำไมแต่ละแบบท่านถึงทำน้อยนัก ท่านว่าท่านอยากเอามวลสารล้วนๆทำ ทำให้ดีเน้นเอาที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ และของส่วนใหญ่ก็หมดไปแล้ว

ตัวท่านมักจะพูดเป็นประจำว่าลำพังทำเท่านี้เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว ท่านจึงปรารถนาจะรักษาความสงบด้วยไม่ชอบความวุ่นวาน และเหลือเวลาและพื้นที่ไว้ให้ตัวท่านเองได้ปฏิบัติธรรมบ้าง เคยมีคนถามผมว่าทำไมปฏิบัติธรรมจึงสร้างเครื่องรางสายเสน่ห์ ท่านว่าท่านเป็นฆราวาสยังพอจะทำได้ เพราะถ้าเป็นพระจะติดข้อห้ามที่จะยุ่งกับทางเสน่ห์นั้นมิได้เลย ดังนั้นที่ทำก็ทำขึ้นมาโดยคิดเสมอว่าคนทำไม่ได้ใช้ ทำเพื่อรักษาเอาไว้เพียงเท่านั้น อันนี้ก็เรียนทำความเข้าใจมาอีกที

กระทู้นี้เราเปิดขึ้นมาเรื่องหลักเลยที่ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะได้รับกันคือ หลักธรรมข้อธรรมต่างๆที่ท่านสอนและเข้าใจง่ายๆ และการตอบปัญหา ซึ่งให้โอกาสทุกคนเท่ากัน ได้ถามPM กันเข้ามา ไม่ว่าจะเรื่องปัญหาอะไรก็ตามทีและก็จะรวบรวมให้ท่านตอบ วิสัชนาให้ เราเองก็พิมพ์ตอบกลับไป ผมมองว่าตรงนี้มันเป็นประโยชน์ใหญ่ ใหญ่กว่าเรื่องเครื่องรางของขลังใดๆ เพราะมันคือการตอบคำถาม บางคนติดขัดอะไรก็ได้เคลียร์คลายความสงสัย ต้องการคำแนะนำหรือข้อคิดอะไรก็ได้ถามได้ตอบ ท่านว่าสร้างกำลังใจให้คนเขาแบบนี้ได้บุญมากเพราะคือการให้แบบหนึ่ง เป็นการช่วยเหลือคนโดยวิธีหนึ่งตามความรู้ของท่าน ไม่ได้เรียกร้องให้ใครมาพบมาเจอ สร้างบุญคุณ ต้องตอบแทนอะไร ให้เป็นภาระ ให้ความวุ่นวายตามมา ท่านว่าเช่นนั้นท่านเองก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเรารู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นเหตุแห่งความวุ่นวาย จะต้องระงับตรงไหนทำอย่างไรมันถึงจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นกระทู้นี้จึงเน้นที่คำถาม ถ้าจะถามจะปรึกษาทุกคำถามให้ส่ง PM เข้ามาได้เลย จะได้รับข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็วเสมอและไม่คิดค่าบริการ หรือต้องทำบุญใดๆทั้งสิ้น อาจจะตกหล่นบ้างหรือลืมบ้างก็เป็นความผิดที่ผมเองเพราะวันๆหนึ่งเจอหลายคำถามและหลายรูปแบบจริงๆ เฉพาะคนที่เขาแอดไลน์มาถาม ทิ้งคำถามไว้แล้วหายไป อยากรู้อะไรก็มาพิมพ์ถามไว้ต่อ แบบนี้วันๆหนึ่งก็มีหลายคนแล้ว อันนี้ก็เรียนมาเพื่อทำความเข้าใจอีกครั้ง ว่าหลักการของกระทู้นี้ยังเป็นแบบนี้เสมอมา

