ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

น้ำท่วมบังกลาเทศ ไร้ที่อยู่แล้วมากกว่า 20,000 คน

​

จิตตะกอง 6 ก.ค. – ฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ราย ขณะที่มีรายงานผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 20,000 คน

เจ้าหน้าที่รายงานว่า เหตุดินถล่มและน้ำท่วมจากอิทธิพลของฝนช่วงฤดูมรสุม คร่าชีวิตประชาชนในเขตค็อกซ์ บาซาร์ ไปแล้วอย่างน้อย 16 ราย ขณะที่ปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมในบริเวณที่ลุ่ม ยังคงอยู่ในระดับ 1.3-1.7 เมตร ส่งผลให้มีประชาชนมากกว่า 20,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย

บังกลาเทศมีแม่น้ำไหลตัดกันมากกว่า 200 สาย เมื่อปีก่อน เคยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 40 สาเหตุสำคัญเกิดจากการเอ่อล้นของน้ำปริมาณมหาศาลภายหลังฝนตกหนักรวมกับน้ำแข็งที่ละลายลงมาจากเทือกเขาหิมาลัย โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย และไร้ที่อยู่อีกหลายล้านคน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่าหลายหมื่นล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

2008-07-06 16:36:03

ยอดผู้เสียชีวิตช่วงฤดูฝนในอินเดียเพิ่มเป็นเกือบ 80 คนแล้ว

​

ลัคเนา 6 กค. - เจ้าหน้าที่อินเดีย รายงานว่า อุทกภัย บ้านพังถล่ม และฟ้าผ่าจากพายุฝน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 14 คน ทางเหนือของอินเดีย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในช่วงฤดูมรสุมมีจำนวนถึง 79 คน แล้ว

พายุฝนพัดกระหน่ำรัฐอุตตรประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน เมื่อวานนี้ ขณะที่กองทัพได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมและจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเพื่ออพยพประชาชนออกนอกพื้นที่น้ำท่วม

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มฤดูมรสุมในอินเดีย ซึ่งมักอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนของทุกปี มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 คน ทางภาคตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

2008-07-06 15:45:56

มีผู้เสียชีวิต 14 คน จากฝนตกหนักในจีน​

​

ปักกิ่ง 6 ก.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 3 คน เสียชีวิตจากฝนตกหนักทั่วจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีกทางภาคใต้ในวันนี้

ประชาชนกว่า 14,000 คน ได้รับการอพยพออกจากเมือง ขณะที่ฝนตกหนักทางตอนกลางของมณฑลหูเป่ยตลอดวันศุกร์ และวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากดินถล่ม 8 คน และมีผู้สูญหายอีก 2 คน ส่วนที่มณฑลยูนนาน มีผู้เสียชีวิต 6 คน และสูญหาย 3 คน หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 250 คน จากเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมจีนเมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ฝนตกหนักทางภาคเหนือมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีการประกาศเตือนอุทกภัยบริเวณแม่น้ำเหลืองและแม่น้ำหวาย. -สำนักข่าวไทย

2008-07-06 13:27:48

เกิดแผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ที่หมู่เกาะคูริลทางเหนือของญี่ปุ่น

​

วอชิงตัน 6 ก.ค.-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.7 ริกเตอร์ ที่ชายฝั่งหมู่เกาะคูริลในมหาสมุทรแปซิฟิก ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเกาะคูริลไปทางทิศตะวันออก 238 กิโลเมตร โดยลึกลงไปใต้ทะเล 34 กิโลเมตร

หมู่เกาะคูริลทอดตัวอยู่ทางเหนือของเกาะฮอกไกโดและทางใต้ของคาบสมุทรคัมชัทกาของรัสเซีย ซึ่งมักจะเกิดการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอยู่เสมอ แต่ครั้งล่าสุดนี้ไม่มีคำเตือนการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ .-สำนักข่าวไทย

2008-07-06 17:23:35

อิสราเอลประสบความสำเร็จในการทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธ

​

เยรูซาเล็ม 6 ก.ค.- สถานีวิทยุรัฐบาลอิสราเอล รายงานว่า อิสราเอลประสบความสำเร็จในการทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งถูกออกแบบให้รับมือกับจรวดที่ยิงมาจากภาคใต้ของเลบานอน และฉนวนกาซา ซึ่งปกครองโดยกลุ่มฮามาส

ระบบ “ไอออน โดม” ได้รับการคาดหมายว่าจะนำออกปฏิบัติการได้อย่างเต็มที่ ภายใน 1 ปี และจะสามารถรับมือกับจรวด “คัตยูช่า” ที่นิยมใช้โดยกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ในเลบานอน และจรวด “กัซซัม” ที่กลุ่มฮามาส นิยมใช้ ซึ่งนอกจากสามารถใช้รับมือจรวดดังกล่าวแล้ว ยังมีประสิทธิภาพที่จะรับมือกระสุนปืน ค. ซึ่งยากต่อการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้อีกด้วย

นายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต ได้เยี่ยมชมระบบต้นแบบ มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อิสราเอลนำระบบนี้เข้าประจำการในฐานะส่วนหนึ่งของระบบป้องกันภัยหลายชั้น ซึ่งผลิตขึ้นเพื่อปกป้องอิสราเอลจากจรวดพิสัยใกล้และพิสัยไกลที่ยิงมาจากรัฐศัตรู เช่น อิหร่าน และซีเรีย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอิสราเอล ที่ฉนวนกาซา ในปี 2543 ทำให้พื้นที่ของอิสราเอลที่ติดกับฉนวนกาซา ถูกโจมตีด้วยจรวด และกระสุนปืน ค. มาโดยตลอด ส่งผลให้ชาวบ้านอยู่ในสภาพที่หวาดกลัว.-สำนักข่าวไทย

2008-07-06 14:59:06

เหตุโจมตีทางอากาศของสหรัฐในอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิต 22 คน

​

อัฟกานิสถาน 6 ก.ค. - เหตุโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดในอัฟกานิสถาน โดยกองกำลังสหรัฐ ทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 22 คน

กองกำลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เหตุโจมตีทางอากาศของกองทัพ มีเป้าหมายอยู่ที่รถยนต์ 2 คัน ที่มีสมาชิกกลุ่มต่อต้านอยู่เต็มคันรถ ในจังหวัดนูรีสถาน ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยถล่มฐานทัพของสหรัฐด้วยปืน ค. มาก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่า ไม่มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากปฏิบัติการครั้งนี้

อย่างไรก็ดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนูรีสถาน รายงานว่า มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์รวม 22 คน ซึ่งมีผู้หญิงและเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งนี้ หลังจากรถยนต์ที่พวกเขาโดยสารถูกถล่มด้วยจรวดตั้งแต่ช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

2008-07-06 03:07:48

สหรัฐจะปรึกษาพันธมิตรก่อนมีความเห็นต่อโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

​

บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน 6 ก.ค. - ดานา เปริโน โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่าสหรัฐจะหารือกับชาติพันธมิตรก่อนที่จะแสดงความเห็นต่อคำตอบของอิหร่านต่อกรณีแผนการของมหาอำนาจ 6 ประเทศที่เสนอเทคโนโลยีและการเจรจาถ้าอิหร่านยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

นางดานา กล่าวว่า สหรัฐพร้อมปรึกษาหารือกับกลุ่ม 5 บวก 1 ซึ่งประกอบด้วย 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเยอรมนี โดยสหรัฐต้องการทราบท่าทีของชาติพันธมิตรเหล่านี้ก่อนที่จะมีคำตอบอย่างเป็นทางการไปยังอิหร่าน

ทั้งนี้ อิหร่านได้ส่งคำตอบต่อแผนการของชาติมหาอำนาจที่เสนอแรงจูงใจแก่อิหร่านถ้าหากยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิหร่านกล่าวว่าเป็นข้อเสนอที่สร้างสรรค์ซึ่งเน้นผลประโยชน์ร่วมกัน อย่างไรก็ดี อิหร่านยังไม่ได้เผยรายละเอียดข้อเสนอนี้ และได้เสนอการเจรจานิวเคลียร์ซึ่งไม่รวมการยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม โดยอิหร่านยืนยันว่าอิหร่านมีสิทธิในการดำเนินโครงการนิวเคลียร์. -สำนักข่าวไทย

2008-07-06 10:45:51

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

0ffe

 

คุณอ๋อห่วงว่า พายุ สามลูกที่ก่อตัวนี้อาจทวีกำลังแรงขึ้นได้ ครับ จับตากันหน่อย

 

อ้างอิง:

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">

คำพยากรณ์โลกจากจิตจักรวาล โดย อ.ปริญญา ตันสกุล ​

​

ภายหลังจากการชำระโลก ​

1. มนุษย์จะมีจิตใจดีงาม เปี่ยมด้วยคุณธรรม และมีเมตตาต่อกัน
2. มนุษย์จะเลิกทานเนื้อสัตว์ จะเลิกเบียดเบียนกันโดยอัตโนมัติ
3. มนุษย์จะใช้สมองซีกขวาสูการหยั่งรู้ ได้ด้วยปัญญาญาณง่ายขึ้น
4. ประเทศไทยจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลก
5. ประเทศไทยจะสร้างยูเอฟโอท่องจักรวาล ได้เป็นชาติเดียวในโลก
6. ศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย จะปรากฎพระองค์ขึ้นบนแผ่นดินไทยในไม่เกิน 6 ปี หลังวันสิ้นยุคพลังงานเก่า
7. หน้าที่การบันทึกคัมภีร์เป็นหน้าที่ของผม หน้าที่ในการเยียวยาปลุกปลอบหัวใจของเพื่อนมนุษย์คือ พระศาสดาศรีอาริยะเมตไตรย โปรดรับทราบไว้ตามนี้ด้วย ​

8. มนุษย์จะมีอายุยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิม อำนาจแม่เหล็กโลกเพิ่มขึ้นจาก 14 เก๊าส์ เป็น 22 เก๊าส์ ร่างกายคุณแข็งแรง สุขภาพพลานามัยดีขึ้นโดยอัตโนมัติ
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
การเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์​

​

หนังสือวิวรณ์ 19:11-16 พูดไว้อย่างละเอียดเกี่ยวกับการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซู:

