ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โลกอาหรับแก้ปัญหาขาดแคลนอาหาร เล็งลงทุนด้านการเกษตรนอกประเทศ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 กรกฎาคม 2551 08:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ชาติอาหรับกำลังเล็งลงทุนภาคเกษตรในต่างประเทศ เพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนอาหาร

    เอเอฟพี - ชาติอาหรับร่ำรวยในอ่าวเปอร์เซียซึ่งขาดแคลนพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งน้ำ กำลังเล็งหาช่องทางสำรองอาหารด้วยการออกไปลงทุนด้านการเกษตรในต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในเอเชียและแอฟริกา

    ประชากรในกลุ่มประเทศความร่วมมือในอ่าวเปอร์เซีย (จีซีซี) คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่มขึ้นจากราว 30 ล้านคนในปี 2000 เป็นกว่า 35 ล้านคนในปี 2006 และอาจสูงถึง 39 ล้านคนในปี 2010 ปีที่แล้วกลุ่มจีซีซีนำเข้าอาหารถึง 10,000 ล้านดอลลาร์​

    โมนิกา มาลิก นักเศรษฐศาสตร์ประจำวาณิชธนกิจอีเอฟจี-เฮอร์เมสในดูไบ กล่าวว่า "ประเทศในกลุ่มจีซีซีกำลังมองหาช่องทางเข้าไปลงทุนทางด้านการเกษตรในประเทศใกล้เคียงเช่นซูดาน เพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหารและเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าลงทุนผลิตเองในประเทศ"​

    กลุ่มจีซีซียังสนใจลงทุนในอียิปต์และปากีสถานด้วย โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เริ่มเจรจากับอียิปต์ไปแล้วหลายโครงการ และจะซื้อพื้นที่เกษตรในปากีสถานกว่า 100,000 เอเคอร์ ขณะที่ปากีสถานก็เสนอแลกพื้นที่เกษตรหลายพันเอเคอร์กับน้ำมันจากซาอุดีอาระเบียด้วย​

    ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำเข้าอาหารรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มกำลังเปลี่ยนนโยบายจากเดิมที่เคยเน้นพัฒนาประเทศให้ผลิตอาหารเลี้ยงตัวเองได้มาเป็นการลงทุนด้านการเกษตรในต่างประเทศมากขึ้น​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เกิดดินถล่มทับบ้านเรือน หลังศาลากลาง จ.เชียงราย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ค่ำวานนี้ (20 ก.ค.) เกิดเหตุดินถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชน กลางเมืองเชียงรายบริเวณชุมชนวัดพระแก้ว หลังศาลากลางจังหวัดเชียงราย

    จากการตรวจสอบพบว่า มีบ้านเรือนถูกดินโคลนถล่มลงมาทับ 3 หลัง ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 62/91 ของนางคำหล้า มาตะเดช เลขที่ 8/81 ของนายบุญสิน สุภานนท์ และบ้านเลขที่ 8/82 ของนางเสาวนีย์ ยังศักดิ์ ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะสามารถวิ่งหนีออกจากบ้านได้ทัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงราย ได้เข้าช่วยเหลือ

    พร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาและมีโอกาสที่ดินจะถล่มซ้ำลงมาอีก

    ขณะเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เชียงราย ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะย่านการค้าสำคัญ เนื่องจากยังมีน้ำท่วมขังและมีทีท่าขยายวงกว้าง โดยมีรายงานว่า ขณะนี้น้ำป่าจากห้วยแม่บง กำลังไหลเข้าท่วมใน 2 ตำบล ของ อ.ดอยหลวง


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮาควายน้ำทะเลน้อยพัทลุง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ควายน้ำ- ฝูงควายในเขตห้ามล่าฯทะเลน้อย จ.พัทลุง จำนวนกว่า 4 พันตัว ได้รับการเสนอให้เป็นสัตว์อนุรักษ์ เนื่องจากเป็นควายที่อาศัยในธรรมชาติที่มีความสามารถพิเศษ แม่ให้ลูกควายเอาคางเกยหลังเวลาว่ายน้ำ และยังดำน้ำเก่งเพื่อลงไปงมกินพืชใต้น้ำ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย พัทลุง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า

    ตนในฐานะส.ส.จังหวัดพัทลุง เตรียมจะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับการจัดการควายฝูงหนึ่งมีจำนวน 4,334 ตัว ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง ชาวบ้านในแถบนั้นเรียกกันทั่วไปว่า ควายน้ำ แต่เดิมเป็นควายบ้านที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงไว้ในบริเวณนี้ แต่ก็ปล่อยเลี้ยงตามยถากรรม ทำให้มีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นจนควายรุ่นใหม่กลายเป็นเหมือนควายป่าไปแล้ว มีลักษณะพิเศษคือในช่วงฤดูน้ำหลากแม่ควายจะให้ลูกควายเอาคางเกยหลังว่ายน้ำไปยังที่ต่างๆ นอกจากนี้วิธีการหาอาหารของควายฝูงนี้ก็ไม่เหมือนควายป่า หรือควายบ้านทั่วไป คือ
    ควายตัวโตสามารถดำน้ำ โดยใช้ขาหลังชี้ขึ้นฟ้า ส่วนหัวดำลงไปใต้น้ำเพื่อหาหญ้ากิน ส่วนลูกควายนั้นจะดำน้ำลงไปทั้งตัวเพื่อหาหญ้าใต้น้ำกิน การดำน้ำแต่ละครั้งลูกควายสามารถทำได้ค่อนข้างนาน

