ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

รัฐบาลไทยเตรียมส่งข้าวช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวในเฮติ​

​

กรุงเทพฯ 17 ม.ค.-รัฐบาลเตรียมส่งข้าวไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศเฮติเพิ่มเติม

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากที่มีการวิจารณ์ ว่า รัฐบาลไทยให้เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติน้อยเกินไปนั้น ขอชี้แจงว่าเงินจำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเพียงเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในต่างประเทศ ที่มีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน เรียกประชุมในวันที่ 19 มกราคมนี้ เพื่อพิจารณาว่าไทยควรจะให้ความช่วยเหลือในแนวทางใดเพิ่มเติม และให้เสนอความเห็นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เบื้องต้นทราบว่าเฮติขาดแคลนอาหาร ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศการเกษตรที่สำคัญ อาจจะพิจารณาส่งข้าวสารไปให้ความช่วยเหลือ

ทั้งนี้การบริจาคข้าวให้กับประเทศเฮติ นอกจากเป็นการช่วยเหลือแล้ว ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักต่อทั่วโลก ซึ่งอาจจะส่งผลเพื่อให้ราคาข้าวไทยสูงขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

2010-01-17 15:09:54

ก.ม.ม.เชื่ออดีตนายกฯ เปิด 3 แนวรบก่อนตัดสินคดียึดทรัพย์หวั่นเกิดวินาศกรรม​

​

พรรคการเมืองใหม่ 17 ม.ค.- พรรคการเมืองใหม่ วิเคราะห์ “พ.ต.ท.ทักษิณ” เตรียมเปิดแนวรบ 3 ด้าน ก่อนศาลฎีกาฯ ตัดสินคดียึดทรัพย์ ห่วงกองกำลังที่อยู่เหนือการควบคุมจะป่วนก่อวินาศกรรม แนะรัฐบาลหยุดสร้างเงื่อนไขเชิงลบ โหมใช้สื่อรัฐแจงประชาชน พร้อมจัดการแกนนำที่เคลื่อนไหวผิดกฎหมาย

นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ แถลงว่า พรรคได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์การเมืองโดยมองว่า แนวโน้มโดยรวมของขบวนการคนเสื้อแดงจะแผ่วลงบ้าง และเกิดความแตกแยกสูง อย่างไรก็ตามสถานการณ์การเมืองในวันที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำตัดสินในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาท พรรคเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะตัดสินใจสู้ โดยใช้แนวร่วม 3 ทิศทาง คือ แนวรบในสภาฯ ด้วยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและดึงเสียงพรรคร่วมรัฐบาล, แนวรบนอกสภา โดยการชุมนุมใหญ่ รวมถึงการป่วนบ้านเมืองให้เกิดจลาจล และแนวรบต่างประเทศ โดยใช้กัมพูชาเป็นฐานบัญชาการ และใช้สื่อต่างประเทศกระจายข่าว

“พรรคเชื่อว่า แนวรบในสภาฯ และการชุมนุมนอกสภา ยังไม่สามารถบีบให้รัฐบาลยุบสภาได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การสร้างสถานการณ์ การก่อวินาศกรรม ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย เพื่อนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ซึ่งหน่วยข่าวกรองของเราประเมินว่า ตัวเลขคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมมีเพียง 5 หมื่นคน ไม่ถึง 1 ล้านคน ซึ่งโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงจะชนะมีน้อยมาก แต่ตราบใดที่เงินยังมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหว จึงทำให้สถานการณ์น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกองกำลังที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่จะไปก่อวินาศกรรม” นายสำราญ กล่าว

โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวอีกว่า พรรคขอเสนอให้รัฐบาลใช้สื่อของรัฐนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้มากที่สุด โดยหยุดสร้างเงื่อนไขในเชิงลบทุกประการ โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชั่น และการใช้อำนาจหน้าที่ที่ผิดพลาด และรัฐบาลต้องกล้าหาญที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับแกนนำการเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมาย รวมถึงควรกำหนดมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยด้วย.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 15:35:00

ปชป.ประเมิน 10 วันอันตราย หลังตรุษจีน เสื้อแดงเคลื่อนไหว​

​

ประชาธิปัตย์ 17 ม.ค.- ปชป.ประเมินสถานการณ์การเมือง จะมีความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ ชินวัตร” กดดันทั้งใน - นอกสภา จับตา 10 วันอันตรายหลังตรุษจีน - วันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้าน เรียกร้องเสื้อแดงบททวนการเคลื่อนไหว อย่าสวนความต้องการของประชาชน

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คณะทำงานปฏิบัติทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประเมินสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เชื่อว่า จะมีความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้ประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานบัญชาการ จนทำให้มีผลต่อความตึงเครียด การคุมคามกดดันการทำงานขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พยายามบิดเบือนว่าเป็นการดำเนินการ 2 มาตรฐาน โดยหยิบประเด็นมาเทียบกันระหว่างคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท กับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์และการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ไม่ยอมรับกระบวนการ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับผลคำตัดสิน

“นอกจากนี้ ยังจะมีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ปลุกระดมให้มีความเกลียดชังต่อสถาบันทหาร องคมนตรี และรัฐบาล ด้วยข้อมูลที่บิดเบือน เพื่อกดดันในสภาฯ หลังเปิดสมัยประชุมสภาแล้ว เหมือนกับที่มีการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้” นพ.บุรณัชย์ กล่าว

ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ เชื่อว่า คนเสื้อแดงจะชุมนุมหลังวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงถือว่าเป็นช่วง 10 วันอันตราย ที่ต้องจับตามอง

“อยากเรียกร้องให้คนเสื้อแดงฟังเสียงประชาชน ที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนล่าสุดสนับสนุนให้รัฐบาลชุดนี้ดำเนินงานต่อไป และจากลงพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และได้พบกับมวลชนคนเสื้อแดงระดับล่าง หลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเคลื่อนไหวแบบแตกหัก มีเพียงแกนนำระดับสูง และพวกฮาร์ดคอร์บางคนเท่านั้น การทำอะไรที่สวนความรู้สึกของประชาชน ก็จะไม่มีทางที่จะสำเร็จ” นายเทพไท กล่าว.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 13:38:07

เฝ้าระวังแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเน่าตั้งแต่บางปะอินถึงสมุทรปราการ​

​

กรมชลประทาน 15 ม.ค.-กรมชลประทานเตือนเฝ้าระวังแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเน่าตั้งแต่บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ ระบุปลาเริ่มลอยหัว

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน รายงานว่า จากการตรวจวัดคุณภาพน้ำเมื่อวานนี้ สรุปได้ว่า คุณภาพน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงหน้าวัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุณภาพน้ำยังอยู่ในสภาพปกติ แต่สำหรับหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะอิน วัดเชิงเลน และปากคลองแม่น้ำน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุณภาพน้ำต้องเฝ้าระวังออกซิเจนละลายในน้ำน้อย ปลาเริ่มลอยหัว และตั้งแต่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ คุณภาพน้ำต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ น้ำเริ่มเน่าเสีย ไม่เหมาะต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ. -สำนักข่าวไทย

2010-01-15 16:14:47

พบซากเต่าทะเลกระดองแตกชายหาดทรายขาว​

​

ประจวบคีรีขันธ์ 17 ม.ค.- เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยกู้ภัยร่วมตรวจสอบและเก็บซากเต่าทะเลริมชายหาดทรายขาว หมู่ 1 บ้านดอนสำราญ ต. แม่รำพึง ช่วงสายวันนี้ (17 ม.ค.) พบว่าเป็นเต่าทะเลขนาดใหญ่ เพศเมีย สภาพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น และกระดองแตก

คาดว่าอาจถูกของมีคมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะใบพัดเรือขนาดใหญ่ จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอทราบ ขณะที่นายปกรณ์ ปุริมอติกานต์ รักษาการประธานเครือข่ายเฝ้าระวังและช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก อ.บางสะพาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา สมาชิกเครือข่ายเฝ้าระวังฯ พบซากเตาตะนุ เพศผู้ อายุประมาณ 15 ปี น้ำหนักประมาณ 80-100 กิโลกรัม ขึ้นเกยหาดใกล้ท่าเทียบเรือประมงอ่าวบ่อทองหลาง ต.แม่รำพึง จึงแจ้งให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุการตายของเต่าทะเล เบื้องต้นสงสัยว่ากินสายเบ็ดติดเข้าไปในกระเพาะอาหาร.-สำนักข่าวไทย

2010-01-17 17:19:05

พื้นดินหมู่บ้านจัดสรรย่านปทุมฯ ทรุดเป็นโพรงใหญ่​

​

ปทุมธานี 17 ม.ค.- น.อ.บุญส่ง จุ้ยกล่อม อายุ 70 ปี อดีตนายทหารอากาศเกษียณอายุราชการ เจ้าของทาวน์เฮ้าส์ เนื้อที่ 17 ตารางวา ซอย 6 ม.2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พาผู้สื่อข่าวดูสภาพความเสียหายจากพื้นดินบริเวณบ้านเกิดทรุดตัวจนเห็นใต้ถุนบ้านเป็นโพรงว่า ซื้อบ้านดังกล่าวเมื่อปี 2538 เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีอยู่ประมาณ 600 หลังคาเรือน โดยปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน และทรุดมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะที่ซอย 6 เท่านั้น ยังมีซอยอื่นอีก และที่ผ่านมาเทศบาลเมืองลำสามแก้วมาปรับทำถนนให้อยู่ในระดับเดียวกับพื้นบ้านไปแล้ว เช่น ซอย 5 และซอย 7 เหลือเพียง 6 มีทั้งหมด 48 หลังคาเรือน เพราะงบประมาณไม่พอ

บางหลังพื้นหน้าบ้านทรุดไปถึง 1 เมตร และพบว่าที่ฐานรากของตัวบ้านไม่ได้อยู่บนหัวเสาเข็มที่ตอกลงไป ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะตามปกติโครงสร้างของการก่อสร้างบนหัวเสาเข็มจะต้องติดกันมีการผูกเหล็กเทปูนให้เป็นฐานเดียวกัน โดยเฉพาะดินที่ถมอยู่ในพื้นบ้านไม่มีเหลืออยู่ จึงเป็นโพรงและมีน้ำขัง ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด จากการสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่มาก่อนบอกว่าที่ตรงนี้มีการขุดหน้าดินไปขายลึกมาก จากนั้นมีโครงการเข้ามาถมที่เพื่อสร้างบ้านจัดสรร ปัญหาที่เกิดขึ้นบางหลังจ้างถมพื้นบ้านให้เท่ากับพื้นเดิม ขณะที่อีกส่วนหนึ่งย้ายไปอยู่ที่อื่น รวมทั้งประกาศขายและปล่อยร้าง.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 14:37:29

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเกิดสึนามิรุนแรงเท่าปี 47 ถล่มเกาะสุมาตรา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>18 ม.ค.-ผู้เชี่ยวชาญเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิรุนแรงเทียบเท่าปี 2547 อาจพัดเข้าถล่มเกาะสุมาตรา โดยเฉพาะเมืองปาดังอาจเผชิญภัยพิบัติอย่างเต็มที่

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนนี้นำโดย ศ.จอห์น แมคคลอสคีย์ แห่งสถาบันวิจัยนิเวศน์วิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ

ผู้เคยทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซียมาแล้วในปี 2548 ได้ออกคำเตือนผ่านวารสารธรรมชาติธรณีวิทยาระบุว่า แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นและทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามินี้ จะมาจากแรงกดดันที่สะสมมานานกว่า 200 ปี บริเวณที่เรียกันว่า ซุนดา เทรนช์ หรือแนวที่แผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น มาชนกัน คือ แผ่นอินเดีย แผ่นออสเตรเลีย และแผ่นพม่า ซึ่งแนวดังกล่าวขนานกับชายฝั่งเกาะสุมาตราตะวันตก โดยความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมากกว่า 8.5 ริกเตอร์ ความสูญเสียจะเทียบเท่ากับอุบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2547อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในบทความไม่ได้ระบุวันเวลาที่จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขึ้น

แต่เตือนว่าจุดที่จะได้รับอันตรายมากที่สุดก็คือเมืองปาดังของอินโดนีเซีย ที่มีพลเมือง 850,000 คน ศ.แมคคลอสคีย์ ได้เคยเตือนไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2548 ว่า แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 อันก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่นั้น ได้ทำให้เกิดแรงกดดันและจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.5 ริกเตอร์ ได้ในเร็ว ๆ นี้ และวิงวอนให้รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมแผนรับมือไว้ให้ดี การคาดการณ์ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวนั้น ตามหลักวิชาทางธรณีวิทยาและแผ่นดินไหวนั้นอาจคาดการณ์ได้ แต่การทำนายถึงช่วงระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่อาจกระทำได้ แต่กระนั้นในวันที่ 28 มีนาคม 2548 ก็เกิดแผ่นดินไหวในบริเวณเกาะซิมิวลิว ขนาด 8.6 ริกเตอร์ และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูง 3 เมตร ขึ้นจริงตามคำทำนายของ ศ.แมคคลอสคีย์

สำหรับคำเตือนแผ่นดินไหวครั้งใหม่นี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของ ศ.แมคคลอสคีย์ ระบุว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ชานเมืองปาดัง เมื่อวันที่ 30 กันยายนปีที่แล้ว

คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 1,000 คน นั้นไม่ได้ทำให้แรงกดดันในของเปลือกโลกใต้เกาะซีเบอรัต ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะเมนตาไว ลดน้อยลง แรงกดดันและพลังงานที่อัดแน่นคงยังอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น รัฐบาลอินโดนีเซีย ชาวเมืองปาดัง และนานาประเทศควรร่วมมือกันเตรียมพร้อมกับการเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่อาจกำหนดได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เกิดแผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ชายฝั่งปาปัวนิวกินี​

​

พอร์ตมอร์สบี 17 ม.ค.- เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ที่ชายฝั่งของปาปัวนิวกินีในมหาสมุทรแปซิฟิกแต่ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดสึนามิ

สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐแจ้งว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.46 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 16.46 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไป 35 กิโลเมตร ห่างจากเมืองราบอลบนเกาะนิวบริเทนไปทางใต้ 215 กิโลเมตร ปาปัวนิวกินีตั้งอยู่บนแนววงแหวนไฟ ซึ่งเป็นจุดที่แผ่นเปลือกโลก 2 ทวีปมาชนกันทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง.-สำนักข่าวไทย

2010-01-17 18:28:03

ผู้เชี่ยวชาญเตือนอาจเกิดสึนามิรุนแรงเท่าปี 47 ถล่มเกาะสุมาตรา​

​

18 ม.ค.-ผู้เชี่ยวชาญเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิรุนแรงเทียบเท่าปี 2547 อาจพัดเข้าถล่มเกาะสุมาตรา โดยเฉพาะเมืองปาดังอาจเผชิญภัยพิบัติอย่างเต็มที่

