ติดตามสถานะการณ์

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.57 พายุน้ำแข็งพัดถล่มทางตอนเหนือของประเทศออสเตรีย(ยุโรป)อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนทำให้หลายพื้นที่ต่างกลายสภาพเป็นน้ำแข็งและมีอุณหภูมิลดต่ำลงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ในแขวง Waldviertel และ แขวง Weinviertel ซึ่งมีสภาพอากาศฝนตกลมแรงหนักและมีอากาศหนาวเย็นจัดจนติดลบ ส่งผลทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้า เกิดปรากฏการณ์มีน้ำค้างแข็งเกาะตามลำต้น โดยบางพื้นที่ระบบไฟฟ้าใช้การไม่ได้ เพราะความเสียหายจากพายุฝนและพายุน้ำแข็ง อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
(คลิป
<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/ViVT2weU76w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
)

พายุน้ำแข็งพัดถล่มทางตอนเหนือของประเทศออสเตรีย จนเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง | สถานการณ์

 

In & Outside World
NASA's Journey to Mars



....NASA มีการพัฒนาขีดความสามารถที่จำเป็นในการส่งมนุษย์ไปยังดาวเคราะห์น้อย 2025 และดาวอังคารใน 2030
- อนุมัติของปี 2010ในนโยบายอวกาศแห่งชาติของสหรัฐยังออกในปี 2010
...ทำไมต้องเป็นดาวอังคาร เพราะในอนาคต โลกของเราจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และดาวอังคารคือ ดวงดาวถัดจากโลก ในระบบสุริยะแห่งนี้
...จากการส่งหุ่นยนต์ ยานอวกาศสำหรับดาวอังคารร่วม 40 ปี และสามารถติดต่อสื่อสารผ่านยานอวกาศนานาชาติได้ ทำให้ NASA มั่นใจในการที่จะส่งมนุษย์ ไปเริ่มต้นที่ดาวอังคาร สถานีอวกาศยังก้าวหน้าขึ้นเมื่อทำความเข้าใจของวิธีการที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่อวกาศและวิธีการที่จะปกป้องสุขภาพของนักบินอวกาศ
...deep space ห้วงอวกาศคือภารกิจต่อไป จะจับภาพดาวเคราะห์น้อยและวิถีโคจร และอาจทดลองเปลี่ยนวิถีโคจรของดาวเคราะห์ (เคยอ่านเจอ มีบางคนบอกจะเปลี่ยนวิถีโคจรดวงจันทร์ เพื่อถอยโลกห่างจากดวงอาทิตย์ด้วยนะ)
...วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศมที่จะใช้เพื่อการทำงานบนดาวอังคารอย่างปลอดภัย ในอนาคต...

 

Ammy Chumnankit ได้แชร์โพสต์ของ วิทยาศาสตร์ทันโลก และภัยพิบัติในไทย

ทฤษฎีสัมพัทธภาพ



***ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ของไอน์สไตน์***
มีหลายคนถามเข้ามา ให้อธิบายละเอียดว่า ทำไมในหนัง Interstellar ตอนที่พระเอกไปลงดาวเคราะห์แรก ถึงแก่ช้าลงถึง 23 ปี เทียบกับนักบินผิวดำบนยานแม่ กับที่บนโลก
กฏสัมพัทธภาพของไอนสไตน์นั้นมี 2 ข้อนะครับ อันแรกคือ สัมพัทธภาพพิเศษ (special relativity เคยพูดไปหลายครั้ง) ที่ว่า หากสะสาร/คนเคลื่อนที่เร็วมากใกล้แสง จะทำให้เวลาผ่านไปช้าลง เทียบกับ สะสารอื่นๆที่เคลื่อนไหวช้ากว่า (เช่นโลก โพสท์ที่แล้วผมแสดงให้ดูแล้วว่าโลกเคลื่อนที่เร็วเท่าไหร่เทียบกับอวกาศ ช้ากว่าแสงมากๆ) .... หลังจากที่ตีพิมพ์ special relativity เสร็จปุ๊บ ไอนสไตน์ก็เริ่มมีความคิดว่า มันไม่น่าจะจบแค่นั้น มันต้องประยุกต์กับระบบที่มีความเร่งด้วยสิ (ความเร่งหรือ แรงโน้มถ่วง/gravity นั้น เป็นญาติกัน เช่น หากคุณขับรถยนต์ ในช่วงที่คุณเร่งรถจากจอดอยู่ จะรู้สึกเหมือนถูกดันไปติดเบาะ หรือเบรคกระทันหัน (ความเร่งลดลง) เราจะถูกแรงกระชากถลำไปด้านหน้า) โดยเฉพาะในอวกาศนั้น gravity เป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เกิดกาแลคซี่ ระบบสุริยะ ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ หลุมดำ ฯลฯ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ ความเร่งที่โลกทำต่อเราคือ g = 9.81 m/s^2 .....

มาวันนึง ไอนสไตน์ก็ปิ๊งขึ้นมาว่า เช่นเดียวกับที่ คนที่เคลื่อนที่ไวมาก เขาจะไม่รู้สึกว่าตัวเองเคลื่อน (เหมือนเราบนเครื่องบิน) ซึ่งเกี่ยวกับ สัมพัทธภาพพิเศษ ในระบบที่ไม่มีความเร่งหรือความเร็วคงที่ (เหมือนเราขับมอไซต์ชิลๆที่ 70 กม/ชม เราไม่กระตุก ไม่โยกไหว ไม่มีแรงกระทำต่อเรา) .... ในคนที่ตกลงมาจากหลังคาเป็นต้น เขาจะไม่รู้สึกถึงน้ำหนักตัวเองเช่นกัน ทั้งๆที่ตัวเขาถูกความเร่งที่โลกทำต่อเขา (9.81 m/s^2) ไอนสไตน์บอกว่า เป็นความคิดที่โชคดีที่สุดในชีวิตและนำไปสู่ ทฤษฎีสัมพัทธภาพใหม่ในระบบที่มีความเร่งหรือแรงโน้มถ่วง/gravity .......ไอนสไตน์ใช้เวลา 7 ปี ที่จะพิสูจน์ทฤษฎีนี้ด้วยคณิตศาสตร์และสมบูรณ์แบบ เรียกมันว่า กฏสัมพัทธภาพทั่วไป (general relativity) ทุกวันนี้นักวิทย์พิสูจน์ได้แล้วหลายแบบว่ากฏสัมพัทธภาพมันเป็นจริง หากสะสาร/วัตถุอยู่ในอาณาเขตที่ สนามแรงโน้มถ่วง (gravitational field) สูงๆ เวลาจะผ่านไปช้ากว่าเมื่อเทียบกับ วัตถุที่อยู่ใน สนามแรงโน้มถ่วงต่ำ (บางทีก็เรียก ศักย์/potential แทน "สนาม") ทางฟิสิกส์ เรียกว่า time dilation (เวลาถูกดึงยังกะหนังยาง)

