นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (รุ่นอภิมหาลาภ)

เม็ดชนวนจากการหลอมใส่ทุกเบ้าครับ ในภาพถุงใส่เบ้าเนื้อทองแดงชนวน เรียกว่าเนื่อธรรมดาก็ขลัง

 

ในภาพขนาดแหวนตัวอย่างครับ

ตามคอนเซป แหวนไม่ใหญ่มาก ชายก็ใส่ได้ ญ ก็ใส่ได้

 

ก้นก้านช่อเนื้อพิเศษ ดูกันชัดๆครับดำดีไหม นวะแท้ไหม



ในภาพเผาชนวนหัวเชื้อนวโลหะ

 

จากภาพ ผมคุมการหลอมชนวนเองครับ ใส่ทุกๆวงแน่นอน

เนื่อพิเศษไม่ต้องพูดถึง ใส่เต็มที่ หล่อมาแล้ว กิ๊กก็อกอย่างผมยังว่า มหาขลัง. เลยจากคำว่าสุดยอด

ขัดแต่ง ยิงเลเซอโค้ดให้เสร็จปลายสัปดาหหน้า เสาทิตนำขึ้นเสก

ท่านใดยังไม่ได้โอนรบกวนชำระค่าบูชาได้เลยครับ. จะได้นำจ่ายค่าช่าง

หลังเสกเสร็จผมจะถวายแหวน 200 กว่าวง และถวายปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่ายให้วัดด้วยครับ

 

สรุป ขั้นตอนการหล่อแหวน

จากภาพชนวนทั้งหมดนำมาเป่าไฟรวมกันเป็นเนื้อเดียว แล้วนำไปเทลงน้ำ จนเป็นเม็ดชนวน จากนั้นนำเม็ดชนวนไปใส่ทุกเบ้า ๆ จึงมั่นใจว่า ชนวนหลักลงแหวนทุก ๆ วง (เนื้อพิเศษใส่มากหน่อย)

ในส่วนเนื้อพิเศษทำภายหลัง ก็นำแท่งชนวนนวโลหะ มาหลอมพิเศษแล้ว นำเม็ดชนวนนวโลหะใส่เนื้อพิเศษกันเพิ่ม





กำหนดการขัดแต่งจากนี้ วันพุธหน้าให้เสร็จแล้ว

พฤหัสบดียิงเลเซอร์โค้ดทุก ๆ วงแล้วจัดส่งให้ผม

ผมได้รับของวันศุกร์ เดินทางไปเสกเสาอาทิตย์เลยครับ

ท่านใดยังไม่ได้โอนรบกวนชำระค่าบูชาได้เลยครับ. จะได้นำจ่ายค่าช่าง

หลังเสกเสร็จผมจะถวายแหวน 200 กว่าวง และถวายปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่ายให้วัดด้วยครับ

 

บทสรุปหลังหล่อเสร็จ

นับว่าภาระทางใจปลดเปลื้องซะทีครับ เรียกว่างานนี้หินสมกับที่ปรึกษาบอกไว้ว่า"ของดีย่อมได้มายาก"

ตอนแรกมีคนแนะนำให้ผมทำแบบศูนย์พระนายทุนทำ คือ ล็อคไซส์มาเลยประมาณ 5 ไซส์ จบ จะได้ง่ายต่อการสร้าง แต่นั่นละครับ ผมคิดถึงใจเขาใจเรา ว่า แหวนไม่เหมือนพระ ถ้าไม่มีไซส์เราเราก็ไม่เอา นิ้วคนเรายาวสั้นหนาไม่เท่ากัน

ผมคิดถึงตอนผมจองแหวนนพสิทธิ์รุ่น 2 ที่ผมจองทัน เลือกไซส์ไปก็ล่าช้าเรียกว่าหลายเดือนมาก ๆ กว่าจะเสร็จ แต่ก็ใส่มาจนทุกวันนี้

ผมจึงให้โอกาสทุกท่านเลือกไซส์มาได้เลย ยิ่งมี ญ หรือเด็ก ผมยิ่งชอบครับ จะได้ไปใช้กัน เป็นแหวนคู่ชีวิตตามคอนเซปรุ่นนี้

