:::บูชา"ข้าวปั้นพรานบุญ"เพื่อสมทบทุนสร้างหินทรายแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช:::

วันนี้ผมจะร่วมทำบุญนะครับ โอนเงินแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

ผมขอร่วมบุญ ทำบุญด้วยเท่านั้นครับ

ขอขอบคุณครับ ประมาณ 28 / 6 / 50

 

ขอสรุปภาพแกะสลักนูนด้านขวามือ ระหว่างพระแสงดาบคาบค่าย และชนไก่ เลือกภาพชนไก่ ภาพชนไก่นั้นจะเป็นดังภาพ แต่ภาพไก่ชนต้องแกะให้เหมือนรูปที่ไก่ทั้งคู่กำลังตีกัน

จะเป็นพราะความบังเอิญหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เหมือนกับดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่านจะรับทราบเจตนาที่ดีนี้ เลยพาให้ได้ไปพบบุคคล 2 ท่านที่สามารถจะช่วยให้งานนี้สำเร็จลุล่วงภายในกำหนดเวลาอันสั้นนี้

ท่านที่ 1 เป็นพระที่ดูแลพระโมคคัลลานะในกระทู้มอบพระสีวลีอรหันต์เถรเจ้า ซึ่งได้แนะนำช่างแกะสลักหินทราย ซึ่งได้สร้างผลงานฝากไว้ที่วัดมากมาย

ท่านที่ 2 เป็นช่างแกะสลักหินทรายชื่อ"หนุ่ม" ทำหน้าที่แกะสลักโครงนูนต่ำ และ"โอ๋ย" คู่ชีวิตทำหน้าที่วาดลายก่อนแกะ และขัดแต่งในขั้นสุดท้าย

การได้พบท่านทั้ง 3 นี้เหมือนถูกกำหนดมาให้เหมาะทั้งเวลา และความเป็นมาคือ ช่างแกะสลักหินทรายนี้นอกจากจะจะมีอาชีพด้านการแกะสลักหินแล้วยังทำธุรกิจไก่ชนอีกด้วย ความผูกพันกับอาชีพทั้ง 2 นี้น่าจะช่วยให้งานมีชีวิตชีวาขึ้น

ผมจะเดินทางไปตรวจดูความคืบหน้าของงานแกะพระรูปในวันเสาร์ที่จะถึงนี้อีกครั้ง และจะก็เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆที่ได้ร่วมบุญสร้างพระรูปหินทรายแกะสลักกันนะครับ...

ขณะพิมพ์ให้เพื่อนๆได้ทราบความเป็นไปนี้ "โอ๋ย" ได้โทรเข้ามาแจ้งที่อยู่ และเบอร์บัญชีธนาคาร ทั้งผม และเธอก็ต่างขนลุก พูดไปต่างฝ่ายต่างขนลุกกันไปเหมือนพระองค์ท่านจะรับทราบแล้วครับ การดำเนินการแกะสลักจะเริ่มกันในวันพฤหัสที่ 28 มิ.ย. 2550 เป็นวันข้างขึ้น และจะเสร็จสิ้นในช่วงก่อนเข้าพรรษา 3-4 วัน ราวๆวันที่ 26 ก.ค. 2550 ซึ่งตรงกับวันข้างขึ้นอีก นับเป็นฤกษ์ยามที่เหมาะมากเลยครับ ....

ขอโมทนาบุญกับเพื่อนๆที่ได้ร่วมสร้างแผ่นหินทรายแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกันในครั้งนี้ร่วมกันครับ

 

คุณเพชรครับ โอนเงินให้แล้วครับ 1200.09 บาท โดย ATM ธ.กสิกรไทย

เมื่อวันที่ 26/06/50 เวลาประมาณ 10:46

ตรวจสอบดูนะครับ

รัฐพงศ์ สังวรวิตร
126/4 ซ. จามจุรี 1 (สุขาภิบาล แยก 5-6) ถ.รามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน
กรุงเทพมหานคร 10220

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมสร้างหินแกะสลักพระรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วยครับ

ผมใช้ PM ไม่เป็นครับ

 

ขอโมทนาด้วยครับ คุณransang ขอเชิญเลือกข้าวปั้นพรานบุญระหว่างชิ้นที่ 13-24 ที่ยังเหลืออยู่นะครับ เพื่อเป็นของที่ระลึกในการร่วมสร้างพระรูปหินทรายแกะสลักสมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วยกัน

การใช้ PM นั้นง่ายมาครับ เพียงกดลูกศรไปที่ชื่อของบุคคลที่จะติดต่อด้วย และเลือกว่าจะส่ง email หรือส่ง PM แล้วบันทึกข้อความ จากนั้นกด submit เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ ทดลองดูนะครับ เมื่อคนที่รับข้อความเปิดระบบเข้ามา จะมีหน้าจอรับ message ขึ้นมาก่อนว่าเราจะกดรับหรือไม่ หากไม่ก็ยังค้างอ่านในกล่องอยู่

 

ขอโทษด้วยครับ ผมลืมดูไปในกระทู้หน้าก่อนๆคุณ ransang ได้ระบุหมายเลขเอาไว้แล้ว ..

