พอใจรูม

อนุโมทนา....กับบทความดีๆค่ะ
ขออนุญาติ แอบจิ๊ก...บัวดอกนี้นะคะ พี่พิม​

 

รูปงานวันคาวบอย
​

พี่ใจ่ใจ๋เอารูปเด็ก ๆ น้อง ๆ ที่ทำงานมาให้น้องพิมพ์ น้องน่านดู เขาจัดงานใหญ่มาก ๆ นั่งบนกองฟาง มีเสก โลโซมาเล่นดนตรีวงใหญ่ เสียงดังหนวกหู วัยรุ่นกรี๊ดดดดด ซาสลบบบ เต้นฝุ่นตะลบ ส่วนพี่ใจ่ใจ๋ เต้นม่ายหวาย เจี๊ยะ ๆ ๆ อย่างเดียว ๆ ๆ มีร้องเพลงตบมือบ้าง นิดหน่อยจ้า ​

 

บางครั้งเรารู้สึกว่า เราไม่มีความหนักแน่น มั่นคง เราไม่เป็นตัวเอง เราถูกฉุดดึงไปด้วยสิ่งต่างๆ ความคิดต่างๆ โครงการต่างๆ ความกลัวและกิเลสต่างๆ เราไม่มีความสงบสุข นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเข้าพี่งพาลมหายใจเข้าของเรา

เพราะการเข้าพึ่งพาลมหายใจเข้าคือการกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่เป็นไปได้ การเข้าพึ่งลมหายใจเข้าช่วยให้เธอกลับมาเป็นตัวเองได้ในทันที เธอจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง เธอจะดำรงในปัจจุบันขณะ อยู่ในขณะนั้นได้อย่างเต็มเปี่ยม เธอจะตระหนักรู้ว่าเธอคือความมหัศจรรย์แห่งชีวิตและเธอสามารถสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งชีวิตที่กำลังรายล้อมรอบเธออยู่
....................
ขอบคุณจ้า ๆ น้อง ๆ ที่น่ารักทั้ง 2 คน ที่แวะเวียนมาให้กำลังใจพี่ใจ่ใจ๋นะจ๊ะ ต้องหาเวลาฝึกอยู่กับลมหายใจบ่อย ๆ จะได้ไม่ฟุ้งซ่านนะจ๊ะ ที่ร๊ากกกกกกกก วัน ๆ มันคอยแต่จะ ฟุ้ง ๆ ๆ ...คอยแต่จะ ซ่าน ๆ ๆ ซู่ซ่า ๆ ๆ ชิมิ ชิมิ ความคิดนี่ห้ามยากเนอะ ๆ ๆ มันไหลไปเรื่อย ตามดู ตามรู้ ค่อย ๆ ฝึกปาย ฝึกปาย....พี่ ๆ น้อง ๆ เอ๋ยยยยยยยยยยย

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ppojai
มีชีวิตอยู่เพื่อทำวันนี้...ให้ดีที่สุด
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เรานั้นนับว่าเป็นผู้ที่โชคดีแล้ว.......
1. ได้เกิดเป็นมนุษย์
2. ได้เกิดในจักรวาลที่เป็นถิ่นของพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นเท่านั้น
3. ได้เกิดทันยุคที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น
4. ได้เกิดในถิ่นที่มีพระพุทธศาสนา
5. ได้เกิดมาได้ฟังพระสัทธรรม
ฮ่าๆ ยังเหลืออีกอย่างเดียวที่เรายังทำให้มรรคเกิดขึ้นไม่ได้
ฮ่าๆ หากเราตายลง แล้วไปเกิดใหม่ทั้ง 5. ข้อข้างบนนั้น แล้วเราเมื่อไหร่จะได้เจออีกมันไม่ใช่ของง่ายเลยนะจ๊ะ<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

