ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เพราะขาดผู้เข้าไปศึกษา
จึงกลายเป็นกรรมที่ไม่ยอมรับสัจจะ แก่นสารในศาสนา
บอกถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่มีใครสนใจ ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

หมาหอน จิ้งจกทัก ปลาวาฬเกยตื้น คนคิด

 

คงใกล้แล้วล่ะ คุณเกษม

 

ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณเกษมตามความเห็น#๑๓๖๖๕ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตัวเฉพาะบุคคล แต่หากอยู่ในขอบข่ายตามพระไตรปิฎกก็จะเป็นเรื่องที่เข้าใจตรงกันได้เนื่องจากมีสั่งสอนมานาน แต่แนวทางที่คุณหนุมานฯนำเสนอก็น่ารับฟัง และรับมาพิจารณา แต่การอ้างอิงตัวบุคคลมากไปก็อาจทำให้เป็นบุคลาธิษฐานมากไป โดยส่วนตัวผมจะนับถือหรือศรัทธาพระ หรือบุคคลใด ผมพิจารณาจาก วัตรปฏิบัติ กายกรรมการแสดงออกอย่างสำรวมทางกาย วจีกรรมการแสดงความคิดผ่านการพูด และมโนของผมในการคิดพิจารณาว่าเป็นไปตามคำสอนในพระไตรปิฎก และเป็นเหตุเป็นผลหรือไม่ครับ

 

*** ขอขมา ****

ข้าพเจ้าขอขมาทุกท่าน
ที่ได้นำความจริงมาเปิดเผย เพราะเห็นว่าบ้านเมืองชาติกำลังลำบาก
เราชาวพุทธทุกคนได้ปฏิบัติร่วมกันมา ควรที่จะได้มีโอกาสรับรู้ความจริงในศาสนา
ถ้าสิ่งที่นำเสนอไปรบกวนท่าน ข้าพเจ้าจึงขอขมาต่อท่านไว้ ณ ที่นี้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันพุธที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑

 

ต่างชาติมองสถานการณ์ในไทยยังเสี่ยงตึงเครียด ​

​

สิงคโปร์3ธ.ค.-สำนักข่าวรอยเตอร์สตีพิมพ์บทความมองสถานการณ์ในไทยยังเสี่ยงตึงเครียด แม้ว่าเหตุชุมนุมปิดล้อมสนามบินยุติแล้วก็ตาม เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในการยุติศึกแย่งชิงอำนาจระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับกลุ่มที่ยังภักดีต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันจะสลายการชุมนุมและยกเลิกการปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิรวมถึงสนามบินดอนเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้ยุบพรรคพลังประชาชน แต่เป็นที่คาดหมายกันมานานแล้วว่า แม้พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ แต่ก็มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ไว้รองรับ ส.ส.จากพรรคพลังประชาชนไว้แล้ว ดังนั้น การต่อสู้กันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองน่าจะยังดำเนินต่อไป

นายคริส แม็คคี ผู้อำนวยการกลุ่ม International Country Risk Guide ในสหรัฐ มองสถานการณ์ในไทยขณะนี้ว่า แม้กลุ่มพันธมิตรฯ จะประกาศตัวว่า เป็นฝ่ายชนะ แต่ความขัดแย้งภายในประเทศยังคงหยั่งรากลึกยากจะเยียวยา ท้ายสุดแล้ว ปัญหาที่ไทยยังแก้ไขไม่สำเร็จ ก็คือ ความขัดแย้งทางสังคม ระหว่างกลุ่มคนที่หนุนฝ่ายพันธมิตรฯ และกลุ่มคนที่เป็นฐานเสียงสำคัญของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ด้านนายเดวิด เคียว นักวิเคราะห์จากยูเรเซีย กรุ๊ปก็มองว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะส่งผลให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยกเลิกการชุมนุมประท้วงและการปิดล้อมสนามบิน แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคม และอาจทำให้ไทยเป็นประเทศที่ไร้เสถียรภาพในระยะยาว

Worldwide Governance Indicators ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารโลก ยังให้คะแนนความมั่นคงทางการเมืองในไทย อยู่ที่ 16.8 เท่านั้น เมื่อปีที่แล้ว ทั้งที่เมื่อ 5 ปีก่อน ไทยเคยได้คะแนนส่วนนี้ถึง 44.7 จากคะแนนเต็ม 100 -สำนักข่าวไทย

2008-12-03 14:13:34

สิงคโปร์ยังอยากให้ประชาชนเลื่อนการเดินทางเยือนกรุงเทพฯ ออกไปก่อน ​

​

สิงคโปร์3ธ.ค.-กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ยังคงออกแถลงการณ์เตือนชาวสิงคโปร์ที่ไม่ติดภารกิจเร่งด่วน ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเยือน กรุงเทพฯ ช่วงนี้ แม้ว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยอมสลายการชุมนุมในสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิแล้วก็ตาม

