ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

หล่อลากดิน ฮษา

 

คำทำนายของโหร โสรัจจะ นวลอยู่
ครึ่งหลังปี 2551
(ถึงครึ่งปีแรกจะไม่แม่น แต่ครึ่งปีหลังเริ่มกลับมาแม่นแล้วครับ)​

​

กรกฎาคม 2551 เดือนแห่งอุบัติเหตุและกลิ่นคาวเลือด

ทางใต้มีการอพยพผู้คนไปอยู่ยังดินแดนแห่งใหม่ในที่ปลอดภัย บ้านเมืองจะมีการปฏิรูปเป็นการใหญ่ นักวิชาการจะมีบทบาทเข้ามาบริหารบ้านเมือง ดวงดาวแห่งประเทศไทยคงถอยหลังอย่างชนิดกู่ไม่กลับ ปัญหาอันยุ่งยากสลับซับซ้อนของบ้านเมือง ต่อให้เทวดาหน้าไหนมาแก้ไขก็เห็นจะแก้ให้คืนดีได้ยาก เว้นแต่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ต่าง ๆ ไปตามกาลเทศะเท่าทั้น ศัตรูภายนอกจะแสดงบทบาทระราน ยั่วยวนโทสะมากขึ้นโดยอาศัยสถานการณ์อันยุ่งเหยิงภายในเป็นเหตุ

บุคคลในเครื่องแบบจะมีบทบาทคึกคักขึ้น เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทย เกิดขึ้นทางภาคเหนือ มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมหาศาล และจะมีอุบัติภัยทางทะเลและทางเครื่องบินมากกว่าในระยะใด มีการตายหมู่เป็นร้อย บ้านเมืองก็ยังประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกวินาศสันตะโร ธนาคารจะเข้าสู่จุดคับขัน ความลำบากยากแค้นจะมีไปทั่ว ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม พระอลัชชีกับมนุษย์ลวงโลกจะกำเริบเสิบสาน ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง

อิสราเอล อียิปต์ และอาหรับ สามผู้ยิ่งใหญ่ เดือนนี้จะได้รับพิษร้ายจากดาวอังคารและมฤตยู จะพบกับปัญหาอันหนักหน่วง ผู้นำของประเทศจะเป็นอันตรายหรืออาจมีการเปลี่ยนตัวผู้นำ

ปัญหาตะวันออกกลางซึ่งหวังกันว่าจะสงบลงได้ ระยะนี้เป็นระยะที่เข้าสู่จุดเปราะ น้ำผึ้งเพียงหยดเดียวก็อาจทำให้ทุกฝ่ายจับอาวุธเข้าห้ำหั่นกันทันที

นักดาราศาสตร์ของเยอรมนีจะพบดาวเคราะห์ใหญ่ดวงใหม่ในห้วงจักรวาลด้านการแพทย์ จะค้นพบยาฉีดแก้โรคร้าย(วัคซีน) ส่วนด้านชายแดนไทยเรา จะมีการขัดแย้งกับเพื่อนบ้านเขมรและพม่ารุนแรง

ปลายเดือนเรือโดยสารล่ม ตายหมู่หลายสิบคน จะสูญเสียบุคคลสำคัญของโลกในระยะนี้ เป็นนิมิตร้ายแห่งโลก ย่อมจะวุ่นวายไปทั่ว จีนแดง พืชพันธุ์ธัญญาหารจะประสบความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากเกิดอุทกภัย

สิงหาคม 2551 กทม.ถูกก่อวินาศกรรมซ้ำ-เลือดทาแผ่นดิน

หุ้นตก เศรษฐกิจล้มเหลว ประชาชนมีแต่หนี้สิน เศรษฐกิจล้มเป็นเบี้ยล่างต่างชาติ พายุโซนร้อนผ่านตอนใต้อย่างรุนแรง ชาวใต้ต้องอพยพด่วน ชายทะเลฝั่งตะวันออกถูกพายุกวาดลงทะเลไปเป็นจำนวนมากหลายจังหวัดทางภาคใต้โดนวาตภัยร้ายแรงอีก ทางรถไฟสายใต้ขาด รถเดินไม่ได้ โทรศัพท์เสีย ปลายเดือนพายุไซโคลนลูกใหญ่พุ่งเข้าไทยร้ายแรงกว่าครั้งใด ๆ ที่ผ่านมาโหมเข้าภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย

กรุงเทพฯ ถูกก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่สูญเสียชีวิตผู้คนจำนวนมาก ความวุ่นวายความปั่นป่วนทางการเมืองได้ปะทุขึ้นในสยามประเทศ เกิดความแตกแยกแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายระหว่างคนรวยและคนจน ศักดิ์ศรีของประชาชนพลเมืองที่เหลื่อมล้ำกัน เมื่อความไม่เสมอภาค ความอยุติธรรมเกิดขึ้น ประชาชนก็เดือดพล่านขึ้นมา ประกอบกับภาวะทางเศรษฐกิจย่ำแย่ เกิดการคอร์รัปชันในหมู่ข้าราชการและชนชั้นปกครอง ข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกแบบท้องร่วง ประชาชนจะประสบกับภาวะเงินฝืด กำลังซื้อลดลง สินค้าขึ้นราคาเกิดภาวะขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค

มีอัคคีภัยร้ายแรงทั่วทุกภาคของประเทศ จะเกิดอุบัติเหตุหมู่ไฟป่าเผาผลาญเป็นจำนวนมาก ไฟลุกโชติช่วงไปทุกหนแห่ง

ในวงการเมือง บุคคลในเครื่องแบบจะมีปัญหาขัดแย้งกันรุนแรง ผู้มัวเมาอำนาจจะแสดงอำนาจโดยไม่เป็นธรรม ดวงดาวในเดือนนี้มีลักษณะวิปริตอาเพศ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะประมาทมิได้ ชาวนา กรรมกร มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก มีคนอดอยากล้มตาย

ผู้ก่อการร้ายทางภาคใต้จะกำเริบเสิบสานเป็นการใหญ่ ปัญหาชายแดนทางใต้จะก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง ประเทศใกล้เคียงจะสนับสนุนให้มีการก่อการกำเริบมากขึ้น

ปลายเดือนกรุงเทพฯ ตึกรามบ้านช่องที่อยู่อาศัยอาจถล่มทลาย จากแผ่นดินทรุดตัวหลายแห่ง

กันยายน 2551 หุ้นตกวินาศสันตะโร กับสงครามโลกรีเทิร์น

เกิดปัญหาทางภาคใต้ ทำให้ทั่วโลกตกตะลึง เกิดการจลาจลนองเลือด ต้นเดือนดีเปรสชันผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสานลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน การจราจรเป็นอัมพาต

โดยทั่วไปสถานการณ์ของโลกกำลังตกอยู่ในสภาพวิปริต จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ เศรษฐกิจตกต่ำ ความเดือดร้อนของประชากรชาวโลก เด็ก ๆ อาจพบกับโรคร้ายแปลกประหลาดตายกันมาก จีนแดง คงจะมีการปฏิรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นในประเทศ ประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ ต้องประกาศลดค่าเงินหยวนครั้งใหญ่ เศรษฐกิจทั่วโลกวุ่นวายโกลาหล ประเทศในแถบแอฟริกาจะเกิดการจลาจลนองเลือด รวมทั้งอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน

เกาหลีและอินโดนีเซีย จะมีภัยธรรมชาติอันหฤโหด ผู้คนจะล้มตายเป็นเบือ อุบัติภัยทางน้ำ ทางอากาศ กับเรื่องแทรกซ้อนต่าง ๆ ทยอยกันเข้ามาโดยไม่ว่างเว้น เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่ไม่น่าไว้วางใจ หุ้นเริ่มตกอย่างรุนแรงแบบวินาศสันตะโร

ตอนปลายเดือนพายุโซนร้อนผ่านภาคกลางและตอนใต้ของประเทศอีก สร้างความเสียหายไปทั่ว ถนน สะพาน ทางรถไฟ เขื่อนเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ และสาธารณูปโภคถูกทำลายสิ้น อียิปต์ อาหรับ และอิสราเอล เดือนนี้จะได้รับพิษร้ายจากดาวอังคาร ทำให้ทุกฝ่ายจับอาวุธเข้าหากันทันที จนบ้านเมืองพินาศ

ตะวันออกกลาง กำลังหมิ่นเหม่กับสงครามที่จะลุกลามขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว การทูตต่าง ๆ จะไร้ผล การสะสมกำลังอาวุธคงดำเนินไปอย่างเร่งรีบ สงครามล้างโลกอาจจะปะทุขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ในระยะนี้

ตุลาคม 2551 น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ล่มสลาย อยู่ในทุกขเวทนา

ทางใต้ขอแบ่งแยกเพื่อปกครองตนเอง การเดินทางอากาศไม่สู้ดีนัก เดือนนี้อาจมีข่าวอุบัติเหตุใหญ่ ๆ ทางอากาศหนาหูขึ้น เกิดแผ่นดินไหวในอิตาลี ฝรั่งเศส สเปน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมายสำหรับบ้านเรา ภัยธรรมชาติยังคุกคามต่อไปอีกทั้งทางภาคเหนือ อีสาน และทางภาคใต้ โดยเฉพาะทางภาคใต้จะโดนอย่างหนัก ถือได้ว่าเป็นวาตภัยครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และผู้คนที่อาศัยอยู่ติดทะเลจะถูกพายุร้ายหอบตกทะเลแทบไม่เหลือหลอแม้แต่รายเดียว เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

เศรษฐกิจต้องพังพินาศ หุ้นตกลงเหวนรก ต้องหนีหนี้ฆ่าตัวตายกันเป็นแถว ๆ เงินเฟ้อไม่มีค่าซื้อข้าวของไม่ได้ เหมือนเศษกระดาษ คนงานในบริษัทใหญ่โตของประเทศ รวมทั้งข้าราชการบางส่วนต้องถูกปลดออกจากงานเนื่องจากเศรษฐกิจตกสะเก็ด

