มอบพระบรมสารีริกธาตุ ให้ทุกท่านพุทธศานิกชน(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย ธ.เธียรไท, 20 มกราคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    ประวัติต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ พุทธคยา

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำลีลาพัฒน์หรือแม่น้ำฟัลดูร์ ในรัฐพิหารของอินเดีย ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ ถือเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญในทางพระพุทธศาสนา
    พุทธคยา ถือเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยมีต้นพระศรีมหาโพธิ์รวมทั้งหมด ๔ ต้น และทั้ง ๔ ต้นนี้ได้เจริญเติบโตทดแทนกันมาเรื่อยๆ และมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน นับเป็นอนุสรณ์สถานที่มีคุณค่า ของชาวพุทธและมวลมนุษยชาติทั่วโลก
    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่หนึ่ง เป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระองค์ได้รับการถวายหญ้า ๘ กำ จากโสตถิยะพราหมณ์เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน ๖ จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นจำนวนมาก ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง มาก ซึ่งทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สนพระทัยในความสุขส่วนพระองค์เหมือนเช่นเคย เป็นเหตุให้เหล่านางสนม ต่างพากันโกรธแค้นต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระมเหสีองค์ที่ ๔ ของพระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้สั่งสาวใช้ให้นำยาพิษ และน้ำร้อนไปรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์จนตายในที่สุด การตายของต้นพระศรีมหาโพธิ์ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเสียพระทัยมาก ทรงรับสั่งให้ใช้น้ำนมโค ๑๐๐ หม้อ ไปรดที่บริเวณรากของต้นโพธิ์ และทรงนอนคว่ำหน้าลง กับพื้นเหมือนการกราบไหว้ของพระทิเบต พระองค์ทรงมีพระราชปรารภว่า ถ้าต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่แตกหน่อ จะไม่ลุกขึ้น แต่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นมาใหม่ พระองค์จึงสั่งให้ก่อกำแพงล้อมรอบ เพื่อป้องกัน อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับต้นโพธิ์อีก

    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สอง ถือเป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นแรก และการที่พระเจ้าอโศกได้เผยแผ่ พระพุทธศาสนา จึงมีการนำต้นโพธิ์ไปปลูกในประเทศต่างๆ เช่น พระโสณะเถระและพระอุตตรเถระเดินทางมา ยังดินแดนสุวรรณภูมิ และพระมหินทเถระเดินทางไปยังศรีลังกา โดยพระภิกษุเหล่านี้ได้นำต้นโพธิ์ไปด้วย
    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สองถูกตัดอีกครั้ง ในสมัยพระเจ้าสาสังการ ซึ่งครองเมืองเบงกอล พระเจ้า สาสังการเกิดแข็งข้อต่อพระเจ้าปรณวรมา จึงรับสั่งให้ตัดต้นและขุดรากต้นโพธิ์ใช้ฟางอ้อยสุม ใช้น้ำมันราด และเผาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีอายุราว ๘๗๑-๘๙๑ ปี เจ็ดวันหลังจากนั้น พระเจ้าสาสังการทรงอาเจียนเป็น พระโลหิต และสิ้นชีพตักษัยที่พุทธคยา ซึ่งพระเจ้าปรณวรมาเสด็จมาพอดี จึงตีทัพของเบงกอลแตกพ่ายไป และทรงให้ชาวบ้านรีดนมโค ๑,๐๐๐ ตัว เอาน้ำนมที่ได้เทราดบริเวณต้นโพธิ์ที่ถูกเผา พระเจ้าปรณวรมา ทรงนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง

    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สาม ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ ท่านเซอร์คันนิ่งแฮมได้เดินทางไปที่พุทธคยาเป็น ครั้งที่สอง พบว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรุดโทรมมาก ประชาชนชาวฮินดูในบริเวณนั้นได้ตัดกิ่งก้านไปทำเชื้อเพลิง และในปี พ.ศ. ๒๔๒๑ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้ล้มลงไปทางทิศตะวันตก ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามมีอายุครบ ประมาณ ๑๒๕๘-๑๒๗๘ ปี

    ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สี่ เป็นต้นที่ยังคงอยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในสองหน่อที่แตก ขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามที่ล้ม โดยท่านเซอร์คันนิ่งแฮมได้ขุดหน่อที่สมบูรณ์ขึ้นมาปลูก เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๓ ปลูกไว้ห่างจากพื้นที่เดิมที่เป็นชายฝั่งแม่น้ำเนรัญชราไปประมาณ ๑๐๐ เมตร

    ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๑๓ ฉบับที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๓๕​
    http://www.rakpratat.com/index.php?...ow&Category=rakpratatcom&thispage=26&No=18512

    <!-- / message -->
     
  2. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
  3. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    <TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔
    ๙. เรื่องพระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล [๑๕๖]


    ข้อความเบื้องต้น

    พระบรมศาสดา เมื่อเสด็จจาริกไป ทรงปรารภพระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปูชารเห" เป็นต้น.

    ความพิสดารว่า พระตถาคตเจ้ามีพระสงฆ์หมู่ใหญ่เป็นพุทธบริวาร เสด็จออกจากเมืองสาวัตถีแล้วเสด็จไปเมืองพาราณสีโดยลำดับ เสด็จถึงเทวสถานแห่งหนึ่ง ในที่ใกล้บ้านโตไทยคาม ในระหว่างทาง.


    พระสุคตเจ้าได้ประทับใกล้เทวสถานนั้น ทรงส่งพระธรรมภัณฑาคาริก (คือพระอานนท์ผู้เป็นขุนคลังแห่งพระธรรม) ให้บอกพราหมณ์ซึ่งกำลังทำกสิกรรม อยู่ในที่ไม่ไกลมาเฝ้า. พราหมณ์นั้นมาแล้วไม่ถวายอภิวาทแด่พระตถาคต แต่ไหว้เทวสถานนั้นอย่างเดียว แล้วยืนอยู่.

    แม้พระสุคตเจ้าก็ตรัสว่า "ดูก่อนพราหมณ์ ท่านสำคัญประเทศนี้ว่าเป็นที่อะไร?"

    พราหมณ์จึงกราบทูลว่า "ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้าไหว้ด้วยตั้งใจว่า ที่นี้เป็นเจติยสถานตามประเพณีของพวกข้าพเจ้า."

    พระสุคตเจ้าจึงให้พราหมณ์นั้นชื่นชมยินดีว่า "ดูก่อนพราหมณ์ ท่านไหว้สถานที่นี้ ได้ทำกรรมที่ดีแล้ว." ภิกษุทั้งหลายได้สดับพระพุทธดำรัสนั้นแล้ว จึงเกิดสงสัยขึ้นว่า "พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้พราหมณ์ชื่นชมยินดีอย่างนี้ ด้วยเหตุอะไรหนอ."
    ลำดับนั้น พระตถาคตเจ้าเพื่อทรงปลดเปลื้องความสงสัยของภิกษุเหล่านั้น จึงตรัสเทศนา ฆฏิการสูตร ในมัชฌิมนิกาย แล้วทรงนิรมิตพระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล สูงหนึ่งโยชน์ และพระเจดีย์ทองอีกหนึ่งองค์ไว้ในอากาศ ทรงแสดงให้มหาชนเห็นแล้วตรัสว่า

    "ดูก่อนพราหมณ์ การบูชาซึ่งบุคคลควรบูชาชนิดเช่นนี้ ย่อมสมควรกว่าแท้"


    ดังนี้แล้ว จึงทรงประกาศปูชารหบุคคล ๔ จำพวก มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น โดยนัยดังที่ตรัสไว้ในมหาปรินิพพานสูตรนั้นเอง แล้วทรงแสดงโดยพิเศษถึงพระเจดีย์ ๓ ประเภทคือ สรีรเจดีย์ ๑ อุททิสเจดีย์ ๑ ปริโภคเจดีย์ ๑

