ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** เกษตรไทยเข้มแข็ง ****

เตรียม เก็บ รักษา สะสมเมล็ดพันธุ์ข้าวและพืช ไว้ในที่สูงและปลอดภัย
ไว้ปลูกหลังพิบัติ ช่วงพิบัติจะปลูกยาก หลังพิบัติแผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์มาก
ประเทศไทย จะเป็นดินแดนสวรรค์ แห่งอาหารเลี้ยงชาวโลกผู้รอดพ้นภัย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เมตตา กับ สัจจะ ****

ผู้ใดทำได้ คือ เป็นการสัญญากับโลกุตตระธรรม
จะได้พบ มรรค๔ ธรรม๔ ผล๔ นิพพาน๑ ต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ไม่เป็นทาสผู้อื่น ****

คนที่ทำงานให้มหาอำนาจ....
อนาคต... ดินแดนมหาอำนาจที่รุ่งเรืองอาจไม่เหลือเลย
สุดท้าย....ทำเพื่อแผ่นดินที่อาศัยดีกว่า

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมอินเดียเพิ่มเป็น 222 คน​

​

ไฮเดอราบาด 5 ต.ค.-เจ้าหน้าที่ของทางการอินเดียรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมทางตอนใต้ของอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 222 คนแล้ว หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายและไร้ที่อยู่อาศัยอีกนับล้านคน

รายงานระบุว่า มีน้ำท่วมในหลายสิบหมู่บ้านในรัฐอานธรประเทศและกรณาฏกะ ส่งผลให้การคมนาคมและการติดต่อสื่อสารใช้การไม่ได้ ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพไปอาศัยยังที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการจัดไว้ให้ โดยรัฐกรณาฏกะได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิต 172 คน และอีกกว่า 50,000 คนต้องไปอาศัยตามที่พักชั่วคราว ขณะที่อีกหลายแสนคนต้องไปอาศัยตามบ้านเพื่อนและญาติพี่น้อง ส่วนที่รัฐอานธรประเทศมีผู้เสียชีวิต 50 คน และอีก 1.5 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัยและต้องไปอาศัยตามที่พักพิงชั่วคราว ทางการได้จัดส่งทีมแพทย์ไปยังที่พักพิงชั่วคราวในทั้งสองรัฐแล้วเพื่อป้องกันโรคระบาด

ระดับน้ำในสองรัฐเริ่มลดลงแล้วในวันนี้ หลังจากฝนเริ่มหยุดตกตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ นางโซเนีย คานธี ผู้นำพรรคคองเกรส ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล และนายพี ชิดัมบารัม รัฐมนตรีมหาดไทย เตรียมเดินทางสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

2009-10-05 19:39:23

อินโดนีเซียวิตกการแพร่ระบาดของเชื้อโรคเพราะฝนตกในพื้นที่แผ่นดินไหว​

​

ปาดัง อินโดนีเซีย 5 ต.ค. – เกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวของอินโดนีเซีย ทำให้ความพยายามกู้ภัยต้องหยุดชะงักไปในวันนี้ ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่หาทางควบคุมความเสี่ยงการติดเชื้อจากศพจำนวนหลายพันศพ

ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักในเมืองปาดัง รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง ซ้ำเติมผู้ไร้ที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ เมื่อวันพุธสัปดาห์ก่อน ด้านคณะความช่วยเหลือจากต่างชาติและทีมกู้ภัยเดินทางมาเมืองปาดังอย่างต่อเนื่อง โฆษกประจำสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติเผยว่า ขณะนี้มีความหวังเพียงน้อยนิดในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกจากซากปรักหักพังของบ้านเรือน โรงแรม และสำนักงานต่าง ๆ ดังนั้น เป้าหมายในตอนนี้ก็คือการค้นหาร่างของผู้เสียชีวิต

สหประชาชาติรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,100 คน จากภัยพิบัติดังกล่าว แต่คาดการณ์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตรวมในท้ายที่สุดอาจสูงถึง 5,000 คน นักบินเฮลิคอปเตอร์ตำรวจเปิดเผยว่า สภาพอากาศอันเลวร้ายเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจของพวกเขา ในการนำสิ่งของและอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปยังหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลซึ่งถูกโคลนถล่ม

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จากการเน่าเปื่อยของซากศพและการขาดแคลนน้ำสะอาด เพราะเป็นกังวลว่า น้ำสกปรกจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคผิวหนังรวมถึงโรคอื่น ๆ และแมลงวันที่ตอมซากศพยังสามารถแพร่เชื้อแบคทีเรียสู่คนได้อีกด้วย

รัฐบาลอินโดนีเซียได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 6 ล้านล้านรูปี (ประมาณ 20,870 ล้านบาท) สำหรับการฟื้นฟูเมืองปาดัง พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด นอกจากนี้ ยังอนุมัติงบประมาณ 100,000 ล้านรูปี (ราว 347 ล้านบาท) สำหรับกองทุนฉุกเฉินอีกด้วย -สำนักข่าวไทย

2009-10-05 15:52:00

ทีมสวิตเซอร์แลนด์ยุติปฏิบัติการค้นหาในอินโดนีเซีย​

​

เบิร์น 5 ต.ค. - เจ้าหน้าที่แถลงว่า หน่วยกู้ภัยสวิตเซอร์แลนด์ได้ยุติปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวทางตะวันตกของอินโดนีเซียแล้ว

นางนาดีน โอลิวีรี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่กู้ภัย 115 คน พร้อมสุนัขค้นหา 18 ตัวไม่พบผู้รอดชีวิตอีกแล้ว แต่เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เคราะห์ร้าย 6 คน ในซากปรักหักพังระหว่างการค้นหาที่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์และสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ ซึ่งหน่วยกู้ภัยสวิตเซอร์แลนด์จะเดินทางกลับประเทศในวันพุธ แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบน้ำและอาคารจะยังคงอยู่ที่เกาะสุมาตราต่อไป เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินโดนีเซีย แถลงว่า ประชาชนหลายร้อยคนยังคงสูญหายจากแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์ และคาดว่าอาจเสียชีวิตแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-10-05 10:33:23

ไต้หวันอพยพชาวบ้าน 6,000 คน ขณะที่ไต้ฝุ่นป้าหม่าใกล้เข้ามา​

​

ไทเป 5 ต.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของทางการไต้หวันเปิดเผยว่า ไต้หวันสั่งอพยพชาวบ้านกว่า 6,000 คน ในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เพราะพายุไต้ฝุ่นป้าหม่าได้เคลื่อนใกล้เข้ามา พร้อมทำให้เกิดฝนตกหนัก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโคลนถล่ม

รายงานระบุว่า ทางการไต้หวันเน้นการอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ ซึ่งยังคงหลงเหลือร่องรอยความเสียหายจากไต้ฝุ่นมรกตเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยการอพยพดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวที่ว่าพายุฝนอาจทำให้เกิดการพังทลายของไหล่เขาได้

เจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติไต้หวันรายงานว่า ผู้อพยพถูกย้ายไปยังที่หลบภัยอย่างปลอดภัยแล้ว โดยต่อจากนี้ราว 24-48 ชั่วโมง จะเป็นช่วงวิกฤติ ซึ่งทางหน่วยงานจะเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประชาชนกว่า 3,000 คนในเขตผิงตง ทางตอนใต้ของไต้หวัน และเกือบ 2,000 คนในเมืองเกาสง ได้อพยพออกจากบ้านเรือน เช่นเดียวกันกับประชาชนในเขตอี้หลาน ฮัวเหลียน และไทตง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของไต้หวัน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อเวลา 01.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไต้ฝุ่นป้าหม่าอยู่ห่างจากเมืองตอนใต้สุดของไต้หวัน ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 250 กม. และเคลื่อนตัวใกล้กับช่องแคบบาชิ ซึ่งคั่นระหว่างไต้หวันและฟิลิปปินส์ โดยมีความเร็วลมประมาณ 120 กม./ชม. แต่ลดลงจากเมื่อวานนี้ที่มีความเร็วลม 155 กม./ชม. และว่ามีความเป็นไปได้ที่ฝนจะเกิดตกหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตะวันออก

ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันสั่งการให้ส่งทหาร 200 นาย ช่วยอพยพประชาชนจากหมู่บ้านที่ห่างไกล ขณะที่ทหารราว 35,000 นาย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์. -สำนักข่าวไทย

2009-10-05 13:40:11

ไต้ฝุ่นป้าหม่า วกกลับมาทิ้งฝนในฟิลิปปินส์​

​

มะนิลา 5 ต.ค. - ไต้ฝุ่นกำลังแรงป้าหม่าที่พัดถล่มทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ เมื่อสุดสัปดาห์ และเคลื่อนตัวออกไปเมื่อวานนี้ ได้วกกลับมาทิ้งฝนกระหน่ำฟิลิปปินส์อีกครั้ง

ไต้ฝุ่นป้าหม่า ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงที่สุดที่เคลื่อนเข้าถล่มฟิลิปปินส์ นับตั้งแต่ปี 2549 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน ระหว่างพัดผ่านทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในวันเสาร์ และเคลื่อนตัวออกจากชายฝั่งฟิลิปปินส์ ไปเมื่อวันอาทิตย์ ต้องหมุนกลับเข้ามาอีกครั้งเพราะเจอไซโคลนเมอโลร์ ที่มีกำลังแรงกว่า จึงทำให้ยังคงมีฝนตกหนักในเขตภูเขาทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์