ส่วนเรื่องเนื้อหามวลสารจัดเต็มครับไม่ใช่แบบแก๊งเซลแมนทำแน่นอน เพราะที่ปรึกษาได้เล่าถึงตำนานการสร้างแหวนล้านนามาแล้วในพงศาวดาร ว่าไม่ใช่สร้างกันง่าย ๆ

แหวนคือเครื่องประดับบ่งบอก วรรณะกันเลย

อานุภาพก็ตามหลักการสำนักนี้ ของแรงขลังไม่ใช่ว่าจะใช้ในชีวิตประจำวันได้เสมอไป ของเรา แรง ขลังและกระแสพลังตามหลักวิชาอาคมกันเลย คือใช้เทา ๆ ได้ และไม่ใช้ชนวนรูปพระ ใส่นิ้วไปเข้าห้องน้ำ ล้วงกระเป๋ากางเกง จับเท้าจับไรก็ไม่เสื่อม ไม่ลดอานุภาพ

สิ่งสำคัญจากทุกท่านเห็นชนวนมวลสารมากมายมหาศาล เรียกว่า ใน 1 วงมวลสารไม่ต่ำกว่า 50 % มวลสารหลัก ๆ ได้มาจากผู้ทรงจิตวิชาระดับสูง

เหตุที่ผมได้มวลสารมา ปกติผมไม่รับบริจาคมวลสารนะครับ ขี้เกียจมาแยกกระแสพลัง แน่นอน ผู้รู้จักผมส่วนตัวทราบดีว่า ผมจริงจังมากกับกระแสพลัง เรียกว่าไม่ชัวรผมไม่ใส่ไปให้พลังไปตีกับวิชาแน่นอน ตรวจสอบทุก ๆ ชิ้น

แต่ชุดนี้ได้กำไรเงินหลวงปู่หมุน ก็ผ่านเกณฑ์เลยครับ และจากเจ้าของชนวนอื่นอีก เรียกว่าที่ได้มาเพราะผมถือหลักว่า

1. อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อ้างชื่อพระดังมายกหางตัวเองครับ แบบบางแก๊งทำ เป็นหลักการเข้าสังคม (หัวหน้าเซลสะอึก)

2. ยึดหลักการกุศล ต้องให้บุญกุศลก่อเกิดมาหนุนเรา เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎแห่งกรรม

จึงมีผู้มีจิตเมตตามาช่วยเหลือ ช่วงล่าช้าไป ช่างยังคิดว่าคงเป็นวาระ ทำให้ได้แผ่นจารชนวนมาเสริมมากมาย และตามคอนเซปแห่งกระแสพลังครับ

โปรดคอยติดตามการเสก หลังเสกเสร็จ จะขอตรวจกระแสพลังกันมาเลย แล้วรอ QC มาตรวจปิดท้าย

เดี๋ยวคงได้ดังแบบตะกรุดพลิกฟ้าละครับ ดอกละ หมื่นปลายไปแล้ว...

ท่านใดพลาดจอง รอผมส่งของเสร็จ

เนื้อพิเศษแน่นอนมีทำสำรองไว้ครับประมาณ 60 กว่าวง(เนื่องจากไซส์มาก 20 ไซส์จึงต้องสำรองไว้มากคละ ๆ ในแต่ละไซส์)

เนื้อชนวนรุ้ง ถวายวัด บูชาที่วัดได้ครับ...หลังถวายวัดไปแล้ว

 

สรณาคมนา รักษาบังภัยทั้ง 6 ประการ โรคที่วิทยาศาสตร์พิสุจน์ไม่ได้ รักษาไม่ได้

ส ตัวนี้รักษาป้องกันอัจตรายที่มองไม่เห็น
ร ว่าตามปรารถนาแห่งตน ตัดเคราะห์แห่งตน ตัดของต้นตระกูล (อาจมีโรคภัยประหลาดที่สืบทอดมาตามเชื้อสายตระกูล)
ณา ตัวนี้ว่าปล่อยเสียเสี้ยง (ปล่อยของไปให้หมด) ด้วยการสาง ตัดไว้เสียเหมือนถ่มน้ำลายลงดิน
ค ตัวนี้ เป็นตัวที่รักษาทวารทั้ง 9 ให้ได้แท้จริงแล
ม ตัวนี้ว่าด้วยเร่งแรง ก็แข็งใจ ( มะ ตัวนี้ให้หัวใจเราแข็งแรงก่อนที่จิตจะบริสุทธิ์จากมารทั้งปวง)
นา ตัวนี้ให้ระงับอินทรีย์ทั้ง 6 ตา หู จมูก ลิ้น กายใจ ก่อนที่จะผจญต่อมารอันชั่วร้าย ให้หมู่มารอ่อนน้อมแก่ตัวเรา