แม้วิกฤติการเมืองในไทยมีแนวโน้มคลี่คลายลงแล้ว แต่กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ยังไม่วางใจ และบอกว่า จะคอยจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และในขณะเดียวกัน ก็ได้ส่งเที่ยวบินฉุกเฉินเดินทางไปรับคนสิงคโปร์ที่ยังตกค้างออกจากประเทศไทย

กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ยืนยัน ส่งเครื่องบินไปรับชาวสิงคโปร์ออกจากประเทศไทยได้แล้ว 490 คน ทั้งจากสนามบินอู่ตะเภา รวมถึงสนามบินในภูเก็ตและที่เชียงใหม่ ยังคงเหลือชาวสิงคโปร์อีกประมาณ 120 คน ที่ยังติดค้างอยู่ในกรุงเทพฯ. -สำนักข่าวไทย

2008-12-03 13:15:58

อิหร่านระบุสหรัฐเป็นศัตรูสำคัญ​

​

เตหะราน 3 ธ.ค.- อิหร่านประกาศว่าสหรัฐเป็น "ศัตรูสำคัญ" ของอิหร่าน และพยายามอย่างมากที่จะ "รบกวน" อิหร่านมาโดยตลอด

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างคำแถลงของอยาตอลเลาะห์ อัคบาร์ ฮาเชมิ ราฟซันจานี ประธานสภาเฉพาะกาลของอิหร่านวานนี้ว่า ถึงแม้สหรัฐจะพยายาม "รบกวน" อิหร่านแต่นโยบายของสหรัฐต่ออิหร่านก็ล้มเหลวมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม อยาตอลเลาะห์ราฟซันจานีระบุว่า ชาวอิหร่านทุกคนและทุกกลุ่มจำเป็นต้องสามัคคีปรองดองกันเพื่อรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่

คำแถลงดังกล่าวของอยาตอลเลาะห์ราฟซานจานี มีขึ้นในโอกาสเฉลิมฉลอง 30 ปี ของการก่อตั้งรัฐสภาอิสลามของอิหร่าน (มาจิลิส) ภายหลังการปฏิวัติสาธารณรัฐอิสลามในอิหร่านเมื่อปี 2521

ทั้งนี้ สหรัฐประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2523 หลังจากกลุ่มนักศึกษาอิหร่านที่ได้รับการสนับสนุนจากอยาตอลเลาะห์โคไมนี บุกยึดสถานทูตสหรัฐประจำอิหร่านเมื่อปี 2522 และควบคุมตัวนักการทูตชาวอเมริกันราว 60 คนไว้เป็นตัวประกันถึง 444 วัน ก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว สหรัฐเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของอิหร่านในยุคที่อดีตกษัตริย์ชาห์ทรงปกครองอิหร่าน.- สำนักข่าวไทย

2008-12-03 13:28:03

ข่าวภายในประเทศ​

พระราชทานถุงยังชีพช่วยน้ำท่วมสงขลา​

​

สงขลา 3 ธ.ค.- มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำถุงยังชีพพระราชทานช่วยราษฎรพื้นที่น้ำท่วม จ.สงขลา โดยเฉพาะ อ.รัตภูมิ จมน้ำทั้งหมด 5 ตำบล ด้านจังหวัดประเมินเสียหาย 13 อำเภอ 75 ล้านบาท ล่าสุดปักธงแดงเตือนแล้ว 6 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา เตรียมรับมือ

นายนเรศ จิตสุจริตวงศ์ รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 1,630 ชุด ช่วยเหลือราษฎร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนักมาแล้ว 2 วัน ใน 5 ตำบล คือ ต.เขาพระ ต.กำแพงเพชร ต.ท่าชะมวง ต.คูหาใต้ และ ต.ควนรู ราษฎรเดือดร้อน 31,057 คน เสียชีวิต 1 คน สิ่งสาธารณประโยชน์ สะพาน เสียหาย 27 แห่ง ถนนเสียหาย 156 สาย แม้อำเภอเร่งช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ

ด้านศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่มจังหวัดสงขลา สรุปพื้นที่ประสบภัย 13 อำเภอ 87 ตำบล 552 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 196,075 คน บ้านเรือน 2,429 หลัง โรงเรียน 36 แห่ง พื้นที่การเกษตร 69,127 ไร่ สาธารณูปโภคทั้งถนน สะพานและท่อระบายน้ำ ประเมินความเสียหาย 75 ล้านบาท

นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา กล่าวว่า แม้พื้นที่ส่วนใหญ่เริ่มคลี่คลายน้ำท่วม รวมถึง อ.หาดใหญ่ ที่คืนสู่ปกติแล้ว แต่ 6 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา คือ ควนเนียง บางกล่ำ สิงหนคร กระแสสินธุ์ สทิงพระ และระโนด ขอให้ประชาชนเตรียมขนย้ายสัมภาระขึ้นบนที่สูงไว้ล่วงหน้า เพราะมีน้ำไหลจาก อ.หาดใหญ่ และ จ.พัทลุง ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุน ทำให้ทะเลสาบสงขลาสูงกว่าจุดวิกฤติ เจ้าหน้าที่กรมชลประทานปักธงแดงเป็นสัญลักษณ์เตือนภัยริมทะเลสาบสงขลาบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคูขุด อ.สทิงพระ.-สำนักข่าวไทย

2008-12-03 13:46:40

ยะลา-นราฯ ฝนหยุดตกเร่งมือช่วยราษฎรน้ำท่วม​

​

ยะลา,นราธิวาส 3 ธ.ค.- หน่วยเฉพาะนาวิกโยธินภาคใต้ห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วมนราธิวาสบินตรวจพื้นที่หาจุดบอดที่ยังเข้าไม่ถึง เผยราษฎรเดือดร้อน 13 อำเภอ กว่า 60,000 คน ส่วนยะลาน้ำเริ่มลด-ทยอยเปิดเรียน เตรียมงบให้ 3 อำเภอ เร่งช่วยราษฎร

นาวาเอกนิเวช บุตรศรี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยนาวิกโยธินกองทัพเรือ นำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่นราธิวาส หลังฝนหยุดตกแล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง เพราะอาจมีบางหมู่บ้านที่เรือท้องแบนไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว และพบว่าประตูระบายน้ำบางนราตอนบน อ.เมือง และประตูระบายน้ำตอนล่าง อ.ตากใบ ไม่มีปัญหายังมั่นคงแข็งแรงดี สามารถรองรับการระบายน้ำไหลลงสู่ทะเลได้ ซึ่งพื้นที่มีราษฎรเดือดร้อนมากที่สุดคือ อำเภอสุไหงโก-ลก รองลงมาคือ อำเภอแว้ง ระแงะ และยี่งอ

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส รายงานว่า ล่าสุด (3 ธ.ค.) ระดับน้ำท่วม 13 อำเภอ ยังคงทรงตัวสูงกว่า 1 เมตร ราษฎรเดือดร้อนเพิ่มเป็น 64,647 คน 15,740 ครัวเรือน 433 หมู่บ้าน 67 ตำบล ถนนเสียหาย 198 สาย คอสะพาน 33 แห่ง พื้นที่การเกษตร 37,713 ไร่ และที่ อ.ระแงะ มีผู้ถูกน้ำพัดเสียชีวิต 1 ราย ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ นอกจากนี้ โรงเรียน 26 แห่ง ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง รือเสาะ ตากใบ สุไหงปาดี และระแงะ ยังไม่มีกำหนดเปิดเรียนจากน้ำท่วมสูง

นายเวโรจน์ สายทองแท้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วม 3 อำเภอ เริ่มคลี่คลาย หลังฝนหยุดตก แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อ เพราะอาจมีพายุพัดเข้ามายังฝั่งอ่าวไทยอีกระลอกช่วง 3-4 วัน ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนน้ำท่วม 3 อำเภอ มี 14 ตำบล 47 หมู่บ้าน คือ อ.เมือง รามัน และธารโต ซึ่งจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว ราษฎรเดือดร้อน 2,926 ครัวเรือน 12,235 คน ถนนเสียหาย 20 สาย มูลค่า 5 ล้านบาท โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เตรียมอนุมัติงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อให้อำเภอละ 1 ล้านบาท เร่งช่วยเหลือในเบื้องต้น

ส่วนโรงเรียนที่ อ.รามัน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ยะลา เขต 1 น้ำท่วมลดลงเป็นปกติแล้ว สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติหลายแห่ง เหลือเพียง 10 โรงเรียน ยังมีน้ำท่วมขัง ส่วนโรงเรียนบ้านตาสา อ.เมือง เปิดเรียนแล้วเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

2008-12-03 13:16:28

เชียงใหม่ประสบภัยหนาวทั้งจังหวัด-5 ธ.ค.เย็นลงอีก​

​

เชียงใหม่ 3 ธ.ค.- ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ประกาศให้ทั้ง 24 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบพิบัติภัยหนาวหลังอุณหภูมิลดต่ำกว่า 15 องศาฯ มา 3 วัน ราษฎรขาดเครื่องกันหนาวหลายแสนคน ด้านศูนย์อุตุฯ คาด 5 ธ.ค.จะเย็นจัดอีก

