ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ไม่เกิน 9 - 10 ปีนี้ ยังมีเวลา พัฒนาจิตของตน ศึกษาธรรม เจริญธรรม โดยใช้ปัญญา พิจารณาให้เป็น จะเห็นทุกสิ่งไปตามความเป็นจริง จิตจะฉลาดขึ้น ปัญญางอกงามขึ้น จะแยกแยะได้เอง ว่าอะไรเป็นอะไร อะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรควรวาง อะไรควรปล่อย ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ จะเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ต้องเกิดจาก การปฎิบัติ ด้วยตนเอง พบด้วยตนเองเท่านั้น พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็พบ เพราะ....... ลงมือศึกษา และปฎิบัติด้วยตนเอง ท่านจึงรู้ว่า ธรรมะ คือ อะไร ธรรมะ เป็นของที่มีอยู่มานานแล้ว คือ...ความเป็นไปตามธรรมชาติที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ไม่ว่าจะกี่แสนกี่ล้านปี

 

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6684 ข่าวสดรายวัน


หนูนาพิจิตรลด-คนตกงานแห่ล่ากิน



พิจิตร - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลานี้ชาวบ้านในจ.พิจิตรจำนวนมากออกตระเวนหาหนูนาในช่วงฤดูแล้ง ในพื้นที่นาที่ถูกทิ้งร้างเป็นที่อาศัยของหนู เพื่อเป็นอาหารและขาย วิธีในการดักจับคือใช้กับดักที่สร้างขึ้นมาเองโดยใช้ไม้ไผ่เหลาเป็นคันตรงๆ ผูกติดกับลวดเส้นเล็กๆ ดักตามเส้นทางเดินของหนู และใช้กับดักเหล็กที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้จำนวนหนูลดน้อยลงเนื่องจากผลพวงจากภัยแล้ง และมีชาวบ้านออกล่าหนูมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ว่างงานที่เดินทางกลับบ้านเกิดหันมาหาหนูนาเป็นอาหารและขายเป็นรายได้เสริม ทำให้จำนวนหนูนาลดลงอย่างรวดเร็ว

นายถนอม ชาวบ้านตำบลเมืองเก่า อ.เมือง พิจิตร กล่าวว่า ตนหาหนูเป็นหลักในช่วงหน้าแล้ง โดยอาศัยหาหนูในพื้นที่นาข้าวที่ถูกทิ้งร้าง เนื่องจากชาวนาไม่กล้าทำนาเพราะกลัวไม่มีน้ำ ซึ่งหนูชอบเพราะมีฟางข้าว ข้าวตก และต้นหญ้าขึ้นเต็ม จากเดิมหาหนูได้มาก แต่ปีนี้หนูลดจำนวนลง โดยที่วางกับดัก 30 หลัง ได้หนูตัวเดียวเท่านั้น จากที่เคยได้ 10-15 ตัว เชื่อว่าสาเหตุเนื่องมาจากภัยแล้งและมีคนหาหนูจำนวนมากเพิ่มขึ้น เพราะคนตกงานกลับมาอยู่บ้านออกหาหนูเพื่อเป็นอาหารและขาย

หน้า 30
ระวังนู๋หมดไปจากประเทศไทยนะข่าวนี้
โอบามายัวะบิ๊ก"เอไอจี"สำราญโบนัส



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 17 มี.ค. ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐแสดงอาการโกรธจัดและประณามการจ่ายโบนัสก้อนโตของคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัทประกันภัยเอไอจี ว่าไม่รู้จักใช้ความคิดและโลภมาก ในขณะที่รัฐบาลเอาเงินเข้าไปอุ้มกิจการ ผู้บริหารไม่สมควรได้รับเงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ทั้งที่สถานะทางการเงินต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล พร้อมออกคำสั่งให้รัฐมนตรีคลังหาทางยับยั้งการจ่ายโบนัสของเอไอจี และกล่าวเตือนสถาบันการเงินอื่นๆ ให้มีความรับผิดชอบและยึดมั่นในศีลธรรม

ผู้นำสหรัฐแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวแสดงอาการโกรธจัดกรณีที่มีรายงานว่าเอไอจีจ่ายโบนัสก้อนโตราว 165 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5,900 ล้านบาทให้กับคณะผู้บริหาร ทั้งที่เอไอจีขอรับความช่วยเหลือในแผนกู้สถาบันการเงินเป็นเงินถึง 180,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6 ล้านล้านบาท แต่ไม่ได้กล่าวโทษนายเอ็ดเวิร์ด ลิดดี ซีอีโอของเอไอจีที่เข้ามา บริหาร หลังจากที่มีการทำสัญญาว่าด้วยการจ่ายโบนัสไปแล้วเมื่อปลายปี

นายโอบามายังมีคำสั่งให้นายทิโมธี ไกด์เนอร์ รมว.คลัง หาทางระงับการจ่ายโบนัสหรือหากจ่ายไปแล้วก็หาทางเอากลับคืน และจะหารือกับสภาเพื่อหาทางปรับเปลี่ยนกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดกรณีอย่างนี้อีก

หน้า 7

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>พิษฝนถล่มกรุงเก่าทำสายเอเชียอุบัติเหตุอื้อ

ทัวร์กรุงเทพฯ-แม่สอดคว่ำที่บางปะหันดับ4เจ็บระนาว /รถตร.-กู้ภัยบึ่งช่วยชนกันอีก

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 มี.ค. เกิดอุบัติเหตุรถบัสปรับอากาศ ของบริษัทขนส่ง จำกัด สายกรุงเทพฯ-แม่สอด ทะเบียน 14-1189 กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนสายเอเชียช่วงหลัก กม.42 ขาขั้นนครสวรรค์ ตรงใกล้ด่านหันสังข์ ม.5 ต.หันสังข์ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถบัสคันดังกล่าวลื่นไถลเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางแบบเทกระจาด มีผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมานอกรถแขนขากระจัดกระจาย และมีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตทันที 4 ราย แยกเป็น ชาย 2 หญิงสูงวัย 1 และเยาวชนหญิงอีก 1 ศพ เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ
นายรังสรรค์ สีทอง อายุ 42 ปี บ้านเดิมเลขที่ 710/222 ม.5 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ โชเฟอร์รถบัส เปิดเผยว่า ขับรถออกจากสถานีขนส่งหมอชิตเมื่อเวลา 08.30 น. เพื่อมุ่งหน้าไปยังอ.แม่สอด โดยขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าฝนตกจึงพยายามชะลอความเร็ว ประกอบกับด้านหน้ามีรถชะลอความเร็วกะหันหันจึงต้องเบรกทำให้รถเสียหลักจนพลิกคว่ำตกข้างทาง
หลังทราบข่าวนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประสานงานพ.ต.ท.เอกภพ ตันประยูร รอง ผกก.สภ.บางปะหัน และ พ.ต.ท.สมปอง ปทุมมาศ สวป.สภ.บางปะหัน และรถกู้ชีพ รพ.พระนครศรีอยุธยา รถอุปกกรณ์ตัดถ่างและอุปกรณ์กู้ภัยจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง หน่วยกู้ภัยพุทไธศวรรย์ ต่างเร่งรีบเพื่อไปช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.บางปะหัน , รพ.มหาราช และ รพ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามระหว่างที่รถตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางปะหัน กำลังมุ่งหน้าเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ได้พุ่งชนท้ายรถของหน่วยกู้ภัยจนพลิกคว่ำตกข้างทาง เหตุเกิดที่ถนนสายเอเชีย หน้าวัดค่าย ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางปะหัน ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดยในนั้นมีอาการสาหัส 1 นาย ทราบชื่อ ด.ต.ธวัชชัย ชัยรัตน์ ผบ.หมู่งานจราจร อาการสาหัส และมีการนำส่ง รพ.บางปะหันจากนั้นนำส่งต่อ รพ.ตำรวจ ส่วนอีก 2 รายบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อ ส.ต.อ.ยุทธนา คำมั่น และ จ.ส.ต.กิตติพงษ์ กมุดรัตน์
นอกจากนี้ห่างจากจุดที่รถบัสพลิกคว่ำ เพียงแค่ 300 เมตร เป็นรถหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หมายเลขทะเบียน กฉ 438 พระนครศรีอยุธยา ที่นำพยาบาลและหน่วยกู้ชีพพร้อมอุปกรณ์มุ่งหน้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในรถบัสคันดังกล่าว ได้พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 82

 

ใกล้เวลาสิ้นสุดของ "มนุษย์ ที่มีจิตใจเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานแล้ว" อีกไม่เกิน 10 ปี โลกนี้จะสะอาดขึ้น

 