    (ครั้นแล้ว) ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า :-

    ๙. ปูชารเห ปูชยโต พุทฺเธ ยทิ จ สาวเก
    ปปญฺจสมติกฺกนฺเต ติณฺณโสกปริทฺทเว
    เต ตาทิเส ปูชยโต นิพฺพุเต อกุโตภเย
    น สกฺกา ปุญฺญํ สงฺขาตุ ํ อิเมตฺตมปิ เกนจิ.


    "ใครๆ ไม่อาจเพื่อจะนับบุญของบุคคลผู้บูชาอยู่
    ซึ่งท่านผู้ควรบูชา คือพระพุทธเจ้า หรือว่าพระสาวก
    ทั้งหลายด้วย ผู้ก้าวล่วงปปัญจธรรมเครื่องเนิ่นช้าได้
    แล้ว ผู้มีความเศร้าโศกและความคร่ำครวญ อันข้าม
    พ้นแล้ว (หรือว่า) ของบุคคลผู้บูชาอยู่ ซึ่งท่านผู้ควร
    บูชาเช่นนั้นเหล่านั้น ผู้นิพพานแล้ว ไม่มีภัยแต่ที่
    ไหนๆ ด้วยการนับแม้วิธีไรๆ ก็ตามว่า บุญนี้มี
    ประมาณเท่านี้" ดังนี้.
    แก้อรรถ

    บุคคลผู้ควรเพื่อบูชา อธิบายว่า ผู้ควรแล้วเพื่อบูชา ชื่อว่าปูชารหบุคคลในพระคาถานั้น.

    คำว่า ของบุคคลผู้บูชาอยู่ซึ่งท่านผู้ควรบูชา ความว่า ผู้บูชาอยู่ด้วยการนอบน้อมมีกราบไหว้เป็นต้นและด้วยปัจจัย ๔.


    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงปูชารหบุคคลด้วยคำว่า พุทฺเธ คือ พระพุทธะทั้งหลาย.
    บทว่า พุทฺเธ ได้แก่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า. ศัพท์นิบาตว่า ยทิ ได้แก่ ยทิวา อธิบายว่า อถวา คือ ก็หรือว่า. คำว่า ซึ่งพระปัจเจกพุทธะทั้งหลายก็เป็นอันตรัสไว้แล้วในพระคาถานั้น. (หรือว่า) พระสาวกทั้งหลายด้วย.
    บทว่า ผู้ก้าวล่วงปปัญจธรรมได้แล้ว หมายความว่าปปัญจธรรม คือตัณหา ทิฏฐิ มานะ ท่านก้าวล่วงได้เเล้ว.
    คำว่า ผู้มีความเศร้าโศกความคร่ำครวญอันข้ามพ้นแล้ว ได้แก่ ผู้มีความโศกและความร่ำไรอันล่วงพ้นแล้ว. อธิบายว่า ข้ามล่วงได้ทั้งสองอย่าง. ความเป็นผู้ควรแก่บูชา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสด้วยบทวิเสสนะ (คุณบท) เหล่านั้น.
    คำว่า เหล่านั้น ได้แก่ พระพุทธะเป็นต้น.
    คำว่า ผู้เช่นนั้น ได้แก่ ผู้ประกอบด้วยคุณเช่นนั้น ด้วยอำนาจแห่งคุณดังกล่าวแล้ว.
    คำว่า นิพพานแล้ว ได้แก่ นิพพานด้วยการดับพระพุทธะเป็นต้น.
    ภัยแต่ที่ไหนๆ คือ จากภพหรือจากอารมณ์ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้ควรบูชาเหล่านั้น ฉะนั้น ท่านเหล่านั้นจึงชื่อว่าไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ. ซึ่งท่านผู้ไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ เหล่านั้น.