กฏสัมพัทธภาพนี้ ง่ายๆก็คือ เวลา-ระยะทาง (space-time) นั้นมันขึ้นอยู่กับคนสังเกตุ มันเป็นสัมพัทธ์ทั้งนั้น (เปรียบเทียบ) เมื่อระบบใหญ่ๆและ/หรือเคลื่อนที่ไวอย่างในจักรวาลหรือระดับอนุภาคเล็กๆ ..... space-time ไม่ได้ตายตัวอย่างที่เรารู้สึกบนโลกแคบๆของเราที่เคลื่อนที่ช้าหรือแรงโน้มถ่วงไม่สูงมาก

หากใครเรียนฟิสิกส์มัธยม จะเห็นว่ามีสูตรของนิวตัน F = G*m1*m2/(r^2) ซึ่งแปลว่า แรงโน้มถ่วงที่กระทำกับวัตถุนั้นๆ แปรผันตรงต่อมวลทั้งสอง (เช่น มวลตัวเรากับมวลโลก) และแปรผกผันกับระยะห่างของทั้งสองมวลกำลังสอง

ในรูป 1 นี้เป็นต้น แสดง สนามแรงโน้มถ่วงในบริเวณที่ มวลสองมวล โคจรกัน (ในที่นี้ ใช้มวลโลกกับดวงจันทร์) ขนาดของลูกศรแสดงความแรงของ แรงโน้มถ่วง/gravity ณ จุดๆนั้นที่มีผลกระทบจากทั้งมวลจากโลกและจากดวงจันทร์ จะเห็นว่า ใกล้ๆโลกและใกล้ๆดวงจันทร์ แรงโน้มถ่วงจะแรงกว่าจุดอื่นๆ (เราถึงเดินดินอยู่ และนีล อาร์มสตรอง เดินเด้งๆบนดวงจันทร์ แต่ในอวกาศ นักบินกลับล่องลอย)

ทั้งนี้ ในหนัง ดาวเคราะห์แรก Miller ที่พระเอกไปลง มันใกล้หลุมดำมากครับ หลุมดำนี้มีมวล 30 ล้านๆเท่าของโลกเรา ทั้งหนาแน่นด้วย .... gravitational field ที่อยู่ใกล้ 2 วัตถุนี้มันเลยแรงมาก (คล้ายกับรูป 1) พอพระเอกไปลง เวลาเลยผ่านไปช้ากว่าในอวกาศกับบนโลก (1 ชม. = 7 ปี) เพราะ time dilation ตามกฏสัมพัทธภาพทั่วไป .... สาเหตุที่นักบินผิวดำบนยานแม่ในอวกาศแก่กว่าก็เพราะเขาอยู่ห่างจากทั้งหลุมดำและดาวเคราะห์นั้น อีกทั้ง มวลของยานอวกาศเขานั้นเล็กน้อยมาก เทียบกับมวลดาวเคราะห์ Miller แล้ว (ก็เหมือนกับว่าเขาแค่ล่องลอยในอวกาศ อาจโดนสนามโน้มถ่วงบ้างแต่น้อยกว่าพระเอก)

ทั้งนี้ ในวิดิโอนี้ที่ผมเอารูปมา (credit: Caleb Piercy) แสดงสนามแรงโน้มถ่วงระหว่าง โลกและดวงจันทร์ แต่ครึ่งหลังของวิดิโอ เขาเพิ่มมวลดวงจันทร์เป็น 10 เท่าและย่นระยะห่าง เพื่อแสดงว่าเกิดอะไรขึ้น ... ชมเว่อร์ชั่นเต็ม
https://www.youtube.com/watch?v=im9PuBdIjMY

นอกจากนี้แล้ว หากในทีมพระเอกมี วิศวกรชายฝั่งแล้ว คงไม่เลือกไปลงดาว Miller เป็นแน่แท้ ในแวดวงวิศวะชายฝั่ง (วิจัย คลื่น/สึนามิ) หรือ Geophysics เป็นที่รู้ๆกันว่า แรงกระทำระหว่างวัตถุมวลสูงๆ ขนาดหลุมดำยักษ์แล้ว คงทำให้เกิดคลื่น น้ำขึ้น/น้ำลงขนาดยักษ์เป็นแน่ (เหมือนอย่างที่โลก-ดวงจันทร์-พระอาทิตย์ ทำให้เกิดบนโลกเรา) .... สาเหตุ ที่ดวงจันทร์ยูโรป้า ของดาวพฤหัส มีมหาสมุทรใต้พิภพ ก็เพราะเหตุนี้ครับ
แรงโน้มถ่วงที่กระทำระหว่างยูโรป้ากับดาวพฤหัส ทำให้เกิดแรงเสียดทานภายในและก่อให้เกิดความร้อน ทำให้น้ำแข็งละลายได้
แรงแบบนี้เรียกว่า tidal friction effect (tidal แปลไทยว่า
เกี่ยวกับน้ำขึ้นน้ำลง) ...

ดร. ไพโรจน์

 

พบหลุมก๊าซจุดไฟติดกลางกรุง ประสานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 3 ธ.ค. 2557 02:44



พบหลุมก๊าซจุดไฟติด ย่านตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ขณะคนงานเจาะเสาเข็ม เตรียมปลูกบ้าน คาดเป็นก๊าซมีเทน ประสานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ...

