นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

วาระที่ 8

เทพเจ้าโชคลาภสายมอญ ท่านได้ตรวจกระแสพลังพระให้ด้วย นับว่าใกล้ถึงดวงดาวแล้ว 55

 

วาระที่ 9 ไปถึงวัด ปรากฎว่าท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ฝนจะตกหนัก

ครูบาท่านให้ผมจุดธูปบอกกล่าวพระอุปคุตก่อนทำพิธี พร้อมถาม "จะให้ปลุกเสกนานแค่ไหน ?"

ผมว่า "ครึ่ง ชั่วโมงพอครับ"

สุดท้ายเล่นไป ชม.ครึ่งครับ นั่งเมื่อยแทบตาย5555 แต่คุ้มกับการปลุกเสก ก็รอดฝนไป ไปต่ออีกที่ได้

 

วาระที่ 10 พระอริยเจ้าสูงสุด....

ไปถึงวัดท่านเปิดโบสถ์อธิษฐานจิตให้เลย ชักยันต์กลางอากาศ ชุมนุมเทพเทวดา

ปลุกเสกเต็มพิกัดครับ มีเรื่องแปลก หลังท่านส่งเทวดากลับแผ่เมตตา

ท่านกราบพระประธานแล้ว หันไปทางด้านขวา กราบอีก ผมก็งง ท่านกราบใคร ?

หลังเสร็จพิธี

ผมถาม"เป็นไงบ้างครับครูบา"

ท่านบอก "เต็มแล้ว"

ผม "ครูบาได้เชิญพระอุปคุตมาไหมครับ ?"

ครูบา "ท่านมานั่งอยู่" (ท่านชี้ให้ตรงที่ท่านกราบตะกี้)

ฝนตกฟ้าร้องไปทั่วครับ เรียกว่าผมช่วยท่านปิดโบสถ์ กางร่มไปส่งท่านที่กุฏิ (ตอนนั้น ทุ่มกว่ามืดมากแล้ว)

เป็นพิธีที่สุดแสนประทับใจยิ่งนัก...

 

เดินทางกลับพร้อมขอหลวงปู่อริยเจ้ารีวิวกระแสให้ และขอท่านลง "มนต์พระกาฬ"

รีวิวกระแสพลัง รุ่น หนุนดวง มหาเสน่ห์มิรู้ลืม


พระแหวกม่าน หนุนดวงไร้ขอบเขต....

แทนพระแหวกม่านในตำนานได้เลยครับ รัศมีเจิดจรัสยิ่งนักด้วยอานุภาพมวลสารการปลุกเสกระดับอภิญญาในตำนานแห่งพระพุทธศาสนาลงให้....

ออราสีทองสลับหลายสี พลังเรืองฤทธิ์จนเกินจะบรรยาย ส่งเสริมดวงชะตา ไม่ให้ตกต่ำ กล้ารับประกันว่าสมบูรณ์แบบยิ่งนัก... นี่คือ การรีวิวโดยญาติธรรมที่ผมให้เป็นผู้ทดสอบตามเล่าไป...



เมื่อผ่านไป 1 เดือนกว่า ๆ ก็ตามที่เห็น...






พระขุนแผน มหาเสน่ห์มิรู้ลืม

หลวงปู่กล่าวว่า ที่แตกต่างจากแหวกม่านคือ มีคงกระพันชาตรีด้วย ท่านบอกให้สวดคาถา สุนะโมโล นะโมพุทธายะ

ออราก็นุ่มนวลกว่าพระแหวกม่าน ทำให้เกิดเสน่ห์แบบชั้นสูง คำว่าชั้นสูงคือ จะดึงดูดผู้มีศีลมีธรรมหน่อยนะครับ ไม่ได้ออกแบบทางกามารมณ์ แต่ดึงดูดให้คนอยากอยู่ใกล้แล้วสบายใจ และส่งเสริมด้านโชคลาภโภคทรัพย์

คำว่ามิรู้ลืม คือหากต้องมนต์เสน่ห์ของพระขุนแผนนี้แล้วจะลืมยาก แบบถอนไม่ได้ ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนะครับผมว่า5555

รวมความสุดยอดยิ่งกว่าขุนแผนที่สร้างมาครับ เสริมดวงชะตาด้วย...

