ประวัติ : หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

กราบอาลัยหลวงปู่ค่ะ

 

กราบหลวงปู่ด้วยครับ
หลวงปู่ไปดีแล้ว แต่คุณงามความดี ยังอยู่คู่โลก

 

กราบนมัสการหลวงปู่ครับ

 

คาถาบูชาพระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต)
วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า


โตเสนโต วะระธัมเมนะ โตสัฎฐาเน สุเว วะเร
โตสัง อะกาสิ ขันตุนัง โตสะจิตตัง นะมามิหัง



พรหลวงพ่อโต


ขอเดชะหลวงพ่อโตพุทโธภาส โลกนารถจอมมุนินทร์ชินศรี
แม้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปนานปี ยังคงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อิทธิพล
ทุกๆ แห่งแหล่งปูชนียสถาน ช่วยบันดาลวัฒนาสถาผล
แต่บรรดาโยมญาติสาธุชน ทั่วทุกคนที่มาวันทาเทอญ.​

<!-- google_ad_section_end -->

 

สุขสมหวังตลอดปี ๕๓ นะครับ


<!-- google_ad_section_end -->
ร่ำรวยเงินทอง มั่งมีศรีสุข อย่าเจ็บอย่าจน เป็นคนเหนือคนอื่น

สุขสมหวังจงมีแด่ครอบครัวท่านครับ สวัสดีปีใหม่ครับคุณthaiput

 

อักขระยันต์บนตัวเบี้ยแก้ของ "หลวงปู่เจือ วัดกบางบางแก้ว"













ถ้ากล่าวถึงเครื่องรางที่ไว้ป้องกันคุณไสยหรือภูตผีปีศาจนั้นคงหนีไม่พ้นเครื่องรางอันดับหนึ่งคือ *** เบี้ยแก้ *** และเบี้ยในประเทศไทยที่โด่งดังนั้นมีอยู่หลายสำนักซึ่งหนึ่งในนั้นคือ *** เบี้ยแก้สำนักวัดกลางบางแก้ว *** ซึ่งมีองค์หลวงปู่บุญเป็นผู้จัดสร้างเบี้ยแก้ขึ้นมา ตกทอดมาถึง หลวงปู่เพิ่ม พระอาจารย์ใบ และพระอาจารย์เจือนั่นเอง.. ในสมัยก่อนในยุคของหลวงปู่เพิ่มนั้น ถ้าใครอยากได้เบี้ยแก้ ต้องนำเครื่องทำเบี้ยซึ่งประกอบไปด้วย หอยเบี้ย ปรอท ตะกั่ว ชันโรงใต้ดิน พร้อมดอกไม้ธูปเทียนมาขออนุญาติให้หลวงปู่เพิ่มทำให้ ส่วนพระสมุห์เจือนั้นมีหน้าที่นำเบี้ยกลับไปทำ คือ นำเบี้ยไปตีหุ้มตะกั่ว และนำกลับมาถวายหลวงปู่เพิ่มเพื่อให้ท่านปลุกเสกอีกครั้งก่อนที่จะนำกลับไปถักเชือก ในบั้นปลายชีวิตของหลวงปู่เพิ่มก่อนที่ท่านจะละสังขาร ท่านได้เรียกให้พระอาจารย์ใบ และพระอาจารย์เจือ เพื่อถ่ายรับถ่ายทอดวิชาการทำเบี้ยแก้ทั้งหมด โดยท่านได้ส่งว่าให้พระอาจารย์ใบทำก่อน ภายหลังจากพระอาจารย์ใบสิ้นบุญ พระอาจารย์เจือก็ได้สืบทอดการทำเบี้ยแก้ตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาในยุคของพระอาจารย์เจือ (หลวงปู่เจือ ปิยสีโล) มีลูกศิษย์หรือบรรดาศรัทธาผู้ที่อยากได้เบี้ยแก้ไว้บูชา มักมาขอให้ท่านทำเบี้ยแก้อยู่เป็นประจำ โดยยุคแรกๆนั้นท่านจะเป็นผู้กรอกเบี้ย ตีเบี้ย (ตีตะกั่วหุ้มเบี้ย) และลงจารกำกับเบี้ยแก้เองทั้งหมด หรือแม้กระทั่งการถักเชือกท่านก็ยังถักเอง และสมัยต่อมามีผู้ที่อยากได้เบี้ยแก้เพิ่มมากขึ้น ท่านเลยสอนวิชาการตีเบี้ยและการถักเชือกให้กับลูกศิษย์ ส่วนท่านเองจะเป็นผู้ลงจารอักขระยันต์กำกับเบี้ยและปลุกเเสกเบี้ยแก้เองทุกตัว

ในยุคบั้นปลายชีวิตของหลวงปู่เจือท่านมีเวลาพักผ่อนน้อยประกอบกับท่านมีโรคประจำตัว แต่ท่านก็ยังเมตตาทำเบี้ย (จารเบี้ยและปลุกเสกเบี้ย) ให้กับลูกศิษย์เสมอเหมือนกันหมด ซึ่งลายมือการลงจารอักขระนั้น ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการชี้วัดได้เป็นอย่างดี

ฉะนั้นวันนี้กระผมจึงได้ถ่ายรูปเบี้ยแก้ (เบี้ยเปลือย) ซึ่งจะได้นำมาให้ได้ชมกันเพื่อจดจำและเป็นบรรทัดฐานต่อไป (ถ้าข้อความบางส่วนตกหล่นหรือผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยครับ)

thaiput007@hotmail.com<!-- google_ad_section_end -->