มรรคมีองค์ 8 หรือทางสายกลาง

อริยสัจจ์ข้อที่ 4 คือ หนทางที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์ (ทุกฺข-นิโรธคามินีปฎิปทา-อริยสจฺจ) หนทางสายนี้เรียกว่า "ทางสายกลาง (มชฺฌิมา ปฏิปทา) เพราะงดเว้นจากข้อปฏิบัติที่เอียงสุด 2 ประการ
ข้อปฎิบัติเอียงสุดอย่างแรก ได้แก่ การแสวงหาความสุขด้วยกามสุข อันเป็นของต่ำทราม เป็นของธรรมดา ไม่เป็นประโยชน์ และเป็นทางปฏิบัติของสามัญชน
ข้อปฎิบัติเอียงสุดอีกอย่างหนึ่ง คือการแสวงหาความสุขด้วยการทรมานตนเองให้เดือดร้อน ด้วยการบำเพ็ญทุกกรกิริยาในรูปแบบต่างๆ อันเป็นการทรมานร่างกาย เป็นสิ่งไม่มีค่า และเป็นสิ่งไม่มีประโยขน์ ในเบื้องแรกนั้น
พระพุทธองค์ได้ทรงทดลองปฏิบัติข้อปฏิบัติที่เอียงสุดทั้งสองประการนี้มาแล้ว ทรงพบว่าเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ จึงได้ทรงค้นพบทางสายกลางนี้ด้วยประสบการณ์ของพระองค์เอง ซึ่งเป็นทางที่ให้ทัศนะและปัญญาอันนำไปสู่ความสงบ ญาณ การตรัสรู้ และนิรวาณะ (พระนิพพาน) ทางสายกลางนี้โดยทั่วไปหมายถึง ทางมีองค์แปดประการอันประเสริฐ (อริยอฏฐคิกมคฺค)
เพราะประกอบด้วยองค์ หรือส่วนประกอบ 8 ประการคือ
1.เห็นชอบ (สัมมาทิฏิฐิ) (ปัญญา) ได้แก่ ความรู้อริยสัจจ์ 4 หรือ เห็นไตรลักษณ์ หรือ รู้อกุศลและอกุศลมูลกับกุศลและกุศลมูล หรือเห็นปฏิจจสมุปบาท โดยการเข้าใจชอบหรือเห็นชอบนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1.ความเข้าใจคือความรู้ ความเป็นพหูสูตร ความมีสติปัญญา สามารถรอบรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งตามข้อมูลที่ได้มา ความเข้าใจประเภทนี้เรียกว่า "ตามรู้" (อนุโพธ) เป็นความเข้าใจที่ยังไม่ลึกซึ้ง 2.ส่วนความเข้าใจที่ลึกซึ้งซึ่งเรียกว่า"การรู้แจ้งแทงตลอด" (ปฏิเวธ) หมายถึงมองเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามสภาวะที่แท้จริง โดยไม่คำนึงถึงชื่อ และป้ายชื่อยี่ห้อของสิ่งนั้น การรู้แจ้งแทงตลอดนี้จะมีขึ้นได้ เมื่อจิตปราศจากอาสวะทั้งหลาย และได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ด้วยการปฏิบัติสมาธิเท่านั้น
2.ดำริชอบ (สัมมาสังกัปปะ) (ปัญญา) ได้แก่ ความตรึกที่เป็นกุศล ความนึกคิดที่ดีงาม (กุศลวิตก 3 ประกอบด้วย 1.ความตรึกปลอดจากกาม ความนึกคิดในทางเสียสละ ไม่ติดในการปรบปรือสนองความอยากของตน 2. ความตรึกปลอดจากพยาบาท ความนึกคิดที่ประกอบด้วยเมตตา ไม่ขัดเคือง หรือ เพ่งมองในแง่ร้าย 3.ความตรึกปลอดจากการเบียดเบียนด้วยกรุณาไม่คิดร้าย หรือมุ่งทำลาย)