อยากเน้นตรงที่วิทยาทานมากกว่าเรื่องเครื่องมงคลต่างๆ ท่านจึงได้ให้ตั้งกฏว่าถ้าจะจองอะไรก็ให้เค้าส่งข้อความมา จะถามอะไรก็PM เข้ามา เพื่อที่กระทู้นี้จะได้ไม่รก ด้านหน้าจะได้อ่านกันง่ายๆ ซึ่งก็ดำเนินการเช่นนี้และได้รับผลตอบรับความร่วมมือที่ดีมาตลอด และผมก็เชื่อว่าหลายคนคงจะพอสัมผัสกันได้ว่าเราดำเนินกระทู้เช่นนี้มาตลอด อยากให้เปิดกระทู้นี้ขึ้นมาอ่าน แล้วสิ่งหนึ่งที่ได้กลับไปเสมอ คือเติมเต็มความมั่นใจของตัวเอง มีกำลังใจในการใช้ชีวิต

 

ส่งของวันนี้ มีเรื่องน่าประหลาดมาเล่าให้ฟัง

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเอาตะกรุดอินทรานิรมิตรใส่กระเป๋าถือ เราก็รีบออกไปส่งให้โดยปกติ แต่โทรศัพท์ผมเกิดสั่นขึ้นมาดังอื้ดๆมีอาการโทรศัพท์สั่นและมีเสียงอื้ด ผมก็รีบหยิบล้วงกระเป๋าเพราะคิดว่าใครโทรมา แต่ไม่ใช่ โทรศัพท์เราก็ถืออยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง

กระเป๋าถืออันเล็กๆทั้งกระเป๋ามีตะกรุดอินทราอยู่ดอกเดียว ส่วนเจ้าขุนนั้นเราใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ จึงรู้ว่าเป็นอะไรที่สั่น แล้วตลอดทางที่เรานั่งรถไปก็สั่นเช่นนี้อีกสามรอบ แม้ตอนอยู่ไปรษณีย์ยืนเขียนที่อยู่ลงซองกระดาษก็ยังสั่นอีก

พอดีโทรศัพท์เรามีไลน์เข้ามามันก็แจ้งเตือนโดยการสั่นเช่นกัน มันทำให้เราสามารถเทียบได้เลยว่าตะกรุดสั่นแรงกว่ามาก อันนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นเอาโทรศัพท์ไอโฟนมาเทียบกับแรงสั่นของตะกรุด โทรศัพท์สู้ไม่ได้

มันทำให้เรารู้อยู่อย่างว่าพลังงานที่อยู่ในตะกรุดอินทราชุดนี้เป็นพลังงานคล้ายคลื่นอะไรบางอย่าง และเป็นเครื่องมงคลที่แก่อิทธิคุณมาก เพราะเขาสั่นถี่ๆติดๆกันหลายครั้งเลย สั่นหยุด สั่นหยุดเช่นนั้น ก็เอามาเล่าให้ฟังกัน

หรืออาจจะเป็นเพราะก่อนนำไปส่งผมเผลอเอามานั่งกำ ตอนห่อกระดาษใส่ถุงซิบท่องออกนามพระอินทร์ อินทรา มหาอินทรา อินทรา มหาเทวา ผมนั่งท่องๆของผมไปแบบนี้กลับไปกลับมา พ่อพระอินทร์ท่านจึงแสดงอะไรให้เราดูว่าท่านประจำอยู่ที่ตะกรุดดอกนี้ก็เป็นได้ อันนี้คิดเล่นๆเอาเองนะครับว่าพระอินทร์ท่านครองวัชราวุธ ให้การอุปถัมภ์ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าฟ้าร้อง พูดง่ายก็คือพลังงานไฟฟ้านั่นเองคืออาวุธของท่าน แล้วสิ่งที่ตะกรุดนี้แสดงออกมาก็เหมือนการไหลของไฟฟ้าแบบหนึ่ง แต่อ่อนๆเป็นการสั่นและช้อตเราหน่อยๆให้สะดุ้ง เพราะถ้าสั่นอย่างเดียวผมจะไม่รู้สึกตัวขนาดนั้น อันนี้ก็เอามาเล่าให้ฟังกัน

ใครได้ตะกรุดชุดนี้ไปลองกำเอาไว้ อาราธนาออกนามท่านบ่อยๆเป็นการภาวนาเช่นผมผมก็ได้ อินทรา มหาอินทรา อินทรา มหาเทวา ก็แนะนำให้(แอบดึงให้อยากภาวนาทำสมาธิกันนิดนึง)

