พระเครื่องและของมงคล ให้บูชา

ปลัดขิกพ่อท่านแปลก วัดนาควารี(วัดหูล่อง)ชุดนี้รับมาพรัอมตะกรุด๕ดอก

• 
  
• 
  
• ปลัดขิกแกนไม้เมื้อยยุคแรกยัน4แถวนิยม พ่อท่านแปลก วัดนาควารี ปลัดเบอร์หนึ่งของภาคใต้ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับปาฏิหารย์มากมายไม่จบจากผู้เฒ่าคนแก่ที่อยู่ในยุคพ่อท่านแปลก ทั้งลากเรือเพรียวเข้าเส้นชัย ทั้งกันสัตว์มีพิษอย่างงูเห่า งูจงอาง ตะขาบพิษ ที่ชูหัวไม่ขึ้นเมื่อเจอปลัดของท่านทั้งเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม ฉายาหลวงพ่ออี๋เมืองใต้
• ตะกรุดผมไม่ได้ถ่ายรูป ปลัดกับตะกรุด ๕ดอก สมช.ท่านใดสนใจปิด(๗,๐๐๐ )

 

พระปิดตา รุ่นแรก เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงปู่ทองย้อย วัดอัมพวัน จ.นนทบุรี จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2553
ปิด


ในงานฝังลูกนิมิตพระอุโบสถวัดอัมพวัน มีพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่และเป็นครั้งแรกของวัดในการจัดสร้างวัตถุมงคล โดยเฉพาะพระปิดตาเนื้อแร่บางม่วง ได้นำแร่เก่าของหลวงปู่ดิษฐ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ซึ่งทางวัดอัมพวันได้เก็บรักษาไว้ (แร่จริงๆ ของจริงๆ) นำมาหล่อหลอมสร้างพระปิดตาเนื้อแร่บางม่วงรุ่นแรก ซึ่งแร่บางม่วงนั้นจะมีอานุภาพและคุณวิเศษมากมายจนไม่สามารถบรรยายได้หมดในที่นี้ ลักษณะองค์พระปิดตาเป็นพระเนื้อแร่บางม่วงล้วนๆ ทั้งองค์ ไม่มีอย่างอื่นผสมเลย และยิ่งไปกว่านั้นยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังนั่งปรกปลุกเสกประจุพลังพุทธาคมอย่างเข้มขลัง จึงทำให้พระปิดตาแร่บางม่วงรุ่นแรกโด่งดังไปทั่วด้วยประสบการณ์จริงต่างๆ มากมาย

รายชื่อพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสกพระปิดตา รุ่นแรก เนื้อเมฆสิทธิ์ วัดอัมพวัน ในงานฝังลูกนิมิตปี 2553 มีดังนี้

1.เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตร กทม.

2.หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา

3.หลวงพ่อพูล วัดบ้านแพน อยุธยา

4.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อยุธยา

5.หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ อยุธยา

6.หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี

7.หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี

8.หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี

9.หลวงปู่วาส วัดสะพานสูง นนทบุรี

10.หลวงพ่ออ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี

11.หลวงพ่อเกิด วัดโพธิ์แทน นครนายก

12.หลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุขโต ประจวบคีรีขันธ์

13.หลวงพ่อหนู วัดอัมพลนาราม ร้อยเอ็ด

14.หลวงพ่อสังเวียน วัดอุรนรเขต ร้อยเอ็ด
15.หลวงปู่ทองย้อย วัดอัมพวัน นนทบุรี

 

