ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    [​IMG]
     
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    [​IMG]
     
  3. tar2199

    tar2199 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +565
    คำทำนายของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
    ผมอ่านเสร็จแล้วขนลุกเลยครับ
    ให้ตายสิ เป็นจริงๆ ด้วย
    สถานการณ์ยังไม่จบไม่สิ้นสิครับตอนนี้
     
  4. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ถ้าลุงสมิท บอกมาต้องเชื่อท่านไว้บ้างแหล่ะ จริงๆคิดว่าภัยใหญ่น่าจะเลื่อนออกไป แต่เมื่อเห็นเหตุกรณ์จราจล ปล้นเมือง ก็ทำให้รู้สึกว่า ถ้าคนทำชั่วแบบนี้ ต้องมีการล้างเกิดขึ้นแน่นอน กระแสกรรมชั่วมากมาย ทำใจให้ผ่องใส แผ่บุญต่อไป แต่จะไม่คิดวิตกให้มาก
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ผลกรรม - คำพิพากษา

    [​IMG]

    ผลกรรม...คำพิพากษา - ลานธรรมเสวนา

    ผลกรรม...คำพิพากษา: ประชาชนผู้ก่อกรรม กรรมนี้จึงตกแก่ประเทศชาติ. ... กับคำถาม<WBR>ที่ว่ากรรมหรือการกระทำใด ที่ทำให้ประเทศชาติตกอยู่ในสภาพนี้ ดังตฤณ ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2010
  6. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    หลักฐานชูพงศ์ ถี่ถ้วน คิดล้างระบอบกษัตริย์

    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/QCwcyvkhaTw&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/QCwcyvkhaTw&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อินเดียผวาสั่งอพยพหนีไซโคลน 'ไลล่า'

    [​IMG]

    อินเดียสั่งอพยพคนหนีพายุไซโคลน “ไลล่า” ที่จะพัดเข้า 20 พ.ค. ขณะที่สหรัฐฯสั่งขยายน่านน้ำห้ามทำประมง หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีระเบิด...

    19 พ.ค. ทางการอินเดียเร่งอพยพประชาชนออกจากชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรวมทั้งท่าเรือหลายแห่ง เฝ้าระวังภัยเต็มพิกัด เพราะคาดว่าพายุไซโคลน “ไลล่า” ซึ่งมีความเร็วลมถึง 155 กม./ชม. จะพัดเข้าถล่มในวันที่ 20 พ.ค.นี้ โดยจุดที่คาดว่าจะรับเคราะห์หนักสุดคือ รัฐอานธรประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวสำคัญ

    ส่วนที่สหรัฐอเมริกา ทางการสั่งขยายน่านน้ำที่ถูกห้ามทำการประมงในอ่าวเม็กซิโกเพิ่มขึ้นเป็น 45,728 ตร.กม. หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีระเบิด ทำให้น้ำมันดิบรั่วไหลเป็นบริเวณกว้าง จนคราบน้ำมันอาจซัดถึงชายฝั่งรัฐฟลอริดา

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2553

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2010
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/djwY41a4lsA&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/djwY41a4lsA&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     
  9. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    การแสดงออกทางกาย วาจา ใจ คือผลของการปฏิบัติที่ผ่านมา
     
  10. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <table><tbody><tr><td>ข้าวรพุทธเจ้า</td> <td width="50">
    </td> <td>เอามโนและศิระกราน</td> </tr> <tr> <td>นบพระภูมิบาล</td> <td>
    </td> <td>บุญญดิเรก</td> </tr> <tr> <td>เอกบรมจักริน</td> <td>
    </td> <td>พระสยามินทร์</td> </tr> <tr> <td>พระยศยิ่งยง</td> <td>
    </td> <td>เย็นศิระเพราะพระบริบาล</td> </tr> <tr> <td>ผลพระคุณ ธ รักษา</td> <td>
    </td> <td>ปวงประชาเป็นสุขศานต์</td> </tr> <tr> <td>ขอบันดาล</td> <td>
    </td> <td>ธ ประสงค์ใด</td> </tr> <tr> <td>จงสฤษฏ์ดัง</td> <td>
    </td> <td>หวังวรหฤทัย</td> </tr> <tr> <td>ดุจจะถวายชัย</td> <td>
    </td> <td>ชโย</td></tr></tbody></table>
     
  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    พายุลูกนี้ตอนแรกห่วงว่า จะพัดเข้าทางด้านพม่าหรือส่งผลมาที่ไทยเรา

    แต่ก็บังเอิญไปคนละทิศทาง แต่ถึงกระนั้นพายุดังกล่าวก็ไปทำลายอู่ข้าวอู่น้ำของทางเอเชียใต้