 

เรียนคุณเพชรครับ

ผมได้โอนเงินเข้าบัญชี บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์แล้วครับ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 040-2-25999-6 จำนวนเงิน 500 บาท เพื่อร่วมสมทบทุนสร้างหินแกะสลักพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อเวลา 8.36 น.(เวลาในเครื่องเอทีเอ็ม)ครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

โมทนาสาธุด้วยครับ

 

เรียนพี่เพชรครับ

ผมได้โอนเงินเข้าบัญชี บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์แล้วครับ บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 040-2-25999-6

จำนวนเงิน 200 บาท เพื่อร่วมสมทบทุนสร้างหินแกะสลักพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เมื่อเวลา 9.34 น. (เวลาในเครื่องเอทีเอ็ม) ของวันที่ 28 มิถุนายน 2550 ครับ

โมทนาสาธุครับ

 

โมทนาบุญด้วยครับ

 

คุณเพชรคะ ไม่ทราบข้าวปั้นพรานบุญชิ้นใหญ่ ยังมีเหลือให้บูชาไหมคะ เพราะลำดับการจองที่ post ไว้ไม่ได้เรียงลำดับค่ะ หากมีจะขอจองบูชา 1 ชิ้น ค่ะ จะโอนเงินให้ในวันพรุ่งนี้ แล้วจะแจ้งเลขทีโอนเงินให้ทราบทันทีที่จัดการเรียบร้อยนะคะ

 

ข้าวปั้นพรานบุญชิ้นใหญ่ที่ยังเหลืออยู่คือชิ้นหมายเลข 3-5-7-9-10-11-12

เรียงตามลำดับหมายเลขจากซ้ายไปขวาแถวแรก 3-5-7

แถวที่ 2 จากซ้ายไปขวา 9-10-11

และแถวที่ 3 คือหมายเลข 12 ครับ


ขอโมทนาบุญร่วมกันครับ

 

ได้รับแล้วครับ ถึงช่วงบ่ายครับ ขออนุโมทนาบุญร่วมกันอีกครั้งครับ ขอให้สำเร็จโดยเร็วพลัน ปราศจากอุปสรรค ผมยังไม่ได้แวะไปที่วัดสักที เห็นบางท่านกล่าวว่า อดีตเป็นวัดป่าแก้ว

 

วัดวรเชตมี 2 แห่งคือในเมืองคือวัดวรเชษฐาราม (ชื่อปัจจุบัน) และนอกเมืองคือวัดวรเชต(ชื่อปัจจุบัน) ลองอ่านที่ผม post ไว้ที่กระทู้นี้ครับ

http://www.palungjit.org/board/showt...t=81829&page=2

หินแกะสลักพระรูปนี้จะนำขออนุญาตกรมศิลปากรที่พระนครศรีอยุธยาเพื่อประดิษฐานที่วัดวรเชษฐาราม(ในเมือง)ครับ เพราะผมเชื่อว่าที่นี่คือที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่าน

 

ขอโมทนาบุญกับคุณ supattara ที่มีจิตศรัทธาร่วมบุญสร้างหินทรายแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จำนวน 1,000 บาท ได้รับข้าวปั้นพรานบุญชิ้นหมายเลขที่ 23 เรียบร้อยแล้วครับ

ขอโมทนาบุญร่วมกันครับ

 

เมื่อเช้านี้ได้คุยกับช่างหนุ่มที่รับหน้าที่แกะหินทรายชิ้นนี้ แจ้งว่าเมื่อคืนไปนำหินทรายขนาด 90x60x15 ซ.ม. จากวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาเรียบร้อยแล้ว น้ำหนักของหินไม่ใช่ 60-100 ก.ก.ครับ น้ำหนักประมาณ 200 ก.ก. คาดว่าหลังจากการแกะนูนต่ำแล้ว น้ำหนักหินจะเหลือประมาณ 120-130 ก.ก. เศษหินบางส่วนที่ได้จากการแกะพระรูปพระองค์ท่านจะนำไว้เป็นมวลสารในการสร้างพระต่อไป

ผมได้โทรศัพท์แจ้งว่าจะเดินทางไปพระนครศรีอยุธยาในวันพรุ่งนี้เพื่อตรวจดูงานแกะสลัก และติดต่อเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ที่อยุธยาเพื่อยื่นหนังสือขอนำไปประดิษฐานที่"วัดวรเชษฐาราม"(ในเมือง)เมื่อการแกะสลักนี้ได้แล้วเสร็จในวันศุกร์ที่ 27 ก.ค. 2550 ครับ

ขอโมทนาบุญร่วมกัน

 

สวัสดีครับ คุณเพชร

ขอบูชาข้าวปั้นพรานบุญ หมายเลข 5 ครับ
ขอจองไว้ก่อน โอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ


นับถือ
พิเชษฐ์

 

โมทนาบุญด้วยครับ คุณพิเชษฐ์ จะเก็บไว้ให้ครับ ยังไงก็post ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ที่จัดส่งให้ด้วยด้วยนะครับ...

