ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 6 ,2021 ราชกิจจาฯประกาศห้ามชุมนุม-ทำกิจกรรม-มั่วสุมใน 6 จังหวัด ควบคุมแพร่โควิด-19 ฝ่าฝืนจำคุก 2 ปี ปรับ4 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
    .
    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 5) ใจความว่า
    .
    โดยปัจจุบันยังปรากฏว่าพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของบุคคลกลุ่มต่างๆในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณตลาด ชุมชน และสถาบันการศึกษา ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดปทุมธานี ซึ่งถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังคงปรากฏสถานการณ์ในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงยังมีความจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนด อาทิ การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย และการป้องกันการสัมผัสของบุคคลอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในลักษณะกลุ่มก้อน (Cluster) ภายในประเทศกระจายไปในวงกว้างและสร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
    .
    อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบ และพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6)และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง จึงห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการ แพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้โดยง่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดปทุมธานี เว้นแต่ เป็นการดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรคโดยมีมาตรการทางสาธารณสุขรองรับ หรือการดำเนินการของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงาน องค์กร ภาคเอกชน หรือหน่วยงาน องค์กรอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันซึ่งมีมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่ปลอดภัย หรือการทำกิจกรรมภายในครอบครัวที่อยู่ในเคหสถาน หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    .
    ทั้งนี้การปฏิบัติตามประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564

    #Misterban #ชุมนุม #ราชกิจจานุเบกษา #ห้ามชุมนุม

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 6 ,2021 แฮกเกอร์จีนอาละวาดล้วงข้อมูลหน่วยงานสหรัฐกว่า 30,000 แห่ง
    .
    ไบรอัน เคร็บส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์โพสต์ในเว็บไซต์ข่าวเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ของตัวเองโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แฮกเกอร์จีนฉวยโอกาสที่ซอฟท์แวร์ไมโครซอฟท์เอ็กซ์เชนจ์ของบริษัทไมโครซอฟท์เกิดช่องโหว่ ขโมยข้อมูลอีเมลและติดเครื่องมือในเซิร์ฟเวอร์ของคอมพิวเตอร์เพื่อให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมได้จากระยะไกล
    เคร็บส์เผยอีกว่า หลังจากทางไมโครซอฟท์ลงมือแก้ไขช่องโหว่ แฮกเกอร์กลุ่มนี้ได้เร่งโจมตีเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้รับการอัพเดทระบบป้องกัน โดยมีหน่วยงานกว่า 30,000 แห่งทั่วสหรัฐ รวมทั้งธุรกิจขนาดเล็ก รัฐบาลท้องถิ่น ถูกแฮกเกอร์จีนเล่นงานอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันมานี้ ด้วยการขโมยอีเมล
    .
    แหล่งข่าวเผยกับเคร็บส์ว่า แฮกเกอร์ได้ควบคุมระบบคอมพิวเตอร์นับพันทั่วโลกโดยการแอบติดซอฟท์แวร์ป้องกันรหัสผ่าน
    ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เผยว่า แฮกเกอร์ที่มีรัฐบาลหนุนหลังมีฐานปฏิบัติการอยู่นอกจีนฉวยโอกาสที่ระบบอีเมลไมโครซอฟท์เอ็กซ์เชนจ์ของบริษัทเกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยเพื่อล้วงข้อมูลอีเมลของผู้ใช้งาน และยังระบุว่า แฮกเกอร์กลุ่มนี้ซึ่งมีชื่อว่า Hafnium มีทักษะและความเชี่ยวชาญสูงมาก
    #Misterban #แฮกเกอร์จีน #จีน #สหรัฐ #แฮกเกอร์

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 6, 2021 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเล็งเสนอ ศบค.นำร่อง 5 จังหวัด เปิดรับต่างชาติเที่ยวไทย เริ่มเม.ย.นี้
    .
    นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมทางไกล ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและผู้สนใจร่วมประชุมหารือถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องแผนการเปิดประเทศไทยในรูปแบบต่างๆ โดยในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2564 จะสามารถเปิดในลักษณะของ Area Quarantine เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กักตัวในโรงแรม 14 วัน
    .
    โดยใน 3 วันแรกจะอยู่ในห้องพัก เมื่อเทสต์ครั้งที่ 2 หากไม่มีการติดเชื้อโควิด-19 อีก 11 วันจะอนุญาตให้ออกจากห้องพักได้แต่ต้องอยู่ภายในบริเวณโรงแรม
    .
    จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพงัน) และชลบุรี (พัทยา) เนื่องจาก 5 จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยว หากจังหวัดอื่นๆ ต้องการเสนอตัวเข้ามาร่วมโครงการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายินดี และจะนำเสนอที่ประชุม ศบค. พิจารณาเห็นชอบต่อไป
    #Misterban #ท่องเที่ยวไทย #เปิดประเทศ #กักตัวท่องเที่ยว

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานศาลสูงสุดอินเดียแนะนำผู้ต้องหาคดีข่มขืนให้แต่งงานกับเหยื่อ
    .
    ที่อินเดียตอนนี้กำลังมีนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีออกมาเรียกร้องให้ประธานศาลสูงสุดของประเทศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาแสดงความเห็นให้ผู้ต้องหาคดีข่มขืนแต่งงานกับเหยื่อเพื่อที่จะได้หลุดจากคดีนี้
    .
    ชารัด อาร์วินด์ โบบเด ประธานผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนที่ 47 (Chief Justice of India) (ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดทางด้านฝ่ายตุลาการของอินเดีย มีสถานะเทียบเท่าตำแหน่งประธานรัฐสภาของฝ่ายนิติบัญญัติ และนายกรัฐมนตรีของฝ่ายบริหาร) กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากความเห็นของเขาในการพิจารณาคดีข่มขืนนักเรียนหญิง
    .
    ตอนหนึ่งระหว่างการพิจารณีคดีผู้พิพากษาโบบเด ได้แสดงความเห็นต่อผู้ต้องหาว่า