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>วิกฤติแล้ว! โลกร้อน ลูกเพนกวินแข็งตาย </TD></TR><TR><TD class=fontDefault><SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT><!--START--><CENTER></CENTER>

นักสำรวจพบว่าฤดูร้อนของ Antarctica ที่ผ่านมา มีลูกเพนกวินแข็งตายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากในตอนกลางวันซึ่งอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็ง เกิดฝนตกอย่างหนัก ทำให้ลูกเพนกวินที่ยังไม่มีขนที่สามารถกันน้ำได้เปียกโชก เมื่อกลางคืนมาเยือน อุณหภูมิจะต่ำลงกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้ลูกเพนกวินที่ยังคงเปียกอยู่แข็งตาย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

'มาลาเรีย'ระบาดหนัก ป่วย12,188ตายแล้ว26 [7 ก.ค. 51 - 04:15]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฤดูฝน มีฝนตกชุกทุกวัน ทำให้เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย ซึ่งมียุงก้นป่องป็นพาหะ ยุงชนิดนี้วางไข่เพาะพันธุ์อยู่ตามลำธารในป่าเขา โดยจากข้อมูลของสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 มิ.ย. 2551 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 12,188 ราย จาก 76 จังหวัด เสียชีวิต 26 ราย จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ ยะลา 2,364 ราย รองลงมา ตาก 2,044 ราย ระนอง 789 ราย ชุมพร 693 ราย และกาญจนบุรี 688 ราย ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วย ได้แก่ หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ขอนแก่น และมหาสารคาม
นพ.ปราชญ์กล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ การระบาดของโรคมาลาเรีย ปี 2550 ซึ่งมีผู้ป่วยทั้งหมด 33,178 ราย เสียชีวิต 97 ราย พบว่าช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกที่สุด จะพบผู้ป่วยโรคมาลาเรียสูงกว่าเดือนอื่นๆโดยเดือนพฤษภาคมมีผู้ป่วย 6,176 ราย เดือนมิถุนายน มี 6,169 ราย และค่อยๆลดลงเหลือไม่ถึง 2,000 ราย ในเดือนธันวาคม ดังนั้น ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคมาลาเรีย หรือเดินทางไปในพื้นที่ที่มีโรคมาลาเรีย เช่น เข้าไปเก็บของป่า ท่องเที่ยวในป่า จึงควรระมัดระวังและป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงก้นปล่องกัด โดยสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด นอนในมุ้ง หรือใช้โลชั่นทากันยุง ขณะนี้ยังไม่มียากินป้องกันโรคนี้ล่วงหน้า ทั้งนี้ หากมีไข้ หนาวสั่น มีประวัติอยู่ในพื้นที่ระบาดของโรคนี้ ควรรีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติให้ ละเอียด เพื่อตรวจเลือดหาเชื้อมาลาเรียและสามารถให้การรักษาอย่างถูกต้อง
ด้าน นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อมาลาเรียมีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ ฟัลซิปารั่ม (P.falciparum) ไวแว็กซ์ (P.vivax) โอวาเล่ (P.ovale) และมาลาริอี (P.malariae) แต่ที่พบในไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 50 เป็นเชื้อฟัลซิปารั่ม รองลงมาเป็น ไวแว็กซ์ ส่วน โอวาเล่ พบน้อยมากประมาณปีละ 1-2 ราย อาการของไข้มาลาเรียจะปรากฏหลังได้รับเชื้อประมาณ 10-14 วัน โดยมีลักษณะเฉพาะของไข้ คือ มีไข้สูงและหนาวสั่น ชาวบ้านจึงมักเรียกว่าไข้จับสั่น การเป็นไข้จะขึ้นกับชนิดของเชื้อ โดยหากเป็นเชื้อฟัลซิปารั่ม จะจับไข้ทุก 36-48 ชั่วโมง ส่วนมากจับไข้ทุกวัน และอาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น มาลาเรียขึ้นสมอง น้ำตาลในเลือดต่ำ เหลืองซีด ปัสสาวะดำ ไตวาย ปอดบวมน้ำ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ เชื้อไวแว็กซ์ และโอวาเล่ จะจับไข้ทุก 48 ชั่วโมง หรือจับวันเว้นวัน ส่วนมาลาริอี จับไข้ทุก 72 ชั่วโมง หรือวันเว้นสองวัน ทั้งนี้ การรักษาโรคมาลาเรียมีความแตกต่างกันในเชื้อแต่ละชนิด จึงต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อก่อนให้ยาทุกครั้ง ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ควรซื้อยารักษามาลาเรียกินเอง และเมื่อได้รับยารักษาโรคมาลาเรียไปแล้ว ต้องกินยาให้ครบ ห้ามหยุดยาก่อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อยาได้

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้พวกเบี่ยงเบนคำสอน และกลุ่มนิกายใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเยิจริง ๆ โดยนำเอาคำสอนในพระไตรปิฏกไปปะปนมั่วกับคำสอนของตัวเอง บ้างก็บอกว่าพระเจ้าของตัวเองเป็นคนสร้างโลก ศาสดาของศาสนาอื่นเป็นแค่.....

