บันทึกลึกลับ (ของฉัน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Buddha's Child, 21 เมษายน 2017.

  1. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ท่าโยคะแบบนี้ ต้องคนฝึกกุฑาลิณีค่ะ
    งูกินหาง
    อัสดงเอามาฝาก
    เลข 8


     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อันธะ...พาล...มาจาก อัณฑะ+พาล....แปลว่า พวกสำส่อน พวกไม่รู้จักพอ ในกาม..แล้วระราน ลูกเมียคนอื่น ให้เดือดร้อน ครอบครัวแตกแยก...ทำให้ชีวิตคนอื่น มีทุกข์....ถือว่า เป็นกรรมหนักเหมือนกัน ถ้าทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก ฆ่ากันตาย ลูกกำพร้าพ่อแม่ ..หรือเลิกรากัน ..ทำให้ชีวิตของคนเหล่านั้น...ไปไม่ถึง เป้าหมาย...กรรมหนัก
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    นึกว่าเป็นท่า ประกอบกามกิจ ผสมหยินหยางกันซะอีก อิอิ
    ในตำรา..เขาว่ามา
    ผมก็ ว่าไปนั่น......อิอิ
     
  4. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    อัสดงเองก็อายุมากแล้ว
    ปลงค่ะ
    โลกใบนี้ช่างอันตรายเหลือเกิน
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    งูกินหางเนี่ย เขาว่า...เป็นบ่วง นาคบาท มิไช่เหรอ...เอาไว้จับ พญานาค ตามที่ได้ยินเขาเล่ามา น่ะ
     
  6. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    นี่คือการmerge หยินหยางค่ะ
    งูไฟ
    ฝึกได้ค่ะ อัสดงเคยฝึกกุฑาลิณี
    คู่ฝึกคือซินแสชื่อหม่าซันอ่ะค่ะ
     
  7. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ทราบด้วยหรือคะ เยี่ยมค่ะ

    เราทอลค์กันจนผู้อ่านเอือมระอา
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็มันเป็นโลก แห่ง จิตอวิชชาไง
    เราถึงต้องมาช่วยกัน แก้ไข ด้วยกันไง
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เขาต้องฝึกร่วมกัน กับ สามีหรือภรรยา ของตนเองจ้า
    ฝึกด้วยความรักความเข้าใจ การยอมรับในกันและกัน
    มันถึงจะพัฒนา ผสมหยินหยาง เสริมปัญญาได้จริงจ้า

    ใครว่า กาม คือเรื่องต่ำๆ ชัวร้ายล่ะ

    ความรัก ความเข้าใจ ความเชื่อมใจถึงใจ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ของธรรมะ ธรรมชาติจ้า
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ยังไม่ถึง40 จะมากได้ยังไง ยังน่ารักอยู่เลย
    อย่ารีบ แก่ ไปไหนกันจ๊ะ
     
  11. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    เคยอธิบายว่าไม่ใช่กาม
    ก็โดนด่าว่า นังปีศาจ ดูดพลังงานชีวิตคนอื่น
    อัสดงเลยเซ็ง
    ต้องเอาภาพเลข 8 มาดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2017
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไม่งั้น...พวกจิตที่ ดูดพลังชีวิต...มันจึงหวังว่า จะดูดพลังจากเพศตรงข้าม
    เพื่อเอามา ผสม เพื่อให้พลังของตน ยกระดับขึ้น...แต่เมื่อได้พลังมาผิดๆ
    ไม่ได้มาด้วยความรัก ความจริงใจ ยินยอม เชื่อใจ...แต่ได้มาด้วย อวิชชา มันเลย ให้ผลที่ไม่ดีไง

    เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ...หยินหยาง เพศชายหญิง
    ดังนั้น พวกรักร่วมเพศ มันคือพวก หลงผิด มิจฉาฐิทิ บาปกรรมทั้งนั้น แหล่ะ
     