พระปิดตามหาเศรษฐี (ฝังกริ่ง) หลวงพ่อสังข์ วัดนากันตม.
ประวัติการสร้างพระรุ่นนี้ หลวงพ่อสังข์ได้นำผงพุทธคุณเก่าที่ทำเก็บไว้มาผสมกับดินสอพองและปั้นเป็นแท่งเขียนและลบผงขึ้นมาใหม่อีกรอบ เพื่อเป็งใจสร้างพรนการจะภควัมโดยเฉพาะ โดยเรียกสูตรลงอักขระคาถาพระอิติโสภุชฌงค์ซ่อนหัวและพระอิติโสภุชฌงค์ซ่อนหาง ตามสูตรภาคบังคับของการสร้างพระภควัมบดีตามคัมภีร์พระเวทโบราณ จากนั้นนำไปผสมกับผงที่บดเตรียมไว้แล้วของพืชที่มีใบเป็นไม้รู้นอน เช่น ไมยราพ กระเฉด กระถิน แค ดอกลำโพง เป็นต้น ต่อมานำไปผสมกับเกษรดอกไม้บางชนิด เช่น ดอกรักซ้อน ดอกพุดซ้อน ดอกมะลิซ้อน ดอกกาหลง และ อื่น ๆ อีกหลายอย่าง ที่สำคัญจะต้องผสมผงว่านบางชนิดตามตำราซึ่งจะขาดเสียมิได้เลย ซึ่งประกอบไปด้วย ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านพระฉิม ว่านพระเจ้า 5 พระองค์ ว่านหนุมาน ว่านกำแพง 7 ชั้น เป็นต้น คลุกเคล้าให้เข้ากันขณะทำก็บริกรรมคาถาอิติปิโส ฯ ไปตลอดเวลา เมื่อได้ที่แล้วจึงนำผงดังกล่าวไปกดในแม่พิมพ์ซึ่งหลวงพ่อแกะเตรียมไว้แล้ว ต่อมาจึงนำไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วนำไปลงรักและปิดทองทั้งองค์เป็นขั้นตอนสุดท้าย จึงจะได้องค์พระภควัมอย่างสูมบูรณ์ตามสูตร
เมื่อถึงวันเวลาอันเป็นฤกษ์ หลวงพ่อจึงเริ่มพิธีกรรมเข้าพิธีปลุกเสกโดยแต่งเครื่องสังเวยบูชาเทพยดาและสักการะบูชาบูรพาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทสรรพวิทยาคมให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามตำหรับตำราเสียก่อน เสร็จแล้วจึงได้นำพระทั้งหมดใส่ลงไปในบาตรพระครั้งละไม่มากนัก ประมาณ 40 - 50 องค์ต่อครั้ง นัยว่าเพื่อให้จำนวนพระพอประมาณอยู่ในก้นบาตรเท่านั้น เสร็จแล้วนำฝาบาตรปิดให้มิดชิด และเริ่มสวดคาถาพระอิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหัว - ซ่อนหาง สลับกันไปมาเรื่อยไปไม่หยุด จนกระทั่งได้ยินเสียงพระภควัมเริ่มเคลื่อนไหววิ่งวนเวียนอยู่ในบาตรและเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีเสียงกระทบบาตรดังหึ่มเหมือนแมลงภู่บิน กล่าวกันว่าห้ามเปิดฝาบาตรดูเด็ดขาด ถ้าเปิดพระภควัมจะกลายเป็นแมลงบินหนีหายไป ดังนั้นจะต้องบริกรรมคาถาไปเรื่อย ๆ จนกว่าเสียงดังหึ่มในบาตรจะหยุดไปเอง เมื่อเสียงสงบเงียบดีแล้วจึงจะถือว่าเสร็จพิธีการปลุกเสกบริกรรม เมื่อเปิดดูก็จะเห็นพระภควัมทั้งหมดทุกองค์นั่งสลอนเป็นระเบียบอยู่กลางบาตร และหันหน้ามาทางผู้ประกอบพิธีปลุกเสกเสมอจึงจะถือว่าใช้ได้ การปลุกเสกจึงเน้นคุณภาพ ไม่ได้เน้นปริมาณ การปลุกเสกแต่ละครั้ง ได้แค่บาตรละ 40 - 50 องค์ ต่อครั้งเท่านั้น
กล่าวกันว่าพระปิดตาที่ปลุกเสกตามตำรานี้มีพุทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แสดงอิทธิปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ใช้ได้ทุกอย่างครอบจักรวาล ตามแต่จะปรารถนาและอธิษฐานเอา เมื่อนำติดตัวไปจะทำให้มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นสิริมงคลบันดาลโชคลาภ ช่วยป้องกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง อีกทั้งแคล้วคลาด คงกระพันก็เคยปรากฏ มีกริ่งในองค์พระ หายาก เล็กแต่อานุภาพมหาศาล เปิดบูชา ( ๘,๐๐๐บาท)

 

เบี้ยแก้ รุ่น๑ ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร (นิโรธ ครั้งที่ ๙) ของเก่าขลังและมวลสารดี หายาก ปิด จริงแท้แค่ไหนดูรายละเอียดในใบฝอย
ปิด

 

ขอจองรายการนี้ครับ

 

รับทราบครับผม

 

ขอจองรายการนี้ครับ

 

รับทราบครับผม

 