3.เจรจาชอบ (สัมมาวาจา) (ศิล) ได้แก่ วจีสุจริต 4 ประกอบด้วย 1.ไม่พูดเท็จ 2.ไม่พูดส่อเสียด 3.ไม่พูดหยาบ 4.ไม่พูดเพ้อเจ้อ
4.กระทำชอบ (สัมมากัมมันตะ) (ศิล) ได้แก่ กายสุจริต 3 ประกอบด้วย 1.ไม่ฆ่าสัตว์ 2.ไม่ลักทรัพย์ 3.ไม่ประพฤติผิดในกาม
5.เลี้ยงชีพชอบ (สัมมาอาชีวะ) (ศิล) ได้แก่ เว้นมิจฉาชีพ ประกอบสัมมาชีพ
6.พยายามชอบ (สัมมาวายามะ) (สมาธิ) ได้แก่ สัมมัปปธาน 4 ประกอบด้วย 1.เพียรระวัง หรือเพียรปิดกั้น คือ เพียรระวังยับยั้งบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น 2.เพียรละ หรือเพียรกำจัด คือเพียรละบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว 3.เพียรเจริญ หรือเพียรก่อให้เกิด คือ เพียรทำกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดมีขึ้น 4. เพียรรักษา คือ เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้ตั้งมั่น และให้เจริญยิ่งขึ้นไปจนไพบูลย์
7.ระลึกชอบ (สัมมาสติ) (สมาธิ) ได้แก่ สติปัฏฐาน 4 ประกอบด้วย 1.การตั้งสติกำหนดพิจารณากาย 2. การตั้งสติกำหนดพิจาณาเวทนา 3.การตั้งสติกำหนดพิจารณาจิต 4.การตั้งสติพิจารณาธรรม (มีรายละเอียดเพิ่มเติม)
8.ตั้งจิตมั่นชอบ (สัมมาสมาธิ) (สมาธิ) ได้แก่ ฌาน 4 ประกอบด้วย 1.ปฐมฌาณ 2.ทุติยฌาน 3.ตติยฌาน 4.จตุตถฌาณ (มีรายละเอียดเพิ่มเติม)
ในทางปฏิบัตินั้น คำสอนทั้งหมดของพระพุทธองค์ที่ทรงอุทิศ พระองค์สั่งสอนในช่วงเวลา 45 ปีนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางสายกลางนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พระองค์ทรงอธิบายทางสายนี้ โดยวิธิการ และใช้คำพูดที่แตกต่างกันไปตามความแตกต่างของบุคคลโดยให้สอดคล้องกับระดับการพัฒนา และศักยภาพในการเข้าใจ และตามได้ทันของบุคคลเหล่านั้น แต่สาระสำคัญของพระสูตรหลายพันสูตรที่กระจายอยู่ในคัมภัร์ต่างๆ ของพุทธศาสนา ล้วนแต่มีเรื่องเกี่ยวกับมรรคซึ่งประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐนี้ทั้งนั้น
จะต้องไม่เข้าใจว่า องค์ หรือส่วนประกอบ 8 ประการของทางสายกลางนี้ ต้องนำไปปฏิบัติทีละข้อ โดยเรียงตามลำดับหมายเลขดังรายการที่ให้ไว้ข้างต้นนั้น องค์ต่างๆ เหล่านั้นจะต้องพัฒนาให้มีขึ้นพร้อมๆกันมากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ขีดความสามารถของแต่ละบุคคลที่จะให้เป็นไปได้ องค์เหล่านี้ล้วนแต่เกี่ยวโยงกัน และแต่ละองค์ก็ช่วยส่งเสริมองค์อื่นๆไปด้วย