  13. Buddha's Child

    Buddha's Child Buddha,God,Mother Nature and Universe bless U

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2017
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +209
    EP 3 การลองดีของคุณตา​
    ตาของผมเป็นคนไม่เชื่อในเรื่องเหล่านี้ เขาเคยก่อวีรกรรมเด็ดไว้ ด้วยการไปวิจารณ์พระป่า ไปว่าเกี่ยวกับการศึกษาของพระป่า (คุณตาด่าแรงมากครับ ขออนุญาตไม่พิมพ์ แต่เราทุกคนน่าจะรู้กันว่า เวลาเราด่าใครสักคนว่าไม่ฉลาด แบบหยาบคายเป็นยังไง)
    หลังจากนั้นมาคุณตาก็ป่วยเลยครับ แกไอไม่หยุด กินยาก็ไม่หาย หาหมอ หมอก็รักษาไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเอาไปบวชแก้เคราะห์ที่วัด หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่ความหัวรั้นของแกยังคงอยู่

    ช่วงที่อยู่บ้านเลขที่เจ็ดกับตาและยาย มีช่วงหนึ่งที่ตาทะเลาะกับแม่เรื่องการเงิน แม่บอกตาว่าเป็นเพราะตาเอาแต่ถลุงเงิน ไปเที่ยวกับสาวนอกบ้าน ไม่สวดมนต์ไหว้พระ ไม่ทำตามหลักศาสนา มันเลยเป็นทุกข์กันทั้งบ้าน

    ผลคือแกโกรธมากเลยครับ แกบอกว่าแกไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลแบบนี้ แกยังท้าทุกคนด้วยว่า แกจะนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก (ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นทิศของคนตาย) และแกจะไม่ตาย จะอยู่ค้ำฟ้าเพื่อใช้ชีวิตตามใจกิเลส

    หลังจากคืนที่แกนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก ก็ได้เรื่องเลยครับ
    ตื่นเช้ามาแกรีบเล่าใหญ่ ว่าฝันเห็นชายสามคนใส่ชุดสูทดำมายืนมุงดูแกที่ปลายเตียง(ซึ่งแกหันหัวไปทางนั้น แปลกคนดีไหมล่ะตาผม)
    แกบอกว่า แกกลัวมาก ชายสามคนยืนมองแก(แบบกลับหัว) แล้วพูดว่า
    "อีกไม่นานนายใหญ่จะมารับ"

    หลังจากวันนั้น แกก็ยังนอนท่าเดิม แต่เอารูปพระมาติดไว้ด้านบนมุ้งที่หัวแกนอน(ตาแกคลุมมุ้งไว้ที่เตียงอีกที) เพราะแกกลัวฝันร้ายอีก แต่แกก็ยังไม่เชื่อ
    วันต่อมา แม่เล่าให้ตาฟังว่า เห็นหญิงแก่ๆใส่ชุดคอกระเช้า นั่งตำหมากอยู่บนตัวตาตอนตีห้า(ตานอนอยู่ชั้นล่างของบ้าน ไม่ได้ขึ้นบนเพราะแก่แล้วเดินไม่ไหว แม่เดินลงไปซักผ้าด้านล่างแต่เช้ามืดแล้วเห็นด้วยหางตาที่เตียงตาพอดี) ตอนแรกแม่คิดว่าตาฝาด แต่แม่ได้ยินเสียงตำครกชัดเจนมาก จนเชื่อว่าได้เห็นจริงๆ
    ตาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี

    จนกระทั่งคืนต่อมา ตาแกก็กลับมานอนหันหัวทิศตะวันออกเหมือนเดิม ด้วยเหตุผลว่า
    "ฝันเห็นยายแก่ๆ บอกว่าจะได้เพื่อนแล้ว เดี๋ยวมีคนมารับ ยายแก่นั่งยิ้มแฉ่งข้างฉันนี่เลย"
    หลังจากนั้น "นายใหญ่" ที่ตาว่าจะมารับแก ก็ไม่มาแล้วครับ เพราะแกนั่งสวดนะโมตัสสะทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่องไป เขาไม่มาเอาแล้ว