เม็ดพริก เงินโบราณหายาก มีลูกกริ่งข้างในทั้งสองข้าง สุดคลาสสิค ปัจจุบันแทบจะกลายเป็นตำนานไปแล้ว เพราะพบเห็นกันน้อยมาก
เสน่ห์ของเครื่องรางโบราณที่เครื่องรางสมัยปัจจุบันหาไม่มี ยอดเครื่องรางหายาก ปัจจุบันแทบจะกลายเป็นตำนานไปแล้ว เพราะพบเห็นกันน้อยมากอานุภาพพุทธคุณของเม็ดพริกนั้นจะช่วยกันในทางป้องกันภัยต่างๆ ตลอดจน คุณไสย กันภูติผีปีศาจ และ เป็นมหานิยมกับผู้ใกล้ชิด พริกร้ายกลายเป็นดี จากดีเป็นดีแล้วดีอีก ดีเลิศประเสริฐศรี เก่าเก็บ ขนาดโตยาวปลายนิ้วก้อย ให้บูชา ๕๐๐บาท

 

พระสมเด็จวัดยวด ผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ ท่าวุ้ง ลพบุรี พิมพ์สมเด็จ ๙ชั้น หนึ่งเดียว
รายละเอียด วัดยวด เดิมชื่อวัดยวดยิ่งญาติการาม แต่มักจะเรียกกันสั้นๆว่า วัดยวดสร้างมาแล้วกว่า ๒๐๐ ปี แต่ประกาศถูกต้องมีวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๔๗๑ วัดนี้มีมีพระพุทธรูปสมบูลย์ลาภ (หลวงพ่อใหญ่) ปางค์เชียงแสนสิงห์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านสักการบูชาเป็นอันมาก

เมื่อครั้งวัดยวดทำการก่อสร้างหลวง พ่อใหญ่เสร็จ ได้ทำพิธีเบิกเนตรขึ้นในปี ๒๕๓๑ มีหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองเป็นประธานฯ ในการนี้ได้นำพระพิมพ์สมเด็จพิมพ์ต่างๆ ที่สร้างด้วยผงอิธิเจฯ จากกรุในวัดร้างโบราณที่อยู่ใกล้เคียงกันชื่อวัดสัมฤทธิ์ เข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย

อันผงวัดสัมฤทธิ์ หรือที่หลายคนเรียกว่าผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ตั้งแต่การใช้แก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ มีตัวอย่างสำคัญๆที่ต้องเล่าเป็นการเฉพาะเท่านั้น มีพุทธคุณด้านปกป้กษ์คุ้มครองมากมายทั้งรถยนต์การเดินทาง และแม้แต่ในสนามรบทหารหาญๆเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดี และพุทธคุณ ที่หลายคนปรารถนาคือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จสมดังความปราถนาได้ทุกประการ ...!!! แม้แต่ในพื้นที่วัดสัมฤทธิ์ เวลานี้ มีการเจาะบ่อบาดาลใกล้ๆกับแหล่งที่พบผงอิธิเจนี้ น้ำที่โยกขึ้นมาก็กลายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้
ประสบการณ์ผงหลวงพ่อ สัมฤทธิ์แก้ดวงตก แก้กรรมได้ เคยมีคนชะตาตกแบบที่เรียกว่าคอขาด หรือถึงฆาต พระอาจารย์พิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ จ.อยุธยา ก็ได้ใช้ผงฯ นี้ทำน้ำมนต์ให้อาบ และดื่มกินทุกวัน จนถึงวันจะกลับบ้านท่านก็ให้พระสมเด็จวัดยวดแขวนคอไปด้วย แต่ด้วยความที่ดวงไม่ดีก็ไปเจอเรื่องเข้าอีกจนได้ คราวนี้เจอคู่อริรุมซ้อมแต่ก็หนีเอาตัวรอดกลับมาได้ ปรากฎว่าร่างกายไม่บอบช้ำบาดเจ็บมากนัก แต่พระสมเด็จวัดยวดที่ห้อยคอไปถึงกับหักเป็นสองท่อนทั้งที่อยู่ในเลี่ยมตลับ สเตนเลสอย่างดี ? หรือว่าพระสมเด็จที่ห้อยคอท่านจะมารับกรรมแทนตน !!?? จนเจ้าตัวอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้

ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เกี่ยวการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ผู้บูชาต้องระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และผู้สร้างผงฯนี้เก็บไว้ เพื่ออธิษฐานของสิ่งที่ตนต้องการ เพราะตอนที่ผู้ทำการลบผงนี้ในสมัยนั้นขณะทำการลบผงท่านได้วางอารมณ์ไว้ที่”อุเบกขา”คือการวางเฉย เราจึงต้องอธิษฐานขอสิ่งที่ปรารถนาจากผงนี้จึงจะสัมฤทธิ์ผล เคยมีนายทหารกลุ่มหนึ่งบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่นั้นมาจึงเกิดการไล่ตามเก็บเช่าบูชากันมาก ทำให้พระวัดยวดที่เคยแจกจ่ายออกมาจากวัดยวดหายไปจนไม่ค่อยมีใครพบเห็นอีกเลย ดังนั้นข้าราชการท่านใดที่ต้องการให้สมประสงค์เรื่องเลื่อนขั้นเลื่องตำแหน่งก็ควร จะมีไว้บูชา ท่านใดที่มีแล้วอย่าลืมท่านต้องระลึกถึงผู้สร้างและหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพื่อ อธิษฐานขอแล้วท่านจะประสบผลตามสมประสงค์ทุกประการ
ผงวัดสัมฤทธ์นี้ มีพระเกจิอาจารย์หลายท่าน นำไปสร้างเป็นพระเครื่อง และอธิษฐานขอให้การสร้างวัดประสบผลสำเร็จ ก็สามารถสร้างวัดได้สำเร็จมาแล้วหลายวัดด้วยกัน รวมทั้งมีพระอาจารย์บางท่านได้ทำการก่อสร้างจนเป็นหนี้สินมากมายมหาศาล แต่ก็สามารถอธิษฐานขอ จนหมดหนี้หมดสินและสร้างวัดได้สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

ผงวัด สัมฤทธิ์ คือ ผงอิธิเจ ที่คาดว่าน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ ๔๐๐ ปีขึ้นไป เพราะวัดสัมฤทธิ์นี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในยุคอยุธยาตอนกลาง น่าจะราวๆสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พบใบลานจารอักขรบอกไว้ว่าเป็นผงอิธิ เจ) ปาฏิหารย์ของผงนี้จึง มีมากมาย เป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรี และอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดหลายๆวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง แม้แต่พระอาจารย์พิจารย์ แห่งวัดโพธิผักไห่ ยอดเกจิด้านผงพุทธคุณในยุคปัจจุบันยังใช้ผงฯนี้ไปผสมสร้างพระเครื่องของท่าน จนปัจจุบันนี้หาผงฯนี้เกือบจะหาอีกไม่ได้อีกแล้ว คงเหลืออยู่เล็กๆ น้อยๆ กับคนที่รู้จริงและบรรจุใส่ตลับบ้าง ใส่หลอดบ้างเอาไว้บูชากัน แต่ก็หวงแหนกันยิ่งชีวิตครับ !!!!!

"วัดสัมฤทธิ์" ตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ ๑๒ ตำบลหัวสำโรง สันนิษฐานว่า ได้สร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และได้กลายสภาพเป็นวัดร้างไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ เพราะหนีภัยสงครามพม่า ที่วัดสัมฤทธิ์มีพระพุทธรูป ซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากอยู่ ๓ องค์ มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรกันมิขาดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีผู้ได้พบผงศักดิ์สิทธิ์ ซึ้งเชื่อกันว่าเป็นผง “อิทธิเจ” ซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่บางส่วนอีกด้วย ปัจจุบันนี้ ได้มีผู้มีจิตศรัทธาได้มาก่อสร้างใหม่ จนหาร่องรอยของความเป็นวัดร้างไม่ได้เลย