น้ำก็ยังท่วมไปทั่วทั้งประเทศอยู่ และเพิ่มระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆกรุงเทพฯ ล่ม เป็นที่น่าทุกขเวทนาอย่างยิ่ง

เดือนนี้ญี่ปุ่นเป็นระยะที่มีภัยเศรษฐกิจคุกคามอย่างหนัก คนงานรถไฟในญี่ปุ่นสไตรก์ รถเป็นอัมพาตหมด เศรษฐกิจสะเทือนอย่างรุนแรง เดือดร้อนไปทั่ว

โดยทั่วไปสถานการณ์ของโลกกำลังตกอยู่ในสภาพวิปโยค จะเกิดสงครามครั้งใหญ่

พฤศจิกายน 2551 นิวเคลียร์และน้ำท่วมโลก

เป็นระยะที่ดาวเคราะห์เบียนหนัก การแตกแยกความสามัคคีภายในบ้านเมืองเรา ขัดแย้งเป็นปรปักษ์ทางการเมือง นำไปสู่การพิพาทที่สิ้นสุดมิได้ หุ้นเริ่มตกอย่างรุนแรงมากกว่าปีก่อน ๆ ที่ผ่านมา ธุรกิจสับสน กระแสเงินมีจุดเครียด เงินตึงตัว จะเกิดอัคคีภัยร้ายแรงทั่วทุกภาคของประเทศไทย จะเกิดอุบัติเหตุหมู่ไฟป่าเผาผลาญไปจำนวนมาก ไฟลุกโชติช่วงไปทุกหนทุกแห่ง การลอบวางเพลิง วางระเบิด การเมืองระส่ำระสายและภัยรอบข้างทำให้ดูเหมือนเกิดความขับขัน ทางใต้วิกฤตสุด หาทางแก้ไขไม่ได้

องค์การศาสนาของเราสั่นสะเทือน หุ้นตก เศรษฐกิจล้มเหลว
ในกรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ สถานที่สำคัญเสียหายหนัก

กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ และตะวันออกกลางจะเกิดสงครามใหญ่กับสหรัฐฯ และพันธมิตรอังกฤษ ออสเตรเลีย อิสราเอล สถานทูตและฐานทัพของกลุ่มพันธมิตรนอกประเทศถูกทำลายสิ้น

มีคนเสียชีวิตมากมาย เนื่องจากอาวุธร้ายแรง นิวเคลียร์ ปรมาณู อาวุธเชื้อโรค อาวุธเคมี

สงครามระหว่างสหรัฐฯ กับตะวันออกกลาง ทำให้โลกต้องตกอยู่ในช่วงฝันร้าย ใช้กำลังทหารและอาวุธรุนแรงเข้าห้ำหั่นกัน มีผู้ถือหางทั้งสองฝ่าย อาณาบริเวณที่จะเกิดจุดฆาต คือ สหรัฐฯ อังกฤษ อิสราเอล กลุ่มประเทศปาเลสไตน์ ออสเตรเลีย จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส

สหรัฐอเมริกา อยู่ในภาวะคับขัน ประวัติศาสตร์ของชาติต้องจารึก จะถูกวินาศกรรมในหลายรัฐจากอาวุธร้ายแรง (นิวเคลียร์) แผ่นดินจะเดือดเป็นไฟ

น้ำแข็งขั้วโลกละลายทำให้เกิดน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้เกาะบางเกาะอาจจะจมหายไป รวมถึงเกาะเล็กในเมืองไทยด้วย เป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลกทีเดียว และจะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อย

ธันวาคม 2551 เดือนอาเพศ

ดินฟ้าอากาศวิปริต อาเพศไปทั่ว เดือนนี้สภาพภูมิอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบร้อยปี มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และเกิด

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>สภาวะการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย กับมหันตภัยของโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3>

โดย Dr.G.G.Junior ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตั้งแต่บัดนี้ สำหรับประเทศไทย ถ้ายังอยู่ในสภาวะปัจจุบัน มีข้อมูล ความเสียหายของพื้นที่ จากภัยพิบัติ ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศเริ่มตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวาระสุดท้าย เพื่อการเข้าสู่ ยุคพลังงานใหม่

โดยเริ่มจาก

จังหวัดเชียงราย มีแผ่นดินยุบบางส่วน โดยเฉพาะ อ.เชียงแสน จะเสียหายจากแผ่นดินยุบ เกือบทั้งอำเภอ

จังหวัดเชียงใหม่ เกิดรอยแยกจากรอยเลื่อนของแผ่นดินใต้จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุด ตามแนวรอยเลื่อน แถบเทือกเขา อำเภอแม่สะเรียง ผ่านขึ้นดอยอินทนนท์ และรอยแยกเข้าที่ลุ่มตัวเมืองเชียงใหม่ ออกไปสู่อำเภอแม่ริม ไปเข้าสู่จังหวัดเชียงราย

แถบจังหวัดพิษณุโลก พบภัยจากน้ำเป็นบางส่วน จังหวัดกำแพงเพชรพบภัยจากน้ำเล็กน้อย

จังหวัดตาก ส่วนที่เกี่ยวเนื่องเลียบตามชายแดนพม่า และแม่ฮ่องสอนจะเกิดภัยแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก

จังหวัดกาญจนบุรีเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินแยกยุบตามรอยเลื่อน ที่ทอดยาวไปกับเทือกเขาตะนาวศรี เกิดความร้อนผุดขึ้นบางพื้นที่

จังหวัดสุโขทัยพบภัยจากน้ำมากพอสมควร

ต่ำลงมาตั้งแต่จังหวัดลพบุรี อ่างทอง อยุธยาจะกลายเป็นที่ลุ่มมากขึ้น กรุงเทพมหานคร ปากน้ำ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ถูกน้ำคุกคามทั้งหมด

ส่วนนครปฐม ยังคงอยู่บางส่วน ในที่สูงรอยต่อกับจังหวัดกาญจนบุรีถึงสุพรรณบุรี แต่ต้องระวังที่เก็บน้ำ เช่น ถ้าเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีแตก พื้นที่เหล่านี้ก็เกิดภัยจากน้ำได้เช่นกัน

ภาคใต้ทั้งหมดจะกลายเป็นพื้นที่เกาะ ในส่วนที่เป็นเกาะปัจจุบันเช่น ภูเก็ตจะจมหายไปจนเกือบหมด เป็นไข่มุกใต้ท้องทะเล

อีสานเป็นพื้นที่ปลอด จากภัยพิบัติ แต่แห้งแล้งหนัก ในส่วนพื้นดินเป็นดินทรายยิ่งโก่งตัวขึ้นก็ยิ่งแห้งแล้ง ในพื้นที่ดินแดงจะมีน้ำมากขึ้น

ภาคตะวันออกนั้น ในพื้นที่อ่อนนุ่ม จะจมน้ำลงไปก่อน แล้วน้ำจะคืนให้บางส่วนทีหลัง ส่วนพื้นที่อยู่ปลายแหลม ไม่มีเหลือที่ให้มนุษย์ มีแต่สัตว์น้ำที่ครอบครองดินแดนแทน

ที่มา http://www.universal-signal.com

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Denverguy

มีข่าวจะมาเตือนเพื่อน ผมเองติดตามกระทู้นี้มานาน แต่ไม่เคยคิดจะโพสต์ ได้แต่อ่าน แต่วันนี้ มีข่าวที่ต้องมาเตือนกันให้ทราบ

แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ของผม ได้เตือนมาว่า จะมีแผ่นดินไหวกลางกรุงเทพ โดยจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ตลาดหุ้นตรงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ เป็นรัศมีวงกว้าง สามสิบกิโลโดยรอบ จะเกิดวันที่ 31 สิงหาคมนี้ เวลากลางวัน เป็นแผ่นดินไหวที่เหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่ได้ในโลก เพราะไม่ใช่การเคลื่อนของเปลือกโลก..แต่จะเกิดจากนาคที่โกรธ และครุฑก็จะทำให้เกิดพายุไซโคลน แต่ทางวิทยาศาสตร์เขาวิเคราะห์กันว่าเป็นพายุสุริยะ อะไรอย่างนั้น</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คำทำนายของโหร โสรัจจะ นวลอยู่
สิงหาคม 2551

ปลายเดือนกรุงเทพฯ ตึกรามบ้านช่องที่อยู่อาศัยอาจถล่มทลาย จากแผ่นดินทรุดตัวหลายแห่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ wawa

เห็นภาพ แผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศไทย คนตายเป็นร้อย ไม่ช้าไม่นานนี้เลย
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ภัยจากแผ่นดินไหว เกิดบ่อยขึ้นทั่วโลกแล้ว พื้นดินกรุงเทพเป็นดินอ่อน และเป็นโพลงเนื่องจากมีการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้นานหลายสิบปี ถ้าเกิดแผ่นดินไหวในจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ แรงสั่นสะเทือนเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ จะถูกขยายให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ 2-3 เท่า อาจทำให้แผ่นดินทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ได้ง่าย ตึกเก่าๆ ในกรุงเทพฯ อาจจะถล่มลงมาได้ ถ้าไม่มีการแจ้งเตือนเรื่องนี้ให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ทราบล่วงหน้าอาจมีคนต้องประสบกับภัยจากแผ่นดินไหวนี้เป็นจำนวนมาก

 

วิกฤติซับไพร์มสหรัฐกลับมาอีกแล้ว​

​

สหรัฐ 12 ก.ค.- เศรษฐกิจสหรัฐโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ส่อเค้าต้องเผชิญกับวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพรอบใหม่ หลัง 1 ในธนาคารปล่อยสินเชื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศล้มในขณะที่ธนาคารอีก 2 แห่ง ก็กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง

เจ้าหน้าที่กำกับดูแลของเฟด เข้ายึดกิจการของอินดี้แมค แบงก์ เพราะเกรงว่าธนาคารจะไม่สามารถรับมือกับการถอนเงินของลูกค้าได้ นับเป็นสถาบันการเงินใหญ่อันดับ 2 ที่ล้มในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ และเป็นสถาบันการเงินแห่งที่ 5 ของสหรัฐที่ล้มในปีนี้จากปัญหาวิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐที่ลุกลามและส่งผลสะเทือนไปทั่วโลกเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว คาดว่าอินดี้แมคขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อด้อยคุณภาพประมาณ 100,000-250,000 ล้านบาท

การเข้ายึดกิจการของอินดี้แมค เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่หุ้นของเฟร็ดดี้ แมค และแฟนนี่ เม 2 สถานบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือซับไพร์มรายใหญ่ของสหรัฐตกเกือบ 50% แต่หุ้นก็กระเตื้องขึ้น เมื่อ 2 บริษัทออกมายืนยันว่า มีเงินทุนพอจะฝ่าฟันการตกต่ำของภาคการเคหะได้

นอกจากนี้ นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ก็ส่งสัญญาณว่าจะไม่เข้ายึดกิจการของ 2 สถาบันการเงินดังกล่าว ในขณะที่เฟดพร้อมให้เฟร็ดดี้ และแฟนนี่ กู้ตรงจากกองทุนของธนาคาร

ส่วนราคาน้ำมันก็สร้างสถิติใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทะลุ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะความกังวลเกี่ยวกับน้ำมันจากอิหร่านและไนจีเรีย และแนวโน้มการผละงานประท้วงของคนงานน้ำมันในบราซิลในสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมาปิดที่ 145.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

วิกฤติสินเชื่อด้อยคุณภาพที่กลับมาใหม่และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำให้เมื่อวานนี้ดัชนีเฉลี่ยหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 128 จุด ปิดที่ 11,101 จุด.-สำนักข่าวไทย

2008-07-12 19:51:01

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คำทำนายของโหร โสรัจจะ นวลอยู่

กรกฏาคม 2551

บ้านเมืองก็ยังประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกวินาศสันตะโร ธนาคารจะเข้าสู่จุดคับขัน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

หุ้นไทยร่วงลงตามแรงกดดันทางการเมือง​

​

กรุงเทพฯ 12 ก.ค. – หุ้นไทยร่วงลงเข้าสู่ภาวะหมีตามแรงกดดันตามเมืองและตลาดหุ้นทั่วโลก คาดสัปดาห์ต่อไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เหตุไร้ปัจจัยใหม่สนับสนุน

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (7-11 ก.ค.) ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 730.29 จุด ปรับลดลง 1.71% จาก 743.03 จุด ในสัปดาห์ก่อน และร่วงลง 14.89% จากสิ้นปี 2550 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์เพิ่มขึ้น 25.00% จาก 51,765.61 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ 64,706.43 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นจาก 10,353.12 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 12,941.29 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็เอไอ ปิดที่ 247.30 จุด ขยับลง 0.94% จาก 249.64 จุดในสัปดาห์ก่อน และร่วงลง 9.20% จากสิ้นปีก่อน โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องที่ 12,288.71 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 7,101.56 ล้านบาท และ 5,187.16 ล้านบาท ตามลำดับ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันด้วยปัจจัยทางการเมืองในประเทศ รวมถึงแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ จนทำให้ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะหมี (Bear Market) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. โดยในวันจันทร์ ดัชนีหุ้นไทยปรับลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน ท่ามกลางแรงเทขายเกือบทั้งกระดาน นำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และแบงก์ ตามด้วยกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร โดยนักลงทุนเทขายหุ้น เพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะกรณีคดีการเมืองที่ศาลฎีกาจะตัดสินในวันที่ 8 ก.ค. ขณะที่ในวันอังคาร ดัชนีปิดต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี โดยมีแรงขายต่อเนื่องในหุ้นหลักในกลุ่มพลังงาน และแบงก์

2008-07-12 16:50:31

ธนาคารกสิกรไทย ยอมรับปีหน้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยยาก​

​

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. - นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้าว่า จะยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ในปีนี้ จะส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 และจะส่งผลให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของประชาชน โดยปัจจัยนี้มีผลมากกว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ดังนั้น ลูกค้าควรที่จะตัดสินใจซื้อบ้านในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารฯ จะพยายามรักษาการเติบโตของสินเชื่อในปีหน้าให้ได้ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การออกบูธมากขึ้น

นายชาติชาย กล่าวถึงการร่วมมือจัดงาน NPA Grand Sale ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 11-13 ก.ค.นี้ ว่า ธนาคารฯ ได้นำสินทรัพย์รอการขายมาร่วมงาน 739 รายการ หรือคิดเป็นมูลค่า 3,100 ล้านบาท ซึ่งธนาคารฯ ได้มีการลดราคาร้อยละ 10-50 ให้สินเชื่อดอกเบี้ยร้อยละ 0 ในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งคาดว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้ธนาคารฯ สามารถขาย NPA ได้ปีละ 4,000 ล้านบาท แต่ธนาคารฯ มีแผนที่จะซื้อ NPA ใหม่เข้ามาบริหาร จึงทำให้ในแต่ละปี NPA ลดลงสุทธิ 1,000-2,000 ล้านบาท แต่จำนวน NPA ทั้งหมดของธนาคารฯ ยังถือว่าต่ำ โดยรวมอยู่ที่ 11,000-12,000 ล้านบาท. - สำนักข่าวไทย

2008-07-11 18:44:42

ที่มา http://news.mcot.net

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชายแดน“เขาพระวิหาร”ศรีสะเกษตึงเครียด ! – ผู้ชุมนุมไทยบุกประชิดขับไล่ชาวกัมพูชา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 กรกฎาคม 2551 20:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ชายแดนไทย-กัมพูชา เชิงเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษตึงเครียด ผู้ชุมนุมชาวไทยรุกคืบย้ายศาลาไทยตั้งประชิดเชิงเขา ท่ามกลางกำลังทหาร-ตร. อปพร.ทั้งชาย-หญิง สกัดกั้น วันนี้ (12 ก.ค.)

ศรีสะเกษ – ชายแดนไทย-กัมพูชาเชิงเขาพระวิหาร ตึงเครียด ผู้ชุมนุมชาวไทยรุกคืบย้ายศาลาไทยไปตั้งประชิดเชิงเขาได้อีก 59 เมตร ท่ามกลางการระดมกำลังทหาร-ตร.อปพร.ทั้งชาย-หญิง สกัดกั้น อีกทั้งนำลวดหนามวางกั้นตลอดแนวไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้ชายแดนชุมชนเขมรที่รุกล้ำเขตแดนไทย แกนนำยื่นหนังสือถึง “ผบ.ทบ.”เรียกร้อง 3 ข้อหลักขีดเส้น ให้ผลักดันชาวเขมรออกไปใน 7 วัน ด้านฝ่ายกัมพูชาอพยพเด็ก-ผู้หญิงออกชุมชนเชิงเขาขึ้นไปยังชั้นบนปราสาทพระวิหาร พร้อมตรึงกำลังชายฉกรรจ์และทหารอาวุธครบมือตลอดเวลา

วันนี้ ( 12 ก.ค. ) เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนชาวไทยกลุ่มสภาสหธรรมมิกประชาธิปไตยร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน ,สมัชชาเกษตรกรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ และเครือข่ายประชาชนคนกันทรลักษ์พิทักษ์เขาพระวิหาร นำโดยนายรณชิต ทุ่มโมง ประธานสมัชชาเกษตรกรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ , นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ ได้พากันชุมนุมพร้อมเคลื่อนขบวนย้ายศาลาไทยจากจุดเดิมที่บริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มุ่งหน้าตามถนนไปยังบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อีกประมาณ 59 เมตร

​

โดยมีกำลัง ตำรวจ ทหารและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ทั้งชาย-หญิง ของ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เสาธงชัย มาตั้งด่านสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายไปใกล้เขตแดนเชิงเขาพระวิหาร เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาตั้งชุมชน ร้านค้า อยู่ในบริเวณดังกล่าว​

อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งศาลาไทยไว้ข้างถนนหลังจากรุกคืบมาได้ 59 เมตร พร้อมทั้งปักธงชาติไว้ที่ศาลาทรงไทยเช่นเดิม เพื่อรอการเคลื่อนย้ายต่อไปยังเชิงเขาพระวิหารเพื่อตั้งไว้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเป็นเขตแดนประเทศไทย และแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศว่า ในวันเสาร์ที่ 19 ก.ค.51 จะต้องผลักดันชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยที่เชิงเขาพระวิหารให้จงได้​

นายรณชิต ทุ่มโมง กล่าวว่า จากการที่สภาสหธรรมมิกประชาธิปไตยได้ทำหนังสือแจ้งให้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีให้ผลักดันชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยภายใน 30 วันนั้น ปรากฏว่าระยะเวลาผ่านมา 21 วันแล้ว แต่ทหารในฐานะผู้มีภารกิจหลักในการรักษาอำนาจอธิปไตยกลับไม่ไม่มีการกระทำใดๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาผืนแผ่นดินไทย ด้วยเหตุนี้ในนามของเครือข่ายประชาชนคนกันทรลักษ์พิทักษ์เขาพระวิหาร จึงขอเรียกร้องดังต่อไปนี้​

1. ให้ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทยภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 -21 ก.ค.นี้​