    น้ำทะเลก็เป็นพิษ

    แหล่งอาหารทั้งในมหาสมุทรและบนแผ่นดินก็ถูกทำลาย

    ไม่ช้าก็เกิดทุพภิกขถัย ขาดแคลนแก่งแย่งอาหารและน้ำดื่มน้ำสะอาดติดตามมาแน่นอน

    เมื่อภัยธรรมชาติ ภัยจากสงครามใหญ่ ภัยพิบัติของจริงมาถึง เกิดความทุกข์ยากแสนเข็ญอีกมากมาย

    ที่ชาวโลกต้องผ่านพ้นกันไป

    ไฟสงครามกลางเมือง

    ไฟสงครามใหญ่

    มีเชื้อเพลิง จาก ความโกรธแค้นเกลียดชังกันในใจคน เพลิงแค้น เพลิงอาฆาต เพลิงริษยา เพลิงพยาบาท

    แผดเผาใจตนเอง และยังแผดเผาจุดติดใจคนอื่นให้พลอยเกลียดชังเร่าร้อนไปด้วย

    เผาทั้งใจคน เผาทั้งบ้านเมือง เผาทั้งโลกใบนี้ ให้ย่อยยับได้


    สิ่งที่ดับได้คือ " เมตตาจิต" ต่อกัน
    เมตตา ต่อทุกสรรพชีวิต

    เพื่อดับความเร่าร้อนของ ไฟที่เผาผลาญทุกสิ่งอยู่นะขณะนี้

    เริ่มจาก ดับไฟในใจเราด้วยเมตตา ด้วยการอโหสิกรรม ด้วยอภัยทาน

    เมื่อไฟในใจเราดับ สงบระงับด้วยเมตตาแล้ว เราย่อมดับไฟภายนอกได้สำเร็จ
     
  12. kuruzen

    kuruzen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +208
    ธนาธร-ฟ้าเดียวกัน-ขบวนการล้มเจ้า?