ยันต์ 4 ลูกหนี้ลงปลุกธาตุ (พยุง) ลงใส่ใบลานก็ดี ทองก็ดี (โลหะ) แช่ไว้กับน้ำขมิ้นส้มป่อย มนต์รวมกัน นำติดตัว พ้นจากโรคพยาธิทั้งปวง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ได้อยู่ดีมีสุข ปกธาตุ (ปรับธาตุร่างกาย หากเจ็บป่วยก็หาย) คนเฒ่าก็ดี เด็กก็ดี ให้เอาอาบน้ำเถอะ

ผู้ใดได้อาบน้ำก็ดี จะมีผิวพรรณ วรรณงดงาม หาโรคาพยาธิไม่ได้ อยู่ดีมีสุข



สิทธิการที่นี้จะกล่าวยังการสร้างมหาแหวน เป็นแหวนชะตาไว้กับตัว บุคคล หญิง ชายจะหาแหวนไว้คู่ชะตาบารมี ให้เก็บไว้ประจำตัวให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย ถือไว้มีเดชะ ฤทธี ถือไว้กำกับธาตุทั้ง 4 ให้พ้นจากภัยทั้งปวงอันบังเกิดจากเคราะห์ต่าง ๆ นา ๆ เคราะห์ผีใส่ คนใส่

ตามพรหมชะตาของคนที่จะถือแหวน ควรที่จะถือกับเนื้อกับตัวให้แม่นยำ ให้เคารพยำเกรงเชื่อในคุณพระแก้วทั้ง 3

ในการสร้างแหวนมหาชะตา ประจำตัวประกอบด้วยเดชะฤทธี อิทธิฤทธี ขับไล่โรคภัยต่าง ๆ นานา

ให้หานวะโลหะทั้ง 9 ให้ทำพิธีรวมธาตุ ปลุกธาตุทั้ง 5 ขันธ์ 5 ลงคาถาอาคม

แหวนนี้จะมีเทวดาทั้ง 9 รักษา มีท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 พระยายมราช ท้าวเวสสุวรรณ พระยาอินทร์ สุริยเทวบุตร จันทรเทวบุตร พระศรีอาริยเมตไตรย อาฬวกยักษ์

เทวบุตร เทวดาจะรักษาคุ้มครองผู้ใส่ใจ อุปถัมภ์ค้ำชูผู้นับถือพระพุทธศาสนาให้ครบ 5 พันปี

หากแม้นว่ามีข้าศึกศัตรู หมู่มารผู้มาผจญต่อตัวเรา หรือเหตุเภทภัยอันใดก็ดี เทวดาก็จะเตือนเรา เช่น แหวนอาจร้อน หรือเย็น หรือผิดปกติ แสดงว่าจะมีเหตุร้ายเหตุด่วนจะเกิดขึ้นกับเรา ฉะนั้นแล้วให้อบรมด้วยน้ำอบ น้ำหอม แช่น้ำขมิ้นส้มป่อยอาบก็จะมีเดชะฤทธีต่อตัวเรา ศัตรูหมู่มารแพ้ภัย

 

สนใจแหวนครับ ตามมาอ่าน

 

รอปลุกเสกเสร็จส่งให้ผู้จองก่อนนะครับแล้วจะมาแจ้ง ที่สำรองไว้มีขนาดใดบ้างครับ ในเนื้อพิเศษ ผมสั่งสำรองไว้ 60 วง คละ ๆ ในแต่ละไซส์ครับ

 

ลืมโชว์ ในชนวนวันนี้มีเหรียญพระพิราพ ที่วัดแห่งหนึ่งสร้างด้วยเป็นเนื้อนวะโลหะ

พระพิราพ คือเทพอสูรที่มีหลายท่านนับถือมาก ที่ปรึกษาก็นับถือท่านเป็นครูด้วย

ชุดนี้จึงรวมกำลัง 3 พญายักษ์จริง ๆ ท้าวเวสสุวรรณ พระพิราพ อาฬวกยักษ์

ผู้ทรงจิตถึงบอก รวมกำลังทั้ง 3 ยากแต่แกะแบบเลย...