สภาพฝนตกหนักทั้งในและรอบกรุงมะนิลา ซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของจุดศูนย์กลางพายุป้าหม่า ราว 350 กิโลเมตร จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เลวร้ายหนักขึ้น ขณะกำลังฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นกิสนา เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน และอีก 5 แสนคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายคิดเป็นมูลค่า 6,500 ล้านเปโซ (4,730 ล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ทำให้ฟิลิปปินส์ ต้องประกาศนำเข้าข้าวจากต่างประเทศในปีนี้. -สำนักข่าวไทย

2009-10-05 11:01:30

ยอดผู้เสียชีวิตชาวนิวซีแลนด์จากสึนามิถล่มซามัวเพิ่มเป็น 7 คน​

​

เวลลิงตัน 5 ต.ค. – กระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตชาวนิวซีแลนด์จากเหตุสึนามิถล่มซามัว เพิ่มเป็น 7 คนแล้ว

รายงานระบุว่า ทางการสามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตชาวนิวซีแลนด์ได้แล้ว 7 คน ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ใหญ่ 5 คน และเป็นเด็ก 2 คน นอกจากนี้ยังมีเด็กชาวนิวซีแลนด์ 1 คนสูญหาย แต่สันนิษฐานว่าเด็กคนดังกล่าวอาจเสียชีวิตแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุสึนามิ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่หญิงสาวสองพี่น้องวัยประมาณ 20 ปี ซึ่งเดินทางไปพักผ่อนบนเกาะอูโปลูทางตอนใต้ของซามัว เป็นผู้เสียชีวิตรายล่าสุดที่ได้รับการยืนยัน กระทรวงต่างประเทศยังคงเร่งตามหาชาวนิวซีแลนด์ที่เหลือราว 10 คน ซึ่งบางคนได้เดินทางออกจากซามัวแล้ว

ขณะนี้มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติดังกล่าวในซามัว อเมริกันซามัว และตองกา รวม 176 คน แต่วิตกว่า ผู้สูญหายอีก 12 คนอาจเสียชีวิตแล้ว โดยผู้เสียชีวิตชาวนิวซีแลนด์ทุกคนเสียชีวิตในซามัว. - สำนักข่าวไทย

2009-10-05 10:28:45

เกาหลีเหนือมีไวรัสและเชื้อโรคหลายชนิดที่สามารถผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ ​

​

โซล 5 ต.ค.-กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าเกาหลีเหนือมีไวรัสและเชื้อโรค 13 ชนิด ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธชีวภาพ นอกจากนี้ยังมีอาวุธเคมีอีกราว 2,500-5,000 ตัน

กระทรวงกลาโหมเสนอรายงานต่อรัฐสภา ระบุว่าคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือเป็นประเทศหนึ่งที่มีคลังอาวุธเคมีและชีวภาพใหญ่ที่สุดในโลก รายชื่อของเชื้อโรคที่สามารถนำมาทำเป็นอาวุธชีวภาพ เช่น อหิวาต์ ไข้เหลือง ไข้ทรพิษ ไข้รากสาดใหญ่ ไข้ไทฟอยด์และท้องร่วง ทั้งนี้คำยืนยันว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธเคมีและชีวภาพนอกเหนือจากอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธที่ใช้ทำสงครามตามรูปแบบไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ แต่รายงานที่เปิดเผยในวันนี้เป็นการให้รายละเอียดเพิ่มเติมของคลังอาวุธชีวภาพ

ทางด้านกลุ่มศึกษาวิกฤติระหว่างประเทศในกรุงบรัสเซลส์ กล่าวไว้ในรายงานเดือน มิ.ย.ว่า ความสามารถทางด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุด แต่เกาหลีเหนือก็มีคลังอาวุธเคมีขนาดใหญ่และสงสัยว่ามีโครงการผลิตอาวุธชีวภาพ ซึ่งอาวุธเคมีเหล่านี้สามารถนำสู่เป้าหมายในเกาหลีใต้ได้ด้วยกระสุนปืนใหญ่หรือจรวด

คลังอาวุธเคมีของเกาหลีเหนือ ประกอบด้วยแก๊สมัสตาร์ด ฟอสจีน ซาริน ทาบุน แก๊สทำลายเลือดและระบบประสาทถาวร รวมน้ำหนัก 2,500-5,000 ตัน สามารถยิงไปสู่เป้าหมายด้วยปืนใหญ่วิถีไกล จรวด เครื่องบินและเรือรบ.-สำนักข่าวไทย

2009-10-05 13:30:48

ผู้นำใหม่ตอลีบานประกาศโจมตีตอบโต้สหรัฐ​

​

ปากีสถาน 6 ต.ค. - นายฮาคิมุลเลาะห์ เมห์ซุด ผู้นำคนใหม่ของกลุ่มตอลีบานในปากีสถาน ประกาศจะก่อเหตุโจมตีสหรัฐ เป็นการตอบโต้เหตุโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐ

นายเมห์ซุดเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวทั้งในประเทศและต่างชาติเข้าสัมภาษณ์ในพื้นที่ชนเผ่าทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นเป็นแกนนำกลุ่มตอลีบานในปากีสถานเมื่อหลายเดือนก่อน เขาบอกว่ากลุ่มตอลีบานไม่ต้องการทำสงครามกับกองกำลังปากีสถาน แต่เป็นกองกำลังสหรัฐและนาโตที่พวกเขาต้องการขับไล่ออกนอกประเทศ และตอลีบานจะก่อเหตุโจมตีตอบโต้กองกำลังสหรัฐที่ใช้เครื่องบินไร้คนขับโจมตีเป้าหมายของกลุ่มตอลีบานในพื้นที่ชนเผ่าทางตะวันตกของประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายเมห์ซุดแถลงข่าวพร้อมกับลูกสมาชิกกลุ่มตอลีบานหลายคน เพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่มไม่ได้มีความขัดแย้งหรือแตกแยก อีกทั้งยังเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ได้เสียชีวิตตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้. -สำนักข่าวไทย

2009-10-06 04:04:53

อังกฤษเสนอเงิน 14 ล้านปอนด์ ให้ลิเบียเลิกหนุนไออาร์เอ​

​

ลอนดอน 5 ต.ค. - หนังสือพิมพ์ดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษ รายงานวันนี้ว่า อังกฤษเคยเสนอเงิน 14 ล้านปอนด์ (ราว 742 ล้านบาท) ให้แก่ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย อย่างลับ ๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงให้ลิเบียยุติการสนับสนุนกองทัพกู้ชาติไอริช (ไออาร์เอ)

จดหมายที่ดิ อินดิเพนเดนท์ เปิดเผย ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษในสมัยนายกรัฐมนตรีฮาโรลด์ วิลสัน และลิเบีย เคยเจรจากันในช่วงคริสต์ทศวรรษ หลังปี 1970 ให้ลิเบียหยุดส่งอาวุธให้ขบวนการไออาร์เอ ข้อตกลงให้เงินเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการให้สิ่งตอบแทนเพื่อจูงใจผู้นำลิเบีย และเพื่อช่วยเปิดการค้ากับลิเบียในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 โดยข้อความที่นายกรัฐมนตรีวิลสัน มีถึง พ.อ.กัดดาฟี เมื่อปี 2518 มีใจความชัดเจนว่า รัฐบาลอังกฤษในสมัยนั้นพร้อมจะจ่ายเงินให้ลิเบีย

จดหมายฉบับนี้ เป็นหนึ่งในเอกสารที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยออกมา ซึ่ง ดิ อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า หลังจากสิ้นสุดช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 ก็ชัดเจนว่า การเจรจาดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ ด้านกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า ไม่ทราบข้อเสนอเงินให้ผู้นำลิเบีย ผู้ยอมรับว่า เคยให้การสนับสนุนขบวนการไออาร์เอ และอาวุธส่วนใหญ่ของไออาร์เอมาจากลิเบีย -สำนักข่าวไทย

2009-10-05 11:10:29

ที่มา MCOT News By Thai News Agency : MCOT dot Net

 

*** ค้นหาสังข์ ****


................๑................

