ปฏิบัติตนอธิษฐานบุญอย่างไห้ได้ผลเร็ว By สาธินี

รู้สึกดีเหมือนกันค่ะ มีความสบายภายในค่ะแต่ยังทำได้ไม่สม่ำเสมอ บางครั้งเหมือนลืมหายใจค่ะ ขอมาเก็บข้อมูลเรื่อยๆเงียบๆละกันคุยไม่เก่งเท่าไหรจ๊ะ

 

ผมกลับมาอ่านตั้งแต่ต้นใหม่แล้ว ครับเพราะเึคยฝึกหายใจยาว ๆ จึงรู้สึกลมผ่านสะดือลงมาที่ท้องน้อยแต่ยังจับไม่ได้ว่าลงถึงไหนแต่รู้สึกการเกร็งของกล้ามเืนื้อจากท้องน้อยถึงลิ้นปี่ แล้วก็ผ่อนลมรู้สึกโล่ง (อย่างนี้เวลาเราไม่หายใจยาว ๆ แล้วหายใจปกติ คอยสังเกตุว่าลึกสุดส่วนไหนแสดงว่าฐานของใจเราอยู๋ส่วนนั้น จะเปลี่ยนอยู่ตลอดตามระยะของลมหายใจเข้าใจถูกไหมครับ ) ส่วนใจคือผู้สั่งจิต จิตเป็นตัวบังคับให้ร่างกายขับเคลื่อน ร่างกายเป็นธาตุ(วัตถุที่ต้องอาศัย ใจสั่งจิต จิตบังคับร่างกาย ร่างกายขยับตามจิตสั่ง ผมว่าผมเริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้วละ (แต่ตอนนี้กลับไปหาที่ตั้งของใจก่อน )ขอบคุณครับติดตรงไหนจะขออนุญาติถามนะครับ ขออนุโมทนา
(มันสำคัญก็ตรงนี้แหละหาใจเจอก็ตัดอะไรได้หลายอย่าง หาใจไม่เจอตัดไปก็ไม่ขาดสักที ไม่หาย เช่นตัดโกรธ ก็ไม่ได้ ตัดกำหนัดก็ยาก เพราะหาไม่เจอว่ามันเกิดที่ไหน ตัดความอยากก็ไม่ได้ หากหาใจเจอแล้วน่าจะใช้วิัสสนาพิจารณาใช้ปัญญาตัดได้อย่างราบคาบดังพระอริยบุคคลทั้งหลายทำได้ ทุกวันนี้ตัดก็แล้ว ใช้สติระงับก็แล้ว ก็ยังไม่ได้ หากรู้ว่าใจอยู่ที่ใดการตัด การระงับก็ึคงทำได้อย่างไม่ยากเย็น)ขออนุโมทนาอีกรอบครับ

 

ขอลางานหนึ่งอาทิตย์ค่ะ...เนื่องจากต้องขึ้นไปฝึกวิทยายุทธ ที่แม่สะเรียง กลับมาแล้วจะรีบมารายงานตัวนะจ๊ะ...ระหว่างนี้ฝึกลมหาใจกันไปพลางๆก่อนนะจ๊ะ...ท่านเสขฯเข้ามาคุยกับน้องๆไปก่อนนะ.

 

เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ
จุดที่เรียกว่าลมหายใจ คือหายใจเข้าไปสุดที่ไหนตรงนั้นเป็นฐานของลม ตามที่กล่าวมาทั้ง ๕ การรู้ลมหายใจเรียกว่า "ลมหาใจ" เพราะเรามีสติอยู่กับลมหายใจนั้นๆ ส่วนการนำเอาจุดของการฝึกการปฏิับัติออกมาใช้ให้ได้ผลกับการดำเนินชีวิตคือ เมื่อเราหายใจยาวเข้าไปเท่าใด ก็พักลมที่สุดของลมหายใจไว้เป็นเวลาเท่านั้น และหายใจออกมาตามที่เวลาเท่าๆกันเช่นกัน ฝึกไปอย่างนี้จนเกิดความเคยชิน (วสี)

 