 

วาระส่งท้าย คุณแม่ถุงเงิน อริยสาวิกามหาอุบาสิกาผู้สร้างบารมีอันยิ่งใหญ่..

ท่านลงปิดท้ายให้ นับว่าครบตามวัตถุประสงค์ครับ คือให้มีฆราวาสทั้ง ชาย หญิงลงให้ครบ...

พลัง ณ บัดนี้ผมก็ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรแล้วครับ ...

 

จัดส่งไปเยอะแล้วครับคืนเดียว ตอนนี้พระเหลืออย่างละ 10 กว่าองค์เท่านั้นครับ รุ่นนี้สร้างน้อย

สำหรับคาถาบูชาหลวงปู่ท่านสอน สำหรับพระแหวกม่านสูตรหลวงพ่อกวย " นะ สิ วัง พรหมมา มะอะอุ" พระขุนแผนก็ "สุนะโมโล นะโมพุทธายะ"

นำไปอาราธนาติดกายนะครับ แล้วจะพบความอัศจรรย์...

 

จัดส่งพระไปมาก ปัจจุบันเหลือตามในภาพแล้วครับ...

ดีสุดยอดจนผมต้องเลี่ยมติดคอเลยครับ เพราะตรงตามเจตนาการสร้าง

สำหรับพระขุนแผน ท่านได้ไปส่องดูมวลสารได้ แก่ผงหลวงพ่อแก้วเพื่อให้ออกเมตตามหาเสน่ห์แบบยิ่งยวด เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ และแก่ผงพรายหลวงปู่ทิมด้วยครับ

ในรุ่นนี้ลองเลี่ยมอาราธนาติดกายได้ครับ เพราะปลุกเสกได้ล้ำเลิศเกินจะบรรยาย...

 

พระแหวกม่าน ยังเหลือให้บูชามั๊ยครับ บูชาองค์ละเท่าไหร่ครับ

 

พระขุนแผน พี่มอไซได้ทดสอบแล้วนะครับ "เมตตาดีมาก"

 

เก็บตกรุ่นหนุนดวง !!!!!

บางท่านสังเกตุเห็น ผงบนกล่องที่นำไปปลุกเสกสายอีสาน เหนือด้วยคือ ???

ผงปถมังผสมน้ำนมควาย ของพระอริยเจ้าท่านหนึ่ง ศิษย์หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ

พ่อท่านมุ่ยบอกว่า “น้ำนมวัว น้ำนมควาย ชุบเลี้ยงคนบนโลกนี้มานานแล้ว เป็นสัตว์ที่มีคุณต่อมนุษย์”

https://www.matichonweekly.com/column/article_740049

ผงนี้แต่เดิมผสมน้ำนมควายปั้นเป็นแท่งมาเลยนะครับ ผมมาตำบดอีกที และมีบางส่วนเป็นผงจากการลบก็มี

ผงนี้ผมได้มาหลังสร้างพระเสร็จนะครับ ได้มาก่อนเดินทางไปปลุกเสกอีสาน และภาคเหนือจึงไปร่วมเสกด้วยเลย

ความขลังไม่ต้องห่วง สำหรับโครงการถัดไป ซึ่งหลวงปู่ท่านได้ให้แนวทางไว้ สำหรับบรรเทาความยากลำบากของคนยุคนี้ที่เริ่มมีให้เห็นแล้ว

 

ผมได้แวะไปทำบุญหลวงปู่ท่าน แทบจะทุกอาทิตย์เลยครับ ไปทีคุยกันไม่ต่ำกว่า 2 ชม.