    [​IMG] 15 May 2008 - 18:40

    นับเป็นครั้งที่ ๒ ที่รายการยามเฝ้าแผ่นดินพูดถึง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ในฐานะผู้สนับสนุนทางการเงินเว็บไซต์และหนังสือฟ้าเดียวกัน เชื่อมโยงกับความสนิทสนมทางการเมือง-ธุรกิจ-ขบวนการล้มสถาบัน ฟังเแล้วเชื่อมโยงเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน ขับเคลื่อนและเดินกันคนละระนาบ
    เรื่องนี้ทำให้ผมครุ่นคิดอย่างมากและหลายต่อหลายครั้ง เพราะในทางหนึ่งผมรู้จัก “ธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ” โดยอ้อมและเคยเจอตัวเป็นๆ ครั้งหนึ่ง เด็กหนุ่มสูงยาว ผมยาวกระเซิง ใส่รองเท้าคีบแตะที่ดูไปไม่เหมือนลูกไฮโซเจ้าของกิจการใหญ่โต รับฟังมาว่าเป็นลูกชายที่ทางบ้านสอนเน้นเรื่องธุรกิจ เล่นกอล์ฟ ขณะที่ตัวชอบไปขลุกกับเด็กกิจกรรม และทำกิจกรรมร่วมกับเอ็นจีโอหลายกลุ่ม เคยเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลย์
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    อีกด้าน ผมไม่อยากให้มิตรทางอุดมการณ์-แนวร่วมของผมอย่างพันธมิตรฯ หรือรายการยามเฝ้าฯ ได้และใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และผมเองโดยส่วนตัวถ้าจะได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนตลอดมา ผมยืนอยู่ฟากตรงข้ามกับ “ฟ้าเดียวกัน” แต่สิ่งที่จะเขียนถึงเป็นข้อมูลตรงจากภาย “ฟ้าเดียวกัน” เพื่อให้ข้อมูลบางส่วน “ใกล้เคียง” ที่เป็น-อยู่-คือ ให้มากที่สุด
    แรกที่เดียวกลุ่มที่ร่วมกันออกวารสารฟ้าเดียวกัน เป็นกลุ่มเพื่อน สนนท. รุ่นเดียวกับ “เอก ธนาธร” เป็นนักกิจกรรม หลายคนในนั้นมีส่วนในการทำสารดคี และวารสารของหลายที่ คิดร่วมกันที่จะทำวารสารสักฉบับที่เป็น “ทางเลือก” ที่ต่างออกไปจากที่มีวางขายอยู่ตามแผง เท่านั้นเอง ไม่มีประเด็นต่อต้านเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง (ลองย้อนดูเล่มเก่าเทียบเคียง)
    แรกเริ่มเป็นการระดมทุนกันใหม่หมู่เพื่อนฝูงแต่ไม่เพียงพอ “เอก ธนาธร” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มก่อตั้งจึงออกทุนให้ส่วนหนึ่งโดยมีการทำหนังสือขอยืมกัน และจะคืนให้เมื่อได้กำไรพอสมควร นี่อาจเป็นเหตุที่การสืบเสาะข้อมูลของรายการยามฯ จึงมองว่า “เอก ธนาธร” เป็นผู้สนับสนุนด้านเงินทุน พร้อมทั้งที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ ถ้าข้อมูลผมไม่คลาดเคลื่อนกลุ่มทำหนังสือฟ้าเดียวกันเริ่มทำหลังจากที่ “เอก ธนาธร” จบจากอังกฤษกลับมา และมาขลุกทำงานอยู่กับเอ็นจีโอและนักกิจกรรมเพื่อนร่วมกลุ่ม สนนท.
    อีกด้านอาจมองได้ว่า “เอก ธนาธร” นามสกุล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่มีศักดิ์เป็นหลานโดยตรงของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ผู้ต้องคดีซีทีเอ็กซ์ น่าจะมีส่วนความสัมพันธ์กันคนหน้าเหลี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ในทางการเมือง จึงอาจมองว่า “เอก ธนาธร” อาจเป็นตัวเชื่อมโยงในการสนับสนุนทุน ประเด็นนี้ข้อมูลลึก (ระดับเอ็กคลูซีฟ) ที่ผมมี “เอก ธนาธร” ไม่ถูกกับ “อา” สุริยะ มาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้อง
    ข้อสงสัยอีกประการที่ว่า “เอก ธนาธร” กับ “โอ๊ค พานทองแท้”เป็นเพื่อนสมัยเรียนธรรมศาสตร์นั้น จากแหล่งข้อมูลเดียวกันบอกกล่าวกับผมว่า เขารู้จักกันเพียงเป็นเพื่อนสมัยเรียน ไม่ได้อยู่ในระดับสนิทมาก ไม่มีความเกี่ยวข้องทางอุดมการณ์ ทั้งสองคนเหมือนอยู่คนละมติ ที่คนหนึ่งคิดเรื่องคนยากคนจน คนถูกเอาเปรียบขณะที่อีกฝ่ายเป็นเพียงแค่ “ขี้เมา” เจอกันก็กินเหล้า ไม่มีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้น
    เกล็ดเล็กน้อยที่รับฟังมา คือ “เอก ธนาธร” หลังจากเรียนจบตั้งใจจะกลับมาทำงานเป็นนักกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในกลุ่ม แต่ต้องไปทำงานในบริษัทรับช่วงต่อเนื่องจากพ่อเสีย จึงต้องเข้าไปช่วยแม่ “สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” บริหารกิจการ อีกเกล็ดเล็กๆ คือ เอกเพิ่งมีลูกชายตัวน้อยๆ ชื่อน้อง “เดโม” ย่อมาจาก “เดโมเครซี่” เป็นที่ที่ตั้งตามอุดมคติของพ่อ (ประชาธิปไตยแบบไหนผมไม่กล้ายืนยัน)
    คำถามหนึ่งที่ผมถามกลับไปยังแหล่งข้อมูลและเป็นเรื่องที่ผมสนใจมาก คือ ถ้าแต่เริ่มไม่ได้คิดเรื่องล้มเจ้า ต้องการเพียงแค่ทำวารสารทางเลือก แล้วทำไมจึงหันมาแนวทางที่เป็นอยู่ในขณะนี้?
    เขาให้คำตอบกับผมว่า กลุ่มเพื่อนๆ ในฟ้าเดียวกัน “ไม่เอาทักษิณ” มาแต่ไหนแต่ไร และอย่างไรก็ไม่เอา แต่คนกลุ่มนี้ “ไม่เอารัฐประหาร” ด้วยเช่นกัน ระหว่างการขับเคลื่อนต้านรัฐประหารมี “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” แทรกเข้ามา (ก่อนหรือหลังอย่างไรไม่ทราบรายละเอียด) ..และนั่นคือคำตอบ ส่วนแนวคิดของกลุ่มคนในฟ้าเดียวกันเป็นอย่างไรผมไม่มีคำตอบให้ครับ
    อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า ผมไม่ต้องการให้เกิดการเชื่อมโยงโดยข้อมูลที่คลาดเคลื่อน จึงครุ่นคิดและตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ ไม่ได้อธิบายเพื่อตั้งธงแก้ต่างแทนแต่อย่างใด เพราะรู้จักแค่โดยอ้อม แต่อย่างไรเสียจะยังคงยืนยันจุดเดิมว่าผมยืนฟากตรงข้ามกับกระบวนการล้มสถาบันฯ และตั้งข้อรังเกียจคนหัวขาว “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ที่มักฉกฉวยโอกาสอย่างสกปรกในหลายๆ ครั้ง


    เครดิต http://www.boringdays.net/thanathorn-sameskybooks-and-the-republic-gang/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2010
  13. kuruzen

    kuruzen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +208
    <TABLE style="HEIGHT: 428px" id=imgt><TBODY><TR><TD id=imgw>[​IMG] <TR style="DISPLAY: none" id=ddl><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>รูปคุณ เอก ธนาธร หล่อ รวย ฉลาด ชอบไหม?
     