    "ถ้าคุณแต่งงานกับเธอ เราสามารถช่วยคุณได้ แต่ถ้าไม่คุณจะตกงานและติดคุก"
    .
    ข้อความดังกล่าวได้สร้างกระแสต่อต้านเขาอย่างรุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มนักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีเพราะมันสะท้อนถึงปัญหาการพิจารณาคดีข่มขืนในกระบวนการยุติธรรม
    .
    นักเคลื่อนไหวหลายคนมีการล่าลายชื่อและเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง และควรละอายใจต่อพฤติกรรมดังกล่าวในการพิจารณาคดี ซึ่งลดทอนศักดิ์ศรีของเหยื่ออย่างยิ่ง
    .
    ทั้งนี้ต้องบอกอย่างนี้ครับว่าผู้พิพากษาโบบเดนั้น อยู่ในคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดในสายอนุรักษ์นิยม ซึ่งพึ่งได้รับแต่งตั้งมาจากประธานาธิบดีของอินเดียซึ่งมาจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมและชาตินิยมฮินดูเช่นกัน
    .
    เขาถือเป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่มีความเห็นเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผู้หญิง เรื่องเพศ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับประเทศที่ออกไปในแนวอนุรักษ์นิยมสูงมาก
    .
    ยกตัวอย่างคดีเรื่องการก่อสร้างวัดพระรามนั้น โบบเด เป็นหนึ่งในผู้พิพากษาที่ตัดสินให้วัดพระรามสร้างได้ในเขตเดิมของมัสยิดที่ถูกทำลาย
    .
    ในคดีเกี่ยวกับการทำแท้งนั้น โบบเด เป็นหนึ่งในผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่ไม่เห็นด้วยกับการให้ผู้หญิงทำแท้งได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือในคดีฟ้องร้องเรื่องสามีข่มขืนภรรยา เขาได้แสดงความเห็นว่า การมีเซ็กระหว่างสามี-ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแม้จะรุนแรงบ้าง จะเป็นการข่มขืนได้อย่างไร?
    .
    พฤติกรรมเหล่านี้ของ ผู้พิพากษา โบบเด ซึ่งอยู่ในตำแหน่งประธานฝ่ายตุลาการของประเทศอินเดีย นำมาซึ่งคำถามมากมายถึงความยุติธรรมของเขาต่อกระบวนการการตัดสินคดีที่มีความเกี่ยวพันต่อคนทุกคน เพราะในอินเดียนั้น คำตัดสินของศาลสูงสุดก็ถือไม่ต่างไปจากกฎหมาย จนกว่าจะมีการแก้ไข
    .
    #กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #ข่มขืน #ตุลาการ #ศาล
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดียเพิ่มกำลังลาดตระเวนชายแดนสกัดพม่าลอบเข้าประเทศหนีรัฐบาลทหาร
    .
    รอยเตอร์ 6 มี.ค. - เจ้าหน้าที่อินเดียเผยว่า กองกำลังความมั่นคงของประเทศได้เพิ่มการลาดตระเวนตามแนวชายแดนติดกับพม่าเพื่อสกัดกั้นการเข้าประเทศของผู้ลี้ภัย หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าบางคนข้ามแดนเพื่อหลบหนีการรับคำสั่งจากรัฐบาลทหาร
    .
    “ตอนนี้เราไม่ปล่อยให้ใครเข้ามา” เจ้าหน้าที่ในเขต Champai ของรัฐมิโซรัม กล่าวกับรอยเตอร์
    .
    ความเคลื่อนไหวของอินเดียเกิดขึ้นหลังพบการหลบหนีออกนอกประเทศของเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยของพม่าที่ไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของทหารที่ให้ปราบปรามการชุมนุมประท้วง
    .
    ทหารพม่าโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศและทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 50 คน อย่างไรก็ตาม โฆษกของกองทัพพม่าไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการหลบหนีของตำรวจ
    .
    ในเขต Serchhip ที่อยู่ติดกับเขต Champai เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวว่า มีชาวพม่า 8 คน ที่รวมทั้งผู้หญิงและเด็กข้ามแดนเข้ามา และพวกเขาได้รับการดูแลแล้ว
    .
    “เราคาดการณ์ว่าจะมีคนข้ามเข้ามาอีกมาก” เจ้าหน้าที่กล่าว
    .
    ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดียได้กล่าวกับนักข่าวในกรุงนิวเดลีเกี่ยวกับเหตุการณ์ตำรวจพม่าข้ามแดนเข้ามาว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
    .
    ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐมิโซรัมกล่าวว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีตำรวจพม่าและสมาชิกครอบครัวของพวกเขาราว 30 คน ได้ข้ามแดนเข้ามาในฝั่งอินเดีย
    .
    แม้ทหารอินเดียจะออกลาดตระเวนอย่างเข้มข้นตามแนวพรมแดน แต่ผู้คนยังคงลอบเข้ามาจากหลากหลายเส้นทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอินเดียกล่าวว่า ตำรวจที่ข้ามเข้ามาได้กล่าวว่าพวกเขาไม่ต้องการทำตามคำสั่งทหารที่ให้ปราบปรามการชุมนุมประท้วง
    .
    “พวกเขากล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและพวกเขาถูกขอให้ยิงพลเรือน” เจ้าหน้าที่ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าว
    .
    การหลั่งไหลเข้าประเทศของผู้แสวงหาที่ลี้ภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจ ทำให้อินเดียต้องลำบากใจเพราะความสัมพันธ์ใกล้ชิดของนิวเดลีกับกองทัพพม่า
    .
    ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้เพิ่มปฏิบัติการตามคำร้องของอินเดียในการกำจัดผู้ก่อความไม่สงบตามแนวชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ และในส่วนของอินเดียได้มอบเรือดำน้ำลำแรกให้แก่พม่าเมื่อปีก่อน
    .
    “มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเล็กน้อยสำหรับอินเดียเพราะความสมดุลทางการทูตเป็นสิ่งสำคัญ” เจ้าหน้าที่ กล่าว.

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มาญี่ปุ่น สรุปประกาศใหม่จากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ลง ณ วันที่ 5 มีนาคม 2021 ฉบับย่อและรวบรัด

    เฉพาะผู้เดินทางจากไทยนะคะ ใครเดินทางจากประเทศที่มีการระบาดของไวรัสสายกลายพันธุ์ มาตรการจะเข้มงวดกว่า 1 ระดับ

    ตรวจ PCR น้ำลายตอนมาถึงที่สนามบินทุกคน (ฟรี)

    มีเพิ่มเรื่อง smartphone ด้วย อย่าลืมเอามานะคะทุกคน

    ⚠️ ใครสงสัยเรื่อง Biz / Residence Track ดูได้จาก ข้อ 3(5) ในประกาศฉบับเต็มนะคะ (ดูในคอมเมนท์ก็ได้) คือ หยุด(ระงับ) วีซ่าที่ออกไปแล้วในระหว่างที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (ถึงวันที่ 21 มีนาคม)

    อ่านฉบับเต็มภาษาญี่ปุ่นที่:

    https://www.anzen.mofa.go.jp/info/pcwideareaspecificinfo_2021C040.html

    https://www.mofa.go.jp/mofaj/ca/fna/page4_005130.html

    http://www.moj.go.jp/isa/content/930006078.pdf

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าววีซ่า 

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกาหลีใต้พบเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน'แอสตราเซเนกา'เพิ่มเป็น7ราย มีอาการไม่พึงประสงค์เกือบ3พันคน

    เกาหลีใต้จบสัปดาห์แรกของโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เฝ้ารอมานาน ด้วยพบอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนของแอสตราเวเนกาหลายพันคน ในนั้นเสียชีวิตเพิ่มเป็น 7 ราย กระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการสืบวน

    สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันเสาร์(6มี.ค.) พบผู้เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 4 รายในช่วง 2 วันหลังสุด ส่งผลให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 7 ราย พร้อมระบุว่าทางหน่วยงานกำลังสืบสวนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

    จากข้อมูลของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้พบว่าได้มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้ว 296,000 คน หรือราว 0.6% ของประชากรทั้งหมดทั่วประเทศ ในช่วงสัปดาห์แรกของโครงการฉีดวัคซีน และส่วนใหญ่นั้นเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา

    ในบรรดาผู้ได้รับวัคซีนไปแล้วนั้น เกาหลีใต้ระบุว่าพบผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโควิด-19 มากกว่า 2,800 คน แต่มีเพียงแค่ 24 รายเท่านั้นที่เป็นเคสรุนแรง ในนั้น 7 รายถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ทั้ง 24 เคสของอาการรุนแรงนั้น ล้วนแต่ฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติใช้ในเกาหลีใต้

    นอกเหนือจากวัคซีนของแอสตราเซเนกาแล้ว เกาหลีใต้ยังทำสัญญากับไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค สำหรับสั่งซื้อวัคซีนอีกหลายล้านโดส แต่กว่าการส่งมอบขนานใหญ่จะเริ่มต้นขึ้นก็คงต้องรอจนถึงอย่างน้อยเดือนหน้า โดยจนถึงตอนนี้เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค แก่ประชาชนไปแล้วราวๆ 5,000 ราย และยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงใดๆ

    โดยรวมแล้วเกาหลีใต้มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดในโลก และพวกเขาโอ้อวดว่าความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของพวกเขานั้น มีประสิทธิผลมากที่สุดชาติหนึ่ง อย่างไรก็ตามโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเริ่มต้นอย่าล่าช้า ด้วยบรรดาเจ้าหน้าที่เชื่อว่าความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 เปิดทางให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นให้ความสำคัญความปลอดภัยของวัคซีนเหนือกว่าความรวดเร็วในการแจกจ่าย

    จนถึงวันเสาร์(6มี.ค.) เกาหลีใต้รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อสะสมแล้วมากกว่า 92,000 ราย ในประชากรทั้งหมด 52 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 1,632 คน ถือว่าน้อยกว่ามากหากเปรียบเทียบกับสหราชอาณาจักร ดินแดนที่มีประชากรราวๆ 67 ล้านคน แต่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 4.2 ล้านคนและเสียชีวิต 124,000 ราย

    อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้ต้องเผชิญกับปัญหาความกวาดกลัวต่อวัคซีน หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมปีก่อน พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ราย ไม่นานหลังเข้ารับวัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาล แม้ทางสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคยืนยันไม่พบหลักฐานว่าการเสียชีวิตเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับวัคซีน

    สำหรับผู้ได้รับวัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาลนั้น มีอาการต่างจากอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ด้วยไม่มีรายงานพบอาการแพ้อย่างเฉียบพลันและรุนแรงแต่อย่างใด

    อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาล เป็นคนสูงวัยและมีโรคประจำตัว ซึ่งคล้ายกับเคสโควิด-19 โดยผู้เสียชีวิตกลุ่มแรกๆหลังฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น เกี่ยวข้องกับคนชรา บุคคลที่มีโรคประจำตัว หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง

    (ที่มา:รัสเซียทูเดย์)

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปลี่ยนมือแหล่ง “เอราวัณ” พนักงาน 5 พันคนเสี่ยงตกงาน
    วันที่ 4 มีนาคม 2564 - 15:00 น.

