พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 18 พฤษภาคม 2020.

แท็ก: แก้ไข
  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดแล้วครับ

    IMG_7650.jpeg IMG_7649.jpeg IMG_7647.jpeg IMG_7648.jpeg IMG_7545.jpeg IMG_7544.jpeg IMG_7546.jpeg IMG_7547.jpeg


    ตะกรุดหนังเสือ+สีผึ้ง มหาลาภ

    หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร วัดพระพุทธบาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์..............ตำนานตะกรุดหนังเสือ สายเขมร แห่งเมืองอิสาน..................ประสบการณ์ ตะกรุดหนังเสือ วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2531 บนยอดเขากระโดง อันเป็นภูเขาไฟที่ดับมานับพัน ๆ ปี อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดสี่ห้านายพร้อมด้วย ชาวบ้านอีกหลายคนใด้ขึ้นไปชุุมนุมกันอยู่ที่นั่น... ชื่อของบรรดาข้าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ท่านขอให้สงวนเอาไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง แต่ชาวบ้านที่พอจะเปิดเผยใด้ก็มี คุณวรพจน์ ลิ้มพานุกิจ คุณอุทัย ใจชื่น และคุณกลิ่น โนนสังกาศ เป็นชาวตลาดในเมืองบุรีรัมย์ เขามาชุมนุมทำอะไรกัน? การกระทำครั้งนี้ ในตอนแรกต้องการปกปิดเป็นความลับ เพราะไม่อยากให้ใครใด้รู้เห็น แต่หลังจากผ่านการทดลองไปแล้ว ความลับทั้งหลายจึงถูกเปิดเผยขึ้น มีสิ่งหนึ่งแขวนอยู่กับกิ่งไม้ นั่นก็คือ ตะกรุด ดอกหนึ่ง ซึ่งชาวคณะได้นำมาจาก วัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นของ หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนที่ราบสูง ได้รับจากมือมาก็เอามาลองกันเลย เพื่อที่จะดูว่าแน่จริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า........... ใครจะเป็นคนยิง ? เสียงผู้อาวุโสคนหนึ่งในคณะถามขึ้นข้าราชการสังกัด นปพ. อาสาเป็นผู้ยิงเดินเข้าหาตะกรุดพร้อมด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. ในมือ มีเสียงทัดทานของใครคนหนึ่งเตือนมาข้างหลัง.....เดี๋ยวเถอะมึง ได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า หลวงพ่อท่านบอกห้ามลองของนะโว้ย!!! เฮียเงียบเถอะ เขากำลังจะเอาจริงเอาจัง. เสียงห้ามจากอีกคนยืนอยู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ การทดลองวัตถุมงคลต่าง ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้นเป็น ข้อห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะจะนำเอาสิ่งไม่ดีมาสู่ตัวเอง แต่คณะทดลองของขลังนี้ก็ยอมเสี่ยงด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของที่ได้มานั้นดีจริง เนื่องจากเห็นพิธีการสร้างแล้วน่าทึ่งแปลกพิสดารล้ำลึก ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยนั่นเอง เริ่มตั้งแต่พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ และดวงวิญญาณของพญาเสือโคร่ง ซึ่งน่าขนลุกขนพอง หลังจากนั้นก็มีการลงอักขรยันต์ลงบนหนังเสือโคร่ง กว่าจะเสร็จกินเวลานานมาก แล้วมาถึงพิธีปลุกเสกพระคาถากำกับ หัวใจเสือ เป็นอันแล้วเสร็จ ตะกรุดพญาเสือโคร่งมหาอำนาจ ปากกระบอกปืนถูกจ่อห่างจากตะกรุดดอกนั้นประมาณ 2 ฟุต ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างตื่นเต้น เดี๋ยวจะใด้รู้กันว่าของหลวงพ่อนั้นแน่แค่ไหน แต่ก็มีเสียงทักท้วงขึ้นอีก หัวหน้าทีมสั่งให้เปลี่ยนปืนที่จะใช้ยิงเป็นปืนวอลเว่อร์แทน เพราะเก็บกระสุนที่ด้านง่ายกว่าปืนออโต้ ซึ่งจะต้องกระชากลำเลื่อนเพื่อคายกระสุนปืนที่ด้านออกจากรังเพลิงทำให้เสียเวลา เอาล่ะยิงใด้ !! มือปืนกระตุกไกยิงทันทีแชะ...แชะ...!! ยิงไม่ออก กระสุนด้าน เฮ้ย ซัดให้หมดโม่ไปเลย !! เสียงหัวหน้าทีมกำกับบท มือปืนจาก นปพ. จึงสับไกรวดเดียว แชะ...แชะ...แชะ...แชะ...!! น่าอัศจรรย์..กระสุนชุดนั้นไม่ลั่นเลยแม้แต่นัดเดียว ! หัวหน้าทีมน้ำเสียงสั่น สั่งให้หันปากกกระบอกปืนไปทางอื่นแล้วลองยิงดู เปรี้ยง...เปรี้ยง...!! ทุกคนตกตะลึงเมื่อเสียงปะทุแตกของกระสุนปืนขนาด.38 ดังกึกก้อก มือปืนยังไม่แน่ใจแหงนลำกล้องขึ้นฟ้าอีกสองนัด มันก็ระเบิดออกมาไม่เหลือ นั่นเป็นการพิสูจน์ที่ทุกคนมั่นใจทันที เมื่อกระสุนนัดที่ 4 สิ้นเสียงลง หัวหน้าทีมปราดเข้าไปเก็บเอาตะกรุดทันที. ตะกรุดดอกนี้ของผมโว้ย แสนหนึ่ง ก็ไม่ขายว่ะ !! เพราะว่าเป็นตะกรุดดอกที่ลองยิงนั่นเอง ทำให้ราคาพุ่งพรวดขึ้นไปตามความหวงแหนของเจ้าของ. เย็นนั้นที่ไปลองตะกรุดกันก็มาที่ร้านอาหารในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังจากที่เข้าไปขอเช่าตะกรุดเอาไว้อีกคนละหลาย ๆดอก ความจริงจะเอากันมากกว่านั้น แต่หลวงพ่อบอกว่าเอาไว้ให้คนอื่นเขาบ้างจะได้ทั่วถึง แยกจากร้านเหล้าแล้วหัวหน้าทีมก็กลับมานอน แล้วคืนนั้นเองสิ่งที่หลวงพ่อเตือนเอาไว้ก็เกิดขึ้น ขณะที่หลับสนิทได้ฝันว่ามี เสือโคร่ง ตัวใหญ่มหึมาตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ตรงเข้าไปหาแล้วกระโดดขึ้นคร่อมร่าง แยกเขี้ยวยิงฟันขาววับ ก่อนจะตะปปกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่อย่างไม่ปรานีปราศรัย ท่านตกใจร้องเสียงลั่นบ้านจนคนในบ้านตื่นกันหมด มีคนในบ้านพังประตูเข้าไปพบว่าท่านนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดขาวเม็ดเหงื่อโซมหน้า. เมื่อสติกลับคืนมา ท่านก็นึกถึงคำสั่งของหลวงพ่อที่ว่า ห้ามลองของเป็นอันขาดเพราะเอาไปลองนั่นเอง ไม่เชื่อคำสั่งจึงทำให้พญาเสือโคร่งโกธร พอรุ่งเช้าท่านจึงรีบบึ่งรถไปหาหลวงพ่อที่วัด พอเจอหน้าท่าน หลวงพ่อเลยเอ่ยถามว่า ? เจออะไรดีมาหรือ ? ท่านก็เล่าเรื่องทีฝันเห็นเสือโคร่งมาทำร้ายให้ฟัง โดยไม่กล่าวถึงเรื่องที่ไปลองตะกรุดกันเมื่อวานนี้ หลวงพ่อหัวเราะและย้อนถามไปว่าถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานไปทดลองยิงตะกรุดดูใช่ไหม ? หลวงพ่อรู้ใด้อย่างไรครับ ? ท่านย้อนถามด้วยความแปลกใจเพราะเรื่องนี้สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้บอกใคร ฉันสร้างของฉันมาเองแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าใครเอาไปทำอะไรที่ใหน ท่านจึงได้สารภาพว่าเอาไปลองยิงกันจริง และยิงไม่ออก ตนเองไม่ใด้ตั้งใจดูแคลนนับถือหลวงพ่อมาก แต่ที่เอาไปลองก็เพื่อจะเอามาเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปทราบกันว่า ของหลวงพ่อดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น. หลวงพ่อจึงกล่าวเตื่อนว่าการกระทำเช่นนี้ ทำให้วิญญาณพญาเสือโคร่งโกรธมาก ทีหน้าทีหลังอย่าทำอีกเด็ดขาดเก็บตะกรุดเอาไว้ให้ดี เขาจะช่วยเราได้ในยามคับขัน !? ข้าราชการท่านนั้นก็ก้มลงกราบบอกกับหลวงพ่อว่า นับตั้งแต่นี้จะไม่ลองของ ของหลวงพ่ออีก และนับถือสนิทใจแล้วว่า ของหลวงพ่อนั้นเยี่ยมจริง ๆ