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนนี้นำโดย ศ.จอห์น แมคคลอสคีย์ แห่งสถาบันวิจัยนิเวศน์วิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ ผู้เคยทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซียมาแล้วในปี 2548 ได้ออกคำเตือนผ่านวารสารธรรมชาติธรณีวิทยาระบุว่า แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นและทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามินี้ จะมาจากแรงกดดันที่สะสมมานานกว่า 200 ปี บริเวณที่เรียกันว่า ซุนดา เทรนช์ หรือแนวที่แผ่นเปลือกโลก 3 แผ่น มาชนกัน คือ แผ่นอินเดีย แผ่นออสเตรเลีย และแผ่นพม่า ซึ่งแนวดังกล่าวขนานกับชายฝั่งเกาะสุมาตราตะวันตก โดยความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมากกว่า 8.5 ริกเตอร์ ความสูญเสียจะเทียบเท่ากับอุบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2547อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในบทความไม่ได้ระบุวันเวลาที่จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขึ้น แต่เตือนว่าจุดที่จะได้รับอันตรายมากที่สุดก็คือเมืองปาดังของอินโดนีเซีย ที่มีพลเมือง 850,000 คน ศ.แมคคลอสคีย์ ได้เคยเตือนไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2548 ว่า แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 อันก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่นั้น ได้ทำให้เกิดแรงกดดันและจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.5 ริกเตอร์ ได้ในเร็ว ๆ นี้ และวิงวอนให้รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมแผนรับมือไว้ให้ดี การคาดการณ์ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวนั้น ตามหลักวิชาทางธรณีวิทยาและแผ่นดินไหวนั้นอาจคาดการณ์ได้ แต่การทำนายถึงช่วงระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่อาจกระทำได้ แต่กระนั้นในวันที่ 28 มีนาคม 2548 ก็เกิดแผ่นดินไหวในบริเวณเกาะซิมิวลิว ขนาด 8.6 ริกเตอร์ และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูง 3 เมตร ขึ้นจริงตามคำทำนายของ ศ.แมคคลอสคีย์

สำหรับคำเตือนแผ่นดินไหวครั้งใหม่นี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของ ศ.แมคคลอสคีย์ ระบุว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ชานเมืองปาดัง เมื่อวันที่ 30 กันยายนปีที่แล้ว คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 1,000 คน นั้นไม่ได้ทำให้แรงกดดันในของเปลือกโลกใต้เกาะซีเบอรัต ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะเมนตาไว ลดน้อยลง แรงกดดันและพลังงานที่อัดแน่นคงยังอยู่เหมือนเดิม ดังนั้น รัฐบาลอินโดนีเซีย ชาวเมืองปาดัง และนานาประเทศควรร่วมมือกันเตรียมพร้อมกับการเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่อาจกำหนดได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

2010-01-18 06:46:38

จนท.ยังพบผู้รอดชีวิตใต้ซากแผ่นดินไหวเฮติต่อเนื่อง​

​

เฮติ 18 ม.ค.-เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพบร่างผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังจากเหตุแผ่น ดินไหวในเฮติอย่างต่อเนื่อง แม้เหตุการณ์จะผ่านมาแล้วหลายวัน

นาร์ดีน คาร์โดโซ วัย 62 ปี เจ้าของโรงแรมมอนทานาในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ได้รับการช่วยเหลือในวันนี้ หลังจากติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโรงแรมของเธอเองนานกว่า 100 ชั่วโมง น่าประหลาดใจที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง มีเพียงอาการอ่อนเพลียเนื่องจากขาดน้ำเท่านั้น หน่วยกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวใต้ซากปรักหักพังของโรงแรมมอนทานาแห่งนี้ เนื่องจากเชื่อว่ายังมีผู้เคราะห์ร้ายติดค้างอยู่อีกจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้ สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกมาได้แล้ว 3 คน ขณะที่หน่วยกู้ภัยจากเม็กซิโกสามารถช่วยผู้รอดชีวิตออกจากอาคารที่พังถล่มอีกหลายแห่งได้ถึง 7 คน ส่วนใหญ่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนานเกือบ 100 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

2010-01-18 00:28:15

มีผู้เสียชีวิตและไร้ที่อยู่หลายพันคนจากไฟไหม้ชุมชนแออัดฟิลิปปินส์​

​

มะนิลา 17 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ รายงานว่า เพลิงลุกไหม้ทั่วชุมชนแออัดในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ทำให้เด็กหญิงวัย 5 ขวบ เสียชีวิต เผาผลาญบ้านเรือนหลายร้อยหลัง และไร้ที่อยู่ถึง 4,000 คน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักงานดับเพลิง กล่าวว่า สาเหตุเพลิงไหม้นาน 2 ชั่วโมง ยังคงอยู่ในระหว่างการสอบสวน หลังลมแรงทำให้ไฟลุกลามมากขึ้นและทำลายบ้านเรือนไป 500 หลัง แหล่งที่อยู่ชุมชนแออัดในฟิลิปปินส์เคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่มาหลายครั้งในช่วงปีก่อน เช่น เมื่อปี 2545 มีผู้ไร้ที่อยู่ราว 15,000 คน และปี 2547 ไฟไหม้เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 12,000 คน .- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 16:03:35

ญี่ปุ่นรำลึกแผ่นดินไหวโกเบพร้อมแสดงความเห็นใจชาวเฮติ​

​

โตเกียว 17 ม.ค.- เมืองโกเบ ทางตะวันตกของญี่ปุ่นจัดงานรำลึกแผ่นดินไหวครบ 15 ปีในวันนี้ พร้อมทั้งแสดงความเห็นใจชาวเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

เจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร เจ้าหญิงมาซาโกะ พระชายา และนายกรัฐมนตรียูกิโอะ ฮาโตยามะร่วมงานรำลึกแผ่นดินไหวที่เมืองโกเบ แผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.46 น.ของวันที่ 17 มกราคม 2538 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6,434 คน เจ้าชายนารูฮิโตะตรัสว่าบทเรียนจากแผ่นดินใหญ่โกเบทำให้มีนโยบายรับมือภัยพิบัติใหม่ ๆ และเทคโนโลยีบรรเทาภัย ทรงหวังว่าความรู้เหล่านี้จะถ่ายทอดไปยังคนรุ่นต่อไปโดยไม่จำกัดเฉพาะในญี่ปุ่น ทรงถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจและเห็นใจไปยังชาวเฮติที่ประสบภัยแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์เมื่อวันพุธตามเวลาในไทย และทรงหวังว่าการบูรณะฟื้นฟูจะคืบหน้าอย่างรวดเร็ว

ด้านนายฮาโตยามะรับปากว่ารัฐบาลจะพยายามอย่างดีที่สุดในการรับมือกับภัยธรรมชาติเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย ส่วนช่วงเช้ามืดวันนี้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากรวมตัวกันตามสวนสาธารณะและสถานที่สาธารณะรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุเมื่อ 15 ปีก่อน หลายคนร่ำไห้ขณะสวดมนต์ วางดอกไม้และจุดเทียนรำลึกถึงผู้จากไป.-สำนักข่าวไทย

2010-01-17 15:24:41

ญี่ปุ่นขู่จะตอบโต้หากจีนเริ่มผลิตแก๊สในดินแดนพิพาท​

​

โตเกียว 17 ม.ค.- สำนักข่าวเกียวโดของทางการญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นขู่จะตอบโต้หากจีนเริ่มการผลิตแก๊สจากบ่อแก๊สข้อพิพาทในทะเลจีนตะวันออก

ญี่ปุ่นและจีนบรรลุข้อตกลงในหลักการเมื่อปี 2551 ว่าจะร่วมกันพัฒนาบ่อแก๊สในทะเลใกล้เขตแดนที่ญี่ปุ่นอ้างสิทธิเป็นเจ้าของ แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก ญี่ปุ่นเรียกบ่อแก๊สนี้ว่า ชิรากาบะ จีนเรียกว่าชุนเสี่ยว ญี่ปุ่นกล่าวหาจีนละเมิดข้อตกลงด้วยการขุดเจาะบ่อแก๊ส

ล่าสุดเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เผยว่า นายคัตสึยะ โอกาดะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้บอกกับ นายหยาง เจียฉือ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ระหว่างพบกันที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินการบางอย่างเพื่อตอบโต้ แต่ไม่ได้ระบุในรายละเอียด

ประมาณกันว่าบ่อแก๊สนี้ มีปริมาณแก๊สสำรองเทียบได้กับน้ำมัน 92 ล้านบาร์เรล แต่ทั้งสองประเทศไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ เนื่องจากน่าจะมีแก๊สสำรองมากกว่าที่คาด.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 11:45:23

ที่มา http://news.mcot.net

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutatip_b<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2859218", true); </SCRIPT> สมาชิก

ว่าด้วยเรื่องผู้เสียชีวิตที่เฮติ

วันก่อนดูข่าวโทรทัศน์ ที่สุสานมีศพที่ไม่ปรากฏนามห่อผ้าทิ้งไว้ ยังไม่ได้ฝังจำนวนมาก พอตาจับภาพได้ปลายมือก็ตุ๊บๆเหมือนไฟช็อต ช่วงอกรู้สึกเหมือนถูกรัด แล้วก็หนาวขึ้นมาทันที ทั้งที่บ้านก็เปิดพัดลมธรรมดา ถามคนข้างๆ ว่าหนาวไหม เขาบอกก็ธรรมดา

รู้สึกว่าเขาที่นอนกองอยู่ในโทรทัศน์สื่อความรู้สึก ที่หลงทางและหนาวเหน็บ ขอให้ผู้ที่รับรู้ได้ช่วยเหลือ

สวดมนต์บทจักรพรรดิ์อุทิศบุญให้แล้วความรู้สึกถูกรัดก็ยังไม่หายไป ปรึกษาพี่เม้าท์แล้วจึงทำน้ำบุญส่งไป อุทิศบุญผ่านน้ำในภาชนะใหญ่ให้พวกเขา ผ่านแม่พระคงคา ให้แม่พระธรณีเป็นพยาน ฝากสามีลงไปเทที่ต้นไม้ข้างล่าง

เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่มือก็ช็อตไฟฟ้าจางๆ และมีความอุ่นคืบคลานขึ้นมาตามมือและแขน สักสองนาทีให้หลังสามีเปิดประตูคอนโดเข้ามาพอดี จึงจับความได้ว่า

เมื่อเริ่มช็อตนั้น น้ำได้กระทบผืนดินแล้ว บุญส่งไปในทันที realtime ผู้ที่ได้รับบุญสบายขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับไปอยู่ภพภูมิสูง แต่แฮปปี้กว่าเดิม

17-01-2010, 11:49 PM

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อความจาก-กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-627

 

พึ่งสมัครและได้รับเมล์แจ้งเตือนครับ อยากทราบว่าการสั่นไหวใน Yellowstone เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วรึเปล่าครับ เพราะเข้าไปดูในเว็บมันย้อนหลังนิดเดียว

 

สาส์นจากจักรวาลสู่ดาวโลก
โดยคุณ Avatar​

​

ข้อความต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หาไม่ท่านอาจถูกกล่าวหาว่างมงาย ไร้สาระ

สาส์นฉบับที่ ๑

ปู่จักรวาลให้แจ้งว่า หากมนุษย์ยังไม่เร่งขวนขวายปฏิบัติตน ให้เป็นผู้นิ่งสงบ ไม่ไปกระทบกระทั่งผู้อื่น เรียนรู้ในตนให้ถ่องแท้ให้ได้เสียก่อน ดาวโลก ก็จะมีแต่ความวุ่นวายไม่เลิกรา หาสันติสุขอันใดมิได้ เป็นภัยในตัวที่กำลังกัดกินหัวใจที่เคยประเสริฐ ให้เป็นหัวใจที่ถดถอยด้อยค่า แม้ภัยธรรมชาติบังเกิด เราจะมีใจไปช่วยใครได้ กระทั่งตัวเองก็ยังช่วยไม่ได้เลย

สาส์นฉบับที่ ๒

ขอให้มนุษย์จงหยุดทำร้ายทำลายธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตัดไม้ทำลายป่าในประเทศไทย จากปี ๒๕๔๑ ป่าไม้มีอยู่ ๕๑ % แต่มาปี ๒๕๕๒ ป่าไม้เหลือเพียง ๒๕ % ไม่น่าเชื่อว่า จะมีประสิทธิภาพทำได้เร็วถึงเพียงนี้ แล้วสมดุลธรรมชาติจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ภัยทั้งหลายที่เกิดจากธรรมชาติ ท่านจะโทษธรรมชาติไม่ได้ ตัวท่านเองนั่นแหละเป็นผู้กระทำ ขอให้หยุดให้ได้ โดยหยุดที่ใจใคร่คิดใคร่กระทำให้ได้ก่อน

สาส์นฉบับที่ ๓

ปู่จักรวาล เน้นข้อนี้เป็นพิเศษ ท่านให้แจ้งว่า การฝึกผู้อาสาช่วยเหลือภัยพิบัติ มีกระจายไปทั่วทุกมุมโลก ในแต่ละจุดของการฝึก จะเน้นด้านการชำระจิตใจ การไม่สำคัญผิดคิดว่าเป็นตัวตน มิฉะนั้นผลการช่วยเหลือจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

การฝึกเช่นนี้ ย่อมต้องอาศัยความสลับซับซ้อน มีการทดสอบ ทดลอง และทดแทน สลับกันไป เพื่อกลั่นกรองให้ได้ซึ่งผู้มีปัญญา สามารถนำพาชีวิตมนุษย์ให้หลุดรอดพ้นจากภัยพิบัติได้

ผู้เข้ารับการฝึก ต้องแยกพฤติกรรมจากตัวตนที่อิงรหัสกรรมมาเกิด กับสภาวะจิตใจที่เกิดดับอยู่ทุกขณะปัจจุบันให้ได้ พฤติกรรมจากตัวตนที่อิงรหัสกรรมมาเกิดของเขา เราไปบังคับให้เป็นดั่งใจเราไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่เรา รหัสกรรมที่นำมาเกิดก็คนละรหัส

ดังนั้น อย่าให้พฤติกรรมของผู้อื่น มาทำลายสภาวะจิตที่เริ่มใสบริสุทธ์ และพร้อมที่จะทำงานของเราโดยเด็ดขาด เขาก็คือเขา จะทำให้เหมือนอย่างเรานั้น เป็นไปไม่ได้

สาส์นฉบับที่ ๔

เหตุผลที่ต้องฝึกที่ใจก่อนภัยพิบัติจะมาถึง เมื่อภัยพิบัติมาถึงแม้คนรวยมีเงินทองมากมาย สามารถเตรียมเสบียงอาหาร กักเก็บไว้ในที่ที่ทำไว้หลบภัย เพื่อบริโภคในยามฉุกเฉิน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของพวกที่อดอยาก พวกเขาย่อมกระทำการสิ่งใดก็ได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารสำหรับประทังชีวิต โดยไม่ฟังใครทั้งสิ้น ความโกลาหลวุ่นวายจะเกิดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

คนรวย มีอาหารไว้เก็บกิน ก็อาจตายเพราะภัยจากผู้หิวโหย ผู้หิวโหย ก็อาจตาย จากผู้หิวโหยด้วยกัน ดังนั้นจะหาความปลอดภัยได้จากที่ไหน บนความทุกข์ ความเดือดร้อน ที่เข้ามากระทบอายตนภายใน หากเราสามารถฝึกแยกแยะ ปล่อยวาง และเข้าใจในสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น เราย่อมเป็นผู้พบ และเป็นผู้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง

สาส์นฉบับที่ ๕

เตรียมตัวตายกันได้แล้ว ท่านปู่จักรวาลกล่าวด้วยสีหน้าแสดงแววเมตตาและห่วงใยว่า มนุษย์โลกต้องเรียนรู้และเข้าใจ ในเรื่องของชีวิตใหม่กันได้แล้ว ขณะนี้ความตายกำลังจ่ออยู่ตรงหน้า สิ่งที่จะนำมาถึงซึ่งความตายนั้น มีอยู่มากมาย ซึ่งมนุษย์มีความเข้าใจ และรับรู้ได้ดีอยู่แล้ว แต่จะหาใครได้สักกี่คน ที่จะเข้าใจ ในเรื่องของความตาย ซึ่งเป็นความตายที่ปราศจากทุกข์ทรมาน ตายด้วยความสุข เห็นอนิจจัง เป็นของไม่เที่ยงแท้ได้จริง ไม่ยึดติดในกายรูปสังขาร ที่หล่อหลอมรวมตัวขึ้นมาจากธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

คนที่ยังยึดติดในตัวตน ยังรักห่วงใย ทนุถนอมรักใคร่ในตัวตน ไม่ยอมทิ้งอัตตาตัวตน เมื่อถึงคราวประสบชะตากรรม ภัยร้ายเล่นงาน จนจวนเจียนใกล้ตาย แต่ก็ยังไม่ยอมตาย เพราะความห่วงใยในตัวตน ย่อมยึดไว้จนถึงที่สุด ปล่อยให้ทุกข์กัดกินรุมเร้า จนจิตวิญญาณต้องรับรหัสกรรมแห่งทุกข์ หลุดลอยลงสู่อเวจีมหานรก หรือภูมิสัตว์เดรัจฉาน คนแล้วคนเล่า

เป็นที่น่าอเน็จอนาถ แก่บรรดาเหล่าเทพพรหม พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งพระองค์ได้พยายามช่วยมนุษย์เท่าที่ช่วยได้ บัวเหล่าใด ยังจมมิดโคลนอยู่ ก็คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม แม้พระพุทธองค์ ก็ยังมิอาจโปรด บัวเหล่านั้นได้ เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว ใยทุกคนยังตั้งตนอยู่ในความประมาทอีกเล่า

โพสต์ข้อความโดยคุณ Avatar 15 มกราคม 2553 08:55:30

ที่มา http://www.sookjai.com/index.php/topic,742.msg0/boardseen.html#new

 

<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>5 เคล็ดลับ ขจัดเครียด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เทคนิค 5 เคล็ดลับ ขจัดเครียดเพื่อป้องกัน โรค ช่วงนี้ใครมีปัญหาให้ขบคิดจนเกิดอาการเครียดๆ ไม่ต้องกังกล เพราะเรานำ บทความ เกร็ดความรู้ สุขภาพ เทคนิค 5 เคล็ดลับ ขจัดเครียดมาฝากกันค่ะ เอาเป็นว่าไปอ่าน บทความ เกร็ดความรู้ สุขภาพ เทคนิค 5 เคล็ดลับ ขจัดเครียดเพื่อป้องกัน โรค กันนะคะ

ฝึกหายใจ: นั่งลงและเอนหลังกับพนักเก้าอี้ในท่าสบาย สูดหายใจเข้าลึกๆ และช้าๆ วิธีนี้จะสามารถขจัดความเครียดออกไปได้

นวดฝ่าเท้า : ใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงบนฝ่าเท้า แล้วนวดคลึงเบาๆ เพื่อคลายเส้นที่ปวดตึง โดยไล่จากส้นเท้าไปจนถึงปุ่มโคนหัวแม่เท้า แล้วจึงค่อยนวดวนออกไปด้านนอกฝ่าเท้า

น้ำช่วยได้ : แค่น้ำเปล่าเย็นๆ หรือน้ำส้มคั้นสดๆ จากตู้เย็นเพียงหนึ่งแก้ว ก็สามารถทำให้รู้สึกผ่อนคลายในยามเครียดได้อย่างประหลาด

กลิ่นหอมขจัดเครียด:น้ำมันหอมที่มีกลิ่นหอมสดชื่นที่เรารู้จักคุ้นหูกันดีในนามของ Aromatherapy สามารถช่วยคลายเครียดได้ เพียงเทน้ำมันหอมลงบนฝ่ามือแล้วนวดคลึงเบาๆ บริเวณขมับ ก็จะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง

ขจัดความเมื่อยขบให้ลำตัว :เมื่อความเครียดรุมเร้าจะปวดไหล่ หลังและคอ ลองเปลี่ยนอิริยาบทง่ายๆ โดยขยับตัวออกมานั่งตรงส่วนปลายของเก้าอี้ วางเท้าลงที่พื้นในท่าสบาย

จากนั้นวางมือขวาที่ต้นขาซ้าย แล้วเอื้อมมือซ้ายไปจับที่พนักเก้าอี้เหนือไหล่ขวา บิดตัวไปทางซ้ายช้าๆ จนสุด พร้อมเป่าลมออกจากแก้ม สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับหมุนตัวกลับไปในท่าตรง แล้วค่อยๆ ปล่อยลมออกทางปาก จนกลับมาอยู่ในท่าตรง สลับทำแบบเดียวกันด้านขวาและทำหลายๆ รอบ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ไม่ซื้อ...ไม่ตาย(อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

1,222,245,200,000คือ

ยอดขายโทรศัพท์มือถือในปี 2551

จากสถิติ ของ Worldwatch institute ระบุว่า

ระยะเวลาเฉลี่ยในการใช้โทรศัพย์มือถือ 1 เครื่อง

ในปัจจุบันมีอยู่ราว 14 เดือน ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องใหม่

นับว่าน้อยกว่าอายุการใช้งานจริงที่ควรจะเป็น




ทั้งๆที่มือถือยุคใหม่ไม่ได้ทำอะไรออกมาสนองความต้องการมากนัก

และระยะเวลาในการใช้งานอาจจะน้อยเกินไปกว่านั้น

ในกลุ่มผู้ใช้มือถือที่เห็นเป็นเพียงอุปกรณ์เสริมความมั่นใจ
เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเทรนด์

และได้ของที่ฉลาดสุดๆอยู่ในมือ

แต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความพอใจที่ได้อินเทรนด์นี้


ยอดขายหลายล้านๆเครื่องในแต่ละปี หมายถึง น้ำตา ฝันร้าย


และความตายของชาวคองโกนับล้านชีวิต

นี่ยังไม่นับรวมการฆาตกรรมหมู่ในป่าลึก,

ความตายของกอริลล่ายักษ์ที่อาจเหลือฝูงสุดท้ายในรวันดา
​

​

ตัวเชื่อมที่ทำให้มือถือโยงไปถึงสงครามร้ายแรงที่สุด


ในประวัติศาสตร์แอฟริกาคือ โคลัมไบต์-แทนทาไลต์



หรือแร่โคลแทนที่พบมากในแอฟริกากลาง,แน่นอน...ในคองโก​

​

ด้วยคุณสมบัติทนความร้อนสูง ทำให้ผงแทนทาลัม

ที่สกัดได้จากโคลแทน กลายเป็นวัตถุดิบจำเป็นที่อยู่ในมือถือ

คอมพิวเตอร์,เพลย์สเตชั่นฯลฯ


โคลแทน กลายเป็น black gold ในขณะเดียวกัน

สงครามคองโกครั้งที่ 2 ทำให้แร่สีดำชนิดนี้


กลายเป็นแร่สีเลือด blood coltan





เพราะการลักลอบทำเหมืองและส่งออกโคลแทน

กลายเป็นแหล่งหารายได้ที่เติมเชื้อไฟให้กับAfrican World War



ในจำนวนประเทศทั้ง8 ที่ติดหล่มสงคราม

และกองกำลังติดอาวุธกว่า20กลุ่ม

หลายกลุ่มหาผลประโยชน์จากพื้นที่คองโก

ที่ประเมินว่ามีแร่โคลแทนมากถึง 80% ของปริมาณโคลแทนในโลก





การดิจิไทซ์โลก ถนนทุกสายจึงมุ่งไปที่พื้นดินของคองโก

กองกำลังประชาธิปไตย กลุ่มปลดปล่อยรวันดาหรือ FDLR

ที่มีชาวฮูตูเป็นแกนนำ เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด

ของการทำเหมืองแร่ในคองโกอย่างผิดกฏหมาย
แม้จะต้องเสี่ยงจากการถูกปราบปรามจากรัฐบาลคองโก
แต่FDLR และอีกหลายกลุ่ม

ก็เห็นว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าอยู่ดี



เพราะแทนทาลัมเพียง 1 ปอนด์ทำเงินร่วม หมื่นบาท

แทนทาลัม 1 ปอนด์ เป็นได้ทั้งตัวเก็บประจุในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่

และแปลงเป็น AK-47 พร้อมกระสุนให้กับกองกำลังติดอาวุธ



หน่ำซ้ำในกระบวนการร่อนแร่หาโคลแทน

แรงงานที่ถูกบังคับให้ทำเยี่ยงทาส ก็คือเด็กๆคองโกลีส

ซึ่งองค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในบางพื้นที่ของคองโก
ในเด็ก 100 คนจะมี 30 คน ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน

ไปกับการแยกโคลแทนออกจากเศษหินอื่นๆ




เงินค่าจ้างไม่ถึง 35 บาท ต่อการหาโคลแทนให้ได้ 1 ปอนด์







เรื่องมือถือเปื้อนเลือดถูกพูดถึงเมื่อหลายปีก่อน

บริษัทระดับโลกอย่าง Nokia,Ericsson,Moto,Acer ,Compaq

ออกมาปฎิเสธเสียงแข็งว่า โคลแทนที่ใช้ในการผลิตของตน

ไม่ได้มาจากคองโก แต่มีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้หามาให้



ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่บอกได้ว่า

แทนทาลัมในมือถือที่พกติดตัวจนกลายเป็นอวัยวะที่33

นั้นมาจากคองโกหรือเปล่า



การตรวจสอบเส้นทางของแทนทาลัมนั้น

ต่อให้ใช้วิธีตามไปดูถึงที่แบบกบนอกกะลา

ก็ยังไม่สามารถบอกที่มาได้
โคลแทนได้ถูกลักลอบเอาออกนอกคองโก
เข้าสู่ตลาดมืด และขายทอดต่อไปเรื่อยอีกอย่างน้อย 10 ทอด

กว่าจะไปถึงผู้จัดหารายใหญ่ ที่บริษัทบิ๊กๆเลือกเป็นคู่ค้า

ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้วัตถุดิบ

มารองรับความต้องการการซื้อมือถือในตลาดโลก

นอกจากจะมีส่วนสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับอัฟริกาแล้ว

ยังส่งผลร้ายต่อสัตว์ป่าด้วย สัตว์ป่าน้อยใหญ่ กอริล่า และช้างป่านับพัน ถูกฆ่าจากการโดนบุกรุกของมนุษย์เพื่อหาโคลแทน






เพราะในพื้นที่ๆขุดหาโคลแทน มันคือบ้านของ กอริลล่าภูเขา

ที่เหลืออยู่บนโลกนี้ไม่กี่ร้อยตัว



สัตว์ร่วมวงศ์กับมนุษย์ ที่แสนจะขี้อาย สุภาพ

ไม่เพียงถูกเหมืองคุกคามถิ่นที่อยู่


พวกทำเหมืองยังล่าพวกมันเอาหัว บางทีก็ชำแหละนำเนื้อมากินด้วย













สวนสัตว์ในแอฟริกาหลายแห่ง รณรงค์การรีไซเคิลมือถือ

เพื่อลดอัตราการใช้โคลแทนในการผลิตมือถือใหม่

ด้วยหลังจะชะลอการสูญพันธุ์ของกอริลล่าภูเขาในคองโกได้บ้าง



แต่ดูเหมือนไม่ทันต่ออัตราการเติบโต

ของอุปกรณ์ที่เป็น “มากกว่าใช้พูด” แต่ส่วนใหญ่”ก็ใช้แค่พูด”เท่านั้น



ในทวีปแอฟริกาเอง พิษภัยจากมือถือคุกคามชีวิตและทรัพยากรตัวเอง

แต่อัตราการใช้มือถือก็เพิ่มขึ้น 1000%



เช่นเดียวกับจำนวนคนบริสุทธิ์ที่ล้มตายลง

ในสงครามกลางเมืองคองโก ประมาณการณ์กันว่า

นับแต่ปี 2547 ซึ่งเป็นปียุติสงครามอย่างเป็นทางการ
ยังมีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงรูปแบบต่างๆถึงเดือนละ 45,000คน
หรือปีละ 540,000
คน ตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึง
ผู้หญิงหลายหมื่นที่ถูกทารุณทางเพศ

ของกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เพียงแต่พวกเธอยังไม่ตาย












1,222,245,200,000 กับ 540,000 อาจมีหน่วยนับต่างกัน

แต่อัตราการขยายตัวกลับแปรตามกันอย่างน่ากลัว

ถ้าความอินเทรนด์ของคุณ นำมาซึ่งตัวเลขที่มีหน่วยศพเพิ่มมากขึ้น

คุณยังอยากเปลี่ยนมือถือทัชสกรีนมาใช้เล่นอีกสักเครื่องไหม ...!?!



จากคอลัมภ์ "ไม่ซื้อ..ไม่ตาย" นิตยสาร ค คน

Credit:Dek-D.com :​

 