แต่สิ่งสำคัญจะเสกให้ออกแนวดุ และรักษาโรคด้วย เพราะยักษ์ไม่ค่อยป่วยไข้ และตามนิมิตรยักษ์ถือถุงยามารักษาโรค...

 

พระภิราพสวยดีวัดใหนติดต่อที่ใหนครับอยากได้

 

ในวงการสรรพวิชาอาคม สมัยก่อนหากไม่ได้สัมผัสเราเห็นในหนังละคร เราอาจคิดว่า ผู้มีวิชาเปรียบเหมือนผู้วิเศษ จะมีอะไรที่เหนือคนทั่วไป

ใช่ครับ.. เป็นเช่นนั้น แต่หากได้สัมผัสจริงเราจะเห็นว่ากว่าจะมาถึงจุดที่ได้รับการยอมรับ และคงทนถาวรได้ ไม่ใช่ง่าย ไปเรียนซัก 100 คนอาจสำเร็จวิชามาซัก 10 คน ที่เรียกว่ากันว่า ถือของขึ้น

ทีนี้ การถือของขึ้น เป็นยังไงอย่างไร ก็ทำอะไรได้ขลัง เช่นคงกระพัน หรือเสกของเสร็จเอาปืนลองยิง ก็ไม่ออก หรือออก ก็ไม่ถูก แต่ปัญหาเรื่องนามธรรมแบบนี้ มักพิสูจน์กันยาก อย่างที่เขาว่า อยู่กับอาจารย์นะขลัง สักเสร็จลองฟันแทงไม่เข้า พอออกจากสำนัก เจอเหตุทะเลาะ ตายไปก็มาก อย่างที่เป็นข่าว สักยันต์เต็มตัว ยังโดนยิงตายกันได้

ผมไม่พูดถึงผู้บริโภค แต่พูดในแง่ผู้เรียน

อย่างง่าย ๆ ไปขอคาถามาลองใช้ได้ผลมั่งไม่ได้ผลมั่ง มักมีเหตุหลายปัจจัย ซึ่งเรื่องนี้จะไม่ลงลึก เพราะเดี๋ยวบางแก๊งค์มาแอบจำจุด

ทีนี้ ถามว่าทำไมถึงเรียนง่าย สำเร็จกันยาก ไม่มีใบ Certificate มารองรับกันว่าเรียนสำเร็จจริง และสำเร็จแล้วอยู่นานแค่ไหน นี่คือจะมาพูดถึงกันครับ

โดยหลัก เรื่องนามธรรมแบบนี้ที่ปรึกษาให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องของบุญวาสนา (คำนี้อีกละ 555)

ท่านบอกในตำราของท่าน มีตำราการดูเพดานปาก.... คือใช้สีผึ้งแท้กดที่เพดานปากแล้วมาดูลักษณะ เพดานปากคนเราจะไม่เหมือนกัน เช่นหากเป็นรูปใบหอก เรียนทางรักษา (คงคล้าย ๆ เขี้ยวแก้วตามคำร่ำลือ)

ทีนี้หากเรียนถูกทางก็เป็นไว แต่การเรียนอาคมสิ่งที่ตามมา คือ..

1. มีขันครู ไว้เป็นเครื่องบูชาครู ที่ผมเคยเล่าหากล้มกันด้วยอาคมจะทำให้ขันครูอีกฝ่ายล้ม จบ เสื่อมทันที จึงมีการแก้โดยการใช้บาตรตันรองสอดใต้ฐาน

2. มีข้อห้ามทางอาหาร คล้าย ๆ การลงนะหน้าทองละครับ ห้ามถ่มน้ำลาย ห้ามกินอาหารต้องห้ามตามตำรา ข้อห้ามนี้มักไม่มีเหตุผล 555 แต่ถ้าทำผิดจะมีอาการเช่น ไข้ ไม่สบาย เป็นต้น

3. ข้อห้ามสำคัญ ๆ เช่นห้ามลอดราวตากผ้า (ยุคนี้ยุ่งเลยอยู่ตึก เดินออกจากตึกเงยหน้าอาจเจอราวตากผ้าตากกางเกงในยื่นออกมา555 จบเลย ดีหน่อยสายพระอาจห้ามผิดลูกเมีย (ตีความยาก เดี๋ยวนี้ Free Sex กันเพียบ)