ก็ในเมื่อองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์แล้วว่าศาสนาพระองค์จะอยู่ถึง 5000 ปี แล้วจะว่างจากศาสนาไปนาน พระศรีอารย์จึงจะมาจุติ ก็ดันมีพวกอุตริบอกว่าเวลาได้ถูกเลื่อนขึ้นมาแล้วบ้าง บ้างก็บอกว่าพระเยซูจะมาเกิดเป็นพระศรีอารย์บ้าง ไม่ทราบตั้งใจทำเพื่ออะไรกันแน่ พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไม่เคยผิด โลกอาจจะมีภัยพิบัติ พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ไว้แล้วว่ากึ่งพระพุทธกาลไปแล้วคนจะเหลือ 1 ใน 3 แต่ศาสนาพระองค์จะทรงคงอยู่ถึง 5000 ปี แล้วหลวงพ่อฤาษีก็เคยบอกแล้วว่าพระศรีอารย์ยังไม่ลงมา ไม่เชื่อก็ให้ไปถามพระศรีอารย์เอง อย่าไปเชื่อพวกแอบอ้างทั้งหลาย ที่ปัจจุบันมีหลายกลุ่มเหลือเกินที่เอาชื่อพระศรีอารย์ไปอ้าง

หวังว่าคุณหนุมารคงไม่ใช่พวกโลกุตร หรือพวกแสง.. ที่ชอบเอาทั้งคำสอนของพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อฤาษีไปบิดเบือน ลองอ่านเรื่องข้างล่างดูเป็นเรื่องที่มีคนโพสใยพลังจิตนี่แหละ ขอโทษที่จำชื่อคนโพสไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่ตามต่างจังหวัดโดนเข้าไปเยอะแล้ว ในกรุงเพพก็มี โดยทำให้คนไขว้เขว มีทั้งทำเว็บไซด์ของตัวเอง แล้วจ้างคนอื่นไปโพสเรื่องบ้าบอคอแตก โดยเอาคำสอนไปบิดเบือน เพราะพวกนี้ทุนหนามากกก


ลองอ่านดูน่าตกใจมาก!!!! แผนการทำลายพุทธศาสนาของพวกเดียรถี ยักษ์นอกศาสนา <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

<HR align=center width="100%" color=white noShade SIZE=1>​

คัดจาก......

พุทธศาสนาทรรศนะและวิจารณ์
ศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต
หน้าที่ 27 ( พิมพ์หนแรกเมื่อ 2529 ...ยี่สิบปีมาแล้วเอง หนที่ 4 พิมพ์ปี 2543)

ความว่า................

ขอเรียนให้ทราบว่า เรื่องเหยียบย่ำพระพุทธศาสนาได้เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว
ผมในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งได้อดทนดูพฤติการณ์นี้มาโดยตลอด จนสุดจะบำเพ็ญขันติธรรมต่อไปอีกแล้ว จึงต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนาที่คารพนับถือของผมเสียบ้าง

เมื่อเห็นเดียรถีย์มาย่ำยีพระพุทธศาสนา

 

ตัวเราหรือสัตว์ทั้งหลาย มีส่วนประกอบอยู่ ๓ ส่วน ได้แก่ กาย จิต และเจตสิก ซึ่งในทางธรรมเรียกว่า รูป กับ นาม แต่เนื่องจากพืชทั้งหลายไม่ได้เกิดมาจากกรรม ไม่มีจิตและเจตสิกในการรับรู้ คิดนึกเรื่องราวต่าง ๆ ดังนั้นคำว่า

 

เรื่องของศาสนาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ที่เกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อของคนเป็นจำนวนมาก ท่านผู้รู้ทั้งหลายจึงกล่าวเตือนนักเตือนหนาว่า อย่าเอาเรื่องของศาสนามาถกเถียงกันเป็นอันขาดว่า ศาสนาของใครดีกว่ากัน เพราะมันจะเป็นประเด็นนำไปสู่การทะเลาะวิวาทกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ใครที่อยากจะนับถือศาสนาไหน ใครจะมีความเชื่ออย่างไร ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เราไม่ควรจะไปบังคับจิตใจใคร ว่าจะต้องคิดต้องเชื่อเหมือนกับตัวเรา เหมือนกับที่ตัวเราเองก็ไม่ต้องการให้ใครๆ มาบังคับจิตใจของเราว่าต้องเชื่ออย่างเดียวกับพวกเขา

ในเวลานี้มีพวกที่แอบอ้างว่าตัวเองเป็นพระศรีอาริยะเมตไตรย กันมาก บางรายเลวร้ายถึงขนาด บิดเบือนเอาคำสอนในพระไตรปิฎกมาเป็นคำสอนของตัวเอง เพราะฉะนั้นท่านที่เพิ่งจะเข้ามาอ่านในห้องวิทยาศาสตร์ลึกลับนี้ อาจจะหลงเชื่อไปตามคำสอนที่ผิดๆ นั้นได้ง่าย จึงต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ของพวกพระศรีอาริย์ตัวปลอมเหล่านี้ให้จงมาก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพระศรีอาริย์ตัวจริง จะไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้