นายประจญ ปรัชญ์สกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ในตอนบน ทำให้อากาศหนาวจัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินทั้งจังหวัด 24 อำเภอ หลังจากอุณภูมิพื้นราบเหลือไม่ถึง 12 องศาเซลเซียส ติดต่อกันมา 3 วัน และเตรียมช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ ขณะนี้มีผู้ต้องการเครื่องกันหนาวเกือบ 300,000 ชิ้น ก่อนหน้านี้ช่วยเหลือไปแล้วกว่าแสนชิ้น สำหรับสภาพอากาศเช้าวันนี้ (3 ธ.ค.) อุณหภูมิบริเวณสถานีตรวจวัดอากาศที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่อุ่นขึ้นเล็กน้อยวัดได้ 12.5 องศาเซลเซียส ต่ำสุดที่โครงการหลวงดอยอ่างขาง 2.5 องศาเซลเซียส มีน้ำค้างแข็ง

อย่างไรก็ดี ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือพยากรณ์ว่า วันที่ 5 ธันวาคม ความกดอากาศระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนืออีกครั้ง ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงอีก 2

 

เรื่องพระนามของผู้บำเพ็ญนี้ เมื่อบำเพ็ญบารมีถึงที่สุดแล้ว เต็มในกายนั้นแล้ว
จะได้รับพระนามจากเบื้องบนโดยอัตโนมัติตามธรรมชาติ เช่น มนุษย์บางท่าน
ทำหน้าที่เดียวกับองค์สยามเทวธิราช ท่านนั้นได้พระนามว่า "สยามปฏิโสธร"
มีกายทิพย์เมื่อรวมบารมีแล้วเป็นเหมือนองค์สยามแต่เป็นกายเพชร


สำหรับข้าพเจ้าได้รับการสอนจากพระปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่า "สังฆโต"
ตอนนี้ท่านนิพพานไปแล้ว ข้าพเจ้าก็คือ ศิษย์ เพียง 1 ใน 4 ของท่านที่ได้
รับการถ่ายทอดใกล้ชิดที่สุด และจะทำหน้าที่สานกิจโปรดสรรพสัตว์ดั่งเช่น
ท่านขงจื้อ ซึ่งนำธรรมะของพระปัจเจกพุทธเจ้าเล่าจื้อ มาปรับตามยุคสมัย
เหมาะกับมนุษย์ยุคคนเลวครองโลก อายุขัยต่ำกว่าร้อยปี


ซึ่งได้รับกิจมาช่วย 4 ศาสนาด้วยกัน

 

วิธีสื่อถามพระนามกายทิพย์ตัวเอง


เพ่งด้วยตาทิพย์แล้วกำหนดจิต (เสียงทิพย์) ถามว่านามท่านคืออะไร
ท่านบารมีเต็มในกายทิพย์นี้แล้วหรือยัง? กายทิพย์ท่านเรียกว่าอะไร?


เช่น องค์พลรัตน์กัสสปะ อาจมีกายทิพย์เป็นโพธิสัตว์ "มัญชูศรี"
บารมีเต็มส่วนกายมัญชูศรีแล้ว ได้พระนามว่า "องค์พลรัตน์กัสสปะ"
หากจะบำเพ็ญเพียรต่อแบบโพธิสัตว์อื่นๆ เช่น องค์กษิติครรภ์, เมตตรัย
ก็สามารถทำได้ กายทิพย์จะเปลี่ยนไปทันทีที่บารมีถึง แล้วจะสามารถ
นิรมาณกายเป็นมัญชูศรีพลรัตน์กัสสปะ หรือกายอื่นๆ ที่บำเพ็ญได้ก็ได้


การบำเพ็ญบารมีกายแบบโพธิสัตว์แบบต่างๆ นี้ อุปมาเหมือนคนที่แต่งกาย
เป็น ทหาร, ตำรวจ, หมอ ฯลฯ นั่นเอง ยิ่งทำหน้าที่มาก ก็ได้นิรมาณกายมาก

 

อนึ่ง โพธิสัตว์บารมีมาก สามารถตรัสรู้เป็นพระปัจเจกได้ไม่ยาก


กรณีแม่ชีเมี้ยน ปานจันทร์ ก็สามารถตรัสรู้เองได้ แต่ท่านไม่ได้
สร้างลัทธิ หรือศาสนาใดๆ จัดเข้าเป็น "พระปัจเจกพุทธเจ้า" ครับ


ไม่ใช่ "สัมมาสัมพุทธเจ้า"
ซึ่งก็น่าจะวิธีเดียวกับพระอาจารย์ของผม

 