    "ผมคิดว่าหากมีการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดีแล้ว น่าจะทำให้ทะเลน้อยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพราะไม่เคยเห็นว่าในภูมิภาคเอเชียจะมีสัตว์ หรือควายลักษณะนี้ให้เห็นอีกแล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ พื้นที่เขตห้ามล่าฯ นั้นเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถนำสัตว์เข้าไปเลี้ยงได้ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้มีการประกาศให้ทะเลน้อยเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตั้งแต่ปี 2535 แต่ชาวบ้านอ้างว่านำควายฝูงนี้มาเลี้ยงก่อนหน้านั้น และควายมีการสืบพันธุ์ออกลูกหลาน จากเดิมมีแค่ 500 ตัว กลายเป็นจำนวนสี่พันกว่าตัวในปัจจุบัน"

    นายนริศกล่าวว่า

    จากปัญหาดังกล่าวหลายฝ่ายจึงคิดกันว่า ควรจะนำปัญหานี้มาช่วยกันแก้ไข เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ควายฝูงนี้เป็นทรัพยากรระดับชาติ เพราะไม่มีที่ไหนอีกแล้ว มีที่นี่แห่งเดียวในประเทศ ตอนนี้จึงหารือกันว่าจังหวัดควรจะซื้อควายฝูงดังกล่าวไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เพื่อให้ควายเหล่านั้นได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ และประกาศให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยต่อไปน่าจะดี

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://tnews.teenee.com/etc/25292.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2008
  3. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,446
    เกรงว่ากรณีพิพาทเรื่องดินแดน ของแต่ล่ะประเทศจะเป็นฉนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่3ได้ และนำไปสู่การใช้นิวเคลียร์เข้าประหัสประหารกัน และโลกอาจจะเข้าสู้ยุคใหม่ตามคำทำนายได้

    คิดแล้วน่ากลัวจริง
     
  4. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    จำได้ว่าเป็นช่วงที่จบมาทำงานใหม่ๆ
    จะมีเพลงของเสื่อ เอ๊ย เสือ ธนพล ร้องว่า "........ในยุคที่ต้องไปซื้อน้ำดื่ม สนนราคาแพงกว่าน้ำมัน"
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    *** โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต ****

    คือ บทกลอนที่แต่งขึ้นเพื่อ
    ให้พิสูจน์ว่า...สิ่งที่นำมาเตือนทั้งหมด คือความจริงที่กำลังเกิดขึ้น
    จะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นทีละส่วน ทีละบรรทัด
    เพราะ สิ่งที่จะเกิดขึ้น...คือ กรรม
    คือ ผลการกระทำโดยรวมของทุกคน
    เตือนเพื่อให้รีบสะสมการกระทำจากสัจจะ
    เพื่อเป็นเครื่องป้องกันภัย จากกรรมที่จะประดังเข้ามาพร้อมๆกัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    *** กรรมกำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ****


    “บ้านเมือง”

    รวยล้ำค้ำเหลิงอำนาจ ดูดทรัพย์ราษฎร์ท้องแผ่นดิน
    กอบโกยขูดหมดสิ้น ผลักหนี้สินท่วมประชา

    หลากหลายในสังคม บ่ชื่นชมเหนือหัวข้า
    ขัดแย้งรุนแรงกล้า ก้าวร้าวทั่วมั่วลายงา

    เหล่าทหารเสียหน้าก่อการ ทรยศสัตย์ปฏิญาณให้ไว้
    บ้านเมืองลุกโหมเป็นไฟ จากคิดใหญ่พวกอยากนำ

    สุดสับสนสุดอลม่าน วิ่งหนีพาลหลบเลี่ยงภัย
    วงศาไม่อาจไป จำกล้ำกลืนแต่น้ำตา

    ปากดีประสงค์ร้าย ทำลายขาดราชพลัง
    ทุกข์ตรมสุดสิ้นหวัง เหมือนเปรียบดังเทพนิยาย

    เกิดสู้อย่างไร้สมอง ทหารแลมองอ่อนกำลัง
    ข้างบ้านวาจาดัง ทลายรั้วทวงที่ดิน

    ขวานทองดั่งมะพร้าว ชนกลุ่มพาลแบ่งแยกกิน
    ด้ามขวานสูญเสียสิ้น จากนั้นกินรอบทิศทาง

    คนนำคือคนร้าย แอบทำลายเมืองโสภา
    มหันต์ภัยไสสู่ฟ้า ข้ามแพงมาลงกลางใจ

    เมืองอมรหลอมละลาย สมดั่งใจท่านประธาน
    ลวงคนทั่วแดนหล้า ให้หลงตามความคิดตน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
    โดยคุณหนุมาน ผู้นำสาร

    แผนสนับสนุน...ขอมเพื่อนบ้าน....โดยสนับสนุนให้ทุนพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านขอม และส่งเสริมให้ขอมมีกองทัพที่ทันสมัย อย่ารวดเร็ว...กองทัพไทยจึงตามไม่ทัน....เมื่อถึงเวลาที่ด้ามขวานทองเริ่มหัก ขอมจะอ้างประวัติศาสตร์โบราณ ที่ขอมเคยเกี่ยวข้องกับดินแดนขวานทองทางตะวันออกของไทยในอดีต....ขอมจึงวางแผนเข้ามาปักธงที่ บางประกง....เกาะสีชัง และชายฝั่งตรงข้าม คือ จุดที่เขาจะนำมาอ้างได้...เพราะ ประเทศสอง เริ่มเล็งของดี ของมีค่า ของมีพลัง ที่อยู่ในอ่าวไทย....เมื่อ ขอมยึดสำเร็จ ประเทศสองจะมีส่วนทันที เพราะ เพื่อนขอม มีนายใหญ่ คือ ประเทศสอง….เราคนไทยเลือดรักชาติ ต้องรีบรวบรวมประวัติศาสตร์ชาติไทย ไว้อ้างในคดีนี้...อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนเรื่องตัวเขา กับ ตัววิหาร

    - “ หนุมาน ผู้นำสาร ”
    ๓๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐

    ที่มา http://209.85.175.104/search?