*** เตือนชาวพุทธ ****

พระพุทธเจ้า ไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว
ให้สัจจะทำ...ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
เพราะ ....ถ้าไปฝักใฝ่ฝ่ายใด ก็จะมองฝ่ายเขาผิด มองแต่ฝ่ายตัวเองดี
นิสัยทั้งหมด...จะสร้างการกระทำ ทำลายล้าง
ขอให้พิจารณา....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พี่น้องทางใต้ช่วงนี้สงบดูดีไม่มีพิษภัย พยายามส่งกระแสหมั่นแผ่เมตตาให้แก่ผู้ประสพภัยด้วยครับ แห้งแล้งก็เช่นกัน ภัยนี้ทำให้เกิดความบีบคั้นมากอย่าวางใจครับ เพราะว่พอสงบเงียบเหมือนไม่มีอะไรกลัวจะหนักหนาเหมือนสึนามิครับเร็วๆนะครับพิมพ์2รอบแล้วแต่รอบแรกอยู่ๆอินเตอร์เน็ตมันล่มเฉยเกือบจะขี้เกียจพิมพ์แล้วเหมือนเขาไม่ให้เตือนไงไม่รู้ ผมอยู่สมุยอากาศแปลกๆครับ

 

เผยเกาหลีเหนือชะลอการปลดนิวเคลียร์

​

โซล 18 มี.ค. – เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า เกาหลีเหนือชะลอกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่โรงงานผลิตพลูโตเนียม ท่ามกลางความชะงักงันของการเจรจา 6 ฝ่ายว่าด้วยการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา 6 ฝ่าย ระบุว่า เกาหลีเหนือชะลอกระบวนการรื้อถอนแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วจากโรงงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยขณะนี้เกาหลีเหนือรื้อถอนแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ออกสัปดาห์ละ 15 แท่ง จากเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีก่อนที่รื้อถอนวันละ 15 แท่ง

ภายใต้ข้อตกลง 6 ฝ่ายระบุว่า เกาหลีเหนือจะได้รับน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ล้านตัน หรือพลังงานที่เท่ากัน แลกเปลี่ยนกับการที่เกาหลีเหนือรื้อถอนโครงการนิวเคลียร์ที่โรงงานยองเบียน ซึ่งผลิตพลูโตเนียมเกรดสำหรับทำอาวุธจากแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว นักวิเคราะห์คาดว่า เกาหลีเหนืออาจเคยผลิตพลูโตเนียมมากพอจะใช้ทำระเบิดได้ 6 ลูก อย่างไรก็ดี การเจรจา 6 ฝ่ายรอบล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค.ปีก่อน ต้องหยุดชะงักลง เพราะไม่สามารถตกลงเรื่องการตรวจพิสูจน์รายงานนิวเคลียร์ที่เกาหลีเหนือเปิดเผยได้. -สำนักข่าวไทย

2009-03-18 11:02:19

สหรัฐประสบความสำเร็จในการทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธ

​

โฮโนลูลู 18 มี.ค.- กองทัพสหรัฐเปิดเผยความสำเร็จในการทดลองยิงสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยกลางในการทดลองใกล้เกาะฮาวาย

ขีปนาวุธที่เป็นเป้าหมายถูกยิงออกจากฐานยิงแบบเคลื่อนที่ได้ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะคาอุย ส่วนจรวดที่ใช้สกัดกั้นเป็นของกองพลน้อยปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 6 ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะเดียวกัน ผลการทดลองประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เทคโนโลยีนี้ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้ยิงขีปนาวุธที่กำลังโคจรระยะสุดท้ายก่อนตกกระทบเป้าหมาย.- สำนักข่าวไทย

2009-03-18 11:43:35

รัสเซียย้ำพร้อมพัฒนากองทัพ แม้เผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ

​

รัสเซีย 17 มี.ค.ผู้นำรัสเซียประกาศพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเป็นนโยบายสำคัญสูงสุด เพื่อรับมือความไม่แน่นอนในภูมิภาคและการแผ่ขยายอิทธิพลของนาโต

ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ บอกว่านโยบายสำคัญของประเทศ คือการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพให้พร้อมในการรบ โดยเฉพาะขีดความสามารถของอาวุธนิวเคลียร์ โดยทางการพร้อมทุ่มงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น และพัฒนาศักยภาพในการรบตามแผนการที่วางไว้ แม้ประเทศจะเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจก็ตาม เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ขณะที่กองกำลังนาโต้ก็ขยายอิทธิพลเข้ามายังประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของรัสเซียมาขึ้นเรื่อยๆ

โดยคาดว่ารัสเซียจะใช้งบประมาณซื้ออาวุธมหาศาลถึง 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 5 ล้านล้านบาท ไปจนถึงปีหน้า สาเหตุที่รัสเซียสามารถเพิ่มงบประมาณทางทหารได้มากขึ้น เนื่องจากประเทศมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันและก๊าซมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

2009-03-18 03:12:51

นายกฯ อังกฤษ ย้ำอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลก

​

อังกฤษ 18 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ย้ำอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลก เนื่องจากไม่ยอมให้คำตอบที่แน่ชัด เกี่ยวกับความพยายามเสริมสมรรถนะยูเรเนียม

นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ บอกว่า อิหร่านรู้ดีถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น หากยังเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์และเสริมสมรรถนะยูเรเนียมต่อไป ซึ่งจะยิ่งทำให้อิหร่านเสี่ยงที่จะเป็นภัยคุกคามต่อประชาคมโลก จากการแพร่กระจายนิวเคลียร์มากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีบราวน์ ยังเรียกร้องให้อิหร่านรับข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ที่ต้องการเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตินิวเคลียร์ เพราะหากอิหร่านไม่ทำตามข้อเสนอ ก็อาจจะถูกลงโทษด้วยการคว่ำบาตรจากประชาคมโลกที่รุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ อิหร่านยืนยันมาตลอดว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีจุดประสงค์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเท่านั้น แต่สหรัฐและชาติตะวันตกเชื่อว่า อิหร่านเดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อผลิตอาวุธนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย

2009-03-18 04:11:14

เกาหลีเหนือสั่งขับเอ็นจีโอของสหรัฐ

​

วอชิงตัน 18 มีค.- องค์กรนอกภาครัฐ หรือ เอ็นจีโอ ของสหรัฐ ระบุ เกาหลีเหนือสั่งขับหน่วยงานเอ็นจีโอของสหรัฐ ทั้งยังปฏิเสธไม่ขอรับความช่วยเหลือด้านอาหารจากสหรัฐอีกด้วย

เดิมที สมาชิก 16 คน จากหน่วยงานเอ็นจีโอ 5 แห่งของสหรัฐ สามารถพำนักอยู่ในเกาหลีเหนือได้จนถึงเดือน พ.ค.นี้ แต่ล่าสุด โฆษกของเมอร์ซี คอร์ปส์ เอ็นจีโอ แห่งหนึ่งในนี้ ระบุว่า ทางเกาหลีเหนือสั่งให้พวกเขาออกจากประเทศก่อนสิ้นเดือนนี้ โดยไม่ให้เหตุผลใดใดทั้งสิ้น ทั้งที่เกาหลีเหนือกำลังประสบภาวะทุพโภชนาอย่างรุนแรง

ภายใต้ข้อตกลงที่วางไว้เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ระบุให้สหรัฐแจกจ่ายอาหาร 500,000 ตัน ให้แก่เกาหลีเหนือ โดย 400,000 ตันในนี้ เป็นการแจกจ่ายผ่านโครงการอาหารโลกขององค์การสหประชาชาติ และส่วนที่เหลือแจกจ่ายผ่านหน่วยงานเอ็นจีโอ โดยเอ็นจีโอในสหรัฐมุ่งแจกจ่ายอาหารให้แก่กลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุดในเกาหลีเหนือ เช่น เด็กหญิงมีครรภ์ และมารดาที่ให้นมบุตร. -สำนักข่าวไทย

2009-03-18 09:33:59

เตือนเกาหลีเหนือจะเดือดร้อนหนักหากปิดเขตเศรษฐกิจ

​

เกาหลีใต้ 18 มี.ค. - เกาหลีใต้เตือนเกาหลีเหนือจะเดือดร้อนหนัก หากปิดเขตเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างเกาหลีเหนือและใต้

นายฮยอน อินเทค รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า การปิดเขตอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ ไม่ใช่ทางเลือกของเกาหลีใต้ แต่รัฐบาลเกาหลีใต้จะเดินหน้าบริหารจัดการและพัฒนาเขตอุตสาหกรรมดังกล่าวต่อไป นายอินแทคยังเตือนเกาหลีเหนือด้วยว่า การปิดเขตอุตสาหกรรมแกซองซึ่งอยู่ในดินแดนของเกาหลีเหนือนั้น จะทำให้เกาหลีเหนือได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล หากโรงงานต่าง ๆ ที่จ้างแรงงานชาวเกาหลีเหนือเกือบ 40,000 คน ต้องปิดโรงงาน

คำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ครั้งนี้มีขึ้นหลังเกาหลีเหนือยอมเปิดพรมแดนกับเกาหลีใต้อีกครั้ง หลังปิดพรมแดนมา 4 วัน เพื่อประท้วงการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐที่จะสิ้นสุดในวันศุกร์นี้. -สำนักข่าวไทย

2009-03-18 16:05:42

เอฟบีไอเปิดรับสมัครงาน 3,000 ตำแหน่ง แต่มีคนแห่สมัครเกือบ 3 แสนคน

​

วอชิงตัน 18 มี.ค.- สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ เปิดรับสมัครงานครั้งใหญ่ 3,000 ตำแหน่ง แต่มีคนเมริกันแห่มาสมัครถึง 270,000 คน เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา

เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่คนอเมริกันไม่สนใจทำงานกับเอฟบีไอ แต่จะหันไปสมัครงานตามบริษัทเอกชนที่ให้เงินเดือนดีกว่า จึงทำให้เอฟบีไอสรรหาผู้ที่เหมาะสมมาร่วมงานได้ยากมาก โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้พื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงด้านเคมีและชีววิทยา เพราะผู้ที่จบสาขานี้จะถูกบริษัทเอกชนแย่งตัวไป แต่เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอย บริษัทเอกชนล้มหายตายจากเป็นจำนวนมาก เมื่อเอฟบีไอเปิดรับสมัครงานจึงมีคนแห่มาสมัครกันอย่างคึกคัก

เอฟบีไอเปิดรับสมัครงาน 2,100 ตำแหน่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม มีทั้งตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่บัญชี ไปจนถึงช่างซ่อมรถ ทั้งยังเปิดรับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพิ่มอีก 850 ตำแหน่ง แต่ไม่น่าเชื่อที่มีผู้คนแห่มาสมัครมากกว่า 270,000 คน ในช่วงเวลาเพียง 6 สัปดาห์ ทั้งที่ตามปกติ จะมีผู้คนมาสมัครเพียง 70,000 คน เท่านั้น

ผู้ช่วยผู้อำนวยการของเอฟบีไอ บอกว่า แม้เอฟบีไอจะให้เงินเดือนน้อย แต่องค์กรก็มีความมั่นคง เอฟบีไอจะให้ค่าจ้างเริ่มต้นเฉลี่ยที่ปีละ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท แต่ผู้ที่มีประกาศนียบัตรรับรองวุฒิเพิ่มเติม หรือมีประสบการณ์มาก่อนหน้านี้ ก็จะได้ค่าจ้างสูงขึ้น. -สำนักข่าวไทย

2009-03-18 14:43:45

ปัญหาเอดส์ในวอชิงตันเลวร้ายกว่าในแอฟริกาบางประเทศ

​

วอชิงตัน 17 มี.ค. - หน่วยงานสาธารณสุขของกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐ ยืนยันว่า ปัญหาการระบาดของโรคเอดส์ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังเลวร้ายกว่าในแอฟริกาบางประเทศเสียอีก โดยพบผู้คนในวอชิงตัน ดีซี ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ติดเอดส์มากถึงร้อยละ 3

รายงานระบุว่า กลุ่มคนในวอชิงตัน ดีซี ที่ติดเชื้อเอดส์หนักสุด คือ กลุ่มชายผิวสี และประชาชนที่มีอายุระหว่าง 40-49 ปี การแพร่ระบาดของเชื้อมักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายด้วยกัน ตามมาด้วยการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง และการติดเชื้อผ่านการใช้ยาเสพติด

องค์การสหประชาชาติ และศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ กำหนดให้พื้นที่ใดที่พบผู้ติดเชื้อเอดส์เกินร้อยละ 1 ให้ถือว่าพื้นที่นั้นมีการระบาดของโรคเอดส์อย่างรุนแรง แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเอดส์ในกรุงวอชิงตัน ดีซี กลับพุ่งถึงร้อยละ 3 และถ้ามีการสำรวจอย่างละเอียด ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจมีมากกว่านี้ เพราะมีอีกหลายคนในวอชิงตัน ดีซี ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเอดส์เข้าให้แล้ว การระบาดของโรคเอดส์อย่างรุนแรง ส่งผลให้กรุงวอชิงตัน ดีซี มีอัตราผู้ติดเชื้อเอดส์มากเทียบเท่ากับประเทศยูกันดาในแอฟริกา. - สำนักข่าวไทย

2009-03-17 16:01:47

สหรัฐรับปากจะไม่แทรกแซงข้อพิพาทพรมแดนไทย-กัมพูชา

​

พนมเปญ 18 มี.ค. – สำนักข่าวเอเคพี ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า สหรัฐยืนยันจะไม่เข้าแทรกแซงข้อพิพาทพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา

นายสตีเฟน เบลก ผู้อำนวยการสำนักงานภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐไม่เคยเข้าไปแทรกแซงประเด็นพรมแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ทั้งยังยืนยันให้สองฝ่ายแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ

ข้อพิพาทพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ปีก่อน หลังทหารสองฝ่ายปะทะกันใกล้ปราสาทพระวิหาร.-สำนักข่าวไทย

2009-03-18 19:51:32

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

โอ้โห...วันนี้ (18 มีนาคม 2552 เวลา 22.09) ดูตรงหน้าห้อง วิทยาศาสตร์-เรื่องลึกลับ ปรากฎว่า มีคนกำลังดู 1126 คน ห้องพระเครื่อง 1036 คน ดูห้องย่อยประเทศไทยจะเกิดภัยจริงหรือ 106 ดูแล้วก็ดีใจที่คนไทยเริ่มให้ความสนใจเรื่องนี้มากขึ้น สนใจพุทธศาสนามากขึ้น ขออนุโมนา สาธุ กับบุคคลที่ดวงตาเห็นธรรมทั้งหลาย....ด้วยครับ

 

16 มี.ค. 52
<O</O
<O</O
ไม่ใช่สิ่งที่คิด
<O</O
<O</O
ผมเคยคิดว่าจะนำผู้คนหนีภัย เมื่อภัยมาถึงในอนาคตข้างหน้าให้ได้มากที่สุด
<O</O
<O</O
แต่บุคคลเหล่านี้ บางรายก็เจออุปสรรคในการเดินทางขณะที่ผมพาไปดูสถานที่หรือไม่นัดแล้วไม่ได้ไปก็มี บางรายก็ขาดหายการติดต่อไปเฉยๆ อีกทั้งสถานที่ๆผมจะนำคนไปก็จำกัดจำนวนคน
<O</O
<O</O
ผมได้ถามพระแถวบ้านที่รู้จักกันมาร่วม 20 ปี ท่านสามารถสื่อกับอีกมิติได้โดยตรง ท่านบอกกับผมว่า ผู้ที่ผมจะนำไปต้องมีคุณความดีมากพอที่จะอยู่พื้นที่ตรงนั้น ท่านให้ผมทำสมาธิให้มากๆ
<O</O
<O</O
ผมจึงต้องคัดเลือกคนที่จะไปด้วย ให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย
<O</O
<O</O
ปลายเดือนเมษายน บางทีผมจะขึ้นไปที่เมืองเลยอีกครั้ง เพื่อที่จะพาคนที่จะไปอยู่ด้วยดูสถานที่ อีกทั้งจะซื้อแท็งค์น้ำ 1ใบ เงินที่จะซื้อเหลือจากคราวที่ผมขึ้นไปทำรางน้ำเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 52
<O</O
<O</O
คราวที่ผมเรียนถามพระแถวบ้าน ท่านก็นั่งดูในขณะนั้น ท่านบอกว่าที่ๆผมว่า มีศาล มีโบสถ์ ผมบอกว่าไม่ใช่โบสถ์ นั่นเป็นศาลาญาติธรรม แต่มีหลังคาลดหลั่น 3 ชั้น คล้ายโบสถ์้้ ท่านยังบอกอีกว่า บนศาลามีเทวดาอยู่มากมาย ท่านบอกกับผมว่า ท่านอยากไปเที่ยววัดนี้ด้วย
<O</O
<O</O
ตามที่ผมแจ้งไปแล้วว่า วัดนี้ จำกัดจำนวนคน ผมคิดว่าถ้าเที่ยวนี้ได้ขึ้นไปและพระท่านไปด้วย ผมจะให้ท่านสื่อให้ว่าพื้นที่ใดที่ใกล้วัดปลอดภัย บางทีผมจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง เพื่อที่จะนำคนขึ้นไปให้ได้มากที่สุด <O</O
<O</O
<O</O

 

อนุโมทนา ด้วยครับ อยากไปดูสถานที่ๆ ท่านว่าจังเลยครับ เอารูปมาฝากด้วยนะครับ

 

*** ทำชีวิตตน ให้เป็นสัจจะธรรม ****

บ้านเมืองจะรอดพ้นกรรม ได้มากน้อยแค่ไหน
อยู่ที่ สัจจะ ของท่าน...ทุกคน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