 

* มีคนบ่นๆว่า หาข้อมูลรายการอะไรทีหายาก เพราะกระทู้ดำเนินไปเรื่อยๆ

ปีที่ผ่านมาก็เลยประกาศให้ใครจองอะไรไว้ ให้แจ้งโอนทางPM ไม่ต้องแจ้งหน้ากระทู้แล้ว กระทู้จะได้เดินไปช้าๆ เป็นประโยน์กับทุกท่านเวลาที่ต้องการค้นข้อมูลอะไร

ซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยดีมาตลอดนะ แต่บางท่านก็ยังแจ้งทางหน้ากระทู้หลงๆมาก็มี แต่เท่าที่ดู ที่ผ่านมา มันดูไม่รกและมีระเบียบมากขึ้น

มาปีนี้เลยจะทำให้เด็ดขาด เวลาใครจองอะไร จะส่งPM กลับไปเลยว่า รบกวนแจ้งรายละเอียดการโอนทางPM เท่านั้น อันนี้สบายใจได้ เพราะผมนั่งจดนั่งอ่านPM ของท่านทุกวัน ไม่ตกไม่หล่นแน่ๆ

ก็ประกาศเป็นกฏใหม่ใช้ต้นปีไปเลย ว่าใครโอนรายการไหน แจ้งเฉพาะทางPM นะครับ

 

คนดี

สาระวันนี้ก็จะนำมาลงต่อให้

คำว่าคนนี้นั้น เป็นคำพูดในอุดมคติ ในแต่ละสังคมก็จะมีมาตรฐานแตกต่างกันออกไป อาจจะแบ่งแยกได้ด้วยกฏหมาย การกระทำ หรือคุณค่าทางจิตใจ

มนุษย์เช่นพวกเราทุกคน มักจะใช้อารมณ์ ความรู้สึก มุมมองของตนโดยด้านเดียวตัดสินผู้อื่นฉับพลันทันที ซึ่งแต่ละคนนั้นก็ประกอบด้วยทัศนคติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคำว่าคนดีหรือคนชั่ว จึงหามาตรฐานใดในการวัดด้วยความรู้สึกของมนุษย์นั้นมิได้เลย

เพราะมนุษย์นั้นยังมีอารมณ์ ยังมีความรัก ความเกลียดชัง ยังมีความรู้สึกที่คล้อยตามไปกับกระแสของสิ่งที่เข้ามากระทบใจตน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันทำให้เหตุผลต่างๆของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปได้

เช่นนั้น มุมองของคำว่าคนดีจึงมีหลายลักษณะ เราจะไม่พูดถึงคนดีในแง่การตัดสินของคนอื่น ทีนี้เราจะพูดถึงคนดีในแง่การปฏิบัติ ว่าควรทำตัวอย่างไรดีกว่า

ศาสนาพุทธนั้น สอนสิ่งสำคัญ ซึ่งถือเป็นจุดใหญ่เลย คือเรื่องของการฝึกสติ สตินี่สำคัญมาก เพราะมันคุมเราทั้งหมด จะดีหรือชั่ว เกิดมาเป็นคนเท่ากัน มันต่างกันที่สติตัวนี้

ควรทำตัวอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าดีโดยแท้ ตรงนี้คนดีจริงๆนั้นเค้าไม่ให้โทษแก่ใคร ไม่ด่าว่าร้ายใคร ไม่พูดให้ใครเกิดความเสียหาย ที่สำคัญเลย คือไม่มองคนอื่นว่าชั่ว เพราะในความชั่วของทุกคนนั้น เค้าก็ยังมีความดีอยู่บ้างนั่นเอง ถ้าตัวเรายังเห็นคนอื่นชั่วอยู่ตราบใด ตราบนั้นใจของเราก็ยังไม่ได้ชื่อว่าดีจริงๆ