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านภายในซอยฉิมพลี 21 ถนนฉิมพลี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.ว่า บ้านเลขที่ 68/10 หมู่ 3 บนเนื้อที่ 250 ตร.ว. ภายในซอยดังกล่าว ของนายดุสิต ขันธ์ประดิษฐ์ อายุ 56 ปี หัวหน้าแผนกทะเบียน บ.อึ้ง ง่วน ไต๋ จก. สาขาตลิ่งชัน ที่ขุดเจาะเสาเข็มเตรียมปลูกบ้าน พบหลุมก๊าซที่สามารถจุดไฟติดได้ จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต่างหวาดระแวงเกรงเกิดอันตราย เพราะมีเสียงก๊าซปะทุอยู่ตลอดเวลา

เมื่อไปตรวจสอบพบนายดุสิตเจ้าของบ้าน เผยว่าแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว มีเพียงเจ้าหน้าที่ของ ปตท.มาตรวจสอบ พร้อมให้คำชี้แจงว่าท่อก๊าซของ ปตท.วิ่งผ่านบนถนนราชพฤกษ์ อยู่ห่างจากจุดที่พบ 300 ม. ไม่เกี่ยวกับความรับผิดชอบของ ปตท. หลุมก๊าซที่พบน่าจะเป็นก๊าซมีเทน เกิดจากการหมักหมมของซากพืชและสัตว์สามารถจุดติดไฟได้ ประสานไปยังฝ่ายโยธา สำนักงานเขตตลิ่งชัน นำเชือกมากั้นเป็นพื้นที่อันตราย รอผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ.

พบหลุมก๊าซจุดไฟติดกลางกรุง ประสานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

กองทัพปูแดงนับร้อยล้านตัวบุกเกาะคริสต์มาสในมหาสมุทรอินเดีย
วันที่ 2 ธันวาคม 2557 จำนวนผู้เข้าชม :



สำนักข่าวเดลี่เมล์รายงานข่าวกองทัพปูสีแดงนับล้านตัวบุกเกาะคริสต์มาส เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเมืองเพิร์ธของออสเตรเลียไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 2,500 กิโลเมตร จนทำให้ทั่วทั้งเกาะอาบไล้ไปด้วยสีแดงแทบจะทั่วทุกตารางนิ้ว

รายงานข่าวระบุว่าฝูงปูแดงกว่า 120 ล้านตัว จาก 14 สายพันธุ์ พากันอพยพออกจากป่า หลังเกิดมรสุมพัดกระหน่ำตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน สำหรับปรากฏการณ์นี้ จะเกิดขึ้นในช่วงนี้ของทุกปี โดยฝูงปูแดงจะพากันอพยพโยกย้าย เพื่อมาผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งชาวบ้านบนเกาะก็ต้องหลบเลี่ยงไม่ให้ขับยานพาหนะทับฝูงปูแดงที่คลานไปตามท้องถนน









- See more at: กองทัพปูแดงนับร้อยล้านตัวบุกเกาะคริสต์มาสในมหาสมุทรอินเดีย - เรื่องเล่าเช้านี้-เสาร์อา

 

สั่งโรงเรียนดังห้ามเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 2 ธันวาคม 2557 15:57



สพฐ.กำชับโรงเรียนดัง ห้ามเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ พร้อประกาศแนวทางรับนร. ให้ชัดเจนล่วงหน้าเพื่อความโปร่งใส

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558 ในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมถึงผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 580 คน ว่า ตนได้เน้นย้ำกับผู้บริหารโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันให้ปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน เช่น การตั้งคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ คณะกรรมการระดับโรงเรียน รวมถึงการประกาศแผนจำนวนที่นั่งเรียนจะต้องให้เกิดความชัดเจน เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นโรงเรียนจะได้มีหลักฐานในการตรวจสอบได้ ทั้งนี้ การรับนักเรียนจะต้องเปิดรับเพียงรอบเดียวเท่านั้น

นายกมล กล่าวต่อว่า แนวทางการรับนักเรียนในปีนี้จะเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ผ่านมา โดยจุดหลักที่เน้นทุกโรงเรียนต้องกำหนดและประกาศแผนการรับนักเรียนของโรงเรียนตนเองให้ชัดเจน ทั้งประกาศรับสมัคร สอบคัดเลือก การออกข้อสอบ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบคัดเลือก เป็นต้น ขณะเดียวกัน ปีนี้ สพฐ.ได้ย้ำให้โรงเรียนจัดกิจกรรมเปิดบ้าน (Open House) เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้เห็นศักยภาพของโรงเรียนในกลุ่มอื่น ๆ นอกเหนือจากโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เช่น กลุ่มโรงเรียนสหกิจที่เป็นการร่วมมือพัฒนาระหว่าง สพฐ.และกทม. โรงเรียนคู่พัฒนา เป็นต้น อีกทั้ง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มอบนโยบายให้ สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ร่วมกันดูแลนักเรียน เพราะฉะนั้น ในวันที่โรงเรียนประกาศผลผู้มีสิทธิเข้าเรียนต่อนั้นก็จะมีสถาบันอาชีวะ เข้ามาตั้งโต๊ะรับนักเรียนเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนที่พลาดหวัง ทั้งเป็นการเพิ่มผู้เรียนสายอาชีพทางหนึ่งด้วย

“ การรับนักเรียนได้เน้นย้ำว่าต้องโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ เพราะฉะนั้นโรงเรียนต้องดำเนินการให้โปร่งใสมากที่สุด และกรณีกลุ่มที่มีเงื่อนไขพิเศษใน 9 ประเภท เช่น ยากจน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ บริจาคที่ดินสร้าง ร.ร. ฯลฯ ก็ต้องประกาศสัดส่วนและรายชื่อให้ชัดเจน เพราะทุกวันนี้โซเชียลมีเดียมีจำนวนมากที่ส่งต่อกันอาจจะเกิดปัญหากับผู้บริหารได้ แต่ผมเชื่อว่าหากเราให้คำตอบในสิ่งที่สังคมสงสัยก็จะยอมรับได้ ที่สำคัญห้ามไม่ให้มีการเรียกรับเงิน หรือ แป๊ะเจี๊ยะเด็ดขาดเพราะถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งในช่วงที่มีการรับนักเรียน สพฐ.ได้สั่งห้ามไม่ให้มีการรับเงินบริจาคหรือระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาใด ๆ และต้องไม่ให้การบริจาคมีเงื่อนไขผูกพันกับการรับนักเรียนด้วย”นายกมล กล่าวและว่า ทั้งนี้ สพฐ.ได้ตั้งศูนย์ดูแลช่วยเหลือนักเรียน ซึ่งนอกจากจะดูแลจัดหาที่เรียนแก่เด็กแล้ว หากประชาชนพบเบาะแสหรือข้อมูลที่ไม่ชอบมาพากลสามารถโทรศัพท์มาแจ้งได้ที่สายด่วน โทร.02-280-5530

- See more at:

 

'ฮู'จัดไทยดื่มเหล้าที่78โลกเฉลี่ย7.1ลิตร/คน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 2 ธันวาคม 2557 06:00


นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ภาพข่าว ภาพประกอบข่าว

องค์การอนามัยโลกจัดไทยดื่มเหล้าอันดับ78ของโลกเฉลี่ย7.1ลิตรต่อคน รมช.สธ.ชี้โฆษณาธุรกิจน้ำเมา สร้างค่านิยมผิด

ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการฯ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) กล่าวในงานประชุมวิชาการสุราแห่งชาติครั้งที่ 8 หัวข้อ “ทศวรรษแห่งการเรียนรู้และการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อลดปัญหาแอลกอฮอล์ในสังคมไทย” จัดโดยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า ขณะนี้มีความพยายามของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่รุกหนักกระตุ้นยอดขาย ทุ่มงบประมาณด้านการตลาดจัดกิจกรรม โฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างมหาศาล เพื่อสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่และรักษากลุ่มลูกค้าเดิมไว้ สอดคล้องกับงานวิจัย ที่ระบุว่า การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีผลต่อการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกในตราสินค้า ทำให้รู้สึกอยากดื่มและเชื่อมั่นในยี่ห้อที่นำเสนอ

“แม้มีการควบคุมการโฆษณาโดยตรงบนโทรทัศน์และวิทยุ แต่ยังพบเห็นในรูปแบบอื่นๆ เช่น ป้ายโฆษณา ป้ายแบนเนอร์ตามร้านอาหาร การจัดบูธ การจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต การจัดกีฬา กิจกรรมเพื่อสังคม ( CSR) ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งยอดการโฆษณาช่วงเทศกาลวันสำคัญจะสูงกว่าวันธรรมดามาก อย่างไรก็ดี จากการศึกษา พบว่า ประเทศที่มีการควบคุมการโฆษณาอย่างสิ้นเชิง สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ถึงร้อยละ 23 และยิ่งควบคุมการโฆษณามากเท่าไหร่ การดื่มและผลกระทบจะลงลดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมาตรการควบคุมต่างๆนั้น นอกจากควบคุมการโฆษณาแล้ว ต้องสร้างค่านิยมใหม่ให้เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อมีการโฆษณาเหล่านี้ทำให้สังคมอาจเข้าใจผิดว่า การดื่มสุราเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งไม่ใช่เลย ขณะนี้ สธ.กำลังสร้างค่านิยมใหม่โดยการติดฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกประมาณปีละ 3.3 ล้านคน และก่อให้เกิดความสูญเสียทางสุขภาพร้อยละ 5.9 ของภาระโรคทั่วโลก ในประเทศไทยการดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพอันดับ1 ที่ก่อให้เกิดให้เกิดการสูญเสียชีวิตในเพศชายถึงร้อยละ 8.6 ของการเสียชีวิตทั้งหมด การลดพฤติกรรมและควบคุมการดื่มสุรา เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไก ถือเป็นภารกิจหลักของสสส. และมีเป้าหมายระยะยาวที่จะลดจำนวนผู้ที่ดื่มสุราให้เหลือน้อยกว่าร้อยละ 27 ในปี2563

นายพิชัย สนแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 แสนคน ส่วนใหญ่นักดื่มเหล่านี้ คือกลุ่มเด็กและเยาวชน จากข้อมูลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราปี2554 พบว่าเกินครึ่งดื่มเบียร์มากที่สุด รองลงมา คือ สุราสี สุรากลั่น นอกจากนี้จำนวนร้านขายยังเพิ่มสูงขึ้น ในปี2554 มีร้านที่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรากว่า 600,000 ร้านทั่วประเทศ โดยเหตุผลที่ร้านค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นคือ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจำหน่ายสุรามีราคาถูกมาก และสามารถขอได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีร้านหรือจุดจำหน่ายสุราอีกจำนวนมากที่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งส่งผลให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หาซื้อได้ง่ายขึ้นด้วย โดยใช้เวลาในการซื้อเฉลี่ย2นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกปี 2557 ระบุว่า ประเทศไทยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเป็นอันดับที่ 78 ของโลก เฉลี่ย 7.1 ลิตรต่อคน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้หญิง คิดเป็นค่าใช้จ่ายค่าสุราคนละ 509 บาทต่อวัน หรือประมาณ 6,108 บาทต่อปี โดยสาเหตุที่หันมาดื่มเพราะต้องการผ่อนคลายจากการทำงาน การเรียน เท่ห์ ต้องการได้รับการยอมรับจากเพื่อนฝูง ประกอบกับหาซื้อง่าย ใกล้บ้าน ใกล้สถานศึกษา เดินทางไม่ถึง 5 นาทีก็หาซื้อได้แล้ว แต่ที่น่ากังวลคือ บางคนรู้สึกว่าดื่มเพราะมาจากการส่งเสริมการขาย(CSR) หรือเห็นโฆษณาผ่านสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม จากปัญหาเหล่านี้หากไม่ดำเนินการควบคุมมากขึ้น อีก 5 ปีประเทศไทยมีแนวโน้มการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันดับที่ 56


'

 

ซาอุฯหั่นงบฯครั้งแรกรอบ12ปี
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 3 ธันวาคม 2557 14:31



ซาอุดีอาระเบีย ปรับลดงบประมาณลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 ผลพวงจากภาวะราคาน้ำมันที่ตกต่ำ

ซาอุดีอาระเบีย ปรับลดงบประมาณลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 ผลพวงจากภาวะราคาน้ำมันที่ตกต่ำ แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปัญหาราคาน้ำมัน อาจไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียมากนัก

ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีรายได้ประมาณ 90% มาจากการส่งออกน้ำมัน และเชื่อว่าซาอุฯจำเป็นต้องจำหน่ายน้ำมันที่ราคาเฉลี่ยสูงกว่า 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพื่อความสมดุลทางด้านงบประมาณในปีนี้ แต่ในสัปดาห์นี้ น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลดลงแตะระดับ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่เคยพุ่งขึ้นไปสูงถึง 1115 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน และหากราคาน้ำมันยังคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไป เชื่อว่า แผนงบประมาณสำหรับปีหน้าของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะจัดทำในช่วงปลายเดือนนี้ จะเป็นงบประมาณขาดดุลครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552

อดีตที่ปรึกษากระทรวงการคลังของซาอุดีอาระเบีย นายจอห์น สฟาเคียนาคิส ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการระดับภูมิภาคของแอชมอร์ บริษัทจัดการกองทุนในริยาด ให้ความเห็นว่า ไม่มีทางที่ทางการซาอุฯ จะแถลงงบประมาณในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากปีนี้ อาจจะต้องตัดทอนงบประมาณลง แต่คงเป็นการปรับลดที่ไม่มากนัก