เรื่องของพระศรีอาริย์กึ่งพุทธกาลนี้ เป็นเรื่องที่มีบันทึกเอาไว้ในตำหรับตำราโบราณต่างๆ ,ในคัมภีร์ใบลานของ ไทย พม่า ลาว เขมร,ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน รวมทั้งมีบันทึกเอาไว้คัมภีร์ของศาสนาคริสต์ อิสลาม อินดู พราหมณ์ ฯลฯ และจากคำบอกเล่าของพระอริยะสงฆ์เจ้าอีกหลายองค์ ต่างก็ยืนยันในเรื่องความมีอยู่จริงของพระศรีอาริย์อีกด้วย ในพุทธทำนายจากศิลาจารึกก็กล่าวถึงพระศรีอาริย์ว่าจะมาเป็นพระยาธรรมิกราช ที่จะมาช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนานี้ แล้วจะหาว่าเรื่องของพระศรีอารย์ในกึ่งพุทธกาลเป็นเรื่องเหลวไหลได้อย่างไร

คุณ Tadcha คงยังไม่เข้าใจความแตกต่างของคำว่า พระพุทธเจ้า กับ พระเจ้าจักรพรรดิ์ นะครับ พระศรีอาริย์ ตอนนี้ยังมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ จึงยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเพิ่อสร้างบารมีอยู่นะครับ การที่ท่านมาเกิดในยุคปัจจุบันนี้(ในฐานะพระเจ้าจักรพรรดิ์) ก็เพื่อมาทำนุบำรุงพระศาสนาของพระสมณโคดมให้อยู่ยืนยาวไปจนครบ 5.000 ปีครับ เมื่อท่านมาทำหน้าที่นี้สำเร็จแล้ว ท่านก็จะกลับไปสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อรอคอยเวลาที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปมีพระนามว่า"เมตไตรย" ครับ โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย

 

พระศรีอารย์ในจิตทัศน์ของนอสตราดามุส

​

" เสียงนุ่มนวลแห่งมิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ยินจากแผ่นดินทิพย์ แสงเพลิงมนุษย์ ฉายรองรับเสียงประเสริฐนั้น จะเป็นเหตุให้โลกต้องเปื้อนเลือด สมณเพศทั้งหลายที่ไม่ยึดถือศีล (พรหมจรรย์) และนำไปสู่การทำลายโบสถ์วิหารที่ไร้ความบริสุทธิ์ "
(ซ.1 ค.96 )

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกน่าอัศจรรย์อย่างมากเลยทีเดียว ที่นอสตราดามุสได้เขียนโคลงทำนายบทนี้ขึ้นเมื่อ 450 ปีก่อน ภายใต้สังฆจักรโรมันคาทอลิก สมมุติว่าท่านได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 2,000 ปีกว่ามาแล้วในสมัยนั้น ท่านคงจะไม่กล่าวถึงพระศรีอาริยเมตไตรยอย่างแน่นอน ถ้าในจิตทัศน์ของท่านไม่ได้เห็น สัจธรรมบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีส่วนสัมพันธ์กับศรัทธาใหม่ของโลกโดยตรง คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " นี้จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากพระนามของพระศรีอาริยเมตไตรย เพราะคำว่า " เมตไตรย " นี้ แปลว่า " เพื่อน " ในความหมายของภาษาบาลี สันสกฤต บุคคลผู้นี้เป็น Sacred Friend จะเป็นใครก็ตาม แต่การใช้คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " หรือ " เพื่อนผู้ศักดิ์สิทธิ์ " แสดงให้เห็นว่าผู้ที่จะมาโปรดสัตว์ในโลกยุคนี้ จะไม่ใช่เป็นบุคคล

ธรรมดาอย่างแน่นอน อีกทั้งมาจากแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ Holy Ground อีกด้วย ก็ยิ่งชี้ชัดว่าน่าจะเป็นองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งนายจอห์น ฮอค ฟันธงว่าจะเสด็จมาในโลกนี้ประมาณ ระหว่างคริสต์ศักราช 2000 ( พ.ศ.2543 ) หรือกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งใกล้เคียงกับวันเวลาที่พระเยซู หรือพระมาซิ อาร์ พระมะห์ดีร์ ตามความเชื่อของมุสลิม จะเสด็จมาในวันพิพากษาโลกนี้ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อกันอย่างเงียบๆ ว่าอาจจะเป็นพระศาสดาโพธิสัตว์องค์เดียวกันก็ได้

การเสด็จมาของพระศรีอาริยเมตไตรย ก็คงต้องมาชำระสะสางความเสื่อมของศาสนาอยู่แล้ว ในภาวะที่มีการวิวัฒนาการ บรรดาพระสงฆ์สมณเพศผู้ยึดถือพรหมจรรย์ ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับนักบุญทั้งหลายผู้เสียสละในอดีต วันเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นคงต้องผ่านขั้นตอนตามปรกติวิสัย ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีความเจ็บปวดอันเกิดจากการต่อต้าน หรือขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดเกิดขึ้น ซึ่งในหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นในอดีต การเสียสละของนักบุญอาจถึงกับต้องเลือดตกยางออก