    คำว่า อันใครๆ ไม่อาจเพื่อจะนับบุญได้ ความว่า ไม่อาจเพื่อคำนวณบุญได้.

    หากมีคำถามสอดมาว่า นับอย่างไร?

    พึงแก้ว่า อันใครๆ ไม่อาจเพื่อนับบุญว่านี้มีประมาณเท่านี้

    อธิบายว่า อันใครๆ ไม่อาจเพื่อจะนับว่า บุญนี้มีประมาณเท่านี้ บุญนี้มีประมาณเท่านี้. อปิศัพท์พึงเชื่อมในบทว่า เกนจิ. อธิบายว่า อันบุคคลไรๆ หรือว่าด้วยการนับวิธีไรๆ ในสองคำนั้น


    คำว่า อันบุคคล ได้แก่ อันบุคคลนั้นมีพระพรหมเป็นต้น.
    คำว่า ด้วยการนับ ได้แก่ ด้วยการนับ ๓ อย่าง คือด้วยการคะเน ด้วยการชั่งและด้วยการตวง. การคะเนโดยนัยว่าของนี้มีประมาณเท่านี้ ชื่อว่าคะเน การชั่งด้วยเครื่องชั่ง ชื่อว่าชั่ง การทำให้เต็ม (ตวง) ด้วยสามารถแห่งกึ่งฟายมือ ฟายมือ แล่ง และทะนานเป็นต้น ชื่อว่าตวง. อันบุคคลไรๆ ไม่อาจเพื่อนับบุญของผู้บูชาอยู่ ซึ่งท่านผู้ควรบูชามีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ด้วยการนับทั้ง ๓ วิธีเหล่านี้ ด้วยสามารถแห่งวิบากคือผล เพราะเว้นจากที่สุดฉะนี้.


    ผลทานของผู้บูชาในสถานะทั้งสอง เป็นอย่างไรกัน?

    บุญของผู้บูชาพระพุทธเจ้าเป็นต้น ผู้ยังทรงพระชนม์อยู่ ใครๆ ไม่อาจนับได้ก็พอทำเนา. บุญของผู้บูชาพระพุทธเจ้าเป็นต้น ผู้เช่นนั้นแม้นิพพานแล้วด้วยขันธปรินิพพาน อันมีกิเลสปรินิพพานเป็นนิมิต ใครๆ ก็ไม่อาจนับได้อีกเล่า เพราะฉะนั้น ควรจะแตกต่างกันบ้าง.

    เพราะเหตุ (ที่จะมีข้อสงสัย) นั้นแหละ ท้าวสักกะจึงกล่าวไว้ในวิมานวัตถุว่า

    "เมื่อพระสัมพุทธเจ้าเป็นต้น ยังทรงพระชนม์อยู่ก็ดี
    นิพพานแล้วก็ดี เมื่อจิตเสมอกัน ผลก็ย่อมเท่ากัน ในเพราะ
    เหตุคือความเลื่อมใสแห่งใจ สัตว์ทั้งหลาย ย่อมไปสู่สุคติ" ดังนี้.


    ในอวสานแห่งพระธรรมเทศนา พราหมณ์นั้นได้เป็นพระโสดาบันแล้วแล.

    พระเจดีย์ทองสูงตั้งโยชน์ ได้ตั้ง (เด่น) อยู่ในอากาศนั้นแลตลอด ๗ วัน. ก็สมาคมได้มีแล้วด้วยชนเป็นอันมาก พวกเขาบูชาพระเจดีย์ด้วยประการต่างๆ ตลอด ๗ วัน. ต่อนั้นมา ความแตกต่างแห่งลัทธิของผู้มีลัทธิต่างกันได้เกิดมีแล้ว.

    พระเจดีย์นั้นได้ไปสู่ที่เดิมแห่งตนด้วยพุทธานุภาพ ในขณะนั้น พระเจดีย์ศิลาใหญ่ได้มีขึ้นแล้วในที่นั้นนั่นแล.