"เรื่องบังเอิญไม่มีจริง"
​

​

​

"เรื่องบังเอิญไม่มีจริง" เป็นวลีที่เจออย่างน้อย 2-3 ครั้งในหนังการ์ตูนเรื่อง "กังฟูแพนด้า"

ผมบังเอิญได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้ 2 รอบ ครั้งแรกดูที่ BigC ระหว่างรอคุณพี่สาว(ซึ่งบังเอิญในอดีตเคยเป็นนางงามเก่าแก่ ประจำอำเภอชายขอบแห่งหนึ่ง)เขาไปช๊อบปิ้ง แล้วฝากลูกสาวไว้ให้ดูแล ทำให้ผมต้องใช้เวลาอยู่กับเด็กน้อยเพียงลำพัง

นาทีนั้นผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กอายุ 3 ขวบเหมือนกัน บังเอิญนึกขึ้นได้ว่าต้องหาอะไรสนุกๆ ให้เด็กไม่รู้สึกเบื่อ ก็เลยเข็นรถเข็นไปหาที่อยู่ บังเอิญผ่านร้านขายแผ่น CD แล้วบังเอิญเขาเปิดหนังเรื่องนี้อยู่พอดี ก็เลยบังเอิญได้ยืนดู เพราะชะโงกหน้าไปถามเด็กแล้วว่า จะอยากดูการ์ตูนมั๊ยครับ? เด็กไม่ตอบ แต่สายตาจ้องหน้าจอทีวีแทบไม่กระพริบ...

อ๋อ ตกลงสนใจดู

ครั้งที่ 2 ได้ดูที่ทำงาน เมื่อได้ดูหนังเรื่องเดียวถึงสองรอบในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมก็เลยได้มีเวลาเก็บรายละเอียดของตัวหนังนิดหน่อย สิ่งหนึ่งที่สดุดหูมากที่สุดก็คงจะเป็นประโยคที่นำมาเป็นชื่อเรื่องนี่แหละ

"เรื่องบังเอิญไม่มีจริง"

แพนด้าอ้วนๆ ที่ต้องขายบะหมี่กับพ่อ แต่ใจหลงใหลในวิชากังฟู ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าไปชมการต่อสู้ของ 5 นักกังฟูชั้นยอดของเมือง เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะได้ลืบทอดตำแหน่ง "นักสู้มังกร"

วินาทีที่อาจารย์เต่าได้ใช้ไม้เท้า(หรือนิ้วหว่า)ยื่นไปข้างหน้าเพื่อชี้ว่านักสู้ท่านใดที่เหมาะสมจะเป็น "นักสู้มังกร" นั้น แพนด้าก็สามารถเข้ามาถึงลานประลองได้สำเร็จ โดยการตกลงมาจากท้องฟ้า หล่นปุ๊ลงมาตรงตำแหน่งที่ไม้เท้า(หรือนิ้วหว่า)ของอาจารย์เต่าชี้พอดิบพอดี...

เสียงอื้ออึงของผู้ชมรอบลานประลอง บวกกับเสียงคัดค้านของ 5 นักสู้ ที่พยายามบอกอาจารย์เต่าว่า แพนด้าตัวนี้เพียงแค่ตกลงมาจากท้องฟ้า แล้วบังเอิญหล่นลงมาตรงที่อาจารย์ชี้เท่านั้นเอง เขาไม่ได้เป็นนักสู้มังกร

"เรื่องบังเอิญไม่มีจริง".......อาจารย์เต่าพ่นวาจาผ่านลมหายใจโรยระรินออกมาเบาๆ "แต่...."

"เขาจะเป็นใครก็ตาม แต่การที่เขาอยู่ตรงนี้ในช่วงเวลาแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" "แต่..."

"มันเป็นลิขิตจากสวรรค์..ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด"

ลิขิตสวรรค์เหรอ? ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหรอ? หรือว่าแท้จริงแล้วทั้งสองอย่างไม่ได้แตกต่างกัน? เพราะเพียงแค่เราใช้คำคนละคำ ในการสื่อความหมายเท่านั้น? เป็นคำถามที่มนุษย์เราเองต้องค้นหาคำตอบ เพราะไม่อย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ของชีวิตก็จะถูกเหมารวมไปว่า ล้วนเกิดมาจากเส้นทางชีวิต ที่ถูกลิขิตโดยสวรรค์ หากเราใช้แนวความคิดว่าเรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริง มาเป็นตัวกำหนดแนวคิด ซึ่งดูไปมันง่ายเกินไปหน่อย

แต่หากนึกดูดีๆ หลายอย่างที่เกิดขึ้นมา ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตั้งใจหรือคาดหวังไว้ตั้งแต่เกิดว่าอยากให้เกิด หรือว่าเรื่องของสวรรค์ลิขิต จะมีเรื่องของระยะเวลาเข้ามาเป็นหนึ่งตัวแปรด้วย ลองคิดกันดู..

ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เราตั้งใจทำเพื่อให้เกิดผลบางอย่างนั้น มันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเรียกว่าความบังเอิญนั้น แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..แต่มันเป็นลิขิตจากสวรรค์....

เรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริง!!!​

​

ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vorkorn&month=01-2009&date=26&group=1&gblog=53

หมายเหตุ

ที่ผมได้นำคำพูดที่ว่า "เรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริง" มาโพสต์ในกระทู้นี้ก็ด้วยเห็นว่าเป็นคำที่สอดคล้องกับคำว่า "เป็นลิขิตจากสวรรค์" ซึ่งคนเรามักจะพูดถึงกันบ่อยๆ ในเวลาที่ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และตรงกับความหมายในทางธรรมะที่ว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ด้วย

เพราะในทางธรรมะแล้วเรื่องราวทุกอย่างในโลกนี้ ถูกลิขิตให้ต้องดำเนินไปตามกฏแห่งกรรม หรือการกระทำทั้งดีและชั่ว ของคนเราที่ได้กระทำเอาไว้แล้วด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีใครจะสามารถหลีกเลี่ยงกฎแห่งกรรมนี้ไปได้ นอกจากท่านจะสามารถบำเพ็ญธรรม จนหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารนี้ไปได้เท่านั้น จึงจะสามารถอยู่เหนือกฏแห่งกรรมนี้ได้

************************************************​

​

 

เห็นชอบด้วยครับ "เรื่องบังเอิญ ไม่มีจริง" . . .

 

อย่าประมาทในการใช้ชีวิต

ท่ามกลางภัยพิบัติที่รายล้อมเราอยู่ อย่าประมาทในการใช้ชีวิตเป็นอันขาด เราต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ฟ้าดินมีกาลเวลาของฟ้า มีเกิดมีดับ กาลนี้เป็นกาลสุดท้าย กาลที่ต้องโลกต้องดับสูญ สัญญาณมากมายที่ส่งลงมาถึงโลก ในรูปของภัยพิบัติต่างๆ เป็นจดหมายเตือนจากฟ้าเบื้องบนที่ถึงเวลาที่ต้องกวาดล้างและเก็บคน ภัยพิบัติจะเก็บคนเป็นกลุ่มใหญ่ จะเก็บไปเรื่อยๆ จะเก็บในรูปแบบต่างๆที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งที่บ่งบอกให้ทุกคนได้รับรู้ถึงเวลาทำโทษคนที่ไม่ดีทั้งหลาย จงระมัดระวังตัว สิ่งที่ไม่ดีของตนให้เปลี่ยนแปลง สำนึกผิดทุกอย่างที่ได้ทำไป ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฟ้าดินกำลังจะลงโทษ ลงโทษครั้งนี้จะไม่มีโอกาสได้เกิดอีกนับแสนปี เพราะชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้าย ไม่มีชาติหน้าอีกต่อไป หนี้เวรกรรมต่างๆที่ทับถมมาทุกคนจะได้เจอชาตินี้ เป็นการคิดบัญชีกรรมครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อสิ้นลมหายใจ ร่างกายจะแตกสลายไป แต่จิตวิญญาณยังอยู่ จะต้องไปรับโทษทัณฑ์ในที่สุด

ในนรกเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ตายด้วยภัยพิบัติมากมาย วิญญาณเรียงแถวรอรับคำพิพากษาจากท่านยมทูต ไม่วายเว้น นรกปั่นป่วนด้วยวิญญาณผีมากมาย จนจะล้นนรกแล้ว เพราะคนทำบาปมากเหลือเกิน ยมฑูตทำงานหนัก คนที่มีบาปหนักต้องได้รับโทษหนักเช่นกัน ไม่เคยว่างเว้น คนไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีมากมาย เพราะนรกเป็นเรื่องที่จะไม่เปิดเผย สวรรค์เช่นกัน แม้วิทยาศาสตร์จะก้าวไกล ไปมาก แต่สัจธรรมความเป็นจริงของชีวิตไม่สามารถที่จะหลุดพ้น ไม่มีใครสามารถสร้างเครื่องมือป้องกันหรือลบล้างหนี้กรรมได้ สุดท้ายของมนุษย์ก็หลีกหนีไม่พ้น <o></o>