2. ต้องนำธงไทยไปปักที่บันไดขั้นที่ 16 นับจากตัวปราสาทพระวิหารลงมา ตามคำตัดสินของศาลโลก และมติคณะรัฐมนตรีไทย ปี 2505 และ

3. ขอให้ตั้งคณะกรรมการปักปันเขตแดนให้ชัดเจนภายใน 7 วัน​

“หากกองทัพบกไม่สามารถดำเนินการรักษาอธิปไตยเหนือแผ่นดินไทยได้ ก็จะต้องเป็นภารกิจของคนไทยทั้งประเทศมาช่วยกันรักษาอธิปไตยเหนือแผ่นดินไทยที่เขาพระวิหารแห่งนี้ต่อไป” นายรณชิต กล่าว​

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายรณชิต ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าว ถึง ผบ.ทบ. ผ่าน พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23​

​

ขณะเดียวกันพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา รอบบริเวณเชิงเขาพระวิหารนั้น ทหารพรานได้นำเอาลวดเหล็กหนามที่ใช้ในสนามรบมาวางเป็นรั้วกั้นตลอดแนว เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปใกล้เขตชุมชนชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาสร้างบ้านเรือน ร้านค้าอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร​

พร้อมกับได้มีกำลังทหารพรานพร้อมอาวุธครบมือคอยเฝ้ารักษาความปลอดภัยและตรวจคุมเข้มอยู่ตรงกลางระหว่างหลังลวดหนามกับบริเวณเชิงเขาพระวิหารหน้าประตูเหล็กทางเข้าประสาทพระวิหาร ที่รัฐบาลกัมพูชา สั่งให้ปิดประตูมาตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา​

นอกจากนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางฝ่ายกัมพูชาได้ทำการอพยพผู้หญิงและเด็กออกจากบริเวณชุมนุมร้านค้าเชิงเขาพระวิหาร ดังกล่าวขึ้นไปอยู่บนบริเวณปราสาทโคปุระชั้นที่ 2 ส่วนบริเวณชุมชนเชิงเขาพระวิหารเหลือเพียงกลุ่มชายฉกรรจ์และทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ เพื่อเตรียมต่อต้านการบุกรุกจากกลุ่มผู้ชุมนุมชาวไทยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา​

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000082134

 

อ้าว... ก็คุณหล่อ.. ให้เค้าไปเกิดใหม่ ไม่ใช่หรือ

ก็ต้องรอหน่อยนะ;20

 

มีผู้บาดเจ็บรวม 33 คน จากเทศกาลวิ่งวัวสเปน ​

​

ปัมโปลนา 13 กค. - ผู้จัดงาน แถลงว่า มีผู้บาดเจ็บอีก 5 คน ในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของเทศกาลวิ่งวัว ประจำปีที่เมืองปัมโปลนา ของสเปน ทำให้ยอดผู้บาดเจ็บรวมอยู่ที่ 33 คน แล้ว

ชายชาวโคลอมเบีย วัย 26 ปี ถูกวัวขวิดที่ต้นขา ส่วนชาวสเปน 3 คน และชาวกานา 1 คน กระดูกหักเพราะหกล้มหรือเบียดเสียดกับฝูงชน รวมยอดผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 33 คน ในเทศกาลวิ่งวัวล่าสุด ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ และจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากได้จากทั่วโลก

เทศกาลวิ่งวัวสเปนเริ่มเป็นที่รู้จักจากนิยายของ เอิร์นเนส เฮมมิ่งเวย์ เรื่อง "The Sun Also Rises" ปี 2469.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 09:37:17

พยานเล่าเหตุการณ์ยิงนักท่องเที่ยวหญิงชาวเกาหลีใต้​

​

เกาหลีใต้ 13 ก.ค.-ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าถึงกรณีนักท่องเที่ยวหญิงชาวเกาหลีใต้ถูกทหารของเกาหลีเหนือยิงเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นายลี อิน บอก นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์ทหารเกาหลีเหนือยิงนางปาร์ก วัง-จา วัย 53 ปี เสียชีวิต ว่า เขาอยู่ห่างจากจุดที่นางปาร์ก ถูกยิงราว 300-400 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ในเวลาห่างกันราว 10 วินาที และได้ยินเสียงกรีดร้องจึงหันไปดู ก็พบว่าร่างของนางปาร์กล้มลงกับพื้นทราย ซึ่งขณะนั้นนางและนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ กำลังไปรอชมพระอาทิตย์ตกริมชายหาด หลังจากนั้นเห็นกลุ่มทหารเกาหลีเหนือวิ่งเข้ามาดูศพ และใช้เท้าเขี่ยร่างนางปาร์กอย่างไม่ไยดี

แพทย์ระบุว่า นางปาร์กเสียชีวิตจากการถูกกระสุนปืน 2 นัดยิงเข้าที่หน้าอกและสะโพก ส่วนทางการเกาหลีใต้ ขณะนี้กำลังตรวจสอบคำอ้างของเกาหลีเหนือที่ว่า ทหารได้ตะโกนเตือนนางปาร์กและยิงปืนขู่ ก่อนที่จะตัดสินใจลงมือสังหารนาง.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 08:13:22

พายุที่เม็กซิโกมีกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอริเคน​

​

เม็กซิโก ซิตี้ 13 กค. - ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ รายงานว่า พายุโซนร้อนเอลิด้า ซึ่งก่อตัวขึ้นเมื่อเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น นอกชายฝั่งทะเลแปซิฟิกในอ่าวเม็กซิโก อาจยกระดับเป็นเฮอริเคน ในอีก 2 วันข้างหน้านี้

พายุเอลิด้ามีความเร็วลมสูงสุด 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 5 ของฤดูกาลนี้ โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างไปทางใต้ของรีสอร์ทอคาปุลโก 380 กิโลเมตร และเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกถึงตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะมีกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอริเคน ในค่ำวันอาทิตย์หรือวันจันทร์นี้ ศูนย์พยากรณ์อากาศเตือนภัยว่า อิทธิพลของพายุลูกนี้ อาจทำให้เกิดลมแรงไปทั่วพื้นที่ดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 09:32:20

ควบคุมไฟป่าแคลิฟอร์เนียได้แล้วบางส่วน​

​

แคลิฟอร์เนีย 13 ก.ค.-หลายพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียยังต้องเผชิญกับไฟป่าอยู่ต่อไป แม้พนักงานดับเพลิงจะสามารถควบคุมเปลวเพลิงได้แล้วบางส่วน

แม้ไฟป่ายังเผาทำลายบางส่วนของเมืองบริเวณเชิงเขาเซียรา เนวาดา ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวานนี้ แต่พนักงานดับเพลิงสามารถควบคุมไฟป่าส่วนนี้ไว้ได้แล้ว จากจำนวนนับร้อย ๆ จุดที่โหมไหม้ทั่วพื้นที่ในรัฐนี้
นายอาร์โนลด์ ชวาเซเนเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งระดมหน่วยป้องกันเพิ่มอีก 2,000 นาย สมทบพนักงานดับเพลิง 400 นายที่กำลังปฏิบัติภารกิจ นอกจากนี้ ทางการออสเตรเลีย แคนาดา กรีซ เม็กซิโก และนิวซีแลนด์ ยังได้ส่งพนักงานดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิงมาให้ความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ยอมรับเมื่อวานนี้ว่า ยังมีบ้านเรือนประมาณ 300 หลังอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่ก็น้อยกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ที่ 3,800 หลัง เมื่อวันศุกร์.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 04:33:28

ชาวเกาหลีใต้ยังปักหลักประท้วงนำเข้าเนื้อวัวของสหรัฐ​

​

เกาหลีใต้ 13 ก.ค.-ชาวเกาหลีใต้ปักหลักประท้วงการนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐท่ามกลางสายฝน

การประท้วงเนื้อวัวสหรัฐยังคงยืดเยื้อตลอดช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมหลายพันคนปักหลักประท้วงท่ามกลางสายฝนในกรุงโซล โดยกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งยุติการนำเข้าเนื้อวัวจากสรัฐ และต้องการให้ประธานาธิบดีลี มยอง บัก ลาออก เพราะไม่ยอมฟังเสียงของประชาชน

นับแต่มีการทำข้อตกลงนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐรอบใหม่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกาหลีใต้ได้นำเข้าและวางจำหน่ายเนื้อวัวสหรัฐไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะนำเข้าเนื้อวัวล็อตใหม่ปลายเดือนนี้ โดยร้านค้าขนาดใหญ่ส่วนมากปฏิเสธที่จะขายเนื้อวัวจากสหรัฐ ส่วนเนื้อวัวที่วางจำหน่ายในร้านขนาดเล็กกลับขายหมดลงอย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 07:19:24

คนขับรถบรรทุกน้ำมันในไนจีเรียประท้วงน้ำมันแพง

​

ไนจีเรีย 13 ก.ค.-คนขับรถบรรทุกน้ำมันในไนจีเรียรวมตัวประท้วงปัญหาราคาน้ำมันแพงและเรียกร้องให้นายจ้างขึ้นเงินเดือน

กลุ่มคนขับรถบรรทุกน้ำมันในไนจีเรียพร้อมใจกันนัดหยุดงานทั่วประเทศอย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงปัญหาราคาน้ำมันแพง รวมถึงสภาพของท้องถนนและการต้องถูกตำรวจจราจรตามรีดไถ โดยปัจจุบันราคาน้ำมันในทั่วโลกได้ขยับขึ้นแล้ว 50% นับแต่ต้นปีนี้ ก่อให้เกิดกระแสการประท้วงในทั่วโลก และสร้างความวิตกกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ และล่าสุดเมื่อวันศุกร์ ราคาน้ำมันดิบในตลาดสหรัฐ ขยับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะใกล้เคียงระดับ 147 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ไนจีเรียเป็นหนึ่งในประเทศส่งออกน้ำมันดิบยักษ์ใหญ่อันดับ 8 ของโลก แต่โรงกลั่นน้ำมันของภาครัฐมักประสบปัญหาในการผลิต อันเนื่องจากการบริหารงานที่ผิดพลาด และปัญหาการลักลอบทำลายทรัพย์สินทำให้การผลิตหยุดชะงัก.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 04:32:53