ชาวบ้านผวาบ้านทรุดลึกเป็นเมตร หวั่นหากเกิดแผ่นดินไหวเหมือนเฮติ หรือฝนตกหนักจะเกิดการทรุดตัวพังทั้งแถว
วันนี้ (17 ม.ค.2553) ผู้สื่อข่าวรายงานเดินทางไปที่ หมู่บ้านรินทร์ทอง ม.2 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังจาก นาวาอากาโทบุญส่ง จุ้ยกล่อม นายทหาร นอกราชการ อายุ 70 ปี พร้อมชาวบ้านข้างเคียงได้ร้องเรียน ว่า ภายในหมู่บ้านรินทร์ทอง ที่มีบ้านเรือนกว่า 600 หลังคาเรือน เกิดแผ่นดินทรุดตัว ขอให้มาตรวจสอบและนำเสนอข่าวเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาแก้ไขปัญหา
นาวาอากาโทบุญส่ง เปิดเผยว่า หมู่บ้านเป็นโครงการที่ได้เปิดขายบ้านเมื่อปี พ.ศ.2538 ในขณะนั้นมีราคาประมาณห้าแสนเศษ และมีการประกาศและโฆษณาว่าบ้านสวยหรูสำหรับคุณ จึงมีข้าราชการทหารอากาศและประชาชนได้มีซื้อกันจำนวนมาก
เนื่องจากในรูปภาพที่ทำการโฆษณานั้นมีถนนคอนกรีต และบ้านที่สูงกว่าถนนประมาณ 20 ซม. แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาอยู่ได้ไม่นานถนนและพื้นหน้าบ้านเริ่มทรุดตัวลงมา เป็นระยะๆ
และมีการแจ้งไปที่บริษัท ก็มาบรีการมาซ่อมแซมให้เฉพาะบ้านที่ร้องเรียน ส่วนบ้านที่ไม่ร้องเรียนและทรุดตัวเหมือนกันทุกบ้านไม่มีการซ่อมแซมให้ทุก บ้าน
นอกจากนี้เมื่อฝนตกลงมาน้ำก็จะท่วมมากถึงกับต้องใช้เรือพาย จนผ่านมากว่าสิบปีทางโครงการได้แจ้งว่ารับประกันเฉพาะตัวบ้าน แต่หน้าบ้านและถนนไม่รับประกัน และได้มีการร้องเรียนไปที่เทศบาลเมืองลำสามแก้ว ก็ได้มีการตั้งงบประมาณมายกพื้นถนนให้สูงขึ้น
แต่ขณะนี้ได้ยกไปเพียงบางส่วน ยังมีที่ไม่ได้ยกถนน และอีกหลายซอยที่ได้รับผลกระทบจากพื้นดินยุบตัวลงกว่า 1 เมตร ทั้งนี้บางจุดอาคารสูงสามชั้นพื้นดินทรุดตัวลงมากว่า 50 ซม.จนหัวเสาเข็มโผล่ขึ้นมาเหมือนจะฟ้องว่าไม่มีการผูกเหล็กที่หัวเสาเข็ม เมื่อเสาทรุดตัวลง พื้นอาคารจึงลอยขึ้นมา เห็นหัวเสาเข็มที่รองรับน้ำหนักตัวอาคาร
นาวาอากาโทบุญส่ง กล่าวอีกว่า ชาวบ้านบางคนบ่นว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหวจะเหมือนประเทศเฮติ คงเกิดอันตรายมาก ซึ่งน่าจะมาหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบความแข็งแรงของอาคารและบ้านเรือนประชาชน
ด้านนายสมบุญ ทับทิม อายุ 73 ปี ได้ซื้อบ้าน ในซอย 6 กล่าวว่า ได้ยกพื้นบ้านสูงกว่าหนึ่งเมตร เพื่อหนีน้ำท่วมในช่วงฝนตก เพราะจะเกิดปัญหาน้ำระบ่ายไม่ออกจะต้องใช้เครื่องสูบน้ำ
และที่หน้าบ้านทุกหลังทางโครงการมีการกั้นกำแพงแต่ละหลัง แต่ขณะนี้กำแพงปูนที่หลังเอียงไปกว่า 30 องศาแล้ว และหลังคาหน้าบ้านที่ต่อเติมก็มีการแยกตัวออกห่างกว่าหนึ่งคืบซึ่งจะมีให้ เห็บเกือบทุกบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมีการสอบถามถึงพื้นที่หมู่บ้านคนแก่ละแวกนี้ได้รู้ว่าพื้นที่เดิมเป็น บ่อดินที่มีการขุดดินไปขายแล้วโครงการหมู่บ้านได้ซื้อมาจากนั้นมีการถมดิน ขึ้นมาเสมอพื้นและถมดินเฉพาะทางเข้าให้สูงขึ้นเท่านั้นส่วนใต้ตัวบ้านเป็น โพรงขนาดใหญ่มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี จึงเป็นสาเหตุให้พื้นทรุดตัวลงมามาก
และทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทุกหลังคาเรือนจนมีการปิดประการ ขายบ้านในราคาถูกและบางบ้านได้ปิดบ้านทิ้งหนีไปอยู่ที่อื่นเลยชาวบ้านขอฝาก หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยมาตรวจสอบช่วยเหลือชาวบ้านก่อนที่จะเกิดบ้านพังลง มาก่อนแล้วค่อยแก้ปัญหาที่หลังมันจะเป็นเรื่องใหญ่
นายบุญไกร บุญคุ้ม นายกเทศมนตรีเมืองลำสามแก้ว ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้กล่าวถึงหมู่บ้านรินทร์ทอง ในพื้นที่รับผิดชอบได้กล่าวว่าหมู่บ้านแห่งนี้ได้ก่อสร้างมากว่าสิบปีแล้ว โดยได้ปลูกสร้างบนพื้นที่บ่อดินเก่าที่มีการนำดินมาถมดินใหม่
จึงเป็นเหตุให้ดินยุบตัวลงมาจำนวนมาก ซึ่งเดิมทางโครงการหมู่บ้านได้ก่อสร้างในพื้นที่เสมอกันหมดเมื่อมีการอยู่ไป สักสามสี่ปีพื้นดินได้ยุบตัวลงมาเลื่อยๆ แต่ตัวอาคารได้มีการลงเสาเข็มลึกถึงพื้นดินจึงมาทรุดตัวมาก แต่การต่อเติมหน้าบ้านหรือรั้วกำแพงปูนได้ทรุดตัวจนน่ากลัวทุกหลังคาเรือน
ส่วนทางเทศบาลที่ผ่านมาได้มีการตั้งงบประมาณยกพื้นถนนไปจำนวน 4 ซอย หมดงบประมาณไปกว่า 40 ล้านบาท และขณะนี้ได้ตั้งงบประมาณอีก 8 ล้านบาทยกถนนด้ายท้ายหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องตั้งงบประมาณอีกเกือบร้อยล้านถ้าจะยกถนนทางเข้าทั้งหมด
ซึ่งเทศบาลได้ทยอยทำให้ครบทุกซอยแต่ก็บางซอยต้องช้าลงบ้างเพราะงบประมาณมี ไม่เพียงพอ และทางเจ้าของโครงการก็ขายไปหมดแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อต้องซ่อมกันเอง
แต่เทศบาลได้ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือ และเมื่อตรวจสอบโครงการก่อสร้างของหมู่บ้านพบว่ามีการลงเสาเข็มถึง 20 เมตร ลงสุดใต้ดิน แต่บางจุดที่ดินไม่แน่นก็จะทรุดตัวลงมาจนหัวตอหม้อลอยขึ้นมาซึ่งเมื่อพบเห็น ทุกคนกลัวอันตรายจะเกิดขึ้นมา
นายบุญไกร บุญคุ้ม นายกเทศมนตรีเมืองลำสามแก้ว ยังกล่าวอีกว่าชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่างได้ร้องเรียนไปที่ สคบ.กัน แต่ยังไม่มีการลงมาตรวจสอบภายในหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
มีแต่เทศบาลที่ได้เข้ามาช่วยเหลือการยกถนนให้ ส่วนที่บ้านต่อเติมออกมาต้องรับผิดชอบกันเอง หรือหากเกิดแผ่นไหวอาคารเหล่านี้ก็อาจจะพังทลายลงมาได้ ก็เตือนให้ผู้อยู่อาศัยคอยตรวจสอบบ้านตัวเองด้วยเพื่อป้องกันไว้ก่อน

• ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

 

======================================

17 ม.ค. 53

ทหารเก่ากับข่าวลือ




องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ความช่วยเหลือ “เฮติ” ยังไม่พอ-ไม่ทั่วถึง เลขาฯ ยูเอ็นชี้วิกฤตมนุษยธรรมสุดสาหัส</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 มกราคม 2553 08:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติเดินทางเยือนเฮติ​

เลขาฯ ยูเอ็นเยี่ยมเยียนชาวเฮติ


สภาพบ้านเมืองหลังเผชิญแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง

​

เอเจนซี/เอเอฟพี - ความช่วยเหลือของนานาชาติเข้าไปถึงมือชาวเฮติได้มากขึ้นเมื่อวานนี้ (17) แม้ยังคงไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึง หน่วยกู้ภัยของหลายประเทศคืบคลานผ่านซากปรักหักพังของกรุงปอร์โตแปรงซ์และยังสามารถดึงลากเอาผู้รอดชีวิตออกมา อย่างไรก็ตาม ตามท้องถนนในเมืองหลวงที่ถูกทำลายยับเยินแห่งนี้ ผู้คนจำนวนมากยังคงเฝ้ารอสิ่งของจำเป็นทั้งอาหาร, น้ำ, และยา โดยที่เลขาธิการยูเอ็นซึ่งกำลังเดินทางไปเยือนที่นั่นก็ยอมรับว่า ภัยพิบัติคราวนี้เป็น “วิกฤตทางมนุษยธรรมที่ร้ายแรงที่สุด” เท่าที่สหประชาชาติเคยประสบมาในรอบหลายสิบปี

เวลาผ่านไป 5 วันแล้วภายหลังแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.0 ริกเตอร์ ซึ่งสังหารผู้คนไปมากมายโดยหวั่นเกรงกันว่าอาจจะถึงระดับ 200,000 คน ทีมกู้ภัยของนานาชาติก็ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารต่างๆ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์

เอลิซาเบธ ไบร์ส โฆษกสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม แถลงว่าเมื่อวันเสาร์(16) ทีมกู้ภัยช่วยเหลือคนรอดชีวิตออกมาได้อีก 12 คน รวมแล้วตั้งแต่ที่ทีมนานาชาติเริ่มปฏิบัติการมา สามารถช่วยผู้รอดชีวิตได้แล้วกว่า 70 คน

ทั้งนี้ ทีมนานาชาติที่มีกันอยู่ 43 ทีมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย 1,739 คน และสุนัขอีก 161 ตัว ได้ค้นหาตามพื้นที่ซึ่งถูกฤทธิ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดไปประมาณ 60% แล้ว และมีทหารอเมริกันราว 10,000 คนกำลังถูกส่งมาช่วยเหลือและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งหลาย

รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ ซึ่งแวะมาเยือนกรุงปอร์โตแปรงซ์ในวันเสาร์(16) แถลงว่า สหรัฐฯขอให้การยืนยันแก่ชาวเฮติว่า ประเทศชาติของพวกเขาจะผงาดขึ้นมาจากภัยพิบัติคราวนี้ในสภาพที่ “แข็งแรงขึ้นและดีขึ้น”

“เราจะอยู่ที่นี่ในวันนี้ วันพรุ่งนี้ และในเวลาต่อไปข้างหน้า” เธอกล่าวภายหลังพบหารือกับประธานาธิบดีเรอเน เพรวาล ของเฮติที่สนามบิน

สนามบินปอร์โตแปรงซ์แห่งนี้มีขนาดเล็กและหอบังคับการบินก็ได้รับความเสียหาย เวลานี้การควบคุมการจราจรทางอากาศที่นี่ได้โอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพสหรัฐฯแล้ว โดยที่ได้รับการสนับสนุนจากเรือบรรทุกเครื่องบิน คาร์ล วินสัน ของสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงบริเวณนอกชายฝั่งเฮติในวันศุกร์(15) โดยบรรทุกเฮลิคอปเตอร์มาด้วยหลายลำ

เฮลิคอปเตอร์นาวีอเมริกันเหล่านี้กำลังนำเอาน้ำและอาหารปันส่วนของทหารขึ้นบก และรับเอาผู้ได้รับบาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งใกล้ๆ สนามบิน

นอกจากนั้น องค์การกาชาดอเมริกันแถลงว่า กำลังใช้ขบวนรถบรรทุกลำเลียงโรงพยาบาลสนามขนาด 50 เตียง และอุปกรณ์กรองน้ำสะอาด โดยใช้เส้นทางผ่านสาธารณรัฐโดมินิกัน ที่เป็นเพื่อนบ้านของเฮติ ซึ่งเมื่อมาถึงแล้วก็จะเริ่มการแจกจ่ายน้ำสะอาดและความช่วยเหลือเบื้องต้นในปอร์โตแปรงซ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือแก่เฮติยังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวขณะกำลังออกเดินทางมุ่งสู่กรุงปอร์โตแปรงซ์เมื่อวานนี้ว่า เหตุแผ่นดินไหวที่เฮติคราวนี้ถือเป็น “วิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งร้ายแรงที่สุด” เท่าที่ยูเอ็นเคยประสบมาในรอบระยะหลายสิบปีทีเดียว

เจ้าหน้าที่ยูเอ็นหลายรายเปิดเผยว่า ในเมืองเลโอกาเน ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองหลวงปอร์โตแปรงซ์ และเป็นพื้นที่จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวคราวนี้ น่าจะมีผู้เสียชีวิตระหว่าง 20,000-30,000 คน โดยถนนแทบจะทุกสายในเมืองนี้ล้วนพังราบ ก่อนหน้านี้ความช่วยเหลือของนานาชาติรวมศูนย์อยู่ที่เมืองหลวง และเพิ่งเริ่มไปถึงที่เมืองนี้ในช่วงวันสองวันนี้เอง

กระทั่งในกรุงปอร์โตแปรงซ์ ผู้คนนับแสนๆ ที่หิวโหยก็ยังคงต้องรอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง เนื่องจากยังเกิดปัญหาติดขัดในด้านการขนส่งและการแจกจ่ายความช่วยเหลือ ทำให้สิ่งของบรรเทาทุกข์ส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึงผู้ประสบภัยจำนวนมาก ขณะที่ผู้รอดชีวิตจากธรณีพิโรธเหล่านี้ต้องพักอาศัยกันตามค่ายพักที่สร้างขึ้นอย่างหยาบๆ ตามท้องถนนที่ยังคงเกลื่อนไปด้วยเศษซากอาคารและศพผู้เสียชีวิตที่กำลังเน่าเปื่อยอยู่ทุกขณะ

มีรายงานเรื่องฝูงชนแย่งชิงอาหารและน้ำ ซึ่งขนมาโดยเฮลิคอปเตอร์ทหารสหรัฐฯ เฮลิคอปเตอร์เหล่านี้บางลำใช้วิธีโยนกล่องบรรจุขวดน้ำดื่มและอาหารปันส่วนของทหาร ลงมาให้ฝูงชนที่วิ่งแย่งกันอุตลุด เอสติเม ปิแอร์ เดนี ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งเล่าว่า ได้เห็นพวกเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือที่เป็นคนต่างชาติ เร่งโยนเอาถุงบรรจุอาหารลงไปให้ชาวเฮติที่กลุ้มรุมล้อมเข้ามา

“การแจกจ่ายเป็นไปอย่างมีไม่มีระเบียบไม่มีการจัดองค์กรโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้มีการแยกแยะเลยว่าคนไหนที่จำเป็นต้องได้น้ำดื่ม คนป่วยและคนแก่ไม่มีโอกาสที่จะได้รับเลย” เดนีกล่าวขณะยืนอยู่ข้างหลังฝูงชนที่กำลังค้นหาน้ำดื่ม

ในสภาพที่แทบไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย จึงมีพวกปล้นชิงข้าวของแห่กันเจาะทุบเข้าไปในอาคารร้านค้าที่พังลงมา ณ ย่านธุรกิจหลักของปอร์โตแปรงซ์ แล้วก็ฉกเอาเสื้อยืด, กระเป๋า, ของเล่น, และทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาค้นเจอ นอกจากนั้นยังเกิดการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มปล้นชิงต่างๆ ที่ใช้มีด, เหล็กคีมน้ำแข็ง, ค้อน และก้อนหินเป็นอาวุธ

มีเหตุปล้นชิงข้าวของในปอร์โตแปรงซ์ตั้งแต่ที่เกิดแผ่นดินไหวในวันอังคาร(12) แล้ว ทว่ายังอยู่ในสภาพเป็นจุดๆ ไม่กว้างขวางใหญ่โต ขณะที่ในวันเสาร์ เกิดเหตุเช่นนี้อย่างแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากผู้คนดูจะยิ่งรู้สึกอับจนหมดหวัง

มีชาวเฮติจำนวนมากตัดสินใจเดินทางออกไปจากเมืองด้วยการเดินเท้า โดยทูนกระเป๋าข้าวของเอาไว้บนศีรษะ หรือไม่ก็ทนอัดแอยู่ในรถราต่างๆ เพื่อไปเสาะหาอาหารและที่พักอาศัยในเขตชนบท และหลบหนีออกจากภาวะอาฟเตอร์ช็อกตลอดจนความรุนแรงในปอร์โตแปรงซ์

ยังมีคนอื่นๆ อีกจำนวนมากเดินทางไปยังสนามบินจนแน่นขนัด ด้วยความหวังที่จะได้ขึ้นเครื่องบินขนส่งซึ่งนำข้าวของช่วยเหลือมาส่งให้เฮติ