    วิชาสร้างตะกรุดนี้ หลวงพ่อเที่ยงท่านได้ร่ำเรียนมาจากพระอาจารย์เขมร ซึ่งเป็นพระธุดงค์ เป็นผู้ประสิทธ์ประสาทวิชาให้เมื่อครั้งที่ท่านรอนแรมธุดงค์เข้าไปในประเทศเขมรสมัยที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทเขากระโดง !! เมื่อท่านต้องการสร้างเครื่องรางของขลัง เพื่อแจกจ่ายก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถูกต้องตามวิธีการที่ท่านเชี่ยวชาญแล้วรอฤกษ์จันทรคราส เพื่อความเข้มขลังสุดยอด เข้าหลักพิชัยยุทธตามตำนานโบราณ ความตั้งใจของท่านคือ เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดน เริ่มตั้งแต่เส้นทางที่ท่านออกธุดงค์ผ่านไป จากกองกำลังสุรานารี กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ทหารอาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดน การกระทำนั้นย่อมได้ผล เพราะอย่างน้อยก็เป็นขวัญและกำลังใจกับทหารที่ได้รับตะกรุดไป ซึ่งแน่หละประสบการณ์อภินิหารย่อมปรากฎขึ้นกับบรรดามหาร เหล่านั้นคนแล้วคนเล่า

    เครื่องรางของขลังในชุดแรก ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้น ท่านสร้างแต่เพียง ตะกรุดเกราะเพชร และตะกรุดหนังเสือโคร่งการทำตะกรุดก็ต้องใช้มือถัก ก่วาจะได้แต่ละอันใช้เวลามาก. สมัยก่อน พระอาจารย์แถบตะวันออกที่ดังเริ่มจาก หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เทพเจ้าแห่งเขี้ยวเสือ ยุคหลังก็มีหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ซึ่งเป็นเครื่องรางที่ให้ผลทางด้านคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะ. เครื่องรางที่ทำมาจาก หนังหน้าผากเสือ หนังเสือ เขี้ยวเสือ หรือแม้แต่ เล็บเสือ ล้วนมีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งสิ้น. การสร้างตะกรุดหนังเสือโคร่งมหาอำนาจนั้น จะต้องมีการเซ่นไหว้ปลุกเสกพิธีเต็มรูปแบบ กว่าจะออกมาเป็นตะกรุดเสือโคร่งมหาอำนาจนั้นไม่ใช่ของง่าย หากทำประเภทสุกเอาเผากินแล้วอาทิตย์เดียวเสร็จ

    แต่ของหลวงพ่อเที่ยงไม่มีทาง ท่านคำนึงถึงประสิทธิภาพมาก จึงตั้งใจสร้างอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่เริ่มสร้างจะยึดเอาฤกษ์วันสุริยคราสเป็นวันบูชาเทพารักษ์ และวิญญาณของพญาเสือโคร่ง เขียนอักขระยันต์ลงบนหนังเสือพร้อมกำกับพระคาถา แล้วนำมาปลุกเสกเดี่ยวในเจดีย์มหาราช. พระบุญเลี้ยง ลูกศิษย์ใก้ลชิดรูปหนึ่ง มี่มาขอฝากตัวเป็นศิษย์เพราะความเคารพนับถือหลวงพ่อเที่ยงได้เล่าให้ฟังว่า ในยามที่หลวงพ่อเที่ยงตั้งธาตุสร้างตะกรุดพญาเสือโคร่ง ซึ่งท่านจะต้องใช้ธาตุไฟ หลวงพ่อเที่ยงจะดูหนุ่มขึ้น หน้าแดงตัวแดงมีพละกำลังมหาศาล นอกจากนี้แล้ว บรรดาลูกศิษย์ของท่านที่มารอรับตะกรุดในตอนแรกก็จะมีพละกำลังมหาศาลเช่นเดียวกัน. หากบริกรรมคาถาหัวใจเสือโคร่งแล้ว ก็เหมือนของขึ้นมีกำลังมหาศาล หนังดีไม่สามารถจับรั้งตัวไว้ได้เพราะสู้กำลังไม่ไหว


    . พระคาถาเสือโคร่งว่าดังนี้ "พยัคโฆ พยัคฆะ สัญญาลัพพะติ อิติหิหึมหัม'' ซึ่งพระคาถาบทนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก หากเอาไปใช้กับตะกรุดพญาเสือโคร่งของหลวงพ่อเที่ยง จะเกิดความเข้มขลังเป็นที่สุดทีเดียว


    สีผึ้ง ตำหรับเขมรโบราณ หลวงพ่อเที่ยงบรรจงหุงเคี่ยวสีผึ้งบริสุทธิ์ผสมว่านซึ่งมีอิทธิฤทธิ์สรรพคุณ ในด้านเมตามหาเสน่ห์อาทิเช่น ว่านสาวหลง ว่านจูงนาง ว่านช้างผสมโขลง ว่านเทพรำลึก เทพรัญจวน และว่านจันทร์ขาว จันทร์แดงหุงเคี่ยวตามตำหรับเขมรโบราณ สุดยอดทั้งโชคลาภมหาเสน่ห์ วิธีบูชาอารธนา

    ตั้งนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถา นะ –ปะ-ภัง-กะ-โร 3 จบ ดีนักแล ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2024
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดแล้วครับ

    IMG_7549.jpeg IMG_7550.jpeg

    เหรียญกลมหลวงพ่อกวย หลังสิงห์ ออกวัดหัวเด่น ปี 2540

    หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ และ หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ ปลุกเสก

    บูชา 500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2024
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_7553.jpeg IMG_7555.jpeg IMG_7554.jpeg IMG_7558.jpeg IMG_7557.jpeg

    เหล็กไหลอาจารย์ ชุม ไชยคีรี

    ชิ้นนี้แกะจากหัวแหวนมา รับประกันตัวจริงครับ

    ของกายสิทธิ์มีฤิทธิ์ในตัวเอง ตัดจากป่าลึก หายากสุดๆ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ท่านทำพิธีตัดเหล็กไหลซึ่งเป็นโลหะธาตุศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติที่มีฤทธิ์เดชในตนเอง และมักจะหลบซ่อนจากตาผู้คน โดยมักจะหลบอยู่ในถ้ำลึกตามซอกหลืบที่เข้าถึงได้ยาก และ ผู้ที่ทำพิธีตัดเหล็กไหลซึ่งมีอาคมและฤทธิ์สูงนั้นต้องเป็นเกจิอาจารย์หรือฆราวาสผู้มีวิชาอาคมสูงจึงทำได้สำเร็จ เหล็กไหลชิ้นนี้ที่มาดีที่สุด และ เป็นเหล็กไหลของอาจารย์ชุม ไชยคีรี ปรมาจารย์ฆราวาสของตักศิลาสำนักเขาอ้อ
    อาจารย์ชุมท่านเป็นฆราวาสจอมขมังเวทย์แห่งสำนักเขาอ้อ จากบทความที่ท่านอาจารย์เขียนกล่าวไว้โดยย่อว่า “หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้เท่าเมล็ดพริกไทยก็นับว่าเป็นผู้มีบุญญาอภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย อาจารย์ชุมได้ค้นพบเหล็กไหลในป่าลึกทางภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อปี 2509 และได้ทำพิธีตัดเหล็กไหลออกเป็นชิ้นเล็กเท่าเมล็ดพริกไทยถึงเมล็ดมะขามแห้ง และแจกให้คณะศิษย์ทำหัวแหวนไว้ป้องกันตัว และส่วนหนึ่งฝังไว้หลังพระเนื้อว่านยา เหล็กไหลชิ้นนี้จึงเป็นสิ่งล้ำค่า ธาตุสูงสุดของธรรมชาติที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เหมือนกับเหล็กไหลในหลายๆสำนักที่ทำกันออกมามากมายในปัจจุบันซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นลักษณะเดียวกับเหล็กไหลของอาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่ท่านเดินทางเข้าไปตัดเองตามหลักฐานภาพถ่ายที่ว่าในป่าลึกในระยะเวลาเนิ่นนานร่วม50ปี ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงบุกป่าฝ่าดงเข้าสู่พงไพรที่มีอาถรรพถ์น่ากลัว กว่าจะได้มา จึงมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง บูชาแล้วจะมีคุณโชคลาภ มีความคงกะพัน มหาอำนาจเสริมบารมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2024
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7565.jpeg IMG_7566.jpeg IMG_7567.jpeg IMG_7569.jpeg IMG_7570.jpeg IMG_7572.jpeg
    IMG_7574.png

    พระกริ่งเจ้าคุณวิเชียรโมลี วัดสุทัศน์ ปี 2483

    เมื่อปี พ.ศ.2483 เจ้าคุณวิเชียรได้ขออนุญาตสมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทว) สร้างพระกริ่งพระชัยวัฒน์ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทว) ก็อนุญาตให้สร้างพระกริ่งพระชัยวัฒน์ในพิธีเดียวกันกับพระกริ่งรุ่นฉลองพระชนม์ 7 รอบ (พระกริ่ง 83) ในพิธีเททองหล่อพระกริ่งครั้งนั้นได้มีการจัดงานฉลองพระสุพรรณบัฏ เฉลิมราชทินนาม "อริยวงศาฆาตญาณฯ"
    เนื่องจากพระครูวิเชียรมีความสนิทสนมกับเจ้าคุณศรี(สนธิ์ ยติธโร) การสร้างพระกริ่งพระชัยฯครั้งนี้ เจ้าคุณศรี(สนธิ์ ยติธโร) จึงรับอาสาเป็นแม่งานในการสร้างพระครั้งนี้ ดังนั้นการลงพระยันต์ 108 กับ นะปถมัง 14 นะ การผสมเนื้อทองจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าคุณศรี(สนธิ์ ยติธโร) จากการบอกเล่าของคุณนิรันตร์ แดงวิจิตร(อาจารย์หนู) ที่กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าในการสร้างพระกริ่งพระชัยฯของพระครูวิเชียรครั้งนี้ ท่านได้นำทองชนวนพระกริ่งเก่าของสมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทว) ใส่ลงไปเป็นจำนวนมาก จึงเป็นเหตุให้พระที่หล่อได้ไม่สวยเท่าที่ควร ผิวเป็นมะระ จำนวนการสร้างพระครั้งนี้ พระกริ่งสร้างประมาณ 108 องค์ ส่วนพระชัยฯสร้างประมาณ 500-600 องค์ เนื้อพระออกกระแสเหลืองอมขาว หรือที่เรียกกันว่า "สัมฤทธิ์เดช"
    นอกจากนี้อาจารย์หนูยังกล่าวเสริมเพิ่มเติมอีกว่า พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ที่เทหล่อในพิธีฉลองพระชนมายุครบ 7 รอบ ฤกษ์เวลาเทหล่อพระเป็นฤกษ์เสริมดวง ดังนั้นพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ที่เทในพิธีนี้จึงมีคุณวิเศษณ์อีกประการหนึ่งคือเสริมดวงชะตา จะให้คุณแก่ผู้ที่ดวงตกหรือมีเคราะห์กรรมหนักให้เบาบางลง ส่วนผู้ที่ไม่มีเคราะห์กรรมก็จะเสริมดวงให้ดีขึ้นไปอีก สาเหตุการสร้างพระชัยวัฒน์ของพระครูวิเชียรครั้งนี้ เพื่อแจกจ่ายญาติสนิทมิตรสหายหรือโยมผู้มีอุปการะคุณ รวมทั้งลูกศิษย์ที่เคารพในพระครูวิเชียร ส่วนทางด้านพุทธคุณนั้นไม่ด้อยไปกว่าพระชัยวัฒน์รุ่นฉลองครบ 7 รอบ(พระชัยฯ 83) ของสมเด็จพระสังฆราช(แพ ติสฺสเทว)
    ด้านประสบการณ์ ดีทางปืนและกันไฟ กันฟ้าผ่า(ชาวบางแขมแขวนพระชัยวัฒน์ฯถูกฟ้าผ่าไม่ตาย) และเสริมดวงชะตา อนาคตมีสิทธิเล่นหาถึงหลักแสน