    ประวัติเมืองฉะเชิงเทรา

    จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือ แปดริ้ว เป็นจังหวัดที่เก่าแก่มีความร่มเย็นภายใต้บารมีหลวงพ่อพุทธโสธรอันศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล ในอดีตเคยเป็นเมืองเมืองหนึ่งในมณฑลปราจีนบุรี ได้รับการสถาปนาเป็นจังหวัดในปี พ.ศ. 2459 ตามเอกสารทางประวัติศาสตร์ ชื่อ "ฉะเชิงเทรา" ปรากฏเป็นครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรีอยุธยา ประชาชนในสมัยนั้นเรียกเมืองของตนว่า "แปดริ้ว" แต่ทางราชการเรียกว่า "ฉะเชิงเทรา"อนึ่ง ชื่อ "ฉะเชิงเทรา" มีต้นเค้าหนึ่งมาจากหนังสือประชุมพระราชนิพนธ์ภาคปกิณกะภาค 1 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีความอ้างถึงเมืองฉะเชิงเทราว่า

    ชื่อบ้านเมืองเหล่านี้เป็นชื่อไทยบ้าง ชื่อเขมรบ้าง เป็นสองชื่อทั้งไทยทั้งเขมรบ้าง อย่างเมืองฉะเชิงเทราเป็นชื่อเขมร เมืองแปดริ้วเป็นชื่อไทย นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีบางท่านมีความเห็นว่า "ฉะเชิงเทรา" น่าจะเพี้ยนมาจากคำเขมรว่า "สตรึงเตรง" หรือ "ฉ'ทรึงเทรา" ซึ่งแปลว่า "คลองลึก" ความเห็นนี้คงอาศัยเหตุผลทางภูมิศาสตร์ด้วย เพราะเมืองฉะเชิงเทราตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำบางปะกง เมื่อครั้งที่ขอมยังมีอำนาจปกครองแผ่นดินไทยอยู่นั้น เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในอำนาจการปกครองของขอมมาก่อน เป็นไปได้ว่าชาวเมืองในสมัยโบราณอาจจะเรียกแม่น้ำบางปะกงว่า "คลองลึก" หรือ "คลองใหญ่" ตามลักษณะที่มองเห็นและด้วยอิทธิพลเขมรจึงได้เรียกชื่อแม่น้ำเป็นภาษาเขมรว่า "สตรึงเตรง" หรือ "ฉ'ทรึงเทรา" ครั้งเรียกกันไปนาน ๆ เสียงก็เพี้ยนกลายเป็น "ฉะเชิงเทรา" เมืองที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำก็พลอยได้ชื่อว่า "ฉะเชิงเทรา" ไปด้วย

    ส่วนความเป็นมาของชื่อ "แปดริ้ว" นั้น เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ในลำน้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะปลาช่อนซึ่งเป็นปลาน้ำจืดรสดีมีชุกชุมและมีขนาดใหญ่กว่าปลาช่อนในท้องถิ่นอื่น ๆ จนเมื่อนำมาแล่เนื้อเพื่อตากทำปลาแห้งจะแล่เพียงสี่ริ้วหรือห้าริ้ว ตามปกติไม่ได้ ต้องแล่ออกถึง "แปดริ้ว" เมืองนี้จึงได้ชื่อว่า "แปดริ้ว" ตามขนาดอันใหญ่โตของปลาช่อนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมือง นอกจากนี้ชื่อ "แปดริ้ว" ยังได้รับอิทธิพลมาจากนิทานพื้นบ้าน คนในท้องถิ่นพนมสารคามเล่าถึงเรื่อง "พระรถ-เมรี" ซึ่งเป็นนิทานเรื่องหนึ่งในปัญญาสชาดกว่า ยักษ์ได้ฆ่านางสิบสองแล้วลากศพไปยังท่าน้ำในบริเวณที่เป็นคลอง"ท่าลาด" แล้วชำแหละศพออกเป็นริ้ว ๆ รวม แปดริ้ว แล้วทิ้งลอยไปตามลำน้ำท่าลาด ริ้วเนื้อริ้วหนังของนางสิบสองลอยมาออกยังแม่น้ำบางปะกงไปจนถึงฉะเชิงเทรา เมืองนี้จึงได้ชื่อว่า "แปดริ้ว"

    ที่มา http://209.85.175.104/search?
    <!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2008
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โสมขาวจัดซ้อมรบใกล้เกาะพิพาทป้องกันญี่ปุ่นรุกราน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 กรกฎาคม 2551 15:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]
    ภาพหมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาท

    เอเอฟพี - เกาหลีใต้ จะปฏิบัติการซ้อมรบ 2 ครั้งใกล้หมู่เกาะพิพาทในปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการยั่วยุใดๆ จากญี่ปุ่น รัฐมนตรีกลาโหม ลี ซัง ฮี กล่าววันนี้ (21)

    การซ้อมรบครั้งแรกจะมีขึ้นในเดือนนี้ ส่วนครั้งที่สองวางกำหนดไว้ราวเดือนพฤศจิกายน ลี บอกกับรัฐสภา “(รัฐบาล) จะปักหลักอย่างมั่นคงเพื่อปกป้องหมู่เกาะต๊อกโตด้วยการจัดซ้อมรบในภารกิจป้องกันตนเอง” สำนักข่าวยอนฮับ อ้างคำสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้

    แหล่งข่าวกองทัพ บอกกับเอเอฟพี ว่า เครื่องบินรบเอฟ-15เค ซึ่งเข้าประจำการการแบบพร้อมรบเป็นฝูงแรกช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา คาดหมายว่า จะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจซ้อมรบทางนาวีและอากาศปีนี้ด้วย