การบำเพ็ญพันกร พันเศียร


เป็นการบำเพ็ญบารมีของโพธิสัตว์ที่มีบารมีมาก
จนได้กรครบ 1 พันกร ก็เรียกว่าเต็มบารมีส่วนกร
จากนั้น จะบำเพ็ญ "พันหน้า" ต่อไปอีก โดยการ
ทำตัวเป็นคนประเภทต่างๆ เข้าไปโปรดสัตวืแต่
ละกลุ่ม


เมื่อขอให้โพธิสัตว์องค์นั้นแสดงให้ดู จะเห็นท่านมีหลายเศียร
คล้ายทศกัณฐ์ แต่ไม่ใช่ทศกัณฐ์ อันเป็นผลจากการบำเพ็ญบารมีครับ


ดังนั้น หากใครจะปลอมตัวมาใช้หลายชื่อ
ขอให้ทราบด้วยว่า "นี่เป็นการบำเพ็ญของเขา"
เปิดทางให้เขาบำเพ็ญด้วยครับ

 

อิมินา สักกาเรนะ พุทธังอภิปูชยามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมังอภิปูชยามิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆังสะระนัง คัจฉา
ยานีธะภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิวา ยานิวะ อันตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง พุทธัง นมัสสามะสุวัตถิโหตุ<O</O
ยานิธะภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิวา ยานิวะ อันตะลิกเข ตะถาคะตังเท วะมะนุสสะปูชิตัง ธัมมัง นมัสสานะสุวัตถิโหตุ<O</O
ยานียะภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิวา ยานิวะ อันตะลิกเข ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆัง นมัสสามะสุวัติภิโหตุ
<O
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการบูชาคุณธรรม แห่งท่านทั้งปวง ตั้งแต่คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน เทพเทวาทุกภพภูมิ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ท่านอริยะเทพ ท้าว มหาพรหม พระอินทร์ทราธิราช ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรมทั้งปวง ผู้เป็นหน่อเนื้อพุทธกูลของพระพุทธเจ้า คุณของพระมหากษัตริย์ชายหญิงทุกพระองค์ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มนุษย์ชายหญิง ภูตวิญญาณ สัตว์น้ำ สัตว์บก แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ แม่พระพาย สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกที่มีคุณต่อข้าพเจ้า ในประการทั้งปวง ท่านอยู่ ณ สถานที่ใด ณ สถานที่นั่น ประเสริฐแล้วตั้งแต่เบื้องต่ำ เบื้องกลาง เบื้องสูงสุด แต่สิ่งประเสริฐยิ่งนั้นคือ คุณพระรัตนตรัย
<O
ข้าพเจ้าขอนอบน้อม อัญเชิญท่านทั้งปวง พร้อมข้าพเจ้านมัสการ บูชาตอบแทนคุณธรรมแห่งท่านทั้งปวง เพื่อความเป็นสิริมงคล สามัคคีธรรม เพื่อเกิดสติปัญญา มีความเข้าใจในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความพ้นทุกข์ด้วยกันทุกมวลท่าน ทุกมวลวิญญาณ ทุกมวลสัตว์ เทอญ<O</O

 

ผมว่าเราตั้งกระทู้เปิด เราก็ควรเปิดใจรับความคิดเห็นของคนอื่นด้วย ไม่ควรเอาความรู้สึกของตนเองเป็นที่ตั้ง เวลา คุณเกษม เอาข้อมูลหลายๆๆอย่างมาลงเพื่อให้ความรู้ท่านอื่น ทุกท่านยังเปิดใจรับเลย จริงหรือไม่จริงถูกหรือผิดอยู่ที่ใจเรา

 