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เหตุการณ์บ้านเมืองไทย ****

ท่านจะเลือกทำสิ่งไหน
ระหว่าง...
๑. เลือกสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อฝ่ายที่ตนเองเชื่อว่าถูกเชื่อว่าดีแล้ว
กับ....
๒. ถือสัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เพื่อให้คนไทยรวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วันอังคาร ที่ 6 ตุลาคม 2552
“ป้าหม่า” เปลี่ยนทาง หักหัวลงมุ่งถล่มซ้ำเวียดนาม!!
Posted by พิมพ์หน้านี้
<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>
แผนภูมิจำลองของ TSR แสดงให้เห็นการหักเหเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนป้าหม่า (Parma) เมื่อวันจันทร์ (5 ต.ค.) นี้ และ ตลอดระยะ 12 ชั่วโมงถัดไป หากพายุลูกนี้สามารถทวีความแรงได้อีก เวียดนามก็ตกอยู่ในอันตรายรอบสองในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ไต้ฝุ่นป้าหม่า (Parma) ได้เปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวลงแนวตะวันตกเฉียงใต้ มุ่งหน้าเข้าสู่ทะเลจีนใต้และฝั่งทะเลเวียดนาม หลังจากทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกเกือบ 20 คนในภาคเหนือของฟิลิปปินส์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการหันเหทิศทางอันน่าประหลาดใจ หลังจากสำนักพยากรณ์ต่างๆ กล่าวก่อนหน้านี้ว่าป้าหม่าจะพุ่งหัวเข้าถล่มแผ่นดินใหญ่จีน

ยังไม่มีสำนักพยากรณ์ใดฟันธงได้ว่า ไต้ฝุ่นลูกล่าสุดนี้จะเคลื่อนตัวต่อไปจนถึงเวียดนามหรือไม่ ขณะที่อ่อนกำลังลงจากระดับ 2 (Catagory 2) หลังพัดเข้าถล่มตอนเหนือของเกาะลูซอน ขณะที่ไต้ฝุ่นเมอโลร์ (Melor) ที่มีขนาดใหญ่กว่าหันเหทิศไปทางตะวันออกเฉียงเหนือและอาจจะพัดเข้าถล่มเกาะญี่ปุ่น

ถ้าหากป้าหม่าเข้าถึงเวียดนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่ว่าจะยังเป็นไต้ฝุ่นที่ทรงพลังหรืออ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน ก็จะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจเวียดนามอย่างหนัก ในขณะที่ทางการกำลังพยายามเยียวยาความเสียหาย ที่ไต้ฝุ่นเกดสะหนาทิ้เอาไว้ข้างหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เกดสะหนาซึ่งมีความเร็วลมศูนย์กลางในระดับ 2 (C2) ขณะพัดถล่มเวียดนาม ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 163 คน อีกเกือบ 20 คนยังสูญหาย กว่า 600 คนได้รับบาดเจ็บ ไต้ฝุ่นยังส่งผลกระทบต่อชาวเวียดนามอีกราว 200,000 คน นาข้าวนับแสนๆ ไร่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวจมอยู่จมใต้น้ำ พืชผลการเกษตรอื่นๆ อีกในเนื้อที่เท่าๆ กันใน 17 จังหวัดถูกทำลาย

ใน จ.กงตูม (Kon Tum) ในเขตที่ราบสูงภาคกลางซึ่งเป็นแห่งสุดท้ายที่พายุเกดสะหนาพัดทำลายในเวียดนาม เมื่อวันอังคาร (29 ก.ย.) มีผู้เสียชีวิตมากถึง 48 คน ใน จ.กว๋างนาม (Quang Nam) กับ จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) 26 และ 35 คนตามลำดับ ไต้ฝุ่นทำให้จังหวัดต่างๆ จมน้ำกินอาณาบริเวณกว้าง

ทางการเวียดนามเร่งส่งความช่วยเหลือไปยังเขตภัยพิบัติ ระดับน้ำเริ่มลดลง และ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนของราษฎรที่ถูกทำลายไปหลายร้อยหลังคา ซ่อมถนนหนทางที่ถูกกระแสน้ำพัดขาด ส่งอาหารและน้ำดื่มให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ

ภาพจำลองจากข้อมูลดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT แสดงตำแหน่งพายุโซนร้อนป้าหม่า ยังหมุนอยู่ในย่านขอบๆ ทะเลจีนใต้ หลังเปลี่ยนทาง ขณะที่ไต้ฝุ่นเมอโลร์ (Melor) ปั่นตัวเองทำความเร็วบ่ายหน้าขึ้นตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงไปยังเกาะญี่ปุ่น
รัฐบาลได้จัดงบประมาณฉุกเฉินกว่า 500,000 ล้านด่ง (17,750 ด่ง/ดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์ และส่งข้าวลอตแรก 10,000 ตัน ยารักษาโรคกับเครื่องยังชีพที่จำเป็นไปยังท้องที่ประสบภัย

พายุเกดสะหนา (Ketsana) ซึ่งเป็นชื่อของต้นไม้มงคล ที่เนื้อไม้มีกลิ่นหอมและราคาแพง ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 รายในจังหวัดภาคใต้ของลาว ทั้งนี้เป็นตัวเลขของโครงการอาหารแห่งสหประชาชาติหรือ UN World Food Program ที่ปฏิบัติงานประจำในพื้นที่ แม้ว่าตัวเลขยืนยันของทางการจะยังเป็น 14 คนอยู่ก็ตาม

พายุที่อ่อนกำลังลงขณะพัดเข้าสู่ดินแดนลาว ได้ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำในลำน้ำเซกอง กับ ลำน้ำเซโดนเอ่อขึ้นท่วมบ้านเรือนและไร่นาของราษฎร ความเสียหายแผ่กว้างตั้งแต่แขวงสาละวัน แขวงเซกองลงไปจนถึงอัตตะปือทางตอนใต้สุด สื่อของทางการกล่าว

ผู้ที่เสียชีวิตยังรวมทั้งคนงาน 3 คน ที่กำลังก่อสร้างเขื่อนเซกะหมาน 3 ในแขวงเซกองด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว โครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าดังกล่าวเป็นของนักลงทุนจากเวียดนาม

ราวกับมีชีวิต มีความคิด คอยเล่นเกมไล่จับกับนักอุตุนิยมวิทยา “พายุโซนร้อน” ป้าหม่า (Parma) ไม่ไปไต้หวันแล้ว.. หักหัวลงตะวันตกเฉียงใต้บ่ายหน้าสู่ทะเลจีนใต้ โดยไม่เอาใจใส่ต่อไต้ฝุ่นเมอโลร์ ที่พุ่งไปในทิศตรงข้าม มุ่งหน้าสู่เกาะญี่ปุ่น
ไต้ฝุ่นเกดสะหนายังสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่จังหงวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคเหนือของกัมพูชา ใน จ.กัมปงธม (Kampong Thom) แห่งเดียวพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน เมืองเสียมราฐถูกน้ำท่วมสูง ให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักลง ส่งผลกระทบต่อผู้คนในอุตสาหกรรมนี่นับหมื่นๆ

กระทรวงการท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในท้องถิ่น กำลังเร่งเก็บกวาดทำความสะอาดเมืองวท่องเท่ายวแห่งนี้

ยังไม่มีรายงานผู้เคราะห์จาก จ.อื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัตนคีรี กับสตึงแตรง (Stung Treng) ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางของพายุเกดสะหนามากที่สุด แม้ว่าจะอ่อนกำลังลงแล้วก็ตาม

ก่อนหน้านั้นไต้ฝุ่นเกดสะหนาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คนในฟิลิปปินส์ นาข้าวถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก ประเทศนี้เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเลี้ยงดูประชากร 92 ล้านคน เมื่อไต้ฝุ่นทำลายนาข้าว ทางการอาจจะต้องนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นอีกในปลายปีนี้ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนต้นปีหน้า

ไต้ฝุ่นป้าหม่าก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตั้งแต่วันที่ 25-26 ก.ย. ขณะที่เกดสะหนากำลังเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ และ พัดเข้ากระหน่ำฟิลิปปินส์ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนทิศทางในนาทีสุดท้าย หักหัวออกบ่ายหน้าขึ้นเหนือ ทำให้กรุงมะนิลาหวิดถูกทำลายซ้ำสอง
ผู้จัดการออนไลน์
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

^
^
^
^
มีโอกาส ที่พายุสองลูกนี้ รวมตัวกันไหมครับ ถ้ามันรวมตัวกันจะเป็นงัย ?

 

วันพุธ ที่ 7 ตุลาคม 2552
พายุ "ป้าหม่า" เข้าฟิลิปปินส์ ไต้ฝุ่น "เมอโลร์" เข้าญี่ปุ่นวันนี้

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD> กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10.00 น. ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง และเริ่มมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อนึ่ง พายุโซนร้อน “ป้าหม่า” (PARMA) ยังคงปกคลุมอยู่บริเวณเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์
ส่วนพายุไต้ฝุ่น “เมอโลร์” (MELOR) กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่น ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลมฟ้าอากาศของประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12.00 วันนี้ ถึง 12.00 วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร และพิจิตร ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา

 

เมอโลร์จ่อเข้าญี่ปุ่นพรุ่งนี้คนตายแล้ว1ราย

พายุไต้ฝุ่น "เมอโลร์" เตรียมพัดเข้าญี่ปุ่นพรุ่งนี้ แต่ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านหลายหลังแล้ว ขณะทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (7 ต.ค.) ความคืบหน้าเหตุภัยธรรมชาติในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่า พายุไต้ฝุ่น “เมอโลร์” (Melor) จ่อจะพัดขึ้นฝั่งทางภาคกลางของญี่ปุ่น ทางทิศตะวันตกห่างจากกรุงโตเกียว ด้วยความเร็วลมประมาณ 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม ได้สร้างความเสียหายแก่เมืองทาเนกาชิมา หลังคาบ้านเรือนจำนวนหนึ่งถูกลมพัดหลุดไปทั้งยวง ขณะที่ต้นไม้รวมถึงเสาไฟฟ้าต่างถูกลมพัดโค่นล้มระเนระนาด ไฟฟ้าตามบ้านเรือนกว่า 10,600 หลัง ดับสนิท ทั้งยังก่อให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมสูงราว 20 นิ้วเบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย

ทางกรมอุตุวิทยาของญี่ปุ่น คาดว่า พายุดังกล่าวจะพัดผ่านประเทศไปทางเหนือ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับพายุไต้ฝุ่นเมื่อปี 2502 ที่ครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตถึงหลายพันคน แต่มีความเป็นไปได้ที่พายุจะอ่อนกำลังลง เหลือความเร็วลม ประมาณ 153 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ประกาศเตือนภัยแก่ประชาชนให้เสริมความแข็งแกร่งของที่อยู่อาศัยด้วยการนำไม้มาตอกอุดประตู และหน้าต่างเพื่อเตรียมรับมือเป็นที่เรียบร้อย ส่วนภาคเอกชน บางบริษัทได้สั่งปิดโรงงานชั่วคราว ขณะที่สายบินต่างๆ สั่งหยุดนำเครื่องขึ้นกว่า 145 เที่ยวบิน ทำให้มีผู้โดยสารติดค้างอยู่ตามสนามบินหลายแห่งกว่า 6,000 คน

เมอโลร์จ่อเข้าญี่ปุ่นพรุ่งนี้คนตายแล้ว1ราย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อิทธิพลพายุเมอโลร์ส่งผลฝนตกหนักบนเกาะฮอนชู
โตเกียว 7 ต.ค.-เกิดฝนตก
หนักและกระแสลมแรงจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ ส่งผลให้บ้านเรือนราว
หมื่นหลังบนเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และได้รับความเสียหาย
หลังคาเปิด คาดว่าพายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งทางตะวันตกของญี่ปุ่นในเช้าวันพรุ่งนี้

พายุ ไต้ฝุ่นเมอโลร์อาจเป็นพายุลูกแรกที่พัดขึ้นฝั่งญี่ปุ่นนับแต่เมื่อปี
2550 เป็นต้นมา สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนภัยพายุและ
คลื่นสูง รายงานระบุว่า พายุเมอโลร์ ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 216 กม./ชม.
กำลังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณตอนใต้ของเกาะชิโกกุ คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งทางตะวัน
ตกในเช้าวันพรุ่งนี้ และเคลื่อนตัวไปยังเกาะฮอนชู ซึ่งมีประชากรหนาแน่นและ
เป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมของประเทศ
ญี่ปุ่น ได้สั่งระงับบริการเที่ยวบินกว่า 200 เที่ยว รวมทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศ
4 เที่ยว เนื่องจากมีกระแสลมแรงทางตะวันตกของประเทศ ส่งผลให้ผู้โดยสาร
15,000 คนตกค้าง นอกจากนี้ การบริการเรือข้ามฟากก็ถูกระงับไว้เช่นกัน

สำนัก อุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดว่า พายุเมอโลร์อาจทำให้เกิดฝนตกหนัก 500
มม.ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศในช่วง 24 ชม.จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2009-10-07 18:29:37 <map name="Map"><area title="มะขามเฒ่า" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=26&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100')" shape="RECT" alt="มะขามเฒ่า" coords="348,297,384,331" href="#"><area title="มโนรมย์" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=29&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100')" shape="RECT" alt="มโนรมย์" coords="616,304,676,329" href="#"><area title="พลเทพ" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=27&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100')" shape="RECT" alt="พลเทพ" coords="347,360,380,392" href="#"><area title="เข้าคลองเล็ก" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=30&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="เข้าคลองเล็ก" coords="630,366,694,398" href="#"><area title="บรมธาตุ" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=28&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="บรมธาตุ" coords="347,425,370,453" href="#"><area title="พิษณุโลก" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=25&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="พิษณุโลก" coords="669,231,690,262" href="#"><area title="มหาราช" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=31&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="มหาราช" coords="550,424,640,456" href="#"><!-- <area shape="rect" coords="533,485,430,517" href="#" alt="เจ้าพระยา" title="เจ้าพระยา" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=10&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;"> --><area title="เจ้าพระยา" onclick="window.open('/DATA/REPORT/php/itc_graph.php?id1=37,&field=storage','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="เจ้าพระยา" coords="430,485,533,517" href="#"><area title="เริงราง" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=32&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="เริงราง" coords="692,484,720,517" href="#"><area title="ป่าสัก" onclick="window.open('rid_lgraph.php?dam_id=19&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="ป่าสัก" coords="730,517,806,562" href="#"><area title="ผักไห่" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=14&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="ผักไห่" coords="370,561,400,587" href="#"><area title="พระราม6" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=16&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="พระราม6" coords="652,565,670,599" href="#"><area title="พระนารายณ์" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=37&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="พระนารายณ์" coords="680,631,720,661" href="#"><area title="โพธิ์พระยา" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=34&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="โพธิ์พระยา" coords="215,711,250,739" href="#"><area title="โพธิคอย" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=35&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="โพธิคอย" coords="345,710,370,740" href="#"><area title="แม่กลอง" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=36&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="แม่กลอง" coords="160,766,200,805" href="#"><area title="พระศรีศิลป์" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=38&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="พระศรีศิลป์" coords="640,686,680,714" href="#"><area title="พระศรีเสาวภาค" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=39&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="พระศรีเสาวภาค" coords="760,736,800,772" href="#"><area title="ไซฟอนพระะรรม" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=40&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="ไซฟอนพระะรรม" coords="760,805,790,832" href="#"><area title="บางเขนใหม่" onclick="window.open('/cgi-pub/GIS/REPORT/openBMAgraph?station=E08&type=inout','_blank','width=800,height=550,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="บางเขนใหม่" coords="623,732,650,775" href="#"><area title="บางอ้อ" onclick="window.open('/cgi-pub/GIS/REPORT/openBMAgraph?station=E30&type=inout','_blank','width=800,height=550,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="บางอ้อ" coords="621,905,650,941" href="#"><area title="ปลายคลอง 13" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=41&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="ปลายคลอง 13" coords="775,866,820,899" href="#"><area title="ท่าจีน" shape="RECT" alt="ท่าจีน" coords="194,900,237,938" href="#"><area title="สะพานพุทธ" shape="RECT" alt="สะพานพุทธ" coords="539,843,578,878" href="#"><area title="บางขนาก" shape="RECT" alt="บางขนาก" coords="798,936,808,945" href="#"><area title="ผักไห่-เจ้าเจ็ด" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=33&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="ผักไห่-เจ้าเจ็ด" coords="340,631,380,661" href="#"><area title="ปริมาณน้ำตามธรรมชาติ" onclick="window.open('rid_cp_lgraph.php?cp_id=23&year1=2009,','_blank','width=850,height=600,status=no,toolbar=no,resizable=yes,scrollbars=yes,top=10,left=100');return false;" shape="RECT" alt="ปริมาณน้ำตามธรรมชาติ" coords="348,237,358,247" href="#"></map>

 

*** ถึงคนไม่รักชาติ...ให้เลิกแล้วเห็นใจกัน ****

โปรดระมัดระวัง กายวาจาใจ ตนเอง
อย่าเอาแต่ตัวเองได้ สุดท้ายบ้านเมืองก็ล่มจมหาย
ท่านจะเกลียดกันไปจนตายเลยหรือ ????
เวลาก็เหลือน้อย น่าจะจูงมือกันเข้าวัด ไปให้สัจจะต่อกัน
ดินฟ้าอากาศสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นพยาน
จะได้รอดพ้นกรรมด้วยกันทั้งหมด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นึกถึงคำพูดเกี่ยวกับเกาะญี่ปุ่น...จะถูกกระแสน้ำพัดจมหาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ในทริปที่ได้เดินทางไป เห็นหินถล่มลงมาทับเส้นทางถนนสายหลักในหลายเส้นทางครับ เ้ช่นจากอุดรธานี ไปหนองบัวลำภู

ดินถล่ม ภูเขาทรุดตัวหลายพื้นที่ครับ

 

เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 2 ครั้งในแปซิฟิก เตือนเกิดสึนามิ​

​

ซิดนีย์ 8 ต.ค. - เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล 2 ครั้ง ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ศูนย์เตือนภัยสึนามิที่รัฐฮาวายออกคำเตือนการเกิดสึนามิไปยัง 11 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ฟิจิ ปาปัวนิวกินี วานูอาตู และซามัวซึ่งเพิ่งเกิดสึนามิเมื่อสัปดาห์ก่อน

เจ้าหน้าที่ในหมู่เกาะนิวแคลิโดเนียซึ่งเป็นดินแดนของฝรั่งเศส กำลังอพยพผู้คนออกจากบริเวณชายหาดทางตะวันออกและจากหมู่เกาะลอแยลตี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงไปยังที่สูง หลังจากมีคำเตือนการเกิดสึนามิจากแผ่นดินไหว

โฆษกตำรวจในกรุงนูเมอา คาดว่าคลื่นสึนามิจะพัดเข้าสู่ชายฝั่งในเวลา 11.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 07.15 น.ตามเวลาในไทย ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิที่ฮาวาย กำลังประเมินสถานการณ์ว่าจะเพิ่มระดับการเตือนภัยไปยังประเทศทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกหรือไม่ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล 2 ครั้ง ที่บริเวณวานูอาตูกับหมู่เกาะโซโลมอน

ทางด้านโฆษกกระทรวงป้องกันภัยพลเรือนและบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนการเกิดสึนามิไปยังประชาชนที่อยู่ตามชายทะเลและบนเรือใกล้ชายฝั่ง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 7.8 ริกเตอร์ ห่างจากวานูอาตูไปทางทิศเหนือถึงตะวันตกเฉียงเหนือ 373 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปในทะเล 33 กิโลเมตร และอีกครั้งมีความรุนแรง 7.3 ริกเตอร์