    ตามที่แหล่งปิโตรเลียมสำคัญในพื้นที่อ่าวไทย อย่างแหล่งเอราวัณ ที่มีเจ้าของสัมปทานในปัจจุบันคือ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เป็นผู้ชนะการประมูล จากเจ้าของแหล่งรายเดิม คือ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด โดยกำหนดเวลาหมดอายุสัญญาอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2565 นั้น

    กล่าวกันว่า ตามหลักการของขั้นตอนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะต้องลงพื้นที่ “ล่วงหน้า” เพื่อสำรวจจำนวนปริมาณคงเหลือ และวางแผนในการขุดเจาะเพิ่มเติมเพื่อคงระดับการผลิตตามสัญญา แต่จนถึงขณะนี้บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ฯยังไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนอย่างที่ควรจะเป็น กระทั่งบานปลายใหญ่โต จนถึงต้องใช้อนุญาโตตุลาการเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย

    TOR ไม่ชัดเจนช่วงเปลี่ยนมือ
    แหล่งข่าวจากพนักงานนอกชายฝั่งแหล่งเอราวัณเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” เมื่อพิจารณาย้อนกลับไปในช่วงที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเตรียมเงื่อนไขการประมูล (TOR) แหล่งปิโตรเลียมดังกล่าว กลับไม่มีการระบุไว้ในสัญญาว่าจะเปิดทางให้ผู้ชนะประมูลเข้าพื้นที่ก่อนที่จะหมดอายุสัญญาอย่างเป็นทางการได้หรือไม่ โดยกรมเชื้อเพลิงฯในขณะนั้นมั่นใจว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถเจรจาได้ จึงไม่ได้ระบุรายละเอียดในช่วงเปลี่ยนผ่านว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ให้น้ำหนักไปที่การแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ เพื่อให้สัญญามีความหลากหลาย

    เนื่องจากในขณะนั้น ประเทศไทยใช้เพียงรูปแบบ “สัมปทาน” เพียงอย่างเดียว และให้รักษาระดับการผลิตไว้ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากความไม่ชัดเจนของสัญญาทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น และไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เพียงทั้ง 2 บริษัท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อ “คนทำงาน” ในธุรกิจสำรวจและผลิตอีกด้วย

    พนักงาน 5 พันคนเสี่ยงตกงาน
    แหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่า การไม่สามารถเข้าสำรวจพื้นที่ดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบใหญ่ในแง่ของคนทำงานในพื้นที่ปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณ ที่มีจำนวนพนักงานกว่า 5,000 คน ภายใต้การบริหารของบริษัท เชฟรอนฯ เพียงแต่ขณะนี้รอความชัดเจนจากบริษัทเชฟรอนฯว่าเมื่อแหล่งเอราวัณเปลี่ยนมือแล้ว แม้ว่าในเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่า บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ฯ อาจจะรับพนักงานทั้งหมดให้ทำงานตามปกติต่อไป

    แต่ในกรณีที่อาจจะรับพนักงานไม่ได้ทั้งหมด จึงจำเป็นที่จะต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้าเพื่อให้เตรียมความพร้อมในการหางานใหม่ เพราะในปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะวิกฤตที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอีกอย่างน้อย 2-3 ปี และอาจทำให้หางานใหม่ยากขึ้นตามไปด้วย




    อีกทั้งก่อนหน้านี้การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก และราคาน้ำมันในตลาดโลกจากที่เคยขึ้นราคามากกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และลดระดับลงมาต่ำสุดที่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่มีโอกาสกลับมายืนราคาที่ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ง่าย ๆ


    นี่ยังไม่นับรวมที่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าที่มีแนวโน้มว่าจะมาทดแทนการใช้น้ำมันในอนาคตอีกด้วย ยิ่งเป็นการ “ตอกย้ำ” ว่าการทำธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกำลังซบเซาอย่างหนัก แม้แต่บริษัทพลังงานระดับโลกอย่าง “เอ็กซอนโมบิล” ยังต้องปลดพนักงานเพื่อลดขนาดขององค์กรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ในจำนวนพนักงานกว่า 5,000 คนดังกล่าว เป็นพนักงานคนไทยถึง 99.98% ที่ทำงานร่วมกับบริษัท เชฟรอนฯมาอย่างยาวนาน และเมื่อนับจากวันที่เริ่มผลิตจนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลากว่า 40 ปี

    พนักงานคนไทยมีความผูกพันกับแหล่งเอราวัณ เพราะถือเป็นแหล่งปิโตรเลียมสำคัญที่สร้างความมั่นคงทางพลังงาน สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก นับเป็นความภาคภูมิใจของผู้ที่อยู่ในแวดวงการสำรวจและผลิต แต่ในขณะนี้พนักงานทั้งหมดเกิดความไม่แน่ใจ และไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะบริษัท เชฟรอนฯไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร อีกทั้งขณะนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการอันเนื่องมาจากผู้รับสัมปทานคือเชฟรอนฯไม่อนุญาตให้ผู้รับสัมปทานรายใหม่เข้ามาสำรวจก่อนที่แหล่งดังกล่าวจะหมดอายุในปี 2565 นี้” แหล่งข่าวกล่าว

    ชธ.จี้เคลียร์ให้เร็ว

    กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) กระทรวงพลังงาน ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล โดย “สราวุธ แก้วตาทิพย์” อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานให้ทั้ง 2 ฝ่าย เกิดการเจรจาโดยเร็วที่สุด ส่วนข้อกังวลที่ว่าหากผู้รับสัมปทานรายใหม่ยังไม่สามารถเข้ามาดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่าน (transition period) ได้นั้น อาจเกิดผลกระทบต่อการบริหารพลังงานของประเทศอาจจะ “สะดุด” ได้นั้น ขอยืนยันว่าในการแก้ไขปัญหาจะยึดเรื่องความมั่นคงทางพลังงาน ควบคู่ไปกับหลักการที่ว่าจะต้อง “ไม่กระทบ” ต่อประชาชน

    “สราวุธ” ระบุเพิ่มเติมอีกว่า สถานการณ์ความล่าช้านั้นเกิดขึ้นจากภาคเอกชนที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ฉะนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องเร่งการเจรจาให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดที่วางไว้ และเตรียมการดำเนินการต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนที่แหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวจะหมดอายุสัญญาในเดือนเมษายน 2565 เพื่อให้สามารถรักษาระดับการผลิตไว้ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Headline: “ประยุทธ์” โพสต์ถึงความสำเร็จจากโครงการ “เราชนะ” เตือนผู้ทุจริตอย่า “โกงเงินหลวง” รับซื้อสิทธิจากคนที่อยากได้เงินสด เอาเงินออกจากกระเป๋าถุงเงินร้าน
    .
    วันที่ 6 มีนาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กถึงความสำเร็จของโครงการ “เราชนะ” พร้อมเตือนผู้ทุจริตอย่าโกงเงินหลวง โดยรับซื้อสิทธิจากคนที่อยากได้เงินสด แล้วไปใช้สิทธิผ่านร้านค้าที่จัดตั้งกันขึ้นมา โดยไม่มีการซื้อขายจริง เพื่อเอาเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ออกมาจากกระเป๋าถุงเงินของร้าน
    .
    .
    อ่านต่อ https://www.prachachat.net/politics/news-625477

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘จีน’เจอตอในการเร่งรัดพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ --ถูกคุกคามจากมาตรการห้ามส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ของ‘สหรัฐฯ’

    จีนกำลังใช้ความพยายามอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชเพื่อให้ตนเองบรรลุถึงความเป็นอิสระในเรื่องเซมิคอนดักเตอร์ ทว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์นี้มีความยากลำบากซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยที่มาตรการแซงก์ชั่นของสหรัฐฯก็กำลังสร้างความเสียหายขึ้นมาแล้ว

    คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ (National Security Commission on Artificial Intelligence หรือ NSCAI) ของอเมริกา เพิ่งออกรายงานฉบับหนึ่งความยาวกว่า 750 หน้าเมื่อวันที่ 1 มีนาคม (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nscai.gov/wp-content/uploads/2021/03/Full-Report-Digital-1.pdf) ซึ่งมีข้อเสนอว่า “สหรัฐฯและเหล่าพันธมิตรของตนที่สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ควรใช้ประโยชน์จากการควบคุมการส่งออกแบบกำหนดเป้าหมาย ต่อเรื่องอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับไฮเอนด์ ... เพื่อปกป้องรักษาความได้เปรียบต่างๆ ทางด้านเทคนิคที่ดำรงอยู่แล้วเวลานี้ และชะลอความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน”

    ทั้งนี้ เครื่องจักรอุปกรณ์ในการทำชิปจำนวนมากมาจากพวกบริษัทสหรัฐฯ อย่างเช่น แอปพลายด์ แมตทิเรียลส์ อิงค์ (Applied Materials Inc) และ แลม รีเสิร์ช คอร์ป (Lam Research Corp) ซึ่งตกอยู่ใต้มาตรการควบคุมการส่งออกของอเมริกันเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญๆ ซึ่งมาจากพวกบริษัทอย่างเช่น นิคอน คอร์ป (Nikon Corp) และ แคนนอน อิงค์ (Canon Inc) ในญี่ปุ่น และ เอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง (ASML Holding) ในเนเธอร์แลนด์

    รายงานฉบับนี้เสนอแนะให้สหรัฐฯร่วมมือประสานงานกับพวกประเทศเหล่านี้ เพื่อจัดทำนโยบายแบบ “สันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าจะมีการปฏิเสธ” (presumptive denial) ขึ้นมาในแต่ละประเทศ สำหรับใช้ในการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ส่งออกพวกเครื่องมือทำชิประดับก้าวหน้าไปยังประเทศจีน นอกจากนั้น รายงานนี้ยังเสนอแนะให้นำเอาวิธีปฏิบัติในทางระเบียบกฎหมายซึ่งใช้กันมายาวนานแล้ว ที่ว่าสหรัฐฯจะคอยจำกัดกีดกันให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนล้าหลังสหรัฐฯอยู่ 2 รุ่นอายุ มากำหนดออกเป็นนโยบายของสหรัฐฯกันอย่างเป็นทางการไปเลย

    นอกเหนือจากขั้นตอนต่างๆ ในการปกป้องรักษาเทคโนโลยีทำชิปของสหรัฐฯและพวกพันธมิตรแล้ว รายงานฉบับนี้ยังเสนอแนะมาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขึ้นในอเมริกา ภายหลังอุตสาหกรรมนี้ได้อพยพโยกย้ายไปตั้งในไต้หวันและเกาหลีมาหลายทศวรรษ

    ทั้งนี้ งบประมาณจำนวนรวม 35,000 ล้านดอลลาร์ทั้งในรูปของการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ และเงินทุนสำหรับพวกโรงงานชิปและสำหรับการวิจัย ซึ่งรายงานฉบับนี้เสนอเอาไว้ มีความเหลื่อมซ้อนกับมาตรการต่างๆ สำหรับอุตสาหกรรมชิปจำนวน 37,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนเอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    คณะกรรมการชุดนี้ยังเรียกร้องให้ลดหย่อนภาษี 40% สำหรับการลงทุนพวกเครื่องมืออุปกรณ์ในด้านเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งรายงานฉบับนี้ระบุว่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการก่อตั้งโรงงานชิปขึ้นในสหรัฐฯ ตลอดจนเป็นประโยชน์แก่พวกบริษัทอเมริกันที่เป็นผู้ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์

    เอกสารของ NSCAI ฉบับนี้ ซึ่งถูกละเลยมองข้ามจากพวกสื่ออเมริกันรายสำคัญๆ ส่วนใหญ่ [1] กลับกลายเป็นพาดหัวข่าวในเว็บไซต์ด้านการเมืองของจีน รวมทั้งถูกนำไปเขียนเป็นรายงานข่าวในเว็บไซต์ guancha.cn ซึ่งบ่อยครั้งทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวแทนความคิดให้แก่คณะรัฐมนตรีของจีน (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.guancha.cn/internation/2021_03_02_582752.shtml)

    การจำกัดควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเรื่องการห้ามส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ระดับไฮเอนด์ และเครื่องมืออุปกรณ์ซึ่งใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ กำลังมีผลคุกคามความทะเยอทะยานทางด้านไฮเทคของจีน ซึ่งรวมไปถึงการวางเครือข่ายบรอดแบนด์ 5จี ระดับชาติมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ของแดนมังกรด้วย ทั้งนี้ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมหลายๆ ราย

    จีนกำลังเป็นผู้เที่ยวซื้อหาเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อย่างกระตือรือร้นมาก โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับชาติที่จะลดการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งอยู่ในระดับสูงถึงปีละ 300,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว ทว่าจีนไม่สามารถซื้อหาพวกเครื่องจักรอุปกรณ์ระดับก้าวหน้าที่สุดได้

    ผู้ทำเครื่องจักรที่ใช้พิมพ์ลายเซอร์กิตลงบนแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ (chip lithography machines) ระดับท็อปของโลก คือ เอเอสเอ็มแอล บริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปรากฏว่าทำยอดขายให้แก่จีนได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 5 เท่าตัวทีเดียวนับจากปี 2016 ทว่าจากมาตรการแซงก์ชั่นของสหรัฐฯ เปิดทางให้ เอเอสเอ็มแอล สามารถขายได้เพียงเครื่องจักรเทคโนโลยีรุ่นเก่าที่เรียกว่า DUV (Deep Ultraviolet) โดยไม่สามารถขายเครื่องจักรอุปกรณ์เทคโนโลยีล้ำยุค EUV (Extreme Ultraviolet) ซึ่งต้องใช้เมื่อจะผลิตชิปแบบก้าวหน้าที่สุด

    จีนยังกำลังซื้อหางานออกแบบซอฟต์แวร์จำนวนมากจากพวกบริษัทสหรัฐฯอย่างเช่น ซินอฟซิส (Synopsis) ถึงแม้ว่า หัวเว่ย และ แซดทีอี ยังคงอยู่ในบัญชีดำ “entity list” ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แต่ว่าการออกแบบชิปไม่ได้เป็นปัญหาติดขัดแบบคอขวด สำหรับจีนหรอก ดังเห็นได้จาก ชิปเซ็ต คิริน 9000 (Kirin 9000) ของหัวเว่ย จริงๆ แล้วก็สามารถแข่งขันกับอะไรก็ตามที่ทาง ควอลคอมม์ (Qualcomm) และ เอ็นวิเดีย (Nvidia) จะเสนอออกมาได้ ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าบริษัททีเอสเอ็มซี (TSMC ชื่อเต็มคือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ของไต้หวัน เป็นโรงงานผลิตชิปเพียงรายเดียวเท่านั้นที่สามารถทำชิปรุ่นนี้ออกมา และจากมาตรการจำกัดควบคุมของสหรัฐฯก็ได้ปิดตายช่องทางนี้เสียแล้ว

    หัวเว่ย กับ แซดทีอี ไม่สามารถหาแหล่งผลิตชิปเหล่านี้ได้เพียงพอแก่ความต้องการเพื่อใช้ในสถานีฐาน 5จี ของพวกเขา และฝีก้าวของการวางโครงสร้างพื้นฐานเรื่องนี้ก็อาจต้องชะลอชักช้าลงในช่วงต่อไปของปีนี้ ขณะที่พวกผู้สังเกตการณ์ของแวดวงอุตสาหกรรมนี้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากเตือนว่า สงครามเทคอย่างชนิดเต็มขั้นระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจจะกำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วในเวลานี้

    สำหรับรายงานฉบับนี้ของ NSCAI จัดทำขึ้นมาโดยอยู่ในการกำกับดูแลของ อีริค ชมิดต์ (Eric Schmidt) อดีตประธานของ กูเกิล (Google) และ โรเบิร์ต เวิร์ค (Robert Work) อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (ในยุคคณะบริหารโอบามา) และคณะบริหารไบเดนน่าที่จะอ่านกันด้วยความละเอียดใส่ใจ