แท้จริงเดิมเราเป็นคนดี เราเป็นพุทธะมาจากฟ้าเบื้องบน เราลงมาเกิดบนโลกมนุษย์เพื่อพัฒนาดาวเคราะห์ ให้น่าอยู่ แต่เมื่อมาเกิดจากแต่เดิมมีจิตใจที่สวยงาม กลับลุ่มหลงในรัก โลภ โกรธ หลง พัฒนาโลก พัฒนาด้านวัตถุ จนหลงลืมจิตที่ดีงามของตน หลงลืมตนว่าเรามาจากไหน ไม่สามารถกลับฟ้าเบื้องบนยังที่ที่เรามาได้ จึงได้หลงวนเวียนบนโลก เกิดแล้วตายตายแล้วเกิดเป็นหมื่นปีพันปี บัดนี้เวียนว่ายมากว่า 60,000 ปี ยาวนานเหลือเกิน ได้สร้างบาปมากมายในแต่ละชาติ ทับถมกันมา ในชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่ทุกคนจะถูกคิดบัญชีครั้งยิ่งใหญ่ คนมากมายจึงต้องถูกพิพากษาในรูปแบบที่แตกต่างกัน ทำกรรมร่วมกันมาก็ต้องตายไปด้วยกัน กรรมของใครใครก็ต้องรับ ไม่อาจหลีกพ้น แม้ว่าคนที่ตายไปชาตินี้เป็นคนดีมาก แต่เราไม่รู้อดีตของเขาว่าเขาเคยทำอะไรมาบ้าง ส่วนคนชั่วที่ยังไม่ตายเพราะตอนนี้กำลังกินบุญเก่า บุญเก่าหมด เจ้ากรรมนายเวรก็จ้องจะทวงคืนอยู่ทุกเมื่อ เมื่อวาระกรรมมาถึง ก็ไม่อาจจะขัดขืนได้ เพราะฉะนั้นจงอย่าประมาทในการใช้ชีวิตเป็นอันขาด <o></o>


อย่าเห็นคนทำบุญไหว้พระ เป็นเพราะเขามีทุกข์ ตนเองมีสุข จะไม่แสวงหาพระ เห็นคนกินเจ อย่าว่าเป็นเพราะเขามีกรรม คนกินเจเขาต้องการตัดกรรม ไม่ต้องการเป็นหนี้ชีวิตใคร เพราะชีวิตใครใครก็รัก ไม่เบียดเบียนเลือดเนื้อเขามาหล่อเลี้ยงร่างกายเรา เป็นหนี้เขากี่ขีด กินเขาไปกี่ตัวก็ต้องได้รับผลกรรม ติดหนี้ชีวิตเขาไว้ ไม่นานเขาก็มาทวงคืน เหตุที่ชีวิตคนวุ่นวาย มีโรคภัย มีอุปสรรค เป็นเพราะเกิดจากหนี้เวรกรรมทั้งนั้น เราจะไม่ตระหนักหรือว่าวันนี้เราเบียดเบียนชีวิตเขา เขาก็มาเบียดเบียนชีวิตเรา <o></o>


อย่าได้มองทัศนคติของคนที่ทำดี ไหว้พระ ถือศีลกินเจ เป็นเรื่องที่ล้อเล่น หรือเป็นเรื่องที่ตนเองไม่สนับสนุนและยังไปค้านเขา เพราะเราประมาทในการใช้ชีวิต จึงไม่เห็นว่าการทำดี เป็นสิ่งที่ควรทำ อย่าคิดว่าเวรกรรมจะมีแต่คนแก่เท่านั้น คนหนุ่มสาวที่ร่างกายแข็งแรงก็มีกรรม และสามารถตายก่อนได้ทุกเมื่อ เพราะหนี้กรรมมีมากน้อยไม่เท่ากัน <o></o>


ชีวิตคนเราแค่ลมหายใจเข้าออก แล้วเรายังจะต้องการอะไรมากมาย ให้เพียงพอกับสิ่งต่างๆที่เรามี ในท่ามกลางกาลียุคนี้ ทุกสิ่งยิ่งไขว่คว้ายิ่งไกลออกไป สัญญาณเตือนภัยในรูปแบบเศรษฐกิจที่ให้ทุกคนได้รู้ว่า อย่าลุ่มหลงในโลก โลกจะต้องถูกเก็บในไม่ช้า จะทำอะไรก็ทำให้พอดี อยู่บนพื้นฐานของความดี และพอเพียง ต้องทำตัวติดดิน ให้มาก ให้กินง่าย อยู่ง่าย อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ต้องรู้กาลเวลา ว่าบัดนี้เป็นยุคของภัย อย่ายึดติดกับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็นอยู่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป ให้ปล่อยวาง ต้องวางมันลงให้ได้ เมื่อถึงเวลาที่ภัยใหญ่เข้ามานั้นคือวันสุดท้ายของโลก แม้แต่ชีวิตก็จะไม่เหลือ <o></o>


ให้แก้ไข สิ่งที่ไม่ดีของเราในวันนี้ ปากและใจของเราต้องสะอาด หากใช้ปากในทางไม่ดี ใช้ปากสร้างวจีกรรม ใช้ปากกินเลือดเนื้อชีวิตของผู้อื่น ใช้ปากพูดหยาบคาย พูดคำสบถ พูดในสิ่งที่ทำให้คนอื่นแตกแยก ให้เดือดร้อน ให้เจ็บใจ ให้โกรธเคือง พูดให้ร้ายธรรมะ พูดในสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เหล่านี้ ถ้าเรายังเป็นอยู่ ขอให้หยุด เวลาจะพูดอะไรออกมาต้องคิดก่อนพูด ต้องมีสติคิดถึงคนที่ฟังเรา วาจาของเราจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีใครเชื่อถือหากเรายังพูดแบบนี้อยู่ วจีกรรมเป็นกรรมทางปากที่ทำได้มากที่สุด นอกจากจะทำให้ชีวิตเราไม่เจริญรุ่งเรืองแล้ว ยังสร้างภัยพิบัติให้กับตนเองอย่างมาก เพราะคนที่วาจาที่สุภาพ ไพเราะ ใครก็อยากจะเข้าใกล้ ใครๆจะเคารพเราที่เราเป็นคนพูดจาดีน่าฟัง พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อีกทั้งใจของเราต้องสะอาด มีจิตใจที่มีคุณธรรม มโนธรรมสำนึกผิด คำพูดของเราจึงจะศักดิ์สิทธิ์ เราไม่ต้องไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเรา เพราะเราเองก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันนี้เรามีวาจาสิทธิ์ มีสัจจะ มีความจริงใจ ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเราเอง รวมทั้งสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย อย่าเข้าใกล้ อย่าทำ <o></o>


วันนี้แม้กระแสโลกจะก้าวไปเท่าใด แต่เราต้องเดินทางสวนกระแส ตามกระแสโลกเราเองยิ่งจะมีแต่ความเจ็บช้ำ ยิ่งเจริญก้าวหน้า แต่ไม่อาจหยุดยั้งความเสื่อม จิตใจมนุษย์ที่ตกต่ำจะแก้ได้อย่างไร เราต้องกลับมาที่ต้นเดิมของเรา ธรรมชาติของเราอยู่ที่ไหน คือความใสบริสุทธิ์ของจิตใจเรา หากวันนี้โดนปกคลุมไปด้วยกิเลสทั้งหลาย ต้องขจัดให้ออก ต้องแก้ไขจุดบกพร่อง ความไม่ดีต่างๆของเราให้เร็ว อย่ารอช้า ฟ้าดินให้โอกาส ตราบที่เรายังมีโอกาสได้หายใจ ให้เรารีบแปรเปลี่ยน แม้จะยากเราต้องทำ และจะแย่หากวันนี้ไม่มีกายสังขาร โอกาสที่จะได้เกิดยากแล้ว จักต้องเศร้าเสียใจไปตลอดกาล <o></o>

วัตถุต่างๆในโลกนี้เป็นของจอมปลอมทั้งนั้น บ้านที่เราอยู่ รถที่เราขับ เงินทองที่เรามี ทำให้เรามีความสุขชั่วคราว อย่าลุ่มหลงในโลกแห่งโลกีย์นี้ ไม่งั้นเราไม่อาจพาตัวให้พ้นทาง พ้นจากอำนาจหน้าที่ของพญายมทั้ง 10 ขุมได้ อีกทั้งยังต้องชำระหนี้เวรกรรมให้หมดสิ้น จะไม่เกี่ยวกรรมกับใครอีก เราจะกลับคืนเบื้องบนด้วยความใสสะอาด ด้วยความเป็นพุทธะจิตเดิมแท้ของเรา

เป็นเมล์ ของเพื่อนผมที่ส่งมาให้หนะครับ เขากินเจ มังสวิรัติ แต่เป็นศิษย์สายอาจารย์จี้กงครับ จะเห็นได้ว่า มีหลายสายที่ทยอยออกมาทำงานกันแล้ว

 

เห็นด้วยครับ จากข้อมูลข้างบนนี้

สำหรับผมเอง ใด้นิมิต มา ว่า...