" อังคารกับคฑาของจูปิเตอร์ (พฤหัส) เล็งลัคน์
เกิดสงครามมหาวิบัติภายใต้ราศีกรกฎ
หลังจากนั้นไม่นาน กษัตริย์ใหม่จะถูกสถาปนา
เป็นผู้นำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์เป็นเวลายาวนาน "
( ซ.6 ค.24 )

วรรคที่น่าสนใจในโคลงบทนี้ ได้แก่วรรคที่มีคำว่ากษัตริย์ ที่จะนำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์ หลายฝ่ายตีความกันว่า นอสตราดามุสกำลังพูดถึงวันที่โลกชำระบาปแล้ว หลังจากกลียุคอันเกิดจากสงคราม ภัยพิบัติอันเกิดจากธรรมชาติ หรือโรคระบาด โลกจะปรากฎผู้นำใหม่ที่มาในมิติที่อยู่เหนือธรรมชาติ อาจจะเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย พระมาซิอา พระมะห์ดี หรือพระยาธรรมิกราช ที่เสด็จมาโปรดสัตว์ตามพุทธทำนาย ตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิล หรือตามพระวัจนะในพระคัมภีร์กุรอ่านก็ได้

ตามการคำนวนทางโหราศาสตร์ โดยอาศัยหลักของดาราศาสตร์ ดาวอังคารจะเล็งลัคน์กับดาวพฤหัสหลังปี ค.ศ.1999 เป็นครั้งแรกในวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ.2002 (พ.ศ.2545) เพราะฉะนั้นเหตุการปาฎิหาริย์ที่จะทำให้ชาวโลกตะลึง น่าจะเกิดขึ้นในกำหนดเวลาดังนี้

ระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม ค.ศ.2004 ( พ.ศ.2547 )
ระหว่างเดือนธันวาคม ค.ศ.2006 ( พ.ศ.2549 )
ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2009 (พ.ศ.2552 )
ระหว่างเดือนเมษายน- พฤษภาคม ค.ศ.2011 ( พ.ศ.2554 )

วันเวลาดังกล่าวที่บันทึกไว้ข้างต้นนี้ น่าจะเป็นการคำนวนเวลาของวาระแห่งการสิ้นยุค ของสังคมมนุษย์โลกจากหลักฐานต่างๆ เท่าที่จะเสาะหามาได้

" บรรยากาศ ท้องฟ้า แผ่นดินโลกจะมืดลง และถูกบดบังจนมืดครึ้ม แม้แต่คนไม่เชื่อศาสนา ยังพร่ำเรียกหาพระผู้เป็นเจ้ากับนักบุญ.... "
( ซ.9 ค.83 )

คำทำนายของนอสตราดามุสข้างต้นนี้ คล้องจองกับพุทธทำนายที่บอกว่า ท้องฟ้าจะมืดเจ็ดวันเจ็ดคืน ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนจรจะกลับกรุง ฟูกจะมีหนาม ผีป่าจะเข้าบ้าน ผีบ้านจะเข้าไพร....และในพระคัมภีร์ไบเบิลกับพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน ทำนายว่าพระอาทิตย์จะมืดลง ดวงจันทร์จะหยุดส่องแสง ดวงดาวบนท้องฟ้าจะร่วงหล่น...ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเลยทีเดียว.....

( คัดลอกมาจาก หนังสือนอสตราดามุส ฉบับเพิ่มเติมเกี่ยวกับศรัทธาใหม่ เขียนโดยศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน )

<!-- / message -->

 

พายุที่จับตากันอยู่เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ไทยมากขึ้นแล้วครับ

เพื่อนที่อยู่ฟิลิปปินน์ระวังตัวด้วย

 

เผยดาวพุธหดตัวลง


บีบีซี นิวส์ 7 ก.ค.- ยานอวกาศเมสเซนเจอร์ รายงานว่า ดาวพุธ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่สุดของระบบสุริยจักรวาล กำลังมีขนาดเล็กลง ทั้งนี้ข้อมูลที่ได้รับจากยานอวกาศเมสเซนเจอร์เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของดาวพุธหดตัวลงไปจากเดิมกว่า 1.5 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาเหตุของการหดตัวเนื่องจากแกนกลางของดาวพุธเย็นตัวลงอย่างช้า ๆ
ผลการศึกษาที่นำมาตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นถึงกระบวนการเดียวกันนี้ส่งผลไปถึงสนามแม่เหล็กของดาวพุธด้วยเช่นกัน อีกทั้งเชื่อว่าการหดตัวของดาวเคราะห์ดวงนี้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างน้อย 1 ใน 3
ยานอวกาศเมสเซนเจอร์ เดินทางผ่านดาวอังคารเมื่อต้นปีนี้ โดยลอยตัวอยู่เหนือดาวดวงนี้เพียง 200 ก.ม. และเป็นครั้งแรกที่ยานอวกาศเข้าใกล้ดาวพุธมากที่สุดนับตั้งแต่ยานอวกาศมาริเนอร์เคลื่อนผ่านดาวดวงนี้ในเดือน มี.ค. 2518
การเคลื่อนตัวผ่านดาวอังคารเผยให้เห็นหลักฐานว่า เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ และพบร่องรอยแอ่งลึกคล้าย ๆ กับที่เกิดบนดาวอังคารและดวงจันทร์ ซึ่งแอ่งบนดาวพุธเต็มไปด้วยหินร้อน (ลาวา) จำนวนมาก ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะมีปริมาณลาวาลึกถึง 2.7 กิโลเมตร.-สำนักข่าวไทย