ท่านกล่าวว่า ยุคนี้มีชาวบ้าน ศิษย์ มีคนมาบ่นกันมากเรื่องความลำบาก ไม่ว่าค่าไฟที่แพงขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งก็จริง ดูง่ายๆ ค่าไฟก็มากขึ้นเรื่อยๆ ละครับ ข้าวจะหาจานละ 30 -40 บาทก็แทบไม่มีแล้ว555 ซื้อทีไม่ต่ำกว่า 50 บาท ต่อไปเราคงได้กินข้าวจานละ 100 กันละครับ

ค่าน้ำมันก็เติมทีแทบคำนวณไม่ถูกแล้วล่ะครับเท่าไรเต็มถัง

หลวงปู่ท่านเล่า ก่อนท่านบวช ทำงานกรมโยธา สมัยก่อนท่านคุ้นเคยสนิทกับปรมาจารย์ฆราวาสระดับตำนาน อ.เทพย์ สาริกบุตร ดี ท่านบอกร่วมงานกันหลายครั้ง เพราะเวลากรมโยธา มีงานบวงสรวง หรือทำพิธีอะไร ก็จะเชิญ อ.เทพย์มาเป็นเจ้าพิธี

รวมทั้งหลวงปู่ก็ได้สนทนากับ อ.ชุม หลายครั้ง ท่านบอก อ.ชุมเก่งเรื่องคงกระพัน มหาอุดมาก

ทีนี้ ผมก็ได้เจาะจุดสำคัญ "คงกระพัน มหาอุดพอหาแนวนี้ได้ ประสบการณ์เยอะ แล้วทำไมโชคลาภหาเสริมยากจังครับ ??"

ท่านว่า "โชคลาภยากจริง ครูบาอาจารย์บอก... เป็นเรื่องเฉพาะตน"

ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างหวย ท่านเล่าบางครั้งมีคนไปขอครูบาอาจารย์สมัยก่อน ขอโชคลาภ บางท่านบอกตรง ๆ เลย "ไม่มีวาสนา กลับไปเถอะ"

บางคนกลับมีวาสนา อย่างท่านเล่า หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ เคยมาปลุกเสกพระที่งานหนึ่ง มีคนไปขอโชคลาภ ท่านก็บอกตรง ๆ ไปเลย 3 ตัว หวยก็ออกตรง ๆ จริง ๆ ไม่ต้องกลับ ถูกกันถ้วนหน้า...

มีครั้งหนึ่ง เพื่อนฆราวาสท่านเดือดร้อนจะโดนยึดบ้าน โทรมาขอให้หลวงปู่ช่วย ท่านก็บอกไปตามที่เห็น แต่ก็อ้างไป ว่ามีคนเขาบอกต่อ ๆ กันมา ท่านก็ย้ำว่า ออกบนนะ

ผลคือ เลขออกล่าง ก็พลาดไป ท่านว่า มันน่าปวดหัวจริงๆ จึงไม่บอกใครอีกเลย เพราะถ้าพลาด เราเสียเลย คือ จะกลายเป็นผิดศีล อวดอุตริมนุสธรรม

 

ไม่ว่าจะเป็นพระแหวกม่าน หรือพระขุนแผน มวลสารสุดยอดครับ ส่องดูได้เลย

 

เก็บตกรุ่นหนุนดวง ในภาพเป็นมวลสารที่หลวงปู่ท่านย้ำนักย้ำหนาว่าต้องเอามาให้ได้ ที่พระธาตุพนม โดยท่านบอกให้ไปเอากับสหายธรรมของท่าน... ท่านเคยนำมาใช้สร้างพระสีวลีของท่านเอง มวลสารนี้ดีเด่นด้าน "อภิมหาลาภ" ซึ่งที่ท่านเคยได้มาใช้ไปหมดแล้ว จึงแนะนำให้ผมหามาให้ได้

มวลสารนี้คือ ทรายทอง ทรายเงิน ทรายนิล ที่ขุดพบตรงบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์พระอินทร์วัดพระธาตุพนม (อายุ 2,000 ปี)