    ประชาสัตว์ ๘๔,๐๐๐ ได้บรรลุธรรมาภิสมัย (คือตรัสรู้ธรรม) แล้วในสมาคมนั้น.


    เรื่องพระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล จบ.
    พุทธวรรควรรณนา จบ.
    วรรคที่ ๑๔ จบ.


    http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=24&p=9

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    ปัจจุบันผมก็ยังมอบพระบรมสารีริกธาตุ ตลอดไป
     
  5. mlinrat

    mlinrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +115
    ดิฉันขอขอบพระคุณคุณเธียรไทมากค่ะ ได้รับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และได้นำขึ้นบูชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระผงสวยงามมากค่ะ ขออนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยค่ะ
     
  6. plahang

    plahang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +99
    ได้รับ พระบรมสารีริกธาตุ และพระผงแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

    ชวลิต
     
  7. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    มอบพระธาตุพระสีวลี
     
  8. kanokorn

    kanokorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +113
    ส่งซองเปล่าติดแสตมป์ไปตั้งแต่วันที่10-5-50แล้ว
    (ลงทะเบียน) แต่ยังไม่ได้รับของเลย (กนกอร พึ่งเพียร)
    กนกอร พึ่งเพียร
    103/1 หมู่ 4 ต.บางพระครู อ.นครหลวง
    จ.พระนครศรีอยุธยา 13260
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2007
  9. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    เรียนทุกท่านที่ไม่ได้รับพระธาตุ
    กรุณาลง ชื่อ ที่อยู่ (ขอให้ถูกต้อง) เบอร์โทร(ท่ามี)
     
  10. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ผม ขอ อนุโมทนาบุญ ด้วยครับ คุณ ธ.เธียรไท

    ผมใด้ รับ พระบรมสารีริกธาตุ แล้ว ครับ...พร้อม ทั้ง สมเด็จ องค์ปฐม ครับ

    ขอขอบคุณ ครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2007
  11. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    อนุโมทนา ด้วยคนนะครับ คุณ ธ.เธียรไท

    สาธุ สาธุ สาธุ

    แล้วจะส่งซองติดแสตป์ไปให้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2007
  12. my child

    my child เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +403
    ผมได้ รับ พระบรมสารีริกธาตุ พร้อม ทั้ง สมเด็จ องค์ปฐมแล้ว ครับ

    ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
     
  13. boonchai2548

    boonchai2548 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    สวัสดีครับ ผมได้รับพระบรมสารีริกธาตุ และพระสมเด็จองค์ปฐมแล้วครับ
    ขออนุโมทนาครับ
     
  14. 0896804841

    0896804841 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +55
    อนุโมทนาครับ

    ผมต้องการบูชามากครับ

    กรุณาส่ง นาย เจนณรงค์ จันทร์ทอง

    บ้านเลขที่ 3003/50 ม.1 ถ.สุขุมวิท 70/1 ต.สำโรงเหนือ

    อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270

    เบอร์โทร 089-6804841

    ขออนุโมทนาและขอขอบคุณมากครับ
     
  15. Pichet-m

    Pichet-m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +393
    ได้รับแล้วครับ เมื่อวานนี้ พรัอมพระสมเด็จองค์ปฐม
    อนุโมทนาบุญครับ คุณ ธ.เธียรไท
    พิเชษฐ์
     
  16. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    ถวายตู้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ แด่วัดจำนวน ๑,๐๐๐ วัด ฟรี
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ขอเชิญร่วมกันเป็นเจ้าภาพสมทบทุนในการจัดสร้างตู้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ถวายแด่วัดจำนวน ๑,๐๐๐ วัดฟรี<O:p</O:p
    วัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน
    - เพื่อเผยแผ่ และสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มีอายุยืนยาวครบ ๕,๐๐๐ ปี
    - เพื่อให้บุคคลทั้งหลาย ได้มีโอกาสแสดงความเคารพสักการะบูชา
    - เพื่อให้บุคคลทั้งหลายได้เกิดความรู้ ความเข้าใจในพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ
    - เพื่อให้บุคคลทั้งหลายเกิดความเลื่อมใสศรัทธาน้อมนำจิตใจให้ปฏิบัติในทางที่ชอบที่ควร