พระ สมเด็จวัดยวดเนื้อผงอิธิเจจากกรุวัดสัมฤทธิ์ รุ่นเบิกเนตรหลวงพ่อใหญ่นี้ สร้างโดยหลวงตายม แต่หลวงพ่อท่านเรียกว่า "พระนิยม" หลวงตายม เดิมชื่อนิยม เจียมอยู่ เกิดเมื่อปีมะโรง พ.ศ.๒๔๗๖ จบการศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง ยึดอาชีพส่วนตัวด้านช่างศิลป์มาโดยตลอดและมิได้มีครอบครัวเพราะจิตใจฝักไฝ่ ในงานศิลป์เป็จชีวิตจิตใจ จนเข้าบวชที่วัดยวด เมื่อปี ๒๕๒๖ มีพระครูอนุยุตศาสนกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่บวชแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรม และบำเพ็ญตนเป็นสาธารณะประโยชน์ โดยเฉพาะงานด้านช่างศิลป์ของวัดยวดทั้งหมดจะเป็นภาระของท่าน
เมื่อมีการ ขุดค้นพบกรุวัดสัมฤทธิ์ ได้มีญาติโยมนำผงอิธิเจจำนวนมากมาถวายท่าน ท่านจึงดำริสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆ ให้พุทธศาสนิกชนได้ติดตัวบูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
แรกเริ่มท่าน ได้แกะแม่พิมพ์ และผสมเนื้อผงขึ้นมาเองแบบลองผิดลองถูก มีหลักฐานปรากฏเป็นพระพิมพ์ที่เนื้อร่วนซุย หักชำรุด และแม่พิมพ์ต่างๆที่ใช้งานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เป็นจำนวนมาก
จนในที่สุดหลวงตายม ก็สามารถนำผงอิธิเจล้วนๆ มาสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆได้สำเร็จ ท่านสร้างเองตามลำพังมีคนอื่นช่วยบ้างเป็นบางครั้ง บ้างก็ช่วยหาผงฯ มาให้ บ้างก็ช่วยท่านตำผงที่จับแข็งเป็นก้อน แต่ท่านจะกดพระใส่พิมพ์ด้วยตัวท่านเองทั้งหมด
เวลาวัดมีงานท่านจะนำพระ พิมพ์เนื้อผงฯวัดสัมฤทธิ์นี้เข้าร่วมพิธีสำคัญต่างๆ ทุกครั้ง พร้อมทั้งท่านมักจะเตรียมพระสมเด็จวัดยวดนี้ ปั๊มตราวัดที่ด้านหลัง ใส่ซองพลาสติก(ซองยา) ใส่จนเต็มบาตรไว้ให้ท่านเจ้าอาวาสแจกเป็นของชำร่วยแก่คณะกฐิน - ผ้าป่า คณะนักร้องนักดนตรี ที่มาแสดงในงานวัดยวด หรือแม้แต่คนที่มาทำบุณรายเล็กรายน้อย เรียกว่าทำขึ้นมาเพื่อแจกเท่านั้นมิได้จำหน่ายหาเงินเข้าวัดแต่ประการใด
บั้น ปลายชีวิตของหลวงตายม ยามชราภาพเป็นไปตามสังข์สารวัตร ท่านอาพาธหนักญาติโยมของท่านจึงมารับท่านไปพยาบาลรักษาที่จังหวัดเชียงใหม่ และในที่สุดท่านก็ได้ลาจากโลกนี้ไปอย่างสงบ

พระสมเด็จวัดยวดที่แจกใน งานพิธีเบิกเนตรเมื่อปี ๒๕๓๑ นั้น จะปั๊มตราวัดไว้ด้านหลังด้วยหมึกสีแดง แต่พอแจกพระที่ปั๊มตราวัดจนหมดลง หลวงพ่อก็ได้นำพระที่ไม่ได้ปั๊มมาแจกต่อ พระจึงมีทั้งที่ปั๊มและไม่ได้ปั๊ม ส่วนพระที่เหลืออยู่ที่วัดก็ไม่ได้ปั๊มตราอีก คงทิ้งไว้เช่นนั้นจนทุกวันนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ว่าจะปั๊มตราวัดหรือไม่ปั๊มตราปัจจุบันก็เริ่มหาพบได้ยากแล้ว เพราะผู้รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ต่างพากันเสาะหาไปเก็บไว้ จนทำให้แทบหาไม่พบอีกเลย เปิด ๙,๕๐๐บาท

 

โปรพิเศษ วันแม่ ๑๒ สิงหาคม พระสมเด็จนางพญา เนื้อสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม อาจจะเป็นของหลวงกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
เปิดที่ ๕๐๐บาท เหลือ ๓๐๐บาท

 

ตะกรุดสาริกาคู่ หลวงพ่อบัวลอย ญาณรักขิโต วัดน้อยอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
เปิดที่ ๑,๐๐๐บาท

 

พระสมเด็จวัดยวด ผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ ท่าวุ้ง ลพบุรี พิมพ์สมเด็จ ๙ชั้น หนึ่งเดียว
รายละเอียด วัดยวด เดิมชื่อวัดยวดยิ่งญาติการาม แต่มักจะเรียกกันสั้นๆว่า วัดยวดสร้างมาแล้วกว่า ๒๐๐ ปี แต่ประกาศถูกต้องมีวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๔๗๑ วัดนี้มีมีพระพุทธรูปสมบูลย์ลาภ (หลวงพ่อใหญ่) ปางค์เชียงแสนสิงห์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านสักการบูชาเป็นอันมาก