    เกาหลีใต้ จัดการซ้อมรบทางนาวีใกล้กับหมู่เกาะพิพาทที่ตั้งอยู่ในทะเลญี่ปุ่น (ทะเลตะวันออก) เป็นประจำทุกปีมากว่า 1 ทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะที่เกาหลีใต้เรียกว่าต๊อกโต ส่วนญี่ปุ่นเรียก “หมู่เกาะทาเคชิมะ” ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังโตเกียวอ้างถือกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะดังกล่าว

    โสมขาวตั้งตำรวจทะเลหน่วยเล็กๆ บนหมู่เกาะขรุขระและมีต้นไม้อยู่น้อย โดยวางแผนให้เป็นที่อยู่อาศัยของพลเรือน

    ทั้งนี้ ส.ส.พรรครัฐบาล และฝ่ายค้านบางส่วน อยากให้เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำการอยู่บนเกาะเป็นทหารมากกว่าตำรวจ แต่รัฐมนตรีกลาโหมบอกว่าเรื่องนี้ “อาจนำสถานการณ์จากความขัดแย้งเล็กๆ ไปสู่การเผชิญหน้าทางทหาร”

    ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น จนกระทั่งความขัดแย้งเกี่ยวกับหมู่เกาะข้อพิพาทนี้ปะทุขึ้นอีกครั้ง ขณะที่นายกรัฐมนตรีโสมขาวฮันซุงซู เมื่อวันอาทิตย์ (20) กล่าวหาโตเกียวทำลายความสัมพันธ์และนำสันติภาพของภูมิภาคไปสู่ความเสี่ยง

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000085658
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทหารไทยเสริมกำลัง-ปืนใหญ่ตรึง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Tadcha

    Tadcha สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +6
     
  9. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
     
  10. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    น้ำน่าน ณ สะพานพัฒนาภาคเหนือ เมื่อวันเสาร์ 19 กค.นี้ คร้าบบบบบบบบบบบ น้ำขึ้นมามากแล้วจนเริ่มล้นตลิ่งไหลเข้าไปหาบ้านเรือนริมน้ำ ...รอดูผล ถ้าฝนไม่ตกติดต่อกันอีกก็ไม่น่าห่วงอะไรแต่ถ้ายังฝนตกติดต่อกันไม่หยุดอีก สามสี่วันนี่ก็น่าจะเริ่มเตรียมตัวยกของหนีน้ำเสียแต่เนิ่นๆ ตามด้วย เทียน ไฟเช็ค ไฟฉาย อาหารสำเร็จรูป น้ำสะอาด ผ้าเต้นท์ ถุงพลาสติก ชารจ์ไฟโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล อุปกรณ์ครัว ถังแก๊ส เตาไฟ ถ่านหุง ฝืน ยกไปเตรียมที่ดาดฟ้า กางผ้าเต้นท์เป็นหลังคา ได้แย้ว คร๊าบบบบบ :) แต่ก็หวังว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้นเช่นนั้นหรอก เพราะสงสารคนที่เขาอยู่พื้นที่ต่ำกว่า หรือบ้านชั้นเดียวครับ หรือคนที่แย่กว่าเรา ต้องย้ายไปนอนที่อื่นๆ ขอคุณพระ พุทธบารมีคุ้มครองเพื่อนๆ ชาวน่านด้วยกันนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. YourWifeKeeper

    YourWifeKeeper สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +6
  12. maijan

    maijan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +101
    ตามอ่านมานานคิดวิเคราะห์อยู่นาน คำว่าสัจจะ ของคุณหนุมาน วันนี้เริ่มเข้าใจแล้ว ไม่รู้ว่าค้นเจอถูกที่หรือป่าว แต่หาข้อมูลหลายๆที่ ลองฟังดูในเสียงไฟล์ * พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน 1 *พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน 2 ดูนะคะ หาในเวบพลังจิตมีคะ เราว่าฟังแล้ววิเคราะห์จะเข้าใจคำว่าสัจจะขึ้นมากเลย เราอัพโหลดเสียงยังไม่เป็น ถ้าอัพเป็นจะมาแก้ไขอีกทีนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2008
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ระหว่างที่รอคุณหนุมาน ผู้นำสารมาตอบคำถามนี้ ผมขอเสนอความคิดเห็นส่วนตัวดังนี้ครับ ในปัจจุบันนี้มีลัทธิคำสอนต่างๆ เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย เช่นแสงทิพย์อริยะธรรม สำนักอนุตรธรรม โลกุตตระธรรม จิตจักรวาล ฯลฯ

    ซึ่งคนธรรมดา อย่างเราๆ ท่านๆ ที่ไม่ได้มีญาณวิเศษอะไรที่จะไปติดต่อกับโลกวิญญาณได้ จึงไม่มีทางที่จะล่วงรู้ได้เลยว่า เรื่องไหนเป็นเรื่องจริง เรื่องไหนเป็นเรื่องเท็จ เพราะพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสเอาไว้ว่า สิ่งที่พระองค์ท่านได้นำมาสอนให้ชาวโลกได้รู้นั้นเป็นเพียงใบไม้ในกำมือเท่านั้น ยังมีสิ่งที่ท่านรู้อีกมากมายที่ยังไม่ได้นำมาสอน ไม่ได้นำมาบอกกล่าว เพราะถึงรู้ไปก็ไม่ได้ทำให้พ้นทุกข์ไปได้