การปฏิบัติกรรมฐานนี้ จะทำให้ผู้ปฏิบัติ ได้รับการคุ้มครองจากเทพเทวดา เพราะผู้ที่จะทำสมาธิได้ต้องมีการสมาทานศีล วิรัติจากบาปกรรมทั้งหลาย เมื่อผู้ปฏิบัติมีศีลที่ดี ย่อมยังผลคือสมาธิตั้งมั่นได้เร็วและดีในไม่ช้า ดังนั้นการปฏิบัติของผู้ที่ทำกรรมฐานก็จะมีพลังจิตที่เกิดจากการปฏิบัติ เมื่อกระแสจิตละเอียดขึ้น ก็จะไปรับกระแสของสิ่งที่เป็นทิพย์ได้ หรือสิ่งที่เป็นทิพย์ สามารถรับสัมผัสกับกระแสจิตเราที่ละเอียดขึ้นๆ ดังนั้นเทวดาทั้งหลายที่อยู่ในภูมิใกล้ๆมนุษย์ก็ดี ท่านรับรู้ ท่านก็อยากให้เราปฏิบัติให้มาก ดังนั้นท่านก็มาคุ้มครองดูแล และอำนวยความสำเร็จให้กับเราในบางเรื่องที่ท่านสามารถช่วยได้
ถ้าบุคคลใดไม่มีศีล ไม่มีธรรม ไม่มีสมาธิ อย่าหวังเลยว่าจะมีเทวดามาคุ้มครองรักษา เพราะเทวดาชั้นสูงๆขึ้นไป ท่านมีความเป็นทิพย์มาก มีความสุข ความเพลิดเพลินในทิพยสมบัติของท่านมาก ท่านรังเกียจพวกมนุษย์ยังกะว่าเป็นหมาเน่าผูกติดคอ

 

เมื่อเราสามารถทำการกำหนดลมหายใจได้ทั้ง ๓ ขั้นตอนแล้ว เมื่อเสร็จจากกรมฐานทุกครั้ง แม้ก่อนทำกรรมฐานก็ดี ให้ท่านสวดคาถาปัตติทานคาถา เพื่ออุทิศบุญให้เทวดาทั้งหลาย ที่อยู่ในที่ต่างๆด้วย เมื่อเทวดาท่านได้บุญกับเราบ่อยๆ กระแสบุญก็จะดึงดูดสิ่งที่ดีๆเข้ามา

 

ในขั้นตอนของการทำกรรมฐาน ช่วงใดถ้าเกิดปีติขึ้นมา คือ อาการเกิดความชุ่มชื่นใจ ขนลุกฟอง มีปราโมทย์ ถ้าท่านใดมีเรื่องปัญหาติดขัดอยู่ในการดำเนินชีวิตของท่าน ให้ท่านรีบอธิษฐานจิตในขณะนั้นๆ เอาแค่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นนะครับ สิ่งนั้นจะพลันสำเร็จได้ในไม่ช้า

 

ในระหว่างที่พี่สาธินีเธอเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์ใหญ่ พวกท่านก็พากันฝึกลมหาใจกันให้ได้ทั้ง ๓ ขณะไปก่อนนะครับ หายใจเข้า ทรงลมไว้ แล้วหายใจออก
ใครทำแล้วเกิดผลอย่างไรอย่าลืมแบ่งปันประสบการณ์กันบ้างนะครับ

 

น้องสุดหล่อ หายใจเข้าไปลึกไปตั้งลมที่ท้องน้อย
แล้วค่อยๆผ่อนลมออกคือ ดันลมจากล่างขึ้นมาบนถูกไหม...

 

พี่นิพพานเป็นคนที่มีสายตาดีมากครับ ขอบคุณนะครับ
การทำลมหายใจเข้าก็ดี ทรงลมก็ดี หายใจออกก็ดี ทำให้มันสมูททททท อุ๊ย..ทำให้ราบรื่นต่อเนื่อง เหมือนน้ำที่ไหลไปตามท่อสายยาง เอ...อย่างงั้นแหละ พี่ก็ทำถูกแล้วอะนะครับ

 

ใช่จ้าสายตาดีมั่กมากเลย
ต้องใส่แว่นสายตายาวววววววววว อิ อิ...