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000007015​

 

<table id="post2830324" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 11-01-2010, 12:48 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #12448 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sutatip_b<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2830324", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Aug 2007
ข้อความ: 3,149
พลังการให้คะแนน: 2835


</td> <td class="alt1" id="td_post_2830324" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->เดี๋ยวนี้แม้แต่รายการทีวีระบบก็จัดให้ดู

เมื่อกลางปีที่แล้ว พาสามีไปพบแพทย์ ได้ดูแนชันแนลจีโอกราฟฟิค (ที่บ้านไม่มีเคเบิ้ล)
ได้ดูเรื่องภัยนาร์กิส จึงได้รู้ว่าคนส่วนใหญ่ตายเพราะคลื่นยักษ์และน้ำท่วมจากคลื่นที่เกิดจากพายุ ไม่ใช่ตายเพราะพายุจริงๆ
ที่ติดตามภาพนิมิตรของกัลยาณมิตรเรื่องคลื่นยักษ์เดือนพค. จากมหาสมุทรอินเดียนั้นมาจริงๆ คนตายสิบเท่าสึนามิ ๒๐๐๔ จริงแต่ไม่ได้มาจากแผ่นดินไหว

วันนี้ที่บ้านมีเคเบิ้ลแล้ว เพิ่งย้ายจากเคเบิ้ลปรกติเป็นยูบีซีเดิมเมื่อเดือนก่อน
สามีดูช่องประวัติศาสตร์ กลับมีรายการเรื่องแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดที่น่าจะเกิดทีวนอุทยานเยลโล่สโตน สหรัฐอเมริกา

เขาว่าเทือกเขางูใกล้เยลโล่สโตนนั้นเป็นร่องรอยการประทุของภูเขาไฟเป็นแถว (แบบงูสวัสดิ์) แต่ละจุดห่างกันหกแสนปี ทะเลสาปในอุทยานคือปล่องที่ปิดแล้วจากการประทุครั้งสุดท้าย ที่เกิดเมื่อราวหกแสนปีเศษที่ผ่านมา

อึ๋ย หกแสนปีล่วงไปแล้ว ของใหม่จะประทุเมื่อไร
ปล่องแมกม่าใต้ดินลึก ๔๐๐ กม. มีแมกม่าเหลว เคลื่อนตัวเหมือนงูใต้ดินด้วยความร้อนสูง
ความร้อนนี้เองที่ให้กำเนิดน้ำพุร้อนและธารน้ำร้อนทั้งหมดในวนอุทยานเยลโล่สโตน

ก่อนภูเขาไฟระเบิดจะมีแผ่นดินไหวมาก
เยลโล่สโตนมีแผ่นดินไหววันละ ๑๐-๑๒ ครั้งทุกวัน แต่ไหวแบบแผ่วๆ
ตั้งแต่มกรา ๐๙ เยลโล่สโตนมีแผ่นดินไหวทุกวันๆละ ๓๖-๔๘ ครั้ง ๓-๔ ริกเตอร์
แถมผืนดินพองตัวสูงขึ้น ขณะนี้เรือทีจมทะเลสาปถูกยกขึ้นมาพ้นน้ำแล้ว
นักธรณีวิทยาบอกว่า ก่อนภูเขาไฟจะระเบิดแผ่นดินเหนือปล่องจะยกตัวสูงขึ้น
เหมือนเราเป่าลูกโป่งแล้วมันพองขึ้นๆนั่นเอง
นักะรณีเขาวัดจีพีเอสพื้นดิน
พบว่าขณะนี้มันสูงขึ้นปีละสอง-สามนิ้ว จริงๆ

เยลโล่สโตนแผ่นดินไหว ๔ ริกเตอร์เขายังกลัวๆ แล้ว ring of fire ของเราไหววันละสี่ห้าหน ห้าริกเตอร์ขึ้นทุกวันนี่หล่ะ

นึกถึงกว๊านพะเยา ปัจจุบันวัดที่จมไปหลายร้อยปีโผล่ขึ้นมา
หรือเป็นปล่องภูเขาไฟโบราณ....
เห้นไหมว่าเรามีแนวตะเข็บน้ำพุร้อน ตั้งแต่ระนองขึ้นไปทางพร้าว ฟังแล้วเหมือนเยลโล่สโตนไหม
ที่คำทำนายกล่าวว่าภูเขาไฟจะระเบิดที่ทิวเขาตะนาวศรี และอีกที่ๆอีสาณ (จำชื่อไม่ได้)
ทิวเขาตะนาวศรีก้กั้นไทยกับพม่า จากตะวันตกขึ้นไปถึงทางเหนือ

คณะมโนมยิทธิเห็เส้นไฟสีอมแดงอมส้มวิ่งใต้ดิน
ชาวพลังเมื่อปีที่แล้วสัมผัสได้ถึงเส้นไฟใต้พิพภพวิ่งใต้ประเทศไปบุรีรัมย์

หินที่ภูหินร่องกล้า เพชรบูรณ์ เป็นแมกม่าเย็นตัวจากภูเขาไฟ

หมดนี่ข้อมูลแจ้งอะไรแก่เรา
เรานี้เป็นแค่มดปลวกในโลกใบนี้...<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->[FONT=&quot]
[/FONT]
</td></tr></tbody></table>จากกระทู้เขากะลา ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต

 

“การแจกจ่ายเป็นไปอย่างมีไม่มีระเบียบไม่มีการจัดองค์กรโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้มีการแยกแยะเลยว่าคนไหนที่จำเป็นต้องได้น้ำดื่ม คนป่วยและคนแก่ไม่มีโอกาสที่จะได้รับเลย” เดนีกล่าวขณะยืนอยู่ข้างหลังฝูงชนที่กำลังค้นหาน้ำดื่ม

เหมือนบ้านน้ำเค็ม คนไม่เจ็บไม่มีญาติตายอยู่เต้นท์ข้างหน้ารับของแจกทุกรอบ คนที่เดือดร้อนจริงๆ ตามหาญาติที่ตายอยู่ที่วัดย่านยาว

ต้องทำทะเบียนประชากรที่เดือดร้อน แล้วรวมความช่วยเหลือ จะได้ไม่ซ้ำซ้อน ดาวกระจายของช่วย

แต่ก่อนอื่นล้างเรือขนน้ำมัน ขนน้ำมาจากฟลอริด้า จะถึงในห้าวันก็ดีกว่าแจกทีละขวด
เอาเครื่องขุดดินเข้าไป เจาะน้ำบาดาล ซื้อปั้มไปด้วยและน้ำมันเดินเครื่องปั้ม จะได้บริโภคกันเป็นจำนวนมาก
ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าที่ฟลอริด้าแล้วขนเข้ามา เตาแก๊สแคมป์ปิ้งกับหม้อดีที่สุด อย่าลืมนมผงและผ้าอนามัย ดีกว่าขนด้วยฮ. มันไม่พอ
ให้ถามคนเคยลงสนาม

 

เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กในจีน มีผู้เสียชีวิต 7 คน​

​

ปักกิ่ง 18 ม.ค. – รายงานบนเว็บไซต์ของสำนักงานข้อมูลแผ่นดินไหวกุ้ยโจวของจีนระบุว่า พบผู้เสียชีวิต 7 คน และสูญหาย 1 คนจากเหตุแผ่นดินถล่ม หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นที่อำเภอกวงหลิง มณฑลกุ้ยโจว เมื่อเวลาประมาณ 17.35 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 16.35 น. ตามเวลาในไทย เจ้าหน้าที่กรมกิจการพลเรือนของกุ้ยโจวเปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิต 7 คนจากเหตุแผ่นดินถล่ม 2 ครั้ง ที่เกิดจากแผ่นดินไหวดังกล่าว และอีก 1 คนสูญหาย โดยทางการกำลังพยายามค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวมีขนาด 4.0 ริกเตอร์

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกล่าวถึงแผ่นดินไหวดังกล่าวบนเว็บไซต์ของสำนักงานธรณีวิทยาของสหรัฐ ซึ่งเฝ้าติดตามเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลก รายงานฉบับอื่นของซินหัวระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน จากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว แต่ยังไม่มีรายละเอียดอื่น ๆ. - สำนักข่าวไทย

2010-01-18 10:30:15

เฮติจะจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉินหลายร้อยแห่ง​

​

ปอร์โตแปรงซ์ 18 ม.ค. – แหล่งข่าวรัฐบาลเฮติเปิดเผยว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน 280 แห่งขึ้นในเฮติ นับตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่ประชาชนที่ไร้ที่อยู่

รายงานระบุว่า ศูนย์ฉุกเฉินแต่ละแห่ง จะสามารถรองรับประชาชนได้ราว 500 คน โดยจะจัดตั้งขึ้นในอาคารสาธารณะ เช่น โรงเรียน และโบสถ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ รวมถึงอีก 6 เมืองใกล้เคียง ทั้งนี้ การก่อสร้างศูนย์ฉุกเฉินและการปันส่วนสิ่งของยังชีพ จะได้รับความร่วมมือจากโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ -สำนักข่าวไทย

2010-01-18 10:06:42

เด็กกำพร้าในเฮติรอความช่วยเหลือหลังประสบภัยแผ่นดินไหว​

​

เฮติ 17 ม.ค.-ชาวเฮติจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือหลังประสบภัยแผ่นดินไหว รวมถึงเด็กกำพร้ากลุ่มหนึ่งด้วย

เจ้าหน้าที่ดูแลศูนย์สงเคราะห์เด็กกำพร้าในย่านคาร์ฟูของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ระบุว่า เด็กกำพร้าในศูนย์สงเคราะห์เสียชีวิตไป 50 คนจากที่มีอยู่ทั้งหมด 125 คน และขณะนี้เด็ก ๆ ยังรอคอยการช่วยเหลือ ขณะที่การจัดส่งความช่วยเหลือยังแทบจะไม่ถึงมือของผู้ประสบภัย ส่วนชาวบ้านต่างยังไม่ละความพยายามในการขุดค้นตามกองซากปรักของอาคารเพื่อค้นหาคนในครอบครัว พวกเขา บอกว่า ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ติดค้างอยู่ ด้านรัฐบาลเฮติ ระบุว่า ขณะนี้สามารถเก็บศพได้แล้วถึง 50,000 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดน่าจะอยู่ระหว่าง 100,000 - 200,000 คน.-สำนักข่าวไทย

2010-01-17 14:02:16

ผู้สื่อข่าวออสเตรเลียเผยนาทีช่วยชีวิตเด็กหญิงเฮติ​

​

ซิดนีย์ 18 ม.ค. – ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์คู่แข่งในออสเตรเลียเผยนาทีช่วยชีวิตเด็กหญิงชาวเฮติ วัย 18 เดือนออกมาจากซากอาคารที่พังถล่มจากแผ่นดินไหวรุนแรง ชี้ว่า การช่วยชีวิตเด็กมาก่อนหน้าที่การงานของพวกเขา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนที่นายริชาร์ด โมแรน ช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 จะเริ่มบันทึกภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ระหว่างนั้นเขาได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ใต้ซากอาคาร เขาจึงวางกล้อง แล้วยกก้อนคอนกรีตเพื่อเปิดทางให้นายเดบี เซเลสติโน ล่ามของช่อง 9 เข้าไปนำหนูน้อยที่นอนอยู่ใต้ซากอาคารใกล้กับร่างไร้วิญญาณของพ่อและแม่ออกมา นายโรเบิร์ต เพนโฟลด์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 กล่าวว่า จะไม่มีวันลืมนาทีที่หนูน้อยถูกนำตัวออกมาจากซากปรักหักพัง เธอไม่ร้องไห้ แต่ดูงุนงงราวกับได้เห็นโลกเป็นครั้งแรก

ภาพการช่วยชีวิตทั้งหมดถูกบันทึกไว้โดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ของออสเตรเลียซึ่งเป็นคู่แข่ง และเผยให้เห็นนายไมค์ อามอร์ ผู้สื่อข่าวของช่อง 7 เข้าไปอุ้มเด็กหญิงที่เนื้อตัวเปื้อนฝุ่น และป้อนน้ำดื่มแก่เธอ เขาเผยว่า ทั้งผู้สื่อข่าว และชาวบ้านต่างจดจ่อกับการช่วยเหลือหนูน้อยมากกว่าภาระหน้าที่ในการรายงานข่าว

นายมาร์ก คัลเวิร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 กล่าวว่า ภูมิใจในทีมข่าวของสถานี ที่เห็นสวัสดิภาพของเด็กหญิงมาก่อนความปลอดภัยของพวกเขา ทั้งยังทำตามความเชื่อส่วนตัวมากกว่าแรงกดดันในวิชาชีพ เพราะนอกจากจะรายงานข่าวได้ตามหน้าที่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือการที่พวกเขาได้ช่วยชีวิตคน 1 ชีวิต -สำนักข่าวไทย

2010-01-18 10:49:03

โอบามาระดมทหารกำลังสำรองไปช่วยเฮติ​

​

วอชิงตัน 18 ม.ค. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ระดมทหารหน่วยกำลังสำรองไปช่วยภารกิจบรรเทาทุกข์ในเฮติ โดยเฉพาะกำลังพลด้านการแพทย์เพื่อให้ช่วยงานในเรือพยาบาล และเจ้าหน้าที่ยามฝั่งให้รักษาความปลอดภัยตามท่าคมนาคมขนส่ง

ผู้นำสหรัฐ ระบุว่า เป็นสิ่งจำเป็นต้องเสริมกำลังกองทัพบกเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภารกิจความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาทุกข์ในเฮติ นอกจากนี้เขายังให้อำนาจนายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหม และนางเจเน็ท นาโปลิตาโน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สามารถระดมทหารกำลังสำรองได้หากจำเป็น อันจะช่วยให้สามารถเรียกตัวบุคลากรทางการแพทย์ไปแทนที่ทหารที่ถูกระดมไปทำงานบนเรือพยาบาล และให้สามารถระดมกำลังหน่วยยามฝั่งไปช่วยรักษาความปลอดภัยตามท่าเรือ และท่าอากาศยาน ผู้นำสหรัฐได้ส่งจดหมายแจ้งเรื่องนี้ให้นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ทราบด้วย

ปัจจุบัน สหรัฐมีทหาร 1,000 นายในเฮติ และอีก 4,000 นาย อยู่ในบนเรือที่จอดเทียบท่าอยู่นอกชายฝั่ง และวันนี้จะส่งทหารไปสมทบอีก 7,500 นาย นอกจากนี้ มีการระดมเฮลิคอปเตอร์ราว 30 ลำใช้ในภารกิจบรรเทาทุกข์ ส่วนเครื่องบินทหารจะลำเลียงอาหารปันส่วนเพิ่มอีกวันละ 600,000 ชุด ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า. -สำนักข่าวไทย

2010-01-18 09:21:25

คลินตัน-บุช ถกเครียดหาทางช่วยเฮติ​

​

สหรัฐ 18 ม.ค.-สองอดีตประธานาธิบดีสหรัฐพบหารืออย่างเคร่งเครียดเพื่อหาทางช่วยเหลือและฟื้นฟูประเทศเฮติขึ้นมาใหม่

อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ร่วมพูดคุยกันในรายการ "มีท เดอะ เพรส" โดยนายคลินตัน กล่าวว่า แม้เฮติจะมีพัฒนาการทางการเมืองที่ดีขึ้น แต่จำเป็นต้องมีแผนในการรับมือกับเหตุภัยพิบัติเหมือนเหตุแผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้น ขณะที่นายบุช กล่าวว่า หากสามารถช่วยเหลือและฟื้นฟูเฮติขึ้นมาอีกครั้งได้สำเร็จ จะเป็นตัวอย่างให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ทำตาม และเชื่อมั่นว่าเฮติจะกลับมายืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม

นอกจากนี้ อดีตผู้นำทั้งสองยังเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันบริจาคเงินผ่านทางเว็ปไซต์ Clinton Bush Haiti Fund.org ด้วย.-สำนักข่าวไทย

2010-01-18 05:06:47

นายกฯ มาเลเซียชี้เหตุวางเพลิงโบสถ์เป็นฝีมือคนกลุ่มน้อย​

​

ริยาด 17 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย ระบุว่า เหตุวางเพลิงโบสถ์ในมาเลเซียเป็นเพียงการกระทำของคนกลุ่มน้อย ไม่ได้สะท้อนความรู้สึกของชาวมุสลิมส่วนใหญ่ของประเทศ

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ซาอุดีกาเซทท์ว่า เอกภาพของประเทศและการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างชุมชนต่างเชื้อชาติและศาสนา เป็นหัวใจสำคัญของมาเลเซียมานานแล้ว เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการกระทำของคนกลุ่มน้อย ไม่ควรมองว่าชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในมาเลเซียต้องการทำลายโบสถ์ เขาขอชี้แจงว่ามีโบสถ์ถูกเผาเพียงแห่งเดียวโดยเสียหายเฉพาะส่วนสำนักงานบริหารเท่านั้น ส่วนเหตุที่โบสถ์อื่น ๆ เป็นเพียงเหตุเล็กน้อยไม่มีการเผาเสียหายแต่อย่างใด บางแห่งเป็นเพียงการขว้างวัตถุแปลกปลอมเข้าไปในพื้นที่ของโบสถ์เท่านั้น ผู้นำมาเลเซียยังได้แสดงความกังขาที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ออกประกาศเตือนชาวอเมริกันว่าอาจมีการทำร้ายชาวต่างชาติในมาเลเซีย โดยกล่าวว่าไม่มีข้อมูลเชื่อถือได้ว่าจะมีอันตรายดังกล่าว

โบสถ์หลายแห่งในมาเลเซียตกเป็นเป้าหมาย นับตั้งแต่ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ให้ผู้นับถือศาสนาอื่นที่ไม่ใช่อิสลาม ใช้คำว่า อัลเลาะห์ หมายถึง พระเจ้าได้ มีโบสถ์ 9 แห่ง ถูกขว้างด้วยระเบิดเพลิง ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยศาสนสถานทั่วประเทศ.- สำนักข่าวไทย

2010-01-17 16:18:08

กลุ่มหัวรุนแรงระเบิดโรงเรียนชายในปากีสถาน​

​

เปชาวาร์ 18 ม.ค. - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า กลุ่มหัวรุนแรงระเบิดโรงเรียนประถมชายทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานวันนี้ นับเป็นการก่อเหตุร้ายล่าสุดของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่พุ่งเป้าโจมตีสถานศึกษา

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายใช้ระเบิดทำลายล้างสูงระเบิดเผาโรงเรียนของรัฐเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นที่หมู่บ้านอัชราฟ คาเลย์ ในเขตไคเบอร์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองเปชาวาร์บริเวณชายแดนปากีสถานติดกับอัฟกานิสถาน เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าวโทษว่า เป็นการกระทำของกลุ่มลัชการ์ อี อิสลาม ที่กบดานอยู่ในเขตไคเบอร์ และมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มตอลีบานในอัฟกานิสถาน ทั้งนี้ กลุ่มหัวรุนแรงซึ่งคัดค้านโรงเรียนสหศึกษาที่ให้ชายหญิงเรียนรวมกัน และได้โจมตีโรงเรียนหลายร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนสตรีทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานในช่วงปีที่ผ่าน ๆ มา. -สำนักข่าวไทย

2010-01-18 13:37:53

นักการเมืองชาวสเปนตกใจรูปถูกใช้เป็นต้นแบบหน้าบิน ลาดิน​

​

สเปน 18 ม.ค.-นักการเมืองชาวสเปนถึงกับงง เมื่อพบว่ารูปของเขาถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบในการปรับปรุงภาพของแกนนำ อัลกออิดะห์ให้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด

นายกาสปาร์ ยามาซาเรส บอกว่า เขาตกใจมากที่ทราบว่ารูปภาพของเขาถูกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอสหรัฐดึงจากอินเทอร์เน็ตไปใช้เป็นต้นแบบในการปรับปรุงภาพใหม่ของอุซามะห์ บิน ลาดิน โดยเฉพาะในส่วนของเค้าโครงใบหน้าและหนวดเครา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และว่าเขาไม่รู้สึกปลอดภัยอีกต่อไปหากจะต้องเดินทางไปยังสหรัฐ เพราะใบหน้าของเขาปรากฏอยู่บนภาพของบุคคลที่ทางการสหรัฐต้องการตัวมากที่สุดไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ นายเคน ฮอฟฟ์แมน โฆษกเอฟบีไอ ยอมรับกับหนังสือพิมพ์ในสเปนว่า นำภาพของนายยามาซาเรส ที่ค้นจากเว็บไซต์กูเกิล มาเป็นต้นแบบในการปรับปรุงภาพปัจจุบันของนายบิน ลาดิน ซึ่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้นำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

2010-01-18 04:19:34

ที่มา http://news.mcot.net

 

วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6990 ข่าวสดรายวัน


ตรวจโรคผู้แสวงบุญกลับจากเมกกะ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ตรวจร่างกาย - คณะแพทย์และพยาบาลจากสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ตรวจผู้แสวงบุญที่เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ พบว่าไม่มีผู้ใดเป็นโรคติดต่อและเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009


</TD></TR></TBODY></TABLE>นราธิวาส - นายนิพนธ์ นราพิทักกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เชิญผู้แสวงบุญที่ได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดี อาระเบีย ในพื้นที่ อ.ระแงะ จำนวน 238 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เข้าตรวจสุขภาพ วัดความดัน ระดับน้ำตาลเลือด เพื่อทำการคัดกรองการติดเชื้อ และดูแลสุขภาพอนามัยของผู้เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ให้มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ปราศจากโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการนำโรคติดต่อเข้ามาแพร่เชื้อในพื้นที่ จ.นราธิวาส

นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณภาใส นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส กล่าวว่า หลังจากผู้นำศาสนา และชาวไทยมุสลิม ใน จ.นราธิวาส รวม 2,500 คน ได้เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส จัดโครงการเสริมสร้างและดูแลสุขภาพอนามัยผู้เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์เพื่อตรวจคัดกรองโรคติดต่อที่ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ อาจนำมาแพร่ระบาดในจ.นราธิวาส แต่จากการตรวจโรคผู้ที่เดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ทั้ง 2,500 คน ไม่พบผู้ใดมีโรคติดต่อและเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่

คอลัมน์ ผู้ตรวจการวัด



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>"วัดถ้ำเสือ" ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านถ้ำเสือ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ พื้นที่บริเวณวัดประมาณ 200 ไร่ ประกอบไปด้วยพื้นที่ราบ หุบเขา และยอดเขา

สภาพทั่วไปของวัดถ้ำเสือ มีลักษณะเป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่ง ถ้ำธรรมชาติ ส่วนภายในบริเวณวัดทัศนีย ภาพร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ อายุนับร้อยนับพันปี เนื่องจากเป็นเขาล้อมอยู่ ทุกด้าน

บริเวณพื้นที่ราบด้านหน้าเป็นที่ตั้งของอุโบสถ พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ หอประชุม รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิ พระพุทธรูปหยกขาว, ศาลาหลวงปู่ทวด, พระพุทธมงคล, พระสีวลี, พระพรหม, พระสังกัจจายน์, รอยพระพุทธ บาท, พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว, พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร สามารถขึ้นไปสักการะได้โดยขึ้นบันได 1,200 ขั้น บนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศ ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย

เนื่องจากวัดถ้ำเสือมีลักษณะเป็นสวนป่า แวดล้อมด้วยแมกไม้ ถ้ำและต้นไม้น้อยใหญ่อายุนับร้อยปี จึงเป็นที่อยู่อาศัยของ ลิงป่าน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก ถือเป็น มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของวัดถ้ำเสือ สามารถชมและสัมผัสความเป็นอยู่ของฝูงลิงป่าอย่างใกล้ชนิด

การเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกตลาดเก่า ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เส้นทางอำเภอเหนือคลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกถ้ำเสือไปตามถนนราษฎรพัฒนา ทางหลวงหมายเลข 4037 ไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน

ภายในบริเวณวัดถ้ำเสือ มีพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ จัดตั้งถังขยะไว้ตามจุดต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ

ด้วยความที่เป็นวัดมีคนนิยมเข้ามาท่องเที่ยว และมีจุดพักชมวิว ที่สวยงาม ทำให้มีนักท่องเที่ยว เข้ามาแวะเวียนภายในวัดเป็นจำนวนมาก

แต่บริเวณที่พักจุดชมวิว มีนักท่องเที่ยวนิยมนำเอาอาหารมารับประทานกันเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็ถือโอกาสนำอาหารไปให้ลิงป่ากิน อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยบางครั้งพวกลิงเหล่านี้ ก็ถือโอกาสไปยื้อแย่งหรือขโมยอาหารของนักท่องเที่ยว รวมทั้งเคยมีนักท่องเที่ยวถูกลิงกัดหรือทำร้ายด้วย

นอกจากนี้ บริเวณร้านค้าภายในวัด มีการจัดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ จนทำให้ความสวยงามของวัด ต้องถูกลดทอนลงไป

รวมถึงด้านหน้าซุ้มประตูมีชาวบ้านนำเสื้อผ้ามาตาก ดูแล้วไม่งามนัก

ตะลึงแกะหน้าเหมือนคน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 15 ม.ค. เดลี่ เอ็นไควเรอร์ราย งานเรื่องราวแปลกประหลาดของแกะในตุรกีที่ตกลูกออกมาหน้าตาเหมือนคนมีทั้งจมูก ตาและปาก ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ แต่ลูกแกะน้อยเกิดมาไม่นานก็ตาย สัตวแพทย์ที่ทำคลอดให‰กล่าวว่า เคยเห็นวัวกลายพันธุ์มาก่อน มีทั้งวัวตาเดียว วัวสองหัว วัว 5 ขา แต่ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้ โดยแม่แกะตกลูกเองไม่ได้หมอจึงต้องช่วยทำคลอด นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือด้วยว่าที่ลูกแกะหน้าเหมือนคนเพราะมีชายคนหนึ่งไปมีเพศสัมพันธ์กับแม่แกะ แต่นักวิทยาศาสตร์หมดทางจะศึกษาเพราะเจ้าของแกะเห็นว่ามีชาวบ้านเดินไปมุงดูมากจนรับไม่ไหวได้จัดการเผาร่างแม่และลูกแกะไปเสียก่อน




แมว 2 ขา

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ข่าวจากแดนสิงคโปร์บอกว่า นายจิมมี่ เลี่ยว มี "แมว" สุดแสนน่ารักน่าชังอยู่ตัวนึง ชื่อเจ้า "เป่ย เป่ย" ซึ่งไม่รู้ว่าชาติที่แล้วมันเกิดเป็นตัว เมียร์แคต หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ชอบเดิน 2 ขางึกๆ งักๆ

จับไปแสดงละครสัตว์คงทำเงินได้หลายอยู่นะเนี่ย






พบจุดมืดบนดวงอาทิตย์



เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดาราศาสตร์ กล่าวว่า จากที่เกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวน เห็นบางส่วนในประเทศไทย นั้นได้ใช้กล้องโทรทัศน์กล้องชมิดท์ แคสซิเกรนขนาดหน้ากล้อง 11 นิ้ว เวลา 14.41 น. บันทึกจันทรุปราคาบางส่วนดังกล่าว ที่หอดูดาวบัณฑิต อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา พบจุดมืดบนดวงอาทิตย์ 2 จุด จุดมืดคือบริเวณที่มีความร้อนต่ำกว่าบริเวณอื่น อุณหภูมิประมาณ 4,000 องศาเซลเซียส ส่วนสว่างอุณหภูมิประมาณ 5,500 องศาเซลเซียส จึงทำให้เห็นเป็นส่วนที่มืด ปกติจุดมืดบนดวงอาทิตย์จะเกิดตามวัฏจักรในคาบ 12 ปี แต่ระยะหลัง 1-2 ปีที่ผ่านมาจุดมืด (sunspots) ดังกล่าวไม่ค่อยปรากฏให้เห็นจึงเป็นที่สงสัยของนักดาราศาสตร์จำนวนมาก วันนี้พบ 2 จุดดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้บันทึกภาพคราสลึกสุดที่ฉะเชิงเทรา โดยใช้กล้องชมิดท์ แคสซิเกรน ขนาดหน้ากล้อง 8 นิ้ว เวลา 15.38 น. ไว้ด้วย เป็นตามที่นักดารา ศาสตร์คำนวณเวลาสุริยคราสดังกล่าว



แก้เครียดนะค่ะ

ต้นไม้บนดาวอังคาร

คอลัมน์ เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ ประเทศอังกฤษ พาดหัวตัวเป้งจนตกอกตกใจ

บอกว่า กล้องไฮไรซ์บนยานมาร์ส รีคอนเนสเซนซ์ ออร์บิเตอร์ บันทึกภาพสภาพภูมิประเทศ คล้ายพบ "ต้นไม้" บนดาวอังคาร!

แต่จริงๆ แล้วข่าวดังกล่าวพาดหัวให้ดูมีสีสันตื่นเต้นเกินไปสัก นิด เพราะสิ่งที่พบกลับ กลายเป็นร่องรอยของ "น้ำแข็งคาร์บอนไดออกไซด์" สีดำๆ ซึ่งเป็นคราบหลงเหลืออยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร

โดยเมื่อมันละลายในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ไหลหยด ย้อยเป็นคราบทางยาวๆ

มองไกลๆ จึงเหมือนมี "ต้นไม้" งอกขึ้นมาจากผืนดินสีแดงอันแห้งผาก

อีสานแห่ไหว้พระไม้ตะเคียนพันปี



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
พระตะเคียน - ประชาชนพากันกราบไหว้บูชาหลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทอง ปางไสยาสน์ ที่สร้างจากไม้กลายเป็นหิน อายุกว่า 1,000 ปี ในวัดป่าอภัยวัน ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อ 16 ม.ค.