    ผมจึงเห็นว่าเราควรยึดเอาคำสอน ในพระไตรปิฏกเอาไว้เป็นหลักก่อนจะดีกว่าครับ คำสอนของสำนักไหนที่ไม่ขัดแย้งกับพระไตรปิฎกแล้ว เราจึงค่อยนำมาศึกษาเรียนรู้กันต่อไป คำสอนสำนักไหนที่ขัดแย้งกับพระไตรปิฏกแล้วก็ตัดทิ้งไปได้เลยครับ ส่วนคำสอนเรื่อง"สัจจะ"ของคุณหนุมาน ผู้นำสารนั้น ผมก็เห็นว่าไม่ได้ขัดแย้งกับพระไตรปิฏก เพราะเป็นหนึ่งในบารมี 10 ทัศ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเอาไว้ครับ

    เรื่องการชำระสะสางพระพุทธศาสนา ที่กำลังผิดเพี้ยนไปจากคำสอนดั้งเดิมนั้น ท่านผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะมาทำหน้าที่นี้ก็คือ มหาโพธิสัตว์ที่มีนามว่าพระศรีอาริยเมตไตรย พวกเราอย่าได้วิตกทุกข์ร้อนกันไปเลยครับ ในอีกไม่ช้านี้จะมีแต่พุทธศาสนาเดิมแท้เท่านั้นที่จะดำรงคงอยู่ในโลกนี้ จะไม่มีศาสนาอื่นอีก จะไม่มีการแบ่งเป็นสำนัก นิกาย หรือลัทธิใดๆ อีกแล้วครับ

    พุทธพยากรณ์ (ของศาสนาพุทธฝ่ายมหายาน)

    ในกาลก่อน พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า "มหุตชินสีห์" ได้ทรงพยากรณ์พระศรีอาริย์ฯไว้ว่า "ท่านจะเวียนว่ายตายเกิดสืบต่อไปอีก 16 อสงไขยกัป ก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรย ในอนาคตกาล" และในท่ามกลางพระพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม ท่านจะมาช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองไปจนตลอด 5,000 ปี

    ในชาติหนึ่งที่พระเมตไตรยมาเกิดเป็นมนุษย์ชาวไร่ กระทำไร่เลี้ยงชีวิตอยู่ริมภูเขา ตักกคีรี ซึ่งเป็นภูเขาเดียวกับที่ฝูงลิงถ่ายอุจจาระใส่ผ้าอาบของพระพุทธเจ้านั้นเอง ขณะที่เมตไตรยกระทาชายวิ่งไล่ขับฝูงลิงที่ลงมากินแตงโมในไร่นั้น ก็เลยวิ่งเลยถลำ ไปเหยียบเอาพระฉาย คือ เงาของพระพุทธเจ้าโดยไม่ทันสังเกต เมื่อเหลียวมาพบพระโคตมะพุทธเจ้า จิตเลื่อมใสศรัทธา จึงนำเอาแตงโมมาถวาย 7 ลูก แต่มีลูกหนึ่งที่รอยหนูกัดเป็นโพรง พระโคตมะพุทธเจ้าจึงได้ทรงพยากรณ์ว่า

    "ด้วยกุศลผลทานครั้งนี้ จะส่งท่านมาเกิดเป็นพระยาจักรพัตราธิราชอันประเสริฐ(พระเจ้าจักรพรรดิ์) ในท่ามกลางศาสนาของพระตถาคต และจะช่วยสังคายนา ชำระสะสางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ศาสนาของพระตถาคตจะปกแผ่ไปทั่วทั้งเมืองคนขาว เมืองคนเทา ปกแผ่ไปทั่วโลก ส่วนวิบากกรรมที่ท่านได้เหยียบเงาพระตถาคตนั้น เมื่อท่านได้มาเกิดเป็นมนุษย์จะมีรูปร่างหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ บนศรีษะก็จะมีรอยแผลเป็น ดุจดังรอยหนูเจาะแตงโม แต่ในภายหลัง ท่านจะมีผิวพรรณวรรณะ สวยสดงดงามดั่งเทพบนสวรรค์ เพราะได้บริโภคของทิพย์ ของพระอิศวรเทพเจ้า"

    ตามบุรพกรรมสัญญาที่มาระหว่างองค์พุทธที่ 4 และองค์พุทธที่ 5 ทำให้องค์พระเมตไตรยโพธิสัตว์ จะต้องมาช่วยสืบอายุพุทธศาสนาของพระพุทธโคดม จวบจนครบพุทธกาลดั่งนี้แล และในระหว่างกาลแห่งการรักษาศาสนจักร อาณาจักรแห่งองค์พุทธที่ 4 จะอยู่ในนามว่า "ภายใต้รังสีพระศรีอาริยเมตไตรย" เพราะอำนาจสิทธิแห่งวงศ์ศาสนจักรยังเป็นขององค์พุทธที่ 4 แต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น(ศาสนายังเป็นของพระสมณโคดม)

    ที่มา http://www.navagaprom.com/con1.php?con_id=111
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2008
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ ตอนเหนือของญี่ปุ่น

    [​IMG]

    โตเกียว 21 ก.ค.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    สวัสดีจ๊ะ คุณหนุมาน
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เปิดใจกว้าง ****

    ... ปิดโลก เปิดธรรม....
    ก่อนอ่าน ทำใจให้กว้าง
    นำสิ่งที่ได้รับรู้ ไปพิจารณา ค้นหาความจริง

    ชีเมี้ยน ปานจันทร์...คือ พระไตรปิฎก ที่อวตารลงมาเป็นมนุษย์เหนือโลก
    เรียกว่า องค์โลกุตตระธรรม

    การปรากฏของโลกุตตระ ครั้งนี้
    เพื่อสานต่อ ศาสนาที่หักกลาง ช่วงหลังกึ่งพุทธกาล

    แก่นคำสอน คือ หลักธรรม ที่เป็นความจริง
    คือ "หลักสัจจะธรรม" ที่สรุปไว้สั้นๆ คือ
    ... ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน....