ทานเจ ใด้แล้ว น่ะ ไม่ทาน มานานแล้วเนี่ย .....
ราวๆประมาณ ปลายเดือน มกราคม 2552 นี้
เรา หลาย คน มีหน้า ที่ ที่ เราใด้เคย สัญญา จากเบื้องบน มาแล้ว ว่า...

จะลงมา ทำหน้าที่ อะไร อย่าลืม หน้าที่ นั่นๆๆ

นิวรณ์ 5

กามฉันทะ ความพอใจ ใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ปฏิฆะ ความไม่พอใจ ความ พยาบาท
ถินมิทธะ ถินนะ คือ ความหดหู่ ท้อถอย , มิทธะ คือความง่วงนอน
อุทธัจจกุกกุจจะ อุทธัจจะคือความฟุ้งซ่านของจิต ,กุกกุจจะคือความรำคาญใจ
วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจ หรือไม่ปักใจเชื่อว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด

 

นานาจิตตัง กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จงมีสติทุกลมหายใจ เมื่อเกิดปัญหาจักมีทางแก้ได้เสมอ อย่าประมาทเป็นดีที่สุด

 

การประชุม World Water Forum ครั้งที่ 5
เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำในระดับโลก

การประชุม Ministerial Conference of the 5 th World Water Forum ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2552 ณ กรุงอิสตันบุล ประเทศตุรกี

ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับเชิญจาก Prof. Dr. Veysel Eroglu รัฐมนตรีว่าการกระทรวง Environment and Forestry ประเทศตุรกี การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำ Ministerial Agenda ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่ผูกมัด แต่จะเป็นการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่

โดยมีประเด็นหลัก 6 ประเด็น ดังนี้

1. การบริหารจัดการความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของโลก
2. การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ชั้นสูง และเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ
3. การบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และระบบจัดส่งน้ำสนองต่อความต้องการของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
4. การปกครองและการบริหารจัดการ
5. การเงิน
6. การพัฒนาจัดการความสามารถทางการศึกษาและความรู้


ที่มา - http://www.suwitkhunkitti.net/2009/03/05/world-water-forum/

++++++++++++++++++++++++++++++++

การประชุม World Water Forum ครั้งที่ 5
เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำในระดับโลก
​

​

โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมกว่า 10,000 คน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ

การประชุม World Water Forum ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นการประชุมเรื่องน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและจะจัดขึ้นที่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ระหว่างวันที่ 16-22 มีนาคมนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันปัญหาเกี่ยวกับน้ำทั่วโลกให้เป็นระเบียบวาระการประชุมระดับนานาชาติ การประชุมซึ่งจัดขึ้นทุก 3 ปี ถือเป็นการระดมความรู้และประสบการณ์ครั้งใหญ่เพื่อหาทางแก้ปัญหาและหาหนทางในการอนุรักษ์น้ำอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้คาดว่าจะมีองค์กรกว่า 3,000 แห่งและบุคคลกว่า 10,000 คนเข้าร่วมประชุม ซึ่งประกอบด้วยผู้นำ รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐจากหลายประเทศ ตัวแทนจากสหประชาชาติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ นักเคลื่อนไหว รวมถึงกลุ่มบุคคลอื่นที่ให้ความสนใจเข้าร่วม นอกจากนั้นสหประชาชาติจะเปิดเผยรายงานการพัฒนาน้ำระดับโลก ซึ่งมีเนื้อหาเจาะลึกเกี่ยวกับแหล่งน้ำสะอาดในการประชุมปีนี้ด้วย

ข้อมูลจากโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติระบุว่า พื้นที่กว่า 2 ใน 3 ของทั้งโลกจะต้องตกอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำภายในปี พ.ศ.2568 หากประชากรโลกยังคงบริโภคน้ำอย่างฟุ่มเฟือยเช่นในปัจจุบัน

“วัตถุประสงค์หลักของการประชุม World Water Forum ครั้งที่ 5 คือการกระตุ้นให้ทุกฝ่ายปรับปรุงการบริหารทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” ศจ.ดร.อ็อคเต ทาบาซารัน เลขาธิการการประชุม กล่าว

“การบรรลุวัตุประสงค์ดังกล่าวต้องอาศัยการสร้างจิตสำนึกให้ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเกี่ยวกับน้ำ จากนั้นจึงลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนผ่านการประชุมครั้งนี้”

สำหรับปีนี้ที่ประชุม World Water Forum ยังมีโครงการพิเศษในนาม Green Forum Initiative ซึ่งจะมีการปลูกต้นไม้ 1 ต้น สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม 1 คน นอกจากนั้น Istanbul Water Consensus ยังเชิญชวนให้ “สุดยอดเมือง” จากทั่วโลกร่วมมือกันบริหารแหล่งน้ำในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมืองเหล่านั้นได้แก่ บริสเบน ออสเตรเลีย, สตุ๊ทการ์ท เยอรมนี, เวียนนา ออสเตรีย, ปารีสและสตราสบูร์ก ฝรั่งเศส, ร็อตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์, บูเอโนสไอเรส อาร์เจนติน่า, โลซาน สวิตเซอร์แลนด์ และ อิสตันบูล ตุรกี

ทั้งนี้ ตุรกีได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีนี้เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของทวีปและภูมิภาค ซึ่งมีการผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมและอารยธรรม สมกับธีมของการประชุมที่ว่า “Bridging Divides for Water”

การประชุม World Water Forum
การประชุม World Water Forum เป็นการประชุมระดับนานาชาติเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาหนทางในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำทั่วโลก ท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.worldwaterforum5.org

ติดต่อ: ตัวแทยการประชุม World Water Forum ครั้งที่ 5
ลอเรน คามม์
โทร: 1+312-245-9805 (สหรัฐอเมริกา)
อีเมล: lauren@alpaytac.com


+++++++++++++++++++++++++++++++


ที่มา - http://www.thaibusinessnews.com/readnews.aspx?nid=46c2efb0c8ecfd3b2c74e6b459dae56c​

 

ขอเพิ่มอีกประเด็น คือ คนที่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร บางทีอาจจะซ่อนความสามารถที่เราคิดไม่ถึงไว้ก็ได้

 

<o> </o>

นิทานสีขาว - ขนุนผู้ต่ำต้อย

<o></o>​

หมู่ บ้านทองดี เป็นหมู่บ้านที่มีเศรษฐีทองคำเป็นผู้ปกครอง แม้เศรษฐีทองคำจะเป็นคนร่ำรวยแต่ก็ไม่เคยเอาเปรียบชาวบ้าน กลับใช้คุณธรรมและเงินทองของตนทำนุบำรุงหมู่บ้าน และดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้อยู่กินดีเสมอ ชาวบ้านจึงเคารพรักใคร่เศรษฐีทองคำมาก
<o></o>
เศรษฐี ทองคำมีลูกสาวแสนสวยคนหนึ่ง ชื่อว่า ดอกแก้ว ดอกแก้วเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มฐานะดีทั้งในและนอกหมู่บ้านหลายคน แต่ตัวเธอนั้นยังไม่สมัครใจรักใคร่กับชายใด ซึ่งเศรษฐีทองคำก็เห็นด้วยที่ลูกสาวไม่รีบร้อนออกเรือน เพราะหมายมั่นว่าเมื่อถึงเวลาสมควรแล้ว จะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตน รวมถึงตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ให้ตกเป็นของลูกเขยในอนาคตด้วย ดังนั้นเศรษฐีทองคำจึงอยากใช้เวลาเลือกเฟ้นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการ เป็นทั้งหัวหน้าหมูบ้าน และผู้ที่จะมาดูแลทรัพย์สินของตนเองให้เกิดประโยชน์แก่หมู่บ้านได้ในเวลา เดียวกัน<o>

</o> ดังนั้นในวันหนึ่ง เศรษฐีทองคำจึงให้คนไปป่าวประกาศทั่วหมู่บ้าน และเลยไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงว่า<o>

</o> “มีข่าวล่ามาบอกจ้า มีข่าวล่ามาบอก อีกสามวันเมื่อฟ้าสาง ท่านเศรษฐีทองคำจะทำการเลือกคู่ให้แก่คุณหนูดอกแก้วบุตรสาวคนสวยของท่าน ขอให้บุรุษทุกท่านทั้งคนมีและคนยาก แต่ยังโสดสนิท ที่สนใจเข้ารับการเลือกคู่ครั้งนี้ไปสมัครกันถ้วนหน้า หากบุรุษคนใดผ่านการคัดเลือกและได้แต่งงานกับคุณหนูดอกแก้ว เขาผู้นั้นจะได้รับทรัพย์สมบัติทั้งหมดจากท่านเศรษฐีและได้รับตำแหน่งหัว หน้าหมู่บ้านแห่งนี้ต่อจากท่านด้วยจ้า”<o>