4. มีข้อห้ามการใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น ระวังคำพูดจา ห้ามด่าแม่

ข้อห้ามดังกล่าวเป็นข้อห้ามผู้บริโภค แต่ผู้เรียนก็ถือได้ แต่อาจถือกฎข้อห้ามมากกว่านี้ แล้วแต่ว่าเรียนเจนจบแค่ไหน และมักมีไม้ตายซ่อนไว้จิปาถะ ทำให้ยุคนี้ผู้เจนจบระดับปรมาจารย์จริง ๆ มีน้อย

ถามว่ารู้ได้ไง ว่าเป็นระดับปรมาจารย์ ก็ดูง่าย ๆ อยู่รอดปลอดภัยไม่มีใครมาด่าว่าช่วยเขาไม่ได้ หรือไม่พลาดลงหนังสือพิมพ์ข่าวดังเป็นต้นละครับ... และมีผู้นับหน้าถือตามาก ไม่มีใครมาด่าว่าไอ้ขี้โม้ ไอ้หัวหน้าเซลเป็นต้น...

 

เมื่อพูดถึงบุญวาสนา ก็เป็นนามธรรมอีกละครับ เพราะไม่มีกฎเกณฑ์อะไรแน่นอน แบบเรียนไปสำเร็จไป แต่จะไปถึงจุดสูงสุดทำได้แบบครูบาอาจารย์ไหม ก็วาสนาอีก เรื่องการฝึกกรรมฐานในสายอาคมก็ต้องมีบ้าง ยิ่งจิตสูงระดับฌานได้ยิ่งขลังไปมาก เสกของได้ขึ้นคงทน

ทีนี้ เราอาจเคยได้ยิน หรือเห็นว่า วิชาบางสายเรียนไปจะทำมาหากินไม่ค่อยขึ้นพูดง่าย ๆ เรียนไปแล้วจน ในภาพในหนังจอมขมังเวทมักเปิดสำนัก ฐานะยากจน ก็ไม่ตายตัวเสมอไป ท่านว่าแล้วแต่หลักวิชา

ที่ชัด ๆ หากเรียนข่ามคง หรือเรียนได้คงกระพัน มหาอุด จะขัดลาภแน่นอน และหากมองในแง่การใช้ชีวิตเรียนทางนี้ มักจะร้อนวิชา ซึ่งจริง ๆ จะว่าอาถรรพ์ก็อาจใช่ แบบเรียนเสร็จอยากลอง เสกของลองปืน และชีวิตมักจะเกี่ยวข้องกับการทะเลาะเบาะแว้งจนไม่มีเวลาทำมาหากิน ไม่มีเวลานั่งประชุมวางแผนธุรกิจก็เป็นได้

แต่หากเรียนสายเมตตาคนก็อยากเข้าหา ทำของให้บูชาคนชอบ แน่นอน ก็จะมีลาภผลตามมา เรียนสายนี้มักจะรวยเป็นต้น...

 

ยุคสมัยก่อน ผมมักชอบการนำตะกรุดไปลองยิงกัน เรียกว่าไปดูกับเขามั่ง ทีนี้พอผ่านอะไรมาก ๆ ก็ทราบว่า มักมีการเล่นกลมาเสริม เช่น หากใช้ปืนเขา ก็อาจมีตุกติก หรือยิงนัดแรกไม่ออก นัด 2-3 ออก ซึ่งในรายการต่าง ๆ มักมีการพิสูจน์ให้เห็น

ผมเคยคุยกับพระอาจารย์ท่านนึงเรียกว่าจอมขมังเวท ท่านก็มาบ่น ว่าให้เขาเอาปืนมาลองของท่านเองเลย ใช้ปืนเราอาจว่าตุกติก ทีนี้ พอท่านลองจนแน่ใจว่าไม่ออกแน่ แต่พอโดนคนอื่นมาลองยิง กลับออกแต่ไม่ถูก แต่เขาก็พอใจนะ เช่าตะกรุดท่านต่อ

พอคุยไปมา ถึงรู้คนมาลองก็มีอาจารย์ดี เรียกว่าใช้คาถาสะกด หรือที่เราเรียกกันว่า คัดของ ก่อนยิง ผลคือออกแต่ไม่ถูก ก็ชมว่าของท่านดีจริง