เมื่อเดือนที่แล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ประมาณการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียน่าจะมีงบประมาณเกินดุล 1.6% ของจีดีพีในปีหน้า แต่ขณะนี้ นักเศรษฐศาสตร์เอกชนมองว่ารัฐบาลน่าจะปรับลดเป็นงบประมาณขาดดุลประมาณ 1.0%

- See more at:

 

จีนเล็งตั้งกองทุนป้องกันมลพิษ5หมื่นล้านหยวน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 3 ธันวาคม 2557 14:51



จีนวางแผนจัดตั้งกองทุนคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมูลค่า 50,000 ล้านหยวน เพื่อพยายามลดมลภาวะที่แพร่กระจายมากขึ้น

หนังสือพิมพ์ไชนาซีเคียวริตีส์เจอร์นัลรายงานวันนี้ว่า กองทุนดังกล่าวจะได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติ และกระทรวงการคลังของจีน หลังจากที่ความพยายามของทางการในการให้รัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทจีนช่วยควบคุมมลภาวะเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในจีน ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มาพร้อมกับมลภาวะทางอากาศและทางน้ำที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่งผลให้องค์การอนามัยโลกมีรายงานเตือนอันตรายต่อสุขภาพ จากรายงานของสำนักข้อมูลพลังงานสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันจีนปล่อยกาซคาร์บอนมากถึงเกือบสองเท่าของสหรัฐ และมีแนวโน้มว่าจีนจะปล่อยกาซเรือนกระจกเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2583 สำหรับรายละเอียดแนวทางของกองทุนป้องกันมลพิษอย่างเป็นทางการกำหนดเผยแพร่ในเดือนธันวาคมนี้

- See more at:

 

'อีโบลา'บั่นทอนเศรษฐกิจ3ชาติอีโบลา
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ธนาคารโลกเผยการระบาดของไวรัสอีโบลาทำให้เศรษฐกิจของกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ตกอยู่ในภาวะชะงักงัน

รายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2557 ของประเทศไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินีจะอยู่ที่ 2.2%, 4% และ 0.5% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดือนตุลาคมที่ 2.5%, 8% และ 2.5% นอกจากนี้ยังคาดว่า อัตราการขยายตัวของไลบีเรียในปี 2558 จะอยู่ที่ 3% ลดลงจากคาดการณ์เดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงก่อนวิกฤติอีโบลาที่ 6.8% แต่ก็ปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์เดือนตุลาคมที่ 1% โดยไลบีเรียมีสัญญาณความคืบหน้าในการควบคุมการระบาดของโรค และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจเซียร์ราลีโอนจะหดตัว 2% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับคาดการณ์ 7.7% เมื่อเดือนตุลาคม ส่วนเศรษฐกิจกินีจะหดตัวเช่นกันที่ 0.2% ในปี 2558 เมื่อเทียบคาดการณ์การขยายตัว 2% ในเดือนตุลาคม

ธนาคารโลกระบุในรายงานอีกว่า ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดบ่งชี้ถึงรายได้ที่หายไปของทั้งสามประเทศในปี 2557 และ 2558 ซึ่งคิดเป็นจำนวนทั้งหมดมากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์

ด้านประธานธนาคารโลก นายจิม ยอง คิม กล่าวว่า รายงานนี้ช่วยตอกย้ำให้เห็นว่าเพราะเหตุใดการปลอดเชื้ออีโบลาจึงเป็นเป้าหมายของทุกฝ่าย แม้จะมีสัญญาณความคืบหน้าอยู่บ้าง แต่ตราบใดที่โรคยังระบาดยังอยู่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและต่อประชาชนจะยิ่งขยายตัวรุนแรงขึ้น

ด้านองค์การอนามัยโลก ระบุในรายงานล่าสุดว่า ประชาชนประมาณ 5,674 คนเสียชีวิตจากอีโบลา ในประเทศไลบีเรีย เซียร์ราลิโอน และกินี ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด

- See more at: '

 

'โอบามา'วอนคองเกรสไฟเขียวงบสู้อีโบลา
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 3 ธันวาคม 2557 21:00



"โอบามา"วอนคองเกรสไฟเขียวงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 6,200 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยสู้อีโบลา

นายบารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสลงมติอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 6,200 ล้านดอลลาร์หรือราว 196,000 ล้านบาทเพื่อช่วยต่อสู้กับไวรัสอีโบลาที่แพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตก พร้อมเตือนว่า หากไม่มีการเพิ่มงบประมาณด้านนี้ ก็จะไม่สามารถเอาชนะอีโบลาได้ ขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอีโบลาทั่วโลกอยู่ที่ 6,070 คน จากผู้ติดเชื้ออีโบลากว่า 17,000 คน

- See more at: '

 

Kaokala Fc
1 ธ.ค. โลกร้อนสุดในรอบ 130 ปี นักวิทย์ชี้ส่อหายนะใหญ่หลวง



สหรัฐฯ เผยปี 2557 เป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดในรอบ 130 ปีที่ผ่านมา นักวิทย์ชี้ละเลยไม่ได้ เพราะอากาศโลกร้อนขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย อาจนำมาซึ่งหายนะใหญ่หลวง

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2557 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานจัดการด้านมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศ สหรัฐอเมริกา เผยช่วง 10 เดือนแรกของปี 2557 เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกมาตลอด 130 ปี

โดยสำนักงานจัดการด้านมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศระบุว่า แม้ว่าปีนี้ฤดูหนาวในสหรัฐฯ จะมาเร็วกว่าทุก ๆ ปี รัฐส่วนใหญ่เผชิญกับหิมะตกหนักไปแล้วเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าโลกจะเย็นลง เพราะจากข้อมูลด้านสภาพอากาศในปี 2557 พบว่าปีนี้เป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกสถิติมาเลยทีเดียว

รายงานระบุว่า ในปีนี้ ในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม โลกมีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาประมาณ 0.68 องศาเซลเซียส และในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นับว่าเป็นเดือนตุลาคมที่อุณหภูมิทั่วโลกสูงที่สุด ส่วนสาเหตุที่ทำให้สภาพอากาศร้อนเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากภาวะโลกร้อน