    แก่นสารในการปฏิบัติ
    คือ "สัจจะ"
    คือ การทำสัญญาใจให้เกิดเป็นการกระทำขึ้นจริง

    สัจจะปฏิบัติ
    คือ การปฏิบัติตนไม่ให้ทำตัว ทำใจ ไปตามนิสัยสันดานที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
    สัจจะ เมื่อนำไปปฏิบัติทุกวัน จะทำให้นิสัยสันดานหมดไปได้
    ตัวกระทำที่เกิดขึ้น สามารถลบล้างสิ่งที่ไม่ดี มลทินเก่าๆ ไปได้

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หลุดพ้นได้ด้วยสัจจะ
    พระ สำเร็จอรหันต์ ก็ด้วยสัจจะ
    พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ พระปฏิบัติด้วยสัจจะทุกวันเป็นประจำ

    บรมาจารย์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    คือ พระไตรปิฎก
    ซึ่งก็คือ โลกุตตระ เป็นมนุษย์เหนือโลก
    เพื่อมาส่งมอบ หลักสัจจะธรรม และสัจจะ ให้ผู้มีหน้าที่เผยแพร่ศาสนศาสนา
    พระไตรปิฎก อวตารปรากฏเป็นมนุษย์ชายหรือหญิงก็ได้
    ขึ้นกับความเหมาะสมในวินาทีนั้น
    การปรากฏในไทยช่วงกึ่งพุทธกาลนี้
    เป็นผู้หญิง เพราะถ้าเป็นผู้ชายก็จะถูกจ้องทำร้าย ถูกฆ่าได้ง่าย
    ภายนอกเป็นมนุษย์ เป็นหญิง
    แต่ภายใน ความคิด คือพระไตรปิฎก

    เรื่องราวความจริงที่เก่าแก่ เกี่ยวกับโลก และศาสนศาสตร์หลายยุคสมัย
    จึงถูกเล่าขาน และถ่ายทอดทิ้งไว้ที่ ถ้ำกระบอก
    ทุกท่านสามารถไปศึกษาได้

    หลักสัจจะธรรม กำลังรอคอยให้มีผู้นำ ผู้ทำได้ไปต้อนรับ
    เพื่อรับสัจจะ มาปฏิบัติ ประกาศสู่ชาวโลก
    เมื่อมนุษย์รับรู้เรื่องราวของสัจจะ
    โลกก็เข้าสู่ยุคใหม่ ศิวิไลซ์
    เพราะ หลักสัจจะธรรม ถูกประกาศก้องขึ้นอีกครั้ง
    มนุษย์เริ่มมีสัจจะ พูดจริง ทำจริง
    ตัวกระทำของมนุษย์ที่เชื่อสัจจะ
    จะส่งผลให้โลกเปลี่ยนแปลง ได้รับในสิ่งที่ดี ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    โลก ทุกสรรพสิ่ง เปลี่ยนแปลงได้ด้วยใจคน

    ขอให้เชื่อสัจจะมีผลตอบแทน
    สิ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวมา คือ ความจริง
    หากไม่เชื่อ ก็จะกลายเป็นว่ามีความคิดขัดแย้งต่อความจริง ซึ่งจะส่งผลไม่ดีต่อตนเอง
    จึงปรารถนาให้นำไปพิจารณา พิสูจน์ด้วยตนเอง
    ก่อนการกระทำของคนส่วนมาก จะนำไปสู่ทางตัน คือแก้ไขอะไรไม่ทันกรรมที่มาถึง

    โลกุตตระ เป็นห่วง คิดถึงในหลวงเสมอ
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ้างอิงข้อความของ คุณหนุมาน ผู้นำสาร

    "ชีเมี้ยน ปานจันทร์...คือ พระไตรปิฎก ที่อวตารลงมาเป็นมนุษย์เหนือโลก เรียกว่า องค์โลกุตตระธรรม"

    ผมคิดว่าประโยคนี้แหละคือตัวปัญหา ที่คนทั่วไปยอมรับไม่ได้ แม้แต่ตัวผมเอง ก็ทำใจยอมรับไม่ได้ ถ้าคุณหนุมาน จะสอนแต่เรื่อง"สัจจะ"อย่างเดียว ผมคิดว่าจะไม่ยากลำบากเลยที่จะทำให้คนทั่วไปยอมรับ

    เรื่องสิ่งสูงสุดเหนือโลกนี้ ต่างคนต่างก็เรียกกันแตกต่างกันออกไป ตามความเชื่อของแต่ละคน อ.ปริญญา ตันสกุล เรียกว่า"จิตจักรวาลดวงใหญ่" ทางสำนักอนุตตรธรรม เรียกว่า "อนุตตรธรรมมารดา" ทางศาสนาคริสต์ เรียกว่า "พระเจ้า" ทางแสงทิพย์อริยธรรม เรียกว่า"พระวิสุทธิพุทธรังษี" ทางคุณหนุมาน ผู้นำสาร เรียกว่า"โลกุตตรธรรม" ทางศาสนาพุทธ เรียกว่า "สมเด็จองค์ปฐม"ทางศาสนาอิสลาม เรียกว่า "พระอัลละห์"

    จากการที่ผมได้ศึกษาคำสอนทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ กล่าวไว้ตรงกันหมดว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นต้นกำเนิดแห่งทุกศาสนาในโลกนี้ เป็นแสงสว่างที่จะนำพาสัตว์โลกทั้งปวงให้พ้นทุกข์สู่แดนนิพพาน เพียงแต่เรียกชื่อแตกต่างกันไปเท่านั้นเอง