</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และใกล้เคียงจำนวนมากเดินทางไปที่วัดป่าอภัยวัน ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อกราบไหว้บูชาหลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทองปางไสยาสน์ ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี

นายอภิชัย อุดมวรรธ์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านทุ่ม เปิดเผยว่า พระครูปลัดชาญ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดป่าเขาล้อม เป็นเพื่อนกับหลวงพ่อทองพูน ปุญญกาโม เจ้าอาวาสวัดป่าอภัยวัน หารือกันเกี่ยวกับพระพุทธรูปที่เรียกว่าหลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทอง โดยขอให้มาช่วยการก่อสร้างพระมหานวมินทรเจดีย์ศรีอีสาน เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา รัชกาลที่ 9 ที่วัดป่าอภัยวัน จึงนำหลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทองปางไสยาสน์ที่แกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง พร้อมพระพุทธรูปปางประจำวัน เช่น ปางประสูติ ปางตรัสรู้ ซึ่งมีหน้าตักกว้างถึง 109 นิ้ว หลวงพ่อพุทธบูรพามหาบารมีซึ่งเป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ตะเคียนทองขนาดความสูง 3.70 เมตร หน้าตักกว้าง 3 เมตร พระนาคปรกที่แกะสลักอย่างงดงาม รูปแกะสลักสิทธัตถะราชกุมาร หรือพระพุทธรูปปางประสูติ มาประดิษฐานพร้อมกับหลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทองปางไสยาสน์ ที่ศาลาวัดป่าอภัยวันตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.53 ในเทศกาลบุญกุ้มข้าวใหญ่ของชาวขอนแก่น พร้อมประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ยกเสาร์เอก พระมหานวมินทรเจดีย์ศรีอีสาน เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา รัชกาลที่ 9

นายอภิชัยกล่าวต่อว่า หลวงพ่อพันปีศรีตะเคียนทองปางไสยาสน์แกะสลักจากไม้ตะเคียนทองที่ขุดพบนั้น จมอยู่ใต้ดินลึกกว่า 5 เมตร ขณะสร้างเขื่อนสียัด อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา และพบไม้จำนวนหนึ่งกลายเป็นหินไปแล้ว จึงสันนิษฐานว่าไม้ตะเคียนเหล่านี้มีอายุนับพันปี ชาวบ้านและผู้ขุดพบจึงนำมาถวายพระครูปลัดชาญ จึงให้สร้างเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาพระพุทธรูปปางประจำวัน โดยเฉพาะองค์พระแกะสลักปางเสด็จดับขันธปรินิพพานที่มีความยาวถึง 10 เมตร สูงถึง 3 เมตร นับว่าเป็นพระพุทธรูปแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย โดยได้รับการแกะสลักจากช่างฝีมือด้วยความวิจิตรบรรจง จึงทำให้องค์หลวงพ่อสวยงามเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้พบเห็น

ฟังจากพระครูปลัดชาญ ธัมมชโย ท่านจะแห่พระไปทั่วไทยเลย

 

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553

<!-- end news_detail_info div here --> คมชัดลึก

วธ.จัดกิจกรรมคอนเสิร์ตหาทุนช่วยเฮติ

<!-- AddThis Button BEGIN --> <script type="text/javascript"> var addthis_pub="komchadluek"; var addthis_brand = "คมชัดลึก"; var addthis_header_color = "#ffffff"; var addthis_header_background = "#3792ef" </script> <script type="text/javascript" src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js"></script> <!-- AddThis Button END -->





<script type="text/javascript"> var id='45093'; function addCommas(nStr) { nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2; } function count(){ $.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } }); } featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ } }) </script> คมชัดลึก :"3คน ไทย"ในเฮติเตรียมเดินทางกลับไทย แล้ว น้ำใจ นร.พิษณุโลกรับบริจาคเงินช่วยเฮติ "กษิต"เชิญทูตเม็กซิโกหารือช่วยเหลือ พร้อมถก ครม.พรุ่งนี้ส่งเงินช่วยเพิ่มเติม “ทรงกิตติ” ระบุให้เงินช่วยชาวเฮติดีกว่าลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือเพราะไม่คุ้มค่า นานาชาตินัดประชุมระดมเงินช่วยเฮติฟื้นฟูบ้านเมือง "ทักษิณ-พท.-นปช.”จัดงานระดมเงินช่วย
<script type="text/javascript"> google_ad_channel = '9989085094'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '300X250'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </script> <script type="text/javascript" src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js"></script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><script language="JavaScript1.1" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1263815019&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.32&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20100118%2F45093%2F%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2598.%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AE%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4.html&dt=1263815039435&correlator=1263815039437&frm=0&ga_vid=1161925846.1263815040&ga_sid=1263815040&ga_hid=2018938485&ga_fc=0&u_tz=420&u_his=1&u_java=1&u_h=768&u_w=1280&u_ah=738&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=14&u_nmime=54&biw=1263&bih=525&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.com%2F&fu=0&ifi=1&dtd=157"></script>

(18ม.ค.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่เหตุการณ์ภัยพิบัติในสาธารณรัฐเฮติ ซึ่งนับเป็นโศกนาฏกรรมและความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ วธ. จึงเห็นว่าประเทศไทยในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ ตระหนักถึงความสูญเสียดังกล่าว จึงเห็นสมควรให้การช่วยเหลือโดยมีการดำเนินการ ดังนี้ 1.รัฐบาลควรรณรงค์ให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ตระหนักถึงหายนะที่เกิดขึ้นและควรรณรงค์ให้มีการบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ ประสบภัยอย่างกว้างขวาง 2.จัดรายการพิเศษทางสถานีโทรทัศน์เพื่อรับบริจาค และ 3. จัดคอนเสิร์ตการแสดงดนตรีสุนทราภรณ์ เนื่องในวาระครบรอบ ชาตกาล 100 ปี ครูเอื้อ สุนทรสนาน ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รอบพิเศษ ในวันที่ 24 มกราคม นี้โดยจะนำรายได้ทั้งหมดจากการแสดงรอบพิเศษดังกล่าวมอบให้เป็นเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย และจะประสานศิลปินแห่งชาติ ศิลปินร่วมสมัย และศิลปินสาขาต่างๆจัดกิจกรรมเพื่อระดมรายได้เพื่อให้การช่วยเหลือด้วย โดย วธ.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 19 ม.ค. นี้

น้ำใจนร.พิษณุโลกเปิดรับบริจาคเงินช่วยเฮติ
กลุ่มนักเรียน นำโดยนางสาวพัชริดา สวัสเดชะ และนายพีรณัฐ เพียรทำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที 6 และกลุ่มเพื่อนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.พิษณุโลก ได้เดินถือป้ายที่มีข้อความข่าวสารของการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ พร้อมกล่องรับบริจาคเงินช่วยเหลือ ไปตามอาคารภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อขอรับบริจาคน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ คนละบาทสองบาทจากเพื่อน ๆ น้อง ๆ ครูอาจารย์ภายในโรงเรียน เพื่อจะนำเงินที่ได้เข้าบัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่ยังมีประชาชนอีกหลายแสนคน ยังต้องการความช่วยเหลืออีกมาก ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือและน้ำใจจากน้อง ๆ นักเรียน บริจาคเงิน รวมทั้ง ดร.สมเกียรติ บุญรอด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 1 และคณะ ที่ได้เดินทางไปประชุมข้าราชการครู ที่โรงเรียนอีกด้วย สำหรับเงินบริจาคที่ได้รับจะนำเข้าบัญชีที่เปิดรับบริจาคของประเทศไทย อาทิ สภากาชาดไทย

"กษิต"เชิญทูตเม็กซิโกหารือช่วยเฮติพร้อมถกครม.พรุ่งนี้
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติเพิ่ม เติม ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (18 ม.ค.) จะเชิญอุปทูตทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย มาหารือถึงเรื่องการประสานงานส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศเฮติ เนื่องจากในระหว่างการประชุมความร่วมมือระหว่างเอชียตะวันออกและลาตินอเม ริกา (FEALAC) ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16-17 มกราคมที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับเม็กซิโกว่าไทยจะประสานเรื่องการให้ความช่วยเหลือประเทศเฮติผ่านเม็กซิโกโดยตรง เพราะอยู่ใกล้มากที่สุด ที่สำคัญเม็กซิโกได้ส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังเฮติหลาย เรื่อง เช่น เรือพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 200 คน เครื่องบินขนส่ง 5 ลำ เครื่องอุปโภคบริโภค และขณะนี้เม็กซิโกกำลังสำรวจทำบัญชีว่าเฮติต้อง การความช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมบ้าง ส่วนเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนและประชาชนในประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศจะประสานเพื่อให้เงินบริจาคไปถึงเฮติ

นายกษิต กล่าวว่า รัฐบาลไทยจะประสานกับองค์การสหประชาชาติ เรื่องการให้ความช่วยเหลือในระยะปานกลาง เพื่อให้การทำงานเป็นระบบ โดยในวันที่ 19 มกราคมนี้ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงความช่วยเหลือเฮติเพิ่ม เติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสนับสนุนเงิน ข้าวสารและอุปกรณ์ยังชีพอื่นๆ และในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 มกราคม จะนำเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเข้าหารือในที่ประชุม เนื่องจากการอนุมัติเงินที่มากกว่า 30,000 ดอลลาห์สหรัฐ ถือว่าเกินอำนาจของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ยืนยันว่าประเทศไทยจะให้การช่วยเหลือเต็มความสามารถ

"3คนไทย"ในเฮติเตรียมเดินทางกลับไทยแล้ว
นายกษิต เปิดเผยว่า คนไทย 3 คนในเฮติเตรียมเดินทางกลับไทยแล้ว ได้แก่ นางถนอมศรี วาตั้น ภริยาเจ้าหน้าที่สหประชาชาติในยูเอ็น ซึ่งมีร้านอาหารไทยในเฮติ ส่วนอีกสองคนทำงานร้านอาหารของถนอมศรี ชื่อนายธานินท์ และนางสาวสร้อยทอง จีนชูแก้ว สองคนนี้เป็นพี่น้องกัน โดยทั้ง 3 คนจะนั่งเครื่องบินทหารของแม็กซิโกที่บินจากเฮติมายังกรุงแม็กซิโก ซิตี้ โดยรบ.ไทยจะพิจารณาออกตั๋วเครื่องพาณิชย์เดินทางกลับประเทศไทย

ผบ.สส.ระบุให้เงินช่วยเฮติดีกว่าลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเฮติ ว่า พรุ่งนี้ (19 ม.ค.) รัฐบาลจะหารือในเรื่องนี้ แต่หากถามเราก็มีความพร้อม และประเมินว่าจะดำเนินการอย่างไรในการช่วยเหลือ ทั้งนี้การบริหารจัดการทางประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามาดำเนินการ ถ้ามีผู้บริหารจัดการเพียงผู้เดียวก็จะดี แต่ถ้าจะใช้เรือจากประเทศไทยไปก็จะต้องเดินทางประมาณ 60 วันไปกลับ และใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ตนคิดว่าเอาเงินให้ไปดีกว่า หากใช้เครื่องบินก็จะต้องเติมน้ำมันหลายแห่ง ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายที่จะไปถึงไม่คุ้มค่าของที่จะนำไปให้ รัฐบาลคงจะพิจารณาหาทางที่เหมาะสมให้กับประชาคมโลก

นานาชาตินัดประชุมระดมเงินช่วยเฮติฟื้นฟูบ้านเมือง
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ มีคำสั่งเมื่อวานให้เรียกกำลังพลสำรอง โดยเฉพาะทีมแพทย์และหน่วยยามฝั่ง เพื่อไปปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวที่เกิด ขึ้นในเฮติเมื่อ วันอังคารที่ผ่านมา โดยทีมแพทย์จะไปประจำการบนเรือคอมฟอร์ตที่เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำ และหน่วยยามฝั่งจะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าเรือ ปัจจุบันมีทหารสหรัฐปฏิบัติภารกิจในเฮติเกือบ 1,000 นาย และอีกเกือบ 4,000 นายประจำการบนเรือหลายลำนอกชายฝั่ง ส่วนทหารอีกราว 7,500 นายจะเดินทางไปถึงเฮติในวันนี้
นอกจากนี้อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐ ซึ่งเป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเฮติ มีแผนจะเดินทางไปเยือนเฮติใน วันจันทร์นี้เพื่อพบปะผู้รอดชีวิตและมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ หลังเขาและอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้เป็นผู้ประสานงานระดมทุนเพื่อช่วยเหลือชาวเฮติ และทั้งสองคนได้ออกรายการทอล์คโชว์ทางโทรทัศน์ถึง 5 รายการเมื่อวานเพื่อรณรงค์ให้ชาวอเมริกันและทั่วโลกร่วมปันน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยเฮติ

ทั้งนี้ยูเอ็นเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมบริจาค 560 ล้านดอลลาร์สำหรับช่วยชาวเฮติ และโครงการอาหารโลกได้ขอรับบริจาค 279 ล้านดอลลาร์สำหรับจัดสรรอาหารให้กับผู้ประสบภัย 2 ล้านคนเป็นเวลา 6 เดือน และชาติผู้บริจาค 16 ประเทศในนามกรุ๊ป ออฟ เฟรนด์ส ออฟ เฮติจะประชุมร่วมกันที่เมืองมอนทรีออลของแคนาดาในวันที่ 25 มกราคมนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูบ้านเมืองในเฮติ และแคนาดาจะส่งทหารอีก 1,000 นายไปเพิ่มในเฮติเพื่อ สนับสนุนภารกิจการบรรเทาทุกข์ และสหภาพยุโรปเตรียมประกาศในการประชุมวันนี้ว่าจะจัดสรรเงินอย่างน้อย 100 ล้านยูโรสำหรับฟื้นฟูบ้านเมืองในเฮติ แต่ตัวเลขอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็น 200 ล้านยูโรก็ได้

"ทักษิณ-พท.-นปช.”จัดงานระดมเงินช่วย
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันนี้(18 มค.) ที่ประชุมคณะยุธทศาสตร์ และการเมืองของพรรคโดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ได้หารือถึงสถาการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศเฮติ ที่อาจมีผู้ประสบภัยเสียชีวิตเกิน 1 แสนคน ซึ่งในนามพรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคผู้สนับสนุนพรรค รู้สึกเห็นใจ สลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อครั้งที่ประเทศไทยประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หลายประเทศทั่วโลกก็ให้การช่วยเหลือประเทศไทย และเพื่อเป็นการตอบแทนประเทศต่างๆที่ให้การช่วยเหลือไทยมาก่อน พรรคเพื่อไทย มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 กลุ่มนปช. และประชาชนที่มีใจกุสล จะได้ร่วมกันจัดงานระดมเงิน และสิ่งของเพื่อส่งช่วยเหลือชาวเฮติ ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ที่สถานโทรทัศน์ People Channel จึงขอให้ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเป็นสีไหน ฝ่ายไหน เราเอาไว้ข้างหลัง ขอให้มาร่วมกันช่วยเหลือครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อหักหน้าหรือต้องการตัดหน้ารัฐบาลแต่อย่าง ไร
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือไปแล้ว 2 หมื่นดอลล่าสหรัฐนั้น พรรคเพื่อไทยคิดว่ายังน้อยไป ทราบว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 ม.ค. จะมีการหารือเรื่องนี้ ก็หวังว่าครม.จะเพิ่มเงินช่วยเหลือมากว่านี้ อย่างไรก็ดีตนในฐานะที่เคยร่วมเป็นผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาดูแลเอาใจใส่กับศูนย์เตือนภัยให้มากกว่านี้ เพราะในอนาคตอย่างไรเราก็คงต้องเจอกับภัยสึนามิอีก จึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ตลอดเวลา

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ร่วมกับพรรคเพื่อไทย กำลังพิจารณาหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศเฮติ ซึ่งจะเป็นการจัดงานขึ้นมาเพื่อเป็นการระดมเงินช่วยเหลือ ท่านเห็นว่าเมื่อครั้งที่ประเทศไทยประสบภัยสึนามิหลายชาติก็ให้การช่วยเหลือ ไทย เราก็ควรแสดงน้ำใจเช่นกัน