อินเดียจะทดสอบขีปนาวุธแอสตราอย่างเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้
นิวเดลี 7 ก.ค.- อินเดียเตรียมทดสอบขีปนาวุธเทคโนโลยีล้ำหน้าอากาศสู่อากาศ "แอสตรา" อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกภายใน 45 วันข้างหน้านี้

สำนักข่าวเพรสส์ ทรัสต์ ของทางการอินเดีย (พีทีไอ) รายงานอ้างการเปิดเผยของคณะเจ้าหน้าที่องค์การวิจัยและพัฒนาด้านการป้องกันประเทศ (ดีอาร์ดีโอ) ของอินเดีย วานนี้ว่า ถ้าการทดสอบประสบความสำเร็จ จะทำให้อินเดียติดอันดับกลุ่มประเทศที่มีเทคโนโลยีขีปนาวุธล้ำหน้าที่สุดในโลกในปัจจุบัน นอกเหนือจากสหรัฐ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน อีกทั้งเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของโครงการวิจัยเพื่อการป้องกันประเทศอีกโครงการหนึ่งของอินเดียด้วย หลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้นพิสัยใกล้และกลางที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์มาแล้ว และว่าขีปนาวุธ "แอสตรา" (ASTRA) จะช่วยให้นักบินของเครื่องบินขับไล่ที่ติดตั้งด้วยขีปนาวุธดังกล่าวสามารถยิงเครื่องบินของ "ศัตรู" ในระยะที่ไกลถึง 90-120 กิโลเมตร
รายงานระบุว่า อินเดียอาจทดสอบขีปนาวุธ "แอสตรา" ในช่วงเวลาเดียวกับการทดสอบขีปนาวุธสกัดขีปนาวุธครั้งที่ 2 ในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ อินเดียยังเตรียมจะทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปใต้น้ำ "Sagarika" อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
รายงานแจ้งว่า นอกจากแผนการทดสอบขีปนาวุธหลายประเภทดังกล่าวแล้ว อินเดียยังมีนโยบายพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงสำหรับอนาคตอย่างต่อเนื่องและแข็งขัน ซึ่งขีปนาวุธดังกล่าวจะสามารถแปลงเป็นขีปนาวุธครูซพิสัยไกลได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

 

จักรยานพับได้
<O</O
<O</O
จักรยานมีความจำเป็นในพื้นที่ๆจะไปอยู่ จักรยานธรรมดา ราคาคันละพันเศษ แต่ถ้าเป็นจักรยานพับได้ ราคาเฉียดหมื่น
<O</O
<O</O
เมื่อสองปีที่ผ่านมา ก่อนที่ผมจะนวัตกรรม (นำของที่ผู้อื่นคิดมาประยุกต์เป็นของใช้ชนิดใหม่) เช่น เตียงน้ำ เตาถ่านอลูมิเนียม ตู้สุขาเคลื่อนที่หรือเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหว
<O</O
<O</O
ผมเคยเอาจักรยานผู้ชาย ของลูกสาวคนเล็ก ที่ไม่ได้ใช้แล้ว วงล้อ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com14 นิ้ว</st1:metricconverter> มาตัดส่วนหน้า ที่ประกอบด้วย มือจับ ล้อ และตะเกียบออก ตัดตรงใกล้กับอานนั่ง ในแนวตั้งฉาก (ให้ช่างเชื่อม แถวบ้านทำให้)
<O</O
<O</O
แล้วเชื่อมติดด้วยบูชประตูเหล็ก ขนาด <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="1 นิ้ว">1 นิ้ว</st1:metricconverter> 2 ชุดกับเหล็กแผ่น 2 ตารางนิ้ว 4 แผ่น เจาะรูไว้สำหรับยึดน็อต 2 หุน 4 ตัว
<O</O
<O</O
จากนั้นก็พ่นสีสเปรย์ ตรงรอยเชื่อม ท่านก็จะได้จักรยานพับได้ นำใส่ท้ายรถยนต์ไปยังที่ต่างๆได้
<O</O

 

คุณ Tadcha คงยังไม่เข้าใจความแตกต่างของคำว่า พระพุทธเจ้า กับ พระเจ้าจักรพรรดิ์ นะครับ พระศรีอาริย์ ตอนนี้ยังมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ จึงยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเพิ่อสร้างบารมีอยู่นะครับ การที่ท่านมาเกิดในยุคปัจจุบันนี้(ในฐานะพระเจ้าจักรพรรดิ์) ก็เพื่อมาทำนุบำรุงพระศาสนาของพระสมณโคดมให้อยู่ยืนยาวไปจนครบ 5.000 ปีครับ เมื่อท่านมาทำหน้าที่นี้สำเร็จแล้ว ท่านก็จะกลับไปสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อรอคอยเวลาที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปมีพระนามว่า"เมตไตรย" ครับ โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย[/quote]