รึท่านว่าจะให้ผู้ใหญ่มาเจอหรือคนไปแจ้งว่าเวปบอร์ดนี้บิดเบือนธรรมะหรืออวดอุตริ ทำให้ซวยทั้งเวปไปเลยล่ะครับ สองคนที่เข้ามาที่นี่ไม่ใช่ว่ามีจิตบริสุทธิ์หมดทุกคนอาจจะโฆษณาก็ได้ สามเลยคือในเวปนี้ไม่ใช่ทุกคนรู้หรือแยกแยะได้เหมือนท่านทุกคนถ้าเขาเชื่ออะไรผิดๆก็โดนตุ๋นไม่ก็ลงนรกกันยกครอก คนบ้าเท่านั้นที่สอนใหัไม่เชื่อพระไตรปิฎก ฉลาดมากก็ไม่เปิดเวปเองตั้งลัทธิเองชงเองกินเองลงนรกเองเนอะ อ่านประวัติพระอริยเจ้าทุกองค์ก็ล้วนแต่ไม่มีใครที่อวดอุตริว่าตัวเหนือพระไตรปิฎก ล้วนแต่ต้องอ่านและศึกษาจากพระไตรปิฎกทั้งนั้น แต่การปฏิบัติการสอนต่างกันตามความเข้าใจและจริตของแต่ล่ะท่านเท่านั้น ท่านอาจจะถือสัจจะแต่ถามหน่อยศีลนี้ก็สำคัญ ถ้ารักษาศีลไม่ได้ก็มิอาจบรรลุสำเร็จภาวนาได้เพราะจะเพี้ยนหรือบ้าไปเลย สัจจะนั้นนับว่าดีแต่ถ้าไร้ปริยัติเหมือนแม่แบบ ถึงเนื้อจะดีคือไปเปลี่ยนรูปง่ายไม่เหลาะแหละไม่ไหลไปตามอำนาจอื่นแต่ก็อาจจะไม่ตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์ครับ ทุกอย่างต้องประกอบกันเหมือนบารมีสามสิบทัศเพียงแต่ๆล่ะชาติจะเน้นไม่เหมือนกัน ใครที่สอนมั่วซั่วอย่างนี้ไม่ใช่ของแท้หรอกครับ แม้แต่ท่านหลวงปู่โตท่านเป็นพระโพธิสัตว์แท้ยังไม่บังอาจกับพระไตรปิฎกเพราะท่านรู้ ว่าท่านยังไม่รู้หมดถ้าพลาดก็ลงขุมใหญ่ เอาง่ายๆทุกคนที่อิทธิฤทธิ์ไม่จำเป็นต้องเป็นของแท้หรือคนดี ไม่งั้นท่านเทวฑัตก็คงไม่มีลูกศิษย์หรือสามารถชักจูงพระเจ้าอชาตศัตรูได้หรอก

 

พระพุทธองค์ท่านทรงรู้แจ้ง...ท่านทรงเห็นว่าอะไรควรตรัส...อะไรไม่ควรตรัส...ด้วยปัญญารู้ของท่านที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ท่านจึงสอนเฉพาะเจาะจงในผู้ที่มีปัญญารู้เท่านั้น...ทุกเช้าใกล้รุ่งสางพระองค์จะทรงคัดเลือกผู้ที่พระองค์จะทรงเข้าไปเทศนาสั่งสอนให้บรรรลุธรรม...เพื่อจะเป็นนาบุญต่อไป...
เราจึงควรศึกษาให้รู้ถึงภาวะที่เรียกว่าญาณหยั่งรู้ทัศนะบุคคล...จึงจะสามารถสั่งสอนมวลมนุษย์ตามกรรมของเขาได้...หากบางเรื่องพูดออกไป...ใครไม่เข้าใจก็ว่าบ้า...เท่านั้นเอง...

 

"พูดมาก เสียมาก"
"พูดน้อย เสียน้อย"
"ไม่พูด ไม่เสีย"
"นิ่งเสีย โพธิสัตว์"...ต่างคนก็ต่างจิตใจ เข้าใจลำบากน่าดู ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ที่หวังดีต่อกันขอรับ สาธุ"

 

พระไตรปิฎกคืออะไร ? ​

​

ศาสนาทุกศาสนา ย่อมมีคัมภีร์หรือตำราทางศาสนาเป็นหลักในการสั่งสอน พระไตรปิฎก หรือที่เรียกในภาษาบาลีว่า ติปิฎกหรือเตปิฎกนั้น เป็นคัมภีร์หรือตำราทางพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับไตรเวท ซึ่งเป็นคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ ไบเบิ้ลของศาสนาคริสต์ อัลกุรอานของ ศาสนาอิสลาม พระพุทธเจ้าประทานพระพุทธโอวาทไว้มากหลายต่างกาลเวลา ต่างสถานที่กัน พระสงฆ์สาวกซึ่งท่องจำไว้ได้ ได้จัดระเบียบเป็นหมวดหมู่ เป็นปิฎกต่างๆ หลังจากพระศาสดานิพพานแล้วเพื่อเป็นหลักพระพุทธศาสนา ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า ​

“ธรรมและวินัยที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้นจะเป็นศาสดาของท่านทั้งหลาย เมื่อเราล่วงลับไป” ​