    บูชา 14,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2024
  5. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +895
    จอวเหรียญลป.แหวน/เหรียญล.พ.กวย
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094

    ขอบคุณครับ
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    วิชาไสยศาสตร์" หลายคนจะมองว่าเป็นเรื่องงมงาย หรือมองว่า เป็นเรื่องไม่จริง ผู้ใช้ส่วนใหญ่อยาก ให้เครื่องราง สัมฤทธิผลกับตัวเองบ้าง กลับไม่มีใครกล้า ที่จะพิสูจน์ วันนี้ อาจารย์วรา ปราการ เป็นคนหนึ่ง ที่กล้ายืนยันว่า

    "ไสยศาสตร์มีจริง เพราะ เป็นเหมือนแรง สนับสนุนตัวเรา แต่ไม่ใช่ตัวนำ พูดให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เป็นเหมือน กุศโลบาย ที่คอยโน้มน้าว จิตใจคน ให้ทำความชั่ว กันน้อยลง"

    อ.วรา เล่าว่า สมัยยังหนุ่มตอนอายุ ๑๔ ปี ได้เริ่มทำน้ำมันพราย และ ยาเสน่ห์ต่างๆ ทำให้เป็นคนเจ้าชู้ เนื่องจากไปเรียนวิชา เหล่านี้จากเพื่อน ของพ่อที่เป็นชาวเขมร โดยเขาสอน ให้ทำน้ำมันพรายและยาเสน่ห์ ครั้งแรก ที่ทำก็คือน้ำมันและสีผึ้ง โดยไปหามวลสารที่ จ.นครราชสีมา มาทำน้ำมันครั้งแรก และลองด้วยตัวเอง ก็ได้ผลเลย เมื่อทำแล้วก็อยากลองของ จึงได้ไปทดลองการใช้น้ำมันพราย มาอย่างต่อเนื่อง จนตัวเองมีภรรยาถึง ๓๒ คน

    ภาพรวมของตัวเองในหมู่เพื่อนฝูงเป็นคนหน้าตาไม่ดี ผอมแห้ง ไม่หล่อ เหมือนกับเพื่อนๆ จึงต้องอาศัยวิชาเหล่านี้เป็นผู้จุดประกาย ความรักมาตลอด ทำให้หันมาสนใจชอบในเรื่องของ เสน่ห์มากกว่า กระทั่งผู้เป็นพ่อ ได้ถ่ายทอดวิชามหาเสน่ห์ให้

    ส่วนการสักยันต์นั้นไม่ได้เรียนเพราะเห็นว่าเจ็บ จากนั้นทุกๆ ปีจะมีการสร้าง วัตถุมงคล เหล่านี้ไปถวายวัดมาโดยตลอด

    ช่วงวัยรุ่นเป็นคนที่คะนอง อยากรู้อยากลองว่าน้ำมันพราย ที่ทำขึ้น มาจากเชิงตะกอน เผาศพ ของคนต่างจังหวัดทางภาคอีสานนั้น ใช้ได้ผลจริงหรือไม่

    แต่หลายครั้งที่ทำน้ำมันพรายออกมา จะนำไปลองป้าย ผู้หญิงที่ชอบ เพื่อให้หลง ให้ชอบมา เป็นภรรยา เวลาผ่านไปอยากมีใหม่ก็จะถอนน้ำมันพราย ที่ป้ายด้วยการ ทำน้ำมนต์ให้ฝ่ายหญิงดื่ม เมื่อฝ่ายหญิงดื่มเข้าไปแล้ว จะมีความรู้สึกทน ความเจ้าชู้ของตัวเองไม่ไหว ก็จะขอเลิกราไปเอง

    "แม้ตอนนี้จะเลิกทำแล้วแต่ก็ยังมีหลายคนมาช่วยให้ทำน้ำมันพราย เพื่อไปทดลองกับผู้หญิง ตรงนี้ก็จะไม่รับทำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากไม่รู้ว่า เอาไปใช้ในทางที่ดีหรือหวังเพียงได้ตัวผู้หญิงอย่างเดียว สิ่งสำคัญได้คำนึงถึงบาปกรรมที่อาจจะตามมา ใครจะว่าผมเป็นคนเจ้าชู้ หรือไม่เจ้าชู้ ก็สุดแล้วแต่ แต่ตัวผมเองนั้นเป็นคนชอบลองของที่สร้างขึ้นมาจากวิชาไสยศาสตร์เขมร ไปลองกับสาวๆ และได้เขามาเป็นเมีย มาวันนี้ผมเลิกลอง ทั้งหมดแล้ว เหลือภรรยาอยู่เพียงคนเดียว กับลูกอีก ๔ คนเท่านั้น" อ.วรา กล่าว พร้อมกับพูดให้คติไว้อย่างน่าคิดว่า

    เวลาผ่านมาได้สอนให้รู้ว่า ความคะนองที่เป็นอยู่นั้น คือ บาปกรรมที่ติดตัว มาจนถึงทุกวันนี้ ความขลังที่เคยมีมาก็เริ่มใช้ได้ไม่เต็มที่นัก ระยะหลังเชิงตะกอน ก็หายากขึ้น ส่งผลให้เลิก ทำน้ำมันพรายในที่สุด ส่วนน้ำมันพรายที่เหลือ ก็ปล่อยลอยน้ำไปแล้ว การทำแบบนี้ถือเป็นการทำที่ผิดวิธี เพราะตามโบราณแล้ว จะต้องนำน้ำมันพรายนี้ฝังลงดิน หากเราทิ้งไปแล้ว มีคนเก็บมาใช้โดยไม่มีคาถา กำกับในการใช้หากน้ำมันพรายนี้ไปถูกผู้หญิงคนไหน คนนั้นอาจบ้าหรือเพี้ยนได้

    เมื่อสะสมประสบการณ์ต่างๆ มากมาย กับพระเกจิอาจารย์ในประเทศเขมร ตลอดระยะเวลา ๑๐ กว่าปีไม่ได้เขียนประวัติของหลวงพ่อต่างๆ เพียงอย่างเดียว แต่ยังเก็บมวลสารที่เป็นอาถรรพณ์ และว่านต่างๆ ที่หาได้ยากในปัจจุบันนี้ จากหลวงพ่อต่างๆ ทุกภาคของประเทศไทยที่ได้เขียนประวัติแล้ว ยังมีการเขียนเรื่องเวทมนตร์คาถา และพระเวทอาถรรพณ์

    สำหรับวัตถุมงคล เหล่านี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์ได้นั้น อ.วรา บอกว่า ต้องมี

    ๑.คนที่ทำพิธีนั้นเป็นคนอยู่ในศีล ในธรรมหรือไม่

    ๒.คนที่นำวัตถุมงคลเหล่านี้ไปใช้มีความเชื่อมั่นแค่ไหน

    ๓.ต้องรู้คุณบิดามารดา การสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาก็เพื่อให้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ มีวัตถุมงคลแล้วก็ไม่ให้พูดจาหยาบคาย คนที่มีวัตถุมงคลแล้วไม่สามารถปฏิบัติตัวตามนี้ได้ ต่อให้มีพระสมเด็จวัดระฆังกี่องค์ ท่านก็คงไม่คุ้มครอง

    ดังนั้นจุดมุ่งหมาย ของนักไสยศาสตร์คือ สอนให้รู้ด้วยปัญญา ไม่ได้ให้งมงาย

    สมมติว่า อาจารย์ให้สีผึ้งไปติดต่องาน แล้วเมื่อไปถึงแล้วมีการพูดจาไม่เพราะ การใช้สีผึ้งเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์ สีผึ้งนั้นก็กลายเป็นสีผึ้งธรรมดา เนื่องจากของเหล่านี้จะใช้ให้ได้ผลดีต้องเป็นคนอยู่ในศีลในธรรม ทั้งผู้รับและผู้ให้ ไสยศาสตร์ไม่ได้เป็นเรื่องงมงาย แต่วัตถุมงคลเหล่านี้มัน เป็นแรงหนุน ไม่ใช่ตัวนำ บางคนมีความกล้า มั่นใจว่าสักหนุมานมาแล้วต้องเหนียวนั้น เป็นความคิดที่ผิด

    อ.วรา บอกด้วยว่า หลายคนบอกว่า การสร้างวัตถุมงคลแบบนี้ออกมาเพื่อให้คนเจ้าชู้นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ เป็นความเชื่อของจิต เมื่อจิตมีความเชื่อ ก็จะเกิดความเชื่อมั่น ถ้าถามว่าไสยศาสตร์มีจริงไหม อาจารย์ขอยืนยันได้ทันทีว่า ไสยศาสตร์ที่อยู่ในโลกนี้มีจริง แต่เราจะเข้าถึงกันไหม ฉะนั้น ก่อนที่เราจะเล่นของเมตตานั้น เราต้องเป็นคนที่มีใจเมตตาด้วย ไม่ใช่เป็นคนบาป ไปทำเขาตาย แล้วมาโวยวายว่า เครื่องรางเหล่านี้ไม่ขลัง เราจะเห็นได้ว่านี่มันมีจิตที่ไม่อ่อนโยน

    วัตถุมงคลของ อ.วรา ปราการนั้น ไม่มีโทษต่อผู้เลี้ยงเพราะวัตถุอาถรรย์ต่างๆทั้งน้ำมันอาถรรย์หรือชิ้นส่วนอาถรรย์ท่านได้เรียกมาคุยสอบถามถึงความเต็มใจในการที่จะอยู่ด้วยกันเพราะถ้าอยู่ด้วยกันก็จะมีกินและทำบุญให้ไปอยู่กับคนที่เช่าบูชาไปก็มีกินเช่นกันไม่ได้ทำการบังคับสะกดไว้

    -ส่วนการเสกของท่านท่านเสกหนุนธาตุทั้งสี่หนุนอาการ 32 ให้กำเนิดเป็นตัวเป็นตนมีชีวิตขึ้นใหม่เพราะอย่างนี้ของอาถรรย์ตนเดียวจึงไปอยู่ในวัตถุมงคลเป็นร้อยเป็นพันชิ้นได้เนื่องจากท่านชุบชีวิตขึ้นใหม่ แม้อ.วรา ปราการท่านเสียแล้วพรายก็ยังอยู่ในวัตถุมงคลเหมือนเดิม แม้ใครไม่ได้เลี้ยงพรายก็ไปหากินหรือไปกินกับคนอื่นได้ ถ้านำกลับมาเลี้ยงใหม่พรายก็มาอยู่เหมือนเดิมครับ
     
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7582.jpeg IMG_7583.jpeg IMG_7584.jpeg IMG_7581.jpeg

    พระสมเด็จมงคลมหาลาภ พิมพ์ใหญ่หลังยันต์ เนื้อผงโสฬสมหาพรหม ปี2499 วัดสัมพันธวงศ์ คณาจารย์สาย อ.มั่น, ลป.ทิม, คุณเเม่บุญเรีอนเสก

    บูชา 2,200 บาท

    หลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ องค์ประสานงานพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ได้บอกศิษย์ว่า “พระผงนี้ดีมาก มีรังสี สีขาว และเหลือกระจายออกสว่างไสว” นอกนั้น ท่านยังได้ขอพระผงมงคลมหาลาภที่ชำรุดประมาณ ๑ บาตรพระ นำไปบดใส่ “พระใบโพธิ์เนื้อดิน พ.ศ. ๒๕๐๐“ ของท่านด้วย

    “ เฮ็ดหยังแรงจังซี่” เป็นคำอุทานที่ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ อุทานเมื่อครั้งยังเป็นเพียงผง และท่านได้ขอพระหักไปสร้างพระโพธิจักรฉลอง 25 ศตวรรษที่วัดอโศการาม 1 บาตร ) “สมัยแรกที่ได้เอาพระมงคลมหาลาภบรรจุไว้ได้ฐานพระในกุฏิ เห็นมีรัศมีสีเขียวพุ่งออกมาเป็นวาเลย “เขียวมาเชียวน๊ะ” (พระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิเทสโก) วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร) “พระองค์หนึ่ง เท่ากับพระธาตุองค์หนึ่ง เมื่อนำมาไหว้พระสวดมนต์ สามารถสื่อกับเทพพรหมได้ ทุกสวรรค์ชั้นฟ้าจรดบาดาลเลยทีเดียว” (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ทักหลานคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำที่ห้อยพระมงคลมหาลาภไปทำบุญกับท่านครั้งหนึ่ง) “พระนี้ แรงยิ่งกว่าพระกรุทุกกรุเท่าที่หลวงปู่เคยสัมผัสพลังมา แม้พระรอดมหาวันก็ไม่สู้” (คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ แม่ชีอรหันต์แห่งคำชะอี ที่หลวงปู่ชอบรับรองว่า สามารถเหาะไปสวรรค์ได้ทั้งกายเนื้อ) “พระมงคลมหาลาภนี้ มีรัศมีสีเขียว ดีทางแคล้วคลาดยอดเยี่ยมที่สุด ไม่ต้องไปหาพระรอดมหาวันให้เหนื่อยยากเลยทีเดียว” (หลวงปู่คำพันธุ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม กล่าวยกย่องพระมงคลมหาลาภอย่างยิ่ง รวมถึงอาจารย์ปถม อาจสาครเอง ก็ได้เอาผงพระ “มงคลมหาลาภ” หักๆนี้ไปทำพระผงรุ่น “โสฬสมหาพรหม” 2505 ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่จนดังระเบิดในเวลาต่อมาด้วย สมกับท่านอาจารย์ ปถมบันทึกไว้เองว่า “รวบรวมผงหักป่นไว้ได้สักโหลใหญ่ พระที่ผมสร้างจึงขลัง “เพราะได้ผงหลักจาก” พระมงคลมหาลาภ นี่เอง

    ขนาดขององค์พระ พิมพ์ใหญ่ ฐานกว้างประมาณ ๒.๕ – ๓.๘ ซม. หนา ๐.๕ ซม. พิมพ์เล็ก ฐานกว้างประมาณ ๒.๒ – ๒.๕ ซม. หนา ๐.๕ ซม ด้านหลัง มีตราวัดสัมพันธวงศ์ “เฑาะรัศมีดอกบัว อ.อุ.ม. ประทับลงในเนื้อเป็นตรารูปไข่ ขนาดของความหนาไม่แน่นอน หนาบ้าง บางเฉียบบ้าง แล้วแต่ขนาด