ทั้งนี้ สำหรับผลกระทบจากการที่อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นต่อเนื่องนั้น นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า การที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้นแม้แค่ 2-3 องศาเซลเซียส จะส่งผลกระทบหนักอย่างคาดไม่ถึง อาจนำมาซึ่งหายนะหลายพื้นที่บนโลก เพราะน้ำแข็งขั้วโลกจะละลาย ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น ก่อให้เกิดสตอร์มเซิร์จที่อันตราย รวมถึงพายุโหมกระหน่ำรุนแรงทั่วโลก

โลกร้อนสุดในรอบ 130 ปี นักวิทย์ชี้ส่อหายนะใหญ่หลวง

 

In & Outside World
Green fireballs



....ลูกไฟจากฟ้า มีลักษณะใหญ่ขึ้นและมี สีเขียว หลายคนเริ่มสงสัยว่า การที่ fireball ตกมากขึ้นและมีสีเขียว เกี่ยวกับ โลกส่าย , Planet X (Nibiru) ,หรือโลกกำลังสลับขั้วหรือไม่..
....และยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ เพียงแต่รอพิสูจน์กันต่อไป



.......................................
17 พฤศจิกายน: ลูกไฟสีเขียวขนาดใหญ่มองเห็นได้กว้างในมิชิแกน
8 พฤศจิกายน: ลูกไฟหางยาว "สดใสเท่าดวงจันทร์" เห็นกว้าวไอร์แลนด์เหนือ
8 พฤศจิกายน: ลูกไฟสีเขียวสดใสได้ยิน และมองเห็นได้จากแคลิฟอร์เนียเท็กซัสและในเม็กซิโกตีพื้นดินใน Piedras Negras, โกอาวีลา, เม็กซิโก
3 พฤศจิกายน: สองเหตุการณ์ลูกไฟหนึ่งในตอนเช้าในตอนกลางวัน
แคโรไลนา, เวอร์จิเนีย, เคนตั๊กกี้และโอไฮโอ



http://www.examiner.com/…/green-fireballs-scorch-our-skies-…

http://www.examiner.com/…/flaming-fireballs-smash-into-grou…

 

Little Duck ได้แชร์รูปภาพของ ThaiPBS



ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน มีสภาพอากาศที่เย็นจัดจากอุณหภูมิที่ลดลงอย่างฉับพลัน ทำให้ต้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แม้แต่น้ำที่ไหลออกจากท่อก็ยังกลายเป็นน้ำแข็ง

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/KAUw-LPT1FA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

อุณภูมิที่ลดลงอย่างฉับพลันในกรุงปักกิ่ง ทำให้ต้นไม้ริมฝั่งถนนถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่ย้อยลงมาก ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาราวกับเมืองน้ำแข็ง ดึงดูดชาวเมืองและนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมและบันทึกภาพความสวยงาม โดยภาพทิวทัศน์น้ำแข็งปกคลุมพื้นที่ประมาณ 300 ตารางเมตร

ทั้งนี้อุณหภูมิในกรุงปักกิ่งลดลงอยู่ที่ 9 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศที่เย็นจัด แม้แต่น้ำที่ไหลออกจากท่อยังเย็นจัดจนเป็นน้ำแข็ง นอกจากอุณหภูมิที่ลดต่ำแล้ว ยังเกิดกระแสลมแรงในหลายพื้นที่ของเมือง แต่ไม่มีรางานความเสียหาย

ชมคลิป กรุงปักกิ่งหนาวจัดจนเป็นน้ำแข็ง - ข่าวไทยพีบีเอส - Thai PBS News... ‪#‎ThaiPBS‬

 

น้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในโมร็อกโก เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน Wed, 03/12/2014 - 10:06

ฝนตกหนักในพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศโมร็อกโก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายพันหลัง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/MPTc23J4aaY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สภาพน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองอากาดีร์ (Agadir) เมืองตากอากาศทางภาคใต้ของประเทศโมร็อกโก หลังเกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 250 มิลลิเมตร ซึ่งเท่ากับปริมาณน้ำฝนที่ตกเฉลี่ยตลอดทั้งปีของประเทศนี้ ฝนที่ตกหนักยังทำให้น้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นฝั่งไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะที่เขตกูเอลมิม (Guelmim) ทางการท้องถิ่นต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ

มีรายงานว่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายพันหลัง ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรได้ หมู่บ้าน 250 แห่งถูกตัดขาดจากการสัญจรและพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน นับเป็นภัยพิบัติน้ำท่วมที่เกิดขึ้นล่าสุดในโมร็อกโก ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งเกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงจากพายุฝนที่พัดถล่มในพื้นที่แถบเดียวกันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 36 คน

น้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในโมร็อกโก เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน - ข่าวไทยพีบีเ...

 

ค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 16 ปี Tue, 02/12/2014 - 10:05

เศรษฐกิจของรัสเซียส่อเค้าทรุดหนัก หลังเงินรูเบิลอ่อนค่าภายในวันเดียวต่ำสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/ZB8GOuaTWM4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าภายในวันเดียวต่ำสุดในรอบ 16 ปี โดยอ่อนค่าลงเกือบร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ 52 รูเบิลต่อดอลลาร์ หลังธนาคารกลางรัสเซียเข้าแทรกแซง ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินรูเบิลโดยตรง เนื่องจากรายได้หลักของรัสเซียมาจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

โดยรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดเป็นอันดับสองของโลก ทั้งนี้การร่วงลงของค่าเงินรูเบิล ทำให้เกิดความวิตกในวงกว้างว่าเศรษฐกิจของรัสเซียจะทรุดหนัก นอกจากนี้มาตรการคว่ำบาตรที่ชาติตะวันตกบังคับใช้กับรัสเซียเพื่อตอบโต้เรื่องการแทรกแซงยูเครน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย

การร่วงลงของค่าเงินรูเบิลมีขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ของตลาดลอนดอนร่วงแตะ 67.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 ก่อนจะปรับขึ้นมาอยู่เหนือ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบของตลาดนิวยอร์กร่วงแตะ 66.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 16 ปี - ข่าวไทยพีบีเอส - Thai P...