หลวงปู่อธิบายว่า มวลสารนี้เกิดจากแม่น้ำโขงไหลมาบรรจบตรงพระธาตุพนม และอาศัยพลังจากบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์พระอินทร์จึงอภิมหาขลัง ดีเด่นระดับ อภิมหาลาภ ยิ่งมีครูบาอาจารย์สมัยโบราณมากราบสักการะพระธาตุ ทำสมาธิ ก็ยิ่งรับพลังสะสมมายาวนานนับพันปี (เฉพาะด้านลาภ)
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1492898

และแน่นอน เมื่อผมได้มาก็ได้นำไปเพิ่มพลังพร้อมรุ่นหนุนดวง มหาเสน่ห์มิรู้ลืมด้วยเลยครับ ผ่านกระแสพลังพระอุปคุตมาแล้วเน้อ.... สำหรับโครงการถัดไป....

"ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว " การเดินทางแต่ละครั้งมาจากผลแห่งอดีต ทำปัจจุบันให้ดี เพื่ออนาคต...

 

ได้คุยกับแฟนพันธุ์แท้ ทำให้ทราบว่าท่านนี้ได้รับประสบการณ์มามากมาย

โดยเฉพาะพระสีวลีที่ผมสร้างยุคแรก ๆ ในภาพ เป็นรุ่นทิ้งทวนเพราะได้ใช้ผงพระธาตุไปหมดเลยครับ

ผงนี้หาโคตรยากเลยนะครับ และสิ่งสำคัญผมผูกพันกับพระสีวลีมาแต่เด็ก ๆ เลย ซึ่งเคยเล่าไปแล้วตอนสร้างครั้งแรกหลายปีก่อน ซึ่งโด่งดังมากชนิดที่ผมคนสร้างเองยังไม่เหลือเลยในรุ่นแรก รุ่นสองทิ้งทวนยังเก็บไว้เองได้ 1 องค์เองมั่ง ตอนนั้นยังคิดสูตรเนื้อพระได้ไม่ลงตัวพระเลยไม่สวยมาก

ความสำคัญคือพระนี้ใช้ผงพระธาตุพระสีวลี อันเป็นที่สุดแห่งอภิมหาลาภโดยแท้ และได้ใช้จนหมด

จึงมีอภินิหารอันดังตามที่แฟนพันธุ์แท้ได้เล่าไป ชนิดที่พลิกชะตาได้เลย

 

ดังที่เคยเล่าไปตอนสร้างพระสีวลีรุ่นแรกและรุ่นทิ้งทวน (ใช้ผงจนหมด) ผงพระธาตุนี้หาโคตรยากเลย เพราะผมเคยอ่านโลกทิพย์ตั้งแต่เด็ก ๆ ภายหลังผมได้ตามไปจนถึงวัดที่เผยแพร่เรื่องพระธาตุที่อุทัยธานี รอจนเย็นได้พบเจ้าอาวาส ซึ่งท่านก็บอกว่าผงนี้หมดแล้ว ได้นำมาสร้างพระและคนมาขอกันมาก เรียกว่าไม่เหลือแล้วครับ

ส่วนองค์พระธาตุเองวัดก็ได้นำมาสร้างเป็นพระบูชาและสร้างวัดจนราบรื่นด้วยดี ด้วยอานุภาพแห่งผู้ที่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็น เอตทัคคะผู้มีลาภมาก

แม้ผมจะไม่ได้ผงจากที่วัด แต่ก็ได้อธิษฐานขอให้ได้ผงพระธาตุมา หลังจากวันนั้นไม่นานก็ได้มาจริงๆ เลยสร้างได้ 2 รุ่นจนสำเร็จด้วยดี

และจากนั้นมาผมก็พยายามเสาะหาแต่ก็ไม่ได้มาอีกเลยครับ หลายปีแล้ว จะไปหาที่บดจากองค์พระธาตุก็ไม่ได้ กลัวบาป และผลอานุภาพต่างกัน เป็นผงจะได้กระแสพลังที่เห็นผลมากกว่านั้่นเอง ผมยังคิดจากวันนี้เลยครับ ถ้านำผงพระธาตุพระสีวลีกับ ผงสายมหาลาภหนุนดวง เช่นผงหลวงปู่โต ผงหลวงพ่อแก้ว ผงพระสกุลลำพูน ผงหลวงพ่อกวย..ฯลฯ ผงชุดอภิญญาใหญ่รวมกัน คงเป็นอภิมหาลาภได้เลยล่ะครับ

