นิโรธสมาบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มะหน่อ, 18 มิถุนายน 2013.

  1. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ท่านว่ามีญานสัมปยุต...ผมเองก็คงอธิบาย ความรู้นั้นว่าเป็นอย่างไรไม่ได้...อาจจะคล้ายกังขาวิตรณวิสุทธิ...สติปัฎฐานสี่ คือ การเห็นตามความเป้นจริง ว่านี่สมมุติบัญญัติ(แบบโลกโลก) นี่ปรมัตถ์บัญญัติ(จิต เจตสิก รูป) ทั้งสองอย่างก็เป็น สังขตะสิ่งปรุงแต่ง เกิดแต่เหตุ ดับเพราะเหตุดับ....ส่วนปัญญาความเห็นจริงเกิดตอนใหนไม่รู้ วิราคะตอนใหน ไม่รู้ ตัวใครตัวมัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2013
  2. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ผมเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สาวกโลกอุดรขอตอบคำถามนี้ครับว่า บุคคลในรูปที่ท่านยกมานั้นตามที่หลวงปู่แสดงธรรมนั้น ท่านผู้นี้เป็นพระท่านหนึ่งที่จังหวัดพิจิตร จำชื่อวัดไม่ได้ชื่อว่าพระฎีกาพรหม หรือหลวงพ่อพรหม ซึ่งที่วัดก็มีรูปของท่านผู้นี้อยู่ ท่านมรณภาพไปหลายปีแล้ว หลวงปู่โลกอุดรที่อ้างอิงรูปนี้ก็ไม่ได้มีตัวตนแต่อย่างใด มีแต่เรื่องราวกล่าวขานเป็นแต่อภินิหารต่างๆนาๆ แต่ไม่หลักธรรมคำสอน ในแนวของพุทธศาสนาแต่อย่างใด จะมีจริงหรือไม่หรือเป็นเพียงเรื่องที่บางคนได้สมมุติขึ้นมาเพื่ออะไรนั้น ผู้สมมุติและอุปโลกขึ้นก็คงจะทราบดี
    เรื่องหลวงปู่โลกอุดรนี้เกิดขึ้นภายหลังที่หลวงปู่สาวกโลกอุดรได้สำเร็จพระอรหันต์ และได้ออกเทศน์ธรรมไปแล้วหลายปี
    หลวงปู่สาวกโลกอุดรที่มีข้อธรรมนี้ มีตัว มีตน ไม่ได้ถูกใครอุปโลกสร้างขึ้นมา ท่านยังได้แต่งหนังสือไว้หลายเล่ม มีธรรมที่เป็นซีดีเสียงของท่านอยู่เท่าปัจจุบันนี้ กับผมมีอยู่ ๔๐๐ กว่ากัณฑ์ๆละประมาณ ๑ ชั่วโมง ส่วนตัวท่านได้ละสังขารไปแล้วเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ครับ
    ปัจจุบันที่ปฏิบัติตามแนวฌานสมาบัติที่ท่านสอนรวมประมาณ ๒๐ วัด และมีผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่มีตัวมีตนอยู่ในปัจจุบันที่ผมทราบก็มีอยู่ ๒ ท่าน แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร และอาจจะมีในส่วนที่ไม่ได้เปิดเผยอีกก็อาจเป็นไปได้ครับ
    หากว่าคุณเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่โลกอุดรตามรูปที่โพสต์มานั้น ผมให้คุณไปตรวจสอบความเป็นมาความถูกต้องเอาเองครับ ผมก็ว่าตามที่หลวงปู่แสดงไว้เท่านั้น
    เจริญในธรรมครับ
     
  3. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    สี่มีสองสี่
    รูป
    กับอรูป

    การไม่สุขไม่ทุกข์เป็นความรู้สึก
    จะเรียกอย่างไหนเป็นมรรคเป็นผล
    ก็ต้องได้ผลจากการปฏิบัติก่อนหรือไม่

    ทำไมไม่ได้สี่ไม่ให้ออกธุดงค์เอง
    เมื่อได้สี่แล้วให้ไปธุดงค์ทำไมหรือขอรับ
    ในแนวพระที่บวช

    แต่คนสามัญหรือมนุษย์ที่ปฏิบัติธรรมและเป็นคนดีมีศีลมีธรรม
    ประสพความสำเร็จกัน
    แล้วออกธุดงค์แบบพระได้ไหม
    อะไรที่แตกต่างระหว่างพระจะได้รับและคนจะได้รับ
    ตรงนี้ต่างหากคือความต่าง