ตำรวจวานูอาตูในกรุงพอร์ตวิลา กล่าวว่า ไม่รู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวและยังไม่ได้รับรายงานว่าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ ได้ไม่นาน ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะซูลูในฟิลิปปินส์ ซึ่งเพิ่งถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 22 คน.- สำนักข่าวไทย

2009-10-08 06:58:14

ยกเลิกคำเตือนสึนามิจากแผ่นดินไหวที่แปซิฟิกแล้ว​

​

ซิดนีย์ 8 ต.ค. - ศูนย์เตือนภัยสึนามิมหาสมุทรแปซิฟิก ประกาศยกเลิกคำเตือนคลื่นสึนามิแล้ว หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล 2 ครั้ง ใกล้หมู่เกาะวานูอาตู ในแปซิฟิกใต้

ก่อนหน้าการยกเลิกคำเตือนสึนามิ มีรายงานจากศูนย์เตือนภัยฯ ว่า เกิดสึนามิขึ้น 1 ระลอก แต่ไม่มีรายละเอียดความสูงของคลื่น ขณะที่สำนักงานพยากรณ์อากาศของออสเตรเลียก็ได้ยกเลิกการเฝ้าจับตาการเกิดสึนามิที่รัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือแล้วเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

2009-10-08 07:53:41

ไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดกระหน่ำตอนกลางของญี่ปุ่น ​

​

โตเกียว 8 ต.ค. - พายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ซึ่งมีกำลังรุนแรงโหมกระหน่ำเกาะสำคัญของญี่ปุ่น สร้างปัญหาต่อการคมนาคมขนส่ง และทำให้ทางการประกาศเตือนแผ่นดินถล่มและน้ำท่วม แม้ยังไม่มีรายงานว่าเกิดความเสียหายรุนแรง

ไต้ฝุ่นเมอโลร์ ความเร็วลม 198 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันตกประมาณ 200 กิโลเมตร เมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 05.00 น.ตามเวลาในไทย แนวพายุกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือถึงตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วเดินทาง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ เตรียมระงับการผลิตชั่วคราวในโรงงานทุกแห่งทางตอนกลางของญี่ปุ่นในวันนี้ (8 ต.ค.) และจะไปผลิตชดเชยในอนาคตอันใกล้ ขณะที่สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะขับจักรยานยนต์ไปชนกับต้นไม้ล้ม ส่วนสำนักข่าวเอ็นเอชเค รายงานว่ามีประชาชนประมาณ 18 คน ได้รับบาดเจ็บ ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงถึงบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินถล่มที่หมู่เกาะโอกินาวาและเกาะคิวชู. -สำนักข่าวไทย

2009-10-08 07:21:51

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในอินเดียพุ่งเกิน 300 คนแล้ว​

​

อินเดีย 7 ต.ค.-อุทกภัยซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบหลาย 10 ปี ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักทางตอนใต้ของอินเดีย และทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเกินกว่า 300 คนแล้ว ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เลขาธิการสำนักงานเฝ้าระวังภัยพิบัติในรัฐกรณาฏกะเปิดเผยว่า มีประชาชนอย่างน้อย 1.5 ล้านคนในรัฐกรณาฏกะ มหาราษฏระ และอานธรประเทศ ต้องไร้ที่อยู่อาศัยหลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน โดยที่รัฐกรณาฏกะเพียงรัฐเดียว มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน และอาจมีประชาชนราว 200,000- 300,000 คน ในหลายหมู่บ้าน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เผยว่า ประชาชนกว่า 500,000 คนต้องอาศัยอยู่ในศูนย์บรรเทาทุกข์ในรัฐอานธรประเทศ และกว่า 650,000 คน อยู่ในศูนย์พักพิงในรัฐกรณาฏกะ

ส่วนประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเรือนของตน ต้องอพยพไปอยู่นอกชานเรือนหรือบนหลังคา และได้ออกมาตำหนิว่าความช่วยเหลือและอาหารเดินทางมาถึงล่าช้า ด้านกระทรวงกลาโหมของอินเดียแถลงว่า ทหารได้นำอาหารกว่า 4.5 ตันไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว น้ำท่วมยังส่งผลให้ราคาอาหารในพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากข้าวและอ้อยถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก.-สำนักข่าวไทย

2009-10-08 02:00:17

ฝนยังคงตกหนักทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์​

​

มะนิลา 7 ต.ค.- อิทธิพลของพายุโซนร้อนป้าหม่า ทำให้เกิดฝนตกหนักลงมาอีก และสร้างความเดือดร้อนให้กับหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่พายุดังกล่าวเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ ติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้ว

เจ้าหน้าที่สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุโซนร้อนป้าหม่า ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะลูซอน ราว 60 กม. รัฐบาลออกมาเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ระวังเหตุแผ่นดินถล่มและน้ำท่วม ซึ่งอาจจะร้ายแรงกว่าเดิม

พายุป้าหม่า พัดกระหน่ำตอนเหนือของเกาะลูซอน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ทางการเกษตรขนาดใหญ่ และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 16 คน โดยพายุดังกล่าวเข้าถล่มฟิลิปปินส์ หลังจากเมื่อ 1 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ พายุโซนร้อนกิสนา พัดกระหน่ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ในกรุงมะนิลา และพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 4 ล้านคน และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 295 คน ขณะที่ปัจจุบัน หลายพื้นที่ในกรุงมะนิลา และหลายจังหวัดทางตอนเหนือยังจมอยู่ใต้น้ำ.-สำนักข่าวไทย

2009-10-07 15:35:42

ยูเอ็นขอระดมเงินกว่า 2,500 ล้านบาท ช่วยผู้ประสบอุทกภัยฟิลิปปินส์​

​

เจนีวา 7 ต.ค. - สหประชาชาติขอระดมเงิน 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,500 ล้านบาท) ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในฟิลิปปินส์

เอลิซาเบธ ไบร์ส โฆษกสหประชาชาติ แถลงว่า ความจำเป็นทางการเงินดังกล่าว จะนำไปช่วยเหลือประชาชนนับล้านคนที่ประสบภาวะน้ำท่วมจากผลกระทบของพายุโซนร้อนกิสนา แถลงการณ์เรียกร้องขอเงินประเทศผู้บริจาคมีขึ้นที่นครเจนีวา เมื่อวันอังคาร จากการประเมินของฟิลิปปินส์ ซึ่งเผชิญกับอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในกรุงมะนิลา ในรอบกว่า 4 ทศวรรษ และมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน .-สำนักข่าวไทย

2009-10-07 13:52:20

บ้านเกือบ 2 แสนหลังได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย​

​

ปาดัง 6 ต.ค.- สหพันธ์สภากาชาดสากลอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บ้านเรือนราว 170,000 ถึง 200,000 หลัง ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ในอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยกว่าครึ่งของบ้านเรือนเหล่านั้นถูกทำลายย่อยยับ

นายบ็อบ แมคเคอร์โรว์ หัวหน้าผู้แทนสหพันธ์สภากาชาดสากล กล่าวว่า ประชาชนกว่า 1 ล้านคนได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่บ้านเรือนถูกทำลาย และคาดว่ามีบ้านประมาณ 170,000-200,000 หลังได้รับความเสียหาย โดยมีถึง 90,000 หลังที่เสียหายหนักจนไม่สามารถอาศัยได้อีกต่อไป

รายงานจากเว็บไซต์ของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติระบุว่า นับถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 704 คน สูญหาย 295 คน และมีบ้านเรือนถูกทำลาย 101,653 หลัง ในจำนวนดังกล่าว 48,967 หลัง ได้รับความเสียหายในระดับปานกลาง และ 49,026 หลังได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย. -สำนักข่าวไทย

2009-10-06 14:49:51

อินโดนีเซียทำพิธีฝังศพหมู่ใน 4 หมู่บ้านดินถล่ม​

​

ปาดัง 7 ต.ค. - ผู้ว่าการจังหวัดสุมาตราตะวันตก แถลงว่า อินโดนีเซียจะมีพิธีฝังศพหมู่ในหมู่บ้าน 4 แห่ง ที่ถูกดินถล่มทับจากแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียคาดว่า มีผู้เสียชีวิตถึง 400 คน ที่ถูกดินจากไหล่เขาฝังกลบทั้งเป็น หลังมีแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ริกเตอร์ ทำให้เกิดความเสียหายทั่วหมู่บ้านทั้ง4 แห่ง ในเมืองปาดัง บนเกาะสุมาตรา ซึ่งคาดว่าอาจไม่พบร่างผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่และอาจเน่าเปื่อยไปแล้ว จึงต้องปล่อยให้อยู่ตามนั้น ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย เมื่อวันพุธที่แล้ว อยู่ที่ 704 คน แต่กาชาดคาดว่า ยอดรวมอาจเกิน 3,000 คน เนื่องจากมีอีกหลายร้อยศพที่อยู่ใต้ซากปรักหักพัง

ทั้งนี้ ในแง่ศาสนาเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะไม่ต้องขุดร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาประกอบพิธีฝังอีก และหากชุมชนเห็นดีด้วย พื้นที่ทั้ง 4 หมู่บ้านก็จะถูกประกาศให้เป็นสุสานฝังศพหมู่ต่อไป. - สำนักข่าวไทย