 

คนเรามีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ครั้งหนึ่ง
ช่วงชีวิตเราอยู่ระหว่างลมหายใจแรก
กับลมหายใจสุดท้าย ใครจะรู้บ้างว่า
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังลมหายใจ
สุดท้ายของชีวิตดังนั้น ทำวันเวลา
ที่มีลมหายใจให้ดีที่สุด

จาก ฟอร์เวิร์ดเมล์

<LABEL class="caption_cancel uiButton" for=u641190_3></LABEL>

 

รางวัลชีวิต
ชัชฎาพร ลักษณาเวช

Bดนตรี 12 Bars..10...11...
12..พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม
คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร
ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด
ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น
ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ
ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน
ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์
ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม
โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี
ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม
หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ
ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน
สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา
กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์
หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์
เวรกรรม ทุกชาติก่อน
บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย
...................................
[MUSIC]http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=1342151[/MUSIC]

 

ภาพ...น่ารักๆๆๆๆ จากพี่พิมค่ะ ให้พี่ใจ คลาย...เหงาค่ะ​

​

 

ขอบคุณน้องน่านมาก ๆ ที่แวะมาเยี่ยมนะจ้า ๆ

 

มาเยี่ยมกระทู้จ้า​

 

ขอบคุณคุณลุงหมานที่แวะมาเยี่ยมจ้า ๆ

 

วันนี้มาฉายเดี่ยวจะมารับอั่งเปา​

 

(k) หมดกระเป๋าแย๊วคร้า.......คุณลุงหมาน...
โดนลูก ๆ หลาน ลูกน้อง..กวาดเรียบวุธ ไปหม๊ดเยยยยยยย
กระเป๋าฉีก..เดือนนี้ ไม่เหลือใช้หนี้รถ กับ บ้าน เลยคะ
ต้องควักเงินเก่าออกมาสบทมกองทุนจ๊ะ ....

(k) แหม..หลงดีใจนึกว่า คุณลุงหมานถือ อั่งเปา หนา ๆ มาให้พอใจซะอีกค่ะ...อิอิอิ

 

​

​

 

102 ยอดของมิตร

ปัญหา (เทวดาทูลถาม) อะไรหนอเป็นมิตรของคนเดินทาง อะไรหนอเป็นมิตรในเรือนของตน อะไรเป็นมิตรของคนมีธุระเกิดขึ้น อะไรเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า ?

พุทธดำรัส ตอบ “พวกเกวียน พวกโคต่างเป็นมิตรของคนเดินทาง มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน สหายเป็นมิตรของผู้มีธุระเกิดขึ้นเนือง ๆ บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า”

มิตรสูตรที่ ๓ ส.สํ. (๑๖๓)
ตบ. ๑๕ : ๕๐-๕๑ ตท. ๑๕ : ๕๐
ตอ. K.S. I : ๕๑-๕๒

 

​

 

แองเจลิน่า โจลี่ ทรงอิทธิพลสุดในโลก (คมชัดลึก)

ฟอร์บ ระบุ แองเจลิน่า โจลี่ เป็นคนดังผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ส่วนบารัค โอบาม่าอยู่อันดับที่ 49

ผลการจัดอันดับคนดังผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก (Forbes s Celebrity 100) ที่จัดทำโดยนิตยสาร "ฟอร์บส์" และ นำออกตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันพุธระบุว่า แองเจลิน่า โจลี่ ดาราภาพยนต์คนดังและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน วัย 33 ปี ได้แซงหน้า โอปราห์ วินฟรีย์ เจ้าแม่รายการ ทอล์ค โชว์ สหรัฐฯ ขึ้นเป็นผู้มีชื่อเสียงผู้ทรงอิทธิพลสุดของโลกแล้ว เมื่อพิจารณาจากรายรับในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมา ปัจจัยอื่นๆ ซึ่งรวมทั้งการอ้างอิงถึง ตามเว็บไซต์ต่างๆ สื่อสิ่งพิมพ์ และวิทยุโทรทัศน์ กับเป็นภาพหน้าปกของแมกกาซีนดังๆ

โอปราห์ วินฟรีย์
โจลี่ ผู้เคยคว้ารางวัลออสการ์ และเป็นคนรักของพระเอกฮอลลีวู้ดคนดัง "แบรด พิตต์" มีรายได้ 27 ล้านดอลลาร์ ( ราว 945 ล้านบาท ) ช่วงระหว่าง มิถุนายน ปี 2551-มิถุนายน ปี 2552 ซึ่งฟอร์บบอกว่า รายได้ของเธอบวกกับหน้าตาที่มีชื่อเสียง เพียงพอที่จะช่วยให้โจลี่ผู้มาเป็นที่สามเมื่อปีที่แล้ว สามารถโค่นแชมป์เก่าของปีที่แล้วคือ "โอปราห์ วินฟรีย์" ผู้มีรายได้ 275 ล้านดอลลาร์ (ราว 9 625 ล้านบาท) ให้ตกลงไปอยู่ที่สองในปีนี้