    พิธีพุทธาภิเษกที่วัดสัมพันธวงศ์ นั้นในวันที่ 3 มีนาคม 2499 มีพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมมานั่งปรกจำนวนมากเช่น หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อลีวัดอโศการามพระอาจารย์นอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา หลวงพ่อสด วัดโพธิ์แดงใต้ พระอาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี พระครูวินัยธร เฟื่อง พระอาจารย์สะอาด วัดสัมพันธวงศ์ หลวงพ่อเฮี้ยง วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี ฯลฯ

    พิธีพุทธาภิเษกที่วัดสารนาถธรรมาราม นั้นพระราชรัชมงคลโกวิท เจ้าอาวาสวัดสารนาถธรรมารามจ.ระยอง เคยไว้เล่าว่า พิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นภูริทตโต กว่าร้อยรูป มี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์วัน อุตตโม พระอาจารย์ลีวัดอโศการาม เป็นต้น ทำพิธีนั่งปรกพุทธาภิเษกพระประธาน และพระเครื่องต่าง ๆมีพระมงคลมหาลาภ พระพุทโธน้อย เป็นต้น โดยทำพิธี 18 วัน 18 คืนท่านเล่าต่ออีกว่าในชีวิตที่ท่านเกิดมา ยังไม่เคยเห็นพิธีพุทธาภิเษกที่ไหนใหญ่โตเท่าครั้งนี้อีกเลยในพิธีนี้แม่ชีบุญเรืยนได้อธิษฐานจิตร่วมอยู่ในพิธีด้วย
     
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7600.jpeg IMG_7601.jpeg IMG_7606.jpeg
    IMG_7602.png

    เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง พิมพ์แป๊ะยิ้ม ปี 2512

    บล็อกสอง หรือที่หลายๆ คนเรียกเหรียญยิ้มหวาน นับได้ว่าเป็นเหรียญพิมพ์หนึ่งของหลวงปู่ที่มีประสบการณ์มาแล้วมากมายเล่าขานกันไม่รู้จบชนิดเล่ากันแล้วเล่ากันอีก "ไม่มีเบื่อ" ซึ่งเล่นหากันมายาวนานของเก๊เกลื่อน ตัวจริงเริ่มพบเจอน้อย และหายากมากแล้วครับ รับประกันทุกสนาม สวยๆ แพงเลยครับ เหรียญนี้แค่ผ่านการใช้ จมูกยังโด่งๆครับ

    บูชา 2,900 บาท
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_7651.jpeg IMG_7652.jpeg IMG_7653.png IMG_7611.jpeg IMG_7613.png

    แม่ทองสร้อย ของ อ.วรา ปราการ+ฝังชิ้นอาถรรพ์

    แม่ทองสร้อย ของ อ.วราปราการ ประสบการณ์เยอะที่สุด เน้นด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม ว่ากันว่าถ้าเรื่องค้าขายโชคลาภ


    ประสบการณ์ ตามที่รับฟัง เมื่อจะต้องใช้งานให้ปลุกคาถา จนตนเองขนลุกก่อน และอธิฐานขอ แม่ทองสร้อยแรงมาก ถึงขนาดผู้ชายไปเที่ยวบาร์ผู้ชาย ยังได้ผู้ชายหน้าตาดีกลับมานอนด้วย(กรณีนี้คือผู้ชายเป็นเกย์ครับ)

    - แม่ทองสร้อย สร้างจาก ผงไม้ตะเคียน ผงเสน่ห์ยาเเฝดผงทางเมตตา ผงทางเสน่ห์ ผงปราชิก ผงกระไดแม่หม้าย ผงดินอาถรรพ์5ชนิด ผงใบไม้นามมงคล5ชนิด ผงที่หุงด้วยไฟธาตุมนุษย์ที่มีความต้องการ ผงว่านแก้วมณี(พญาดอกทอง)ตัวผู้และตัวเมีย ผงว่านดอกทองตัวผู้และตัวเมีย ผงว่านช้างผสมโขลง ผงพราย น้ำมันสาริกาดอกทอง ขี้ผึ้ง และผงพราย59ตน อ.เปล่ง บุญยืน
    - ใครที่หา ขุนแผนพราย59ตน ของ อ.เปล่งไม่ได้ ใช้รุ่นนี้แทนได้เลยครับ ถ้าคนที่รู้ประวัติ จะรู้ว่า ตอนที่ อ.เปล่งสร้าง 59 พราย เสร็จ ได้นำมาให้ อ.วรา ช่วยเสกด้วย และเมื่อ อ.วรา สร้างเครื่องรางของท่านเอง ท่านจึงนำ ผงจาก 59พราย ที่ อ.เปล่งทิ้งไว้ให้ ผสมลงไปด้วย ถ้าใครที่เคยเห็นเนื้อ ของพราย 59 ตน(สีขาว) จะ เห็นความใกล้เคียง ในเนื้อขององค์นี้ครับ ทุกวันนี้ อ.วรา ท่านเสียแล้วนะครับ นับวันมีแต่ของจะหายาก

    แม่ทองสร้อยพรายเลือดมหาเสน่ห์ นอกจากจะบูชาทางด้านมหาเสน่ห์แล้ว จากประสบการณ์จริงๆของกระผมนั้น แม่ทองสร้อยพรายเลือด ยังสามารถบูชาใช้ในด้านป้องกันภัย โชคลาภ ดลจิตดลใจคนก็ได้เช่นกัน ทุกๆครั้งที่อารธนาบอกกล่าวกับแม่ทองสร้อยขอให้ช่วยในเรื่องใดก็ตาม จะต้องพูดกับแม่ทองสร้อยด้วยวาจาไพเราะ เช่น แม่ครับ แม่ช่วยผมให้ได้สำเร็จเรื่องนั้นนะ ถ้าผมได้สำเร็จสมดังปรารถนา ผมจะซื้อทองสวยๆมาให้แม่ใส่นะครับ เป็นต้น ทุกๆครั้งที่บนด้วยเครื่องประดับ ของสวยงาม เช่น ทอง แหวน มักจะประสบความสำเร็จเสมอ ตรงนี้ก็แล้วแต่นะครับ ว่าผู้บูชาจะบนบานด้วยสิ่งใด

    วิธีบูชาแม่ทองสร้อยนั้นก็จะคล้ายๆกับการบูชาเครื่องรางมหาเสน่ห์ หรือวิธีใช้แม่เป๋อทั่วไปคือ ต้องจุดธูป 16 ดอก บอกกล่าวขออนุญาติเจ้าที่เจ้าทางก่อน จุดธูปบูชาแม่ทองสร้อย 1 ดอก เซ่นไหว้ด้วยเหล้าขาว ยำเผ็ดๆ พวงมาลัย แค่นี้ครับ ส่วนการบนบาน ให้บนด้วยทอง แหวน เครื่องประดับสวยงาม ตามแต่สิ่งที่ท่านบนขอ นอกนั้นก็ถ้ามีโอกาส ให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แม่ทองสร้อยบ้าง กรวดน้ำอุทิศให้ก็ได้ครับ ทำบ่อยๆ ได้บุญทั้งแม่ทองสร้อยและก็ตัวเราเองด้วยครับ