เมื่อครั้งวัดยวดทำการก่อสร้างหลวง พ่อใหญ่เสร็จ ได้ทำพิธีเบิกเนตรขึ้นในปี ๒๕๓๑ มีหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองเป็นประธานฯ ในการนี้ได้นำพระพิมพ์สมเด็จพิมพ์ต่างๆ ที่สร้างด้วยผงอิธิเจฯ จากกรุในวัดร้างโบราณที่อยู่ใกล้เคียงกันชื่อวัดสัมฤทธิ์ เข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย

อันผงวัดสัมฤทธิ์ หรือที่หลายคนเรียกว่าผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ตั้งแต่การใช้แก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ มีตัวอย่างสำคัญๆที่ต้องเล่าเป็นการเฉพาะเท่านั้น มีพุทธคุณด้านปกป้กษ์คุ้มครองมากมายทั้งรถยนต์การเดินทาง และแม้แต่ในสนามรบทหารหาญๆเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดี และพุทธคุณ ที่หลายคนปรารถนาคือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จสมดังความปราถนาได้ทุกประการ ...!!! แม้แต่ในพื้นที่วัดสัมฤทธิ์ เวลานี้ มีการเจาะบ่อบาดาลใกล้ๆกับแหล่งที่พบผงอิธิเจนี้ น้ำที่โยกขึ้นมาก็กลายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้
ประสบการณ์ผงหลวงพ่อ สัมฤทธิ์แก้ดวงตก แก้กรรมได้ เคยมีคนชะตาตกแบบที่เรียกว่าคอขาด หรือถึงฆาต พระอาจารย์พิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ จ.อยุธยา ก็ได้ใช้ผงฯ นี้ทำน้ำมนต์ให้อาบ และดื่มกินทุกวัน จนถึงวันจะกลับบ้านท่านก็ให้พระสมเด็จวัดยวดแขวนคอไปด้วย แต่ด้วยความที่ดวงไม่ดีก็ไปเจอเรื่องเข้าอีกจนได้ คราวนี้เจอคู่อริรุมซ้อมแต่ก็หนีเอาตัวรอดกลับมาได้ ปรากฎว่าร่างกายไม่บอบช้ำบาดเจ็บมากนัก แต่พระสมเด็จวัดยวดที่ห้อยคอไปถึงกับหักเป็นสองท่อนทั้งที่อยู่ในเลี่ยมตลับ สเตนเลสอย่างดี ? หรือว่าพระสมเด็จที่ห้อยคอท่านจะมารับกรรมแทนตน !!?? จนเจ้าตัวอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้

ประสบการณ์ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เกี่ยวการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ผู้บูชาต้องระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และผู้สร้างผงฯนี้เก็บไว้ เพื่ออธิษฐานของสิ่งที่ตนต้องการ เพราะตอนที่ผู้ทำการลบผงนี้ในสมัยนั้นขณะทำการลบผงท่านได้วางอารมณ์ไว้ที่”อุเบกขา”คือการวางเฉย เราจึงต้องอธิษฐานขอสิ่งที่ปรารถนาจากผงนี้จึงจะสัมฤทธิ์ผล เคยมีนายทหารกลุ่มหนึ่งบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่นั้นมาจึงเกิดการไล่ตามเก็บเช่าบูชากันมาก ทำให้พระวัดยวดที่เคยแจกจ่ายออกมาจากวัดยวดหายไปจนไม่ค่อยมีใครพบเห็นอีกเลย ดังนั้นข้าราชการท่านใดที่ต้องการให้สมประสงค์เรื่องเลื่อนขั้นเลื่องตำแหน่งก็ควร จะมีไว้บูชา ท่านใดที่มีแล้วอย่าลืมท่านต้องระลึกถึงผู้สร้างและหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพื่อ อธิษฐานขอแล้วท่านจะประสบผลตามสมประสงค์ทุกประการ
ผงวัดสัมฤทธ์นี้ มีพระเกจิอาจารย์หลายท่าน นำไปสร้างเป็นพระเครื่อง และอธิษฐานขอให้การสร้างวัดประสบผลสำเร็จ ก็สามารถสร้างวัดได้สำเร็จมาแล้วหลายวัดด้วยกัน รวมทั้งมีพระอาจารย์บางท่านได้ทำการก่อสร้างจนเป็นหนี้สินมากมายมหาศาล แต่ก็สามารถอธิษฐานขอ จนหมดหนี้หมดสินและสร้างวัดได้สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