  14. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    ขออนุญาตนำโพสที่ได้เคยโพสไว้มาเตือนใจให้อ่านกัน โดยเฉพาะข้อ 2 ตามด้านล่าง
    ตอนนี้ หลายคนอาจโกรธ โมโห ก่นด่าว่ากัน และอีกหลายคนอาจจะกำลังดีใจ ชอบใจ ในสิ่งที่เกิดขึ้น อาการที่เกิดขึ้นนี้ ล้วนเป็นปัจจัยให้มีกรรมสัมพันธ์ผูกติดกันต่อไป ซึ่งไม่เห็นจะเกิดประโยชน์อันใด นอกจากจะเป็นการทำร้ายตัวเองทั้งนั้น หน้าที่ที่สำคัญ คือ สำรวจใจตนเอง และทำหน้าที่ให้ดีทีสุด
    พวกเราที่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม ก็ต้องทำหน้าที่ ช่วยกันดับไฟในใจก่อน แล้วไปช่วยสร้างความสงบสุขให้แก่บ้านเมือง ทุกคนในที่นี้ ผมเข้าใจว่าเป็นผู้มีจิตสาธารณะอยู่แล้ว พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ขอให้พวกเรามุ่งทำงานสาธารณะนี้ดีกว่าโดดเข้าวงกรรม ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นการช่วยเหลือใครแล้ว ยังเป็นการทำร้ายตัวเองมากด้วย และไม่เป็นทางที่พระพุทธเจ้าท่านสรรเสริญเลย
    เป็นคนดู ดีกว่าเป็นผู้เล่นนะครับ

    -----------------------------------------------------------------------
    ได้มโนมยิทธิแจ่มใส ไปพระนิพพานได้ ก็ยังอาจตก โลกันตมหานรกได้ !!!<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ผู้ที่ได้มโนมยิทธิแจ่มใส ไปพระนิพพานได้ ก็ยังมีโอกาสตกนรก ถึงขั้นโลกันตมหานรก ขุมที่ 9 ได้ อ่านแล้วมีประโยชน์ จึงขอคัดลอกมาให้อ่านทั่วกัน

    ---------------------------------------------

    นรกขุมที่ 9 (โลกันตมหานรก)

    <O:p</O:p
    บุคคลส่วนใหญ่รู้จักกันแค่อเวจีมหานรก หรือ นรกขุมที่ 8 จึงมีคนสมัครใจลงนรกขุมนี้กันมาก เพราะไม่เชื่อว่ามีนรก ไม่เชื่อว่ามีสวรรค์ ไม่เชื่อว่ามีเทวดา มีนางฟ้า มีพรหมและมีพระวิสุทธิเทพ หรือพระอรหันต์อยู่ที่พระนิพพาน คิดเอาด้วยปัญญาของตนว่าตายแล้วสูญ ตายแล้วไม่เกิดเท่ากับผลของกรรมไม่มี กฎของกรรมไม่มี ไม่เชื่อว่าทำดีย่อมได้รับผลดี ทำชั่วย่อมได้รับผลชั่ว แม้แต่นักบวชที่บวชเข้ามาในพุทธศาสนาจำนวนมาก ก็เชื่อตามความคิดเหล่านี้ เมื่อตายไปจึงพากันไปอยู่นรกขุมนี้เป็นจำนวนมาก มากกว่าอาชีพใด ๆ ในโลกนี้ เพราะเป็นการปรามาสพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเท่ากับปรามาสพระพุทธเจ้าโดยตรง เพราะธรรมเหล่านี้พระองค์เป็นผู้ตรัสสอนไว้ทั้งสิ้น...


    สาเหตุที่ต้องลงมีดังนี้
    <O:p</O:p
    1. ปากเชื่อว่ามีนรก แต่ใจบางอารมณ์คิดว่ามี บางอารมณ์สงสัยว่าอาจจะไม่มี คือ ยังสงสัยหรือเชื่อไม่จริง เช่น มาฝึกมโนมยิทธิ โดยใช้ฤทธิ์ทางใจ ขอบารมีพระองค์ ขอเมตตาให้เห็นนรก และได้ไปเที่ยวชมนรกทั้ง 8 ขุม และไปขุมพิเศษขุม 9 ด้วย เมื่อกลับมาแล้วยังสงสัยอยู่ ซึ่งเท่ากับปรามาสพระรัตนตรัยทางใจ หรือมโนกรรม หรือหลงตัวเองว่าตนเองสามารถหนีนรกได้ เพราะไปเที่ยวสวรรค์ เที่ยวพระนิพพานได้ แต่ลืมไปว่าไปได้เพราะขอบารมีจากพระพุทธองค์ หรือพระอรหันต์ท่านก่อนทั้งสิ้น ภาพที่เห็นนั้นเห็นจริง แต่เป็นพุทธนิมิตหรือธรรมนิมิตเท่านั้น ขณะที่เห็นนั้นเป็นของจริง แต่เมื่อลงมาแล้วไม่จริง เพราะลงมาแล้วอารมณ์โลภะ-ราคะ-โทสะ-โมหะ ก็ยังมีอยู่เป็นปกติ ทรงตรัสไว้ชัดเจนว่า “ธรรมของตถาคตจริงในปัจจุบันเท่านั้น” แดนพระนิพพาน หรือแดนไม่มีอายุ จึงไม่มีหมดอายุ แดนที่ไม่มีเวลา จึงไม่มีหมดเวลา เป็นแดนบริสุทธิ์จากสมมติทั้งปวง คือ หมดทั้งกิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม ผู้ประมาทในธรรม จิตเป็นมิจฉาทิฏฐิ คิดว่าตนเองพ้นนรกแล้วอย่างถาวร จึงทำความผิด ทำความชั่ว ทั้ง ๆที่รู้อยู่ ขอยกตัวอย่าง 2 ราย