    อย่างไรก็ตาม ถ้าหากสหรัฐฯพยายามที่จะสร้างอุปสรรคขัดขวางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนแล้ว พวกเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เตือนว่า จีนจะตอบโต้ – ด้วยการตัดการส่งออกแร่แรร์เอิร์ธมายังสหรัฐฯ หรือด้วยการขัดขวางการดำเนินงานในจีนของพวกบริษัทอเมริกันระดับท็อป อย่างเช่น แอปเปิล

    (จากเรื่อง China s ambitions threatened by US equipment ban ของ David P. Goldman ใน เอเชียไทมส์ WWW.asiatimes.com และเรื่อง U.S. panel recommends export 'choke points' to prevent Chinese dominance in semiconductors ของสำนักข่าวรอยเตอร์)

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารพม่ายิงปืนจู่โจมตรวจค้นกลางดึก ล็อบบี้ยิสต์กองทัพมามุกใหม่อ้างซูจีใกล้ชิดจีนเกินไป

    กองกำลังความมั่นคงพม่ายิงปืนขณะปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นตอนกลางดึกคืนวันเสาร์(6มี.ค.) ในเมืองย่างกุ้ง หลังใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสงสลายการชุมนุมรอบล่าสุด ต่อต้านการทำรัฐประหารเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะเดียวกันล็อบบี้ยิสต์รายหนึ่งอ้างกองทัพมีความประสงค์ปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ สวนทางกับนางอองซานซูจีที่พยายามใกล้ชิดจีนมากเกินไป

    ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดำดิ่งสู่ความยุ่งเหยิงนับตั้งแต่กองทัพโค่นอำนาจและควบคุมตัวนางอองซานซูจี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยตั้งแต่นั้นเกิดการชุมนุมและผงะงานประท้วงรายวัน ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการบริหารราชการเป็นอัมพาต

    มีการประท้วงประปรายทั่วพม่าในวันเสาร์(6มี.ค.) และสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าตำรวจยิงกระสุนแก๊สน้ำตาและระเบิดเพลิงเข้าสลายการชุมนุมในย่านซานซวงของย่างกุ้ง เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

    ในช่วงกลางดึก ชาวบ้านเผยว่าทหารและตำรวจเคลื่อนพลเข้าสู่ย่านต่างๆของย่างกรุงและยิงปืน พวกเขาจับกุมประชาชนไปอย่างน้อย 3 รายในเขตเจ้าตะดา ทาวน์ชิป แต่ไม่ทราบว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงถูกควบคุมตัว

    "พวกเขาขอนำตัวพ่อและน้องชายฉันไป ไม่มีใครออกมาช่วยเราเลยหรือ? อย่าได้แตะต้องพ่อกับน้องชายฉัน พาเราไปด้วยหากพวกคุณต้องการนำตัวพวกเขาไป" ผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้อง หลังจากชาย 2 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้เป็นพ่อซึ่งมีอาชีพนักแสดงและลูกชาย ถูกทหารพาตัวไป

    สิธุ หม่อง สมาชิกรัฐสภาที่เวลานี้ถูกยุบไปแล้ว เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่าทหารยังได้ตามหาทนายความคนหนึ่งซึ่งทำงานให้กับพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ(เอ็นแอลดี) แต่หาตัวไม่พบ

    สำนักข่าวรอยเตอร์สไม่สามารถติดต่อตำรวจเพื่อขอความคิดเห็นได้ ส่วนโฆษกของคณะรัฐประหารไม่รับสายโทรศัพท์

    สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่า เปิดเผยว่ามีประชาชนแล้วมากกว่า 1,500 คนถูกจับกุมนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร ขณะที่สมาคมแห่งชาติและสหประชาชาติบอกว่ามีผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้วมากกว่า 50 คน

    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พม่าเปิดเผยว่าได้ทำการชันสูตรศพของ จัล ซีน หรือ เติ้ง เจียซี สาวนักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 19 ปี ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ความเคลื่อนไหวประท้วง หลังเธอถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิต ขณะเข้าร่วมการชุมนุมที่มัณฑะเลย์เมื่อวันพุธ(3มี.ค.) สวมเสื้อยิดสกรีนข้อความว่า "ทุกอย่างจะโอเค"

    สื่อมวลชนแห่งรัฐ MRTV รายงานว่าการชันสูตรศพแสดงให้เห็นว่าเธออาจไม่ได้ถูกตำรวจสังหาร เพราะพบวิถีกระสุนผิดปกติในศีรษะของเธอ โดยเธอถูกยิงจากข้างหลัง ในขณะที่ตำรวจอยู่บริเวณด้านหน้า

    เหตุเสียชีวิตของบรรดาผู้ชุมนุม ก่อความเดือดดาลแก่บรรดาตะวันตกและเรียกเสียงประณามจากบรรดาชาติประชาธิปไตยในเอเชียด้วยเช่นกัน นอกจากนี้แล้วสหรัฐฯและประเทศตะวันตกบางแห่ง ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างจำกัดเล่นงานคณะรัฐประหาร ส่วนจีนบอกว่าเป้าหมายลำดับแรกควรเป็นเสถียรภาพและประเทศอื่นๆไม่ควรเข้าแทรกแซง

    บรรดาผู้ประท้วงเรียกร้องปล่อยตัวซูจีและเคารพผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งพรรคของเธอชนะศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ข้อเรียกร้องที่ทางกองทัพปฏิเสธ พร้อมรับปากว่าจะจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและมอบอำนาจให้ผู้ชนะ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะจัดขึ้นเมื่อไหร่

    อารี เบน เมนาชี ล็อบบี้ยิสต์อิสราเอล-แคนาดา ที่ได้รับการว่าจ้างจากคณะรัฐประหารพม่า เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่าพวกนายพลต้องการออกจากการเมืองและประสงค์ปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และปลีกตัวเองออกจากจีน พร้อมระบุว่านางซูจี เริ่มทำตัวใกล้ชิดจีนมากเกินไป เพื่อเอาใจเหล่านายพล

    "มีความพยายามผลักดันอย่างแท้จริงในการมุ่งหน้าหาตะวันตกและสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็คัดค้านความพยายามใกล้ชิดจีนมากขึ้น" เบน มานาชีกล่าว "พวกเขาต้องการออกจากการเมืองโดยสิ้นเชิง แต่มันมีกระบวนการของมัน"

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่เอาแล้วล็อกดาวน์!คนออสเตรียหลายพันชุมนุม กดดันรบ.ยกเลิกข้อจำกัดโควิด-19

    ประชาชนหลายพันคนไหลบ่าสู่ท้องถนนในวันเสาร์(6มี.ค.) ในการประท้วงรอบล่าสุดในกรุงเวียนนา ต่อต้านข้อจำกัดสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมีรายงานผู้ถูกจับตัวหลายคน ฐานละเมิดกฎหมายความสงบเรียบร้อยและกฎระเบียบโควิด-19

    ผู้ประท้วงจำนวนมากไม่สวมหน้ากากหรือเว้นระยะห่างทางสังคม ระหว่างที่พวกเขาเดินขบวนฝ่าในกลางเมืองหลวงของออสเตรีย ไปยังสวนสาธารณแห่งหนึ่ง บริเวณที่ทางพรรคพรีดอม(FPOe) พรรคการเมืองขวาจัด นัดให้มีการชุมนุม

    ออสเตรียผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์รอบล่าสุดไปแล้วตั้งแต่เดือนก่อน และกลับมาเปิดสถาบันการศึกษา ร้านค้าและพิพิธภัณฑ์แล้ว แต่ทางพวกผู้ประท้วงส่งเสียงต่อต้านข้อจำกัดบางอย่างที่ยังคงบังคับใช้อยู่ ในนั้นรวมถึงคำสั่งปิดร้านอาหารและคาเฟ่ เช่นเดียวกับการตรวจเชื้อเด็กนักเรียนที่จำเป็นต้องเข้าเรียนในชั้นเรียน

    คริสโตเฟอร์ โพลลัค ผู้ประท้วงรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า "เมื่อมาตรการต่างๆถูกบังคัชใช้ คนเกือบ 1 ล้านต้องพบว่าตนเองตกงานหรือถูกพักงาน มันทำลายเศรษฐกิจประชาชน ซึ่งแน่นอนว่ามันจะก่อผลกระทบระยะยาวแก่ครอบครัวและเด็กๆ"

    พวกผู้ประท้วงพากันร้องตะโกนและชูป้ายข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คูร์ซ จากพรรคขวากลาง ลาออกจากตำแหน่ง