    การถวายตู้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
    และพระอรหันตธาตุ
    - ถวายตู้ฯ ๑ หลัง ต่อ ๑ วัด
    - ถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ต่อ ๑ วัด
    - ถวายพระพุทธรูปลักษณะศิลปะคันธราช
    หน้าตัก ๕ นิ้วจำนวน ๑ องค์ ต่อ ๑ วัด
    - ถวายพระเครื่องสมเด็จฯ บรรจุพระอรหันตธาตุ จำนวน ๑๐๐องค์ ต่อ ๑ วัด
    - ถวายพานรองรับพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ๑ ชุด ต่อ ๑วัด
    เงื่อนไขในการขอรับตู้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฟรี
    - วัดใดที่มีเจตจำนงค์จะขอรับ ต้องแจ้งล่วงหน้าโดย
    ติดต่อ คุณกฤษณะ ไตรลักษณ์ที่มือถือ 08-9996-5426<O:p</O:p
    - ต้องมีหนังสือ พร้อมด้วยลายเซ็นและตราประทับทางวัดแนบมา โดยท่านเจ้าอาวาส
    หรือรองเจ้าอาวาสเเพื่อยืนยันในการขอรับตู้ฯ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
    - การจัดมอบจะจัดตามลำดับก่อน-หลัง และจะจัดมอบให้ทางวัดเดือนละ ๑ ตู้หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับ กำลัง และความสามารถของกลุ่ม
    - ทางวัดต้องเดินทางมารับด้วยตนเอง โดยมีพระเจ้าวัด หรือพระลูกวัดเดินทางมารับด้วยทุก ๆ เสาร์แรกของ เดือน
    - ๑ วัด จะขอสิทธิ์ในการรับตู้ฯได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

    งบประมาณในการจัดทำตู้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ
    - ตู้ฯ ๑ หลัง ราคาเฉลี่ย ๙๐๐ บาท (ขนาดกว้าง ๒๔ ยาว ๖๐ สูง ๓๐ซม.)
    - ค่าอุปกรณ์ในการหล่อพระ (เรซิ่น) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ ๙๐ บาท
    - ค่าพานสำหรับรองรับพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ราคาเฉลี่ยโหลละ ๖๐ บาท (๑ตู้ฯ ใช้พานประมาณ ๑๕-๒๐ พาน)

    กรณีสำหรับผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาคปัจจัยสามารถบริจาคได้ที่
    เลขที่บัญชี 159-216523-1
    ชื่อบัญชี น.ส. ภรณีเรืองอัฐวิบูลย์
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ย่อยบิ๊กซีราชดำริ
    ประเภทบัญชีออมทรัพย์

    ***ถ้าผู้ใดมีความประสงค์จะขอรับเป็นเจ้าภาพถวายให้กับวัดทั้งชุด
    หรือมีข้อสงสัย ติดต่อ คุณกฤษณะ ไตรลักษณ์
    ได้ในวันเวลาราชการยกเว้นเสาร์-อาทิตย์***
    ปัจจัยทั้งหมดจะเข้าส่วนกลางเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการด้านพระพุทธศาสนาทั้งสิ้นไม่เกี่ยวข้องด้านพุทธพาณิชย์แต่ประการใด<O:p</O:p
    http://www.konmeungbua.com/webboard/....asp?GID=18017
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  17. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735
    ข้อความที่ 5