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เพนตากอนแฉ “บุช” ให้ไฟเหลืองอิสราเอลถล่มอิหร่าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 กรกฎาคม 2551 14:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=246 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=246> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดีบุช</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ไทมส์ออนไลน์ - ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐฯ บอกกับรัฐบาลอิสราเอล ว่า เขาอาจอนุมัติโจมตีทางทหารเล่นงานโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในอนาคต หากว่าการเจรจากับเตหะรานล้มเหลว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนเผย

แม้ว่าจะถูกคัดค้านจากบรรดาผู้บัญชาการทหารของเขา และมีความสงสัยอย่างกว้างขวางว่าอเมริกาพร้อมเสี่ยงในผลต่อเนื่องทางทหาร การเมืองและเศรษฐกิจ จากการโจมตีทางอากาศใส่อิหร่านหรือไม่ แต่ประธานาธิบดีได้ให้ไฟเหลืองสำหรับแผนการของอิสราเอลในการถล่มที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านด้วยเครื่องบินจู่โจมพิสัยไกล เจ้าหน้าที่บอกกับซันเดย์ไทมส์

“ไฟเหลืองหมายถึงคุณต้องอยู่ในขั้นเตรียมตัว พร้อมสำหรับการโจมตีในทันที และบอกจะเราเมื่อคุณพร้อม” เจ้าหน้าที่บอก แต่ระบุว่า ทางสหรัฐฯบอกกับอิสราเอลว่าการโจมตีดังกล่าวอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทหารอเมริกันและจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานทัพทหารสหรัฐฯในอิรักเป็นกองกำลังสนับสนุน

ใช่ว่าไฟเหลืองของบุช จะสามารถเปลี่ยนเป็นเขียวเข้าสังหารฝ่ายศัตรูอิหร่านโดยปราศจากหลักฐาน แม้ว่าอิหร่านได้ดำเนินการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางหลายลูกเมื่อสุปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งวอชิงตัน มองว่า เป็นการยั่วยวน แต่ทั้งเพนตากอน และ ซีไออี ลงความเห็นว่าพวกเขายังไม่ได้สำแดงอะไรที่เป็นภัยคุมคามที่จะโจมตีอิสราเอลหรือผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

“มันขึ้นอยู่กับอิราเอล” เจ้าหน้าที่เพนตากอน กล่าวต่อ “รัฐบาลชุดนี้จะไม่โจมตีอิหร่าน เรื่องนี้ได้มีการตัดสินใจแล้ว แต่ท่านประธานาธิบดีเคร่งเครียดกับภัยคุกคามนิวเคลียร์ที่มีต่ออิสราเอลและผมรู้ว่าเขาไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น นอกจากกำลังทหารที่จะยับยั้งอิหร่าน”

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวเสริมว่าถ้าอิสราเอลไม่มีแผนที่มั่นคงในการใช้กำลังทหารโจมตีอิหร่าน ไฟเหลืองจะไม่มีทางกลายเป็นไฟเขียว

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000082306

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เที่ยวทะเล ระวังร่องน้ำดูด เสียชีวิตแล้วหลายราย

​

กลายเป็นข่าวให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์อยู่เป็นประจำ สำหรับการเสียชีวิตจากการไปเล่นน้ำทะเล ที่บริเวณหาดแม่รำพึง จ.ระยอง หรือกระทั่งหาดอื่นๆ ในทะเลไทย ทั้งๆ ที่ผู้เล่นไม่ได้ว่ายออกไกลจากฝั่งเท่าไรนัก ล่าสุดก็เพิ่งมีเด็กนักเรียนจาก จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตไปอีก 1 รายนั้น ​

ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไม น้ำทะเลบางแห่ง ถึงได้ดูดคนเล่นน้ำออกไปสู่ทะเลลึก! มันเป็นอาถรรพ์ หรือมีเหตุผลอื่นๆ? ​

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสมุทรศาสตร์และสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง บอกว่า ปกติชายหาดแต่ละพื้นที่จะมีลักษณะทางธรณีวิทยาแตกต่างกัน ทำให้บางฤดูไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ โดยฝั่งอ่าวไทยในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้โอกาสที่จะได้รับอันตรายจากคลื่นลมแรงมีมาก เพราะชายฝั่งส่วนใหญ่มีลักษณะเปิด เมื่อมีคลื่นเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่งที่มีลักษณะตรงหรือโค้ง บวกกับความแรงที่ผิวน้ำ และลักษณะความลึกที่ไม่เท่ากัน โอกาสที่จะเกิดการเบี่ยงเบนของคลื่นของฝั่งซ้ายและขวาที่ปะทะกันทำให้เกิดแรงดันน้ำดูดลงไปใต้น้ำ โดยคนที่อยู่ในตำแหน่งพอดีจะถูกคลื่นดูดลงไปที่ก้นอ่าว ​

"เวลาที่น้ำดูด ถ้าเป็นคนว่ายน้ำแข็งจะพยายามว่ายกลับมาจุดเดิม แต่มักจะถูกน้ำพาไหลออกไปเรื่อยๆ วิธีการช่วยเหลือเบื้องต้นคือ ต้องว่ายเลี่ยง น้ำดูดไม่ใช่มีแต่ในอ่าวไทย แต่ฝั่งอันดามัน เช่น หาดกะตะ กะรน ป่าตอง และสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ก็มีคนเสียชีวิตจากน้ำดูดในช่วงมรสุมเช่นกัน" ดร.สมเกียรติ กล่าว
​

​

ด้านนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางอุทยานฯ มีการติดป้ายเตือนนักท่องเที่ยว และติดธงบริเวณหาดแม่รำพึงให้ระวังอันตรายจากการเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวแล้ว และมีรถตระเวนเตือนนักท่องเที่ยวเป็นประจำ ซึ่งหาดดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว เพราะเป็นหาดที่มีคลื่นแรง และลักษณะของหาดลาดเทลงไปในทะเล หากเล่นน้ำโดยไม่ระมัดระวังก็อาจจะเกิดอันตรายได้ ​

อย่างไรก็ตาม ลักษณะดังกล่าวนี้มีชื่อเรียกว่า "rip current หรือ ริปเคอร์เร้นท์" เป็นกระแสน้ำที่พัดในแนวตั้งฉากกับชายฝั่งออกสู่ทะเล โดยเกิดจากการที่น้ำทะเลถูกอุปสรรคใต้น้ำปิดกั้นมิให้ไหลกลับคืนท้องทะเลได้สะดวกนอกจากบางช่องทางเท่านั้น หรือเกิดจากการที่น้ำไหลพัดสอบมาปะทะแล้วไหลย้อนกลับ ออกไปในทะเล อุปสรรคเช่น แนวหิน แนวปะการัง หรือสันทรายที่อยูใต้น้ำแนวหินหรือแนวปะการังมักจะอยู่คงที่ และเจ้าหน้าที่สามารถบอกเตือนกันได้ แต่แนวสันทรายมักจะมีการเคลื่อนพังหรือก่อตัวขึ้นใหม่ ยากแก่การระวังป้องกัน ​

นอกจากนี้ "rip current" ยังเกี่ยวพันกับฤดูกาล และสภาพอากาศหลังฝนตกหนักหรือในช่วงวันที่คลื่นน้ำทะเลปั่นป่วน มักจะมีผลให้ทรายตามชายหาดพังไหลย้อนลงไปตกตะกอนนอกแนวขอบชายฝั่งทะเล ซึ่งทรายเหล่านี้เองเป็นสันทรายใต้น้ำที่ขัดขวางการไหลย้อนกลับของน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าฝั่งด้วยอิทธิพลของคลื่น น้ำทะเลจำนวนมากถูกบังคับให้ไหลกลับออกไปในช่องเปิดของของสันทราย และกลายเป็น RipCurrent ที่ทรงอานุภาพพร้อมจะปลิดชีพของคนที่ไม่รู้จักมัน เพราะฉะนั้น หลังฝนตกหนัก หรือ หลังจากวันที่ทะเลปั่นป่วน จงงดลงเล่นน้ำทะเลสักสองสามวัน เพราะหลังจากนั้นสันทรายทะเลที่เกิดขึ้นจะพังและทราย ก็จะถูกกอบขึ้นมากองบนหาดทรายตามเดิม
​

​

เมื่อคลื่นม้วนตัวกลับลงทะเลหลังจากซัดเข้ากระทบฝั่ง สันและเนินทรายต่างๆ ที่วางตัวเรียงอยู่ใต้พื้นน้ำจะเป็นอุปสรรคขวางไม่ให้น้ำไหลคืนลงทะเลได้สะดวก ทำให้น้ำจะไปไหลรวมกันย้อนลงทะเลที่ช่องรอยต่อระหว่างสันทราย เกิดเป็นกระแสดูดออกจากฝั่งที่เรียกว่า Rip Current กระแสน้ำที่เกิดขึ้นนี้อาจจะมีความเร็วได้ตั้งแต่ 0.5-2.5 เมตร/วินาที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่น และสภาพพื้นทะเลใต้ผิวน้ำ ​

​

อันตรายของ Rip Current จะเกิดกับคนที่ไม่รู้วิธีรับมือกับมันเมื่อตกเข้าไปในกระแสของมัน เพราะธรรมชาติของคนเรามักจะว่ายน้ำสวนทวนกระแสของ Rip Current ซึ่งก็มักจะแพ้และหมดแรงต้านทานในที่สุด ซึ่งริปเคอร์เร้นท์สามารถเกิดขึ้นได้เกือบทุกหาด โดยขึ้นอยู่ที่ความแรงของกระแสน้ำเป็นหลัก ​