    <O:p</O:pรายที่ 1 เป็นแม่ชี
    <O:p</O:p
    รู้อยู่แก่ใจว่าตนเองไม่ใช่พระ แต่ก็รับสังฆทานแล้วเอาวัตถุและเงินของที่เขาถวายเป็นสังฆทานไปใช้จ่าย ตามที่ตนเองเห็นว่าสมควรทำไปทั้ง ๆ ที่รู้ เพราะความหลงคิดว่าตนเองเป็นพระอริยะเจ้าพ้นนรกแล้ว จะทำอะไรก็ทำได้ มโนมยิทธิของตนเองแจ่มใสจะไปพระนิพพานเมื่อใดก็ได้ ผลพอตายหรือขันธ์ 5 พัง จิตก็ตรงไปโลกันตมหานรกทันทีโดยไม่ผ่านสำนักพระยายม ใครอยากทราบก็ให้ถามลุงพุฒท่านดู (เจ้าพระยายมราช) หรือ ถามพระพุทธเจ้าโดยตรง


    <O:p</O:pรายที่ 2 เป็นนักวิชาการ
    <O:p</O:p
    มีความรู้ด้านปริยัติดี เคยบวชเรียนในวัดมีชื่อเสียง ซึ่งมีการสอนปริยัติธรรม และเชื่อเรื่องมีนรก มีสวรรค์ มีพระนิพพานตายแล้วไม่สูญ รายนี้จึงรู้แต่ก็รู้แบบปริยัติ คือ รู้ไม่จริง ความสงสัยจึงมีอยู่ในใจเป็นธรรมดา
    <O:p</O:p
    ตอนที่ยังเป็นฆราวาส เห็นแก่สินจ้างรางวัล จึงออกมาโจมตีหลวงพ่อฤาษี ตามที่ต่าง ๆ ทั้งในกรุงและต่างจังหวัด ขอเล่าย่อ ๆ ว่า ทุกครั้งที่เขาไปโจมตีด้วยข้อความเป็นเท็จ แม้แต่ในชยบทตามหมู่บ้านในป่า-ในเขา ก็จะมีประชาชนที่นั่นคัดค้านโต้เถียงด้วยเหตุผลอันชอบแทนหลวงพ่อท่าน จนนักวิชาการผู้นี้หน้าแตกกลับมาทุกครั้ง เมื่อไม่สำเร็จก็เงียบไม่สักพัก คราวนี้ไปบวชเป็นนักบวช จากวัดที่มีชื่อเสียงนั่นแหละ แล้วออกโจมตีหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุงอีก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (สหรัฐอเมริกา ที่รัฐ L.A.) ก็ไม่มีผลอีกตามเคย ทั้ง ๆ ที่เอาผ้าเหลืองบังหน้า คิดว่าไม่มีฆราวาสกล้าขัดแย้ง แต่ก็มีฆราวาสขึ้นพูดขัดแย้งด้วยเหตุผลอันชอบ จนหน้าแตกกลับมาทุกครั้ง เมื่อไม่มีผลก็สึกจากนักบวชออกมาเป็นฆราวาส วันหนึ่งขับรถยนต์ส่วนตัวไปต่างจังหวัด กรรมที่ตนเองเป็นผู้ทำไว้หนักมาก เพราะทำชั่วทั้ง ๆ ที่รู้ในขณะที่ครองผ้าเหลืองเป็นนักบวช โทษจึงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าทวีคูณ รถพลิกคว่ำหลายตลบ ตนเองคอหักชนิดจับคอหมุนได้ หมายความว่า ร่างกายหรือขันธ์ 5 แตกดับ หรือตายทันที่ในขณะอุบัติเหตุ คนไปบวชเป็นพระแล้วไม่สนใจเรื่องศีล ไม่รักษาพระวินัยให้ครบ 227 ข้อ เพราะขาดหิริ โอตตัปปะ คือ ไม่ละอายในความชั่ว ไม่เกรงกลัวผลของความชั่วแล้ว ก็เป็นแบบท่านเทวทัตทุกราย ให้สังเกตศีลของพระเกือบทุกข้อ หรือ ทุกข้อ มีต้นเหตุจากขาดหิริ โอตตัปปะทั้งสิ้น (ปาจิตตีย์ แปลว่า จิตเป็นบาป) รายนี้ก็เช่นกัน ไปบวชพระ แต่ไม่สนใจรักษาศีลหรือพระวินัย บวชเท่าไรก็ไม่เป็นพระ โทษก็ลงอเวจีมหานรกเป็นธรรมดา แต่ที่เลยไปอีก 1 ขุมเป็นโลกันตมหานรกนั้น เพราะเขาทำชั่วทั้ง ๆ ที่รู้ (จุดนี้พระพุทธองค์เป็นผู้ตรัส เมื่อมีผู้ถามพระองค์ท่าน)