คนที่ได้ชื่อว่าดีนั้น แม้ใครจะด่าว่านินทาให้ร้ายอย่างไร ย่อมไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆทั้งสิ้น เราลองมองย้อนกลับมาที่ตนเองกันดีกว่า ทดสอบอารมณ์ตัวเองและตอบกันชัดๆว่าที่ผ่านมาพวกเราเป็นอย่างไร ปากบอกว่าเราดี เรามีสติ แล้วสิ่งที่เรามี มันเพียงพอที่จะทำให้เราพูดว่าเป็นคนดีหรือยัง

คนบางคนนั้น มักจะหาผู้มีญาณ ผู้วิเศษ ด้วยปรารถนาจะรู้ภพภูมิของตนว่าตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งตรงนี้ไม่ต้องไปถามใครเลย มีคนเดียวที่ตอบได้และรู้อยู่แก่ใจ ซึ่งก็คือพวกเธอ มีแต่ตัวเราเองที่รู้ความคิดและการกระทำของตนเอง รู้น้ำใจ ใจคอของตนเอง ไม่มีผู้ใดจะรู้ไปได้มากกว่าเรา เพียงเเค่ตรองดูไม่ต้องไปถามใคร เราเชื่อว่าทุกคนคงมีคำตอบในใจ

ศาสนาพุทธนั้น เป็นศาสนาที่เปิดกว้าง ศาสนาของเราไม่ได้วัดค่าของการทำความดีที่จีวรว่าต้องนุ่งเหลืองห่มเหลือง แต่วัดกันที่การนำธรรมมะของพระพุทธเจ้ามาศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจัง แม้เป็นฆราวาสก็ได้ชื่อว่าเป็นพุทธบุตรได้ บวชได้ ดวงตาเห็นธรรมได้ นั่นก็คือการบวชที่ใจ ทุกคนมีสิทธิประพฤติปฏิบัติได้เสมอภาคกัน ไม่มีชนชั้นวรรณณะใดๆขวางกั้นทั้งสิ้น

หลายคนอาจแคลงใจเมื่อพิจารณาตนเองแล้ว ว่าในเมื่อกระทำสิ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นกรรมมาทั้งชีวิต เราจะกลับตัวได้หรือไม่ พวกเธอจงจำกันไว้ ในกฏแห่งกรรมนี้ มีโอกาสให้พวกเธออยู่เสมอ ขอเพียงคิดจะกลับใจ แม้ในวันสุดท้าย หรือลมหายใจสุดท้ายเราก็มีสติรู้เท่าทันใจของเราได้

อย่ารอให้ถึงวันสุดท้าย อย่ารอให้ทุกอย่างมันบีบคั้นตัวเราเอง ก่อนจะไปว่าไปเพ่งโทษใคร เราลองมองและตอบตัวเองกันแล้วหรือยัง ว่าเราเป็นคนดีเต็มปากหรือไม่ เป็นคนดีสม่ำเสมอในทุกกาลทุกโอกาสหรือไม่ หรือเป็นคนดีเเบบนึกได้ก็เป็น เป็นๆหายๆ ซึ่งในจุดนี้อย่างที่บอกไปล้วว่าทุกอย่างนั้นมันมีโอกาส และยังกลับตัวได้เสมอ ถ้ายังไม่ดี ก็ทำให้มันดี หมั่นฝึกสติ สตินี่มันต้องฝึก ไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวแล้วจะดีเลิศได้เลย

ที่ให้สวดมนต์ทำสมาธิกันนั้น ก็เพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ ให้ทุกคนมีเวลาในชีวิตประจำวัน ในช่วงเวลาหนึ่ง ได้เจริญสติกันทุกๆวันเป็นประจำ เพื่อจะนำไปต่อยอดทำให้เราดีจริง ดีมาจากข้างใน อย่างที่นักปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่าความดีนั้นไม่มีขาย อยากได้เราต้องทำเอง

 

สนครับเพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีขอ ราคาบูชาเบา ๆครับ

 

จัดมาครับผม

 

รุ่นนี้ท่านว่ามีครบเด่นเรื่องโชคลาภทำมาหากิน แต่ไม่ทิ้งทางเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม ท่านว่าไม่ต่างจากพระขุนแผนเลย เพราะเรื่องเมตตาและทำมาหากินโชคลาภววาสนา ต้องไปคู่กัน