ฉันเข้าใจความแตกต่างของคำว่า พระพุทธเจ้า กับ พระเจ้าจักรพรรดิ์ ดี และไม่มีตอนไหนเลยที่บอกว่าพระศรีอารย์ไม่มีจริง เพราะได้เคยสัมผัสมาแล้ว ที่ไม่เห็นด้วยก็ตรงที่คุณโพสบอกว่า

 

และนี่อีก เพี้ยนไปใหญ่แล้ว ไปเอามาจากพระไตรปิฎกเล่มไหนไม่ทราบ ขอยืมความเห็นข้างล่างแล้วกัน เพราะมันตรงกับที่ฉันคิด คนที่ไหนไปเกิดเป็นต้นไม้ ต้นไม้คือเปรต
<TABLE class=tborder id=post1331708 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>SCJ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1331708", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 05:20 AM
วันที่สมัคร: Nov 2007
ข้อความ: 69
Groans: 3
Groaned at 5 Times in 5 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 112
ได้รับอนุโมทนา 837 ครั้ง ใน 68 โพส
พลังการให้คะแนน: 25
<TABLE class=tborder id=post1331721 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> 05-07-2008, 07:29 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #9709 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175> หล่อลากดิน <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1331721", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: 05-07-2008 07:51 PM
วันที่สมัคร: Mar 2007
ข้อความ: 666
Groans: 108
Groaned at 245 Times in 132 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 414
ได้รับอนุโมทนา 1,446 ครั้ง ใน 467 โพส
พลังการให้คะแนน: 102


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1331721 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร
มนุษย์-สัตว์-ต้นไม้...มีจิตวิญญาณ
สัตว์....เขามีความรู้สึก มีสุข มีทุกข์
ต้นไม้...เขาก็มีเช่นกัน

อสูรกาย เปรต ...ในชาดกโบราณ
เป็นการเปรียบเทียบ....สังขารที่เกิดขึ้นจริงบนโลก
เราต้องพิจารณา...ค้นหาความจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ต้นไม้มีชีวิตครับ แต่ ไม่มีจิตวิญญาณ์

หนุมารฯ ไร้สาระอีกแล้ว นะครับท่าน

ขอแนะนำให้ท่านหนุมารฯ ไปเกิดใหม่
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD><TD class=alt1 id=td_post_1331708 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->มนุษย์-สัตว์-ต้นไม้
เวียนว่ายตายเกิด วนไปวนมา ไม่พ้นทุกข์

เรื่อยเปื่อยแล้วครับ มนุษย์มีไปเกิดเป็นต้นไม้ด้วย งงงงงง

มนุษย์-สัตว์-ต้นไม้...มีจิตวิญญาณ
สัตว์....เขามีความรู้สึก มีสุข มีทุกข์
ต้นไม้...เขาก็มีเช่นกัน


ต้นไม้มีจิตวิญญาณ เหมือน คน และสัตว์

พอเถอะครับ รีบหาครูบาอาจารย์ ด่วนเลยครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post1331656 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> 05-07-2008, 07:51 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #9705 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>หนุมาน ผู้นำสาร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1331656", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งล่าสุด: 05-07-2008 08:01 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 5,367
Groans: 1
Groaned at 143 Times in 124 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4
ได้รับอนุโมทนา 39,916 ครั้ง ใน 4,982 โพส
พลังการให้คะแนน: 3621


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1331656 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร
*** วิญญาณ สังขาร ****

มนุษย์-สัตว์-ต้นไม้
เวียนว่ายตายเกิด วนไปวนมา ไม่พ้นทุกข์
อสูรกาย...ก็คือ สัตว์
เปรต....ก็คือ ต้นไม้
เกิดมีสังขาร...ตัวกระทำ เป็นผู้จัดสรร
หลุดพ้นทุกข์ พ้นจากการเกิดใหม่....ตัวกระทำ เป็นผู้จัดสรรเช่นกัน
หลุดพ้น...หลุดพ้นออกจากโลก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
</TD></TR></TBODY></TABLE>
มนุษย์-สัตว์-ต้นไม้...มีจิตวิญญาณ
สัตว์....เขามีความรู้สึก มีสุข มีทุกข์
ต้นไม้...เขาก็มีเช่นกัน

อสูรกาย เปรต ...ในชาดกโบราณ
เป็นการเปรียบเทียบ....สังขารที่เกิดขึ้นจริงบนโลก
เราต้องพิจารณา...ค้นหาความจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร
</TD></TR></TBODY></TABLE>

- " หนุมาน ผู้นำสาร "[/quote]

ยอมรับว่าต้นไม้ชีวิต แต่ก็คงไม่สามารถเวียนว่ายตายเกิดได้แน่นอน แล้วคนก็ไม่ได้ไปเกิดเป็นต้นไม้ด้วย เปรตคือต้นไม้ก็แปลก มนุษย์-สัตว์-ต้นไม้
เวียนว่ายตายเกิด วนไปวนมา

ถ้าต้นไม้จะมีจิตวิญญาณก็อาจเป็นรุกขเทวดา นางไม้ ไม่ใช่ของต้นไม้เอง

แนะนำให้รีบไปหาครูบาอาจารย์ได้แล้วนะค่ะ