    คาถาบูชาแม่ทองสร้อย อาจารย์วรา ปราการ

    เอหิปิสา จะมาเรโส จะโสมาเร เอหิมะมะ มามา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2024
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7614.jpeg IMG_7615.jpeg

    รูปหลวงปู่ฝั่น อาจาโร ออกวัดป่าอุดมสมพร ปี2517

    เลี่ยมเก่าคลาสสิคสุดๆ เป็นรูปล็อคเก็ตที่แท้ทันท่านปลุกเสกให้ เป็นของดีราคาเบาๆที่น่าบูชา รับประกันแท้ถึงนุค

    บูชา 600 บาท
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_7616.jpeg IMG_7617.jpeg

    ล็อคเก็ต หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง

    ด้านหน้าเป็นภาพสีย้อนยุค ด้านหลังเป็นรูปขาวดำที่แท้ทันท่าน แปะเกศา แกะออกจากกรอบทองคำแท้ ที่เจ้าของเดิมเลี่ยมใช้มา รับประกันแท้สากล

    บูชา 2,500 บาท

    พระครูภาวนาภิมนฑ์ หลวงปู่สุข ธรรมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิดังของอีสานใต้
    ...หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ท่านนับเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านพบหลวงปู่สุข คราวปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะ ท่านดังมาก ซึ่งเวลาพักจากปลุกเสกในพิธีนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านทราบได้ด้วยจิต ว่าหลวงปู่สุขท่านเก่งมากมีพลังจิตแก่กล้ามาก เวลาพักปลุกเสกท่านให้ลูกศิษย์พาเข้าไปกราบหลวงปู่สุขเลย และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภายหลังท่านได้ต่อวิชาหลายอย่างจากหลวงปู่สุข ขณะปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษนั้น ฝนตกหนัก ลูกศิษย์ท่านก็เอาใบจากมาทำเพิงบังฝน ลูกศิษย์เปียกปอนกันหมด แต่หลวงปู่สุขท่านจีวรไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักสิทธิ์ หลวงปู่สุขท่านเป็น"พระอรหันต์"ในที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคงวัดถนนหักใหญ่ซึ่งหลวงพ่อคงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมีคนเอาของของท่านไปลอง เป็นเครื่องยาสมุนไพรเป็นว่าน ท่านเอามาห่อผ้าให้คนเอาไปใช้บูชา ดีทางมหาอุดมาก ยิงไปนัด1นัด2ไม่ออก พอนัด3ปืนแตก มือแหก การเสกของท่านคล้ายกันกับหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค คือจับๆแล้วเป่าๆแค่นั้น

    ...มีผู้กล่าวว่าท่านสำเร็จวิชาย่นระยะทางไป – กลับได้ กำหนดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำในการทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆไว้ล่วงหน้าได้จริงเหมือนตาเห็น สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ตลอดจนคุณวิเศษต่างๆ ได้โดยไม่เคยอวดอ้าง ซึ่งวิชาดังกล่าวจะบังเกิดเฉพาะท่านที่ปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งได้ญาณสมาบัติขั้นสูงถึงขั้นอภิญญา 6 เท่านั้น อภินิหาร พุทธาคม และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าสืบทอดกันมา...
    " ดังเมื่อย้อนไปครั้งที่ครูบาสร้อย ขันติสาโร ศิษย์เอก ในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงปู่สุขอยู่นั้น ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลา จึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง ซึ่งการมรณะ(วิญญาณหลุดจากร่างไป)ครั้งนี้ ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็ม ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงปู่สุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมาได้ (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)
    ...ท่านมีอภิญญาสูงเปี่ยมเวทย์วิทยาคม มีเมตตาไม่เคยยึดติด สมถะเรียบง่าย ไม่สะสม และไม่ยินดีในลาภยศสรรเสริญ เช่นที่หลวงปู่เคยกล่าวในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูฯว่า " ก็ข้าเป็นพระแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรอีก "...ท่านนิยมสอนสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับบุคคลโดยทั่วไป ผู้ถือศีล สามเณร และพระภิกษุ โดยท่านจะให้ผู้ขอขึ้นกัมฏฐานกับท่านใช้องค์ภาวนาซึ่งเป็นภาษาเขมรว่า “อะ อา แอ๊ก ไอ นะ นู เน นิ นัง”

    ...ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบกันดีว่า หลวงปู่สุขท่านเก่งและสำเร็จในเรื่องยันต์ "นะ"...อย่างที่หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม(ลูกศิษย์ผู้ได้รับมองคันธนูอาคมจากหลวงปู่สุข) ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่า " หลวงพ่อสุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมาย ท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลัง ซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้ "...ท่านยังบอกอีกว่า " หลวงพ่อสุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร " และหลวงปู่สุขท่านไม่ค่อยจารวัตถุมงคลกันง่ายๆ ซึ่งจะหาวัตถุมงคลที่มีรอยจารได้ยากมากๆ คนทั่วไปมักรู้จักหรือได้ยินได้ฟังประสบการณ์ของหลวงปู่ด้านเหนียว คงกระพันเป็นหลัก หากแต่ยังไม่รู้ถึงด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ทีมีครบเครื่องเช่นเดียวกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2024
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7618.jpeg IMG_7619.jpeg IMG_7620.png

    พระผงผสมเกศารุ่นแรก ครูบาเจ้าบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง ปี 36

    เนื้อว่าน ...เห็น..เส้นเกศา. ตอนแรงๆ หลายพันครับ

    บูชา 1,000 บาท รับประกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2024
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    จองแล้วครับ

    IMG_7625.jpeg IMG_7626.jpeg IMG_7627.jpeg IMG_7629.jpeg IMG_7630.jpeg IMG_7624.jpeg

    สิงห์มหาอำนาจ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

    rาแกะอยู่ในตลับสีผึ้งเก่าพร้อมตะกรุดเงินแท้ และตะกรุดหวาย

    บูชา 6,500
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2024
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิดครับ

    IMG_7643.jpeg IMG_7644.jpeg IMG_7645.png IMG_7646.png

    เหรียญกลมหลวงพ่อกวยย้อนยุค เนื้อเงินที่ระลึกทำบุญกฐินปี63

    ไม่มีกล่อง รับประกันแท้ ออกวัด 2,000 ครับ

    บูชา 1,400 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2024
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7680.jpeg IMG_7681.jpeg IMG_7682.jpeg

    เสือครูบาน้อย วัดบ้านปง เขียวหมูตันแกะ หายาก

    เสือครูบาน้อย ลูกศิษย์สายทหารพานได้เอาเขี้ยวเสือเขียวหมูป่าเอาไปให้ช่างเเกะเป็นเสือ เเล้วนำมาให้ครูบาน้อยปลุกเสก บางตัวครูบาก็เมตตาจารให้บางตัวก็ไม่ได้จาร มีหลากหลายขนาดทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กเสือครูบาน้อยได้สร้างหลายครั้งเนื่องเสือของท่านได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับผม พุธทคุณเสือของครูบาน้อยนั่นเด่นทางมหาอำนาจ กันสัตว์ร้าย ภัยอันตราย