โจ ลี่ยังได้รับคำชื่นชมที่สามารถแบ่งเวลาได้ดี ทั้งสำหรับอาชีพนักแสดง กับการเป็นฑูตสันถวไมตรีของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชา ชาติ และชีวิตครอบครัว ที่เธอมีบุตรกับบุตรบุญธรรมรวม 6 คน กับ พิตต์ ผู้ติดอันดับ 9 ด้วยรายได้ 28 ล้านดอลลาร์ (ราว 980 ล้านบาท) กับข่าวสร้างครอบครัวกับโจลี่ และภาพยนต์ดังเรื่อง "เดอะ คูเรียส เคส ออฟ เบนจามิน บัตตอม" (The Curious Case of Benjamin Button)

ปี นี้นับเป็นปีแรกที่มีผู้นำประเทศติดในการจัดอันดับนี้ของฟอร์บส์ด้วย โดย ประธานาธิบดีบารัคโอบาม่า ของสหรัฐฯ ติดอันดับที่ 49 และฟอร์บส์ระบุด้วยว่า การชนะการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของเขา เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทำให้เขากลายเป็นคนดังที่สุดของโลกด้วย (The most famous person in the world)

มาดอนน่า
ผู้มาเป็นที่สามคือ "มาดอนน่า" นักร้องดังวัย 50 ปี ผู้ไม่ติดสิบอันดับแรกของปีที่แล้ว แต่ข่าวซุบซิบและการออกทัวร์รอบโลก "ฮาร์ด แคนดี้" ของเธอ พร้อมรายได้ 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 500 ล้านบาท) ทำให้เธอกลับมาอีกครั้ง

บิยอนเซ่ โนวเลส
อันดับสี่ คือ นักร้องนักแสดงสาว "บิยอนเซ่ โนวเลส" ผู้มีรายได้ 87 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 045 ล้านบาท)

ไทเกอร์ วู้ดส์
อันดับห้า คือ นักกอล์ฟดัง "ไทเกอร์ วู้ดส์" ผู้เป็นคนดังที่มีอิทธิพลสุดของฝ่ายชาย เขามีรายได้ 110 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 850 ล้านบาท) และยังครองตำแหน่งนักกีฬาผู้ทำรายได้สูงสุดของโลก แม้จะได้รับบาดเจ็บ

 

" 20 ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก "
ผู้อ่านนิตยสาร Vanity Fair โหวตให้ แองเจลินา โจลี เป็นผู้หญิงสวยที่สุดในโลก ที่สอง ซุปเปอร์โมเดล จีเซล บันด์เชน ส่วนฮัลลี เบอร์รี ได้ที่สาม

แองเจลินา โจลี ได้รับการโหวตออนไลน์จากผู้อ่านนิตยสาร Vanity Fair ให้เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก ด้วยคะแนน 58 เปอร์เซนต์

ขณะ ที่ซุปเปอร์โมเดล จีเซล บันด์เชน เจ้าสาวหมาดๆ ของนักอเมริกันฟุตบอลคนดัง ทอม เบรดี มาเป็นที่สอง ด้วยคะแนน 9 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 4 เปอร์เซนต์เป็นของนักแสดงสาวจาก Gothika ฮัลลี เบอร์รี ทำให้เธอเข้าวินเป็นอันดับ 3

การสำรวจของเว็บไซต์ Vanity Fair ในครั้งนี้ เลือกสาวสวยคนดังระดับโลก 19 รายจากหลากหลายวงการมาให้ผู้อ่านร่วมโหวต ไม่ว่าจะเป็นบิยองเซ, กวินเนธ พาล์โทรว์ ไปจนถึงควีนราเนียแห่งจอร์แดน และคาร์ลา บรูนี อดีตนางแบบคนดัง ซึ่งปัจจุบันเป็นภรรยาประธานาธิบดี นิโคลาส ซาร์โคซี