    มีรายงานการปะทะกันจุดหนึ่งระหว่างผุ้ชุมนุมกับกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายซ้ายที่คัดค้านการชุมนุม จนตำรวจต้องใช้แก๊นน้ำตาเข้าสลาย

    สื่อมวลชนออสเตรียรายงานว่าพบเห็นเครือข่ายฝ่ายขวาสุดขั้ว ปะปนอยู่ในฝูงชนด้วย หลังจากพวกเขาเคยเข้าร่วมประท้วงต่อต้านล็อกดาวน์มาก่อนแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่ตำรวจเผยว่าได้ทำการจับกุมผู้ประท้วงบางส่วนในช่วงท้ายของการชุมนุม หลังจากบางส่วนไม่ยอมสลายตัว

    ออสเตรียพบเห็นการประท้วงลักษณะนี้บ่อยครั้งขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนเริ่มหัวเสียต่อข้อจำกัดต่างๆที่ยังคงบังคับใช้อยู่ ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของพวกเขา

    รัฐบาลบอกว่าอาจมีการผ่อนปรนข้อจำกัดบางอย่างเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าหากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง พร้อมแย้มว่ามีโอกาสที่ร้านอาหารแะคาเฟ่จะกลับมาเปิดบริการได้ในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม

    อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในออสเตรียกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันเสาร์(6มี.ค.) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 2,500 คน

    รูดอล์ฟ อันส์โชเบอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรียบอกว่าเวลานี้ตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักรของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า กลายเป็นสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักหน่วงที่สุดในประเทศของเขา

    (ที่มา:เอเอฟพี)

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สภาสูงสหรัฐฯเห็นชอบร่างแก้ไขแพ็คเกจเยียวยาโควิดมูลค่า$1.9 ล้านล้าน

    วุฒิสภาสหรัฐฯในวันเสาร์(6มี.ค.) เห็นชอบแผนเยียวยาผลกระทบโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการออกเสียงตามกรอบของพรรค หลังพิจารณามีปัญหาล่าช้าซ้ำๆ ในขณะที่เสียงข้างน้อยของรีพับลิกันพยายามผลักดันแก้ไขเกือบๆ 40 มาตรา แต่ประสบความล้มเหลว

    แผนดังกล่าวผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 50-49 โดยได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกเดโมแครตทุกคน แต่ไม่มีรีพับลิกันสนับสนุนแม้แต่รายเดียว ในขณะที่มันคือหนึ่งในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ และมอบชัยชนะทางกฎหมายครั้งสำคัญหนแรกของไบเดน นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งในเดือนมกราคม

    ชัยชนะแบบแบ่งฝักแบ่งฝ่ายนี้ เกิดขึ้นหลังจากพรรคเดโมแครตคว้าเก้าอี้เพิ่ม 2 ที่นั่ง ในศึกเลือกตั้งวุฒิสมาชิกรอบพิเศษในรัฐจอร์เจียในเดือนมกราคม ส่งผลให้พวกเขาครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแบบฉิวเฉียด

    ไบเดนในวันเสาร์(6มี.ค.) แสดงความหวังว่าสภาผู้แทนราษฏรจะผ่านความเห็นชอบร่างแพ็คเกจเยียวยาโควิด-19 ฉบับแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพื่อเขาจะได้ลงนามและเริ่มจ่ายเงินสู่ชาวอเมริกันโดยตรงคนละ 1,400 ดอลลาร์ "แผนนี้จะเริ่มนำเช็กสู่ประตูหน้าบ้านของประชาชนชาวอเมริกาในเดือนนี้ สำหรับชาวอเมริกันต้องการความช่วยเหลืออย่างที่สุด" ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาว หลังเสร็จสิ้นการลงคะแนน

    ในร่างสุดท้ายของแพ็คเกจมาตรการเยียวยา ในนั้นรวมถึงเงิน 400,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับจ่ายก้อนเดียวโดยตรงจำนวน 1,400 ดอลลาร์ให้กับชาวอเมริกันจำนวนมาก สำหรับบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์ต่อปี

    นอกจากนี้แล้วก็จะเพิ่มสวัสดิการการว่างงานคนละ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ สำหรับประชาชน 9.5 ล้านคนที่ต้องตกงานระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

    สมาชิกเดโมแครตเห็นพ้องปรับลดวงเงินเพิ่มสวัสดิการการว่างงานลงจากระดับ 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ในความพยายามผลักดันผ่านความเห็นชอบในวุฒิสภา ในขณะที่พวกเขาต้องการให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ลงนามเป็นกฎหมาย ก่อนสวัสดิการคนว่างงานในปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันที่ 15 มีนาคม

    ขณะเดียวกันในแพ็คเกจดังกล่าว ได้มีการจัดสรรงบประมาณ 350,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นต่างๆ ที่งบประมาณของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่อย่างหนักหน่วง

    สเตนี โฮเยอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ เขียนบนทวิตเตอร์ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจะลงมติในวันอังคาร(9มี.ค.) ต่อร่างเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ฉบับแก้ไขที่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภามาแล้ว

    บรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตพากันแสดงความยินดีที่ร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาในวันเสาร์(6มี.ค.) ในนั้นรวม ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยเขาบอกว่าร่างกฎหมายนี้จะช่วยให้ประเทศมีความได้เปรียบเหนือโรคระบาดใหญ่ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วอเมริกาแล้วกว่า 520,000 คนและบั่นทอนเกือบทุกแง่มุมของวิถีชีวิตประจำวัน

    "ผมอยากให้ประชาชนชาวอเมริการู้ว่าเรากำลังก้าวผ่านเรื่องนี้ และวันใดวันหนึ่งเร็วๆนี้ธุรกิจของเราจะกลับมาเปิดอีกครั้ง เศรษฐกิจกลับมาเปิดและวิถีชีวิตจะหวนคืนมา" ชูเมอร์กล่าว

    อย่างไรก็ตาม มิตช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากรีพับลิกัน ส่งเสียงแข็งกร้าวเกี่ยวกับแพ็คเกจดังกล่าว โดยบอกว่า "วุฒิสภาไม่มีวันใช้เงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในแนวทางส่งเดช หรือผ่านกระบวนการที่ไม่มีความเข้มงวดใดๆ"

    ทางพรรครีพับลิกันต้องการให้แพ็คเกจเยียวผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ มีขนาดเล็กกว่าแผนของไบเดนราวๆ 1 ใน 3 โดย แม็คคอนเนลล์ บอกว่าแม้นปราศจากกฎหมายฉบับนี้ "ปี 2021 ก็กำลังกลายเป็นปีที่เรากลับมาได้แล้ว สืบเนื่องจากร่างกฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจที่บังคับใช้เมื่อไปที่แล้ว"

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกวางจูปรับคลับต่างชาติแห่งหนึ่งที่เปิดให้มีการปาร์ตี้ภายในคลับและละเมิดกฎการกักกันโรคในช่วงโควิดกำลังระบาด

    เหตุเกิดเพราะขณะที่เจ้าหน้าที่ต.ม. กำลังเดินสายรณรงค์ให้งดพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและกระจายข่าวสารการป้องกันการระบาด แต่กลับพบเข้ากับคลับแห่งนี้ที่กำลังให้บริการและยังมีชาวต่างชาติมารวมตัวกันเกิน 5 คนสังสรรค์ปาร์ตี้โดยไม่สนใจการประกาศขอความร่วมมือในซานจองดง, ควังซานกู, ควังจู

    จุดประสงค์ของเจ้าหน้าที่คือเข้าให้ความรู้ความเข้าใจและขอความร่วมมือชาวต่างชาติให้ออกมาตรวจหาเชื้อ ไม่ได้มีเจตนาเข้าปราบปรามแต่อย่างใด แต่ด้วยช่วงนี้เป็นช่วงมีมาตราการผ่อนคลาย ทำให้แรงงานต่างชาติชาวมองโกเลียเข้าใจว่าตนสามารถจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ได้แล้ว จึงมีการรวมตัวกันมากกว่า 5 คนในกลุ่มเพื่อนด้วยกัน อีกทั้งภายในคลับไม่มีการปฎิบัติตามกฎการกักกัน อาทิ การเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร, การสวมหน้ากากอนามัย, และการลงทะเบียนเข้าใช้งาน

    นั่นส่งผลให้เจ้าของคลับถูกปรับไปตามระเบียบโดยไม่มีการจับกุมแรงงานต่างชาติในคลับแต่อย่างใด