ผงวัด สัมฤทธิ์ คือ ผงอิธิเจ ที่คาดว่าน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ ๔๐๐ ปีขึ้นไป เพราะวัดสัมฤทธิ์นี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในยุคอยุธยาตอนกลาง น่าจะราวๆสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(พบใบลานจารอักขรบอกไว้ว่าเป็นผงอิธิ เจ) ปาฏิหารย์ของผงนี้จึง มีมากมาย เป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรี และอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดหลายๆวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง แม้แต่พระอาจารย์พิจารย์ แห่งวัดโพธิผักไห่ ยอดเกจิด้านผงพุทธคุณในยุคปัจจุบันยังใช้ผงฯนี้ไปผสมสร้างพระเครื่องของท่าน จนปัจจุบันนี้หาผงฯนี้เกือบจะหาอีกไม่ได้อีกแล้ว คงเหลืออยู่เล็กๆ น้อยๆ กับคนที่รู้จริงและบรรจุใส่ตลับบ้าง ใส่หลอดบ้างเอาไว้บูชากัน แต่ก็หวงแหนกันยิ่งชีวิตครับ !!!!!

"วัดสัมฤทธิ์" ตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ ๑๒ ตำบลหัวสำโรง สันนิษฐานว่า ได้สร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง และได้กลายสภาพเป็นวัดร้างไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ เพราะหนีภัยสงครามพม่า ที่วัดสัมฤทธิ์มีพระพุทธรูป ซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากอยู่ ๓ องค์ มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรกันมิขาดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีผู้ได้พบผงศักดิ์สิทธิ์ ซึ้งเชื่อกันว่าเป็นผง “อิทธิเจ” ซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่บางส่วนอีกด้วย ปัจจุบันนี้ ได้มีผู้มีจิตศรัทธาได้มาก่อสร้างใหม่ จนหาร่องรอยของความเป็นวัดร้างไม่ได้เลย

พระ สมเด็จวัดยวดเนื้อผงอิธิเจจากกรุวัดสัมฤทธิ์ รุ่นเบิกเนตรหลวงพ่อใหญ่นี้ สร้างโดยหลวงตายม แต่หลวงพ่อท่านเรียกว่า "พระนิยม" หลวงตายม เดิมชื่อนิยม เจียมอยู่ เกิดเมื่อปีมะโรง พ.ศ.๒๔๗๖ จบการศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง ยึดอาชีพส่วนตัวด้านช่างศิลป์มาโดยตลอดและมิได้มีครอบครัวเพราะจิตใจฝักไฝ่ ในงานศิลป์เป็จชีวิตจิตใจ จนเข้าบวชที่วัดยวด เมื่อปี ๒๕๒๖ มีพระครูอนุยุตศาสนกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่บวชแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรม และบำเพ็ญตนเป็นสาธารณะประโยชน์ โดยเฉพาะงานด้านช่างศิลป์ของวัดยวดทั้งหมดจะเป็นภาระของท่าน
เมื่อมีการ ขุดค้นพบกรุวัดสัมฤทธิ์ ได้มีญาติโยมนำผงอิธิเจจำนวนมากมาถวายท่าน ท่านจึงดำริสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆ ให้พุทธศาสนิกชนได้ติดตัวบูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
แรกเริ่มท่าน ได้แกะแม่พิมพ์ และผสมเนื้อผงขึ้นมาเองแบบลองผิดลองถูก มีหลักฐานปรากฏเป็นพระพิมพ์ที่เนื้อร่วนซุย หักชำรุด และแม่พิมพ์ต่างๆที่ใช้งานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เป็นจำนวนมาก
จนในที่สุดหลวงตายม ก็สามารถนำผงอิธิเจล้วนๆ มาสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆได้สำเร็จ ท่านสร้างเองตามลำพังมีคนอื่นช่วยบ้างเป็นบางครั้ง บ้างก็ช่วยหาผงฯ มาให้ บ้างก็ช่วยท่านตำผงที่จับแข็งเป็นก้อน แต่ท่านจะกดพระใส่พิมพ์ด้วยตัวท่านเองทั้งหมด
เวลาวัดมีงานท่านจะนำพระ พิมพ์เนื้อผงฯวัดสัมฤทธิ์นี้เข้าร่วมพิธีสำคัญต่างๆ ทุกครั้ง พร้อมทั้งท่านมักจะเตรียมพระสมเด็จวัดยวดนี้ ปั๊มตราวัดที่ด้านหลัง ใส่ซองพลาสติก(ซองยา) ใส่จนเต็มบาตรไว้ให้ท่านเจ้าอาวาสแจกเป็นของชำร่วยแก่คณะกฐิน - ผ้าป่า คณะนักร้องนักดนตรี ที่มาแสดงในงานวัดยวด หรือแม้แต่คนที่มาทำบุณรายเล็กรายน้อย เรียกว่าทำขึ้นมาเพื่อแจกเท่านั้นมิได้จำหน่ายหาเงินเข้าวัดแต่ประการใด
บั้น ปลายชีวิตของหลวงตายม ยามชราภาพเป็นไปตามสังข์สารวัตร ท่านอาพาธหนักญาติโยมของท่านจึงมารับท่านไปพยาบาลรักษาที่จังหวัดเชียงใหม่ และในที่สุดท่านก็ได้ลาจากโลกนี้ไปอย่างสงบ