    <O:p</O:p
    สรุปว่า ทั้ง 2 รายมีเหตุมาจากการทำความชั่วทั้ง ๆ ที่รู้ทั้งคู่


    <O:p</O:p2. มีจิตยินดีด้วยเมื่อเห็นหรือรู้ว่ามีบุคคลลงนรกขุมที่ 9 หรือมีอารมณ์สะใจเมื่อทราบข่าว หรือ จิตไปเห็นอาทิสมานกายของเขาลงนรกขุมที่ 9 จิตเกิดอุปาทานไปยึดมั่นถือมั่นกรรมชั่วของผู้อื่นมาเก็บไว้ในใจของตน จึงเท่ากับยินดีด้วยหรือสะใจหรือพอใจในกรรมชั่วนั้น ๆ ชนิดไม่ยอมลืม เพราะพบใครก็จะเล่าให้เขาฟังกลัวจะลืม ยิ่งเล่ามากเท่าใด จิตยิ่งยึดมั่นมากเพียงนั้น จนที่สุดกลายเป็นฌาน หรือจิตชินต่ออารมณ์ชั่วนั้น ๆ เกิดขันธ์ 5 พังหรือตายตอนนั้น จิตซึ่งมีสภาวะรู้และเร็วเมื่อเราป้อนข้อมูลใดไว้ในจิตเขารู้จนชินแล้ว เมื่อกายแตกตายหรือพัง จิตก็จะเร็วไปตามนั้น เพราะจิตไม่มีเวลาเป็นอกาลิโก โดยไม่ผ่านสำนักพระยายม นี่เป็นจุดสำคัญที่ข้าพเจ้าต้องการจะเน้นให้ผู้อ่านจำให้ดี ๆ จะได้ไม่ประมาทในธรรมข้อนี้ พลาดเมื่อไรสามารถจะลงขุมที่ 9 ได้อย่างสบาย ๆ เพราะชอบนินทา ปสังสา หรือนินทาสโมสร ชอบตำหนิกรรมชั่วของผู้อื่น ซึ่งก็เท่ากับยินดีด้วยเมื่อเห็นหรือทราบว่าผู้อื่นกระทำชั่ว หรือทำผิดศีล-ผิดพระวินัย เท่ากับขาดกรรมบถ 10 หมวดวาจา 4 ด้วย (คือ ไม่พูดโกหก ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดส่อเสียดนินทาผู้อื่น และไม่พูดเรื่องที่ไร้ประโยชน์หาสาระอะไรมิได้) ในกรณีนี้ผิด 2 ข้อหลัง หากท่านผู้อ่านต้องการทราบรายละเอียดมากไปกว่านี้ กรุณาไปอ่านเรื่อง “รำลึกถึงหลวงปู่บุดดา ถาวโร พระอริยะเจ้าผู้ไม่เกิดไม่ตายตลอดกาล” ในหน้าแรกแล้วท่านจะเข้าใจดีขึ้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างบุคคลท่านหนึ่ง เป็นหญิงไปเห็นกรรมชั่วของนักวิชาการ ซึ่งเป็นผู้ชายที่ลงนรกขุมที่ 9 (ส่วนรายแรกลงนรกขุมที่ 9 เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษี และได้มโนมยิทธิแจ่มใสแต่ไม่สนใจเรื่องศีล จึงเท่ากับดูถูกแม่ของตนเอง ดูถูกรพะธรรม หรือดูถูกพระพุทธเจ้านั่นเอง) รายนี้ท่านก็ผู้หญิง ได้มโนมยิทธิแจ่มใสมาก ชนิดเห็นภาพสว่างเหมือนพระอาทิตย์ตอนเที่ยงทุกครั้ง แม้จะเป็นกลางคืนเดือนมืดก็ตาม เธอเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เธอสงสัยจังว่าทำไมคนอื่น จึงเห็นได้ไม่ชัด ส่วนตัวเธอสว่างเหมือนตอนเที่ยงทุกครั้งไป รายนี้พอทราบข่าวว่ารายที่ 2 ซึ่งเป็นชายเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำคอหักตาย เธอก็ใช้มโนมยิทธิตามดูกรรมของเขา ก็พบว่าเขาลงไปอยู่ขุมที่ 9 เธอก็ติดตามไปขุมที่ 9 ยืนอยู่ปากขุมนรกนั้น แล้วตะโกนว่า “สะใจจริงโว๊ย ๆ” สาเหตุเพราะบุคคลผู้นี้ชอบนินทาว่าร้ายอาจารย์ของเธอ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) เธอพบใครก็จะเล่าเรื่องที่เธอไปพบให้เขาฟังทุกคน เพราะกลัวจะลืม แต่เธอโชคดีที่ไปเล่าให้หลวงพ่อท่านฟัง หลวงพ่อท่านก็เมตตาตักเตือนเธอว่า “ระวังให้ดี เวลาตายจะไปอยู่กับเขาด้วย” เตือนเพียงเท่านี้ เธอเป็นผู้มีปัญญา จึงคิดออกว่า อารมณ์สะใจ คือ อารมณ์ยินดีด้วยกับกรรมชั่วของผู้อื่น หากเล่าให้ผู้อื่นฟังซ้ำ ๆ เท่ากับเป็นการบังคับให้จิตเก็บความชั่วของผู้อื่นมาไว้ในจิตของเรา ทำบ่อย ๆ จิตก็จะชินกับความชั่วนั้น ๆ ที่สุดจิตเลยชินกับกรรมชั่วนั้น ๆ จิตเลยเป็นฌานสมาบัติในความชั่วนั้น ๆ เวลากายพังหรือตาย จิตที่รู้อะไรเป็นฌานสมาบัติ จิตก็จะเร็วไปตามนั้น เพราะจิตไม่มีเวลาเป็นอกาลิโก จึงมีผลไปอยู่กับเขาผู้นั้นเป็นอัตโนมัติ