    เป็นไงล่ะครับ ท้าทายอำนาจฟ้าดิน ฟ้าดินเลยไม่ช่วย ปล่อยให้ผีร้ายมานั่งยิ้ม ดีใจว่าจะเอาไปอยู่ด้วย

    ผมเชื่อนะครับว่า ถ้าพระเจ้ามี ปิศาจก็ต้องมีด้วย
    อำนาจชั่วร้ายมีจริง และมันคอยจ้องจะเล่นงานเราเสมอ ถ้าขาดสติ
    ตาผมขาดสติ แกเอาอารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง พอโกรธเรา กลับไปท้าทายฟ้าดิน ท้าพระท้าเจ้า
    พวกพระพวกเจ้าท่านได้ยิน ท่านก็เลยเมินเฉย ไม่มาดูแล ป้องกันสิ่งชั่วร้าย
    สุดท้ายพอสิ่งชั่วร้ายเข้ามาได้ ก็จะร้องไห้โยเยกลับไปขอพึ่งพระพึ่งเจ้าอีกครั้ง

    ฉะนั้นเราทุกคน ควรตั้งมั่นจิตใจเคารพพระรัตนตรัยอยู่เสมอ
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ต้องดังในใจตลอดเวลา อย่าให้สิ่งยั่วยุ มาทำใจเราขาดศรัทธา แล้วดิ่งลงไปหาที่ต่ำได้
    พระช่วยเราเสมอ
    เราแค่ยื่นมือไปรับ อย่าหันหลังให้ท่านก็พอ

    ***เจริญในธรรม***​
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตามกรรมตามวาระแหล่ะครับ...จนกว่ากรรมจะเบาบางลงบ้าง จึงจะค่อยพบทางออก ผมว่า โดนกันเยอะครับ สมัยก่อนที่ พวกต่างดาวมัน กำลัง ได้ใจ
    เอาเป็นว่า เป็นไปตามกรรม ก็แล้วกันนะครับ

    ตอนนี้ ก็ต้อง หันหน้ามา ร่วมมือกัน จัดการกับ จิตอวิชชาชั่วๆ เหล่านี้ ด้วย..หลักฐานที่ทุกคนมี ว่า ถูกทำร้าย ถูกเบียดเบียนอย่างไรมา
    เพราะ ขนาดตำรวจกาแลคซี่ ยังไม่มีหลักฐานเอาผิดพวกมันได้ชัดเจน เพราะขาด ผู้ร้องทุกข์...ดังนั้นจึงต้อง...กล้าที่จะพูดและเอามาเปิดเผยแล้วครับ
    จะได้จัดการ กับพวกมารได้
     
  15. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    บ้านนี้เงียบๆ จัง
    อ้าว....ดันกระทู้หน่อย
    จะได้หาเจอ
     
  16. Buddha's Child

    Buddha's Child Buddha,God,Mother Nature and Universe bless U

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2017
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +209
    EP 4 : อานิสงส์คาถามหาเมตตาหลวง​
    กลับมาเปิดบ้านอีกครั้งด้วยเรื่องของมนต์คาถากันบ้างนะครับ
    ผมเองเป็นคนที่(โคตร)ชอบสวดมากๆ ชนิดที่ว่าแทบจะสวดให้เป็นกรรมฐานแทนนั่งสมาธิไปเลย (จขกท ขี้เกียจขนาดไหนถามใจดู)
    ซึ่งผมก็มีคาถาที่ชอบมากมายครับ ผมสวดมาหมดแล้วทั้งพุทธเถรวาท มหายาน ฮินดู ซิกข์ ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของคริสต์ก็เคย เป็นคนชอบใช้เสียงครับ(แต่เสียงไม่ค่อยดี ฮ่าๆๆ)