 

การกำหนดเดินลมจากฐานที่ห้าไปถึงฐานที่หนึ่ง การหยุดลม หรือจากฐานที่หนึ่งไปฐานที่ห้า อยากทราบว่าเส้นทางของลมที่ใจตามรู้ไป หมายกำหนดเอาแนวภายในร่างกายใช่หรือไม่ครับ ไม่ใช่แนวภายนอกที่รูปกำหนดจุดมาให้ดู เส้นทางที่กำหนดควรจะอยู่ประมาณกึ่งกลางแนวตัดขวางของร่างกายในแต่ละจุดใช่หรือไม่ครับ (ยกเว้นฐานที่ห้าปลายจมูก)

 

ในระยะแรกท่านให้หายใจเข้าไปยาวๆเลยครับ สุดที่ตรงไหนก็ตาม ตรงนั้นนั่นแหละครับ ที่ตั้งของลมหาใจ บางท่านที่ไม่เคยหายใจยาวๆ เวลาหายใจเข้าไปอาจไม่ไปถึงฐานปถวีธาตุ(ใต้สะดือ ๒ นิ้ว) ค่อยๆทำครับ หายใจเข้าก็ีดี ออกก็ดี ทำให้มันราบเรียบกลมกลืนกัน พอทำไปๆเรื่อยๆมันจะเกิดความเคยชินและคล่องตัวขึ้นนะครับ

บางทีเราอาจใช้วิธีนับ คือนับ ๑ ถึง ๕ บ้าง เป็นต้น เมื่อเข้าไป ๑....๒....๓...๔...๕... แล้วก็ทรงลมเอาไว้ที่ฐานที่ตั้งของลมหาใจ ๑....๒....๓...๔...๕...แล้วจึงผ่อนลมออกมาเบาๆ ๑....๒....๓...๔...๕... ถ้ารู้สึกร่างกายเหนื่อย ทนไม่ไหวให้หยุดทำอย่าไปฝืนมันนะครับ เพราะการทำแรกๆบางท่านจะเกิดความอึดอัดได้นะครับ แล้วไม่ต้องเอาจิตไปจดจ่อที่ลมหายใจเลย พักสักครู่ เมื่อหายเหนื่อยเเล้วก็เริ่มใหม่ ทำอย่างนี้ไปจนเกิดความชินและชำนาญ เราก็จะไม่เหนื่อยอีก

การทำแบบนี้จะทำให้ในสถานการณ์บางขณะที่เราต้องกลั้นลมหายใจ เราจะได้หยุดหายใจได้นานกว่าคนปกตินะครับ อีกทั้งการหายใจแบบนี้จะทำให้ร่างกายเกิดการกระตุ้น เกิดการตื่นตัว ออกซิเจนที่เข้าไปในปอดมากขึ้นก็จะไปเลี้ยงสมองมากขึ้น สมองก็จะทำงานดีขึ้น จำได้มากขึ้น

 

รักษาที่ใต้สะดือดีที่สุดนะครับ

 

ขอบคุณมากครับ คุณเสขบุคคล และ คุณcheetah9

 

กลับมาแล้วเจ้าค่าาา..แวะนำบุญมาฝากค่ะกระทู้นี้เป็นเพื่อนบ้านสุดเลิฟ อิอิ..อนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ..