2009-10-07 14:04:03

ไต้หวันจะปรับผู้ไม่ทำตามคำสั่งอพยพหนีไต้ฝุ่น​

​

ไทเป 6 ต.ค. - เจ้าหน้าที่ไต้หวันเผยวันนี้ว่า ชาวบ้านหลายสิบคนทางภาคใต้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอพยพหนีพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า ที่เคลื่อนตัวใกล้ไต้หวัน อาจเผชิญโทษปรับสูงสุด 200,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 204,600 บาท)

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทางการได้ประกาศให้ผู้อาศัยในชุมชนของเขตผิงตง อพยพออกจากบ้านเรือนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังมีประชาชนหลายครอบครัวไม่ปฏิบัติตาม แม้พวกเขาจะหวั่นว่าอยู่ในแนวพาดผ่านของไต้ฝุ่นป้าหม่า แต่ก็ได้ลงชื่อในข้อตกลงว่าจะรับผิดชอบความปลอดภัยตนเอง และจะอยู่ไปจนกว่าจะมีการยกเลิกสัญญาณเตือนพายุไต้ฝุ่นช่วงเย็นวานนี้ อย่างไรก็ดี ชาวบ้านกลุ่มนี้อาจถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 200,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 204,600 บาท) ในความผิดฐานเพิกเฉยคำสั่งรัฐบาล

เจ้าหน้าที่กู้ภัย ระบุว่า ไต้หวันสั่งอพยพประชาชนกว่า 6,000 คน เมื่อวานนี้ ขณะที่ไต้ฝุ่นป้าหม่า กำลังเคลื่อนตัวใกล้ไต้หวัน ทำให้เกิดฝนตกหนัก ดินถล่ม โดยการอพยพมุ่งเน้นไปที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไต้ฝุ่นมรกต เมื่อเดือน ส.ค. ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 600 คน และแม้สำนักอุตุนิยมวิทยาจะยกเลิกประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่นป้าหม่า แล้ว แต่คาดว่าพายุลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของไต้หวัน ในวันนี้. -สำนักข่าวไทย

2009-10-06 13:43:18

จีนพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไข้หวัด 2009 ส่วนกัมพูชาพบรายที่ 2​

​

จีน, กัมพูชา 6 ต.ค.- จีนพบผู้เสียชีวิตรายแรก จากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่วนกัมพูชาพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นรายที่สอง

เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขจีน รายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายแรกของประเทศ เป็นคนไข้หญิงวัย 18 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบตเมื่อวานนี้ ทางการได้เร่งส่งวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จำนวน 200,000 โดส ไปยังพื้นที่เพื่อกระจายให้กับผู้ป่วยแล้ว โดยล่าสุด จีนมีผู้ติดเชื้อ 21,453 ราย แต่กว่าร้อยละ 80 อาการดีขึ้นแล้ว

ส่วนที่กัมพูชา พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายที่ 2 เป็นชายวัย 47 ปี ซึ่งเสียชีวิตในโรงพยาบาลที่กรุงพนมเปญเมื่อบ่ายวันจันทร์ หลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะนี้ กัมพูชามีผู้ติดเชื้อไวรัสหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อย่างน้อย 101 คน นับตั้งแต่พบการระบาดในกัมพูชาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา.- สำนักข่าวไทย

2009-10-06 23:15:18

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/08 01:08:37 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -12.802 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 166.242 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>35.0 </TD><TD vAlign=top> SANTA CRUZ ISLANDS</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/08 00:22:05 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -13.280 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 166.135 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>35.0 </TD><TD vAlign=top> VANUATU</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 23:48:53 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -13.489 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 166.408 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>29.5 </TD><TD vAlign=top> VANUATU</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 23:38:09 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -16.639 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -172.473 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> SAMOA ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 7.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 23:13:49 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -13.145 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 166.297 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>33.3 </TD><TD vAlign=top> VANUATU</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 7.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 22:18:26 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -12.554 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 166.320 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>35.0 </TD><TD vAlign=top> SANTA CRUZ ISLANDS</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 22:11:05 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 60.047 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -140.626 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>0.5 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN YUKON TERRITORY, CANADA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 7.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 22:03:16 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -13.052 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 166.187 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>35.0 </TD><TD vAlign=top> VANUATU</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 6.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 21:41:15 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 4.043 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 122.584 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>582.8 </TD><TD vAlign=top> CELEBES SEA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 21:37:02 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.412 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -68.824 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>173.2 </TD><TD vAlign=top> DOMINICAN REPUBLIC</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 20:52:14 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 81.528 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 119.779 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> EAST OF SEVERNAYA ZEMLYA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 20:47:23 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 37.380 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -121.329 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>2.2 </TD><TD vAlign=top> NORTHERN CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 20:12:54 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 19.146 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.779 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>8.6 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 20:03:46 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 38.793 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -122.801 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>3.8 </TD><TD vAlign=top> NORTHERN CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 15:48:33 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -8.299 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 127.621 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>14.7 </TD><TD vAlign=top> EAST TIMOR REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 15:24:46 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 53.880 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -165.531 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>57.8 </TD><TD vAlign=top> FOX ISLANDS, ALEUTIAN ISLANDS, ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 13:02:14 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -0.462 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 132.880 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>51.4 </TD><TD vAlign=top> NEAR THE NORTH COAST OF PAPUA, INDONESIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 09:00:27 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 19.093 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.616 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>24.5 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 08:59:06 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -16.568 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -172.612 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> SAMOA ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 07:08:24 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 19.143 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.531 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>24.4 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 05:38:38 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 52.228 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 178.089 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>140.7 </TD><TD vAlign=top> RAT ISLANDS, ALEUTIAN ISLANDS, ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 05:24:05 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.845 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.396 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>24.0 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 05:08:56 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -13.615 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 165.942 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>35.0 </TD><TD vAlign=top> VANUATU</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 04:51:52 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 41.272 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -111.686 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>12.7 </TD><TD vAlign=top> UTAH</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 04:42:33 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.791 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.388 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>29.8 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 03:41:39 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 60.175 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -154.424 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>203.0 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 03:29:16 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 62.221 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -148.599 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>14.6 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/07 02:08:59 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -16.156 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -173.660 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> TONGA</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0><TBODY><TR><TH> </TH><TH align=middle>MAG </TH><TH align=middle>UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle>LAT
deg </TH><TH align=middle>LON
deg </TH><TH align=middle>DEPTH
km </TH><TH> Region</TH></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 22:37:54 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 35.066 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -118.915 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>15.6 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 22:31:19 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -15.653 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -172.299 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> SAMOA ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 20:55:18 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -14.934 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -173.941 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> SAMOA ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 20:47:22 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -15.925 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -173.561 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> TONGA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 20:01:54 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -15.160 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -173.637 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> TONGA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 19:04:33 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 19.131 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.445 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>46.0 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 18:06:34 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.414 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -117.836 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>1.6 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 17:22:58 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.964 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -107.444 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>61.8 </TD><TD vAlign=top> OFF THE COAST OF JALISCO, MEXICO</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 17:20:08 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 19.351 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -155.288 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>26.0 </TD><TD vAlign=top> ISLAND OF HAWAII, HAWAII</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 3.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 17:15:55 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.967 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -65.154 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>31.2 </TD><TD vAlign=top> PUERTO RICO REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 17:02:07 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.637 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -119.288 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>22.4 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 16:31:16 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.400 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -117.847 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>1.9 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 15:23:34 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -5.234 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 145.392 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>82.0 </TD><TD vAlign=top> EASTERN NEW GUINEA REG, PAPUA NEW GUINEA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 12:28:21 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -17.485 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -178.863 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>585.6 </TD><TD vAlign=top> FIJI REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 11:13:35 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -2.282 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 68.745 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> CARLSBERG RIDGE</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 11:04:58 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -2.217 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 68.753 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> CARLSBERG RIDGE</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 10:05:22 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 60.829 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -148.888 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>34.9 </TD><TD vAlign=top> KENAI PENINSULA, ALASKA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 09:38:00 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -16.373 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -172.589 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> SAMOA ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 09:33:38 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -20.816 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 168.674 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>41.0 </TD><TD vAlign=top> LOYALTY ISLANDS</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 08:10:09 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 13.855 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -90.586 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>95.3 </TD><TD vAlign=top> OFFSHORE GUATEMALA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 06:52:18 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.808 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -65.298 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>54.0 </TD><TD vAlign=top> PUERTO RICO REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 4.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 04:30:23 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 2.068 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 128.353 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>71.9 </TD><TD vAlign=top> HALMAHERA, INDONESIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 03:48:31 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 18.822 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -64.390 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>15.5 </TD><TD vAlign=top> VIRGIN ISLANDS REGION</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 03:24:48 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.398 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -117.851 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>3.5 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 02:51:13 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 32.723 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -115.847 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>2.6 </TD><TD vAlign=top> SOUTHERN CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 01:59:40 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -4.523 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -104.910 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL EAST PACIFIC RISE</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 2.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 00:44:34 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 36.392 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -117.849 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>1.5 </TD><TD vAlign=top> CENTRAL CALIFORNIA</TD></TR><TR><TD vAlign=top noWrap align=middle>MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle>2009/10/06 00:16:05 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> 46.502 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right> -27.276 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right>10.0 </TD><TD vAlign=top> NORTHERN MID-ATLANTIC RIDGE</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข่าว: แผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ในแปซิฟิกใต้ เตือนภัยสึนามิ

<SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&output=html&h=15&slotname=7657140061&w=468&lmt=1254995979&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fworld-news%2F59105.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&dt=1254970879296&correlator=1254970879296&frm=0&ga_vid=1070952145.1254970879&ga_sid=1254970879&ga_hid=658213159&ga_fc=0&ga_wpids=UA-1682552-2&u_tz=420&u_his=0&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=742&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=608&bih=354&fu=0&ifi=1&dtd=235&xpc=obGAFfwmM3&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-10-08T09:29:20+0700>วันพฤหัสที่ 8 ตุลาคม 2009 เวลา 09:29:20</ABBR>, ในหมวด ข่าวต่างประเทศ, ข่าวเด่นประจำวัน และ สึนามิ, แปซิฟิกใต้, แผ่นดินไหว. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.