 

ที่สุดในชีวิตซึ่งมีโอกาสได้ 2 ครั้ง ผงพระธาตุพระสีวลี คนละที่มา...จากได้เมื่อหลายปีก่อนครับ ...
รอบนี้จากถ้ำ นครศรีธรรมราช หลวงปู่ตรวจสอบแล้ว "สุดยอด โชคลาภ เมตตามาก"

ท่านย้ำ "เอามาฝากหลายๆองค์นะ"

ผมจะอุทิศชีวิตสร้างรุ่นนี้เลยครับ เพราะจะเลี่ยมห้อยเป็นพระประจำตัวด้วย หาโคตรยากเลยผงนี้ หาผงหลวงปู่โตยังง่ายกว่าอีก55

พร้อมขอความรู้...จากที่ท่านศึกษาจากครูบาอาจารย์มาครับ จนสร้างเจดีย์ วัด...โรงเรียนจนสำเร็จได้เป็นพันล้าน

เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังครับ "ไขปริศนาบารมีด้านโชคลาภ, ห้อยพระอย่างไรให้เรามีโชคลาภ , ใช้พระด้านลาภเทาๆ "

 

รุ่นหนุนดวง มหาเสน่ห์มิรู้ลืม เป็นการเดินทางไกลข้ามภาคเลยนะครับ เสกตั้งแต่อีสาน ยาวไปภาคเหนือ

โคราช ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ลำพูน เชียงใหม่ ชัยนาท อยุธยา ย่อมแรงจนบรรยายไม่ถูก

สิ่งสำคัญ ผมได้นำมวลสารเสกไปด้วย เพื่อรุ่นถัดไป ตามโพสไปครับ และได้รับความเมตตาจากเบื้องบนจนได้ผงพระธาตุพระสีวลีมานี่เอง
เพื่อเป็น อภิมหาลาภ ....

 

ผงพระธาตุพระสิวลี
เป็นที่ยอมรับกันในหมู่ผู้มีความรู้เรื่องผงพุทธคุณว่า "พระสมเด็จวัดระฆัง" มีส่วนผสมของผงพระธาตุพระสิวลี จึงมีอาการผงงอกได้! จึงมีปริศนาทิ้งไว้ว่า โบราณาจารย์หาพระธาตุพระสิวลี และผงพระสิวลีจากแหล่งใด
ท่าน"สุริยาทิตย์" หรือคุณประโพธิ เปาโรหิตย์ อดีตเสรีไทยสายอังกฤษและนักแสวงหาของกายสิทธิ์ได้เขียนเล่าว่า ในยุคที่พระธาตุจากแหล่งสามร้อยยอดพึ่งค้นพบ มีพระรูปหนึ่งนำพระธาตุมาตำเป็นผงเพื่อจะนำทูลเกล้าฯ แต่ไม่นานท่านก็มรณะภาพลงในเวลาไม่นาน จึงเชื่อว่าโบราณคงไม่กล้าเอาพระธาตุมาทำลายเป็นแน่แท้ ที่มาของผงพระธาตุสิวลีจึงมาคลี่คลายเมื่อมีการค้นพบแหล่งพระธาตุที่ถ้ำรัตนคีรี จ.อุทัยธานี เพราะมีการพบผงพระธาตุแยกไว้ต่างหากในแหล่งพระธาตุ ผงนี้ใครได้ไปไม่นานหากได้ปริมาณมากพอจะเห็นปรากฎการณ์การจับตัวของผงกลายเป็นพระธาตุ(มีลักษณ์เป็น garlicstone)
ในทางคติชนก้อเชื่อถือว่าเป็นสื่อทางโชคลาภชั้นสูงตามองค์คุณแห่งพระสิวลี
(ลักษณะพระธาตุโบราณเป็นตามตำราของกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา)
ถือว่าเป็นของดีหายาก
Cr.อาจารย์เอก ธรรมบุนนาก