 

ผมได้ทำจดหมายพร้อมยื่นให้ทางเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรวันพรุ่งนี้ดังนี้ครับ ขอให้พระองค์ท่านดลใจให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานชิ้นนี้ได้มาช่วยเหลือให้สำเร็จได้โดยง่าย และเร็วพลันด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า....

ข้อความที่ได้แจ้งกับทางกรมศิลปากร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๐<O</O
<O</O
เรื่อง ขอติดตั้งแผ่นหินทรายแกะสลักพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช<O</O

เรียน คุณ(เมื่อทราบชื่อผู้ที่อนุมัติค่อยกรอกลงไป).......<O</O
<O</O
กระผม และคณะได้เล็งเห็นความสำคัญของโบราณวัตถุ และโบราณสถานของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกแห่งหนึ่ง เป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนควรช่วยกันดูแลรักษาให้เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้เรียนรู้ว่าครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยมีความรุ่งเรืองทั้งทางศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนา ฯลฯ กระผมเข้าใจว่าปริมาณของโบราณสถานที่มีมากกว่า ๔๐๐ กว่าแห่งล้วนแล้วแต่มีความเป็นมาที่ยาวนาน จึงอยากที่จะร่วมกันรักษามรดกที่ดีงามเหล่านี้ไว้ วัดวรเชษฐาราม(ในเมือง)มีความเป็นมาที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างมากคือมีพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่กอบกู้ชาติไทยไว้ในครั้งเสียกรุงครั้งแรก วีรกรรมครั้งนั้นยังเป็นที่จดจำของคนไทยทุกคนตราบเท่าทุกวันนี้ ปัจจุบันยังมีผู้คนที่ยังไม่ทราบความสำคัญของสถานที่แห่งนี้อยู่เป็นจำนวนมาก กระผม และคณะกำลังดำเนินการจัดสร้างพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งวัสดุที่ใช้จัดสร้างนั้นผมได้คำนึงถึงความเหมาะสมต่อภูมิทัศน์ที่ต้องกลมกลืนต่อสถานที่เดิม ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันของวัสดุใหม่ และโบราณสถานเดิมนั้นจึงได้ใช้

 

สดๆร้อนๆครับ ผมขอนำภาพหินทรายที่ขึ้นรูป และภาพแกะสลักองค์กลางบางส่วนมาให้ชมกันแล้วครับ แต่เดิมด้วยความอ่อนประสบการณ์ของผมจึงคำนวณหินทรายก้อนนี้ไว้ที่ความยาว 90 ซ.ม. แต่ช่างแกะเขามีประสบการณ์มากกว่าจึงเผื่อไว้อีก 10 ซ.ม.เมื่อขึ้นรูปโดยเริ่มจากองค์กลางก่อน กะด้วยสายตาอาจจะว่าด้านซ้าย และด้านขวาแคบไปหน่อย องค์กลางนี้จะแกะเป็นนูนสูงกว่าด้านซ้าย และขวาที่จะลดหลั่นลงไปตามลำดับชั้นแกะเป็นรอยนูนต่ำ ภาพชนช้างยุทธหัตถีด้านขวามือนั้นต้องใช้รูปนี้แล้วครับ เพราะเหมาะกับพื้นที่ด้านขวาที่เหลือ และภาพนี้จะให้ความหมายดีกว่า เพราะช้างทรงของพระองค์ท่านได้เปรียบช้างข้าศึกที่เห็นได้ชัดเจนกว่าว่ากำลังถูกงัด เพราะขาเสียหลักแล้ว ด้านซ้ายมือก็คงรูปชนไก่ไว้ ช่างผู้แกะสลักท่านนี้เลี้ยงไก่สวยไว้ประกวด ไม่ได้นำมาชนไก่ดังที่ผม post ไว้ในช่วงต้น ขออภัยด้วยครับที่ข้อมูลคลาดเคลื่อนไป บ้านช่องของช่างหนุ่มนี้ก็เต็มไปด้วยสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ มากมายที่สุดเห็นจะเป็นไก่สวย ในภาพนำมาเพียง 2 ชนิดคือพันธุ์ประดู่หางดำ และเขียวพาลี และถ้วย และโล่ห์รางวัลการประกวดทั้งหลาย

ผมจึงสรุปว่าเป็นความประสงค์ของพระองค์ท่านที่ได้มอบหมายให้ช่างแกะสลักหินทราย 2 ท่านนี้ได้ช่วยกันทำให้สำเร็จ อืมม! เป็นผู้เลี้ยงไก่สวยประกวด และยังเป็นช่างแกะสลักหินทรายที่ทำมา 30 กว่าปีแล้ว แบบนี้ไม่เรียกว่า"ถูกกำหนด"ก็ไม่ทราบจะเรียกอะไรแล้วนะครับท่าน