​

วิธีแก้ไขเมื่อตัวเองอยู่ในริปเคอร์เร้นท์ คือ อย่าพยายามว่ายเข้าฝั่งทันที เพราะคุณจะไม่สามารถสู้แรงน้ำได้ ทางที่แนะนำคือ ต้องออกมาจากมันด้วยการว่ายน้ำทางขวางกับกระแส หรือให้ง่าย ๆ คือ ว่ายขนานกับชายฝั่งจนแน่ใจว่าเราไม่ถูกดูดออกไปแล้ว จึงค่อยว่ายเข้าหาฝั่งอีกทีค่ะ
​

อย่าเล่นน้ำทะเลขณะลมแรง​

อืม… Rip Current นี้ถือเป็นปรากฎการณ์ที่น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลย ดังนั้น หาก "ทะเล" เป็นช้อยส์ต่อไปในการเดินทางไปพักผ่อนของเพื่อนๆ ล่ะก็ อย่าลืมเช็คข้อมูลกันหน่อย ที่สำคัญต้องสังเกตป้ายเตือนบริเวณหาดก่อนลงเล่นน้ำ ไม่งั้นทริปดีๆ อาจเปลี่ยนเป็นเรื่องน่าเศร้าได้นะคะ ​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก Forward mail โดยคุณ Lamdual_T และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ที่มา http://hilight.kapook.com/view/26363​

 

-*-

 

-*-

 

นอสตราดามุสหญิง' เมืองไทย <table style="width: 480px;"> <tbody><tr> <td valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="top"></td></tr><tr><td class="messageblack" align="center" height="20" valign="middle">
</td></tr><tr><td align="center" valign="top"></td></tr><tr><td class="messageblack" align="center" height="20" valign="middle">
</td></tr><tr><td align="center" valign="top"></td></tr><tr><td class="messageblack" align="center" height="20" valign="middle">
</td></tr><tr><td align="center" valign="top"></td></tr><tr><td class="messageblack" align="center" height="20" valign="middle">
</td></tr></tbody></table>
</td> </tr> <tr> <td class="message-normal" style="height: 10px;" align="center" valign="top"> <script type="text/javascript"> // URLs of slides var slideurl = new Array('http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/witeecheewit/7/13/169953_79383.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/witeecheewit/7/13/169953_79384.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/witeecheewit/7/13/169953_79385.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/witeecheewit/7/13/169953_79386.jpg') ; // Comments displayed below the slides var slidecomment = new Array('','','',''); var picNo = new Array('0','1','2','3'); var i; var j; var picturecontent='' function poppic(ncId,NewsType,picNum){ window.open('../../html/popup_news/popup_news_popuppic.htm?' + slideurl[picNum] + '?Daily News Online : Witeecheewit','','resizable=1,HEIGHT=200,WIDTH=200'); } function createtable(){ picturecontent ='<table width=100% cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0>' ; for (i=0;i<=(slideurl.length-1);i++) {picturecontent +='<tr>' ;picturecontent +='<td vAlign=top align=center>' ;picturecontent += '';picturecontent += '' ;picturecontent += '</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;picturecontent +='<tr>' ;picturecontent += '<td class=messageblack vAlign=middle align=center height=20>' ;picturecontent+=slidecomment ;picturecontent +='</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;}picturecontent+='</table>' ; document.getElementById("hlblTable").innerHTML=''+picturecontent+''; } createtable();</script>
</td> </tr> </tbody></table> </td> <td valign="top"> 'ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ' กับ 'คำทำนายระทึกขวัญ !!'

ชื่อของ “ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ” เคยถูกกล่าวขวัญถึงอย่างมากหลังจากทำนายเกี่ยวกับ “ภัยพิบัติใหญ่” แล้วมีคนนำออกมาเผยแพร่ ซึ่งภายหลังบุคคลผู้นี้ก็ออกมายืนยันว่าเป็นคำทำนายของตนเองจริง แต่ข้อมูลที่เผยแพร่มีความผิดเพี้ยนไป อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์หลายครั้งก็ทำให้มีหลายคนติดตามดูผลคำทำนายว่า...แม่น-ไม่แม่น ?? เธอผู้นี้เป็นใคร-อย่างไร ?? วันนี้ทีม “วิถีชีวิต” จะพาไปทำความรู้จัก.....

@@@@@​

ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ เล่าว่า ในอดีตเป็นกลุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ณ วันนี้มีอาชีพเป็น “นักวิทยาศาสตร์การแพทย์” เรียน จบจากต่างประเทศ จบปริญญาโทด้านชีวเคมีและพันธุกรรมจากออสเตร เลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งปัจจุบันให้ความสนใจการนั่งสมาธิและการ “ค้นคว้าทางจิต” โดยเป็นประธานชมรมวิถีธรรม-วิถีไท ทั้งนี้ กับ “สัมผัสพิเศษ” หรือ “ซิกซ์เซนส์” ดร.กัญจีราบอกว่าเกิดกับตัวตั้งแต่เด็ก

ครั้งหนึ่งได้บอกคนรู้จักว่าอีกไม่กี่วันจะมีอุบัติเหตุมีฝรั่งตายหลายคน แล้วก็มีรถทหารจัสแม็กซ์คว่ำตายจริง ๆ และเมื่อตอนลงไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้ก็เห็นภาพโจรก่อการร้ายจะซุ่มโจมตีก่อนล่วงหน้าจึงเล่าให้หัวหน้าฟัง ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง หรือการปฏิวัติยุค รสช. ก็บอกผู้ใหญ่ไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ก็เกิดขึ้น ทั้งยังเคยทำนายว่าคนไทยจะมีนายกรัฐมนตรีที่มีชื่อทิศใต้ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครคาดคิด แต่ผลก็ออกมาตามนั้น และยังมีอีกหลายคำทำนายที่ตอนแรกฟังแล้วอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง อาทิ สงครามอิรัก วิกฤติค่าเงินบาท เหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรด จนทำให้เจ้าตัวถูกเรียกว่าเป็น “นอสตราดามุสหญิง...เมืองไทย”

“คนมักถามว่ารู้ได้อย่างไร เราก็บอกว่าคำตอบมีอยู่แล้ว เพียงแต่จะเจอคำตอบเมื่อไหร่ เหมือนนักวิจัยเก็บข้อมูลไปเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งก็มีคำตอบให้ บางคนมองว่างมงาย แต่เราคิดว่าเรื่องจิตสามารถอธิบายให้เป็นรูปธรรมในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ จึงตั้งใจค้นคว้าเพื่อหาคำตอบ”

ในช่วงเริ่มต้นค้นคว้านั้น ดร.กัญจีรา บอกว่า เกิดเหตุประหลาดหลายครั้ง เช่นมีโอกาสเจอ “อ.ภาวาด บุนนาค” ซึ่งไม่เคยเจอตัวจริงกันเลย แต่พบกันในนิมิต 5 ครั้ง ได้กล่าวอะไรหลายอย่าง ทำให้เกิดความต้องการรู้ อยากศึกษาค้นคว้าพิสูจน์ แต่กว่าจะตามหาเจอท่านก็ถึงแก่กรรมไปแล้ว ก็ได้คุยกับคนสนิทของท่านว่าสิ่งที่ท่านบอกนั้นจริงหรือไม่ ปรากฏว่าจริง เรื่องการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ตรงนี้ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจ

ช่วงปี 2531-2532 เริ่มจริงจัง ทุ่มเท นั่งสมาธิ สวดมนต์ จากนั้นก็ฝึกสมาธิบำบัดซึ่งเป็นศาสตร์หนึ่งที่เอาสมาธิมาผนวกกับการเคลื่อนไหวที่ได้ประโยชน์กับร่างกาย แล้วให้จิตเฝ้าระวังดูการเคลื่อนไหวของเรา

“ส่วนการทำนาย ทุกครั้งก็ไม่ได้พูดส่งเดช แต่มีหลักความเป็นไปได้ ส่วนใหญ่จะมองจะวิเคราะห์เป็นรายปี ถามว่าเคยพลาดไหม ตรงนี้แหละที่แปลก อย่างเหตุการณ์พายุนาร์กีสที่พม่า แผ่นดินไหวที่จีน ก็เคยเตือนไว้ตอนปี 2548-2549 ว่ามันจะเกิด มันก็เกิดขึ้นในปี 2551 จริง ๆ”

ปลายปี 2550 เตือนย้ำเรื่องพม่า จีน และต่อที่อินโดนีเซีย เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และกระทบถึง ศรีลังกากับอินเดีย ต่อเนื่องมาที่ลาว ซึ่งถ้าลาวแผ่นดินไหวไทยก็ต้องเจอ แต่ไม่รู้ว่าวงจรนี้จะเกิดเมื่อใด ?