    .....เรื่องบุรุษไปรษณีย์จะเหยียบเป็นการปรามาสนั้น ไม่ต้องกังวลง
    ....เพราะด้วยว่า พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุนั้น แต่ละชิ้น จะมีเทพวดาบ้าง พรหมบ้าง มาคอยคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา
    ....ดั่งนั้นในระหว่างทางที่กำลังเสด็จทางไปรษณีย์ ย่อมมีเทวดาคุ้มครอง ตั้งแต่ที่พักไปรษณีย์ ช่วงส่งงานรับงาน หรือ ในระหว่างการเดินทาง จนถึงมือผู้รับพระธาตุนั้นๆ
    ....จะไม่มีพลาดเด็จขาดที่ในการป้องกัน ไม่ให้นายไปรษณีย์ เหียบย่ำหรือแตกหัก เพราะเทวดาในทุกๆแห่งที่พระธาตุเสด็จท่านจะป้องกันไว้ตลอดการเดินทาง
    ....ในความเป็นจริงนายไปรษณีย์กลับได้อานิสงค์ ที่ได้เป็นสื่อในการนำพา ตัวแทนพระพุทธองค์เทียบเท่าพระพุทธปฏิมากร ๑ องค์พระธาตุ เท่ากับ ๑ องค์พระพุทธปฏิมากรณ์เลยที่เดียว.
    ...โดยไม่รู้ตัว จะได้เข้าพระนิพพานโดยง่าย เป็นพุทธานุสติ เท่ากับท่านที่ได้ไว้บูชา
    ....หากผู้ใดจำมาเป็นภาพนิมิต ร่วมเป็นสีของกสินย่อมได้เป็น อนิสงฆ์เพิ่มด้วย จะได้เข้าพระนิพพานโดยง่าย เป็นพุทธานุสติ
    """""""""""""""
    ..ในขณะเดียวกันผู้ที่มีจำนวนมากแล้วบูชาคนเดียว ย่อมมีอานิสงค์เหมือนบูชาพระพุทธรูปจำนวน ๑ องค์เท่านั้น

    ...แต่เมื่อละความตระหนี่นั้นได้แจกให้ท่านอื่นๆ ให้ไปเป็นที่ยึดเหนี่ยวสักการะบูชา มีอานิสงค์ดั่งนี้
    ...แจกไป ๑ องค์ มีอานิสงค์เท่ากับสร้างพระพุทธรูป ๑ องค์
    ...แจกไป ๑๐ องค์ มีอานิสงค์เท่ากับสร้างพระพุทธรูป ๑๐ องค์
    ...แจกไป ๑๐๐ องค์ มีอานิสงค์เท่ากับสร้างพระพุทธรูป ๑๐๐ องค์
    ...แจกไป ๑๐๐,๐๐๐ องค์ มีอานิสงค์เท่ากับสร้างพระพุทธรูป ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    ....ดั่งนี้แล
    ......ขอท่านได้โปรดโมทนาเถิด


    จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 4/6/2548 0:38:53

     
  18. อนันตกาล

    อนันตกาล สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ขออนุโมทนาบุญ ขอบูชาด้วยนะคะ
    กรุณาส่ง อ้จฉรา นาคทน
    3/1013 ซ.11 หมู่บ้านการเคหะ ถ.กลางเมือง
    ต.เมืองเก่า อ.เมือง
    จ.ขอนแก่น 40000
    ขอขอบพระคุณมากค่ะ
     
  19. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    โมทนาสาธุค่ะขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ
    ขอรับ บูชาด้วยค่ะ
    ธัญรัศม์ กาวิโล
    70/6 บ้านสันไร่5,สันกำแพง
    อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    50130
    ขอบคุณค่ะ<!-- / message -->
     
  20. พี่โต

    พี่โต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +29
    ขออโมทนาบุญด้วยครับ ขอรับแจกมาบูชาด้วยครับ

    พ.จ.อ.ทรงศักดิ์ กิมสกุล
    สถานีวัดความสั่นสะเทือน จ.เชียงใหม่
    ถ.ครูบาศรีชัย ต.ช้างเผือก
    อ.เมือง
    จ.เชียงใหม่ 50300
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...