</o> เมื่อมีประกาศนี้ออกมา พวกผู้ชายที่รู้ข่าวต่างพากันตื่นเต้นดีใจ รวมทั้งขนุน หนุ่มน้อยคนยากที่อาศัยอยู่ตรงกระต๊อบปลายนาด้วย<o>

</o> ขนุนนั้นเคยพบหน้าแม่ดอกแก้วคนสวย อยู่ครั้งหนึ่ง และเกิดหลงรักปักใจมานับแต่บัดนั้น แต่ขนุนเป็นคนเจียมตัว เขาคิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับลูกสาวของท่านเศรษฐี จึงไม่เคยพยายามสานต่อความสัมพันธ์กับนาง อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านเศรษฐีมีประกาศออกมาเช่นนี้ ขนุนก็คิดว่าเขาน่าจะไปลองสมัครดูสักหน่อย หากมีบุญวาสนาต้องกันก็คงได้ครองคู่ แต่หากต้องผิดหวังเขาก็ไม่เสียใจ และขอยินดีกับหญิงที่เขาแอบรักด้วย<o>

</o> ถึงวันเลือกคู่ ขนุนรีบไปที่บ้านของเศรษฐีทองคำแต่เช้า เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่าที่นั่นเต็มไปด้วยบุรุษมากหน้าหลายตา และทุกคนก็เหมือนจะเป็นบุรุษจากครอบครัวผู้มีฐานะดี มีชาติตระกูล ในขณะที่บางคนก็ดูทรงภูมิท่าทางมีการศึกษาสูง<o></o>

ขนุนเห็นแล้วก็รู้สึกใจแป้ว ดูเหมือนในที่นั้นจะมีเขาเพียงผู้เดียวที่ดูต่ำต้อย ไร้สกุลรุนชาติ และไม่มีการศึกษาที่สูงส่งอะไร
<o></o>
‘ช่าง ไม่เจียมตัวเอาเสียเลยขนุนเอ๋ย ดูสิ มีแต่บุรุษระดับสูงที่คู่ควรกับแม่ดอกแก้วอย่างแท้จริง แกน่าจะรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้ว ใครเขาจะมาเลือกคนอย่างแกให้ลูกสาวของเขา โธ่เอ๋ย...คนไม่เจียมตัว’ ขนุนพร่ำว่าตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสมัครเข้ามาแล้วก็ต้องอยู่ให้เสร็จสิ้นการคัดเลือก<o>

</o> เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เศรษฐีทองคำก็ออกมาป่าวประกาศว่า<o>

</o> “ทุกๆท่านโปรดฟังทางนี้...เรา... เศรษฐีทองคำ แห่งหมู่บ้านทองดี ได้แจ้งความประสงค์ถึงการรับสมัครผู้ที่จะเข้ามาเป็นบุตรเขยของเราไปแล้วว่า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากจะได้บุตรสาวแสนสวยของเราไปครอง ยังได้ทรัพย์สมบัติและต้องดำรงตำแหน่งผู้ปกครองของหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะเมื่อไม่มีเราแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไปจะต้องเข้าถึงชาวบ้านและดูแลพวกเขาได้ดีไม่แพ้เรา ดังนั้นทุกท่านจงบอกถึงความสามารถของท่านให้เราได้รู้ว่า หากท่านเข้ามาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว ท่านมีดีอันใดในตัวเอง ที่จะนำมาใช้ดูแลหมู่บ้านนี้ต่อจากข้า ขอจงบอกมาให้ข้ารู้”<o>

</o> ชายอ้วนลูกเศรษฐีหมู่บ้านใกล้เคียง ก้าวออกมาก่อนใครเพื่อน พร้อมกับกล่าวว่า<o>

</o> “ข้ามีเงินทองมากมาย ข้าจะใช้เงินทองของข้าแจกจ่ายชาวบ้านให้อยู่ดีกินดี”<o>

</o> อัศวินผู้กล้า กล่าวต่อเป็นลำดับต่อมาว่า<o>

</o> “ข้าจะปกป้องหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยคมดาบในมือข้า แม้นมีผู้ร้ายหน้าไหนเข้ามาก่อกวนความสงบ ข้าก็จะใช้ดาบของข้าบั่นคอมันทันที”<o>

</o> นายวิศวกรมือหนึ่ง กล่าวว่า<o>

</o> “ข้าจะจัดสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุด และพรั่งพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายต่างๆนานา”<o>

</o> นายแพทย์หนุ่มที่ได้รับการขนานนามว่า ‘หมอเทวดา’ กล่าวว่า<o></o>
“ข้าจะใช้ความรู้ทางการแพทย์ของข้า รักษาผู้คนที่เจ็บป่วยในเมือง ให้มีสุขภาพแข็งแรงไร้โรคภัย”<o>

</o> ผู้สมัครต่างกล่าวอ้างถึงคุณสมบัติพิเศษในตัวเองให้เศรษฐีทองคำพิจารณาทีละคนๆ จนกระทั่งมาถึงขนุนในลำดับสุดท้าย<o>

</o> “เรียนท่านเศรษฐี” ขนุนกล่าวอย่างนอบน้อม “ข้าน้อยขนุน เป็นเพียงคนต่ำต้อย ไร้เงินทอง ไร้อำนาจ และขาดการศึกษา ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดโดเด่นพอที่จะนำมากล่าวอ้างแกท่านได้ แต่ข้าน้อยกล้ายืนยันว่าตัวข้าน้อยนั้นยึดมั่นความดีเป็นที่ตั้ง และข้าน้อยจะใช้ความดีอันเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวข้าน้อยอยู่ตลอดเวลา มาดูแลความทุกข์ร้อนของชาวบ้านด้วยความเมตตาขอรับ”<o>

</o> เมื่อได้ฟังสิ่งที่ขนุนพูด หลายคนในที่นั้นต่างพากันหัวเราะเยาะ บางคนแกล้งพูดล้อเลียนให้ขนุนได้ยินว่า “ขนุนคนต่ำต้อย...ไม่รู้จักคำว่าเจียมตัวบ้างเลยหรือ”<o>

</o> ในตอนนั้นเอง มีคนรับใช้คนหนึ่งวิ่งลนลานมาบอกแก่เศรษฐีทองคำว่า<o>

</o> “เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับนายท่าน ตอนนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านของเรากำลังเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะท่อระบายน้ำเสียอุดตัน ทำให้ระบบระบายน้ำขัดข้อง ส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่วหมู่บ้านแล้วขอรับ”<o>

</o> เมื่อได้ฟังเหตุร้ายฉุกเฉินนั้น เศรษฐีทองคำจึงอาสาสมัครจากบุรุษในกลุ่มที่มาสมัครเป็นลูกเขยให้ลงไปในท่อ ระบายน้ำ เพื่อเอาสิ่งอุดตันออก แต่ในท่อระบายน้ำนั้นแสนจะเหม็นเน่าเหลือกำลัง จึงไม่มีใครกล้าเสนอตนลงไปทำงานชิ้นนี้ ต่างคนต่างบ่ายเบี่ยงและอ้างว่างานต่ำต้อยเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ตนถนัด<o>

</o> ขนุนคนต่ำต้อยรอดูท่าทีของบุรุษผู้ สูงส่งอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอาสา ตนเองจึงยกมือขึ้นแล้วบอกแก่ท่านเศรษฐีทองคำว่าจะเป็นผู้ลงไปในท่อระบายน้ำ เอง<o>

</o> “แต่ในนั้นเหม็นมากนะ เจ้าหนุ่ม” เศรษฐีทองคำกล่าวหยั่งเชิงขนุน<o>

</o> “ไม่เป็นไรหรอกขอรับ เพราะข้าน้อยนั้นเป็นลูกชาวนาคนยาก เมื่อเกิดมาก็กินอยู่กับกองดินและกองขี้วัวอยู่แล้ว งานแค่นี้ไม่ได้ทำให้ข้าน้อยรู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด ข้าน้อยเป็นคนต่ำต้อย จึงไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะทำให้ข้าน้อยคิดว่า ตนเองนั้นอยู่สูงเสียจนหยิบจับสิ่งนั้นไม่ได้”<o>

</o> ว่าแล้ว ขนุนก็ลงไปในท่อระบายน้ำแล้วเริ่มค้นหาสิ่งอุดตันที่ทำให้น้ำในท่อไม่ไหล การกระทำของขนุนครั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของเศรษฐีทองคำโดยตลอดและแม้แต่ดอก แก้ว ลูกสาวคนสวยของเศรษฐีเอง เมื่อรู้เรื่องจากสาวใช้ก็รู้สึกชื่นชมในตัวขนุนยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ลอบมองขนุนอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา<o>