    ข้าพเจ้าเองเพียงคิดถึงเรื่องนี้ก็ยังรู้สึกเสียว ๆ อยู่... เมื่ออ่านและเข้าใจดีแล้ว จะได้พยายามระวัง-สังวร กาย-วาจา-ใจ ของตนเองให้ดี ๆ เลิกนิสัยนินทาผู้อื่น เลิกนิสัยชอบพูดเอาแต่กรรมชั่วของผู้อื่น (เลิกพูดถึงบุคคลที่ 3) โดยเจตนาเพื่อจะส่อเสียดเขา เอาความชั่วของผู้อื่นมาประจานโดยเจตนาชั่วแต่กลับไม่เห็นความชั่วของตนเอง เท่ากับเป็นการทำร้ายจิตตนเอง เบียดเบียนจิตตนเอง เพราะจิตหยาบเกินไป จึงไม่เข้าใจเรื่องเมตตา ความรักในพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงสอนให้รักตัวเราเองก่อนเป็นประการแรก ... หากท่านเข้าใจธรรมจุดนี้ ก็จะทราบได้ว่า อารมณ์สะใจ คือ อารมณ์พอใจ หรือยินดีด้วยกับความชั่วของผู้อื่นนั่นเอง หลวงพ่อฤาษีท่านชอบพูดว่า เป็นอารมณ์เก็บขี้ หรืออารมณ์ขี้เก็บ หมายถึงชอบแต่เก็บของเหม็น ๆ ของไม่ดี หรือ กรรมชั่ว (กายกรรม-วจีกรรม-มโนกรรม) ของผู้อื่น มาไว้ในจิตของตน ของดี ๆ ของหอม ๆ ไม่เอา หากจะให้อธิบายก็คงจะเขียนได้ยาวมาก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วิธีป้องกันไม่ให้ตกนรกขุมที่ 9
    <O:p</O:p
    ขอสรุปสั้น ๆ ว่า พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ให้ตัดสังโยชน์ 3 ข้อแรกให้ได้เด็ดขาด ก็จะปิดนรกหรืออบายภูมิทั้ง 4 ได้ตลอดกาล หรืออย่างถาวร มีทางนี้ทางเดียว ทางอื่นไม่มี ทางอื่น ๆ นั้นเป็นการหนีนรกได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ...
    <O:p</O:p
    (คัดลอกจากหนังสือ “รำลึกความดีของหลวงพ่อในอดีต หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง” โดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน)

    (f) <O:p</O:p</O:p</O:p


    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2010
  15. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    อย่าเชื่อในสิ่งที่ยังพิสูจย์ไม่ได้ หลักคำสอนกาลามสูตร ของพระพุทธองค์ อย่าพยายามยัดเยียดอะไรที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ด้วยความเป็นจริงและความเป็นธรรม ให้กับกลุ่มใดหรือพวกใด ทำใจให้เป็นกลางๆไว้ กรรมเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ไม่มีใครอยู่เหนือกฏของกรรม นิพพานเท่านั้นจบ.(kiss)
     