 

HappyPhoneMBK
แชร์ทั่วเน็ต ! วิธีกำจัดมดง่ายๆ แค่ใช้เปลือกไข่ย่างไฟ วางบริเวณที่มีมดเท่านั้น



กำลังเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก สำหรับวิธีการกำจัดมดแบบไม่ต้องไปไล่ฆ่า หรือ ฉีดยาฆ่าแมลงให้ตัวเราบาป หรือ ใช้สารเคมีจากยาฉีดไล่มดเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราอีก เพราะทางเพจ “สุดยอด บ๊ะก้วยเต้ด” ได้เผยแพร่เรื่องราวน่าใจว่า

“ถ้าบ้านคุณมดเยอะ ให้เอาเปลือกไข่ย่างไฟ ตำให้ละเอียด นำเปลือกไข่ที่ตำผสมในน้ำ ทิ้งไว้สักพักประมาณ15-20 นาที

กรองเอาน้ำนั้นมาฉีดพ่น และอีกวิธี แค่นำเปลือกไข่ที่ย่างไฟวางบริเวณที่มีมด เท่านี้มดจะขนไข่หนีไม่มากวนใจคุณอีกเลย ลองดูได้ผลจริง”

ทั้งนี้ ปรากฏว่ามีบรรดาลูกเพจนำวิธีการดังกล่าวไปใช้แล้ว และมาบอกต่อว่าได้ผลจริงๆ จนทำให้มีการแชร์วิธีการดังกล่าวไปทั่วเน็ต

ที่มา เพจ สุดยอด บ๊ะก้วยเต้ด

 

Kaokala Fc
3 ธ.ค. “กอร์บาชอฟ” ประกาศ “สหรัฐฯ” ก่อสงครามเย็นกับรัสเซียอีกครั้ง หลังเคียฟทำสัญญาสงบศึกกับแบ่งแยกดินแดนรอบใหม่



เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) รัฐบาลยูเครนทำสัญญาสงบศึกกับกลุ่มแบ่งแยกยูเครนตะวันออกอีกครั้งหวังความสงบเกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวขบวนรถถังรัสเซียวิ่งเข้าโดเนตสก์ และลูกันสก์ไม่หยุด และในวันเดียวกันอดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ แถลงโจมตีสหรัฐฯ พยายามรื้อสงครามเย็นระหว่างสองขั้วมหาอำนาจรอบใหม่ที่ดูเหมือนครั้งนี้รุนแรงและหนักหน่วงขึ้นที่ทำให้ดินแดนหมีขาวเศรษฐกิจชะงักงัน ค่าเงินรูเบิลตก ชนชั้นที่มีความสามารถต่างย้ายออกนอกประเทศ

เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (2ธ.ค.) ว่า อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในยุคสงครามเย็น ออกมาวิพากษ์สหรัฐฯ ถึงความพยายามที่จะทำให้เกิดภาวะสงครามเย็นรอบใหม่กับรัสเซียในศตวรรษที่ 21 ซึ่งดูทำให้อดีตสหภาพโซเวียตได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก และกอร์บาชอฟเรียกร้องให้การเผชิญหน้าระหว่างโลกตะวันตกและรัสเซีตต้องหยุดลงท่ามกลางกระแสข่าวกระบวนรถถังดาวแดงข้ามฟากจากรัสเซียมุ่งตรงไปยังยูเครนตะวันออก ดินแดนภายใต้อิทธิพลของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนนิยมมอสโกที่เพิ่งได้จรดปลายปากกาลงนามสัญญาสงบศึกรอบใหม่กับรัฐบาลเคียฟในวันอังคาร (2ธ.ค.)

ทั้งนี้ ถึงแม้จะได้มีการลงนามข้อตกลงทั้งสองฝ่าย แต่ทว่าฝั่งยูเครนกลับประกาศว่า พบกองรถคาราวานทหารจำนวนถึง 106 คัน รวมถึงรถถัง Howitzer เคลื่อนที่มุ่งหน้าเข้าสู่โดเนตสก์จากฝั่งรัสเซียโดยไม่ได้ขออนุญาต

อดีตผู้นำโซเวียตที่ล่มสลายเตือนว่า ในขณะนี้ยังคงมีเวลาที่จะปลดชนวนความขัดแย้งระหว่างสองค่ายเหมือนดังเช่นกอร์บาชอฟร่วมมือกับอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน แห่งสหรัฐฯ ในยุคเปเรสทรอยก้า

“และในขณะนี้สัญญาณแสดงถึงสงครามเย็นรอบใหม่ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง สิ่งนี้ต้องทำให้หยุดลงเหมือนกับที่ผมและเพื่อนชาติตะวันตกได้ร่วมมือกันในยุค 80 เราร่วมมือเพื่อจะลดความตรึงเครียดเพื่อการรวมกันอีกครั้ง (ของเยอรมันตะวันตก และเยอรมันตะวันออก) ในครั้งนั้นมีความยากลำบากกว่าปัจจุบัน จึงไม่น่าจะลำบากที่ทุกฝ่ายจะร่วมช่วยกันให้สิ้นสุด” กอร์บาชอฟให้สัมภาษณ์กับทาซ สื่อของมอสโก

สื่ออังกฤษชี้ว่า กอร์บาชอฟไม่เอ่ยถึงวิกฤตยูเครนโดยตรงแต่ได้กล่าวโดยนัยถึงความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลเคียฟที่มีชาติตะวันตกหนุนหลังกับกลุ่มกบฏยูเครนที่มีมอสโกให้การสนับสนุน ซึ่งกอร์บาชอฟให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลาไม่นานหลังจากข้อบรรลุการหยุดยิงระหว่างเคียฟและกลุ่มกบฎได้เกิดขึ้นซึ่งครอบคลุมลูกันสก์ที่มี OSCE จากสหภาพยุโรปเป็นตัวกลาง และจะเริ่มต้นใช้ในวันศุกร์ (5ธ.ค.) ที่จะถึงนี้ต่อจากสัญญาสงบศึกรอบก่อนที่ลงนามในวันที่ 5 กันยายนที่ทั้งสองฝ่ายต่างละเมิดข้อตกลงในช่วง 3เดือนที่ผ่านมา

เดลีเมล์รายงานเพิ่มเติมว่า คาดว่าข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดจะไม่ส่งผลต่อเหตุปะทะรอบสนามบินท้องถิ่นโดเนตสก์ รวมไปถึงบริเวณถนนและชุมทางเดบาล์ตเซโว (Debaltsevo) เมืองท่ามาริอูโปล (Mariupol) ซึ่งกลุ่มกบฏที่ประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ได้ควบคุมไว้

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

Kaokala Fc
3 ธ.ค. อินเดียหันพึ่งต่างชาติช่วยเร่งพัฒนา “กองเรือดำน้ำ” หวั่นถูกทัพเรือจีน “ทิ้งห่าง”