</o> ขนุนใช้เวลาไม่นานก็สามารถนำสิ่งอุด ตันออกจากท่อระบายน้ำได้ และทันทีที่เขาขึ้นมากท่อระบายน้ำ ดอกแก้วก็นำพวงมาลัยคล้องคอให้อย่างเขินอาย<o>

</o> “อะ...อะไรกันนี่ แม่ดอกแก้ว” ขนุนตกใจจนพูดติดๆ ขัดๆ “นางคล้องมาลัยผิดคนแล้วล่ะ เพราะข้าไม่ใช่คนที่ท่านเศรษฐีเลือกหรอก”<o>

</o> “ถ้าท่านคือขนุนคนต่ำต้อย ก็เห็นทีว่าคงถูกคนแล้ว เพราะท่านพ่อและแม้แต่ตัวข้าเองก็เห็นว่าท่านสมควรถูกเลือกมากกว่าใครๆ” ดอกแก้วบอกขนุน<o>

</o> ใช่แล้ว” เศรษฐีทองคำพูดขึ้นบ้าง “แม้เจ้าจะเป็นขนุนคนต่ำต้อย แต่การกระทำของเจ้าได้พิสูจน์ให้ข้าเห็นแล้วว่า แท้จริงเจ้านั้นสูงส่งยิ่งกว่าคนร่ำรวย นักรบ หรือแม้แต่ผู้มีการศึกษาดีแต่ไม่สามารถช่วยหมู่บ้านนี้ได้ยามมีภัยเดือดร้อน แท้จริงแล้ว ข้ารู้สึกสรรเสริญในความต่ำต้อยของเจ้าด้วยซ้ำไป เพราะความต่ำต้อยนี้เองทำให้เจ้าไม่เกี่ยงงานหนักดังคนที่คนคิดว่าตนเองสูง ส่ง ทำให้ชาวบ้านรอดพ้นจากความยากลำบาก ดังนั้น เจ้าจึงเหมาะที่จะเป็นลูกเขยข้า และเป็นผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้ สืบต่อไป”<o>

</o> สิ้นเสียงประกาศของเศรษฐีทองคำ ชาวบ้านทุกคนก็พากันโห่ร้องแสดงความยินดีต้อนรับว่าที่หัวหน้าหมู่บ้านคน ใหม่ เพราะซึ้งน้ำใจขนุนคนต่ำต้อย ผู้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ไม่รังเกียจงานต่ำต้อย จนช่วยให้ชาวบ้านรอดพ้นความเดือดร้อนในครั้งนี้ <o>

</o>

เธอทั้งหลาย...<o></o>​

แม้ เธอจักเป็นคนต่ำต้อยในสายตาของใครๆ แต่จงอย่าทำตัวเองให้ต้อยต่ำตามความคิดของเขา เพราะแม้เธอจะเป็นคนต่ำต้อย แต่เธอมิใช่คนไร้คุณค่า ซึ่งคุณค่าในตัวเธอนั้น จะปรากฏชัดเมื่อเธอกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน จากนั้นคนอื่นๆก็จะประจักษ์ชัดเองว่า แท้จริงแล้วเธอคือคนที่น่าสรรเสริญ มิใช่คนต่ำต้อยอย่างที่เขาเข้าใจในตอนแรก<o>

</o> หรือแม้แต่เธอทั้งหลายถูกยกย่องว่า เป็นผู้สูงส่ง ก็จงอย่ารังเกียจงานที่ต่ำต้อย ถ้างานนั้นจะสร้างประโยชน์ให้แก่คนหมู่มาก จงคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ แล้วเธอจะเป็นคนที่สูงส่งได้อย่างแท้จริง<o></o>

<o></o>
ที่มา หนังสือนิทานสีขาว<o></o><o></o>
โดย ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Credit To : http://laddawan621.multiply.com/journal/item/22<o></o>

 

ข่าวสารจากจิตจักรวาล
รายงานโดย แม่นายมล<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1978752", true); </SCRIPT> สมาชิก​

อ.ปริญญา ตันสกุล​

จากเรื่อง "ทุกข์ภัยใครกำหนด"
โดย อ.ปริญญา ตันสกุล
ในวันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ.2552
ณ โรงแรมดิแทรเวลเลอร์​

ข่าวสารด้านวิกฤตโลก
ในแผนการชำระโลกระหว่าง
1-01-2009 จนถึง 21-12-2012​

*****************
วิกฤตโลกปี 2009-2010
*****************
วิกฤตภัยด้านการเมือง-สังคม​

1. เกิดความแตกแยก-ศึกสงครามในชนชาติเดียวกัน
(อันนี้พูดถึงทั้งโลก เช่น ปาเลสไตน์กับอิสราเอล, อิรัคกับอิหร่าน
รัสเซียกับจอร์เจีย, อินเดียกับปากีฯ ..จะรุนแรง จะเกิดอุบัติเหตุด้าน
นิวเคลียร์ และเวลาเกิดก็จะเกิดในเอเซียซะด้วย)​

ขอเพิ่มเติมจากข้อ 1 จะเกิดอุบัติเหตุด้าน
นิวเคลียร์ แต่ไม่ใช่ในปี 2009-2010 นะ

2. เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผู้นำและการปกครอง
( ทั่วโลก เช่น ไทยเราเปลี่ยนไป 3 คนแล้ว )

3. เป็นแห่งการก่อการร้าย สวัสดิภาพในชีวิตตกต่ำอย่างน่าใจหาย
( โจรภัยเยอะ เน้นว่าทั่วโลกนะ )

4. คุณธรรมของผู้นำ และผู้คนจะเสื่อมลงอย่างรุนแรง อย่างเห็นได้ชัด

5. คนดีจะเลี่ยงหาย คนชั่วร้ายจะครองเมือง
( คนดีไม่ถูกเก็บ ก็เก็บตัวเอง )

=================
วิกฤตภัยด้านเศรษฐกิจ
=================

1. วิกฤตหนักด้านการเงิน การคลัง การธนาคาร
( ผลจาก แฮมเบอร์เกอร์ไครซีส จากประเทศยักษ์ใหญ่
มีบางธนาคาร คนแห่ไปถอนเงินจนเจ็งเลย )

2. โรงงานอุตส่าหากรรมเจ็ง คนตกงานเพียบ
( เป็นล้าน ทั่วโลก คนที่ไม่รู้จักพอเพียง เดือดร้อนมั๊ย คิดเอาเอง )

3. ค่าครองชีพสูง รายได้สวนทางกัน ต้องแบ่งปันอาหารกัน
( แบ่งปันอาหารกันไม่ใช่ไม่มีตังซื้ออย่างเดียว เป็นเพราะไม่มีอาหาร ขาดแคลนอาหาร )

4. จะมีการสไตร้ค์ ก่อหวอด หยุดงาน ก่อจลาจล

5. คนเครียด คนบ้า คนฆ่าตัวตาย และถูกฆ่าตายจะมีสูงขึ้น

=================
วิกฤตภัยด้านสาธารณะสุข
=================

1. โลกจะเกิดโรคระบาดรุนแรงในคน หลายประเทศ

2. โลกจะเกิดภาวะขาดแคลนอาหารบริโภค อย่างชัดเจนขึ้น

3. โลกจะเกิดภาวะขาดแคลนเครื่องอุปโภค

4. ไข้หวัดนกจะกลายพันธ์ุสำเร็จ แล้วเด็ดชีวิตมนุษย์
( ไข้หวัดนก บอกว่ามันสำเร็จแล้ว มันจะสามารถติดต่อ
จากคนสู่คนได้แล้ว )

5. อหิวาตกโรค ไข้เลือดออก โรคเก่าๆ จะกลับมาใหม่และร้ายแรงกว่าเดิม

=================
วิกฤตภัยจากธรรมชาติ-อุบัติภัย
=================

1. เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และโหดไม่น้อยกว่าที่ผ่านมา ( เอาชีวิตคนเยอะมาก )

2. เกิดเหตุเครื่องบินตก เรือล่ม รถยนต์ ตายหมู่ถี่มากขึ้น

3. เกิดอุทกภัยหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ พายุร้ายถล่ม ( โดยเฉพาะไทย พายุร้ายจะพัดถล่ม )

4. เกิดน้ำท่วมหนักในกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยท่วมมาก่อน ไม่ว่าในรอบกี่ปี และเกิดอัคคีภัยรุนแรงในหน้าแล้ง

5. เกิดหิมะตกในเขตร้อน อากาศหนาวมาขึ้น ( ที่ไม่เคยหนาวก็จะหนาวมาขึ้น ไม้เว้นแม้แต่ประเทศใด )

******************
วิกฤตโลกปี 2011-2012
******************
ยังไม่ขอเปิดเผย

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=66981&page=30
<!-- / message -->