มีหลักฐานกำหนดลงได้ว่าในสมัยพระพุทธเจ้ายังไม่มีคำว่า “พระไตรปิฎก” มีแต่คำว่า “ธรรมวินัย” คำว่า พระไตรปิฎก หรือ ติปิฎก ในภาษาบาลีนั้นเกิดขึ้นมาภายหลังที่ทำสังคายนาแล้ว คำว่า พระไตรปิฎก กล่าวโดยรูปศัพท์ แปลว่า ๓ คัมภีร์ เมื่อแยกเป็นคำๆ ว่า พระ+ไตร+ ปิฎก คำว่า “พระ” เป็นคำแสดงความเคารพหรือยกย่อง คำว่า “ไตร” แปลว่า ๓ คำว่า “ปิฎก” แปลได้ ๒ อย่างคือ แปลว่าคัมภีร์หรือตำนานอย่างหนึ่ง แปลว่ากระจาดหรือตะกร้าอย่างหนึ่ง ที่ แปลว่ากระจาดหรือตะกร้า หมายความว่าเป็นที่รวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหมวด หมู่ ไม่ให้กระจัดกระจาย คล้ายกระจาดหรือตะกร้าอันเป็นภาชนะใส่ของ ฉะนั้น เมื่อทราบแล้วว่า คำว่าพระไตรปิฎกแปลว่า ๓ คัมภีร์ หรือ ๓ ปิฎก จึงควรทราบต่อไปว่า ๓ ปิฎกนั้นแบ่งออกดังนี้ (๑) วินัยปิฎก - ว่าด้วยวินัยหรือศีลของภิกษุ ภิกษุณี (๒) สุตตันตปิฎก - ว่าด้วยพระธรรม เทศนาทั่วๆ ไป (๓) อภิธัมมปิฎก - ว่าด้วยธรรมะล้วนๆ หรือธรรมะที่สำคัญ. ​

พระไตรปิฎก เป็นคัมภีร์ที่บรรจุคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า พุทธธรรม คำว่าพระไตรปิฎก มาจากภาษาบาลี ติปิฏก แปลว่า ตะกร้าสามใบ หรือคำสอนสามหมวด (ติ หมายถึง สาม ปิฏก หมายถึง ตำรา คัมภีร์ หรือกระจาด) ซึ่งคำสอนสามหมวดนี้ ได้แก่ ​

พระวินัยปิฎก หรือ พระวินัย ได้แก่ประมวลระเบียบข้อบังคับของบรรพชิตที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้สำหรับภิกษุและภิกษุณี ​

พระสุตตันตปิฎก หรือ พระสูตร ได้แก่ประมวลพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยังที่ต่างๆ ให้เหมาะกับบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ มีเรื่องราวประกอบ ​

พระอภิธรรมปิฎก หรือ พระอภิธรรม ได้แก่ประมวลคำสอนที่เป็นหลักวิชาการล้วนๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลหรือเหตุการณ์ ไม่มีเรื่องราวประกอบ

พระไตรปิฎกมีเนื้อหารวมทั้งสิ้น 84,000 ธรรมขันธ์ ​

พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ครั้งหนึ่งว่า พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ภายหลังที่พระองค์ล่วงลับไปแล้ว ​

[1] พระไตรปิฎกจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธองค์ และเป็นที่ที่ชาวพุทธสามารถเข้าเฝ้าพระศาสดาของตน ​

[2] พุทธศาสนิกชนสามารถศึกษาปริยัติศาสน์จากพระไตรปิฎก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้พ้นจากความทุกข์ อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตตามนัยแห่งพระพุทธศาสนาสืบไป ​

พระไตรปิฎกมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า ออกเป็นหมวดหมู่ และซักซ้อมทบทวนกันจนลงตัว ในระยะแรก พระไตรปิฎกถ่ายต่อกันมาโดยการท่องจำปากเปล่า จนกระทั่งราว พ.ศ. 460 จึงมีการจารึกลงเป็นลายลักษณ์อักษร กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาสืบทอดมาพร้อมกับพระไตรปิฎก จากสมัยพุทธกาลจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2,500 ปี พระไตรปิฎกบาลีของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท เป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด ดั้งเดิมที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และถูกต้องแม่นยำที่สุด ที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ​

ในพระไตรปิฎก นอกจากจะเป็นที่รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังได้จัดหมวดหมู่คำสอนเหล่านั้นให้เป็นระเบียบพร้อมๆ กันไปด้วย ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการท่องจำ ความง่ายต่อการแบ่งหน้าที่รักษา และความไม่ลำบากในการศึกษาค้นคว้า ​

คำสอนทั่วไปในพระพุทธศาสนาสามารถแบ่งได้กว้างๆ เป็น วินัย และ ธรรม โดย วินัย จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบทบัญญัติของคณะสงฆ์ สำหรับเป็นข้อบังคับในการปฏิบัติตัวของผู้ออกบวชเท่านั้น ส่วน ธรรม เป็นคำสอนที่ครอบคลุมพุทธบริษัททั้งหมด ซึ่งสามารถแยกได้อีกเป็นสองชนิด คือ ​

ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไปตามกาลเทศะ โต้ตอบกับบุคคลต่างๆ เป็นเรื่องๆ ในแต่ละเรื่องจะเรียกว่า สุตตะ หรือ สูตร หนึ่งๆ ในพระไตรปิฎกจะรวบรวมธรรมแบบนี้ไว้พวกหนึ่ง เรียกว่า สุตตันตะ หรือ พระสูตร ​

ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไปตามเนื้อหา ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นวิชาการล้วนๆ เช่น เมื่อยกเรื่องขันธ์ 5 มา ก็อธิบายโดยละเอียดว่าขันธ์ 5 คืออะไร แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง แต่ละอย่างนั้นเป็นอย่างไร จนจบเรื่องขันธ์ 5 ธรรมที่แสดงเอาเนื้อหาเป็นหลักอย่างนี้ ในพระไตรปิฎกจะจัดอยู่ในประเภท อภิธัมมะ หรือ พระอภิธรรม ​

เมื่อรวม พระวินัย พระสูตร และ พระอภิธรรม เข้าด้วยกัน ก็จะเกิดสามหมวดหมู่ใหญ่ ประกอบกันได้กลายเป็นพระไตรปิฎกขึ้นมา ​

******************************************​

ที่มา http://www.siamsouth.com/home/tripidok/tripidoktuapai.php

 

พสกนิกรหลายพื้นที่เริ่มกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช​

​

ภูมิภาค 3 ธ.ค. - หลายจังหวัดเหนือ-อีสาน-ใต้ จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม มีประชาชนทุกภาคส่วนร่วมใจแสดงความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศล

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (3 ธ.ค.) นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน กว่า 500 คน ร่วมละหมาดฮายัด (เป็นการขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า) เพื่อขอพรดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญสถิตในดวงใจของพสกนิกรทั่วหล้าตลอดกาลนาน และขอให้สถานการณ์ไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบโดยเร็ว

ส่วนชาว จ.อุบลราชธานี หลายสาขาอาชีพ ร่วมปล่อยปลานิล ปลาตะเพียน 1 ล้านตัว บริเวณเขตอภัยทานในแม่น้ำมูล ที่ท่าน้ำวัดหลวง อ.เมือง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และ 116 วัน จากวันแม่สู่วันพ่อ

นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานโครงการ

 

5 ธันวาคม วันมหาราชของปวงชนชาวไทย

ทูนเทิดไท้ ทวยเทพ ท้าวทั่วไทย
มุ่งมั่นหมาย มากมาย มิ่งมั่น
สรรสร้างสิ่ง สวยสวย สรรพสีสัน
จอมราชันย์ อายุมั่น ขวัญยืน

ขอพระองค์ ทรงพระชนน์ ยิ่งยืนนาน
ร้อยปีผ่าน แผ่นดินไทย ทั่วทั้งผืน
ผองชาวไทย จะได้สุข ทุกวันคืน
ทรงชีพยืน ยิ่งหล้า ทั่วฟ้าไทย

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 

*** พระไตรปิฎก ****

การรวบรวมทุกเรื่องราวของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เรียกว่าอะไร ?
เมื่อ ทุกการกระทำไม่สูญสลาย เป็นไปตามหลักสัจจธรรม
การกระทำของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก็ไม่สูญสลายเช่นกัน
มีผลโดยตรงต่อการตรัสรู้ของผู้ที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าต่อไป
เป็นเหตุเป็นผลกันตามธรรมชาติ
พระไตรปิฎกในธรรมชาติ จึงไมสูญสลายไปไหน
พระพุทธเจ้าพิจารณาด้วย การปิดโลกเปิดธรรม จึงพบหลักสัจจธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** พระไตรปิฎก ****

พระไตรปิฎก เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในธรรมชาติ อยู่คู่โลกมานานแสนนาน
คอยนำพาให้ผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ได้พบและเข้าใจในหลักสัจจธรรม
คือหลักธรรมเที่ยงที่มีอยู่ในธรรมชาติ เป็นเหตุผลของทุกสิ่ง
เมื่อพระไตรปิฎกมาสอนผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า จะปรากฏเป็นสิ่งใดก็ได้
เพื่อให้มนุษย์ผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ได้พบและเรียนรู้เข้าใจในสัจจธรรม
การปรากฏบนโลกของพระไตรปิฎก เรียกว่า โลกุตตระ
โลกุตตระ จะไปโปรดสอนใครในรูปอะไร ก็ขึ้นกับระดับจิตใจของแต่ละคน
ที่มีความรู้ ความเชื่อ และประสบการณ์ที่ต่างกัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "