ป่วยเข้าโรงพยาบาลติดเชื้อ HIV กับการทดสอบมโนมยิทธิของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย thepsak, 11 ธันวาคม 2011.

  1. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819
    สาธุค่ะ คุณ โมกขทรัพย์ ช่วยนำเรื่องราวที่ท่านได้ปฏิบัติ และฝึกมโนมยิทธิมา เล่าเป็นธรรมทาน ได้มั๊ยค่ะ ชอบอ่านมากค่ะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
     
  2. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    รักษาศีลเจริญสมาธิเยอะๆคับก็ช่วยได้เยอะคับ พิจารณาอสุภะกรรมฐาน และงดกินผงชูรส เจริญสติเยอะๆคับ ป่วยกายไม่ป่วยจิต เรามีความแตกดับเป็นธรรมดาไม่มีใครพ้น ช้าเร็วเป็นโรคไม่เป็นโรคก็ต้องตายเหมือนกัน อ้อยแม้เข้าสู่หีบจักรก็ไม่ทิ้งรสหวานฉันใด บัณฑิตแม้ตกอยู่ในที่ลำบากก็ไม่ทิ้งธรรมฉันนั้น ยังไงก็ขอให้คุณหายเป็นปกติไวๆนะคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2017
  3. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    เพิ่งเข้ามาอ่านเจอ ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้
    ให้สุขภาพแข็งแรง ต้านโรคร้ายให้ได้นะคะ สู้ๆๆค่ะ
     
  4. Poom_:)

    Poom_:) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +466
    เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ
     
  5. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ
    ขอให้หายไวๆ
     
  6. Poom_:)

    Poom_:) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +466
    เจ้าของกระทู้ทำไมเงียบจังครับ :mad:
     
  7. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    จขกท.ป่วยเป็นโรค เขาจะมีแรงพิมพ์ได้ยังไง โรคนี้มันกินร่างกายไปเรื่อยๆด้วยสิ
     
  8. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    ผมไปสมัครงานคร้ังแรกในชีวิตหลังจากจบการศึกษาในปี2532 และเมื่อทำ
    การตรวจร่างกายเพื่อเข้าทำงานจึงรู้ว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แต่บริษัทก็ยังยินดีรับผมเข้าทำงาน หลังจากนั้นผมก็ได้เข้าตรวจอีกหลายคร้ัง ผลก็คือว่าเป็นจริงๆ จนคร้ังสุดท้ายอาการเริ่มมากขึ้นผมจึงเข้าตรวจอย่างละเอียดกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ
    โดยเฉพาะ ทื่ร.พ.พญาไท3 เมื่อประมาณปี45-46(ไม่แน่ใจ)ใช้อัลตร้าซาวด์ดูคุณหมอ
    บอกพบหัวใจรัั่ว2จุด ต้องผ่าตัดเพื่อรักษา แต่ผมขอคิดดูก่อน และตัดสินใจต่อมาว่าจะไม่รักษา ได้ยามาครั้งแรกพอกินหมดก็เลิก และไม่สนใจมันอีก
    ต่อมาอาการหนักขึ้นมาก หอบเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอกมากเหมือนมีใครมาเหยียบที่อก
    ตลอดเวลา บางทีปวดที่อกร้าวไปถึงแขนซ้าย นอนตะแคงซ้ายไม่ได้จะเจ็บมาก แต่ยัง
    ทำงานได้ ไม่บอกใคร และไม่รู้สึกกังวลหรือกลุ้มใจอะไรเลย นึกแต่ว่ามันอยากตายก็
    ช่างมัน มีแต่บอกทางบ้านถ้าตัวเองตายเมื่อไหร่ ไม่ต้องทำอะไรน่ะ ให้โทร1666 สภากาชาดไทย เขาจะมารับศพไปจัดการต่อให้เอง เพราะผมได้บริจาคร่างกายให้
    เขาไปแล้ว คนท่ีบ้านก็งง นึกว่าพูดเล่น ตอนนั้นก็ดำเนินชีวิตตามปกติ

    "นิพพานชาตินี้กันเถอะ"
     