สำหรับคำทำนายที่เกี่ยวกับไทย ดร.กัญจีรา บอกว่า “สัญญาณอันตรายจะเกิดขึ้นด้วยคลื่นความถี่ ภาพภัยพิบัติล่าสุดที่เห็นคือ ภูเขาไฟในอินโดนีเซียปะทุและระเบิด เกิดคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย ไม่ใช่สึนามิ แต่จะเป็นคลื่นที่ระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมเข้ามาพร้อม กับพายุที่มีความรุนแรงกว่าปกติ คนที่อยู่แถวริมทะเลจะได้รับผลกระทบ อาทิ เพชรบุรี สมุทร ปราการ”

ดร.กัญจีรา อธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ว่า จากภาพที่เห็นตั้งสมมุติฐานว่าบริเวณอ่าวไทย เลียบชายฝั่งเป็นดินใหม่ที่มีโคลน เมื่อมีการขยับตัวของแผ่นดินเกาะสุมาตราก็จะมี ลักษณะเหมือนโดมิโน เมื่อตรงนี้ขยับตรงโน้นก็ขยับต่อทีละนิดไปเรื่อย ๆ ในอ่าวไทยมีหลุมใหญ่จากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ สูบน้ำมันมานาน 20-30 ปี ของเหลวถูกสูบขึ้นมา ความสมดุลของโลกก็สูญเสียไป ฉะนั้นแผ่นดินต้องเลื่อนลงไปทดแทน พื้นทรายทรุดตัวลงช้า ๆ สิ่งที่เข้าไปแทนที่คือ ทราย ฟองอากาศ พื้นดินจะขยับไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องมีผลกระทบ

“ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้านี้ ไทยจะพบภัยพิบัติธรรมชาติรุนแรง จะเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินทรุด กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมแผ่นดินไหวมีตึกสูงถล่ม ภาคใต้จะเกิดคลื่นพายุหนัก โดยภัยธรรม ชาติจะเกิดขึ้น 3 ช่วงคือ 1.วันที่ 26-27 ก.ค., 2.วันที่ 17-18 ส.ค., 3.ช่วงรอยต่อของวันที่ 23 ต.ค.-7 พ.ย. ซึ่งจะเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดที่กระทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรม ราช แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือ จะมีน้ำป่าไหลหลากรุนแรง ภูเขาเกิดแตก โดยเฉพาะที่ น่าน แพร่ และที่ อ.เถิน จ.ลำปาง เพราะมีการขุดเจาะภูเขาทำเหมืองกันมาก”

นักวิทยาศาสตร์ผู้สนใจค้นคว้าทางจิตบอกต่อไปว่า... ถนนบ้านเราสร้างตามใจนักการเมือง ไม่ใช่ผังเมือง ทำให้ถนนหลายสายเหมือนกับเขื่อนกั้นน้ำจากภาคเหนือสู่ภาคใต้ ทำให้มีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ และเคยดูไว้เมื่อปี 2549 ว่าปี 2551 นี้น้ำฝนจะมากกว่าปกติ เพราะร่องความกดอากาศเคลื่อนที่สู่ภาคเหนือ แล้วนำลมมรสุมมาตก ทำให้ปริมาณน้ำในภาคเหนือเกิดการสะสม พอมากเข้าก็ไหลลงใต้ มีน้ำทะเลหนุน ทำให้ภาคกลางที่เป็นพื้นที่ลุ่มหรือทำให้กรุงเทพฯ ต้องเจอน้ำท่วมใหญ่แน่นอน “ไม่ถึงขนาดกับมิดหัว ประมาณเอวถึงอก” แม้จะมีการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ไข แต่ก็คงแก้ไม่ได้ เพราะไม่ทันแล้วกับวิกฤติต่าง ๆ ที่รุนแรงที่จะเกิดขึ้น

@@@@@ ​

ดร.กัญจีรายังบอกด้วยว่า สิ่งที่เห็นไม่ใช่ญาณ ไม่ใช่นิมิต แต่เป็นคลื่นที่มีการเก็บข้อมูลไว้แล้วส่งเข้ามา โดยที่สามารถรับคลื่นตรงนั้นได้ ซึ่งตามหลักวิทยาศาสตร์ทุกคนมีพลังงาน “คลื่นแม่เหล็ก” ที่ออกมารอบตัว แต่ตนเองมีคลื่นละเอียดกว่าจึงสัมผัสเข้าถึงได้ดีกว่า และแปรผลออกมาเป็นภาพ และเมื่อคลื่นจิตในสมองสงบก็สามารถ จูนคลื่นในอากาศได้ ทำให้รับรู้หรือเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ ทั้งที่เคยเกิดและยังไม่เกิดขึ้น

“วิกฤติต่าง ๆ ที่รุนแรงจะเกิดขึ้นใน 2 ปีนี้” เป็นอีกคำทำนายระทึกขวัญที่ “ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ” ระบุ และกำลังรอการพิสูจน์ความแม่น ของ “นอสตราดามุสหญิง...เมืองไทย” คนนี้ !!.

'ความจริง...ที่รอการพิสูจน์ ?'

ดร.กัญจีราบอกว่า ตามวงจรโลกทุก 500 ปีโลกจะสวิงกลับ เช่นเมื่อ 1,000 ปีที่แล้วจีนเจริญรุ่งเรืองมาก แล้วถดถอย ตะวันตกเจริญพัฒนาขึ้น และช่วงนี้ตะวันตกถดถอยลง ตะวันออกก็จะกลับมาเฟื่องฟูอีก จะสวิงไปมาแบบนี้ ซึ่งคิดตามหลักวิทยาศาสตร์อาจเป็นผลจากพลังงานแม่เหล็กโลกที่เคลื่อนที่ตลอดเวลา ที่สำคัญทุก 3,000 ปีโลกจะเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศวิทยาทุกครั้ง จะเกิดขึ้นเพราะวงจรของโลก จากคลื่นพลังงานที่หมุนรอบโลก หรือแม้แต่สสารที่อยู่ในโลกก็มีการเคลื่อนย้ายหมุนเวียน ซึ่งวงจรพลังงานที่เคลื่อนที่มีผลต่อสสาร เมื่อสสารข้างในเคลื่อนที่ มันก็มีผลต่อเปลือกโลก ผลกระทบก็จะเกิดกับมนุษย์และธรรมชาติที่อยู่บนพื้นพิภพ

ก่อนหน้านี้ ดร.กัญจีราจะเก็บตัว เพิ่งจะยอมเปิดให้สัมภาษณ์กับทีมวิถีชีวิต ซึ่ง ดร.กัญจีราบอกว่า ที่ให้สัมภาษณ์เพราะอยากเตือนสติคน อยากให้คนไทยตระหนักรู้ โดยช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ซึ่งได้เคยทำนายเตือนมาตั้งแต่ปี 2545 ว่าในช่วงปี 2551-2552 จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

“ภัยที่เกิดขึ้นนอกจากรับรู้ด้วยโสตประสาทและตาที่สามแล้ว ยังได้ศึกษาข้อมูลวิทยาศาสตร์ แผนที่โลก ภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา เพราะสิ่งที่พูดต้องชัดเจนและตรวจสอบได้ ที่ออกมาพูดวันนี้เพื่อให้เกิดสติ ตระหนักรู้ ไม่ประมาทกับชีวิต พร้อมทั้งเตือนหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เตรียมรับมือปัญหา เพื่อจะได้แก้ไขทัน คนเราวันหนึ่งต้องตาย เมื่อมีชีวิตอยู่อย่าหายใจทิ้งไปวัน ๆ เร่งสร้างกุศลบารมี และความดี สิ่งนี้เท่านั้นที่จะติดตัวเราไปได้ ไม่ได้ต้องการอวดอ้างตัวหรืออยากดัง ไม่ใช่หมอดู ไม่ใช่นักโหราศาสตร์ นักพยากรณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พูดคือความจริง ที่รอการพิสูจน์” ดร.กัญจีรากล่าว.
</td> </tr> </tbody></table>

 

สหรัฐอาจถอนทหารในอิรักช่วยภารกิจอัฟกานิสถาน ​

​

วอชิงตัน 13 ก.ค. - สหรัฐกำลังพิจารณาแผนเพิ่มการถอนทหารออกจากอิรักในเดือนกันยายนนี้เพื่อรับมือสถานการณ์รุนแรงในอัฟกานิสถาน

หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์อ้างถึงแหล่งข่าวในคณะรัฐบาลและกลาโหมสหรัฐระบุว่า ความต้องการกำลังพลสนับสนุนในอัฟกานิสถาน ซึ่งกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มรวมทั้งกลุ่มตอลีบานกำลังโหมก่อเหตุรุนแรงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผลักดันให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มการถอนทหาร โดยที่ผ่านมาพบว่า กำลังพลสหรัฐและชาติพันธมิตรที่สูญเสียไปในอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้นสูงกว่าตัวเลขในอิรักแล้ว

แหล่งข่าวรายงานต่อว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการสรุปแผนถอนทหาร แต่คาดว่า รัฐบาลสหรัฐจะถอนกำลังรบหรือกำหนดการถอนกำลัง 1-3 กองพลจากทั้งสิ้น 15 กองพลในอิรักก่อนที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า เนื่องจากขณะนี้หลายฝ่ายในกระทรวงกลาโหมสหรัฐเห็นว่าจำเป็นจะต้องส่งกำลังสนับสนุนสู่อัฟกานิสถาน และเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจอื่น ทั้งนี้ มีการประเมินว่า แม้สหรัฐจะถอนกำลังทหารจำนวนมากจากอิรัก แต่ก็จะยังคงมีกำลังพลประจำการอยู่ในอิรักราว 120,000-130,000 นาย. - สำนักข่าวไทย

2008-07-13 10:49:53

ฝูงนกแบล็กเบิร์ดในอังกฤษก่อเสียงสร้างความรำคาญให้ชาวบ้าน

​

อังกฤษ 13 ก.ค.-ชาวอังกฤษในเมืองเวสตัน ซูเปอร์ แมร์ ต้องพากันปวดหัว เพราะเสียงร้องของนกแบล็กเบิร์ดในฤดูผสมพันธุ์

ฝูงนกแบล็กเบิร์ดในเมืองดังกล่าว ที่ส่งเสียงร้องกันตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนพลบค่ำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะนกเหล่านี้สามารถเลียนแบบเสียงได้สารพัดชนิดทั้งเสียงไซเรนรถพยาบาล เสียงเครื่องยนต์ เสียงหมาหอน แม้กระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือ ชาวบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวสกายนิวส์ว่า เธอต้องตื่นขึ้นมาทุกเช้าตรู่ เพราะทนเสียงของนกพวกนี้ไม่ไหว