 

วิเคราะห์ พิจารณาเรื่องพระธาตุ.... พระบรมสารีริกธาตุ

จากที่ได้ นำพระธาตุ พระบรมสารีริกธาตุไปถวายหลวงปู่เหิร ได้สอบถามหลวงปู่ ซึ่งยอมรับว่าพระธาตุที่ได้มาเป็นของมีอานุภาพ มีพุทธบารมี และความศักดิ์สิทธิ์จริง

ท่านกล่าวว่า หากมีกระแสพุทธบารมีของพระพุทธเจ้าเรียกว่า พระบรมสารีริกธาตุ

หากมีกระแสของพระอรหันต์เจ้า เรียกว่าพระธาตุ

ทีนี้ ผมก็อดสงสัยไม่ได้ ว่า พระธาตุต่าง ๆ ที่พบในถ้ำ หรือที่ว่า เนรมิต มาจากปาฏิหารย์เช่นที่เราได้ยินว่า เสด็จมาเอง เพิ่มจำนวน ลดจำนวนเองได้ (ไม่ได้เห็นกับตาไม่ได้อัดคลิป หรือเห็นคลิป ก็ว่าเล่นกลได้อีก) ทำไมเยอะจัง

ตามที่เราทราบกันพื้น ๆ ว่า พระธาตุมาจากกระดูกของผู้ทรงธรรม แล้วแปรสภาพดังเช่นที่เราเห็นในภาพ ของพระอริยหลายท่านมรณภาพ ผู้นำอัฐิธาตุไปบูชาจะเห็นปาฏิหารย์ว่า แปรสภาพ หรือมีผลึกแก้วใส บางท่านออกสีหยก เราก็นับถือว่า ท่านสำเร็จแล้ว เป็นพระธาตุแล้ว

ครูบาอาจารย์หลายท่านที่สอบถาม เห็นตรงกันว่า พระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุ เกิดจาก 2 ที่มาหลัก ๆ

1. เกิดจากหรือแปรสภาพจากอัฐิธาตุโดยตรง นี่ชัดเจน หากเป็นของพระพุทธเจ้าก็ อยู่ตามเจดีย์ใหญ่ ๆ เช่นที่ศรีลังกา หรือตามตำนานในไทยก็เช่นพระธาตุพนม

2. เกิดจากเทพนิมิตร ที่เราเรียกว่าพระธาตุเทพนิมิตร คือเสด็จมาเอง ส่วนใหญ่พบจากการบูชาของผู้ปฏิบัติธรรม หรือครูบาอาจารย์ระดับสูงอัญเชิญมา ซึ่งก็มีอานุภาพเช่นกัน

ไม่นับของไม่จริงนะครับ หากไปตรวจพลังเดี๋ยวว่า ปรามาสอีก

ทีนี้ พระธาตุพระสีวลี ที่พบในหลาย ๆ ที่ หากจะบอกว่ามาจากกระดูกพระสีวลีคงไม่น่าใช่ เมื่อครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือ พิจารณาแล้วกล่าวว่า เกิดจาก บารมีครูบาอาจารย์ในสายพระสีวลีไปปฏิบัติในถ้ำเหล่านั้นแล้ว อัญเชิญบารมีมา เพราะ พิจารณาได้ว่า แม้พระพุทธเจ้า ยังไม่ได้มีแค่พระองค์เดียว ดังนั้น พระสีวลีเช่นกัน ย่อมมีครูบาอาจารย์สืบสาย หรือเด่นในด้านลาภหลายองค์ได้เช่นกัน เมื่อไปปฏิบัติธรรมในถ้ำ กระแสบารมีของพระอรหันต์ระดับสูงแผ่ไป สภาพในถ้ำ ย่อมแปรเปลี่ยนไปได้เช่นกัน ก่อเกิดเป็นพระธาตุพระสีวลี และผงพระเจ้า หรือผงพระธาตุพระสีวลี....