    วันนี้จะพูดถึงคาถาที่ผมชอบมากคาถาหนึ่งนั่นคือคาถามหาเมตตาหลวงครับ ซึ่งผู้ที่แนะนำให้สวดคือยายของผมเองครับ
    ยายของผมถึงแกจะเป็นคนมือถือสากปากถือศีล แต่ก็อย่างน้อยก็ยังถือศีลล่ะเนาะ แกเป็นคนปากร้าย ชวนคนทะเลาะเสมอๆ แต่ชอบสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ

    ผมมีเพื่อนบ้านท่านหนึ่งอายุเท่าๆยายผมเลยครับ สามีแกตายไปนานแล้ว แต่ที่ตลกดีคือแกดันมาหลงรักคุณตาของผมน่ะสิครับ ก็เลยเคืองๆกับยายผม (โถ่ แก่ปูนนี้กันแล้วนะ)
    ยายข้างบ้านนี้แกนับถือโซคากักไคครับ(หรือ สมาคมพุทธนิชิเร็น) แกก็จะสวด"นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว"ครับ เป็นบทญี่ปุ่น เชื่อกันว่าสวดแล้วจะรุ่งเรื่องสมปรารถนา(ผมก็เคยลองสวด ก็ดีนะ) แล้วแกก็สวดมนต์ลูกเดียว ไม่ทำทาน ทำบุญอะไรทั้งนั้น ไม่มาใส่บาตรกับยายผมเลย

    แต่ยายคนนี้แกสวดพร้อมกับเจือด้วยกิเลสน่ะสิ สวดเอาๆ เพื่อหวังจะเอาคุณตาไปเป็นสามีให้ได้ (แหม่ยังกะละครหลังข่าว แต่เรื่องจริงยิ่งกว่าละครนะ อิอิ)

    ยายผมแกรู้เรื่องเข้า แกก็ไม่ยอมแพ้ครับ ตายิ่งเจ้าชู้อยู่ แต่แทนที่จะสวดสาปแช่งยายข้างบ้านที่จะมาแย่งตาไป แกกลับสวดคาถามหาเมตตาหลวงแทน แกจะสวดเพื่อให้ยายคนนั้นยอมแพ้ด้วยพลังเมตตาให้ได้

    เชื่อไหมครับสวดได้แค่วันเดียว(อย่างตั้งใจ) ยายป้าข้างบ้านยอมแพ้เลยครับ วันต่อมา ก็มาหายายผม เอาขนมกับข้าวปลาอาหารมาให้ใหญ่ และยังมานั่งใส่บาตรกับยายผมอีก แล้วแกก็เผยความในใจว่าไม่เอาตาผมเป็นสามีแล้ว กลับใจได้

    หลังจากนั้นผมก็ลองเอามาสวดบ้างครับ ปรากฏว่าคนที่เราเกลียดก็ทยอยๆมาขอโทษขอโพยกันใหญ่ เขามาเราก็ให้อภัยเขา จบลงด้วยดี แล้วหลังๆมาขนมนมเนยมันก็มาของมันเองครับ อยู่ๆก็มีคนเอามาให้ตลอดทุกวันๆ

    นี่คือพลังของเมตตาครับ เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
    เรามีเมตตา ใครร้ายมา เราดีตอบ
    ธรรมะชนะอธรรมเสมอ
     
  17. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    คาถามหาเมตตาหลวงนี่ ยาวมากไม่ใช่เหรอคะ
    ชั่วโมงนึงสวดคาถานี้คาถาเดียวจะพอไหมนี่
    คุณ bhudha มีฉบับย่อบ้างไหมค่ะ
    แล้วการสวดคาถานี้ใช้ได้กับคนที่มีวิบากกรรมเรื่องความรักไหมคะ
     
  18. Buddha's Child

    Buddha's Child Buddha,God,Mother Nature and Universe bless U

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2017
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +209
    ผมสวดสองชั่วโมงอ่ะ สวดไปกินน้ำไป 555
    แบบย่อก็มีครับ