8 ต.ค.รายงานจากบีบีซีว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวอีกครั้งในทะเลแปซิฟิกใต้ ใกล้กับเกาะประเทศวานูอาตู ระลอกแรกวัดระดับความรุนแรงได้ 7.8 ริกเตอร์ ระลอกต่อมา มีขนาด 7.3 ริกเตอร์
โฆษกกระทรวงป้องกันภัยพลเรือนและบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินของ นิวซีแลนด์ กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนการเกิดสึนามิไปยังประชาชนที่อยู่ตามชายทะเลและบนเรือใกล้ชาย ฝั่ง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 7.8 ริกเตอร์ ห่างจากวานูอาตูไปทางทิศเหนือถึงตะวันตกเฉียงเหนือ 373 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปในทะเล 33 กิโลเมตร และอีกครั้งมีความรุนแรง 7.3 ริกเตอร์
ทั้งนี้ ตำรวจวานูอาตูในกรุงพอร์ตวิลา กล่าวว่า ไม่รู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหวและยังไม่ได้รับรายงานว่าระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ ได้ไม่นาน ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะซูลูในฟิลิปปินส์ ซึ่งเพิ่งถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 22 คน.
ศูนย์เฝ้าระวังภัยประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิใน 11 ประเทศ รวมถึงวานูอาตู ปาปัวนิวกินี ฟิจิ หมู่เกาะโซโลมอน ฯลฯ แต่ต่อมายกเลิกประกาศดังกล่าว เมื่อพบว่า คลื่นไม่ก่อตัวอันตราย
แผ่นดินไหวครั้งนี้ทิ้งช่วงห่าง 10 วัน จากครั้งก่อนที่ไหวรุนแรง 8.3 ริกเตอร์ ในทะเลแปซิฟิกใต้ ใกล้เกาะซามัว ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 178 ราย และเกิดใกล้กับเหตุแผ่นดินไหวที่ฟิลิปปินส์ทางภาคใต้ช่วงเวลา 05.41 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีขนาด 6.7 ริกเตอร์ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะโจโล
ล่าสุด ยกเลิกคำเตือนสึนามิในประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แล้ว
เรียบเรียง ข่าวโดย MThai News

 

ทิศทางการเคลื่อนตัวของไต้ฝุ่น PARMA และไต้ฝุ่น Melor<SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&output=html&h=15&slotname=7657140061&w=468&lmt=1254997628&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fgeneral-news%2F59049.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&dt=1254972818500&correlator=1254972818500&frm=0&ga_vid=2038878431.1254972819&ga_sid=1254972819&ga_hid=624878416&ga_fc=0&ga_wpids=UA-1682552-2&u_tz=420&u_his=0&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=742&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=608&bih=354&fu=0&ifi=1&dtd=78&xpc=VWpOIHg8dj&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-10-07T13:40:46+0700>วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2009 เวลา 13:40:46</ABBR>, ในหมวด ข่าวต่างประเทศ, ข่าวทั่วไป และ Melor, PARMA, ไต้ฝุ่น. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.

​

หลังจากไต้ฝุ่นกิสนาที่มีความเร็วลมถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้พัดถล่มพื้นที่ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ และเวียดนามไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมาและสร้างความสูญเสียต่อทั้งชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนทั้งสองประเทศเป็นจำนวนมาก…​

หลัง จากไต้ฝุ่นกิสนาที่มีความเร็วลมถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้พัดถล่มพื้นที่ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ และเวียดนามไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมาและสร้างความสูญเสียต่อทั้งชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนทั้งสองประเทศเป็นจำนวนมากด้วยความเร็วของกระแสลมและ ปริมาตรของน้ำฝนจำนวนมหาศาลที่ตกลงมา รวมไปถึงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในหลายพื้นที่ทางตอนบนและพื้นที่แถบ ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในบริเวณที่แนวพายุกิสนาได้พัดผ่านไปแล้ว นั้น ก็ยังคงมีพายุที่พัฒนาตัวเองขึ้นจนมีความแรงในระดับไต้ฝุ่นอีกถึงสองลูกที่ มีทิศทางมายังบริเวณอ่าวตังเกี๋ยและอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยได้ หากเกิดการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวเนื่องจากกระแสลมประจำฤดูในช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายนนี้
จากการเฝ้าติดตามการก่อตัวและการพัฒนารวมไปถึงการเคลื่อนตัวของพายุ Parma และ พายุ Melor ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ พายุ Parma ซึ่งขณะนี้ลดความรุนแรงลงเป็นพายุโซนร้อนแล้วและมีความเร็วลมที่ จุดศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยมีทิศทางอยู่ในบริเวณใกล้กับเกาะไหหลำและเกาะไต้หวัน อาจจะทวีกำลังแรงขึ้นกลับเป็นพายุไต้ฝุ่น Parma ขึ้นอีกครั้งเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำทะเลในบริเวณนั้นมีความเหมาะสม (อุณหภูมิของน้ำทะเลที่จะกลายเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีของพายุไต้ฝุ่นจะอยู่ ที่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส) โดยมีจุดศูนย์กลางปกคลุมในทะเลระหว่างเกาะไต้หวันและเกาะลูซอนของประเทศฟิ ลิปินส์และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่เพียงแต่ว่าพายุไต้ฝุ่น Parma ลูกนี้จะเปลี่ยนทิศทางไปทางไหน? ตอนนี้เท่าที่ลองวิเคราะห์ภาพถ่ายทิศทางการเคลื่อนตัวของไต้ฝุ่น Parma และไต้ฝุ่น Melor จากดาวเทียมตรวจอากาศจะมี 2 ทิศทางที่อาจมีความเป็นไปได้คือ
1. พายุโซนร้อน Parma จะเคลื่อนที่ตามพายุไต้ฝุ่น Melor ที่มีกำลังแรงมากกว่าโดยพายุไต้ฝุ่น Melor จะดูดเอามวลของพายุโซนร้อน Parma และเคลื่อนที่ไปที่ประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากขณะนี้ร่องความกดอากาศสูงที่จะ เป็นตัวดันให้พายุเบี่ยงเบนทิศทางลงมาด้านล่างซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศ ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เหมือนกับไต้ฝุ่นกิสนายังคงมีกำลังไม่แรงมากนัก เนื่องจากอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ร่องความกดอากาศสูงที่จะเป็นตัวดันเอาทิศทางของไต้ฝุ่นให้เคลื่อนตัวไปทาง ทิศตะวันตกเฉียงใต้จึงยังคงมีกำลังอ่อนอยู่
2. พายุโซนร้อน Parma จะขาดจากการดูดกลืนมวลของพายุไต้ฝุ่น Melor เนื่องจากพายุไต้ฝุ่น Melor ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีการเคลื่อนตัวค่อนข้างเร็วซึ่งอาจทำให้มันอยู่ ห่างจากพายุ Parma มากเกินไปจนทำให้พายุโซนร้อน Parma ขาดจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น Melor จึงเป็นเหตุให้พายุโซนร้อน Parma เคลื่อนที่ลงมาที่ทะเลจีนใต้โดยอาจมีทิศทางที่คล้ายคลึงกับไต้ฝุ่นกิสนาก็ อาจเป็นได้ ซึ่งจากเหตุผลทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมาแล้วเหตุผลข้อที่ 2 น่าจะมีเปอร์เซ็นต์มากกว่าข้อที่ 1 แต่อย่างไรก็ตามในช่วง 2 วันนี้พายุโซนร้อน Parma จะไม่เคลื่อนที่ไปไหนโดยจะมีศูนย์กลางปกคลุมในทะเลระหว่างเกาะไหหลำ เกาะไต้หวันและเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปินส์หรือบริเวณใกล้เคียงกันนี้