 

วันนี้รู้สึกว่าแคล้วคลาดจริงๆ พอดีออกไปข้างนอกแล้วฝนตกหนักก็เลยติดฝน แต่ก็พยายามออกมาตอนมันซาลงแล้ว จะออกมาสองสามรอบ เพราะมันซา ตกปลอยๆ คนอื่นๆก็เดินออกกันไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมมันตะหงิดๆในใจ กลับมานั่งต่อ เป็นอย่างนี้จนครั้งที่สาม เลยรีบเดินออกมา เดิมๆอยู่ได้ยินเสียงโครมใหญ่ๆ รถชนกันชิ้นส่วนกระจายในจุดที่เรามายืนเพื่อรอแท้กซี่ ลองคิดเล่นๆ ถ้าเราเดินออกมาเร็วกว่านี้ซักเสี้ยวนาทีนึง ไอ้ที่กระจายอยู่อาจจะไม่ใชชิ้นส่วนรถ แต่เป็นชิ้นส่วนเราก็ได้ รู้สึกขอบใจครูบาอาจารย์เบื้องบนจริงๆที่ทำให้เรารู้สึกสังหรณ์แปลกๆ

 

โอนค่าพระ พระเจ้าโคตรเศรษฐีครับ

 

คืนนี้ก่อนนอนก็อย่าลืมกันนะครับ สวดมนต์ไหว้พระเจริญสติทำสมาธิ และแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลาย ใครทำใครได้นะครับเรื่องแบบนี้ เทวดารักษา อย่าลืมๆ

 

ก่อนนอนวันนี้ อย่าลืมสวดมนต์ทำสมาธิแผ่เมตตากันนะครับ วันนี้ก็ตอบPM ให้ครบทุกคนแล้ว ไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็ติดตามกันนะ เดี๋ยวจะลงสาระให้ต่อ

 

แจ้งโอนเงินจำนวน 4100.-บาท เมื่อวันที่ 27/01/59 เวลาประมาณ 18.21 น.

 

แจ้งโอนค่าบูชาพระเจ้าโคตรเศษฐีครับ
ที่อยู่อาศัยPm

 

ดวงตก

พ่ออาจารย์ท่านให้พระมนต์มาบทนึง เป็นบทของจินดามณี ท่านว่าคนที่รู้สึกตัวว่าชีวิตนี้ไม่ดี มีขึ้นมีลง และตอนนี้อยู่ในขณะลง ควรจะว่าควรจะสวดนัก ท่านจึงให้เอามาลงไว้เป็นวิทยาทานให้สวดกัน

โดยมนต์บทนี้ท่านให้สวดขึ้นมา โดยภาวนาตอนเราตื่นรู้สึกตัว และก่อนเราเข้านอน ท่านว่ามีคุณวิเศษนัก เพราะเป็นการเชิญเอาอานุภาพของเทวดาเข้ามารักษาตัวเอง ควรสวดทั้งเช้าทั้งเย็น เพราะเช้าเราสวด ออกไปดำเนินชีวิต ใครก็จะคิดร้ายทำอันตรายเราไม่ได้ แม้เย็นเราสวดกันไว้ ศัตรูทั้งหลายก็ทำอันตรายเรามิได้เลย ทั้งนี้เป็นไปด้วยอานุภาพของเทพยดาที่รักษามนต์วิเศษนี้ท่านสงเคราะห์ผู้มีจิตศรัทธาสวดภาวนาพระคาถานั่นเอง