เธอบอกว่าในช่วงแรกๆ ก็รู้สึกดีที่ได้ยินเสียงของพวกมัน เพราะปกติแล้วนกแบล็คเบิร์ดมักจะไม่ค่อยส่งเสียงร้องเลียนแบบเสียงต่างๆ บ่อยนัก แต่หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ก็เริ่มรู้สึกรำคาญ แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดีของชาวเมืองเวสตัน ซูเปอร์ แมร์ เพราะขณะนี้ฝูงนกแบล็คเบิร์ดได้อพยพออกไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 11:14:59

ฝนตกหนักที่ฮ่องกง ทำให้น้ำท่วมหลายสิบจุด​

​

ฮ่องกง 13 ก.ค.-ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้หลายพื้นที่บนเกาะฮ่องกงต้องจมอยู่ใต้น้ำ และเกิดดินถล่ม 2 จุด

พายุฝนฟ้าคะนองและปริมาณฝนที่มากกว่า 150 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมทั่วเกาะฮ่องกงเกือบ 40 จุด และเกิดดินถล่มใน 2 จุด แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดอยู่ในย่านไซกุง โดยในบางจุดถูกน้ำท่วมสูงถึงระดับเอว ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกไปแจ้งเตือนประชาชนตามบ้านเรือน และเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังต้องเร่งกำจัดดิน หิน และเศษซากต่างๆ ที่เกิดจากดินถล่มลงมาปิดถนน ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าจะยังคงมีฝนต่อเนื่องไปอีกราว 1 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย

2008-07-13 10:25:40

อิหร่านสำรวจพบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่​

​

เตหะราน 13 ก.ค.- สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่าน รายงานว่า อิหร่านสำรวจพบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ ที่คาดว่าจะมีน้ำมันดิบมากถึง 1,100 ล้านบาร์เรล

รัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่าน ออกมาให้ข้อมูลผ่านสื่อในวันนี้ โดยบอกว่า แหล่งน้ำมันแห่งใหม่ที่สำรวจพบมีน้ำมันดิบมากถึง 1,100 ล้านบาร์เรล และมีอยู่ 220 ล้านบาร์เรล ที่สามารถขุดขึ้นมาได้ โดยแหล่งน้ำมันแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่ใกล้เมืองแอนดิเมชก์ ในจังหวัดคูเซสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน อยู่ห่างจากกรุงเตหะราน ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 450 กิโลเมตร

อิหร่านถือเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก ควบคุมปริมาณน้ำมันทั่วโลกถึงร้อยละ 5. -สำนักข่าวไทย

2008-07-13 19:48:04

กรีนพีซปีนหอไอเฟลต่อต้านโครงการนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส

​

ปารีส 13 ก.ค.- สมาชิก 15 คน ของกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ ได้ปีนหอไอเฟลในวันนี้ แล้วคลี่แผ่นผ้า แสดงภาพโลโก้นิวเคลียร์อยู่ตรงกลาง โดยมีดาวล้อมกันเป็นวงอยู่ด้านนอก ซึ่งดาวที่ล้อมกันเป็นวง ก็หมายถึงสัญลักษณ์ของกลุ่มสหภาพยุโรปนั่นเอง และที่ต้องมีโลโก้นิวเคลียร์อยู่ข้างใน ก็เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายพลังงานนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส

กลุ่มกรีนพีซในฝรั่งเศส บอกว่า นับจากฝรั่งเศสได้เป็นประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรป ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ก็ทำทุกทางเพื่อที่ฝรั่งเศสจะสามารถขายพลังงานนิวเคลียร์ให้แก่ประเทศอื่น จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่ไปร่วมประชุมเวทีสหประชาชาติ สภายุโรป หรือในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 8 ชาติ หรือ จี 8 ผู้นำฝรั่งเศสต้องพกนโยบายซื้อขายพลังงานนิวเคลียร์ไปด้วยทุกครั้ง เป็นการใช้เวทีการเมืองระหว่างประเทศเพื่อโฆษณาขายพลังงานนิวเคลียร์ของตัวเอง

และที่กรีนพีซต้องประท้วงในเรื่องนี้ เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อน เพิ่งเกิดเหตุยูเรเนียมรั่วออกมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส โดยของเหลว 30 ลูกบาศก์เมตร ที่มียูเรเนียมปนเปื้อนอยู่ ได้รั่วซึมลงสู่ผืนดิน และกระจายลงแหล่งน้ำ สร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ซึ่งเดิมทีก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ที่ประธานาธิบดีซาร์โกซี ประกาศจะสร้างโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มเติมในประเทศ. -สำนักข่าวไทย

2008-07-13 19:17:11

จีนเผชิญทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม​

​

จีน 14 ก.ค. - จีนเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง โดยพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือเผชิญกับความแห้งแล้งและคลื่นความร้อน แต่ทางภาคใต้กลับเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่

หลายพื้นที่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย และมณฑลกานซู กำลังเผชิญกับภัยแห้งแล้งอย่างหนัก หลังมีปริมาณฝนตกน้อยมากตลอดปีที่ผ่านมา แถมยังเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยในวันนี้อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 38 องศาเซลเซียส เกษตรกรต้องนำผ้าพลาสติกมาคลุมพื้นที่เพาะปลูก เพื่อไม่ให้พืชขาดน้ำ ขณะที่ทางการต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ เช่น ลดเติมน้ำลงสระน้ำ รวมถึงการล้างรถ

ด้านสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานว่า พื้นที่หลายเมืองของมณฑลยูนนาน กวางตุ้ง และเขตปกครองตนเองกวางสี ทางภาคใต้ กลับต้องเผชิญภาวะน้ำท่วม เนื่องจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะที่เมืองฉีกัง เขตปกครองตนเองกวางสี เกิดฝนตกหนักถึง 300 มิลลิเมตร ในช่วงไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่มากกว่า 1 ใน 3 ของเมืองจมอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่คาดว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจะยิ่งทำให้ภาวะขาดแคลนอาหารและอาหารราคาแพงในประเทศเลวร้ายลงอีก. - สำนักข่าวไทย

2008-07-14 00:07:04

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

สวนดุสิตโพลเผยประชาชนมีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายมากสุด

​

กรุงเทพฯ 13 ก.ค. - สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจปัญหาหลักของประชาชนในขณะนี้ มีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายมากที่สุดอันดับ 1 รองลงไปคือ ข้าวของแพง ความวุ่นวายในบ้านเมือง ปัญหาครอบครัว และความขัดแย้ง

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจปัญหาหลัก ๆ ของประชาชนในขณะนี้ เพื่อต้องการเจาะลึกถึงสภาพปัญหาและแนวทางในการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม โดยสำรวจตามสถานการณ์จริง ในลักษณะเร่งด่วน ซึ่งเป็นการสำรวจนำร่องเพื่อใช้เป็นฐานในการต่อยอดการศึกษาวิจัยเพื่อหวังผล โดยสำรวจจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,168 คน ระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2551 พบว่า 10 ปัญหาและวิธีแก้ไขของประชาชน มีดังนี้

อันดับ 1 ปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายร้อยละ 24.26 วิธีแก้คือ ประหยัดมากขึ้น, ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น, กู้ยืมจากแหล่งเงินทุน หรือคนรู้จัก ฯลฯ

อันดับ 2 ข้าวของแพง /ราคาสินค้าแพง ร้อยละ 21.32 วิธีแก้คือ มีการวางแผนในการใช้จ่าย, ซื้อสินค้าลดลง, ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น, นำเงินเก็บออกมาใช้ ฯลฯ

อันดับ 3 ปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง/นักการเมืองทะเลาะกัน ร้อยละ 10.29 วิธีแก้คือ ติดตามข่าวอื่นแทน, มีวิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร, ทำใจยอมรับกับสภาพตอนนี้ ฯลฯ

อันดับ 4 ปัญหาในครอบครัว/ความขัดแย้งในครอบครัวร้อยละ 8.82 วิธีแก้คือ มีสติ มีเหตุผล, ใจเย็น ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไข, หันหน้าเข้าหากัน ฯลฯ

อันดับ 5 ความขัดแย้งในที่ทำงานร้อยละ 8.09 วิธีแก้คือ ทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด, ไม่ทำตัวเป็นภาระของใคร, มีน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ

อันดับ 6 สภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม/มลพิษ/อากาศที่แปรปรวน/ภัยธรรมชาติ ร้อยละ 7.35 วิธีแก้คือ ดูแลเอาใจใส่สภาพแวดล้อมมากขึ้น, ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, กล่าวเตือนหรือให้ข้อคิดแทน ฯลฯ

อันดับ 7 ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินร้อยละ 6.63 วิธีแก้คือ มีความระมัดระวังมากขึ้น,ไม่ประมาท ฯลฯ

อันดับ 8 น้ำมันแพงร้อยละ 5.15 วิธีแก้คือ ขับรถน้อยลง, เดินทางเท่าที่จำเป็น, ไม่เปิดแอร์ขณะขับรถ, ควบคุมความเร็ว ฯลฯ

อันดับ 9 การจราจร/รถติดร้อยละ 4.41 วิธีแก้คือ ออกจากบ้านแต่เช้า, หลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด, ใช้รถสาธารณะแทน ฯลฯ

อันดับ 10 ว่างงาน/หางานทำยาก /ตกงานร้อยละ 3.68 วิธีแก้คือ ไม่เลือกงาน, สร้างงานด้วยตนเอง ฯลฯ.

- สำนักข่าวไทย
2008-07-13 16:28:33

ที่มา http://news.mcot.net/social/inside.php?value=bmlkPTQ0ODY1Jm50eXBlPXRleHQ=