สำหรับคุณแม่ลูก 6 (รวมลูกบุญธรรม) แองเจลินา โจลี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับการโหวตจากการสำรวจทำนองนี้ เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว เธอก็เพิ่งได้รับคัดเลือกจากผู้อ่านของนิตยสาร Who ให้เป็นคนสวยที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน ขณะที่ เคท วินสเลต ได้รับคะแนนเป็นอันดับสองจากการสำรวจครั้งเดียวกัน

ผลสำรวจของนิตยสาร Vanity Fair

อันดับ 1 ได้แก่ Angelina Jolie ได้คะแนน 58%

อันดับ 2 Gisele Bundchen ได้คะแนน 9%

อันดับ 3 Halle Berry ได้คะแนน 4%

อันดับ 4 ได้แก่ Penelope Cruz, Scarlett Johansson, Jennifer Connelly, ควีน Rania แห่งจอร์แดน และ Bar Refaeli ได้คะแนน 3%

อันดับ 5 ได้แก่ Catherine Deneuve, Freida Pinto, Natalia Vodianova, Ziyi Zhang, Beyonce Knowles, Cate Blanchett ได้คะแนน 2%

อันดับ 6 ได้แก่ Elle MacPherson, Kate Moss, Gwyneth Paltrow, Kerry Washington และ Carla Bruni ได้คะแนน 1%

credit : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

เรียกได้ว่าชีวิตครอบครัวของ"แองเจลินา โจลี"ทำให้เธอมีความสุขมากที่สุดทีเดียว หลังเจ้าตัวยอมรับว่าสิ่งที่สนุกที่สุดในชีวิตของเธอคือการจัดงานวันเกิดของลูกๆแต่ละคนตลอดปี แองเจลินา โจลี นักแสดงสาววัย 34 ปี ที่ตอนนี้มีลูกถึง 6 คนร่วมกับ แบรด พิตต์ นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ได้เผยถึงความชอบส่วนตัวของเธอว่าไม่มีอะไรที่สนุกไปกว่าการได้จัดงานปาร์ตี้ให้กับลูกๆได้ร่วมฉลองการแก่ขึ้นอีกหนึ่งปีของพวกเขา "เรามีงานปาร์ตี้กันทั้งปีเลย! มันค่อนข้างอลหม่านแต่เราก็ต้องมีการจัดระเบียบให้เรียบร้อยบ้างในบางครั้ง เราแค่อยากมีช่วงเวลาสุดวิเศษด้วยกัน ตอนนี้พี่ที่โตกว่าก็จะเข้ามาร่วมวางแผนจัดงานวันเกิดให้กับน้องที่เล็กกว่าด้วย มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่สนุกมากที่สุดในชีวิตเลย" แองเจลินา โจลี เผยถึงความสุขในครอบครัว

นอกจากนั้นเธอยังกล่าวด้วยว่าเธอและ แบรด พยายามทำหน้าที่พ่อและแม่ของเด็กๆอย่างเต็มที่ และพยายามอย่างดีที่สุดที่จะจัดแจงเวลาให้แน่ใจว่าพวกเขามีเวลาพอที่จะพูดคุยหรือใช้เวลาแบบส่วนตัวกับลูกๆแต่ละคน และยังสอนเรื่องเรียน รวมถึงความรู้ต่างๆให้กับลูกๆ และยังตัดสินใจร่วมกันว่าจะสอนเรื่องราวเกี่ยวกับทุกศาสนาในโลกให้กับเด็กๆเพื่อที่พวกเขาจะได้ตัดสินใจกันเองว่าจะเลือกนับถือศาสนาอะไร "เราเป็นครอบครัวแห่งศาสนา แม้ว่าเราจะไม่ได้ยึดถือศาสนาอะไรเป็นพิเศษ แต่พวกเราทุกคนก็สนใจเกี่ยวกับคำสอนของทุกๆศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธ เราปรึกษากันเรื่องนี้และเห็นด้วยว่าที่บ้านเราจะมีการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆและจะเรียนรู้คำสอนของทุกศาสนา" ส่วนใครที่รอจะได้ชมผลงานการแสดงของคู่รัก แบรนเจลินา ที่เคยฝากผลงานสมัยพบรักกันครั้งแรกเรื่อง