พวกผมคนนึง มั่นใจพกปลัดอาจารย์เขาไป ก็มาเล่าภายหลัง ลองเอาไปประกวด ผลคือปลัดแตกกระจุย หน้าเสียเลย 55 แต่ว่าผมไปคุยทีหลัง ก็ขลังนะครับ แต่ออกเมตตาไม่ใช่มหาอุด

ผมยังเคยมั่นใจส่งตะกรุดอย่างดีเข้าประกวด ผลคือแตกกระจุยเช่นกัน ไปโวยหลวงปู่ที่เสกมาเลย ท่านบอก ไม่ได้ลงมหาอุด มหาอุดมันขัดลาภ

พอคุยกับผู้ยิงท่านก็ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง

ผมเลย เลิกพกของแนวมหาอุดเลยครับ ...จนทุกวันนี้.. (ความเชื่อนะแล้วแต่ท่านอื่นไม่เชื่อตามใจครับ)

 

ทีนี้ พอมาจุดนึงมาคุยเรื่องการคัดของ ทำให้เสื่อมในสงครามไสยเวทย์

แน่นอน หลังจากร่ำเรียนวิชา ครูบาอาจารย์ก็จะบอกกฎ ข้อห้าม ก็รีบถามเลยถ้าทำผิดละครับ

ในยุคปัจจุบันพอจุดนึงเลยเข้าใจว่า ถือของได้ยาก เอาง่าย ๆ แม้ไม่ผิดข้อห้ามก็ไม่สบายใจ

1.ห้ามทานของเหลือเดน เชื่อว่าหลายท่านถือจุดนี้... ยุคนี้หากเป็นบุฟเฟ่ต์ย่อมไม่ผิด เพราะไม่ได้เอามาจากของคนอื่นกินแล้ว แต่ทีนี้เกิดไปทานตามร้านอาหาร เกิดเขาเอาน้ำพริกน้ำปลา น้ำแกงจากคนกินเหลือมาเติมต่อละ 555 เราไม่รู้นิครับ ยุ่งเลย นอกจากทำกินเอง

2. ห้ามกินของบางอย่าง หลัก ๆ เช่นมะเฟืองเป็นต้น หรือบางที่ยุ่งเลยห้ามกินพวกฟัก เกิดกินข้าวมันไก่ น้ำแกงตุ๋นจากฟักยุ่งเลย

3. ห้ามกินของดิบ เจอพวกปลาดิบยุ่งเลย

ข้อห้ามเรื่องของกินมักไม่หนักมาก เช่นทำให้ป่วยไข้ ขอ ขมาก็หายเป็นต้น

ทีนี้ ในสงครามไสยเวทย์ แน่นอน เหมือนทำสงครามละครับต่างฝ่ายต่างมีดี เขาทำกันอย่างไร

อย่างแรกท่านบอก ลองเชิงกันก่อน อาจประหมัดกันซักยก ดูเวท น้ำหนัก

หากสู้ต่อ ก็ต้องหาวิธีทำให้อีกฝ่ายเสื่อม ถึงขนาดล้มขันครู

ในชีวิตจริง ท่านบอกมีหลายวิธี.... โปรดติดตามต่อไป จากประสบการณ์จริง...

 

ผมเคยได้แยกแยะจากการสอบถามผู้รู้ ที่ปรึกษามาให้แล้วจะนำมากล่าวอีกทีครับ

อำนาจพุทธคุณหลายท่านรู้จักกันดี แน่นอน ไม่มีเสื่อม ศักดิ์สิทธิ์ยาวนาน (ถามพระก็บอกแบบนี้ละครับ) แต่จะศักดิ์สิทธิ์มากสุด ก็ต้องอยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญ ดังพระปฏิบัติหลายท่านมักจะสอน ทำตัวเองให้ศักดิ์สิทธิ์ดีที่สุด ไม่ต้องมีพระเครื่องยังได้เลย พระอยู่ในใจเป็นต้น

ทีนี้ได้ผลจริงไหม ก็ต้องถามเจ้าตัวละครับ คำตอบเรารู้อยู่แน่นอน 55 เพราะหากไม่ใช่พระอริยบุคคลก็ยังมีเสื่อมอยู่ดี แต่ถาม กันมารผจญไหม เราก็ต้องถึงจุดแบบพระพุทธชนะมารละครับ 55 แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังโดนมารผจญมามาก ในบทพาหุงกล่าวไว้