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดีย : รัฐหรยาณา ปัญหาขยะ และวัวจรจัด วัวจำนวนมากกินขยะเป็นอาหาร
    วัวท้องแก่ตาย หลังจากเจ้าหน้าที่พบวัวท้องถูกรถชน ใกล้ท้องอาการสาหัส นำมาเอ็กซ์เรย์และอัลตร้าซาวด์ พบสิ่งผิดปกติในกระเพาะอาหาร เจ้าหน้าที่ต้องทำการผ่าตัดทำคลอดก่อนกำหนด ต่อมาลูกวัวตาย และจากการผ่าตัดกระเพาะแม่วัวพบพลาสติก 71 กิโลกรัม ตะปู โลหะ เหล็ก ต่อมาแม่วัวก็ตายเช่นกัน
    ในอินเดียมีวัวจรจัดมากกว่า 5 ล้านตัว คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู วัวคือสิ่งศักสิทธิ์ไม่บริโภคเนื้อวัว ไม่ซื้อขายเพื่อฆ่า บางรัฐมีข้อห้ามและผิดกฎหมาย ชาวนาจึงนิยมนำวัวมาปล่อยทิ้ง มากกว่าซื้อขาย
    ขยะที่มากขึ้น และการทิ้งไม่เป็นที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่
    ภาพ :daily sabah

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขุดศพสาวพม่าวัย 19 ผ่าหาที่มากระสุน ปมเสียชีวิตขณะร่วมประท้วง
    .
    RFA.- Mizzima 7 มี.ค. - ทหาร-ตำรวจพม่านำเจ้าหน้าที่นิติเวชขุดฮวงซุ้ย นำศพ “มะแจสิ่น” เด็กหญิงวัย 19 ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะประท้วงการรัฐประหารในมัณฑะเลย์ขึ้นผ่าพิสูจน์หาหลักฐานถึงกลางสุสาน หลังปฏิเสธรอยกระสุนที่หัวไม่ได้มาจากกองทัพหรือตำรวจ
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 16.30 น. วันศุกร์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่นิติเวชจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังฮวงซุ้ยซึ่งฝังศพของ “มะแจสิ่น” ในสุสาน “เอเยะเงม” ซึ่งเป็นสุสานของของชาวจีนยูนนาน ในกรุงมัณฑะเลย์
    .
    ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณสุสานบอกกับสำนักข่าว RFA ว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้มากับรถทหาร 1 คัน กับรถตำรวจอีก 6 คัน เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบสุสาน กันบุคคลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ออกไปอยู่ห่างๆ สั่งห้ามถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอโดยเด็ดขาด
    .
    เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเจาะฮวงซุ้ย และนำศพของมะแจสิ่นขึ้นมาวางนอนไว้บนปากหลุม จากนั้นได้เริ่มกระบวนการผ่าศพเพื่อตรวจหาหลักฐาน ซึ่งทำกัน ณ บริเวณนั้นเลย
    .
    พยานผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง บอกกับสำนักข่าว Mizzima ว่า ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เหล่านี้คุยกันเมื่อผ่าลงไปบริเวณศีรษะของศพ ว่าพวกเขาได้พบหลักฐานบางอย่าง แต่พยานรายนี้ไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ เพราะยืนอยู่ห่างเกินกว่าที่จะได้ยินชัดเจน
    .
    กระบวนการผ่าศพทำไปจนถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม จึงเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้นำศพของมะแจสิ่น ฝังกลับลงไปในฮวงซุ้ย ปิดปากหลุม และฉาบซีเมนต์กลับคืนไว้ดังเดิม อย่างไรก็ตาม พวกเจ้าหน้าที่ไม่ได้เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝ่าศพ เช่น ชุดที่ใส่ ถุงมือ รองเท้า มีด โดยทิ้งของเหล่านี้ไว้บริเวณปากหลุมศพ รวมถึงไม่ได้ทำความสะอาดคราบเลือดที่เกิดขึ้นจากการผ่าศพ ทำให้มองเห็นเป็นรอยอย่างชัดเจน
    .
    มะแจสิ่นมีชื่อจีนว่า "เติ้ง เจียซี" เป็นเด็กหญิงพม่าเชื้อสายจีนยูนนาน วัย 19 ปี ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหัวมุมถนนหมายเลข 84 ตัดกับหมายเลข 30 ในกรุงมัณฑะเลย์ เมื่อเช้าวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะร่วมประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร โดยที่ศพของเธอมีรอยกระสุนถูกยิงที่ศีรษะ
    .
    กลุ่มผู้ต่อต้านได้นำการเสียชีวิตของมะแจสิ่น มาโจมตีกองทัพและตำรวจพม่าว่า ได้ปฏิบัติการอย่างโหดเหี้ยมต่อผู้ชุมนุมประท้วง โดยการนำสไนเปอร์มาซุ่มยิงผู้ประท้วงจนเสียชีวิต
    .
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาปฏิเสธ โดยระบุว่า เมื่อดูจากภาพบาดแผลของผู้เสียชีวิต รอยกระสุนที่พบไม่ได้มาจากอาวุธที่มีใช้ในกองทัพหรือหน่วยงานของตำรวจ และหากเป็นการยิงโดยสไนเปอร์จริง รอยแผลต้องมีความรุนแรงมากกว่าที่เห็นในภาพ
    .
    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามขออายัดศพของมะแจสิ่นเพื่อนำมาผ่าพิสูจน์ แต่ครอบครัวของเธอไม่ยินยอม และจัดงานฝังศพของเธอทันทีในวันรุ่งขึ้น (4 มี.ค.) ส่งผลให้วันต่อมา เจ้าหน้าที่นิติเวชจึงต้องเดินทางไปยังสุสาน เพื่อขุดศพของเธอขึ้นจากฮวงซุ้ยเพื่อผ่าพิสูจน์ ก่อนจะนำกลับไปฝังลงไปใหม่อีกครั้ง.

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️[BREAKING]⚠️ เงินช่วยเหลือ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐกำลังมาแล้ว ! หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายนี้สำเร็จ ถึงแม้ต้องลงมติกันนานถึง 27 ชั่วโมง !

    น่าติดตามว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดสหรัฐอย่างไรบ้างเมื่อเปิดตลาดวันจันทร์ ? #จะสามารถกลับเข้ามาดันให้ตลาดหุ้นเด้งกลับไปได้ไหม ?

    1️⃣ ในที่สุดวุฒิสภาสหรัฐก็ได้โหวตลงมติผ่านร่างกฎหมาย Stimulas Package แพ็กเกจเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไปแล้วเมื่อคืนนี้

    2️⃣ หลายฝ่ายกังวลว่าการเจรจานี้อาจจะยืดเยื้อ เพราะ ส.ว.ฝั่งรีพับลิกันทั้งหมดจะโหวตคัดค้าน และถึงแม้จะถกเถียงกันนานถึง 27 ชั่วโมง แต่สุดท้ายการลงมติก็ผ่านไปด้วยคะแนน 50 ต่อ 49 เสียง

    3️⃣ ต่อไปกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งไปพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคารที่ 9 มี.ค. นี้ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ทำให้ตลาดเชื่อว่าน่าจะผ่านได้อย่างไม่มีปัญหา

    เงินช่วยเหลือ 1.9 ล้านล้านเหรียญนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ?

    4️⃣ ประธานาธิบดี Joe Biden กล่าวว่าเงินช่วยเหลือนี้จะช่วยสร้างงานในประเทศได้มากกว่า 6 ล้านตำแหน่ง ! และทำให้ GDP สหรัฐเติบโตขึ้นกว่าหลายล้านล้านเหรียญ

    5️⃣ ตอนนี้ตลาดมองว่า GDP ในไตรมาสที่ 1 ของสหรัฐปีนี้น่าจะโตได้ที่เกือบๆ 5% แต่หากเงินช่วยเหลืออัดฉีดเข้ามาในช่วงหลังไตรมาสที่ 1 นี้ อาจทำให้ GDP ทั้งปีโตได้สูงกว่านี้อีก !

    แล้วทางด้านผลกระทบต่อตลาดหุ้นล่ะ ?