    ถ้าคุณหนุมาน จะละเว้นที่จะเผยแพร่ความคิดความเชื่อ ตามข้อความที่ได้อ้างอิงข้างต้นนี้ โดยเน้นไปที่ตัวคำสอนเรื่อง"สัจจะ"มากกว่าที่จะพยายามเน้นไปที่ตัวบุคคลที่เป็นแม่ชีเมี้ยน ปานจันทร์ผู้นี้ ก็จะทำให้ไม่เป็นที่ทะเลาะถกเถียงกันอีกต่อไป เพราะมันเป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคลที่พิสูจน์กันไม่ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2008
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำท่วมเหมืองในจีน มีคนติดอยู่ 56 คน

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 22 ก.ค.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เกิดน้ำท่วมเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งในเขตปกครองตนเองกว่างซี จ้วง ทางใต้ของจีน ทำให้มีผู้ติดอยู่ในเหมือง 56 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงไม่สามารถติดต่อกับพวกเขาได้

    ซินหัวรายงานอ้างสำนักงานความปลอดภัยในการทำงานกว่างซีว่า เหตุน้ำท่วมเกิดขึ้นที่เหมืองในเมืองเทียนตง ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังคงไม่สามารถติดต่อกับผู้ที่ติดอยู่ในเหมืองได้.-สำนักข่าวไทย

    2008-07-22 08:43:14

    ผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเตรียมพร้อมรับพายุลูกแรกของปี

    [​IMG]

    ฮิวสตัน 22 ก.ค.- ผู้ผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐเตรียมพร้อมรับผลกระทบจากพายุลูกแรกของปี 2551 แม้ว่าพายุโซนร้อนดอลลีไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐก็ตาม

    อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันมีปฏิกริยาอ่อนไหวต่อข่าวบริษัทเชลล์ออยล์อพยพคนงานจากแท่นขุดเจาะทางตะวันตกของอ่าวเม็กซิโกตั้งแต่วันอาทิตย์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์สหรัฐเป็นบาร์เรลละ 131.04 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านเอ็กซ์ซอนโมบิลและเชฟรอนเริ่มอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะตั้งแต่วันจันทร์เพื่อป้องกันล่วงหน้า

    ขณะนี้พายุโซนร้อนดอลลีมีความเร็วลมคงที่ที่เกือบ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจทวีกำลังขึ้นเป็นเฮอริเคนได้ในวันนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐออกประกาศเฝ้าระวังเฮอริเคนตลอดชายฝั่งเท็กซัสซึ่งมีเมืองคอร์ปัสคริสติ ศูนย์การกลั่นน้ำมันสำคัญตั้งอยู่ด้วย คาดว่าพายุดอลลีจะขึ้นฝั่งเท็กซัสในวันพุธเหนือชายแดนเม็กซิโกใกล้เมืองบราวน์สวิลล์ ห่างจากแท่นขุดเจาะน้ำมันสำคัญค่อนข้างมาก ด้านบริษัทน้ำมันเปเม็กซ์ของทางการเม็กซิโกคาดว่า พายุจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิต ส่วนบริษัทคาโยอาร์กาสในเม็กซิโก ผู้ส่งน้ำมันให้สหรัฐรายใหญ่ปิดเมื่อวันจันทร์แต่ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับพายุหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

    2008-07-22 08:54:06

    เอฟเอโอชี้เชื้อเพลิงชีวภาพทำให้ธัญพืชโลกหายไป 100 ล้านตัน

    [​IMG]

    ฮาวานา 22 ก.ค.- องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ระบุว่า การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพกำลังทำให้โลกสูญเสียธัญพืชสำหรับเลี้ยงคนหิวโหยมากถึง 100 ล้านตัน

    นายฌาคส์ ดิอุฟ ผู้อำนวยการเอฟเอโอ กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาวานาในคิวบาว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและอุปสรรคการค้ากระตุ้นให้เกษตรกรเร่งปลูกพืชทำกำไรสูงเพื่อใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพมากกว่าพืชสำหรับเป็นอาหาร ส่งผลให้ธัญพืชหายไปจากตลาดราว 100 ล้านตันเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงาน ข้าวโพดและข้าวสาลีเป็นพืชผลที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นายดิอุฟ ระบุด้วยว่า ตลาดพลังงานที่ขยายตัวอาจทำให้วิถีการเกษตรแบบดั้งเดิมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หากการผลิตพืชเพื่อใช้เป็นพลังงานยังคงเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คึกคัก จะทำให้เกิดแนวโน้มที่กลับหัวกลับหาง ราคาอาหารโลกจะยิ่งแพงขึ้นเรื่อย ๆ

    ธนาคารโลกประเมินว่า ราคาอาหารโลกได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่นายโรเบิร์ต เซลลิค ประธานธนาคารโลกชี้ว่า ประชากรโลก 2,000 ล้านคนกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติอาหาร.-สำนักข่าวไทย

    2008-07-22 09:11:17

    กู้ยืมเงินจากไอเอ็มเอฟ ส่งผลให้วัณโรคกลับมาระบาดอีกครั้ง

    [​IMG]

    ลอนดอน 22 ก.ค.- นักวิจัยในอังกฤษเผยว่า การกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้วัณโรคกลับมาระบาดอีกหนในยุโรปตะวันออก และประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต

    ผลการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในอังกฤษ พบว่าประเทศที่กู้ยืมเงินจากไอเอ็มเอฟ จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ไอเอ็มเอฟวางไว้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องการตัดลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ภาครัฐจัดงบประมาณให้แก่สถานพยาบาลน้อยลง จึงเป็นที่มาที่ทำให้ประเทศนั้นพบวัณโรคกลับมาแพร่ระบาดอีกหน

    โดยประเทศที่เข้าร่วมโครงการกับไอเอ็มเอฟ จะพบผู้เสียชีวิตจากวัณโรคเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 17 หรือกว่า 100,000 คน ส่วนผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านคน ระหว่างปี 2534-2543 ในทางกลับกัน ประเทศที่กู้เงินจากสถาบันการเงินอื่นที่มีกฎระเบียบเข้มงวดน้อยกว่า จะพบอัตราการเสียชีวิตจากวัณโรคลดลงเกือบร้อยละ 8