ท่านว่าพระมนต์บทนี้ดีนักต่อให้ศัตรูมีกำลังมากรู้จักเดินน้ำดำดินก็หาทำอันตรายเราได้ไม่ ดังนั้นจึงปรารถนาจะให้สวดกัน ถ้าทำได้ก็ถือว่าประเสริฐกว่าไม่ได้ทำ โดยการสวดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้มีคุณ เห็นผลสัมฤทธิ์มากและเร็วขึ้นไปอีก ก็ให้สวดมนต์ก่อน บทสั้นๆ อะระหังสัมมา นะโมตัสสะ สวดไป แล้วก็กราบหมอน กราบที่ 1 ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าที่ได้ตรัสรู้ประกาศศาสนา กราบที่ 2 ระลึกถึงพระธรรมอันเป็นปัจจัตตังคงอยู่ชั่วกัปป์กัลป์ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ดีแล้ว กราบที่ 3 ระลึกถึงพระสงฆ์ พุทธบุตรผู้เดินตามรอยบาทสืบต่อพระศาสนาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากนั้นก็ให้สมาทานศีลที่ตัวเองรักษา

จุดนี้เมื่อสมาทานศีลเสร็จแล้ว ก็ภาวนา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ 10 จบขึ้นไป ได้ 108 จบยิ่งดี ตรงนี้เพื่อให้เรามีสมาธิควรใช้ลูกประคำมานับกำกับ เพราะประคำเส้นหนึ่งมี 108 เม็ด หลังจากนั้นจึงภาวนาพระคาถาว่า

สิริจะจัตตานิ จินตามณี มหาเตตะยะ สัพพัตตรหิเตหิ สิทธิโย มนุสิทธิโย จะ เทวิทธิโย จะ คันธัพพปัพพโย สิริเทโว อะมุตตัต ตะระหา หัตตะระหิตายะ สัพพะเทวายะ อินทรายะ พรหมมายะ มเหสะรายะ ภูมิวิสุทธะรายะ จตุโลกะปาลายะ มณีเมขลายะ วิษณุ ปรเมสรายะ มหาวิฆคนายะ สิริภูวะนายะ อัคคะยะเทวา สังฆะมะนินะทะรายะ วินิวะราลิเนระ หิมวันตา จักกะวาฬายะ อนันตะโลกะธาตุยา อิทัง สาสะนัง ติฏฐะติ ติฏฐะตุ สิทธิครูอาจาริยา เอหิสิงฆัง สิงฆัง มังปาเลนตุ หุลูหุลู สวาโหม

หลังจากภาวนาแล้วก็ให้แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่เว้นแม้เทพยดา ถ้าทำได้ทุกวัน ทำจนเป็นกิจวัตร ทำได้เป็นนิสัยตามนี้ จะมีสิ่งดีๆเริ่มเกิดขึ้นกับชีวิต ที่ว่าดวงตก ดวงแตก ถามว่ามันยังตกยังแตกอยู่มั้ย มันก็เป็นที่ดวงที่ดาวที่พระเคราะห์ เราไปทำอะไรมันไม่ได้ มันก็ยังเหมือนเดิม แต่ที่นี้อำนาจพระพุทธคุณ อำนาจเทวาธิคุณที่สงเคราะห์ผู้ภาวนาตัวนี้ มันก็เหมือนสิ่งที่จะมาปิดรอยรั่วรอยร้าวดีๆนี่เอง เอาว่าชีวิตเธอจะประเสริฐขึ้น ใครก็ทำอันตรายไม่ได้ มีอันแพ้ภัยตัวเองก็แล้วกัน เอาเท่านี้ เพียงแค่นี้แหละ ท่านกล่าวว่า เชื่อว่าการดำรงค์อยู่ของสัตว์โลก นอกจากวิถีชีวิตอันเป็นปรกติสุขแล้ว ก็คงจะไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้ ก็ขอให้สวดและภาวนากัน

 

ราตรีสวัสดิ์นะครับ วันนี้ก่อนนอนอย่าลืมสวดมนต์และฝึกภาวนากันนะครับ แผ่เมตตาทุกวันด้วยจะได้มีชีวิตราบรื่น

 

ก็กลายเป็นพระในตำนานไปอีกรุ่น มีหลายท่านถามมาจะบูชาก็หมดแล้วจริงๆ เพราะติดจองทุกองค์ แต่วันนี้เป็นโอกาศดีเพราะผมตัดยอดมาได้องค์นึง ย้ำว่ามีเหลือแค่องค์เดียว ถ้าใครจะบูชาก็ PM กันไว้ได้ลย