    6️⃣ ดูคร่าวๆแล้วตลาดน่าจะมีเสียงตอบรับที่ดีต่อข่าวดีและอาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐเด้งสูงขึ้นได้เมื่อเปิดตลาดวันจันทร์ แต่กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็นกลุ่มหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock) มากกว่าเหล่าหุ้น Growth หรือหุ้น Tech

    7️⃣ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตามองให้ดีเพราะตอนนี้ #นักลงทุนทั่วโลกกำลังมึน และพยายามจะคาดเดาผลกระทบของเงินช่วยเหลือนี้ในแง่มุมอื่นๆ และตลาดก็ได้รับรู้ข่าวนี้ไปมากพอสมควรแล้ว

    8️⃣ การที่เศรษฐกิจสหรัฐพร้อมกลับมาฟื้นดีอยู่แล้ว แต่ยิ่งมีเงินอัดฉีดเข้ามามหาศาลจะทำให้เศรษฐกิจโตอย่างร้อนแรงเกินไปไหม ? #จะเกิดเงินเฟ้อรุนแรงหรือไม่ ?

    9️⃣ ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้เจอกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขนาดนี้มากว่าหลาย 10 ปีแล้ว ทำให้นักลงทุนยังไม่สามารถประเมินถึงผลกระทบของมันได้ดีนัก จึงอาจทำให้ตลาดยังคงผันผวนไปซักพัก

    ✅ ใครไม่อยากพลาดข่าวสารการลงทุนที่รวดเร็ว

    แนะนำให้กดตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนของเพจให้เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด” ไว้ จะได้ไม่ปล่อยให้ Facebook ซ่อนโพสต์ของเราครับ

    ฝากกด #Like และ #Share ให้แอดด้วยถ้าข้อมูลนี้มีประโยชน์กับทุกท่านนะครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘สีจิ้นผิง’ ย้ำมองโกเลียในแก้ปัญหาเชื้อชาติ-ส่งเสริมการใช้ ‘ภาษาจีนกลาง’
    .
    ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเน้นย้ำให้ผู้นำเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน “แก้ปัญหาเชื้อชาติ” และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ภาษาจีนกลางอย่างแพร่หลาย ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากคนท้องถิ่นที่มองว่าปักกิ่งจงใจทำลายภาษาซึ่งเป็นอัตลักษณ์สุดท้ายของชาวมองโกเลียที่ยังเหลือหลงอยู่
    .
    เขตปกครองตนเองมองโกเลียในตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจีน และมีพรมแดนติดกับประเทศมองโกเลีย ซึ่งทำให้พลเมืองส่วนใหญ่ที่นั่นมีเชื้อสาย วัฒนธรรม และภาษาร่วมกับคนในมองโกเลีย
    .
    ชาวมองโกเลียในหลายพันคนได้รวมตัวประท้วงและบอยค็อตต์ชั้นเรียนเมื่อปีที่แล้ว หลังจากรัฐบาลจีนมีคำสั่งยกเลิกการเรียนการสอนภาษามองโกเลียในโรงเรียน และทดแทนด้วยภาษาจีนกลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้างอัตลักษณ์ร่วมและผลักดันให้ชนกลุ่มน้อยต่างๆ ยอมรับวัฒนธรรมชาวฮั่น
    .
    นโยบายกลืนชาติพันธุ์เช่นนี้ยังถูกนำไปใช้กับชนกลุ่มน้อยในซินเจียงและทิเบต
    .
    การชุมนุมประท้วงใหญ่ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปีทำให้จีนใช้วิธีปราบปรามขั้นรุนแรง โดยนำรถหุ้มเกราะไปปิดล้อมโรงเรียน และมีการจับกุมแกนนำผู้ประท้วงหลายคน
    .
    ล่าสุด ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังคงเน้นย้ำนโยบาย “หลอมรวม” พลเมืองจีนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยกล่าวระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนแบบเต็มคณะที่กรุงปักกิ่งวานนี้ (5) ว่า ผู้นำมองโกเลียในจะต้อง “สนับสนุนอย่างแน่วแน่” ให้สถานศึกษาใช้ตำราเรียนที่เป็นมาตรฐานของชาติ และแก้ไข “แนวคิดผิดๆ” เกี่ยวกับวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของคนท้องถิ่น
    .
    ปีที่แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองชาวมองโกเลียในซึ่งปฏิเสธไม่ให้ลูกไปโรงเรียนได้รับคำขู่ไล่ออกจากงาน, ถูกสั่งปรับเงิน หรือขู่ว่าจะไล่นักเรียนออก ขณะที่ในบางพื้นที่ทางการถึงกับให้รางวัลเป็น “เงินสด” แก่นักเรียนที่สามารถโน้มน้าวให้เพื่อนๆ กลับไปเรียนได้
    .
    สี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะต้อง “มุ่งมั่นหาวิธีแก้ปัญหาเชื้อชาติ ด้วยการส่งเสริมคุณลักษณะความเป็นจีน” เข้าไปแทน พร้อมทั้งย้ำเตือนว่า ชาวมองโกเลียในควร “จดจำให้ขึ้นใจว่า ชนชาติฮั่นไม่อาจถูกแยกจากชนกลุ่มน้อยอื่นๆ เช่นเดียวกับที่ชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ไม่อาจจะถูกแยกออกจากชาวฮั่น”
    .
    ผู้นำแดนมังกรยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย “ร่วมกันส่งเสริมภาษาของชาติให้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย”
    .
    ที่มา: เอเอฟพี

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ❗️ [ฮ่องกง]
    พบผู้เสียชีวิตรายที่ 2 หลังจากได้รับวัคซีนโควิด
    .
    เมื่อวานนี้ (6 มีค) มีข่าวจากรัฐบาลฮ่องกงว่า
    พบหญิงวัย 55 ปี มีโรคประจำตัว
    ได้รับวัคซีนโควิด(Sinovac) เมื่อวันที่ 2 มีค
    ต่อมา วันที่ 5 มีค มีอาการทางหลอดเลือดในสมองอย่างฉับพลัน (acute stroke)
    จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ Caritas Medical Centre (Sham Shui Po) และรพ Kwong Wah (Yau Ma Tei)
    .
    ต่อมา พบภาวะหัวใจหยุดเต้น (cardiac arrest) แม้ทีมแพทย์จะทำการช่วยเหลือ แต่ก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา (เช้าวันที่ 6 มีค)
    .
    ในการณ์นี้ สธ จะสอบสวนผ่านคณะกรรมการฯ และจะแจ้งผลให้ประชาชนทราบต่อไป
    .
    ===============
    อนึ่ง ฮ่องกง เริ่มฉีดวัคซีนโควิดไปเมื่อวันที่ 26 กพ
    .
    โดยเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มก่อน คือ
    - ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
    - บุคลากรทางการแพทย์
    - ผู้อาศัยและผู้ทำงานในบ้านพักคนชราและผู้ทุพพลภาพ
    - ผู้ทำงานในบริการสาธารณะที่จำเป็น
    - ผู้ทำงานด้านคมนาคมข้ามพรมแดนและทำงานที่ด่าน
    .
    โดยวัคซีนที่ใช้ คือ วัคซีนของ Sinovac
    และในวันที่ 10 มีค นี้ จะเริ่มฉีดวัคซีนของ Fosun/BioNTech (Pfizer) ให้ประชาชนด้วย
    .
    นอกจากนี้ สธ ยังมีรายงานประจำวัน สำหรับผู้ที่มีอาการข้างเคียงหลังจากได้รับวัคซีนฯ และนำส่ง รพ
    .
    โดยเมื่อวานนี้ (6 มีค) พบ 2 ราย
    (1) หญิงวัย 62 ปี มีอาการวิงเวียน ได้ส่งตัวเข้า รพ เพื่อดูอาการ
    (2) ชายวัย 30 ปี มีอาการแขนชา ถูกนำส่ง รพ และออกจาก รพ แล้ว
    .
    เครดิตภาพ: Brand Hong Kong
    .
    Source:
    https://www.info.gov.hk/gia/general/202103/06/P2021030600525.htm
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,804
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศบค. รายงาน สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 65 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 60 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 40 ราย ผู้ป่วยใหม่ 20 ราย และ เป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ 5 ราย โดยเป็นไม่ผ่านการกักกัน 2 ราย

    สำหรับผู้ป่วยทั้ง 60 ราย มาจาก จ.สมุทรสาคร 47 ราย จ.ตาก 5 ราย จ.ปทุมธานี 3 ราย กรุงเทพฯ 2 ราย จ.นครนายก 2 ราย จ.อยุธยา 1 ราย

    #สถานการณ์โควิดวันนี้
    #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     

แชร์หน้านี้

Loading...