อินเดียกำลังเร่งเดินหน้าโครงการพัฒนากองเรือให้ทันสมัย และเริ่มหันมาพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้านเพื่อควบคุมการดำเนินกิจกรรมของเรือดำน้ำจีน ในมหาสมุทรอินเดีย ขณะที่ชาติต่างๆ ในภูมิภาคนี้ก็เริ่มแสดงออกถึงความกระวนกระวายใจต่อกิจกรรมใต้ทะเลอันบุ่มบ่ามของปักกิ่ง

เพียงไม่กี่เดือนหลังเกิดการประจันหน้าตามแนวพรมแดนจีน-อินเดีย แถบเทือกเขาหิมาลัย อันเป็นพื้นที่พิพาท ก็พบว่ามีเรือดำน้ำของจีนออกมาผลุบๆ โผล่ๆ ให้เห็นในศรีลังกา ประเทศที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของแดนภารตะ นอกจากนี้ แดนมังกรยังหันหน้ากระชับสัมพันธ์กับมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียอีกด้วย

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ของจีนได้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศนี้กำลังมุ่งเสริมกำลังทหารในมหาสมุทรอินเดียซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันเข้าสู่แดนมังกร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 4 ใน 5 จากน้ำมันทั้งหมดที่จีนนำเข้า ในยามที่สถานการณ์ความตึงเครียดในกรณีพิพาททะเลจีนใต้โหมรุนแรงขึ้น และกองทัพเรืออันทรงพลังของแดนมังกรเริ่มสร้างความกระวนกระวายใจให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน

อรุณ ปรากาช อดีตผู้บัญชาการทหารเรืออินเดียระบุว่า จริงอยู่ที่ “เราควรจะกังวลเรื่องที่กองเรือดำน้ำของเรามีสภาพเก่าซอมซ่อเต็มทน แต่เนื่องจากจีนกำลังข่มเรา เช่นเดียวกับกรณีที่เทือกเขาหิมาลัย ทะเลจีนใต้ รวมถึงตอนนี้ที่มหาสมุทรอินเดีย เราควรต้องกังวลหนักกว่านั้นเสียอีก”

เขากล่าวว่า “โชคยังดีที่มีสัญญาณว่า รัฐบาลเริ่มตื่นตัวกับวิกฤตนี้ ... แต่การต่อเรือขึ้นมาใหม่นั้นต้องใช้เวลา เราควรตั้งความหวังว่าจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับจีน และตั้งความหวังว่า สายสัมพันธ์ทางการทูต และความเป็นพันธมิตรระห่างเราจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ”

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียได้สั่งการให้เร่งเปิดประมูลโครงการสร้างเรือดำน้ำพลังงานดีเซล 6 ลำ ด้วยงบประมาณราว 5 แสนล้านรูปี (ราว 2.65 แสนล้านบาท) นอกเหนือจากเรือดำน้ำ 6 ลำที่บริษัท DCNS ของฝรั่งเศสกำลังต่อประกอบที่ท่าเรือนครมุมไบ เพื่อส่งเข้าประจำการแทนกองเรืออันเก่าแก่เกือบ 30 ปีที่ประสบอุบัติเหตุหลายครั้งซ้อน

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

สภาศาลรธน.ฝรั่งเศสเห็นชอบแผนเก็บภาษีคนรวย 75% แล้ว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 ธ.ค. 2556 05:20


---
@แบร์นาร์ด กาเซนูเวอ
---

สภาศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศฝรั่งเศส เห็นชอบการเก็บภาษีเงินได้ 75% สำหรับผู้ที่ได้เงินเดือนเกิน 1 ล้านยูโรต่อปีแล้ว โดยจะให้บริษัทผู้จ่ายเงินเดือนจ่ายแทน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ว่า สภาศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศฝรั่งเศส เห็นชอบการเก็บภาษีเงินได้ 75% สำหรับผู้ที่ได้เงินเดือนเกิน 1 ล้านยูโร (ราว 45 ล้านบาท) ต่อปีแต่ให้บริษัทผู้จ่ายเงินเดือนเป็นผู้จ่ายแทน ในรัฐบัญญัติการเงินชั่วคราวปี 2014 และ รัฐบัญญัติการเงินปี 2013 ฉบับแก้ไข แล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลในปีนี้ และปี 2014

การตัดสินใจของสภาศาลรัฐธรรมนูญ เกิดขึ้นหลังจากสภาฯประชุมกันเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. โดยในเวลาต่อมา นาย ปิแอร์ มอสโควิชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนาย แบร์นาร์ด กาเซนูเวอ รัฐมนตรีช่วยด้านงบประมาณแห่งฝรั่งเศสแห่งกระทรวงการคลัง แถลงการณ์ร่วมกัน โดยทั้งสองแสดงความยอมรับการติดสินใจของสภาศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ประกาศแผนเก็บภาษีคนรวย 75% เมื่อเดือนก.พ. 2012 ตามที่ได้หาเสียงไว้ โดยเดิมทีแผนนี้จะเก็บภาษีผู้ที่มีรายได้เกิน 1 ล้านยูโร แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากแผนของเขาส่งผลที่ตัวบุคคลไม่ใช่ครัวเรือน

ออลลองด์จึงปรับแก้ใหม่ โดยให้บริษัทจ่ายภาษีเงินได้แทนผู้ที่ได้รับเงินเดือนเกิน 1 ล้านยูโรต่อปี โดยจ่ายในอัตรา 50% ของเงินเดือนในปี 2013 และ 2014 และเมื่อรวมภาษีอื่นๆและเงินประกันสังคม จะทำให้อัตราภาษีอยู่ที่ราว 75% พอดี อย่างไรก็ตาม ภาษีที่บริษัทต้องจ่าย ต้องไม่เกิน 5% ของผลประกอบการบริษัท

อนึ่ง คาดว่าบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการใหม่นี้จะมีประมาณ 470 บริษัท รวมถึงทีมสโมสรฟุตบอลในฝรั่งเศสอีกนับสิบทีม และคาดว่ามาตรการนี้จะเพิ่มรายได้ให้รัฐประมาณ 210 ล้านยูโรต่อปี โดยนี่เป็นนายออลลองด์ ที่หวังให้บริษัทต่างๆ จำกัดการจ่ายเงินเดือนแก่ผู้บริหาร ในช่วงที่เศรษฐของประเทศกำลังย่ำแย่

สภาศาลรธน.ฝรั่งเศสเห็นชอบแผนเก็บภาษีคนรวย 75% แล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์