    พระคาถาเมตตาหลวง (ย่อ)
    ๑. คำสวดแผ่เมตตา (ย่อ)
    ๑. สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๒. สัพเพ ปาณา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๓. สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๔. สัพเพ ปุคคะลา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๕. สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๖. สัพพา อิตถิโย อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๗. สัพเพ ปุริสา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๘. สัพเพ อะริยา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๙. สัพเพ อะนะริยา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๑๐. สัพเพ เทวา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๑๑. สัพเพ มะนุสสา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๑๒. สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ฯ
    ๒. คำสวดแผ่กรุณา (ย่อ)
    ๑. สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๒. สัพเพ ปาณา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๓. สัพเพ ภูตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๔. สัพเพ ปุคคะลา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๕. สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๖. สัพพา อิตถิโย สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๗. สัพเพ ปุริสา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๘. สัพเพ อะริยา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๙. สัพเพ อะนะริยา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๑๐. สัพเพ เทวา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๑๑. สัพเพ มะนุสสา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๑๒. สัพเพ วินิปาติกา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ฯ
    ๓. คำสวดแผ่มุทิตา (ย่อ)
    ๑. สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๒. สัพเพ ปาณา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๓. สัพเพ ภูตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๔. สัพเพ ปุคคะลา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๕. สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๖. สัพพา อิตถิโย ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๗. สัพเพ ปุริสา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๘. สัพเพ อะริยา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๙. สัพเพ อะนะริยา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๑๐. สัพเพ เทวา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๑๑. สัพเพ มะนุสสา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๑๒. สัพเพ วินิปาติกา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ฯ
    ๔. คำสวดแผ่อุเบกขา (ย่อ)
    ๑. สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๒. สัพเพ ปาณา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๓. สัพเพ ภูตา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๔. สัพเพ ปุคคะลา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๕. สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๖. สัพพา อิตถิโย กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๗. สัพเพ ปุริสา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณายัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๘. สัพเพ อะริยา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๙. สัพเพ อะนะริยา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๑๐. สัพเพ เทวา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๑๑. สัพเพ มะนุสสา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    ๑๒. สัพเพ วินิปาติกา กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยานัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ
    -----------------------
    เมตตาหลวงโดยย่อ
    อะหัง สุขิโต โหมิ อะเวโร โหมิ อัพ๎ยาปัชโฌ โหมิ อะนีโฆ โหมิ สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา สัพเพ ปุคคะลา สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา สัพพา อิตถิโย สัพเพ ปุริสา สัพเพ อะริยา สัพเพ อะนะริยา สัพเพ เทวา สัพเพ มะนุสสา สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ฯ

    เรื่องความรัก ถ้าสวดเมตตาหลวง เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณก็อาจจะช่วยเราได้ครับ
     
  19. picko

    picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,133
    อนุโมทนา สาธุๆค่ะ เป็นเรื่องดีๆที่อ่านแล้วแปลกดีค่ะ เห็นผลไวมากๆๆ :):)
     
  20. Buddha's Child

    Buddha's Child Buddha,God,Mother Nature and Universe bless U

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2017
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +209
    EP 5 : เรื่องด่วนพิเศษ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน

    เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ สองวันที่แล้วอัพเดทสุดๆ เกิดเหตุประหลาดคือพ่อผมฝันเห็นผีอีกแล้วครับ เหมือนตอนที่อยู่บ้านเลขที่เจ็ด แต่คราวนี้ฝันประหลาดคือ ฝันเห็นคุณตาของผม(ซึ่งแกยังไม่ตายนะ)
    ในฝันพ่อเล่าว่า เห็นตาเข้ามานั่งในห้องไม่ใส่เสื้อตัวขาวดนทาแป้งมาตั้งหน้ายันตัว มานั่งยิ้มในห้องที่เราอยู่ ในฝันแกไม่พูดอะไรเลย พ่อก็พยายามคุยด้วย แกก็ไม่ตอบ
    จนกระทั่งคุยๆกันไปดีๆอยู่ๆก็มีมือยาวๆ ยาวมาก ผอมแห้ง ยื่นออกมาจากกำแพงหัวนอนมาดึงแขนพ่อ พ่อก็ละเมอร้องใหญ่จนตื่นกันทั้งผมกับแม่เลย ดูเวลาตอนนั้นตีสามกว่าๆ