  9. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    ทำงานตามปกติ มีโรคหัวใจรั่ว โรคปวดหลังมากๆ และปวดประจำเกือบทุกวันบางวัน
    ปวดมากจนนั่งขับรถเกือบไม่ไหว ต้องทนเอานึกว่าหลังมันอยากปวดก็ช่างมัน แล้วก็
    เหน็บชาก็เป็นบ่อย และเป็นง่ายๆด้วยบางคร้ังแค่เอี้ยวตัวไปหยิบของที่เบาะหลังรถ
    ก็จะเหน็บกิน แล้ว เฮ้อน่ารำคาญจัง นี่แหละที่ท่านว่า "สังขารเป็นรังของโรค" ตอนนั้นก็
    ทำบุญทานตามกำลัง และชอบนั่งสมาธิเพราะสนุกดีได้เจออะไรแปลกๆเยอะ ก็ได้ไป
    ปฏิบัติธรรมหลายแห่ง จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.ค. ปี2549 ได้ไปปฏิบัติที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
    กับท่านหลวงพ่อธี ทวิจิตตะธัมโม ท่านสอนให้พิจารณาไตรลักษณ์ เน้นส่วนที่เป็นอนัตตา และที่นี่เองที่ผมพบกับสิ่งมหัศจรรย์มากสำหรับผม ในคืนท่ี2
    ของการปฏิบัติ สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นก็ด้วยกับการแลกกับความเจ็บปวดทรมานอย่าง
    ที่สุดในชีวิต(ความเจ็บปวดทรมานที่เกิดจากโรคต่างๆในร่างกายผมรวมกันทั้งหมด
    แล้วยังไม่ได้ครึ่งเสี้ยว ) ประกอบกับการตัดสินใจยอมตายถวายชีวิตให้แก่พระพุทธุ
    องค์อย่างจริงๆในคืนนั้น(ซึ่งแม้จะปฏิบัติมาหลายที่ แต่ไม่ถึงขั้นยอมตายจริงๆ
    ซักที ก็เลยไม่เจอของดีซักที) แต่คืนนั้นยอมตายจริงก็เลยเจอของจริง เป็นสภาวะ
    ธรรมที่พิศดารมาก คืนนั้นพอได้เวลานอนพักผ่อน ผมก็อยากจะนอนเต็มที แต่จิต
    ไม่ยอมนอน จนสว่างก็ไม่ง่วงไม่เพลียอะไรเลย แต่รู้สึกสดชื่นมากๆ โล่ง โปร่งไปหมด
    ทั้งกายและใจตอนหายใจรู้สึกเหมือนหายใจอยู่ในตู้เย็นตลอดเวลา และในร่างกาย
    รู้สึกเย็นสบายเหมือนมีแอร์อยู่ในร่างกายตลอดเวลา สบายเนื้อสบายตัวอย่างที่สุด
    ไม่เคยรู้สึกสุขสบายทั้งกายและใจมากๆอย่างนี้มาก่อน เมื่อกลับกรุงเทพได้ไม่กี่วัน
    พบว่าเวทนาทางร่างกายที่เคยเกิดเป็นประจำหายเกลี้ยงไปหมด เหมือนได้มีร่างกาย
    ใหม่เลยครับ และจะเกิดปิติได้บ่อยและง่ายมาก คือเวลาปลื้มใจอะไรนิดหน่อย
    ก็จะขนลุก ซู่ซ่าขึ้นมาอย่างมาก จนถึงวันนี้เวทนาทางกายที่มาจากโรคหัวใจ
    เอย โรคปวดหลังเอย เหน็บชาเอยแบบเดิมๆหายไปหมดครับ นี่แหละครับ
    ธรรมโอสถจริงๆๆ ไม่ต้องกินยาซักเม็ดเลยครับ


    .อนัตตา อนัตตา..ไม่ใช่สัตว์..บุคคล..ตัวตน..เราเขา..ไม่เป็นตน..
    ..บังคับบัญชาไม่ได้.


    "นิพพานชาตินี้กันเถอะ"
     
  10. chenroom

    chenroom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +124
    ไม่มีคำใดๆที่จะบรรยายนอกจาก อนุโมทนาสาธุสาธุสาธุ
     
  11. kraiwit

    kraiwit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +743
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...