จากการสนทนากับหลวงปู่เมื่อวานนี้ให้ข้อสรุปว่า

เกิดจากครูบาอาจารย์พระอรหันต์เชิญบารมีพระสีวลีมานั่นเอง เหมือนการเชิญบารมีพระบรมสารีริกธาตุนี่ละครับ ที่หากปฏิบัติดี พระบรมสารีริกธาตุสามารถเพิ่มจำนวนได้


พระธาตุองค์เล็กที่เกิดจากการ่อนผงพระธาตุครับ...

 

ประวัติพระสีวลีเถระเจ้า
พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติลงถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์ ของพระมารดา นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดาและพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า:

“ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข
ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”

ด้วย อำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไป พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลายได้ขนานพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า “สีวลีกุมาร”

เมื่อท่านอุปสมบทแล้วปรากฏว่าท่านเป็นพุทธสาวกที่มีลาภสักการะมากมาย ด้วยอำนาจบุญบารมีของท่านที่สั่งสมมา ลาภสักการะเหล่านี้ได้เผื่อแผ่ไปยังพระสงฆ์สาวกท่านอื่น ๆ ด้วย แม้พระบรมศาสดาเมื่อทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จทางไกลกันดาร ถ้ามี พระสีวลี ร่วมเดินทางไปด้วย ความขาดแคลนอาหารและที่พักอาศัยในระหว่างทางก็จะไม่เกิดขึ้นแก่หมู่ภิกษุ สงฆ์เลย เช่น....

สมัย หนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จำนวน ๕๐๐ รูปไปเยี่ยมพระเรวตะผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ซึ่งจำพรรษาอยู่ ณ ป่าไม้ตะเคียน เมื่อเสด็จมาถึงทาง ๒ แพร่ง พระอานนท์เถระได้กราบทูลสภาพหนทางว่า.....

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเสด็จไปทางอ้อม ระยะทางไกล ๖๐ โยชน์ มีประชาชนอยู่อาศัยมาก พระภิกษุไม่ลำบากด้วยภิกขาจาร แต่ถ้าเสด็จไปทางลัดระยะทางประมาณ ๓๐ โยชน์ ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย มีสภาพเป็นป่าใหญ่ มีแต่อมนุษย์อยู่อาศัย พระภิกษุสงฆ์จะลำบากด้วยภิกขาจาร”

พระพุทธองค์ ตรัสถามว่า:-

“ดูก่อนอานนท์ พระสีวลีมากับเราด้วยหรือไม่?”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระสีวลีมากับเราด้วย พระเจ้าข้า”

พระพุทธองค์ ตรัสว่า:-

“ดูก่อนอานนท์ ถ้าอย่างนั้นก็จงไปทางลัด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลด้วยอาหาร
บิณฑบาต เพราะเทวดาทั้งหลายที่สิงสถิตอยู่ในป่าระหว่างทาง จะจัดสถานที่พักและอาหารบิณฑบาตไว้ถวายพระสีวลีผู้เป็นที่เคารพนับถือของพวก ตน เราทั้งหลายก็จะได้อาศัยบุญของพระสีวลี นั้นด้วย
ได้รับยกย่องในทางผู้มีลาภมาก

ด้วย อำนาจบุญที่ท่านพระสีวลี ได้บำเพ็ญสั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยาดา นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย นำมาถวายโดยมิขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่ใด ๆ ในป่า ในบ้าน ในน้ำ หรือบนบก เป็นต้นด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านในตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้มีลาภมาก นับว่าท่านพระสีวลีเถระเป็นพระมหาสาวกอีกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการ พระศาสนา แบ่งเบาภาระของพระบรมศาสดาเป็นอย่างมาก ท่านดำรงอายุสังขารโดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

ที่มา

https://www.gotoknow.org/posts/254662