พระสมเด็จวัดยวดที่แจกใน งานพิธีเบิกเนตรเมื่อปี ๒๕๓๑ นั้น จะปั๊มตราวัดไว้ด้านหลังด้วยหมึกสีแดง แต่พอแจกพระที่ปั๊มตราวัดจนหมดลง หลวงพ่อก็ได้นำพระที่ไม่ได้ปั๊มมาแจกต่อ พระจึงมีทั้งที่ปั๊มและไม่ได้ปั๊ม ส่วนพระที่เหลืออยู่ที่วัดก็ไม่ได้ปั๊มตราอีก คงทิ้งไว้เช่นนั้นจนทุกวันนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ว่าจะปั๊มตราวัดหรือไม่ปั๊มตราปัจจุบันก็เริ่มหาพบได้ยากแล้ว เพราะผู้รู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ต่างพากันเสาะหาไปเก็บไว้ จนทำให้แทบหาไม่พบอีกเลย องค์นี้ยุคต้นอ่อนน้ำประสาน ถ้าบดทำเป็นมวลสารผสมสร้างพระได้เป็นแสนองค์ เปิดที่ ๙,๕๐๐บาท ใบหน้ามีก้อนมลสารผงอิทธะเจ เก่าเก็บตามสภาพ พระรุ่นนี้และผงอิทธะเจที่วัดสัมฤทธิ์ ครูบาอาจารย์สายชัยนาท อ่างทอง อยุธยา นำมาเป็นมวลสารสร้างพระเครื่อง

 

เบี้ยแก้หลวงปู่สิมพลี ธรรมวโร ว้ดป่าวิชัยรวมมิตร มี๒องค์ วิธีบูชาดูรายละเอียดตามใบฝอย เฮงๆรวยๆมาเยอะ เหลือมาให้บูชาก้น ถูกใจรักชอบศรัทธาชอบใจพอใจบูชาไป ปิด

 

ขอจองบูชา2ชิ้นครับ

 

รับทราบครับท่าน

 

พระสมเด็จแหวกม่านหลวงพ่อกวยลองพิมพ์ปี๓๙ ผมได้มาตอนเป็นหัวหน้าสายผ้าป่าสามัคคีปี๒๕๓๙ เปิด ๒องค์สุดท้าย องค์ที่ ๑บนเปิด ๑,๐๐๐บาท ,องค์ที่ ๒ล่างเปิด ๘๐๐บาท พิมพ์ตามสภาพ เนื้อไม่ยุ่ยแต่ถ้าถูแรงๆผงมวลสารติดมือตอนลองพิมพ์ผสมน้ำประสานน้อย รุ่นนี้มวลสารเต็มร้อย ถ้าบดทำเป็นมวลสารสร้างพระได้เป็นหมื่นเป็นแสนองค์ ๒องค์นี้อายุการเก็บปี๒๕๓๙ถีงปี๒๕๖๖ เป็นเวลา๒๗ปี

 

พระสมเด็จวัดพยาญาติ ปี๒๕๓๙ เปิด ๒๐๐บาทกับพระสมเด็จ บริษัท กรุงไทยแทร๊คเตอร์ สร้างถวาย เปิด ๑๕๐บาท พิเศษ๒องค์ ๒๕๐บาท

 

พระสมเด็จวัดพยาญาติ ปี๒๕๓๙ เปิด ๒๐๐บาทกับพระสมเด็จ บริษัท กรุงไทยแทร๊คเตอร์ สร้างถวาย เปิด ๑๕๐บาท พิเศษ๒องค์ ๒๕๐บาท

 

พระสมเด็จไม่ทราบที่ ๒องค์ ปิด