​

พายุไต้ฝุ่นทั้ง 2 ลูกนี้อยู่ในบริเวณที่มีความใกล้เคียงกันทั้งสภาวะของบรรยากาศ อุณหภูมิโดยรอบของฐานพายุและระดับของอุณหภูมิน้ำทะเล แต่พายุไต้ฝุ่น Melor ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางและขนาดที่ใหญ่กว่าพายุโซนร้อน Parma จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็น Super Typhoon ( มีความเร็วลมรอบจุดศูนย์กลางตั้งแต่ 135kts ขึ้นไปหรือประมาณ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และพายุไต้ฝุ่น Melor อยู่ที่ลัดติจูดค่อนข้างสูงหรืออยู่ค่อนข้างไปทางเหนือจะมีแนวโน้มเคลื่อน ที่ไปทางทิศตะวันออกเข้าสู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะญี่ปุ่น ส่วนการที่พายุไต้ฝุ่น Melor จะมีการถ่ายเทพลังงานกันกับพายุโซนร้อน Parma นั้นก็อาจเกิดขึ้นได้ตามปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ฟูจิวาร่าเอ็กเฟ็คที่ทำให้เกิดการถ่ายเทพลังงานของพายุทั้งสองลูกนี้ ซึ่งพายุไต้ฝุ่น Melor อาจจะดึงให้พายุโซนร้อน Parma เคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศเหนือตามไปด้วย ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พายุโซนร้อน Parma ลดความเร็วลมลงจากไต้ฝุ่นระดับที่สามจนในขณะนี้กลายเป็นพายุโซนร้อนที่มี ความเร็วลมประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและแทบจะไม่เคลื่อนตัวเลยเกิดจากความกดอากาศสูงหรือมวล อากาศเย็นในบริเวณทะเลจีนใต้ทำให้ Parma ยังคงมีกำลังของลมรวมไปถึงทิศทางการเคลื่อนตัวที่ไม่แน่นอน แต่ถ้าหากว่ามวลอากาศเย็นในบริเวณที่พายุโซนร้อน Parma เคลื่อนตัวอยู่อ่อนกำลังลงก็มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจกลายสภาพกลับมาเป็น ไต้ฝุ่นที่มีกำลังไม่แตกต่างไปจากไต้ฝุ่นกิสนามากนักและอาจกลับมาส่งผลกระทบ ถึงประเทศไทยได้เช่นกัน​

การเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศรวมไปถึงการพยากรณ์และคาดการ การเคลื่อนตัวของพายุในฤดูกาลนี้มีความจำเป็นมากเนื่องจากสภาวะการณ์ที่เกิด ขึ้นจากสาเหตุของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆตามมา อีกมาก ความเร็วลมของพายุที่เกิดขึ้นทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มมาก ขึ้นและก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและพื้นที่อยู่อาศัยในบริเวณ ที่ประสบภัยพิบัตจากพายุ ลองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดชุมพรกับเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งร้าย แรงที่สุดที่ไต้ฝุ่นได้กระทำต่อพื้นที่ในบริเวณนั้นกันครับ
พายุไต้ฝุ่นเกย์ (อังกฤษ: Typhoon Gay)ถือเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดเข้าสู่ประเทศไทย(ไม่นับพายุโซนร้อนแฮ เรียตที่พัดถล่มแหลมตะลุมพุก)โดยเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นในอ่าว ไทยตอนล่างในวันที่ 1พฤศจิกายน พ.ศ. 2532จากนั้นก็เคลื่อนตัวขึ้นเหนือและมีกำลังรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนและ พายุไต้ฝุ่นตามลำดับ โดยใช้เวลาในการพัฒนาตัวเองเพียงแค่ 3 วัน วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 เวลา 08.30 น.พายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าสู่ชายหาดบริเวณภาคใต้ตอนบนด้วยความเร็วลมถึง 118กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเข้าถล่มอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ บางสะพานน้อยและอำเภอบางสะพาน ก่อนขึ้นฝั่งที่อำเภอท่าแซะ และปะทิวจังหวัดชุมพรซึ่งทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่อำเภอบางสะพานน้อย บางสะพาน ท่าแซะและ ปะทิว พายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกอย่างรวดเร็วผ่านประเทศพม่า ก่อนจะพัดออกสู่ทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดียและอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พอถึงวันที่ 6 พฤศจิกายนก็ทวีกำลังขึ้นใหม่อีกครั้งเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำทะเลในมหาสมุทร อินเดียมีความเหมาะสมโดยอยู่ที่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส แล้วพัดถล่มหมู่เกาะอันดามันและเคลื่อนขึ้นสู่ชายฝั่งของประเทศอินเดียในวัน ที่ 8 พฤศจิกายนด้วยความรุนแรงสูงสุดที่ระดับ 5 (สูงกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)และสลายตัวไปในวันที่ 10 พฤศจิกายน

​

ความเสียหายในประเทศไทย​

ความ เสียหายในจังหวัดชุมพร จากพายุไต้ฝุ่นเกย์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 446 คนบาดเจ็บ 154 คน บ้านเรือนเสียหาย 38,002 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 153,472 คน เรือล่ม 391 ลำ ถนนเสียหาย 579 เส้น สะพาน 131 แห่ง ทำนบและฝาย 49 แห่งโรงเรียนพัง 160 โรง วัด 93วัด มัสยิด 6 แห่ง พื้นที่การเกษตร 80,900,105ไร่ สัตว์เลี้ยงตาย 83,490 ตัว ประเมินความเสียหาย 11,257,265,265 บาท พายุไต้ฝุ่นเกย์ถือเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย มากที่สุดในรอบ 27 ปี นับตั้งแต่พายุโซนร้อนแฮเรียตถล่มแหลมตะลุมพุกในปีพ.ศ. 2505เป็นพายุลูกเดียวในประวัติศาสตร์ที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยในระดับไต้ฝุ่น และยังเป็นพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดขณะขึ้นฝั่งเท่าที่เคยมีมาในคาบสมุทร มลายู
การพยากรณ์และการคำนวณพายุหมุนเขตร้อนนี้โดยหน่วยงานศูนย์ร่วม การเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC)ของ สหรัฐฯ เป็นการพยากรณ์ตามระดับมาตรวัดพายุหมุนเขตร้อนของ ซัฟเฟอร์ –ซิมป์สัน (Saffir – Simpson Scale)ของสหรัฐ ตามข้อกำหนดจากต่างประเทศบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากเฮอร์ริเคนซึ่งส่วนใหญ่ ยอมรับใช้กัน พยากรณ์และคำนวณความเร็วลมที่รอบศูนย์กลางพายุที่ค่าเฉลี่ย 1นาที(1-Minute Mean) ใช้กรณีเดียวกับศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติ (NationalHurricane Center หรือ NHC) / ต่างจากประเทศไทยที่มีการพยากรณ์และคำนวณพายุหมุนเขตร้อนตามระดับมาตรวัด พายุหมุนเขตร้อนตามมาตรฐานสากล (International Standard)ตามข้อกำหนดจากต่างประเทศบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากไต้ฝุ่นซึ่ง ส่วนใหญ่ยอมรับใช้กัน พยากรณ์และคำนวณความเร็วลมที่รอบศูนย์กลางพายุที่ค่าเฉลี่ย10 นาที (10-Minute Mean) ดังนั้นข้อมูลทั้งค่าความกดอากาศ ความเร็วลม จะไม่เหมือนกัน
1)ระดับมาตรวัดพายุหมุนเขตร้อนของ ซัฟเฟอร์ –ซิมป์สัน (Saffir – Simpson Scale) พยากรณ์โดยศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น(Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC)ของสหรัฐ ฯตามข้อกำหนดจากต่างประเทศบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากเฮอร์ริเคนและส่วนใหญ่ ยอมรับใช้กัน / ค่าเฉลี่ยความเร็วลมที่รอบศูนย์กลางพายุ 1นาที

​

(1-Minute Mean)​

ระดับของซัฟเฟอร์-ซิมพ์สัน ——————— ความเร็วลมสูงสุดที่รอบศูนย์กลาง
Tropical Depression (TD); พายุดีเปรสชัน —– 25 – 33 นอต หรือ 46-61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Tropical Storm (TS); พายุโซนร้อน ———— 34-63 นอต หรือ 63-117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Typhoon (Category 1); ไต้ฝุ่นระดับ 1 ———- 64-83 หรือ 119-154 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Typhoon (Category 2); ไต้ฝุ่นระดับ 2 ———- 84-96 นอต หรือ 156-178 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Typhoon (Category 3); ไต้ฝุ่นระดับ 3 ———- 97-113 นอต หรือ 180-209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Typhoon (Category 4); ไต้ฝุ่นระดับ 4 ———- 114-135 นอต หรือ 211-250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Super Typhoon (Category 5); ซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 ———- 135 นอต หรือ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นไป
2) ระดับมาตรวัดพายุหมุนเขตร้อนประเทศไทยใช้ตามมาตรฐานสากล (INTERNATIONALSTANDARD) ตาม ข้อกำหนดจากต่างประเทศบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจาก ไต้ฝุ่นและส่วนใหญ่ยอมรับใช้กัน / ค่าเฉลี่ยความเร็วลมที่รอบศูนย์กลางพายุ 10นาที (10-Minute Mean)
ระดับ ——————————– ความเร็วลมสูงสุดที่รอบศูนย์กลาง
Tropical Depression (TD) ———>33 นอต หรือ 62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Tropical Storm (TS) ————— >34 – 47 นอต หรือ 63 – 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Severe Tropical Storm (STS) —– >48 – 63 นอต หรือ 89 – 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Typhoon (TY) ———————- >64 นอต ขึ้นไป หรือ 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ
เรียบเรียง ข่าวโดย MThai News

 

ที่ จ.อุทัยธานี ตอนเช้าหมอกลงจัด 2 วันแล้วครับ