    ตัวนี้มีจาร เก่า เขี้ยวตันจริงๆ รับประกัน

    บูชา 4,500 บาท
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7683.jpeg IMG_7686.jpeg IMG_7685.jpeg IMG_7684.jpeg

    เหรียญหล่อโบราณพิมพ์พระระฆังหลังฆ้อน ปี 2470 หลวงพ่อมหาเม่า วัดแหลมยาง พิจิตร

    หลวงพ่อมหาเม่า ท่านเป็นหนึ่งในลูกศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เคยเดินทางมาพำนักฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิชาที่วัดระฆัง เมื่อเดินทางกลับบ้านเกิด ณ วัดแหลมยางได้นำพระชัยท่านเจ้ามาและพระระฆังหลังฆ้อนติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่งเพื่อแจกลูกศิษย์และชาวบ้านแต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ได้รับ เมื่อท่านขึ้นครองเจ้าอาวาสจึงสร้างขึ้นใหม่โดยล้อพิมพ์เดิมเป็นเนื้อทองผสมหล่อเป็นแท่งแบบปะกบตะไบเก็บแต่ขนาดใหญ่กว่าเดิมหน่อย [(วัดระฆังสร้างปี 2453-2457, และ 2458-2470) (วัดแหลมยางสร้างปี 2470)] บางท่านว่าเป็นพระที่หลวงปู่ศุขสร้างให้พระมหาเม่านำมาแจก บางท่านว่าหลวงปู่ศุขร่วมเสกด้วย แต่ก็ถือเป็นพระเก่าที่น่าบูชา ด้วยราคาก็ไม่แดงครับ คนจึงนิยมพอสมควรครับ รับประกันแท้สากลถึงยุค

    บูชา 4,500 บาท
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7694.jpeg IMG_7695.jpeg IMG_7697.jpeg IMG_7696.jpeg IMG_7698.png

    พระพุทธชินราชเนื้อผง หลวงปู่เจิม วัดสระมงคล จังหวัดนครปฐม

    รุ่นนี้ปลุกเสกพร้อมเหรียญหันข้างและเสมา พระผงรุ่นนี้สร้างน้อยกว่าเหรียญน่าเก็บ รุ่นนี้จะได้มาพร้อมรูปถ่ายท่าน แท้ทันท่านปลุกเสก

    บูชา 700 บาท
     
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    IMG_7822.jpeg IMG_7823.jpeg IMG_7824.jpeg IMG_7706.jpeg

    ตะกรุดครั่งเหลือร้าย หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง

    1 ใน 9 เครื่อรางเมืองไทย-
    •"หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง ไม้ครูคู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะทอง แหวนอักขระต้องวัดหนองบัว ลูกแร่ที่วัดบางไผ่ หนุมาณพ่อสุ่นร้ายหาใดปาน ทุกสิ่งเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามญาตตรา ภัยมิกล้ามาแพ้วพาน" (เป็นยังไงครับอ่านถึงตรงนี้แล้วเครื่องรางที่กล่าวมาแต่ละชิ้นราคาว่ากัน เป็นแสนเป็นล้านก็จะมีแต่ลูกอม หรือตะกรุดพอกครั่งของ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง กับ พิศมรของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย

    ตะกรุดพอกครั่ง หลวงพ่อทองสุข แห่งวัดโตนดหลวง เป็นหนึ่งในของมงคลที่คำโบราณ มีคำกล่าวเอาไว้ว่า..."ถ้าชาตินี้ยังไม่ตาย ต้องหามาคู่กายให้ได้ ดอกนี้ดูง่าย

    พระ คาถาอาราธนาการใช้ครั่งพุทรา ของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี บทย่อ : นะ โม พุท ธา ยะ “ถ้ามีเวลาน้อยท่องแค่นี้” บทเต็ม : นะ โม พุท ธา ยะ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู อะคือตัวกู อุคือคนทั้งหลาย อะจะทำอะไร กูได้อุมนุษย์ศรัทธา ด้วยนะโมพุทธายะ ต่อข้าพเจ้าด้วยเถิด อะระหังพุทโธ พุทธะสังมิ อิสวาสุ.

    บูชา 14,000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2024
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,186
    ค่าพลัง:
    +53,094
    ปิด

    IMG_7765.jpeg IMG_7766.jpeg IMG_7764.jpeg

    พระกลับบัวศรีพรหมมินทร์ 2481

    คนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีเรียกพระรุ่นนี้ว่า “ศรีพรหมมินทร์” หรือ “นักเลงโต” โดยสืบเนื่องมาจาก เมื่อปี พ.ศ.2481 พระมหาพิน อิ่มสำราญ (หรือที่รู้จักในนามหลวงพ่อพิณ วัดอุบลฯ) เมื่อก่อนท่านเป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรมของวัดหลักห้า(ปัจจุบันชื่อ “วัดปราสาทสิทธ์”) มีความประสงค์สร้างโรงเรียน เพื่อเป็นที่สอนสั่งความรู้ให้แก่นักเรียนในชุมชน ท่านจึงปรึกษาเจ้าอาวาส(หลวงพ่อล้อม พรหมสโล) ซึ่งท่านก็เห็นดีด้วย จึงทำการสร้างโรงเรียนขึ้น (ปัจจุบันชื่อว่าโรงเรียนศรีพรหมมินทร์) ซึ่งในปี พ.ศ.2484 ท่านจึงสร้างพระเครื่องชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ในการส้รางโรงเรียน โดยหลวงพ่อพิณเป็นผู้อำนวยการจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้ตั้งแต่การเก็บรวบรวมชนวนมวลสาร การสร้างพระพุทธพิมพ์ และการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ยุคสงครามอินโดจีนมาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเศก โดยได้นิมนต์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่อรอด วัดบางน้ำวน, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้, หลวงพ่อชุ่ม วัดราชคาม, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น มาร่วมพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกในพระอุโบสถวัดปราสาทสิทธ์ตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า
    พระเครื่องชุดดังกกล่าวนี้มีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์พระสมเด็จคะแนน, พิมพ์หยดแป้ง, พิมพ์นาคปรก, พิมพ์พระสังกัจจายน์, พิมพ์กลีบบัว(จิ๋ว), พิมพ์กลีบบัว(ใหญ่), พิมพ์ปิดตา(ต้อ), พิมพ์ปิดตา(ชะลูด) เป็นต้น
    ++++++ สำหรับพระองค์นี้เป็นพิมพ์กลีบบัว เนื้อผงคลุกรัก ขนาดประมาณ 2.2X2.4 ซ.ม. เป็นอีกหนึ่งพระดีที่หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม และพระเกจิอาจารย์ยุคอินโดจีนร่วมเสกครับ ปัจจุบันหายาก

    บูชา 5,500 บาท รับประกันสากล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2024

แชร์หน้านี้

Loading...