กรมสุขภาพจิตเตือนทำนายภัยพิบัติเชื่อได้แต่อย่าหลง
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่เฮติ สร้างความเศร้าสลดไปทั่วโลก หรือแม้แต่เหตุการณ์เรือนำเที่ยวล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนการเกิดสุริยุปราคา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจถูกเชื่อมโยงไปสู่ความเชื่อ การทำนายทายทัก การสะเดาะเคราะห์ การแก้เคล็ดต่างต่างนานา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นปีเสือดุ นพ. ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ให้ข้อคิดเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ทั้งนี้ จำเป็นต้องเชื่อโดยมีพื้นฐานอยู่บนเหตุผล มองอย่างรอบด้าน 360 องศา และต้องไม่ทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน ซึ่งเมื่อมองถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นที่เฮติ อยากให้มองว่า เป็นสัญญาณเตือนให้คนหันมาใส่ใจในความปลอดภัยของตนเองและสังคมมากขึ้น รวมทั้ง มองเห็นถึงความเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนทั่วโลก ที่สะท้อนให้เห็นว่าคนเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ในความมืดยังมีสิ่งที่สวยงาม ความรัก ความเอื้ออาทร ต่อเพื่อนมนุษย์ทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้
เมื่อพูดถึงความเชื่อ ในเรื่องการทำนายทายทัก อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า คนเราให้ความสนใจในเรื่องการทำนายทายทัก เพราะมีความสุขน้อยลง ขาดที่พึ่งทางใจ จึงจำเป็นต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผิด ทั้งนี้ อยากให้มองว่า ความเชื่อมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้ามองในภาพรวมของสังคมก็อาจมองได้ว่า การทำนายทายทักในทางลบแล้วบอกให้เข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม หรือสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ศาสนาเข้ามาอยู่ในจิตใจของคนในสังคมได้มากยิ่งขึ้น ส่วนในระดับบุคคล สามารถมองได้ว่า
การทายทักในทางลบเป็นการช่วยเตือนให้เราต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตให้ รอบคอบมากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด ต้องไม่เชื่อมาก จนทำ ให้ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นความหวาดกลัว ตื่นตระหนก ไม่กล้าที่จะทำอะไร ทำให้เสียหน้าที่การงาน จนเปิดโอกาสเป็นช่องทางให้ผู้ประสงค์ร้ายเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากเรา ทำให้ตนเองและครอบครัวต้องเดือดร้อน ซึ่งจะยิ่งทำให้ความทุกข์เข้ามาแทนที่อย่างไม่สิ้นสุด ดังนั้น ถ้าเรายึดมั่นในการทำความดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และรู้จักวิธีสร้างขวัญกำลังใจให้ตนเอง เพราะทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอถ้าเรารู้จักมองวิกฤตให้เป็นโอกาส เราก็จะหาทางออกให้กับตนเองได้ทุกสถานการณ์ โดยคำทำนายจะเป็นส่วนเสริมให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาททั้งด้านลบและ ด้านบวก

ด้าน นพ. เทอดศักดิ์ เดชคง จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิต ได้ให้ข้อคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า คนเราให้ความสนใจการทำนายทายทัก เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งภายใต้ความไม่รู้และความอยากรู้ ทำให้คนเราพยายามหาข้อมูล เพื่อจะทำให้สบายใจขึ้น ความเชื่อและคำทำนายต่างๆ เหล่านี้ มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ด้านบวก คือ ทำให้เราเกิดกำลังใจ มีที่พึ่งในแง่จิตวิทยา การที่เรารู้ว่ามีทางออกในชีวิตจะช่วยสร้างความหวังกำลังใจให้เกิดขึ้นได้ ถ้ามองในแง่นี้คำทำนายที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ดีและส่งเสริม สุขภาพจิตด้วย แต่ถ้าบางครั้งคำทำนายในลักษณะสร้างความตื่นตระหนกจนเกินไป หรือมองไม่เห็นทางออก เช่น การทำนายถึงวันสิ้นโลก

การมองแบบนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำตอนนี้สูญเปล่า ไม่มีความหวัง ถือเป็นความเชื่อที่ไม่สร้างสรรค์ ดังนั้น เราจึงควรแยกแยะให้ออกว่า ความเชื่อใดเป็นความเชื่อที่ทำให้เกิดขวัญกำลังใจ ถ้าขวัญกำลังใจดีเราก็จะสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรค ต่างๆได้ สามารถวางแผนชีวิตของตนเองได้ ทำความดีและทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เรารัก รวมถึงมีกำลังใจที่จะทำงานให้เต็มกำลัง เราก็จะได้รับผลดี ส่วนคำทำนายที่ทำให้เราหดหู่จนเกินไปแถมยังทำอะไรไม่ได้ อาจต้องมีการจัดการ โดยรับรู้ให้น้อยลง หรือหาวิธีอื่นที่ทำให้สบายใจขึ้น โดยตั้งอยู่บนความ สมเหตุสมผล เช่น ถ้าเรามีเคราะห์ แล้วทำบุญ ทำทาน สร้างพระ ปล่อยนก ปล่อยปลา ถือว่าสมเหตุสมผล แต่ถ้าต้องสะเดาะห์เคราะห์ มีพิธีกรรม หรือมีการบูชายันต์ที่ต้องสูญเสียเงินทองจนทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความเชื่อที่ เป็นหนทางเพิ่มทุกข์และ ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน

 

ช่วยเขาวันนี้ เพราะชีวิตรอไม่ได้
ภาพจากนิตยสารไทม์

ช่วยรพ. เด็กที่เฮติ ด่วน ยาและอุปกรณ์ผ่าตัดด่วนใกล้หมด
ได้ข่าวจาก CNN 18 มกราคม 2010

บาทหลวงท่านหนึ่ง เป็นแพทย์ด้วย ท่านดูแลรพ.เด็ก ๑๐ ไมล์จากสนามบินเฮติ
ตอนเฮติเกิดเหตุท่านอยู่ในอเมริกา พอเกิดเหตุท่านกลับเฮติทันที
ท่านรับคนไข้เพียบ ขณะนี้ต้องทำผ่าตัดคนไข้เนื้อเน่าแล้ว ยาไม่พอ

ศิลปินอเมริกันเพิ่งไปที่นั่นมาเมื่อเดือนก่อน ยังติดต่อกันอีกจึงทราบรายละเอียด
เขาว่าเงินส่งไปทั้งหมดถึงบาทหลวงในทันที

ถ้าส่งทาง wire transfer ค่าส่งจะประมาณห้าร้อยบาท
ดังนั้นจึงส่งรายละเอียดธนาคารมาให้เพื่อนๆ เผื่อรวมเงินกันส่งค่ะ
อันนี้ถึงอเมริกา ส่งต่อถึงเฮติเลย ๑๐๐ %
เงินส่งผ่านองค์การอื่นไม่ทราบถึงเมื่อไหร่

อยากส่งเหมือนกัน ขอรวบรวมจากคนใกล้ตัวก่อนค่ะ

Donate via Wire Transfer

To wire a payment immediately, please use the following information:

Bank: Professional Business Bank
250 N. Orange Street
Glendale, CA 91203
818-550-9555
Routing #122243295

Beneficiary: Artists For Peace & Justice
(ศิลปินเพื่อสันติภาพและความยุติธรรม)

206 S. Brand Blvd.
Glendale, CA 91204
818-247-1007
Account # 200-404382

http://www.artistsforpeaceandjustice.com/

Even the Smallest Amount Helps

If you are asking yourself what you can do, they desperately need emergency cash - any amount. Get it to us, and we will get a hundred percent of it into the hands of Father Rick and his team, to help dig people out of the collapsed hospital and schools, to buy emergency medicine, to supply badly needed water and food, to help fly in doctors for the wounded children, and so much more.
PLEASE Make a difference by donation as much as you can today to help save lives. Donate NowDonate online now or contact Barbara Burchfield for further donation inquiries.

January 15th, 2010 - A letter from Father Rick Frechette

๑๕ มกราคม ๒๕๕๓

จดหมายจากนพ. บาทหลวงริก ฟรีเช็ต

เราทำดีที่สุดสำหรับพวกเขา ใต้ต้นไม้ ในลานจอดรถ แม้ว่าวัสดุการแพทย์ของเราจะน้อยลงทุกทีๆ เราจะทำงานตลอดคืน..

หลังจากขับรถกลางคืนไปสนามบินเคเนดี้ในวันที่ ๑๒ และไปถึงโดมินิกันรีพับลิควันที่ ๑๓ โคนานและผมไปถึงเฮติเช้านี้ในเฮลอคอปเตอร์ของประธานาธิบดีโดมินิกันรีพับลิค ฮ. เที่ยวนี้เกิดจากความร่วมมือกันของกระทรวงสาธารณสุขโดมินิกันรีพับลิค กระทรวงสาธารณสุขอิตาลี ซึ่งเกิดขึ้นในโดมินิกันโดย แอนเดรีย โบเซลลีไม่นานมานี้

งานแรกของเราคือการเคลื่อนย้ายอาสาสมัครอเมริกันของเรา นายแพทย์คิวบา และร่างไร้ชีวิตของผู้มาเยือนชาวอเมริกันหลายท่าน เพื่อรับการรักษาพยาบาล หรือจัดการศพต่อไป การคันหายังดำเนินต่อไปเพราะยังค้นหาอาสาสมัครอเมริกันไม่พบหนึ่งคน

วันนี้เราไปงานศพ ๑๘ งาน

เราเสียจอห์นจากโปรแกรมที่รพ. เซนต์ลุค เขาคุมแลปคอมพิวเตอร์ ยังมีลูกอ่อนอยู่ เราเสียโจแอน ผอ. โปรแกรมดังกล่าว ที่เหลือเป็นศพที่ถูกทิ้งให้เน่าริมถนนที่เราไม่รู้จัก

มีข่าวของคนดีๆ ที่เรารู้จักที่เสียชีวิตในครั้งนี้ทยอยมาเรื่อยๆ

เราใช้เวลาที่เหลือดูแลคนเจ็บจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีบาดแผลฉกรรจ์ที่มาทีรพ .ของเรา เราช่วยเขาดีที่สุดที่เราทำได้ ใต้ต้นไม้ ในลานจอดรถ แม้ว่าวัสดุการแพทย์ของเราจะน้อยลงทุกทีๆ เราจะทำงานตลอดคืน.. ร้านค้ายังไม่เปิดทำการ ธนาคารณ.วันนี้ไม่เปิดทำการ น้ำมันดีเซลจะหมดในสองวันถ้าเรายังแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะไม่มีไฟใช้ในรพ. เลย ขณะนี้รพ. ไม่มีน้ำเพราะท่อที่ต่อจากหอเก็บน้ำไปที่บ่อแตก

ความเสียหายในตัวอาคารรพ. ดูผิวเผินในช่วงแรก แต่ขณะนี้ผนังด่านนอกเกินครึ่งได้พังลงมาแล้ว รพ. ที เพตันวิลล์พังเป็นจุลณ์ แต่ทุกคนยังขุดซากหามอลลี่อยู่

ที่รพ. ไม่มีอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์สายตรงไม่ทำงาน โรบินมีอินเตอรืเน็ตผ่านดาวเทียมผมจึงขอให้เธอส่งข่าวนี้

โปรดสวดอ้อนวอนให้เรา เราจะสวดให้คุณเช่นกัน

บาทหลวง-นายแพทย์ริก ฟรีเซ็ต

(แปลคร่าวๆ โดย รศ. ดร. กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติธนะ)

"We are doing our best for them, under trees and in the parking lot with ever diminishing supplies. We will work throughout the night and beyond."



After driving by night to Kennedy Airport January 12, and flying to Dominican Republic January 13, Conan and I arrived to Haiti this morning in the helicopter of the President of the Dominican Republic. This ride was due to the reputation of NPH in the Dominican Republic, an NPH Italy, a reputation enhanced in the DR by Andrea Bocelli not long ago.
Our first tasks were the medical evacuation of one of our American volunteers, the medical evacuation of one of our Cuban doctors, the evacuation of the body if one of our American visitors.
The search still continues in the ruble for another missing American volunteer.
We also had 18 funerals today.
One for John who works at our St Luke program. We miss John very much. He often stopped to at my door to tell me the milestone of his developing baby, which delighted him no end. John ran our computerized language lab. Another was for Johanne’s mother. Joanne is one of the directors of the St Luke program. All the others were of unknown people who were sadly rotting by the wayside.
Other sadnesses

The death of Immacula, our only physician assistant, who worked at our huge outpatient side of our hospital. The death of ALL but one of Joseph Ferdinands brothers and sisters, the death of the husband of Jacqueline Gautier as he was visiting a school which fell and all the students (all died), the death of our ex-pequeno Wilfrid Altisme who was in his 5th year of seminary for priesthood. Other stories of deaths of people who are dear to us keep coming in.
We spent the rest of the time managing the countless people with serious and severe wounds, coming to our hospital. We are doing our best for them, under trees and in the parking lot with ever diminishing supplies. We will work throughout the night and beyond. No stores are open, no banks are open. Diesel is running out. Will be out in two days if we don’t find a solution, which will mean no power at all. The hospital is without water since there is some broken line between the well and the water tower.
Structural damages to the hospital seem superficial at first glance, but about half the outer perimeter walls have fallen. The old hospital in Petionville is in ruins, And teams of workers, led by Ferel, and been digging for Molly non stop around the clock.
WE HAVE NO INTERNET. OUR PHONES DO NOT WORK. IF A CALL DOES GET THROUGH WE CAN’T HEAR OR BE HEARD. Robin has internet access through a satellite. I asked her to send this message for me, and to ready my emails and answer them as best she can for now.
Please continue to pray for us. We pray for you too.
Father Rick Frechette<!-- google_ad_section_end --> __________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->[FONT=&quot]
[/FONT]

 

ที่โฟคค์แมนเตือนและห่วงเรื่องเยลโล่สโตนน์ เนื่องจากที่ภูเขานั้นมีเมก้าโวแคโน หรือ อภิมหาภูเขาไฟ ซึ่งหากระเบิดเมื่อไหร่นี่ดูไม่จืดแน่นอน

ระดับพลังงานในการทำลายล้างไม่ต่ำกว่า นิวเคลียร์ 10 ลูกระเบิด

 

บ่นถึงก็ทะยอยมาให้ดูครับ


-----------------------------------

ตะลึงแกะหน้าเหมือนคน



<table width="20%" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>

</td></tr></tbody></table>วัน ที่ 15 ม.ค. เดลี่ เอ็นไควเรอร์ราย งานเรื่องราวแปลกประหลาดของแกะในตุรกีที่ตกลูกออกมาหน้าตาเหมือนคนมีทั้ง จมูก ตาและปาก ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ แต่ลูกแกะน้อยเกิดมาไม่นานก็ตาย สัตวแพทย์ที่ทำคลอดให‰กล่าวว่า เคยเห็นวัวกลายพันธุ์มาก่อน มีทั้งวัวตาเดียว วัวสองหัว วัว 5 ขา แต่ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้ โดยแม่แกะตกลูกเองไม่ได้หมอจึงต้องช่วยทำคลอด นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือด้วยว่าที่ลูกแกะหน้าเหมือนคนเพราะมีชายคนหนึ่งไปมีเพศสัมพันธ์ กับแม่แกะ แต่นักวิทยาศาสตร์หมดทางจะศึกษาเพราะเจ้าของแกะเห็นว่ามีชาวบ้านเดินไปมุงดู มากจนรับไม่ไหวได้จัดการเผาร่างแม่และลูกแกะไปเสียก่อน