    ห้าอากาศ
    คงหนาวหรือไม่อย่างไรขอรับ
     
  4. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ผมไม่ได้กล่าวว่าอุเบกขาเป็นมรรคเป็นผลอะไรนะขอรับ ผมกล่าวว่าอุเบกขาถ้าเป็นอารมณ์ก็คือไม่สุขไม่ทุกข์ และอีกอย่างฆราวาสปฏิบัติกับพระปฏิบัติมีความแตกต่างยิ่งหย่อนกว่ากันอยู่แล้ว พระย่อมมีมากกว่าในด้านของผล นิโรธ กับ นิพพาน จริงๆแล้วความหมายเดียวกัน เพราะนิโรธก็คือความดับจากกิเลสความคิดปรุงแต่งทั้งอารมณ์ ไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีโลกนี้ ไม่มีโลกอื่น จิตหลังจากที่ผ่านนิโรธแล้วนั้น จะเกิดญาณหยั่งรู้ขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า โลกุตรปัญญาที่แท้จริง ไม่ได้นึกคิดเอานะครับ จะหยั่งรู้โดยจิตเอง รู้ปฏิจจสมุปบาท รู้ปฏิสัมภิทาญาณ รู้กิจสี่ญาณสาม รู้อดีต รู้อนาคต รู้ปัจจุบัน เป็นต้น เหล่านี้เป็นคำสอนของหลวงปู่สาวกโลกอุดร ธัมมปาโล สาวกผู้ซึ่งบรรลือสีหนาทในยุคกึ่งกลางพระพุทธศาสนานี้ คำเทศน์คำสอนกระแทกกิเลสของเราท่านได้เป็นอย่างดี ท่านไม่ได้มุ่งประเด็นให้คนเชื่อ แต่ท่านมุ่งเน้นให้ลองไปประพฤติปฏิบัติดูก่อน ใช้หลักเอหิปัสสิโก ท่านเพียงแต่หวังว่าจะมีผู้ที่มีบารมีได้หยิบฉวยประเด็นที่สำคัญในการเทศน์แต่ละครั้ง เพื่อน้อมนำไปลองประพฤติปฏฺิบัติดูว่าเป็นอย่างที่ท่านเทศน์บอกไว้จริงไหม แต่เหล่าเวไนยสัตว์ในยุคนี้ใครหนอจะมีใจเพชรใจเด็ดเดี่ยวที่อยากจะหาทางพ้นทุกข์อย่างจริงจัง ธรรมนี้มีไว้สำหรับคนจริงทำจริง พระศาสดาท่านจะสรรเสริญคนประเภทนี้ยิ่งนะ
     
  5. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ผมไปกล่าวไว้สักทีเมื่อวาน
    รู้โดยจิต
    เมื่อจิตเกิดปัญญาเขาจะเกิดปัญญาแบบอัตโนมัติ

    ตรงนี้คือคำกล่าวของท่านหนึ่งไม่ระบุนะขอรับ
    สิ่งไหนที่เราหาไม่ได้เขาหาเจอได้อย่างที่ต้องเชื่อ
    สิ่งไหนที่เราอยากให้เขาหา

    ขอโทษ

    บางครั้งไม่ยอมหา
    หามาได้หลอก
    ไม่น่ากลัวเท่าหลอน
    นั่นคือจิต

    แล้วมอมเมาเขามาแต่เกิด
    จนมีอายุปานนี้
    เมาอะไร เมาคลื่นกระแสโลก
    ลืมความจริงความลิงก็เลยมาเลียนและเรียนแบบเอาทุกอย่างที่มีอยู่ในวิวัฒ

    บางวันลืมกินข้าว เสพย์เกมเพลินไปหน่อย
    บางครั้งตั้งใจละข้าวเจ็ดวัน เพื่อ ไปนิโรธสมาบัติ
    ความพอดีอยู่ตรงไหนขอรับ
    แล้วถามอีกถามเรื่อยๆ
    เราคือจิตหรือไม่


    คนที่ขายส้มตำหน้าปากซอยชือ่ป้าจิตยังน่าเชื่อกว่า
    จิตที่ท่านกล่าวเพราะเขาถุกล้างสมองไปหมดแล้วหรือไม่อย่างไร
    ล้างด้วยการบรรจุสิ่งใหม่เข้าไปใหม่
    ทำอย่างไรจะล้างให้ว่างเหมือนแรกเกิดกายอีกหรือไม่

    ทำอย่างไร

    แล้วต้องเชื่อน้องจิตหรือไม่
     
  6. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ไม่เข้าใจคำถามครับผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...