    แต่โฆษกของไอเอ็มเอฟกลับแย้งว่า ไอเอ็มเอฟไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะประเทศที่พบวัณโรคกลับมาแพร่ระบาด ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ไร้เสถียรภาพอยู่ก่อนแล้ว หลังการแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต อีกทั้งวัณโรคเป็นโรคที่ต้องบ่มเพาะเชื้อนานก่อนจะแสดงอาการ ดังนั้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จึงน่าจะติดเชื้อก่อนที่ไอเอ็มเอฟจะเข้าไปช่วยเหลือทางการเงิน

    แต่นักวิจัยในอังกฤษ ยืนยันว่า จากการพิจารณาข้อมูลด้านประชากร สงคราม ภาวะเงินเฟ้อ และปัจจัยอื่นที่โน้มนำให้เกิดการระบาดของวัณโรค พบว่า วัณโรคกลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงเดียวกับที่ไอเอ็มเอฟให้ประเทศเหล่านั้นกู้ยืมเงินพอดี. -สำนักข่าวไทย

    2008-07-22 10:55:56

    ศาลสั่งห้ามนักวิทยาศาสตร์ปากีสถานพูดเรื่องแพร่ขยายนิวเคลียร์

    [​IMG]

    อิสลามาบัด22ก.ค.-ศาลปากีสถานมีคำสั่งห้ามนายอับดุล คาเดียร์ ข่าน นักวิทยาศาสตร์ของโครงการนิวเคลียร์ปากีสถาน พูดถึงเรื่องการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์หลังจากเขาออกมากล่าวพาดพึงถึงประธานาธิบดีเปรเวซ มูชาร์ราฟ ว่าถ่ายทอดเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้กับเกาหลีเหนือ

    ศาลสูงกรุงอิสลามาบัด มีคำตัดสินเมื่อวานนี้ ให้ยกคำร้องของนายข่าน วัย 72 ปี ที่ขอให้ศาลอนุญาตให้เขาได้พบกับเพื่อนสนิทและญาติพี่น้องได้ พร้อมมีคำสั่งห้ามเขาสื่อสาร และถ่ายทอด ความเห็น หรือให้สัมภาษณ์เรื่องการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ทั้งผู้สื่อข่าว สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออินเทอร์เน็ต ตลอดจนห้ามหารือเรื่องดังกล่าวกับครอบครัว และเพื่อนฝูง

    ด้านภรรยาของข่าน เปิดเผยว่า สามีอาจยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลที่ออกมาเมื่อวานนี้ และอาจยุติบทบาทในการเปิดโปงเรื่องที่ปากีสถานเผยแพร่ความรู้ด้านนิวเคลียร์ ทั้งยังเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการขัดขวางไม่ให้เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และจะทำให้เขาไม่ได้รับอิสรภาพ เพราะขณะนี้มีเพื่อนเก่าเพียง 6 คน บุตรชาย บุตรสาว และภรรยา ที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมเขาได้ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า นายข่าน ไม่ได้ถูกควบคุมตัวที่บ้านพักอย่างเป็นทางการ การควบคุมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อความปลอดภัยของเขา และไม่ให้บุคคลอื่นได้ความรู้ที่เป็นความลับทางราชการของเขา

    นายข่าน ถูกควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักในกรุงอิสลามาบัด ตั้งแต่ปี 2547 หลังจากแสดงความรับผิดชอบโดยลำพังต่อกรณีถ่ายทอดความลับนิวเคลียร์ให้แก่อิหร่าน และลิเบีย แต่ล่าสุด เขาเริ่มเรียกร้องให้ยุติการควบคุมตัวเขา โดยปฏิเสธคำสารภาพที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า กองทัพปากีสถานรู้เรื่องการแพร่ขยายเทคโนโลยีนิวเคลียร์อย่างน้อยครั้งหนึ่งในปี 2543 ซึ่งประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ ที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารในขณะนั้น ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทันที. -สำนักข่าวไทย

    2008-07-22 11:46:50

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    เคยอ่านเรื่อง ท้องฟ้าสีรุ้ง

    เมื่อวานเย็น ขี่แมงกะไซต์กลับบ้าน ใจคิดว่าเราจะมองท้องฟ้าสวยๆ ได้อีกกี่วันกันหนอ ก็เงยหน้ามองท้องฟ้าใกล้ลับแสง อ้าวๆๆ ไหงมีสีรุ้งประกายทอ เลยคิดถึงบทกระทู้ในเวบพลังจิต จอดรถ แล้วก็เก็บภาพมาฝาก...

    เกรงว่ารูปจะมองไม่เห็นสีรุ้ง เพราะกล้องคุณภาพไม่ดีนัก เลยไม่ลดขนาดภาพ
    ฝากให้เพื่อนๆ ได้ชม เราโชคดีที่มีฟ้างาม

    ขอบุญรักษาพี่ๆ เพื่อนๆ เวบพลังจิตและนอกเวบทุกผู้ทุกคนเทอญ... สาธุ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    เสมือนฉัพพรรณรังสี และมงกุฏเทพีสันติภาพ
    คุณ chdhorn ส่ง sms เชื้อเชิญให้ดูวานนี้ แต่ไม่ทันเห็นค่ะ
    ทำให้มีความหวัง ว่า หลังภัยล้างโลกล้างใจ จะมีวันใหม่ที่สดใสและงดงาม
    ช่วยกันส่งต่อคนรุ่นหลังให้ถึงฝั่ง... นี้เองคืองานของผองเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...