    เราก็กลัวกันมากครับ คิดว่าจะมีเรื่องอะไรกับตาหรือเปล่า (ตอนนั้นก็คิดว่าแกถอดกายละเอียดมา เพราะจะเด้ดเสียแล้ว ฮ่าๆๆๆ) พอกลับไปเยี่ยมแก ทุกอย่างก็ปกติ เราก็เล่าให้แกฟัง ตาแกก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องฝันนิมิตอะไรเท่าไร แต่ก็แอบกลัวนะแกรีบบอกใหญ่เลย
    "ฝันร้ายกลายเป็นดีน้าาาาา" (ลากเสียงยาวๆด้วย ฮ่าๆๆ)

    แต่แม่ก็ยังไม่วายแอบแขวะตา (สองพ่อลูกนี้ไม่ค่อยถูกกัน)
    "สวดมนต์ต่ออายุเข้านะพ่อ เดี๋ยวไม่ได้อยู่ดูสงครามโลก"
    "โอ้ย ถ้ามันจะเกิด กูขอตายไปก่อนดีกว่า อยู่เจอครั้งที่สองมาแล้ว ครั้งสามไม่เอาแล้ว"


    วันนี้ก็สั้นๆครับ แค่อยากมาเล่าเรื่องฝันของพ่อ ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้มือที่ยื่นมาคือมือใคร แต่คิดว่าไม่น่าใช่เจ้าที่ที่อพาร์ตเมนท์แน่นอน (เกรงว่าคุณวิญญาณที่บ้านเก่าจะกลับมาเยี่ยมเยียนพร้อมคุณตา)





    ส่งท้ายกันด้วยคาถาต่ออายุ

    คาถาสืบชะตา-ต่ออายุ (อุณหิสสะวิชะยะ)
    อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร
    สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตังตวังคัณหาหิ เทวะเต
    ปะริวัชเช ระชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
    พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
    สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กะละมาริตัง
    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
    สุทธะ สีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร
    ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุข สะทา
    ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระนัง วาจะนัง คะรุง
    ปะเรสัง เทสะนังสุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ

    พระคาถาบทนี้ อยู่ในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเมตตาให้เทวดาองค์หนึ่งที่กำลังหมดอายุขัย จะต้องลงไปเสวยกรรมในนรก แต่เทวดาองค์นี้ มีความกลัวมากที่จะต้องลงไปเกิดใน เมืองนรกจึงดิ้นรนทุกวิถีทาง ที่จะไม่ไปแต่ก็ไม่มีใครจะช่วยเหลือได้ แม้แต่องค์ พระอินทร์ แต่ยังโชคดีที่ได้พบพระพุทธเจ้า และทรงแนะให้ภาวนาคาถาบทนี้ จะได้มีอายุยืนยาวนานต่อไป เพื่อที่จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ บำเพ็ญภาวนา ใช้หนี้กรรมที่มีอยู่ ให้หมดไป

    พระคาถาบทนี้ จึงมีพุทธานุภาพมาก ในเรื่องของการมีอายุยืนยาวและยังทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างง่าย ๆ อีกด้วย ผู้ที่มีสุขภาพไม่ดี หรือขี้โรค หรือป่วยเป็นโรคที่รักษายากแล้ว ควรหมั่นท่องภาวนาเป็นประจำ จะหายได้โดยเร็ววัน

    เจริญในธรรมครับ
    นะโมพุทธายะ​
     

แชร์หน้านี้

Loading...