ทีนี้ คำสอนในพระศาสนาคืออะไร ให้ชนะมารในใจ ... รายละเอียดไม่ลงลึกครับ เพราะหากสูงแท้ คงไม่มีอ่านกระทู้นี้กันหรอกครับ 55 ผมเองก็คงไม่มาเขียนกระทู้นี้แน่ ภาวนาหาพระในใจกันดีกว่า มารมาผจญก็แผ่เมตตา อโหสิ (ไม่เห็นมันรับเมตตาเรา มีแต่มารังควาน)

อำนาจแห่งไสยเวทย์ อาคม เรามักได้ยินว่ามีเสื่อม พระพุทธเจ้าห้ามเรียน ก็ใช่ครับ เสื่อมตามข้อห้าม และตัวอาจารย์เองก็มีเสื่อมได้เช่นกัน อันนี้ยอมรับอยู่ที่การวางตน

แต่อำนาจไสยอาคม ก็ใช้ได้ผลแบบทันตา เราดูได้จากตำนานปรมาจารย์สายนี้ ถ้ามารมาผจญ เสร็จ ไม่เจ็บ ก็ตาย แต่....

กฎของธรรมชาติ กฎของกรรม ย่อมมีผลเช่นกันจึงควรยึดให้พอดี เดินสายกลาง

ทีนี้มาลงลึกเรื่องความเสื่อมในสายอาคม เชื่อว่าผู้เรียนย่อมรู้ดี ก่อนสอน หรือได้รับของเครื่องราง มักตามมาด้วยข้อห้ามเสมอ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออะไร คือของต่ำ ของถ่อย .... แม้หลายที่มักบอกลงกันเสื่อมแล้ว ใช่ครับ ไม่เสื่อมแต่ลดอำนาจ กำลังลงแน่นอน....

ดังกล่าวผมพบครูบาอาจารย์ขมังเวทท่านนึง เคยถามตอนลงทองลงของว่ามีข้อห้ามไหม พอสนิทกันมากท่านบอกตรง ๆ "เวลาคนมาถามจะบอกไม่มี ไม่เสื่อมจะได้ไม่กังวลกันมาก " ถ้าเจอแบบนี้จบเลยครับ 55

 

ของต่ำ ของถ่อย ที่ผู้มีอาคม หรือคนมีของดีกลัวกันมาก ก็เช่น

การถ่มน้ำลายใส่อาหาร ให้เรากินทาน ก็ทำให้เราผิดข้อห้าม หรือไม่ผิดก็ทำให้หมองลง หรือการกินของเซ่นไหว้ผี เป็นต้น

ที่น่ากลัวสุดก็ตามตำนานเจ้าแม่จามเทวี ทำลายอาคมขุนหลวงวิรังคะละครับ ซึ่งจะโยงไปในชุดพระปิดตาต่อไป

คือนำประจำเดือนว่าง่าย ๆ แอบใส่ในหมากพลูแล้วเอาผ้าถุงทำหมวกให้

ผลคืออาคมขุนหลวงวิรังคะเสื่อม

ใช่ครับ คนเรียนวิชาหลายคนพอถามอาจบอกไม่เสื่อม ๆ ๆ ๆแต่ ...บอกแล้วเป็นนามธรรม 555

แม้ไม่เสื่อมก็ลดอำนาจลง ทีนี้หลังจากนี้แก้กันอย่างไรผมไม่ขอบอกครับเดี๋ยวหัวหน้าเซลมาทำรู้มากอีก ตัวใครตัวมัน

ในชีวิตจริงจากที่ปรึกษาเล่า ก็ใช้หลักการทำนองนี้เช่นท่านว่า

หากรู้ศัตรูเราชอบเที่ยว ก็อาจจ้างนกต่อ จ้างคนแอบเอาประจำเดือนของต่ำไปป้าย หรือที่ได้ยินกันเอาของต่ำไว้คานประตูทางเข้าสถานบันเทิงเป็นต้น แน่นอน ไม่เสื่อมก็ลดอำนาจ ดังเราเคยได้ยินคนเที่ยวกลางคืนห้อยของดีไป ตะกรุดแตก พระหายไปก็มี

เราอาจมองเป็นที่อโคจร แต่นั่นละครับมีหลายสาเหตุที่เราไม่อาจรู้ได้...