ขอแจมนิดนุงค่ะ หลังจากกลับมาจากทัวร์บุญ ขอแจมในเรื่องของจิต ฉบับหลวงพ่อจรัญ เจ้าค่ะ
การที่เรากำหนดจิต และตั้งสติไว้ เพราะเหตุว่าจิตของเรา อยู่ใต้บังคับของ
ความโลภ ความโกรธ ความหลง เช่น ตา เห็น รูป การปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
โดยเอาสติเข้าไปตั้งกำกับ ตามอายตนะนั้น เมื่อปฎิบัติได้ผลแก่กล้าแล้ว ก็จะเข้าตัดที่่ต่อ ของอายตนะต่าง ๆ เหล่านั้น มิให้ติดต่อกันได้ คือว่าเมื่อเห็นรูป ก็สักแต่ว่าเห็น เมื่อได้ยินเสียงก็สักแต่ว่าได้ิยิน ไม่ทำความรู้สึกนึกคิด ปรุงแต่งให้เกิดความพอใจ หรือความไม่พอใจในสิ่งที่ปรากฎให้เห็น และได้ยินนั้น รูปและเสียงที่ได้เห็นและได้ยินนั้นก็จะดับไป เกิดและดับอยู่ที่นั้นเอง ไม่ไหลเข้ามาภายในอกุศลธรรม ความทุกข์ร้อนใจที่คอยจะติดตาม รูป เสียง และอายตนะภายนอกอื่น ๆ จะเข้ามาก็เข้าไม่ได้ สติที่เกิดขึ้นขณะปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น นอกจากจะคอยสกัดกั้นอกุศลธรรมและความทุกข์ร้อนใจ ที่จะเข้ามาทาง
อายตนะแล้ว สติเพ่งอยู่ที่ รูป นาม เมื่อเพ่งเล็งเห็นอยู่ ก็ย่อมเห็น ความเกิดดับของ รูป นาม ที่ดำเนินไปตามอายตนะต่าง ๆ อย่างไม่ขาดสาย การเห็น การเกิดดับของรูปนามนั้นจะนำไปสู่การเห็นพระไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความไม่มีตัวตนของสังขารหรืออัตภาพอย่างแจ่มแจ้งฯ

สวัสดีค่ะ คุณเสขบุคคล ขอบพระคุณจากใจเลยที่แนะให้ศึกษาเรื่องพระอภิธรรม เพราะรู้สึกว่าเวลาได้ฟัง พระคุณเจ้าท่านเทศน์ แล้วเข้าใจมาก
กว่าคนอื่นที่ไม่ได้ศึกษา โดยเฉพาะเรื่อง เจตสิก ค่ะ

 

ตอนนีพยามทรงไว้ฐานใต้สะดือ ตั้งแต่ลมหยุดนับ 1-10 แล้วค่อย ๆ ปล่อย เบา ๆ จนลมหมดแล้วนับ 1-10 (เฉพาะลมออกบางครั้งได้ครบ 10 บางครั้งไม่ครบ 10) ทำไปได้สักระยะ จะรู้สึก วูบ วาบ ลามหายใจทั้งเ้ข้าและออก ร้อน ร่างกายร้อน เหงื่อออกหลังท้ายทอย (หยดเลย) บางครั้งจะรู้สึกว่า เหมือนกับมีลูกแก้วกลม อยู่ที่ฐานลิ้นปี่แล้วเปล่งแสงรัศมีทำให้รู้สึกขนลุก เป็นระยะ บางครั้งก็รู้สึกจากฐานใต้สะดือ (ตอนนี้เป็นหวัดจะไอบ่อยทำให้เวลาลมเข้าและออกต้องเบาจริง ๆ ไม่งั้นไอตัวงอเลย) ผลการปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางหรือไม่ครับ ขออนุโมทนา (ที่ปฏิบัติไม่ไปไหนสงสัยพื้นฐานลมผมอ่อน)

 

ว๊าว..พี่ศีลเรียนพระอภิธรรมด้วยเหรอ...แจ๊วๆ ขยันๆนะ อย่าขาดเรียนนะ คนอย่างพี่ศีลเนี๊ยะเอาดีได้....อนุโมทนานะขอให้จบมหาบัณฑิตเร็วๆนะจ๊ะนะจ๊ะ

 

นิดนุงน่ะ..^-^ไม่ได้เรียนขนาดน้านหนะจร้า..แค่ศึกษาพอได้รู้ตามที่คุณเสขจ้าววท่านแนะนำ แหมคนสวย ๆ แบบพี่ก็เอาดีได้ทู๊กอย่างเลยหนะจ้ะอยู่ที่ใจจร้า..แต่พี่ติดจะขยันขี้เกียจน่ะ (เข้าใจมะคำนี้น่ะ) สาธุค่ะคำอำนวยพร อิอิ จะพยายามฮ่ะ ขอเปลี่ยนเป็น M150 แทนได้มะ แบบว่า จะได้มีแรงทำงาน ถึกถึกหน่อยน่ะ

 

ตกลงเจ้อยู่กะดึกด้วยเหรอนั่น เป็นไปได้ไงไม่อยากเชื่อเลย....สงสัยอยู่งานหน้าคีย์มั้งอิอิอิอิ