  16. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/icVXacOMpcM&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/icVXacOMpcM&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>
     
  17. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    เมื่อ คืนวานนี้ กำลัง นั่งธรรมะอยู่ น้องสาวจากพังงา โทรฯเข้ามา ใด้รับทราบข่าวเบื้องต้น ว่า..
    พ่อญาติธรรม ที่อุบลฯ และ พ่อทหาร ที่เชียงใหม่ แจ้งใว้ หลายๆอย่าง ตรงกับคำทำนาย และ ในกลุ่มของ นาคา
    จึงใด้ ติดต่อ แจ้งไป ทาง เพื่อนที่ กทม. ทั้งในส่วน ของเพื่อนธรรมที่สนิทกัน และ น้อง ในห้อง หลวงพี่... (ซึ่ง น้องเ ขาทราบแล้ว...)

    เนื้อความ หลังจาก มีเหตุการณ์ กระแส ดังกล่าว แล้ว จะมี บางสิ่งมากวาดล้าง ตามหลักธรรมชาติ ดิน ไฟ น้ำ ลม...

    จะโดย ฉับพลัน หรือ อย่างไร แล้วแต่ กรรม ใหญ่ไม่เกินกรรม อาจจะ มิย. หรือ กค. ซึ่งอาจจะตรงกับ คำกล่าว ของ ท่านดร.สมิท แต่ ไม่สามารถ ระบุ ชัดเจน ใด้ ทาง อันดามัน หรือ อ่าวไทย... หรือ อาจจะ ตรงกลาง..

    ส่วนผม นาคา ยังคงช่วยงาน ตรึงพื้นที่ ภูเก็ต เมือง รอยพระพุทธบาท รอยที่ ๕ นัมทานที เกาะแก้ว ,ข่วยงานหลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม จำเริญวัฒนะ 116 ปี วันที่ 17 กันยา 2553 ..

    ขอพลังบุญบารมี ในลูกหลานพระศรีอริยะฯ หลวงปู่ทวด พ่อหลวงฤาษี หลวงพ่อ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ใด้คุ้มครอง ทุกท่าน มี สติ....มีพลังสร้าง สัมมาทิฏฐิ ในสายบุญ ต่อไป ด้วย บารมี 10 ทัศ . 30 ทัศ เป็นที่สุด สู่ ทาง พระนิพพาน ...
     
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    안녕하세요 : อันยองฮาเซโย : สวัสดี
    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    คำทักทาย ภาษาเกาหลี ซึ่งเราเข้าใจว่าแปลว่า สวัสดี
    แท้จริงแล้ว มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น
    ขอนำคำที่เคยได้ยินมาจากอาจารย์ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    ในสมัยที่เกาหลี ต้องเผชิญชะตากรรม อยู่ในช่วงสงคราม
    ทั้งลูกปืน ระเบิด ลูกแล้วลูกเล่า ชีวิตประชาชนที่ผ่านไป
    ในแต่ละวัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่ว่า
    "วันนี้เรายังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย" นั่นคือสิ่งที่น่ายินดี
    ที่หลงเหลืออยู่ในแต่ละวัน คำทักทาย - อันยองฮาเซโย -
    ตามความหมายโดยตรงแล้ว แปลว่า - ยังมีชีวิตดีอยู่ใช่มั้ย -

    วันนี้บ้านเมืองเรา ทำให้เราต้องประสบพบเจอ
    กับความรู้สึกเหล่านี้เช่นกัน ต่างกันตรงที่ มันเจ็บปวดยิ่งกว่า
    นี่เราคนชาติเดียวกันหรอกรึ เราอยู่ด้วยความสงบสุข
    แต่ด้วยเหตุใด เพราะสิ่งใด ถึงได้มาคุกคาม ทั้งชีวิต
    และทรัพย์สิน คำว่าเหตุและผล ความเหมาะสมถูกต้อง
    โดนพับเก็บไว้ หลงเหลือไว้ แค่คำว่า สะใจ ใช่หรือไม่
    ทุกวันนี้เราก็ไม่ต่างกับครั้งนั้นของเกาหลีนัก
    เราตื่นมาพร้อมกับคำว่า "วันนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร"
    "วันนี้เราต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร"
    เราไม่ได้ทำสงครามอยู่กับใคร แต่เราต้องระวังภัย
    จากคนไทยด้วยกันเอง
     
  19. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ดวงวิญญาณอริราชแผ่นดินสยาม มาเกิดเป็นคนไทยในพุทธศักราชนี้

    รวมพลังใจแผ่เมตตาแก่เขาทั้งหลาย ลบล้างได้ จิตอาฆาต
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/i74jX8rPcTM&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/i74jX8rPcTM&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>
     

แชร์หน้านี้

Loading...